เมื่อนึกถึงลูกแมว จู่ ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมานางเคยเข้าร่วมองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือแมวจรจัด วิธีการส่วนใหญ่มักจะใช้ไส้กรอกและอาหารแมวกระป๋องหลอกล่อให้พวกเขาออกมาหากใช้อาหารในการล่อพวกมันออกมานั้น พวกมันจะคลายกังวลและลดความหวาดระแวงในตัวมนุษย์ บางทีแผนการนี้อาจจะสำเร็จฉินเหยี่ย
ตงฟางจิ่วยังคงใช้แรงเขย่าตัวแม่นม เมื่อเห็นแม่นมมิมีปฏิกิริยาตอบกลับนั้น เขาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะห่อติ่มซำอย่างระมัดระวังพร้อมทั้งวางลงฝ่ามือของแม่นมแทนเมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นตงฟางจิ่วยืนกร่านที่จะเอาติ่มซำให้แม่นมแล้วนั้น นางจึงหยิบติ่มซำอีกชิ้นหนึ่งขึ้นมาวางบนผ้าเช็ดหน้า “เจ้าเป็นเด็กดีจร
“หากเกิดเรื่องอันใดขึ้น ข้าจักเป็นคนรับผิดชอบเอง” ตงฟางหลีพลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากมีผู้ใดเอ่ยถาม เจ้าก็ตอบไปว่าข้าใช้กำลังขู่บังคับคนให้ออกมาด้วย หากมีเรื่องอันใดให้ไปหาข้าได้ที่จวนท่านอ๋องเจ็ด”เหล่าทหารรักษาการณ์ต่างก็มีท่าทีลังเล“อะไรกัน? จักต้องให้ข้าใช้กำลังหรืออย่างไรพวกเจ้าถึงจะ
ตู้เหิงรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่พวกเขาเข้าวังเพื่อสารภาพความผิด และยังคงเดินกลับไปกลับมาอยู่ที่ประตูไม่หยุดในที่สุดเมื่อรถม้าของพวกเขากลับมา ตู้เหิงจึงรีบรุดไป“ท่านอ๋อง พระชายา” เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก “พวกท่านกลับมาจนได้”“ลู่ซิวไปตั้งนานก็ยังไม่กลับมา ท่านสองคนก็ยังไม่กลับมาเช่นกัน กระหม่อมไหว้วา
“พวกเขาเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ หรือ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์หัวเราะเบา ๆ “ตู้เหิงดูเหมือนจะกลัวท่านตู้จ้งผู้นั้นมาก”ตงฟางหลีพยักหน้า “สองพี่น้องนี้เคยเป็นวีรบุรุษบนภูเขา มักจะทำเรื่องต่าง ๆ เช่น ปล้นคนรวยส่งต่อให้คนจน พวกเขามีชื่อเสียงมากในยุทธภพ ต่อมาได้พบกับข้า ตู้จ้งมีอายุมากกว่า ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใส และเข้มงว
นิ้วของตงฟางหลีลูบลายแกะสลักบนถ้วยหยกขาว รูม่านตาแคบฉายแววเจ้าเล่ห์“มาใส่ยาให้ข้า”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ยังคงเมินเขาเมื่อตงฟางหลีเห็นว่าความสนใจของนางอยู่ที่เจ้าเก้า จึงส่งเสียงแค่นหัวเราะ ทำท่าทางมือลื่น แล้วถ้วยชาก็ตกลงสู่พื้น แตกกระจายเกลื่อนฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจ “ชู่ ท่านระวังหน่อยสิ”นางหันกลับมาเห็
“ตงฟางหลี” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตบเอวของเขา “ท่านกลัวการฉีดยาหรือไม่?”“หื้ม?”นางยิ้มเผยแผงฟันขาวและแข็งแรงพลางส่ายเข็มไปมาตรงหน้าเขาตงฟางหลีมองไปยังเข็มฉีดยาขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างประหลาด เขางุนงง “นี่คืออะไรน่ะ?”“การฉีดยาสามารถลดอาการอักเสบและการขาดน้ำได้ อีกทั้งยังมีผลยับยั้งอาการปวดหัวของท่านได้ด้วย”
จุมพิตนางสติจางหายไป และความคิดที่จะจุมพิตนางเข้าครอบงำ เขาตรึงตัวนางแล้วก้มศีรษะลงการสัมผัสใกล้ชิดอย่างกะทันหันนี้ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตื่นตระหนกทีเดียว“ตงฟางหลี หม่อมฉันพูดเหลวไหลจริง ๆ” นางขัดขืนเขา “การจงใจหยอกล้อท่านนั้นเป็นข้าที่ผิด แต่ก่อนหน้านี้ท่านมักจะชอบแกล้งข้า…”คำพูดของนางยังไม่ทันจบ ตงฟ
“นางสิสมควรตาย ไม่ใช่ข้า พวกท่านจับคนผิดแล้ว”ฉินเสวี่ยเย่ว์ไม่สามารถส่งเสียงใด ๆ ออกมาได้อีกแล้ว ได้แต่ตะโกนอยู่ในใจเท่านั้นเลือดสาดกระจายเต็มพื้น ย้อมทั้งห้องกลายเป็นสีแดงฉานนางล้มจมกองโลหิต ยืดคอไปข้างหน้าอย่างสิ้นหวัง ก่อนเสียชีวิตยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กระทั่งตายนางก็ยังไม่เข้าใจ เ
ปวดหัว!ปวดหัวหนักมาก!ปวดหัวจนจะตายอยู่แล้ว!ความเจ็บปวดที่น่าหวาดกลัวและไม่อาจควบคุมได้มาเยือนกะทันหันเช่นเดียวกับทหารเรือนพันม้าเรือนหมื่น พุ่งพรวดเข้ามาอย่างรวดเร็วและดุเดือดมากจนไม่ทันได้โต้ตอบเลย“อ๊าก ทำไมกัน? หัวข้าปวดหัวเหลือเกิน”“เหตุใดถึงเป็นข้า?”“อ๊าก ปวด ปวดมากเลย”“ท่านน้า ช่วยข้าด้
“เสวี่ยเอ๋อร์ไม่จำเป็นต้องกังวลอีก เพราะเกรงว่าเจ้าอาจจะไม่มีวันได้พบกับฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกแล้วล่ะ” หมิ่นจูกล่าว “ข้าไม่สบาย เจ้ากินอาหารให้อิ่มท้องเถอะ”ฉินเสวี่ยเย่ว์ไม่วางใจนางทุบประตูอย่างแรง “ท่านน้า ท่านน้า ท่านทำอีกครั้งเถอะ ถ้าฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่ตายอีกเจ็ดแปดครั้งข้าก็ไม่พอใจหรอกนะ”หมิ่นจูหล
หลังจากที่หมิ่นจูดื่มชาครบสามแก้วรวด ก็หยิบเหรียญทองแดงสามเหรียญออกมาจากด้านในแขนเสื้อนางเห็นสัญลักษณ์การทำนายจากเหรียญ ดวงตาหรี่ลงเดินเตร่ร่ำไห้เป็นสายโลหิต ทรายเหลืองเต็มนภา และพลังชีวิตทั้งหมดก็กลายเป็นฝุ่นในชั้นดินลึก——เป็นคำทำนายที่ไม่ดีอย่างยิ่งยวดหมิ่นจูจ้องมองสัญลักษณ์นี้อยู่นานแม้ว่าเป
“ข้าอยากให้นางตาย”“อ๊าก ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไปตายซะ”ดวงตาทั้งสองข้างของนางเป็นสีแดงโลหิต ใบหน้าดุร้าย มองบุคลิกที่มีเสน่ห์ในอดีตไม่ออกเลยสักนิดหมิ่นจูจ้องมองฉินเสวี่ยเย่ว์ที่โฉมหน้าเปลี่ยนไป พลางส่ายหัวเล็กน้อยฉินเสวี่ยเย่ว์ผู้นี้ ราวกับถูกแกะสลักจากแม่พิมพ์เดียวกันกับหมิ่นอวี้ไร้วิสัยทัศน์เช่นเดียว
เขตชานเมืองเมืองเหวินจิงในจวนหลังใหญ่อันเงียบสงบ มีลานเรือนที่ลึกมาก ๆ อยู่เมื่อข้ามทะเลสาบเทียมซึ่งมีใบบัวเหี่ยวเฉากระจายไปทั่ว รวมถึงป่าไผ่ สามารถเห็นศาลาสีแดงเล็กที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางต้นหลิวได้รำไรในศาลาเล็ก ๆฉินเสวี่ยเย่ว์ที่ผมเผ้ายุ่งเหยิง และแทบจะสติฟั่นเฟือนอยู่รอมร่อคว้าตุ๊กตาที่ทำจากผ้าขา
จีอู๋เยียนท่าทีเคร่งขรึมเขายืนอยู่ตรงนั้น เหลือบตาหงส์ขึ้นเล็กน้อย ราวกับรอให้นางพูดต่อไปฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดจบแล้ว และกำลังรอคำตอบของเขา “ท่านเข้าใจใช่หรือไม่?”“หมดแล้ว?” จีอู๋เยียนถามหลังจากรอสักพัก“หมดแล้ว”“แค่นั้นหรือ?” จีอู๋เยียนมองนางราวกับมองคนโง่เขลา “ท่านคงมิได้กำลังเล่นตลกอยู่กระมัง?”เ
จีอู๋เยียนเหลือบมองลู่จิ้นที่ร้องเอะอะไม่หยุดทว่าไม่ได้สนใจเลยสักนิดเขามองฉินเหยี่ยนเย่ว์ด้วยสีหน้าเย็นชา ไอสังหารเยียบเย็น “ฉินเหยี่ยนเย่ว์ ความอดทนของข้ามีจำกัด แนะนำท่านอย่าได้ผลัดวันอีก”ลู่จิ้นถูกเมิน ทั่วทั้งใบหน้าล้วนเป็นสีทะมึน“จอมปีศาจ เจ้าหาเรื่องอยู่ใช่หรือไม่?”“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า คนที่ใช้วิธีการโหดร้ายเช่นนี้ทำร้ายเจ้าคือฉินเสวี่ยเย่ว์?” ตงฟางหลีถามคนที่เกลียดยัยหนูเข้ากระดูกไม่ได้มีมากมาย และฉินเสวี่ยเย่ว์ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในนั้นจุดหนึ่งที่สำคัญที่สุด คือฉินเสวี่ยเย่ว์มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับหมิ่นจูที่ผิดแผกคนนั้นและในการสืบสวนของเขา หมิ่นจูเองก็มีควา