เรือนหานเฟิงหากพูดว่าท่านอ๋องปลดพระชายารองเซียว ใครคือคนที่ดีใจที่สุด เช่นนั้นก็หนีไม่พ้นเยว่เอ๋อร์แล้วเมื่อพระชายารองเซียวไป พระชายาได้รับความโปรดปรานเพียงคนเดียว หากให้กำเนิดลูกชายอีกหนึ่งคน มารดาพึ่งบารมีลูกชาย ลาภยศเงินทองของทั้งชีวิตก็จะได้รับการประกันนางทำขนมหวานที่ประณีตสองจานอย่างมีความสุข ส่งเข้ามา ยิ้มแย้มตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มจนจบฉู่เชียนหลีเห็น พูดกระเซ้าด้วยรอยยิ้ม“เยว่เอ๋อร์ ยิ้มได้มีความสุขมากเช่นนั้น มีผู้ชายที่ชอบแล้ว?”เยว่เอ๋อร์ชะงักทันใดนั้น สมองก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างเงาสีดำที่สูงใหญ่สายหนึ่ง…แก้มทั้งสองข้างแดงทันที เวลาพูดก็เริ่มติดขัด“พระชายา ท่านพูด พูดอะไรของท่าน…ข้ายังเป็นสาวพรหมจรรย์นะ ผู้ชายอะไรของท่าน น่าอายจัง!”วางขนมหวานลง ปิดหน้าวิ่งออกไปฮืม?อาการหนักเช่นนี้แล้ว ยังจะปฏิเสธ?เห็นนางตาบอด?ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายคนใดที่โชคดีเช่นนี้ ถูกเยว่เอ๋อร์ที่เพียบพร้อมมีน้ำใจของบ้านนางชอบฉู่เชียนหลีหยิบขนมหวานขึ้นมาหนึ่งชิ้น กินไปหนึ่งคำ นางขมวดคิ้ว“กลิ่นเหม็นเปรี้ยวความรัก”เฟิงเย่เสวียนได้ยินคำเปรียบเปรยที่เอกลักษณ์แปลกใหม่นี้ เขาหัวเราะด้
แค่เพิ่งนึกถึง แก้มทั้งสองข้างของนางก็เริ่มแดง…“โฮ่ง…”ตรงประตู เจ้าดำน้อยยื่นอุ้งเท้าไปตะกุยประตูกะทันหัน ดวงตาหมาป่าสีเขียวเข้มมองไปทางเยว่เอ๋อร์ อุ้มเท้าขุดประตูครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกำลังเตือนอะไรนาง เยว่เอ๋อร์เย็บไปหนึ่งเข็ม กำลังดึงด้าย เงยหน้ากล่าว“เจ้าดำน้อย รอก่อน ข้าปักเสร็จก็พาเจ้าไป”เจ้าดำน้อยไม่พอใจทันที “โฮ่งๆๆ!”ตะกุยประตู กระทืบเท้า แสดงความไม่พอใจเยว่เอ๋อร์อยากปักใบไผ่นี้ให้เสร็จมาก จึงกล่าว “หรือไม่วันนี้เจ้าก็ขี้ในเรือนเถอะ ข้าปักเสร็จแล้วค่อยมาตักให้เจ้า”“...”มันเป็นถึงราชาหมาป่า จะขี้ในที่พักของตัวเอง?เช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด!มันจะต้องออกไปขี้ข้างนอกให้ได้!ขนบนตัวหมาป่าเทพแห่งคุนหลุนสั่นทันที กระทืบเท้าอย่างน่าเกรงขาม ส่งเสียงเห่า ‘โฮ่ง’ อย่างน่ายำเกรง เหมือนกำลังสั่งเยว่เอ๋อร์ หากเยว่เอ๋อร์ไม่ฟัง เช่นนั้นมันก็จะเห่าจนได้ออกไป“โฮ่ง!”“โฮ่งๆๆ!”“...”เยว่เอ๋อร์ปวดหัวแล้ว ไม่ลุกขึ้นไม่ได้ “ได้ๆๆ ข้าพาเจ้าออกไปก็สิ้นเรื่อง แต่ว่าตอนนี้ดึกแล้ว พวกเราขี้เสร็จก็กลับ ห้ามวิ่งเล่นนะ”เจ้าดำน้อยพยักหน้าตอบตกลงเยว่เอ๋อร์มองดูกระเป๋าเงินที่ใกล้จ
ยังมีหน้ามาปรากฏตัวต่อหน้านางอีก!ไฟแห่งความโกรธของเซียวจือฮว่าลุกโชน ยกเท้าพุ่งเข้าไป“เจ้าทำให้อ๋องเฉินปลดข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”พลันชายคนนั้นเอี้ยวตัว ก็คว้าข้อมือนาง ลากเข้าไปในตรอกมืดที่อยู่ด้านข้าง เสียงที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนลดต่ำ“ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธมาก แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากข้า เป็นเพราะพระชายาอ๋องเฉินเล่นตุกติก แม้ท่านออกจากจวนอ๋องเฉินแล้ว แต่ทั้งหมดนี้ก็ใช่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้”“ตอนนี้พระชายาอ๋องเฉินยังไม่คลอดบุตร ไม่มีลูกชาย ตำแหน่งยังนั่งไม่มั่นคง ท่านยังมีโอกาสกลับจวนอ๋องเฉิน”เซียวจือฮว่ามองเขาด้วยความโกรธอย่างดุร้าย“เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลหรือ?!”ชายคนนั้นหัวเราะเยาะ ไม่ได้รีบร้อนอะไร มือแก่ที่มีรอยย่นยื่นเข้าไปในเสื้อคลุมสีดำ ค่อยๆ หยิบขวดสีดำเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาส่งให้นาง“นี่เป็นของขวัญที่ข้าใช้เงินมากถึงห้าพันตำลึงกว่าจะได้มา”เขาหัวเราะได้แปลกประหลาดมาก เน้นคำว่า ‘ของขวัญ’ สองคำ บรรยากาศอึมครึมเซียวจือฮว่าขมวดคิ้ว “ของบ้าบออะไร?”“ยาสิ้นบุตร…”รุ่งเช้าอ๋องหลีมาเยี่ยมเยียนตั้งแต่เช้า ฉู่เชียนหลีไปต้อนรับ“อ๋องหลี”ภายในห้องโถงหน้า เฟิงเจิ้งหลีกำลังรออยู
รอเฟิงเย่เสวียนจัดการธุระในมือเสร็จ เมื่อไปถึงห้องโถงหน้า ทุกอย่างว่างเปล่า พอสอบถาม จึงได้รู้ว่าฉู่เชียนหลีออกไปพร้อมกับอ๋องหลีแล้วออกไปด้วยกัน?ไม่บอกเขา?ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องมันไม่ง่ายเช่นไหน เขารีบออกจากจวน ไล่ตามตำแหน่งของทั้งสองเยี่ยมมาก!มองเห็นคนทั้งคู่ในฝูงชนแต่ไกล พลางเดิน พลางหัวเราะ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน ท่าทางดูมีความสุขมากเขายืนตัวตรง พลันหน้าบึ้ง ก้าวเท้าเดินเข้าไปหา“แค่ก!”หน้ารถเข็นแผงลอยร้านหนึ่ง ฉู่เชียนหลีกับอ๋องหลีหันกลับไปมองพร้อมกันฉู่เชียนหลีประหลาดใจ “เอ๋? ท่านกำลังยุ่งอยู่ไม่ใช่หรือ? ออกมาได้อย่างไร? และยังเจอกันอีก บังเอิญจริงๆ”——ดูสีหน้าที่บูดบึ้งนี่สิ น่าเกลียดเหมือนไปกินขี้มาเลย คงจะไม่ได้มาจับชู้หรอกมั้ง? พระเจ้า ในโลกนี้คงจะไม่มีคนที่โง่ขนาดนี้หรอกมั้ง มีคนแอบคบชู้ที่ไหนมาเดินตลาดกันอย่างเปิดเผยแบบนี้?——เขาอาจจะโง่ขนาดนั้นก็ได้“...”เฟิงเย่เสวียนชะงักเล็กน้อย อารมณ์ที่เพิ่งเดือดพล่านถูกข่มลงไปในพริบตา สติควบคุมความวู่วามก็จริงเขาจะวู่วามไม่ได้แล้วหากทำทุกอย่างตามอำเ
อีกด้านหนึ่งตอนที่เฟิงเย่เสวียนอยู่ต่อหน้าอ๋องหลี ทั้งนิสัยดี ทั้งใจกว้าง และเป็นมิตร ไม่มีอะไรที่ตำหนิได้เลย แต่พอลับหลังก็กลายเป็นอีกคน เขาลากฉู่เชียนหลีไปด้านข้าง“เดินตลาด พวกเจ้าสองคนเดินตลาดอะไร? เขามีพระชายาไม่ใช่หรือ? ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถึงคราวของเจ้ากระมัง?”เขาไม่พอใจแล้วเขานับนิ้ว นึกย้อนอย่างละเอียด แต่งงานมานานเช่นนี้แล้ว นางไม่เคยมาเดินตลาดกับเขาแม้แต่ครั้งเดียวนางกลับมอบครั้งแรกให้อ๋องหลี!หน้าบึ้ง โกรธฉู่เชียนหลีรีบหยุดฝีเท้า ลูบศีรษะของเขา พลางรีบปลอบใจ“หรือท่านไม่เห็นฉู่เจียวเจียวไม่ได้รับความโปรดปราน? ตอนอยู่จวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ นางกับแม่นางรังแกข้า ยังจงใจปิดบังตัวตนของข้าไม่ยอมบอก และถึงขั้นวางยาพิษทำลายโฉมของข้านานถึงสิบห้าปี”“เปลี่ยนเป็นท่าน ท่านสามารถกล้ำกลืนความโกรธแค้นนี้ได้หรือ?”เฟิงเย่เสวียนขมวดคิ้ว ส่ายศีรษะหากอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย ชักกระบี่ฆ่าไปนานแล้ว แต่เขาไม่ฆ่าผู้หญิง“เจ้าอยากทำอย่างไรกับพวกนาง? บอกข้า ข้าส่งไปนางไปขุดเหมืองที่ภาคตะวันตก”คิกๆ!ขุดเหมือง!ภาคตะวันตกอยู่ไกลเช่นนั้น สองแม่ลูกคู่นี้มีกลอุบาย ส่งพวกนางไป ไม่แน่พวกนางอาจจ
“ทำไมถึงมีคนเป็นลม!”“เกิดอะไรขึ้น?”“เสื้อผ้าเขาขาดเช่นนี้ ต้นขาก็โผล่ออกมาแล้ว คงจะไม่ใช่อันธพาลกระมัง…”ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งล้อมอยู่ตรงท้ายถนน พากันวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา ฉู่เชียนหลีรู้สึกถึงความผิดปกติ ยกเท้าเบียดเข้าไปในฝูงชน ก็มองเห็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าคนหนึ่งล้มอยู่บนพื้น เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ผมยุ่งเหยิง สีหน้าอิดโรย ปากแห้งผาก เป็นลมไปแล้ว“หลบหน่อย!”นางปัดคนทั้งสองข้างออก ก้าวเท้ายาวเดินไปข้างๆ ชายวัยกลางคน ตรวจชีพจรเขาผิวหนังร้อนมาก!จับชีพจรครู่หนึ่ง สีหน้าเคร่งขรึมลงทันทีนี่เหมือนจะเป็น…“รีบอพยพคนออกไป!”ชายวัยกลางคนคนนี้ร้อนไปทั้งตัว สติเลอะเลือน และยังพบไวรัสชนิดหนึ่งที่เหมือนโรคกลัวน้ำ[footnoteRef:1] ไวรัสชนิดนี้ติดต่อกันได้ เมื่อร้อนถึงระดับหนึ่ง อาจถึงตายได้ [1: โรคกลัวน้ำ หรือโรคพิษสุนัขบ้า] แต่ตกลงเป็นโรคกลัวน้ำหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบดูก่อนทว่า เสียงของนางถูกฝูงชนที่มุงดูกลบ ทุกคนเอาแต่มุงอยู่ ไม่สนใจคำพูดของนางเลยสักนิดเฟิงเย่เสวียนเดินเข้าไป กวาดมองชาวบ้านที่ไม่กลัวเรื่องบานปลายแวบหนึ่ง เขาตะโกนเสียงทุ้มต่ำ“จวนอ๋องเฉินทำงาน รีบถอยออกไป ร
เฟิงเย่เสวียนไปประชุมแล้ว หลังจากฉู่เชียนหลีกินข้าวเสร็จ ก็มาที่โรงหมอไม่รู้เพราะเหตุใด ไม่สบายใจทั้งคืน เรื่องแรกที่สั่งจางเฟยหลังจากมาถึงโรงหมอก็คือ “พาพี่น้องสองสามคนไปซื้ออ้ายเฉ่า[footnoteRef:1] ยิ่งซื้อเยอะยิ่งดี” [1: อ้ายเฉ่า โกฐจุฬาจีน] จางเฟยไม่เข้าใจอ้ายเฉ่ามีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เพียงแต่ขายดีในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่างเท่านั้น ปกติไม่มีคนซื้อ โดยทั่วไปแล้ว ของที่เก็บไว้ในคลังของโรงหมอก็มีน้อยมากเช่นกัน“คุณหนู ท่านบอกว่ายิ่งเยอะยิ่งดี คือเท่าไร?”“หลายร้อยชั่งกระมัง”“?!”จางเฟยเบิกตากว้างโดยตรง “ทำไมถึงซื้อเยอะขนาดนี้?”หลายร้อยชั่ง! บ้าไปแล้วหรือ? นี่หากซื้อมา ขายยี่สิบปีก็ไม่หมด เงินไม่ได้ตกลงมาจากบนท้องฟ้า หากล้วนนำเงินไปซื้ออ้ายเฉา ขาดทุนหมดกระเป๋าแน่“จางเฟง คุณหนูมีเหตุผลของนาง ให้เจ้าไปเจ้าก็ไปเถอะ” จิ่งอี๋ดึงลิ้นชักออก นำตั๋วเงินปึกหนึ่งวางบนมือเขาจางขาเป๋ใช้สองมือจับไม้เท้า ค้ำอยู่บนพื้น มองดูผู้คนที่สัญจรไปมาบนถนน ดวงตาที่ขุ่นมัวหรี่ลง หนวดที่อยู่บนริมฝีปากกระตุก พึมพำเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่“อ้ายเฉ่าล้างพิษ ฆ่าเชื้อโรค ปริมาณมากเช่นนี้ เกรงว่าเกิดเรื่อง
นอกเมืองหลวง มีวัดที่ตั้งตระหง่านมานานกว่าสองร้อยปีแห่งหนึ่ง——วัดเทียนหลิงลือกันว่าเมื่อสองร้อยกว่าปีก่อน พระมารดาผู้ให้กำเนิดของฮ่องเต้ผู้สถาปนาแคว้นถูกศัตรูตามล่า หลบหนีมาถึงสถานที่แห่งนี้ และได้ให้กำเนิดฮ่องเต้ผู้สถาปนาแคว้น ในคืนที่ให้กำเนิด ฟ้าร้องดังสนั่น ลมพายุโหมกระหน่ำ และยิ่งมีมังกรยักษ์ตัวหนึ่งปรากฏตัวในท้องฟ้ายามค่ำคืนต่อมา เด็กที่ได้เกิดมาคนนี้เติบโตขึ้น สยบความวุ่นวายที่เกิดจากสงคราม รวมใจราษฎร บุกเบิกราชวงศ์แห่งตงหลิงจนกระทั่งถึงปัจจุบัน วัดเทียนหลิงมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับการยกย่องเป็นวัดหลวงมาโดยตลอด และยิ่งได้รับการสนับสนุนและไว้วางใจจากเหล่าราษฎร ธูปเทียนไม่เคยขาด มีผู้ศรัทธาทั่วทั้งแคว้นตงหลิง และยิ่งมีคนเดินทางไกลพันลี้ เพียงเพื่อมาจุดธูปขอพรที่วัดเทียนหลิงนอกเมือง ภูเขาทอดยาว ด้านทิศตะวันออก บนภูเขาที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด วัดเทียนหลิงตั้งอยู่บนไหล่เขาเดินเท้ามุ่งหน้าตลอดทาง มีชาวบ้านที่มาจุดธูปเยอะมากขอความรัก ขอบุตร ขอความสงบสุข…บรรดาชาวบ้านแบกตะกร้า นำธูปเทียนเครื่องสักการะ ปีนขึ้นไปยังภูเขาสูงที่มีบันไดสองพันกว่าขั้นด้วยความคาดหวังบรรดาสองพ