“กลอุบายของซูเตี่ยนฉิงไม่ใช่เพียงแค่นั้น ถ้านางต้องการแต่งงานเข้าจวนอ๋องเจ็ด พระชายาควรจะทำเช่นไร?” ใบหน้าของลู่ซิวสงบนิ่งสีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์เปลี่ยนไปตงฟางหลีกำลังเปิดโปงซูเตี่ยนฉิงต่อหน้าองค์ฮ่องเต้ ซึ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงของนาง ครั้นต้องการซ่อนเร้นก็ไม่สามารถซ่อนมันไว้ได้หากซูเตี่ยนฉิงต้
“หม่อมฉันไม่ได้วางยาพิษ เมื่อวานมันเป็นอุบัติเหตุเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “ถ้าท่านไม่กินก็ไม่ต้องกิน ไม่ถึงกับต้องใส่ร้ายหม่อมฉันกระมัง? หรือท่านต้องการให้หม่อมฉันขอบคุณอย่างไร?”“มาหาข้า” ตงฟางหลีกล่าว“หืม?”“ไม่อยากขอบคุณข้าหรือ?”“โอ้” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เดินเข้าไปข้างเขา“นั่งสิ” ตงฟางหลีชี้ไปตรงหน
ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพิ่งจะมีสติสัมปชัญญะกลับคืนมา นางลูบเส้นผมบนศีรษะของเขาจนติดใจชั่วจังหวะหนึ่งนั้น นางมีความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อย จึงรีบปล่อยเส้นผมของเขาออก “เหตุใดวันนี้ท่านถึงไม่ปักปิ่นเล่า?”“พวกเรามารับโทษ จักต้องสวมเสื้อผ้าสีเรียบและห้ามปักปิ่น กระทั่งจุดนี้เจ้ายังไม่สังเกตอี
ตงฟางหลีลำคอตีบตันยิ่งนัก ในยามที่กล่าวออกมา เสียงทุ้มต่ำ “เช่นนั้น หากคนที่มีนัยน์ตาสีดำสองคน สามารถให้กำเนิดเด็กที่มีตาสีฟ้าได้หรือไม่?”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ครุ่นคิด ก่อนเอ่ยตอบ “จากทฤษฎีแล้ว เป็นไปได้เพคะ”ได้ยินคำตอบนี้เข้า ตงฟางหลีพลันเบิกตากว้างทันที เขาลุกขึ้นยืน กระโจนจนเกือบจะมาถึงตรงหน้าของนาง
ในน้ำเสียงของตงฟางหลีเจือด้วยความวิงวอนและความคาดหวัง “เจ้า สามารถคืนความบริสุทธิ์ให้กับน้องเก้าได้หรือไม่?”“หม่อมฉันน่ะหรือ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกลำบากใจอยู่บ้าง “ตงฟางหลี ท่านมั่นใจหรือว่ามารดาของน้องเก้าเป็นผู้บริสุทธิ์?”ความน่าจะเป็นทางพันธุกรรมและการกลายพันธ์ของยีนส์ที่นางเพิ่งจะเอ่ยถึงไปเมื
มีแสงแดดอันสดใสเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา ขจัดหมอกควันให้พ้นไป ละลายหิมะให้เป็นฤดูใบไม้ผลิ“หม่อมฉันดูท่าทีของเสด็จพ่อแล้ว ไม่คล้ายกับต้องการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้เท่าใดนัก ไม่แน่ว่าพระองค์อาจจะกำลังรอให้พวกเราไปช่วยท่านดึงหนามที่แทงใจออกก็ได้นะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ตงฟางหลี พวกเราไปดูเด็กคนนั้นได้
“จำไม่ได้แล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ส่ายหน้า “ได้ยินว่าตอนเด็กข้าซุกซนมาก จึงตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด”ตงฟางหลีขมวดคิ้วเข้าหากัน ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างอื่น “หลุมน้ำแข็งที่ใด? เรื่องเกิดเมื่อใด?”“ตอนหม่อมฉันยังเด็กเคยมีไข้สูงครั้งหนึ่ง เรื่องก่อนที่จะมีไข้นั้นก็จำไม่ได้แ
“คิดอันใดอยู่?” ตงฟางหลีเอ่ยถามฉินเหยี่ยนเย่ว์เอนกายพิงพนักพิงไม่แยแสต่อคำถามของเขาตงฟางหลีเห็นสีหน้าของนางผิดไปจากปกติ ดวงตาก็เป็นประกายวาบ และใช้น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น “นางหาได้ใช่นางไม่”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินไม่ชัดเมื่อก้มหน้าลง เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหนื่อยล้าของตงฟางหลี ก็คร้านจะถาม จึงหล
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ