ฉินหยี่ยนเย่ว์อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีขันที่ผู้นี้ไม่รู้จักตงฟางหลี?เสียทีที่เมื่อครู่นี้เขาพูดออกมาอย่างน่าเชื่อถือว่าคนที่นี่ไม่รู้จักนางสถานการณ์จึงเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่“ไป ไป ไป ที่นี่มิใช่ที่ที่พวกเจ้าจะสามารถมาได้” ขันทีโบกมือ “อากาศเย็นเช่นนี้ มารบกวนเวลาดื่มสุราของพวกข้าเข้า เจ้าชดใช้ได้หรื
“เจ้าเห็นสิ่งใดรึ?” ตงฟางหลีเอ่ยถาม“เลือด” นิ้วของฉินเหยี่ยนเย่ว์สั่นเบา ๆ “มิใช่กลิ่นเลือดจากกายของท่าน แต่เป็นกลิ่นเลือดที่ลอยมาจากข้างหน้า กลิ่นเลือดแรงมากเพคะ”แม้จะไร้คนนำทาง นางก็สามารถตามกลิ่นเลือดไปหาได้“เด็กคนนั้น ถูกโยนมาไว้ที่แห่งนี้ตั้งแต่เกิดเลยหรือ? เขามีชีวิตรอดมาได้อย่างไรหรือเพคะ?
“ผู้ใดถีบประตู มารดาเจ้าตายแล้วหรืออย่างไร? ถีบทำไม?” แม่เฒ่าหวังก่นด่า ไม้โบยในมือฟาดลงบนร่างกายซูบผอมของเด็กน้อยคนนั้นแม่นมที่ปกป้องเขาอย่างสุดชีวิต เพียงพริบตาเดียวก็โดนแม่เฒ่ารูปร่างใหญ่โตลากออกไปเด็กน้อยตกใจจนขดตัวกลม นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนร้องไห้ไม่ออกเสียด้วยซ้ำเขาสวมอาภรณ
อย่างไรก็ตาม ร่างกายราวกับมีเข็มแทงเจ็บปวดจนแทบเอาชีวิต ยามที่เนื้อผ้าเสียดสีนั้น คล้ายดั่งมีมีดกรีดเฉือนผิวหนังอาภรณ์ตัวหนาบนตัวกลายเป็นความทรมาน“นางแพศยา ตกลงว่าเจ้าทำอันใดกันแน่?” นางก่นด่าไปพลางพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออก“ไม่มีอันใด แค่วางเข็มพิษฉบับปรับปรุงแล้วกับเจ้าก็เท่านั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล
ขันทีผู้เฒ่าที่เฝ้าประตูนั้น นึกไม่วางใจกับสถานการณ์ภายในเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงค่อย ๆ ลอบตามมาดูสถานการณ์อยู่ไกล ๆ ถึงแม้ว่าตัวเขาจักอยู่ห่างออกมา หากแต่ขันทีผู้นั้นก็ได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว สตรีที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องเอ่ยเรียกนามท่านอ๋องเจ็ดออกมาในใต้หล้านั้น นอกเหนือจากฮ่องเต้และพระพันปีแล้ว ก็คงเป็
“เหยี่ยนเย่ว์” ตงฟางหลีพลันขมวดคิ้วเป็นปม “มิต้องไปสนใจพวกนางแล้ว รีบเข้ามาดูอาการแม่นมเถอะ สภาพนางดูมิสู้ดีนัก”สีหน้าของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันแข็งค้างไปในทันทีเมื่อมาอยู่ต่อหน้าแม่นม ก่อนจะจับชีพจรที่ข้อมือของนางโดยไวผ่านไปครู่หนึ่ง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ส่ายหัวไปมา “ไร้ทางช่วยแล้ว”“ร่างกายของนางย่ำ
เมื่อนึกถึงลูกแมว จู่ ๆ ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมานางเคยเข้าร่วมองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือแมวจรจัด วิธีการส่วนใหญ่มักจะใช้ไส้กรอกและอาหารแมวกระป๋องหลอกล่อให้พวกเขาออกมาหากใช้อาหารในการล่อพวกมันออกมานั้น พวกมันจะคลายกังวลและลดความหวาดระแวงในตัวมนุษย์ บางทีแผนการนี้อาจจะสำเร็จฉินเหยี่ย
ตงฟางจิ่วยังคงใช้แรงเขย่าตัวแม่นม เมื่อเห็นแม่นมมิมีปฏิกิริยาตอบกลับนั้น เขาจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะห่อติ่มซำอย่างระมัดระวังพร้อมทั้งวางลงฝ่ามือของแม่นมแทนเมื่อฉินเหยี่ยนเย่ว์เห็นตงฟางจิ่วยืนกร่านที่จะเอาติ่มซำให้แม่นมแล้วนั้น นางจึงหยิบติ่มซำอีกชิ้นหนึ่งขึ้นมาวางบนผ้าเช็ดหน้า “เจ้าเป็นเด็กดีจร
ป้าหวนฝืนร่างกายตนถอยหลังไปสองสามก้าว และกระอักเลือดออกมาสองสามคำ“พวกท่าน!” หลังจากที่จิตใจของป้าหวนสับสนวุ่นวาย จึงเต็มไปด้วยช่องโหว่ นางถูกตงฟางหลีโจมตี และชีพจรหัวใจก็ได้รับผลกระทบเลือดลมชี่สูบฉีดพุ่งสูงขึ้น ชีพจรหัวใจถูกจำกัด และลมหายใจผิดปกติเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงยัดยาคลั
“นี่” จีอู๋เยียนเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “กองทัพที่ไม่เป็นโล้เป็นพายเก็บกวาดหมดแล้ว คนผู้นี้จะจัดการเช่นไร?”เขาชี้ไปที่ป้าหวนซึ่งดูใบหน้าซีดเซียวป้าหวนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้มากจนพูดไม่ออกนางมองลูกน้องของนางที่ล้มลงอยู่บนพื้น ดวงตาเบิกโพล่งปรมาจารย์ชั้นยอดหลายสิบคน ใ
“หากบุรุษผู้นี้มิใช่เฟิ่งหลี ข้าจะสับเขาเป็นชิ้น ๆ แน่นอน” ตงฟางหลีพูดแล้วหยิบขวดยาออกมาป้อนให้แก่เฟิ่งหลีฉินเหยี่ยนเย่ว์พูดไม่ออกแม้ว่าองครักษ์จื่ออวี๋จะไม่ใช่เฟิ่งหลี แต่เป็นคนอื่น นางก็ยังคงทำอย่างนั้นในสถานการณ์เช่นนั้นประเด็นความหึงหวงก็แปลกพิลึกเช่นเคย“ท่านป้อนอะไรให้ท่านพี่?” นางถาม“ยาถอ
ไม่รอให้ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตอบกลับ ตงฟางหลีก็เตะเขาออกไป“ตงฟางหลี ท่านทำอะไรน่ะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกใจเฟิ่งหลีใกล้จะตายอยู่แล้ว ถูกตงฟางหลีกระทำอย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ ไหนเลยจะรับไหว?นางรีบคว้าเฟิ่งหลีเอาไว้ และวางมือที่สั่นเทาบนข้อมือของเขาเกราะเม่นอ่อนของเฟิ่งหลีที่มอบให้นาง ช่วยป้องกันการโจมตีส่วนให
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ