Share

บทที่ 209

Author: สกุลหยางมีบุตรสาว
เฟิงเย่เสวียนค่อยๆ ยื่นมือขวาออกไป วางบนฝ่ามือนาง

ฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง “ไหน?”

เฟิงเย่เสวียนเสียงเบา “นี่”

ฉู่เชียนหลีจ้องมือเขาอย่างละเอียด มือข้างนั้นทั้งใหญ่ทั้งสวย ข้อต่อกระดูกชัดเจน เรียวยาวเหมือนข้อไม้ไผ่ ราวกับเป็นงานศิลปะที่ได้รับการแกะสลักอย่างพิถีพิถัน ประณีตจนสามารถมองเห็นขนอย่างชัดเจน สมบูรณ์แบบไร้ตำหนิใดๆ

“ไหนละ?”

“นี่”

“...”

เล่นท้ายปริศนากับนาง?

พลันฉู่เชียนหลีถลนตา เฟิงเย่เสวียนเหมือนหนูที่เจอแมวทันที พลิกฝ่ามืออย่างเป็นเด็กดี หดนิ้วมือกลับสี่นิ้ว ยื่นนิ้วมือออกไปหนึ่งนิ้ว

“ตรงนี้”

ฉู่เชียนหลีจับนิ้วมือของเขา ดึงมาถึงตรงหน้า มองอย่างละเอียดใกล้ๆ

ในที่สุด

ในที่สุด…

ก็มองเห็นแล้ว

ตรงขอบเล็บบนนิ้วมือของเฟิงเย่เสวียน จมูกเล็บถูกฉีกออกไปหนึ่งเส้น มีเลือดสีแดงเล็กน้อยผุดออกมา

นี่?

แค่นี้?

ฉู่เชียนหลีอุทาน “ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ เหตุใดเจ้าถึงเพิ่งบอกข้าตอนนี้?”

เฟิงเย่เสวียนถูกเป็นห่วง เขาขยับเข้าใกล้ฉู่เชียนหลีเหมือนเด็ก ขอคำปลอบใจอย่างน้อยใจ

“เชียนหลี เจ็บ”

“บาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ ไม่เจ็บได้หรือ?” ฉู่เชียนหลีถามกลับอย่างหน้านิ่ง “โชคดีที่เจ้าบอกข้
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 210

    เขาแค่อยากกอดนาง อยู่กับนาง ใช้การกระทำของตนเอง เดินเข้าไปในใจนางทีละนิดขอแค่นางไม่พยักหน้า เขาก็จะไม่แตะต้องนางต่อให้นางขมวดคิ้วหนึ่งที เม้มปากหนึ่งครั้ง เขาก็จะเคารพนางอย่างเต็มที่วินาทีนี้ เฟิงเย่เสวียนอ่อนโยน มีความอดทน นิสัยดีมาก เหมือนกับยอดภูเขาน้ำแข็งที่ละลาย ความอ่อนโยนทั้งหมดมอบให้ฉู่เชียนหลีเพียงผู้เดียวภายในห้องที่มืดสลัว สองคนนอนหนึ่งเตียง เห็นได้ชัดว่าแออัดร่างกายของทั้งคู่ใกล้กันมาก และแนบติดกันแน่น ฝ่ามือของเขาวางอยู่บนเอวนาง สองมือของนางประหม่าเล็กน้อยไม่มีที่วางลมหายใจอุ่นๆ พ่นใส่หน้าอีกฝ่ายอุ่นร้อน…ทันใดนั้น ฉู่เชียนหลีรู้สึกร้อน อุณหภูมิบนแก้มพุ่งขึ้นสูง เหมือนกับนึ่งสุกแล้ว และยิ่งพลิกตัวอย่างอึดอัด“เวลา…เวลาข้านอนตอนกลางคืน โดยทั่วไปชอบนอนตะแคงซ้าย…”นางรีบหันหลังให้เฟิงเย่เสวียน ดึงผ้าห่มให้ต่ำลง ยื่นใบหน้าออกนอกผ้าห่ม ตากลมเย็นเพื่อคลายร้อนเหตุใดนางจึงพูดติดอ่าง?เวลานี้แม้แต่นางก็ไม่รู้สึกถึงความประหม่าของตนเองแต่วินาทีต่อมา ร่างกายของเฟิงเย่เสวียนแนบเข้ามา โอบกอดนางจากข้างหลังท่านี้ยิ่งใกล้ชิด!แขนยาวทั้งสองข้างกอดร่างเล็กๆ ของนางไว้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 211

    ที่แท้การยกนิ้วกลางก็หมายถึงการชื่นชมนี่เอง!หานเฟิงส่ายหน้าอย่างเขินอายเล็กน้อย “ได้รับการยอมรับจากนายท่าน เป็นคุณค่าสูงสุดในการดำรงอยู่ของข้าน้อย!”นับตั้งแต่ติดตามนายท่านมาหลายปี นายท่านเป็นคนเงียบขรึม สีหน้าเฉยชา น้อยมากที่จะกล่าวชื่นชมเขินอายยิ่ง~ไม่ว่าจะเป็นการจับท่านแม่ทัพใหญ่ของฝ่ายศัตรูมาเป็นเชลย ไม่ว่าจะเป็นได้รับชัยชนะจากการศึก ก็สีหน้าเรียบเฉยมาโดยตลอดฉู่เชียนหลีที่จ้องมองฉากนี้อยู่ไกลๆ “...”ราวกับว่านางไม่ควรสอนอะไรมั่วซั่ว...หานเฟิงถอยออกไป เฟิงเย่เสวียนก็ไปจัดการงานราชการ ฉู่เชียนหลีดื่มโจ๊กง่าย ๆ หนึ่งถ้วย แล้วจึงตามออกไปในศาลบรรดาชาวบ้านที่ร้องทุกข์มีประมาณสามสิบกว่าคน ยังมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่ยืนมุงดูอยู่ด้านนอกศาล บรรดาขุนนางที่ยืนตัวตรงแน่วทำให้สถานการณ์ดูน่าตกใจ ด้านบนเก้าอี้สูง เฟิงเย่เสวียนกำลังนั่งตัวตรง จัดการกิจธุระอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยคดีที่ถูกใส่ความ คดีที่ยังค้างอยู่ คดีเก่า...รับเอาไว้ทั้งหมด เพิ่มลงไปในบันทึก แล้วค่อยมอบหมายให้คนไปจัดการทีละเรื่องแม้ว่าคนจะมากมาย แต่ชายหนุ่มรับมือกับสถานการณ์อย่างสุขุม ประสิทธิภาพการทำงานยังสูง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 212

    คำพูดประโยคนี้ของเฟิงเย่เสวียนฟังดูดีเหลือเกิน พลางทำภารกิจที่ฝ่าบาททรงมอบหมายให้สำเร็จ ยังพลางพูดว่าทำเพื่อนาง แต่สิ่งที่น่าตลกก็คือคิดไม่ถึงว่านางจะเป็นห่วงเขาจนวิ่งแจ้นไปที่หุบเขาเพื่อตามหาเพียงลำพังน่าตลก!ชาวบ้านกำลังทำงาน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนาง คิดไม่ถึงว่านางจะเป็นฝ่ายเข้าไปร่วมสมทบอย่างหน้าไม่อายก็ไม่รู้ว่าลับหลังนาง ชาวบ้านเขาจะมองนางเป็นตัวตลกขนาดไหนเฮอะ...เขาโกหกได้แนบเนียนจริง ๆ!ฉู่เชียนหลีฉีกริมฝีปากหัวเราะอย่างสมเพช ถอยไปด้านหลังสามก้าว ออกจากฝูงชนหันหลังกลับแล้วก็เดินออกไปด้านนอกจวน“พระชายาอ๋องเฉิน?”เฟิงเจิ้งหลีก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว อยากจะร้องเรียกนาง แต่ในมือกำลังถือสมุด ไม่สามารถปลีกตัวออกไปได้ จึงหยุดชะงักฝีเท้าเหมือนว่าเขาจะสังเกตได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของนางเหมือนว่านางไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่?หรือว่าเขาพูดอะไรผิดไปหรือ?เมืองเซียงหนานบนท้องถนนตามตรอกซอกซอย ผู้คนพลุกพล่าน คึกคักเป็นอย่างยิ่งบรรดาชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา“ท่านอ๋องเฉินช่างเป็นคนดีเสียจริง อาหวังที่ได้รับความไม่เป็นธรรมมาสิบปีในที่สุดก็ได้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 213

    ฉู่เชียนหลีกำลังเดินเล่นอยู่ในเมือง เป็นเวลาสองสามชั่วยาม พลบค่ำถึงกลับทันทีที่ก้าวเท้าเข้าจวนผู้ตรวจการ ก็เจอกับหานเฟิงที่ท่าทีร้อนรน“โอ้โฮ! ย่าน้อยของข้า นี่ท่านไปไหนมา?”ฉู่เชียนหลีสงสัย “มีธุระอะไร?”หานเฟิงตบหน้าขา “นายท่านรอกินอาหารเย็นกับท่าน รอมาเกือบหนึ่งชั่วยามแล้ว ก็ไม่เห็นท่านสักที ยังคิดว่าท่านเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วเสียอีก กำลังจะสั่งให้คนออกไปตามอยู่เลย”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่เชียนหลีก็เย็นชาขึ้นไม่น้อยยกกระโปรงขึ้น ก้าวข้ามธรณีประตู“อ๋องเฉินมาถึงเมืองเซียงหนานแล้ว ใครจะไม่รู้? ตอนนี้ในเมืองแม้แต่หัวขโมยก็ยังไม่กล้าทำตัวอวดดี ใครจะกล้าแตะต้องข้า?”เมื่อเข้าจวน ก็สะบัดกระโปรง สาวเท้าเดินเข้าไปเหตุใดจู่ ๆ หานเฟิงจึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของพระชายา...ถึงได้เหมือนถากถางอยู่หน่อย ๆ?เรือนที่ตกแต่งหรูหราฉู่เชียนหลีเข้าห้องก็เห็นเฟิงเย่เสวียนรีบลุกขึ้นยืน“กลับมาแล้วหรือ!”ชายหนุ่มรีบเดินไปหานาง “ไปไหนมา? เหตุใดจึงไม่บอกข้าก่อนสักคำ ปล่อยให้ข้าเป็นห่วงแทบแย่”เขายื่นมือออกไป ตอนที่กำลังจะจับมือของฉู่เชียนหลี ฉู่เชียนหลีกลับเอี้ยวตัวหลบ หลบออกไปอย่างเงียบ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 214

    ตอนกลางคืน ทั้งสองแยกเตียงกันหานเฟิงสืบการเดินทางช่วงกลางวันของพระชายา ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ นี่จึงทำให้เฟิงเย่เสวียนนั่งกลุ้มใจตลอดทั้งคืน คิดเรื่องที่ฉู่เชียนหลีโมโห แต่ก็คิดไม่ออกวันรุ่งขึ้นเช้าตรู่“นายท่าน แย่แล้ว! พระชายา พระชายาขี่ม้าเร็ว กลับ กลับเมืองหลวงแล้ว...”“เจ้าว่าอะไรนะ!”บนเก้าอี้ เฟิงเย่เสวียนลุกขึ้นมาทันทีหานเฟิงรีบรายงาน “เพิ่งไปเมื่อครู่นี้ นางกล่าวว่าการลาดตระเวนทางใต้เป็นพระบัญชาของฝ่าบาท นางอยู่ต่อไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ จึงกลับเมืองหลวง ไม่ว่าข้าน้อยจะรั้งอย่างไรก็รั้งไม่อยู่...”ยังไม่ทันพูดจบ เงาดำก็ปรากฏแวบหนึ่ง ชายหนุ่มก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยฉู่เชียนหลีกลับเมืองหลวงแล้ว ใช้เส้นทางลัด เดิน ๆ หยุด ๆ ตลอดทาง เป็นเวลาสามวันกว่าจะถึงแต่เมื่อกลับถึงเมืองหลวง จ้องมองบรรดาผู้คนที่พลุกพล่าน นางไม่อยากกลับจวนอ๋องเฉิน แล้วก็ไม่อยากกลับจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ ผืนดินกว้างใหญ่ไพศาล แต่กลับหาที่ให้ซุกหัวไม่เจอเดินไป เดินมา สุดท้าย ก็หยุดลงที่ด้านนอกโรงหมอประตูของโรงหมอเปิดอยู่ ด้านในมีคนไข้ห้าหกสิบคน คนของสำนักอู๋จี๋บ้างก็ทายา บ้างก็วินิจฉัยอาการ จิ่งอี้ยืนอยู

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 215

    น้ำเสียงเย็นยะเยือกดึงดูดความสนใจของทุกคน หันหน้ากลับไปมองโดยไม่ได้นัดหมาย ก็เห็นหญิงสาวรูปโฉมงดงาม สวมชุดสีขาวค่อย ๆ เดินเข้ามาใบหน้านั้น..คิ้วราวกับไต้[footnoteRef:1] ดวงตาราวกับดวงดาว จมูกเชิดเล็กน้อย ริมฝีปากราวกับกลีบดอกท้อ ผิวพรรณที่นวลเนียนละเอียด ท่าทางที่บอบบาง เค้าโครงร่างที่งดงาม ไร้ซึ่งจุดบกพร่อง [1: 'กิ่งต้นหลิว' ที่ผ่านการเผาไหม้ก่อนจะมีการทำผงเขียนคิ้วหรือไต้] งามเหลือเกิน!งามราวกับเดินออกมาจากภาพวาดทุกคนเบิกดวงตากว้าง สายตามองตรงไปที่หญิงสาว จนลืมขยับตอนแรกจิ่งอี้ตกตะลึง จากนั้น ดวงตาสองประกายแวววาวลึกซึ้งสำนักอู๋จี๋ทุกคนต่างตกอยู่ในความตกตะลึงที่แท้ คุณหนูที่ไม่มีปานบนใบหน้า ไม่คิดว่ารูปโฉมที่แท้จริงของนางจะงดงามถึงเพียงนี้ งามเสียจนทำให้สตรีทุกนางรู้สึกละอายใจอีกฝ่ายรีบร้อนหยิบเงิน กลับไม่ได้มีเวลาชื่นชมความงามของหญิงสาว ในทางกลับกันยังมีความริษยาอีกด้วย“เจ้าเป็นใคร!”นางจะเอาเงิน เกี่ยวอะไรกับหญิงสาวด้วย?ฉู่เชียนหลีเดินเข้ามาอย่างไม่รีบไม่ร้อน เดินอ้อมหญิงสาวสองสามีภรรยาไป สำรวจทั้งสองคนอย่างไม่ตั้งใจฝีเท้าที่อ่อนช้อยหยุดลงยืนอยู่ด้านหลัง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 216

    หากเรื่องไปถึงทางการ พวกเขาสองผัวเมียจะต้องถูกจับ ต้องเข้าคุกแน่ ก็คือคนชั้นต่ำของหมู่บ้าน คงจะไม่มีหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปนางไม่กล้าเอะอะโวยวายอีก แล้วก็ไม่มีมาดอันโอหังแบบก่อนหน้านี้แล้ว คุกเข่าลงไปบนพื้นร้องไห้อย่างโศกเศร้ากล่าว“แม่นาง ข้าไม่ได้เจตนาจะทำเช่นนี้ ข้าหมดหนทางแล้ว...ข้าติดหนี้พนันอยู่หนึ่งร้อยตำลึง ถ้าหากไม่คืนวันนี้ตอนเช้าละก็ ก็ ก็จะเอาชีวิตของข้าไปขัดดอก...”หมอบลงบนพื้นร้องห่มร้องไห้ กำปั้นทุบพื้น กล่าวอย่างเสียใจ“ข้าไม่ได้เจตนาจริง ๆ!”ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะถูกบังคับอย่างจนใจ ก็ไม่มีทางใช้วิธีสมเพชเช่นนี้อย่างเด็ดขาดหลังจากพวกชาวบ้านเข้าใจความเป็นมาของเรื่องราวแล้ว ต่างพากันใช้สายตาดูถูก เหยียดหยามมองมานี่มันช่างไร้ยางอายเหลือเกิน!ขู่กรรโชกเอาเงิน หนึ่งร้อยตำลึงไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ ตามกฎหมายแล้ว ต้องเข้าไปอยู่ในคุกถึงสามปี!สองผัวเมียคุกเข่าอยู่บนพื้น ร้องไห้ขอร้องให้ไม่เอาเรื่องจางเฟยโมโหมาก “โตมาจนป่านนี้เป็นครั้งแรกที่มีคนมาขู่กรรโชกเอาเงินข้าเช่นนี้!”ฉู่เชียนหลีกลับเอ่ยปากขึ้นทันใด“จางเฟย เอาตั๋วเงินให้นาง”จางเฟยตะลึงงัน “?”อีกฝ่ายตะลึงงัน

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 217

    ฉู่เชียนหลียกมือขึ้น ปิดแก้มเอาไว้ หัวเราะบาง ๆ “รูปโฉมล้วนเป็นสิ่งที่บิดามารดาให้มา สวยก็ดี อัปลักษณ์ก็ช่าง แต่อย่างไรก็ไม่ควรกลายเป็นสิ่งที่ใช้ตัดสินคนคนหนึ่ง”คนคนหนึ่งหน้าตาสวยงาม ก็ชมนาง ชอบนาง เข้าใกล้นางคนหนึ่งอัปลักษณ์ ก็รังแกนาง ลดคุณค่าของนาง เหยียบย่ำนางสายตาที่มองคนไม่ควรมองอย่างผิวเผินเช่นนี้ แทนที่จะมองกันด้วยรูปโฉม สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือจิตวิญญาณที่น่าสนใจ ระดับความรู้ความสามารถของตน ข้อดีในตัวเองจิ่งอี้ได้รับการสั่งสอน “ทุกคนมักกล่าวกันว่าคุณหนูสี่แห่งตระกูลฉู่...”ชื่อเสียฉาวโฉ่พวกนั้นไม่พูดดีกว่า“มีเพียงตอนที่ใกล้ชิดคนคนหนึ่งเท่านั้น จึงจะเข้าใจคนนั้น จิ่งอี้ อย่าได้เข้าใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากปากของคนอื่นอย่างเด็ดขาด” ฉู่เชียนหลีปิดสมุดบัญชีลงเหลือบตาขึ้นมองเขา กล่าวอย่างจริงจัง “เจ้าทำบัญชีได้ดีมาก ข้ามองออกว่า เจ้าเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่น แต่กลับอยู่ภายในโรงหมอเล็ก ๆ แห่งนี้ของข้า ไม่รู้สึกน้อยใจสักนิดเชียวหรือ...”“คุณหนู!”จิ่งอี้สังเกตเห็นว่านางกำลังจะพูดต่อ จึงเอ่ยวาจาตัดบทนางน้ำเสียงแข็งกร้าวและไม่พอใจ“ถ้าหากท่านพูดจาโง่ ๆ อีก ข้า...

Latest chapter

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1158

    “เสด็จแม่!”จวินลั่วยวนลุกขึ้นยืน จับเอวที่ล้มจนเจ็บ ไม่ต้องพูดถึงว่าโกรธเคืองเพียงใดเดินเข้าไป จับแขนของมารดา กล่าวอย่างโมโห“นางผลักหม่อมฉัน!”“เมื่อครู่นางจงใจผลักหม่อมฉัน!”ทุกคนเจอนาง ล้วนนอกน้อม เชื่อฟัง สรรเสริญเยินยอ ตั้งแต่เล็กจนโต แม้แต่เสด็จพ่อเสด็จแม่ก็ไม่เคยตีนางเลยถูกพระชายาอ๋องเฉินที่ตัวเล็กๆ คนหนึ่งรังแก จะให้นางกล้ำกลืนลงไปได้อย่างไร?น่าโมโห!นางเดินเข้าไปจะผลักฉู่เชียนหลีโดยไม่ปล่อยให้มีโอกาสได้อธิบาย “ยวนเอ๋อร์!”ฮองเฮาหนานยวนจับข้อมือของลูกสาว หยุดนางไว้แล้วกล่าวเสียงเบา “เมื่อครู่พระชายาอ๋องเฉินไม่ได้ตั้งใจ พวกเจ้าแค่โต้เถียงกันเล็กน้อย ไม่ควรจริงจัง”องค์หญิงจิตใจกว้างขวาง ไม่จำเป็นต้องถือสาเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้จวินลั่วยวนเบิกตากว้างเสด็จแม่ไม่ช่วยนาง?“เสด็จแม่ ท่านเลอะเลือนแล้วหรือ?” นางถามอย่างไม่กล้าเชื่อ “หม่อมฉันถูกรังแกใต้จมูกท่าน ท่านยังพูดแทนคนร้ายอีก?”ตกลงใครจึงจะเป็นลูกสาวของนางกันแน่?ฮองเฮาหนานยวนเม้มปาก มองไปทางฉู่เชียนหลีที่ยืนอยู่ข้างๆไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กคนนี้ มีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด แค่เห็นห

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1157

    สีหน้าฉู่เชียนหลีสงบ ดูสบายๆ“องค์หญิงมีเรื่องให้กังวลมากมายจริงๆ” นางกล่าวอย่างเรียบเฉย “เจ้าไม่รู้เรื่องภายในของแคว้นตงหลิง อย่ายุ่งให้มากจะดีกว่า”การต่อสู้ระหว่างเฟิงเจิ้งหลีกับเฟิงเย่เสวียน จะไม่หยุดหลงเพียงเพราะคืนเฟิงเจิ้งลู่ฉินเฟิงเจิ้งลู่ฉินมีแต่จะกลายเป็นเครื่องสังเวยที่ไม่รู้อะไรจวิ้นลั่วยวนขมวดคิ้ว“เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่มีเหตุผล กลับพูดเหมือนตัวเองมีเหตุผล”“แล้วแต่เจ้าจะพูดอย่างไร”นางจะไม่คืนเฟิงเจิ้งลู่ฉินจวิ้นลั่วยวนยิ่งขมวดคิ้วแน่นแล้ว “ถ้าหากเกิดสงครามจริง คนที่ทำให้เกิดการต่อสู้คือเจ้า คนที่ทำให้ราษฎรต้องพลัดถิ่นก็คือเจ้า เพราะเจ้าคนเดียว จะทำให้ผู้บริสุทธิ์มากมายต้องตาย”สายตาฉู่เชียนหลีขรึมลงมือที่อยู่ในแขนเสื้อกำหมัดแน่น กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“เจ้าตั้งใจมาเจียงหนาน ก็เพื่อทำสงครามไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงตั้งตนว่าเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว?”“เจ้า!”“เจ้ายืนตำหนิข้าบนบรรทัดฐานของศีลธรรม แต่ขณะเดียวกันก็คอยยุแหยง พลางห้ามปรามสงคราม พลางเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ไม่รู้สึกว่ามันน่าอายหรือ?”“...”จวินลั่วยวนพูดไม่ออกแล้วนางพบว่าฉู่เชียนหลีคนนี้ปากร้ายจริงๆ โ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1156

    ฉู่เชียนหลีจากไปห้าที่หก เจียงเป่ยประกาศหนังสือสงครามต่อเจียงหนาน เนื้อหามีอยู่ว่า คืนองค์หญิงเฟิงเจิ้งลู่ฉินภายในสามวัน ไม่คืนยกทัพบุกโจมตีเหตุผลเห็นสมควรอย่างยิ่งขอลูกสาวของตัวเองคืนหลังจากฉู่เชียนหลีรู้ อารมณ์สับสนอย่างบอกไม่ถูก เพราะนางรู้ว่าเฟิงเจิ้งหลีไม่ได้รักเฟิงเจิ้งลู่ฉิน เขาแค่ต้องการใช้ข้ออ้างขอลูกสาวคืน เพื่อบุกโจมตีเจียงหนาน“พระชายา ทำอย่างไรดี?”อวิ๋นอิงถามพื้นห้องถูกปูด้วยพรมหนาๆ เด็กทั้งสามคนวิ่งเล่นบนนั้น สะดุดล้ม ชนกัน กระแทกกัน ถูกพรมปกป้องอย่างดี ไม่ได้รับบาดเจ็บหลายวันที่อยู่ด้วยกัน เด็กทั้งสามคนคุ้นเคยกันแล้ว และเล่นด้วยกันอย่างมีความสุขเจ้าไล่ข้า ข้าไล่เจ้าคลานไป คลานมาเจ้าแย่งขวดนมของข้า ข้าหยิกหน้าของเจ้า พูดอีอาๆ แม้ไม่มีใครฟังเข้าใจฉู่เชียนหลีนั่งอยู่ที่ข้างโต๊ะ มองไปทางลู่ฉินลู่ฉินคลอดก่อนกำหนด รูปร่างผอมและยังมีโรคหัวใจ เหมือนกับตุ๊กตาที่อ่อนแอตัวหนึ่งเฟิงเจิ้งหลีไม่รักนาง ฉู่เจียวเจียวไม่ชอบนาง ถ้าหากนางกลับเจียงเป่ย ยังไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร…ขณะที่นางกำลังกังวล ลู่ฉินที่กำลังคลานเล่นเหมือนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง คลานไปที่ตรงหน้า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1155

    เฟิงเจิ้งหลีมาถึงตำหนักของไท่ซ่างหวงเหมือนไท่ซ่างหวงคาดการณ์ไว้นานแล้ว กำลังนั่งพิงบนหัวเตียงรอเขา สายตาของสองพ่อลูกบรรจบกันกลางอากาศเกิดความเงียบขึ้นชั่วพริบตาผ่านไปครู้หนึ่ง เฟิงเจิ้งหลีเดินเข้าไปอย่างเหนื่อยล้า “เหตุใดไม่ไป?”เขาทิ้งร่างกายที่หนักอึ้งนั่งลงไป ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้แต่เสียงพูดก็แหบ โดยรวมแล้วดูโทรมมากราวกับบาดเจ็บสาหัสสำหรับเขานั่น ถูกคนที่ชอบและเชื่อใจที่สุดหักหลังและทิ้ง ก็คือการทำร้าย ทิ้ง…เขาเกลียดคำนี้ที่สุดในชีวิตไท่ซ่างหวงมองดูลูกชายที่คล้ายเขาห้าส่วนตรงหน้า และคล้ายมารดาของเขาห้าส่วน พริบตาเดียว ลูกชายก็โตเช่นนี้แล้ว และเขาก็ขาดความรักมากมายเหลือเกินในดวงตาที่ขุ่นมัว เผยให้เห็นความรู้สึกผิดหลายส่วน“ถ้าหากข้าไปแล้ว เจ้าจะไม่เหลือญาติแม้แต่คนเดียว”“!”ร่างกายเฟิงเจิ้งหลีสั่นสะท้าน แผ่นหลังแข็งฉับพลันญาติ…ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านพ่อใช้คำนี้เรียกความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา“หลีเอ๋อร์ ข้ารู้ หลายปีมานี้ พ่อติดค้างเจ้าเยอะมาก พ่อให้ความสำคัญกับบ้านเมืองจนมองข้ามเจ้า ในใจพ่อรู้สึกผิดนัก” ไท่ซ่างหวงกล่าวอย่า

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1154

    คืนแรกที่ออกจากเมืองหลวงฉู่เชียนหลีนอนไม่หลับ…เมืองหลวงอันไกลโพ้นที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำอูหลาน วังหลวงจุดเทียนสว่างไสวในยามค่ำคืนที่มืดมิด เหล่านางกำนัลถือโคมไฟ ก้มหน้าเดินผ่านยังเงียบๆ ไม่มีใครกล้าพูดมากตำหนักเจาหยางทุกที่มืดมิด ไร้ผู้คน และไม่มีเทียนแม้แต่เล่มเดียว เหมือนกับถูกความมืดกลืนกิน เงียบราวกับดินแดนไร้ผู้คนแต่ท่ามกลางความมืดนั่น กลับมีเสียงหายใจเย็นๆ สายหนึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยิน เฟิงเจิ้งหลีนั่งอยู่บนบันได ร่างกายของเขากลมกลืนกับความมืดจนมองเห็นแทบไม่ชัด ดวงตาคู่นั้นฉายแสงในความมืด ราวกับจมอยู่ในเหวลึกอันไร้ที่สิ้นสุดในอดีตที่นี่เคยมีเสียงหัวเราะของเด็กๆ เคยมีรอยยิ้มของนาง ท่าทางที่อ่อนโยนของนาง และเสียงอันนุ่มนวลที่พูดคุยกับเขา ภาพเหล่านั้นเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดยังคงอยู่ในสมองของเขา ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาชัดเจนมากตราตรึงมากนางเคยพูด อยู่ข้างกายเขา รู้สึกสบายใจมากนางเคยพูด จื่อเยี่ยชอบเขา นางก็จะดีกับเขานางเคยพูด…คำพูดไพเราะนางเป็นคนพูด เรื่องใจร้ายก็นางเป็นคนทำล้วนเป็นนาง!ฉู่เชียนหลี!โกหกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาเชื่อครั้งแล้วครั้

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1153

    “คุณหนูอย่าคิดมาก แม้องค์หญิงแคว้นหนานยวนท่านนี้น่ารังเกียจไปบ้าง แต่นางทำงานเสร็จ ก็น่าจะกลับแคว้นแล้ว ก็แค่เจอกันชั่วคราว ทำอะไรไม่ได้หรอก” จิ่งอี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมฉู่เชียนหลีไม่ได้คิดมากอย่างไรก็ตามผู้ชายอย่างเฟิงเย่เสวียนที่อายุยังน้อย รูปร่างหน้าตาโดดเด่น มีฐานะมีอิทธิพล สมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง มีผู้หญิงมากมายชอบก็เป็นเรื่องปกติถ้านางจะถือสา คนมากมายเช่นนั้น จะถือสาไหวได้อย่างไร?นางนึกถึงเรื่องของกู่แพทย์ มองจิ่งอี้อย่างจริงจัง เห็นสีหน้าของเขาค่อนข้างซีดเหมือนคนป่วย ก็รู้แล้วว่าเขากำลังใช้ร่างกายตัวเองเลี้ยงกู้แพทย์“เลี้ยงรอดหรือไม่?” นางถามเบาๆมีการบันทึกในตำราโบราณ กู่แพทย์ชนิดนี้อ่อนแอเลี้ยงยาก เผลอไม่ระวังนิดเดียวก็จะตาย สิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เปล่าประโยชน์จิ่งอี้หลุบตา เสียงเบามาก“เลี้ยงแล้วสามสิบกว่าตัว ในที่สุดก็เลี้ยงรอดสองตัว…”กู่แพทย์สองตัวนี้ ตอนนี้ถูกเขาเก็บไว้ในหน้าอก พกติดตัวไปทุกที่ ต่อให้เป็นเวลานอน ก็จะนำออกมาดูเป็นระยะกลัวว่าพลั้งเผลอนิดเดียว พวกมันก็จะตายฉู่เชียนหลีเหลือบมอง “อวิ๋นอิงรู้หรือไม่?”“นางไม่รู้ขอรับ คุณหนู อย่าพูดถ

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1152

    เป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบหกสิบเจ็ดปีใบหน้างดงาม การแต่งกายดูขี้เล่นแต่ยังคงสูงศักดิ์ มัดมวยผมและถักเปียหางม้า ซึ่งบ่งบอกว่านางยังไม่แต่งงาน กระโดดออกมาปรากฏตัว ท่าทางที่สดใสร่าเริงนั่น ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่ายมากฉู่เชียนหลีเหลือบมอง“เจ้าคือ…”“ข้าชื่อจวินลั่วยวน เป็นองค์หญิงแคว้นหนานยวน”นางแนะนำตัวเอง เสียงนั่นเหมือนนกขมิ้นที่บินออกจากหุบเขา สดใสไพเราะ“อ๋องเฉินกับฮ่องเต้ตงหลิงสู้กัน เสด็จพ่อให้ข้ามาช่วยอ๋องเฉินที่เจียงหนาน ก็เพราะข้าแทรกแซง ฮ่องเต้ตงหลิงจึงให้ความสำคัญกับศึกเมืองเทียนสู่เป็นพิเศษ และลงสนามรบด้วยตัวเอง”ไม่เช่นนั้น ยังไม่สามารถล่อฮ่องเต้ตงหลิงออกมาได้ล่อเสือออกจากถ้ำ พระชายาอ๋องเฉินจึงสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยพูดถึงก็ล้วนเป็นผลงานของนางฉู่เชียนหลีเข้าใจแล้วองค์หญิงของแคว้นหนานยวนท่านนี้ ได้ยินมานานแล้วว่าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของฮ่องเต้หนานยวน เป็นแก้วตาดวงใจที่เหมือนไข่มุกงามบนฝ่ามือ ถูกเอาใจใส่อย่างดีตั้งแต่เด็ก“รบกวนองค์หญิงแล้ว” นางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นมารยาทจวินลั่วยวนประหลาดใจเล็กน้อย “?”แค่นี้?ไม่มีแล้ว?พูดแค่สี่คำก็แสดงความขอบค

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1151

    เด็กน้อยที่ดูกลัวๆ ในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เหมือนกับเจอที่พึ่งพิง เบ้าตาแดงก่ำ มุดเข้าไปในอ้อมแขนของนาง“อุแว้!”ร้องไห้เสียงดังนางกลัวมากแม่ของนางไม่อยู่ นางถูกคนรับใช้โยนไปโยนมา กินไม่อิ่ม นอนไม่หลับ และยังไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่มีใครกล่อมนางอย่างอ่อนโยนและอดทนเหมือนท่านแม่ในที่สุดก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยแล้วไม่สามารถควบคุมความน้อยใจที่กดเอาไว้ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้“ฮือๆ…”สองมือจับเสื้อฉู่เชียนหลี มุดเข้าไปในอกของนางก็ร้องไห้อวิ๋นอิงยกมือขวาขึ้น รีบรับรองทันที “พระชายาวางใจได้ ตอนที่ท่านไม่อยู่ พวกเราดูแลลู่ฉินอย่างดี ไม่มีใครรังแกนางแน่นอน นางน่าจะคิดถึงท่านมาก จึงร้องไห้เช่นนี้”“ท่านไม่รู้หรอก แม้ลู่ฉินยังเล็ก แต่นางรู้ว่าใครเป็นใคร นางจะเอาท่านคนเดียว พึ่งพาท่าน คิดถึงท่าน”หัวใจฉู่เชียนหลีละลายตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา นางเลี้ยงเองกับมือมาโดยตลอด และความเชื่อใจและการพึ่งพาที่เด็กมีต่อนาง ก็คือการตอบแทนที่ดีที่สุด“ไม่ร้องนะ”นางเช็ดน้ำตาเบาๆ “แม่กลับมาแล้ว ต่อไปจะไม่ไปอีกแล้ว”ในเมื่อเฟิงเจิ้งหลีกับฉู่เจียวเจียวไม่เอาเด็กคนนี้ นางเลี้ยงเอง“แม่…”เสียง

  • ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ   บทที่ 1150

    ท้ายที่สุดเฟิงเจิ้งหลีก็ไม่ได้ลงมือกองทัพทั้งสองฝ่ายประจันหน้ากันในระยะไกลทั้งเช่นนี้เฟิงเย่เสวียนกอดฉู่เชียนหลีไว้ จับเชือกบังเหียนม้าแน่น ขี่ม้าจากไปเฟิงเจิ้งหลียืนอยู่ที่ข้างแม่น้ำ ร่างกายที่บอบบางถูกลมเย็นพัดจนเสื้อคลุมพลิ้วไหว สีหน้าซีดเผือด แววตาอ่อนล้า มุมปากยังมีคราบเลือด ยืนมองนิ่งๆ ทั้งเช่นนี้…มอง…รอหลังจากขบวนของอ๋องเฉินหายลับตา เขายังคงยืนอยู่ข้างแม่น้ำ เนิ่นนานก็ไม่ขยับสองเท้าหนักเหมือนถูกถ่วงด้วยตะกั่ว สายตามองตรงไปข้างหน้ากลิ่นอายรอบตัวขรึมมาก สีหน้าแยกไม่ออกว่าดีใจหรือโกรธชั่วขณะ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากหรือเข้าไป…เจียงหนาน เมืองน้ำ[1]  อากาศเย็นสบาย สภาพแวดล้อมดีมากขบวนตรงไปที่ทำเนียบ“ท่านอ๋องกลับมาแล้ว!”“พระชายา?!”เมื่อคนที่เข้ามาต้อนรับเห็นฉู่เชียนหลี แต่ละคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อน แต่หลังจากนั้นก็ดีใจ“พระชายากลับมาแล้ว!”“พระชายากลับมาแล้ว!”เสียงโห่ร้องด้วยความดีใจดังก้องไปทั่วท้องฟ้า จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย ข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วอวิ๋นอิง จิ่งอี้ เฟิ่งหราน คนมากมายรีบมาไม่เจอครึ่งปี มิตรภาพยังคงอยู่“พระชายา ในที่สุ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status