ทันใดนั้น สายตาของทุกคนไปตกที่ร่างฉู่เชียนหลีตั้งแต่พระชายาอ๋องเฉินมา นางรับช่วงต่อสถานการณ์ขององค์หญิงใหญ่ จัดการทุกอย่าง ตอนนี้องค์หญิงใหญ่ตกเลือด นางย่อมมีความรับผิดชอบที่ไม่สามารถปฏิเสธ“ท่านอ๋อง ข้าทำคลอดทารกมาครึ่งชีวิต ประสบการณ์ล้นหลาม ท่านกลับไม่เชื่อข้า คราวนี้ดีแล้ว…”หมอหญิงส่ายศีรษะอย่างผิดหวัง “ปริมาณเลือดที่ฮูหยินเสียแย่มาก…”ส่ายศีรษะ บ่งบอกถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ทำให้บรรยากาศภายในห้องตึงเครียดอีกครั้งโดยตรง เหมือนกับถูกทับอยู่ใต้ภูเขาหนัก ทุกคนหายใจลำบากแย่มาก ก็แสดงถึงความตายมือเท้าโหวติ้งกว๋อเย็นเฉียบทันที ลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขนก็ไม่น่ารักแล้ว สายตาที่สั่นเทามองไปทางผู้หญิงที่นอนหน้าซีดอยู่บนเตียง รู้สึกเพียงเหมือนฟ้าถล่มดินทลาย…ฉู่เชียนหลีพบว่าไม่สามารถห้ามเลือด ท้ายที่สุดต้องถ่ายเลือดซื้อเวลา ไม่เช่นนั้นองค์หญิงใหญ่จะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่นาทีระหว่างความเป็นความตาย แค่ไม่กี่นาทีนางรีบกล่าว “พวกเจ้าทุกคนออกไปก่อน ไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ห้ามเข้ามา!”หมอหญิงหันไปมอง “พระชายาอ๋องเฉิน ท่านจะทำอะไร? ยาทุกอย่างที่ใช้ได้ก็ใช้แล้ว วิธีที่สามารถลองได้ก็ลองแล้ว
หมอหญิงยืนอยู่ด้านข้าง จิกแขนเสื้อเช็ดน้ำตา พลางกล่าวอย่างสะอึกสะอื้น “เดิมทีอาการขององค์หญิงใหญ่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตั้งแต่ฟังคำสั่งของพระชายาอ๋องเฉินก็…องค์หญิงใหญ่เป็นพี่สาวของอ๋องเฉินนะ!”“เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้แล้ว อ๋องเฉินกลับไม่มา ก็ไม่รู้ว่าอ๋องเฉินหมายความว่าอย่างไร…”คำพูดนี้ของนางมีช่องว่างสำหรับการจินตนาการอย่างไร้พรมแดนแฝงอยู่ ทำให้ผู้คนคิดมากพี่สาวคนโตคลอดลูก อ๋องเฉินทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น?พระชายาอ๋องเฉินทำร้ายคน หรืออ๋องเฉินกับองค์หญิงใหญ่ไม่ลงรอยกัน เป็นเจตนาของอ๋องเฉินทันใดนั้น ทุกคนจินตนาการอย่างรวดเร็ว แผนการและกลอุบายต่างๆ ถูกปรุงแต่งออกมาหมด…ภายในห้องเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉู่เชียนหลียืนอยู่หน้าเตียง ใช้คลังเลือดในกำไลเฉียนคุนถ่ายเลือดให้องค์หญิงใหญ่ และใช้เครื่องมือที่ทันสมัยของยุคปัจจุบันทำการช่วยเหลือ สถานการณ์ทุกอย่างคงที่เพียงแต่ของที่อยู่ในกำไลเฉียนคุนของนางยิ่งใช้ยิ่งน้อยนำออกมาหนึ่งอย่าง ก็น้อยลงหนึ่งอย่าง ใช้หนึ่งอย่าง ก็หมดหนึ่งอย่าง วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล นางจะพึ่งพากำไลเฉียนคุนมากเกินไปไม่ได้หลังจากนั้นครึ่งชั่วยามในที่สุดก็ห้ามเลือด
สายตาของคนอื่นก็ตกที่ฉู่เชียนหลีเช่นกัน มีทั้งสงสัย มีทั้งคาดคะเน มีทั้งคาดเดา…แตกต่างกันไปตามความคิดของคนทั่วไป หลังจากพระชายาอ๋องเฉินยื่นมือเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ องค์หญิงใหญ่ก็เกิดเรื่องทันที นางยากที่จะบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบหากบอกว่านางทำให้องค์หญิงใหญ่ตาย ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ฉู่เชียนหลียืนอยู่ตรงหน้าประตูอย่างสงบ กวาดมองทุกคนอย่างไม่เร่งไม่รีบแวบหนึ่ง ทุกคนล้วนเป็นปรปักษ์กับนาง แต่วิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา ไม่กล้าพูดต่อหน้า มีเพียงหมอหญิงคนนั้นที่เดินออกมา กล่าวโทษอย่างเสียงดัง เหมือนนางกระทำความผิดเรื่องร้ายแรงอะไรความสนใจของฉู่เชียนหลีไปตกที่หมอหญิงคนนี้ทันทีกวาดมองคนคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย“ตอนที่ข้ายังไม่มา ลูกขององค์หญิงใหญ่ไม่กลับหัว ต่อให้ฝืนคลอดก็คลอดไม่ออก หากไม่ใช่เพราะข้าหมุนเด็กกลับหัว เกรงว่าตอนนี้เจ้าคงหัวหลุดจากบ่าแล้ว”หมอหญิงชะงักเป็นเช่นนี้จริงเด็กไม่กลับหัว คลอดบุตรยาก จะทำให้สูญเสียหนึ่งศพสองชีวิต องค์หญิงใหญ่ตายแล้ว ทั้งครอบครัวนางก็ไม่รอดเช่นกันแต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่เหมือนกัน มีพระชายาอ๋องเฉินเป็นแพะรับบาป นางแค่พูดให้ตนเองหลุดพ้
“ท่านไม่กล้า!”“ท่านโหว ท่านดู พระชายาอ๋องเฉินมีพิรุธจริงๆ!”หมอหญิงเดินเข้ามาประชิดทีละก้าว น้ำเสียงบีบคั้น ยิ่งกว่านั้นต้อนจนฉู่เชียนหลีจนมุม เลิกแขนเสื้อขึ้น ท่าทางเหมือนจะใช้กำลังบังคับคนอื่นก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกันขอแค่ตรวจสอบ ก็สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์คุยด้วยหลักฐาน หนักแน่นและมีผลมากกว่าคำอธิบายทุกอย่างฉู่เชียนหลี ‘ตื่นตระหนก’ จนกระทืบเท้า “ข้าไม่ได้ทำร้ายนาง!”“องค์หญิงใหญ่ตายแล้ว ท่านยังบอกว่าไม่ได้ทำอีก! หากไม่ใช่เพราะท่าน องค์หญิงใหญ่ก็จะไม่ตกเลือด!” หมอหญิงเย็นชาและแข็งกระด้าง “ท่านเป็นคนทำให้องค์หญิงใหญ่ตาย หากไม่เจอเมล็ดเชียนอิงบนตัวท่าน ข้าก็ไปตาย!”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีได้ยินคำพูดนี้ เลิกคิ้วกะทันหัน ‘ความกลัว’ บนใบหน้ามลายหายไป กลายเป็นความสนใจที่เข้มข้น“เจ้าตั้งใจจะใช้ความตายไถ่โทษจริงหรือ?”หมอหญิงยิ้มอย่างเย็นชา “คนที่ใช้ความตายไถ่โทษคือท่าน ไม่ใช่ข้า ท่านทำให้องค์หญิงตาย ท่านแบกชีวิตของคนคนหนึ่งไว้ ในใจท่านไม่รู้หรือ?”นี่มันเวลาไหนแล้ว พระชายาอ๋องเฉินยังจะเพ้อฝันเช่นนี้?ฉู่เชียนหลีกลับเอียงศีรษะ กล่าวอย่างประหลาดใจมาก “องค์หญิงใหญ่ตายแล้ว?”นาง
ฉู่เชียนหลีมองหมอหญิงคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้าใบหน้าแก่ที่มีริ้วรอยราวกับใบไม่แห้งหลังฤดูใบไม้ร่วง ทั้งแห้งทั้งย่น และก็ทำให้นางดูเป็นคนซื่อตรง เหมือนกับหญิงชราที่เรียบง่ายคนหนึ่ง เข้าถึงได้ง่ายแต่ถ้าหากมองคนมองแค่ภายนอก วันข้างหน้าตายอย่างไรก็ไม่รู้“เจ้ารู้เรื่องเมล็ดเชียนอิงได้อย่างไร?” นางถามหมอหญิงก้มหน้าด้วยความตื่นตระหนก “ข้าก็ได้ยินมาเช่นกัน…ได้ยินมาว่าพิษชนิดนี้จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด อาการป่วยหนักยิ่งขึ้น…”คำพูดของนางคลุมเครือฉู่เชียนหลีกลับกล่าว “ความหมายของข้าคือ เหตุใดเจ้าจึงมั่นใจเช่นนั้นว่าบนตัวข้าเมล็ดเชียนอิง? เจ้ารู้ได้อย่างไร?”“ข้า…”หัวใจหมอหญิงสั่นสะท้าน ก้มศีรษะต่ำลงสามส่วนทันที ซ่อนความตื่นตระหนกและร้อนตัวทั้งหมดไว้“ข้า…”ถูกสายตามากมายเช่นนั้นจ้องมอง นางตื่นตระหนกเหมือนมดบนหม้อร้อน ไม่ว่าพูดอะไรก็ไม่ถูกถ้าหากถูกตัดสินโทษ ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขาอยากรักษาชีวิตไว้ มีแต่ต้องเดิมพัน…แม้พระชายาอ๋องเฉินช่วยองค์หญิงใหญ่ไว้ แต่บนตัวนางต้องมีเมล็ดเชียนอิงแน่นอน! ขอแค่หาเจอ นางก็บริสุทธิ์แล้ว!เมื่อหมอหญิงคิดเช่นนี้ กำหมัดแน่น สายตาเหี้ยมเกรียม กล่าวอย่
ฉู่เชียนหลีหวนคืนสติ หันกลับไปมองคนข้างหลังแวบหนึ่ง เม้มปากยิ้มเล็กน้อย“ขอบคุณท่านโหว”ถอนมือกลับอย่างสุภาพ พยักหน้าแสดงความเคารพ ก็เดินเข้าห้องไปดูอาการขององค์หญิงใหญ่แล้วโหวติ้งกว๋อยืนอยู่ตรงที่เดิม มองฝ่ามือที่ว่างเปล่าครู่หนึ่ง กวาดมองแผ่นหลังของนาง แล้วมองอ๋องเฉินที่หายไปจากประตูลานเรือน หลังจากยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก จึงจะเอ่ยปาก“ใครก็ได้”เก็บศพ ล้างคราบเลือด หลังจากความวุ่นวายผ่านไป กลับคืนสู่ความสงบสภาพร่างกายขององค์หญิงใหญ่ค่อยๆ คงที่ ต่อจากนี้แค่พักฟื้นให้ดี ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว เวลานี้นางกำลังนอนหลับอย่างเหนื่อยล้า ลูกสาวที่เพิ่งเกิดนอนอยู่ข้างๆ นาง ตัวเล็กๆ แดงๆ ย่นๆ สองสามีภรรยาอายุสามสิบกว่าปีแล้ว มีลูกสาวตอนอายุมากแล้ว โหวติ้งกว๋อชอบมาก สั่งให้นักพรตที่ดูฮวงจุ้ย ทำนายดวงเป็น ทำนายวันเกิดและตั้งชื่อลูกสาวทันที เพื่อขอพรและโชคลาภฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ข้างๆ ลูบท้องของตนเอง มองดูเด็กทารกที่อยู่บนเตียง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เหม่อลอยเล็กน้อย“พระชายาอ๋องเฉิน?”“เมียเจ้าเจ็ด?”“ฉู่เชียนหลี?”“ฮืม?!”เรียกติดต่อกันหลายครั้ง ฉู่เชียนหลีจึงจะหวนคืนสติ มอง
จวนบนภูเขาขนาดใหญ่ บ้านเรือนกับทิวทัศน์ของภูเขากลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ทิวทัศน์ธรรมชาติ สวยงามไร้ที่สิ้นสุด ขณะที่ทุกคนรายล้อมอยู่ในเรือนหลัก กำลังห่วงใยสถานการณ์ขององค์หญิงใหญ่กับลูก มุมหนึ่งที่ไม่สะดุดตาของใต้ภูเขาน้ำพุ เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น เก็บก้อนหินขึ้น โยนลงไปในน้ำเป็นระยะๆจ๋อม!จ๋อม!น้ำสาดกระเซ็นเขางอขาทั้งสองข้าง คางพาดอยู่บนหัวเข่า เปลือกตาของเขาตกอย่างไม่ใส่ใจ ไร้ชีวิตชีวาอาจเพราะเหม่อลอย แม้แต่ข้างหลังมีเสียงฝีเท้าก็ไม่ได้ยิน จนกระทั่งเสียงของผู้หญิงดังขึ้น“ไม่มีความสุขอีกแล้ว?”หลิงเชียนอี้ชะงักครู่หนึ่ง หันกลับไปเห็นอวิ๋นอิงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อน หลังจากนั้นก็รีบเก็บอารมณ์ด้านลบทั้งหมด “เปล่า!”“ข้าแค่เป็นห่วงท่านแม่เกินไป และช่วยอะไรไม่ได้ ก็เลยมาสูดอากาศ”อยู่ต่อหน้าคนที่ชอบ แสดงมาดและท่าทางที่ดีที่สุดของตนเองออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าหญิงหรือชาย ล้วนเป็นธรรมชาติของมนุษย์อวิ๋นอิงกะพริบตาปริบๆ เอียงศีรษะมองไปทางเขา ผมสั้นที่เรียบร้อยสะบัดออกอย่างเป็นธรรมชาติมีหรือที่นางจะมองความคิดของท่านโหวน้อยไม่ออก?สิบแปดปีก่อน เขาเป็นลูกชายคนเดียวของท
คำพูดที่โพล่งออกมา แม้แต่อวิ๋นอิงก็ตะลึงงันแล้วนางพูดเช่นนี้ได้อย่างไร…หลิงเชียนอี้กลับหมุนกายฉับพลัน เดินปรี่เข้ามาตรงหน้านาง จับไหล่ทั้งสองข้างของนาง เหมือนดีใจจนคลั่ง“อวิ๋นอิง ถ้าหากเจ้ายินดีพึ่งพาข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”เขาจะแบกความรับผิดชอบของลูกผู้ชายคนหนึ่ง มอบความรู้สึกปลอดภัยให้นาง หรือแม้กระทั่งที่พักพิงสำหรับหลบลมหลบฝนบ้าน!อวิ๋นอิงจับริมฝีปากของตนเองอย่างตะลึงงัน “ข้า…” เดิมทีนางอยากปลอบใจเขา แต่คำพูดที่มาถึงปลายลิ้น…เหตุใดจึงกล่าวออกไปเป็นอีกความหมาย“ท่านโหว ข้า…”“เยี่ยมไปเลย!”หลิงเชียนอี้ดีใจจนดึงคนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดโดยตรง กระชับแขน กอดนางแน่น “เยี่ยมไปเลย! อวิ๋นอิง เจ้าวางใจ ต่อไปข้าจะไม่โกรธง่ายๆ แล้ว ข้าจะกลายเป็นผู้ใหญ่ หนักแน่น และทำงานใหญ่เหมือนท่านน้าเฉิน!” อารมณ์ของเด็กหนุ่มมาเร็ว แต่ก็ไปเร็วเช่นกันเมื่อครู่ยังอัดอั้นไม่มีความสุข ตอนนี้หัวเราะเหอะๆ แล้วหัวเราะจนเหมือนกับคนบ้าที่ได้รับลูกอม “อวิ๋นอิง เจ้าพูดถูก ข้าเป็นผู้ชาย ต้องหนักแน่นหน่อย ข้าจะไม่ใช้อารมณ์กับน้องสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิด อย่างมากก็กระทืบนางสามห้าวันสักยกเพื่อระ