มีแสงแดดอันสดใสเจิดจ้าสาดส่องเข้ามา ขจัดหมอกควันให้พ้นไป ละลายหิมะให้เป็นฤดูใบไม้ผลิ“หม่อมฉันดูท่าทีของเสด็จพ่อแล้ว ไม่คล้ายกับต้องการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้เท่าใดนัก ไม่แน่ว่าพระองค์อาจจะกำลังรอให้พวกเราไปช่วยท่านดึงหนามที่แทงใจออกก็ได้นะเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล่าวต่อ “ตงฟางหลี พวกเราไปดูเด็กคนนั้นได้
“จำไม่ได้แล้วเพคะ” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ส่ายหน้า “ได้ยินว่าตอนเด็กข้าซุกซนมาก จึงตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด”ตงฟางหลีขมวดคิ้วเข้าหากัน ในแววตากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกอย่างอื่น “หลุมน้ำแข็งที่ใด? เรื่องเกิดเมื่อใด?”“ตอนหม่อมฉันยังเด็กเคยมีไข้สูงครั้งหนึ่ง เรื่องก่อนที่จะมีไข้นั้นก็จำไม่ได้แ
“คิดอันใดอยู่?” ตงฟางหลีเอ่ยถามฉินเหยี่ยนเย่ว์เอนกายพิงพนักพิงไม่แยแสต่อคำถามของเขาตงฟางหลีเห็นสีหน้าของนางผิดไปจากปกติ ดวงตาก็เป็นประกายวาบ และใช้น้ำเสียงแผ่วเบาเอ่ยขึ้น “นางหาได้ใช่นางไม่”ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้ยินไม่ชัดเมื่อก้มหน้าลง เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหนื่อยล้าของตงฟางหลี ก็คร้านจะถาม จึงหล
ฉินหยี่ยนเย่ว์อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีขันที่ผู้นี้ไม่รู้จักตงฟางหลี?เสียทีที่เมื่อครู่นี้เขาพูดออกมาอย่างน่าเชื่อถือว่าคนที่นี่ไม่รู้จักนางสถานการณ์จึงเกิดการพลิกผันครั้งใหญ่“ไป ไป ไป ที่นี่มิใช่ที่ที่พวกเจ้าจะสามารถมาได้” ขันทีโบกมือ “อากาศเย็นเช่นนี้ มารบกวนเวลาดื่มสุราของพวกข้าเข้า เจ้าชดใช้ได้หรื
“เจ้าเห็นสิ่งใดรึ?” ตงฟางหลีเอ่ยถาม“เลือด” นิ้วของฉินเหยี่ยนเย่ว์สั่นเบา ๆ “มิใช่กลิ่นเลือดจากกายของท่าน แต่เป็นกลิ่นเลือดที่ลอยมาจากข้างหน้า กลิ่นเลือดแรงมากเพคะ”แม้จะไร้คนนำทาง นางก็สามารถตามกลิ่นเลือดไปหาได้“เด็กคนนั้น ถูกโยนมาไว้ที่แห่งนี้ตั้งแต่เกิดเลยหรือ? เขามีชีวิตรอดมาได้อย่างไรหรือเพคะ?
“ผู้ใดถีบประตู มารดาเจ้าตายแล้วหรืออย่างไร? ถีบทำไม?” แม่เฒ่าหวังก่นด่า ไม้โบยในมือฟาดลงบนร่างกายซูบผอมของเด็กน้อยคนนั้นแม่นมที่ปกป้องเขาอย่างสุดชีวิต เพียงพริบตาเดียวก็โดนแม่เฒ่ารูปร่างใหญ่โตลากออกไปเด็กน้อยตกใจจนขดตัวกลม นัยน์ตาสองข้างเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จนร้องไห้ไม่ออกเสียด้วยซ้ำเขาสวมอาภรณ
อย่างไรก็ตาม ร่างกายราวกับมีเข็มแทงเจ็บปวดจนแทบเอาชีวิต ยามที่เนื้อผ้าเสียดสีนั้น คล้ายดั่งมีมีดกรีดเฉือนผิวหนังอาภรณ์ตัวหนาบนตัวกลายเป็นความทรมาน“นางแพศยา ตกลงว่าเจ้าทำอันใดกันแน่?” นางก่นด่าไปพลางพร้อมกับถอดเสื้อผ้าออก“ไม่มีอันใด แค่วางเข็มพิษฉบับปรับปรุงแล้วกับเจ้าก็เท่านั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์กล
ขันทีผู้เฒ่าที่เฝ้าประตูนั้น นึกไม่วางใจกับสถานการณ์ภายในเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงค่อย ๆ ลอบตามมาดูสถานการณ์อยู่ไกล ๆ ถึงแม้ว่าตัวเขาจักอยู่ห่างออกมา หากแต่ขันทีผู้นั้นก็ได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว สตรีที่อยู่ข้างกายท่านอ๋องเอ่ยเรียกนามท่านอ๋องเจ็ดออกมาในใต้หล้านั้น นอกเหนือจากฮ่องเต้และพระพันปีแล้ว ก็คงเป็