หิมะตกทั้งคืนไม่หยุดทั้งบนโคมไฟและบนต้นไม้ ต่างถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มหมอกชั้นหนา บริสุทธิ์และงดงามสุดลูกหูลูกตานับหมื่นลี้ท้องฟ้ายังมืดและหนาวเหน็บมากแม้จะมีเตาอุ่นและผ้าห่มผืนหนาในรถม้า แต่ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็ยังคงตัวสั่นเทาจากความหนาวเย็น“ไข้ขึ้นอีกแล้วหรือ?” ตงฟางหลียื่นเตาอุ่นมือให้นาง“เปล่าเพคะ
“อืม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่กล้าสบตาเขามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมาก ฮอร์โมนแปลก ๆ จะหลั่งออกมาโดยไม่ตั้งใจสิ่งที่เรียกว่ารักแรกพบและการใช้เวลาร่วมกันเป็นเวลานานจนพัฒนาความรู้สึก ล้วนกระตุ้นกลไกของฮอร์โมนในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้คนสองคนที่อยู่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงดึงดูดเข้าหากันนางแน่ใจว่าปฏิก
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ละอายใจเล็กน้อยนางหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่าตงฟางหลีต้องการทำให้ซูเตี่ยนฉิงทรมานน้อยลง ความหึงหวงจึงบังเกิด เป็นตายนางก็ไม่ให้ยาถอนพิษแล้วยังโกรธเขาเรื่องยาถอนพิษด้วยตอนนี้ดูเหมือนเป็นนางที่โง่เกินไป“หม่อมฉันขอโทษ” นางเอ่ยขึ้น “เมื่อวานเป็นหม่อมฉันที่มุทะลุเอง ถ้าหม่อมฉันเชื่อฟัง
เขาชะงักก่อนจะกล่าวเสริม “ไม่มีผู้ใดสามารถคาดเดาได้ว่าเสด็จพ่อทรงพระราชดำริอะไรอยู่ในพระทัย เจ้าก็อย่าคาดเดามั่วซั่ว เพียงแก้ปัญหาในแบบของเจ้าเองก็พอ”หากมีอะไรผิดพลาด…ยังมีเขาอยู่ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้ว่าเขาอนุญาตจึงพยักหน้าอย่างหนักแน่นในเวลานี้ คนทั้งคู่มาถึงหน้าตำหนักเป่าลู่แล้ว“ท่านอ๋องเจ็ดเสด็จ
ฮองเฮามีพระพักตร์บึ้งตึงนางตบพระอุระด้วยสีอารมณ์เสียพระทัยและเศร้าพระทัยหลังจากรับสั่งให้ตบปากฉินเหยี่ยนเย่ว์ ก็โค้งคำนับฮ่องเต้เอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “ฮ่องเต้ โปรดยกโทษให้หม่อมฉันที่ตัดสินใจเองด้วยเพคะ ในฐานะผู้ดูแลวังหลัง ควรจะสั่งสอนเหล่าคนรุ่นหลังให้ดี”“บัดนี้สะใภ้เจ็ดพูดจาไม่สุภาพและหยาบคาย
ดังนั้นถึงได้เลือกเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเอ่ยปาก เพื่อให้ฮ่องเต้มีทางลงตามจังหวะและเป็นขั้นตอน และยืมพระนามของฮ่องเต้มาลงโทษฉินเหยี่ยนเย่ว์อีกครั้ง ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวกลับคิดไม่ถึงว่าฉินเหยี่ยนเย่ว์จะกำเริบเสิบสานต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้เช่นนี้“เมื่อครู่นี้ฮองเฮาตรัสว่าลูกหยาบคายต่อหน้าเสด็
ใบหน้าของตงฟางหลีเปลี่ยนไปเล็กน้อยคนเหล่านี้เอ่ยถึงคำว่า “พี่น้องฆ่าฟัน” สี่คำนี้อย่างรวดเร็วครั้งเสด็จพ่อยังเยาว์วัย ต้องผ่านการต่อสู้ที่เหี้ยมโหดมาก่อนถึงจะขึ้นครองบัลลังก์ พระองค์รู้สึกรังเกียจอย่างยิ่งกับวางอุบายระหว่างพี่น้อง ย้ำพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าต้องรักใคร่กัน และเกลียดเรื่องที่พี่น้องจะ
“ตามคำกล่าวของท่าน ตราบใดที่เหตุการณ์เกิดขึ้นในดินแดนของราชวงศ์ตงลู่ ตงลู่ก็จะเกี่ยวข้องด้วยหรือเพคะ? นี่มันตรรกะไร้เหตุผลแบบไหนกัน?”พระสนมเจิ้นถูกนางตำหนิกลับมา นางไม่มีคารมคมคายอะไร ถึงจะสามารถขยับมือได้แต่ก็ไม่ขยับปาก ถูกทำให้โกรธจนใบหน้าแดงก่ำและกำหมัดแน่น อดทนในการใช้อำนาจป่าเถื่อนแก้ปัญหา“เส
“เหยี่ยนเย่ว์!”ในตอนที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์คิดว่าตนกำลังจะตาย สุ้มเสียงที่เป็นกังวลก็ดังขึ้น“เหยี่ยนเย่ว์ เจ้าเป็นไรหรือไม่?”“ยัยหนู เจ้าห้ามเป็นอะไรเด็ดขาดนะ”เสียงหนึ่ง ตอนแรกฟังดูเหมือนมาจากมิติอันไกลโพ้น ยากที่จะได้ยินชัดเจนแต่แล้วเสียงนั้นดังขึ้นเรื่อย ๆ อย่างช้า ๆผ่านชั้นสีเลือด ขจัดความกลัว ข
หลังจากที่ป้าหวนออกคำสั่ง ทุกคนต่างรวมตัวกันรอบฉินเหยี่ยนเย่ว์และเฟิ่งหลีกระบี่ยาวหอบลมปะทะมา ทั้งหมดโจมตีลงมาที่พวกเขาฉินเหยี่ยนเย่ว์ไม่เคยพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อนครั้งก่อนที่ถูกคนของอีกาดำโจมตี อีกาดำตัวนั้นไม่ได้เห็นนางอยู่ในสายตาเลย และการเคลื่อนไหวของฝ่ามือช่างเชื่องช้ายิ่งนัก นางหลบหนีได้ภา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์รู้สึกว่าเถาวัลย์โลหิตถูกคนตัดออกไป ร่างกายเบาขึ้นดูเหมือนมีคนตบใบหน้านางอย่างแรงคนผู้นั้นยังคงพูดอะไรบางอย่างร้อนใจด้วยเสียงที่ห่างไกลฟื้นคืนกลับมาทีละน้อย และสมองที่ค้างเติ่งว่างเปล่าก็เริ่มต้นใหม่เช่นกัน“สาวน้อย ตื่นได้แล้ว”ฉินเหยี่ยนเย่ว์มองไปยังแหล่งที่มาของเสียงด้านหน้า ใบ
องครักษ์จื่ออวี๋ในยามนี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากทั้งสองด้านแล้วหลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บ สีหน้าย่ำแย่อย่างรวดเร็วบนกระบี่มีพิษ!ภายใต้ผลกระทบของพิษ สติขององครักษ์จื่ออวี๋พร่ามัวเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะรีบผนึกจุดฝังเข็มที่สำคัญหลายจุดจุดฝังเข็มถูกผนึกกะทันหัน และเมื่อเลือดลมพุ่งทะยานขึ้น เขาจึงกระอัก
นอกจากกำแพงที่มิอาจเข้าใกล้ได้แล้ว อีกสามทิศที่เหลือล้วนถูกยึดครองทั้งหมดภายใต้วงล้อมที่โอบล้อมหลายชั้น ฉินเหยี่ยนเย่ว์และองครักษ์จื่ออวี๋เหลือเรี่ยวแรงเพียงเล็กน้อยฝั่งตรงข้ามมีคนจำนวนมาก ส่วนพวกเขามีกันเพียงสองคน การต่อสู้แบบเวียนเทียนสามารถทำให้พวกเขาเหนื่อยล้าจนหมดแรงได้เช่นกัน“รีบสู้รีบจบเถิ
องครักษ์จื่ออวี๋หยุดชะงักไปชั่วขณะศัตรูมีจำนวนมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด สถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤต เขาเพียงคนเดียวรับมือกับคนจำนวนมากเพียงนี้ อาจทำให้มิอาจดูแลไปพร้อม ๆ กันได้“สวมสิ่งนี้ไว้” เขาถอดเกราะเม่นอ่อนของตนเองออก“นี่คือ...” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ตกตะลึงเกราะเม่นอ่อนที่ดาบแทงไม่เข้า เป็นสิ่งของในตำน
องครักษ์จื่ออวี๋มีวรยุทธ์ที่สูงส่ง มีความเป็นไปได้ที่จะหลบหนีออกไปได้“มิอาจให้พวกเขาหลบหนีออกไปได้” ป้าหวนกำหมัดแน่นอย่างดุดัน “ตามไป จะต้องสงหารพวกเขาในกองรักษาระเบียบนี้ให้ได้”“หากพวกเขาออกจากกองรักษาระเบียบไปได้แล้ว พวกเราทั้งหมดก็ต้องตาย”สีหน้าของเหล่านางกำนัลพลันกลายเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมามีนาง
“ไม่ได้” ใบหน้าเล็ก ๆ ของตงฟางอิงซีดขาว “พวกนางล้วนมีวรยุทธ์กันทั้งนั้น ท่านไม่เป็นวรยุทธ์ สู้พวกนางไม่ได้หรอก”นางกำนัลเหล่านี้ไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไร แต่ละคนล้วนมีฝีมือสูงส่งทั้งนั้นด้วยวรยุทธ์ของเขาในตอนนี้ อย่างมากที่สุดก็คืออาศัยวิชาตัวเบาที่ซุยเยียนสอนหลบหนีไป คิดจะเอาชนะพวกเขาได้นั้นเป็นไปไม
ป้าหวนจับจ้องกระดาษแผ่นนั้นสักพัก ใบหน้าเคร่งขรึมนั้นเปี่ยมล้นด้วยรังสีอาฆาตเสียงของนางแทบจะเค้นลอดไรฟันออกมา “ฝ่าบาทให้ท่านมารับตัวพระสนมเหยาหรือ?”“ถูกต้อง” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พูด “คดีของพระพันปีเป่าเปิดเผยความจริงทั้งหมดแล้ว พระสนมเหยาเป็นผู้ถูกข้อครหา เสด็จพ่อจึงมีพระราชโองการให้ข้ากับองค์ชายสิบมาร