ปวดใจเหมือนโดนมีดกรีด ร่างกายเซไปมา เสียใจมากเกินไป พลันภาพตรงหน้ามืด ล้มลงบนพื้นเป็นลม“เสด็จแม่!”จวินอวี้หยางและคืนอื่นร้อนใจจนสีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว“เสด็จแม่ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!”“เสด็ดแม่…”“ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”พวกเขารีบประคองฮองเฮาหนานยวนที่หนานยวนเหมือนกระดาษ ผู้ติดตามวิ่งเข้าวิ่งออกอย่างตื่นตระหนก คนที่เรียกคนก็เรียกคน คนที่หาหมอก็หาหมอแต่ที่น่าตลกคือ…พ่อบ้านบอกว่าทำเนียบเล็ก ไม่มีห้องว่างแล้วฮองเฮาหนานยวนทำได้เพียงนอนอยู่บนพื้น รอหมอมารักษาจุดที่ไม่ไกลนักจวินลั่วยวนยืนอยู่ที่ใต้ต้นไห่ถัง กัดเล็บหัวแม่มือดังกรอบแกรบ ดวงตาที่กลมโตมองไปทางห้องของอ๋องเฉินในดวงตาที่สุกใสกลมโต เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและหวานซึ้ง เหมือนกับเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาคนหนึ่งที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความโหดร้ายของโลกใบนี้มุมปากกลับเผยอเป็นเส้นโค้งแปลกๆในที่สุดก็ตายแล้ว…แหอๆต่อให้เสด็จแม่รู้เบาะแสของลูกสาวแท้ๆ แล้วอย่างไร? ทุกอย่างมันสายไปแล้ว นางยังคงเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหนานยวน และน้องหญิงที่ถูกเสด็จพี่ทั้งสองคนรักกลับกัน นางสามารถใช้ความอาลัยอาวรณ์ที่เสด็จแม่มีต่อหลาน
จ้านหูร้อนใจจนนั่งไม่ติดตอนนี้องค์ชายรองล้มแล้ว แคว้นซีอวี้มีผู้สืบทอดเพียงคนเดียวคือองค์ชายใหญ่ พระราชาก็อายุหกสิบกว่าแล้ว สุขภาพไม่ดี ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อย แคว้นไร้ผู้นำ เช่นนั้นแย่แน่ภายใต้ความร้อนใจไหวพริบบังเกิดความคิดผุดขึ้นรู้แล้ว!เขาควบม้าออกไปทันที หลังจากสอบถามคนรับใช้ ก็มุ่งหน้าไปยังเรือนส่วนหลังของทำเนียบด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด พุ่งเข้าไปเสียวอู่ตกใจมากไปฉกรรจ์หนวดเคราเฟิ้มมาจากที่ใด?“ท่านเข้าไปไม่ได้นะ…โอ๊ย…นี่เป็นเรือนส่วนหลัง เป็นที่พักของผู้หญิง…”“ข้ามีธุระด่วน!”“แต่ท่านเข้าไปไม่ได้จริงๆ…”ภายในห้องอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งกล่อมเว่ยซีกับจื่อเยี่ยเสร็จ อุ้มเสียวอวิ๋นเจี๋ยวเดินออกมา เมื่อเห็นภาพในลาน นางกล่าว “เสียวอู่ เจ้าไปทำธุระของเจ้าเถอะ”นางรู้จักจ้านหูจ้านหูรีบเดินอ้อมเสียวอู่ มองไปทางเด็กทารกที่อยู่ในผ้าห่อทารกโดยไม่รู้ตัว กล่าวด้วยความดีใจ “โอ้ เด็กคนนี้เหมือนองค์ชายใหญ่ของเราจริงๆ!”กล่าวจบ นึกถึงจุดประสงค์ที่มา กล่าวทันที“เจ้าต้องไปกับข้า!”“?”อวิ๋นอิงขมวดคิ้ว “ทำอะไร?”“องค์ชายใหญ่พาทหารไปเจียงเป่ย ตอนที่เตรียมสนับสนุนอ๋องเ
จ้านหูอ้อนวอนก็ไม่ได้ผลทำได้เพียงถอนหายใจ เวลาที่ผู้หญิงใจร้ายขึ้นมา ผู้ชายก็ทำอะไรไม่ได้จริงๆภายในห้องไม่รู้ว่าเป็นเพราะลูกสาวได้รับความตกใจ หรือรู้สึกได้ว่าบิดาตกอยู่ในอันตราย จู่ๆ นางที่เลี้ยงง่ายมาโดยตลอดก็ร้องไห้ พลางโบกมือถีบเท้า และหลั่งน้ำตาอวิ๋นอิงกล่อมสักพัก ไม่มีประโยชน์มองใบหน้าของลูกสาวที่คล้ายจิ่งอี้เจ็ดส่วน ถอนหายใจในหัวใจเพื่อตัวเอง นางจะไม่มีวันพบกับจิ่งอี้อีกแต่เสียงร้องไห้ของลูกสาว ทำให้นางใจอ่อนแล้วครั้งเดียวเท่านั้น!ครั้งสุดท้าย!เจี๋ยวเจี๋ยว แค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะ จะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้อีก!พลบค่ำยามดึก ตอนที่ไร้คน อวิ๋นอิงจึงจะอุ้มอวิ๋นเจี๋ยว ไปเรือนเล็กๆ ที่จิ่งอี้อยู่ และได้เจอเขาที่เป็นตายไม่รู้ นอนหมดสติอยู่บนเตียงอุ้มลูกเดินเข้าไปใกล้เตียง มองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา อวิ๋นอิงเม้มปากเล็กน้อย สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ จิตใจสับสนบอกไม่ถูก…เรือนหลักยามดึก ภายในห้องไม่ได้จุดเทียน มืดสนิท มีร่างเงาสีดำสายหนึ่งนั่งอยู่บนเตียง ดำจนเห็นเพียงเค้าโครงที่คลุมเครือเฟิงเย่เสวียนนั่งอยู่ที่ขอบเตียง กอดร่างเพรียวบางในอ้อมแขนแน่น ก้มศีรษะลงลงไปที่ซ
เฟิงเย่เสวียนกอดร่างกายที่ผอมแห้งร่างหนึ่งไว้ และก้มศีรษะ เสื้อเพ้าสีหมึกที่เขาสวมใส่ยับยู่ยี่ ผมก็ยุ่งเหยิงพันกัน ที่ครอบผมสีดำเอียงไปด้านข้าง เริ่มมีตอหนวดโผล่ออกมาที่ใต้คาง จมอยู่ในโลกของตัวเอง ราวกับตกลงไปที่ก้นหุบเขา ซูบผอมจนทำให้ทุกคนตกใจนี่…ยังใช่ท่านอ๋องหรือ?เหมือนกับเฟิงเย่เสวียนเพิ่งจะได้ยินเสียง เงยหน้าขึ้นอย่างเชื่องช้า ข้อแข็งจนมีเสียงกระดูกดังกรอบแกรบดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ ใต้ตาคล้ำดำ ดูสะบักสะบอมมากหลังจากนั้นสิบกว่าวินาที จึงจะเปิดริมฝีปากที่ซีดและแห้ง พูดออกมาประโยคหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่แหบ“ไสหัวไป…”หานเฟิงหานอิ๋งน้ำตาคลอทันที“นายท่าน!”เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!หานอิ๋งรวบรวมความกล้าเดินเข้าไป “นายท่าน ท่านต้องสู้นะ เว่ยซีกับจื่อเยี่ยเพิ่งจะหนึ่งขวบเอง พวกเขาไม่มีท่านไม่ได้ หากท่านเป็นอะไรไป จะให้พวกเขาทำอย่างไร!”หานเฟิงติดตามนายท่านสิบกว่าปี เมื่อไรที่เขาเคยเห็นนายท่านมีสภาพโทรมเช่นนี้?ไม่ต้องเสียใจเพียงใด จึงจะแก่ขึ้นสิบปีในเวลาสั้นๆ เพียงสามวัน?เขาปวดใจมาก“นายท่าน โปรดปล่อยวางเถอะ! ถ้าหากพระชายาเห็นท่านเป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะเสียใจแค่ไหน เว่นซี
ห่มผ้า หมุนกาย ใช้ร่างกายของตัวเองบังไว้ ไม่ให้ลูกทั้งสองคนเห็นฉู่เชียนหลีเฟิงเย่เสวียนก้าวเท้าที่ด้านชา เดินไปข้างหน้าอย่างโซซัดโซเซ รับลูกทั้งสองคนมา“ท่านพ่อ!”“ท่านพ่อ…”“ไม่ร้อง…”เสียงของเขาแหบจนแทบฟังไม่ออกว่าพูดอะไร “เว่ยซี จื่อเยี่ย แม่ของพวกเจ้าไปที่ที่ไกลมาก รอพวกเจ้าโตแล้ว…จะเข้าใจเอง”“พวกเจ้าต้องเป็นเด็กดีนะ เมื่อเป็นเด็กดี แม่จึงจะกลับมา…”เด็กทั้งสองกระสับกระส่ายและงงงวย แต่เมื่อมีบิดาปลอบใจ ไม่ได้ร้องไห้หนักเหมือนก่อนหน้านี้แล้วจูบพวกเขาด้วยความรักจากนั้นก็ส่งเด็กคนทั้งสองให้อวิ๋นอิง “พาพวกเขากลับห้อง”ไม่อยากให้พวกเขาเห็นสภาพของฉู่เชียนหลีอวิ๋นอิงอดกลั้นน้ำตา พยักหน้า อุ้มเด็กออกไปแล้วส่วนคนอื่นก็ยุ่งอยู่กับเรื่องฝังศพทางนี้ผ่านไปสามวัน ในที่สุดจวินลั่วยวนก็ได้รับข่าว อ๋องเฉินยอมเปิดประตูแล้วนางดีใจมากนี่เพิ่งจะสามวัน อ๋องเฉินก็เดินออกมาจากความเศร้าโศกแล้ว?เป็นอย่างที่คิด ความรักไม่สามารถคงอยู่ตลอดไปตั้งแต่อดีต ผู้หญิงคนหนึ่งตาย ยังมีอีกเป็นพันเป็นหมื่นคน เป็นสิ่งที่ไม่คู่ควรจดจำที่สุดนางรีบแต่งตัว วิ่งไปที่เรือนหลัก อยากฉวยโอกาสเสนอหน้า
“?”จวินลั่วยวนตะลึง หันไปมองโดยไม่รู้ตัว เห็นเพียงซวงซวงก้มศีรษะ เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ร้อนตัว คุกเข่าลงบนพื้นอย่างรู้สึกผิด“องค์หญิง…ขอ…ขอโทษ ข้า…ขอโทษจริงๆ…ฮองเฮา และองค์ชายทั้งสามดีกับท่านมาก แต่ท่านกลับ…”“ข้า ข้าสารภาพกับพวกเขาแล้ว ข้าไม่สามารถทำผิดต่อมโนธรรมของข้า…องค์หญิงโปรดให้อภัยข้าด้วย!”นางโขกศีรษะขอความเมตตาทั้งน้ำตาซวงซวงปรนนิบัติองค์หญิงตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันก็สิบสองปีแล้วในฐานะคนที่อยู่เคียงข้างองค์หญิงนานที่สุด องค์หญิงเคยทำอะไร เคยพูดอะไร ชอบอะไร นางรู้ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยต้องการความจริง?ถามนางได้คำตอบแน่นอนจวินลั่วยวนหน้าซีด ซวงซวงรู้ความลับของนางมากมาย กลับสารภาพแล้ว เช่นนั้นเรื่องที่นางเคยทำ ทำเรื่อง…บ้าจริง!นางแพศยาน้อย!นางเห็นนางเป็นคนสนิท ดีกับนางมาก แต่นางกลับหักหลังนาง!“การตายของฉู่เชียนหลี ต้องใช้เลือดของเจ้าเซ่นไหว้เท่านั้น!” เฟิงเย่เสวียนกล่าวจบอย่างเย็นชา กระบี่ในมือแทงไปทางจวินลั่วยวนครั้งนี้ จวินชิงอวี่ไม่ได้ปกป้องจวินลั่วยวนอีกผิดหวังแล้วสิบเจ็ดปีที่รัก ไม่มีความหมายเลยเป็นอย่างที่เขาว่าจริงๆ คนที่ไม่มีความสัมพันธ์ท
เสด็จพี่ทั้งสามที่ทะนุถนอมนางเหมือนแก้วในตาดวงใจตั้งแต่เล็กจนโตล้วนไม่รักนางแล้ว นางเริ่มตื่นตระหนก ตอนนี้ เรื่ององค์หญิงจริงและองค์หญิงปลอมถูกเปิดโปงแล้ว ราชวงศ์หนานยวนคงไม่ได้คิดจะทิ้งนางกระมัง?นางรีบวิ่งไปที่ตรงหน้าฮองเฮาหนานยวน“เสด็จแม่ ท่านจะต้องช่วยยวนเอ๋อร์นะ!”“ก่อนหน้านี้ยวนเอ๋อร์ไม่รู้ว่าฉู่เชียนหลีคือพี่หญิงของข้า ถ้าหากข้ารู้ จะทำร้ายนางได้อย่างไร? อีกทั้ง ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจทำร้ายนาง”นางพูดเหมือนตัวเองมีเหตุผลไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองเลยสิ่งที่ทำให้นางร้อนใจ ไม่ใช่การตายของฉู่เชียนหลี แต่เป็นเรื่องที่เสด็จพี่ทั้งสามไม่รักนางแล้ว ถ้าหากไม่รักนาง นางก็จะหลุดจากตำแหน่งองค์หญิงไม่ใช่หรือ?เป็นเช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!นางเป็นองค์หญิงมาสิบเจ็ดปี ถ้าหากให้นางกลับคืนสู่สถานะเดิม กลายเป็นคุณหนูสี่ลูกอนุภรรยาของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ มารดาเป็นแค่อนุภรรยาคนหนึ่ง นางรับไม่ได้นางต้องการสถานะอันสูงศักดิ์ต้องการความรุ่งโรจน์สูงสุดต้องการให้ทุกคนนางรักสีหน้าฮองเฮาเย็นชา มองลูกตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง ความรักตลอดสิบเจ็ดปี ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกขอบคุณเลย กลับกลายเป็นว่
นางโมโหจนตาแดง ใช้มือผลักอย่างแรงจนคนล้มโดยตรง “เจ้าไม่รู้สึกผิดเลย ทำเรื่องชั่วช้ามากมาย ยังทำเหมือนว่าตัวเองมีเหตุผล ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ความสัมพันธ์แม่ลูกสิบเจ็ดปีของพวกเรา จบลงเพียงเท่านี้!”“เสด็จแม่!”จวินลั่วยวนเบิกตากว้าง รีบกระโจนเข้าไป คว้าชายกระโปรงของฮองเฮาหนานยวน “เสด็จแม่ อย่านะ!”นางจะเป็นองค์หญิง!นางไม่อยากเป็นคุณหนูลูกอนุภรรยาของจวนอัครมหาเสนาบดีฉู่ นางเป็นองค์หญิงเพียงหนึ่งเดียวของแคว้นหนานยวนนะ!“เสด็จแม่ หม่อมฉันจะเป็นเด็กดี จะกตัญญูต่อท่าน จะทำในสิ่งที่ท่านมีความสุข ความสัมพันธ์สิบเจ็ดปีของพวกเรา บอกจะตัดก็ตัดเลยได้อย่างไร? แม้พวกเราไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด แต่ในใจของหม่อมฉัน เสด็จแม่ก็คือมารดาแท้ๆ ของหม่อมฉัน!”หลักๆ คือตำแหน่งองค์หญิงนางที่เป็นองค์หญิงผู้อรชรอ้อนแอ้น จะลดตัวไปจวนอัครมหาเสนาบดี นับอนุภรรยาคนหนึ่งเป็นแม่ได้อย่างไร?ฮองเฮาหนานยวนมองนางอย่างไร้เยื่อใย“ฮืม การแสดงความกตัญญูต่อข้าของเจ้า ก็คือวางยาพิษข้า ทำให้ข้าเป็นใบ้?”ร่างกายจวินลั่วยวนสั่นสะท้าน เงยหน้าอย่างตะลึง สบตากับดวงตาที่เย็นชาของฮองเฮาหนานยวนนางรู้ความจริงแล้ว…พร
อันธพาลเจ็บจนกรีดร้องเหมือนหมูโดนเชือด “อ๊ะๆ!”ยังไม่ทันได้พักหายใจ ก็โดนถีบจนไปกลิ้งอยู่บนพื้น รองเท้าปักลายดอกไม้เหยียบลงบนหน้าอก หนักจนทำให้เขาหายใจไม่ออก กระอักเลือดออกมา“พู่!”เขากอดต้นขาของอวิ๋นอิง อยากดิ้นให้หลุด แต่หาของอวิ๋นอิงกดทับอยู่บนร่างกายของเขาเหมือนเหล็กกล้า และเขาก็เหมือนกับปลาตัวหนึ่งที่ถูกตอกตะปูอยู่บนเขียง พยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ดิ้นไม่หลุดเจอผีแล้ว!ทั้งที่นางผอมเช่นนี้ เหตุใดจึงมีแรงมากเช่นนี้?ผู้หญิงคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือ?ชาวบ้านก็ตะลึงเช่นกันอวิ๋นอิงอุ้มลูกสาวไว้ด้วยมือข้างเดียว ค่อยๆ ก้มลง ยกฝ่ามืออีกข้าง เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของอันธพาลโดยตรง“ข้าสั่งให้เจ้าเก็บ”เพียะ!“ไม่ได้ยินที่ข้าพูดหรือ?”เพียะ!“หูหนวกหรือ?”เพียะ!หนึ่งประโยค หนึ่งฝ่ามือ ตบจนอันธพาลหันซ้ายหันขวา มุมปากแตกมีเลือดไหล หูอื้อ สะบักสะบอมเหมือนสุนัขจรจัดตัวหนึ่ง ไม่หลงเหลือความฮึกเหิมของก่อนหน้านี้เลย“ลูกพี่!”ลิ่วล้อสามคนคว้าโต๊ะเก้าอี้และท่อนไม้ที่อยู่ข้างๆ ฟาดไปทางอวิ๋นอิงอย่างแรงอวิ๋นอิงกระโดนหมุนตัวเตะพวกเขาสามคนจนลอยกระเด็นออกไปไกลเจ็ดแปดเมตร โดยไม่หั
ตงหลิงเจียงหนาน ทำเนียบสามเดือนที่พระชายาจากไป อ๋องเฉินเอาแต่เก็บตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลก หานเฟิงต้องรับผิดชอบงานแทนทุกอย่าง เมื่อนานวันเข้า โลกภายนอกต่างกำลังคาดเดา จิตใจของอ๋องเฉินได้รับกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น เกรงว่าเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วช่วงนี้ ในที่สุดอาการบาดเจ็บของจิ่งอี้ก็ดีขึ้นแล้วอาการบาดเจ็บทางกระดูกหรือเส้นเอ็น ต้องรักษาอย่างน้อยหนึ่งร้อยวันในที่สุดกระดูกซี่โครงที่หักสองซี่ก็หายดีแล้ว สามารถขี่ม้าได้แล้ว ตอนนั้นเขาบอกว่าจะนำทัพกลับแคว้นซีอวี้ทันทีแต่ก่อนไป เขาถามเหมือนไม่ใส่ใจ“เหตุใดไม่เจอแม่นางอวิ๋นอิงเลย?”จ้านหูจริงจังขึ้นมาทันที เขาตอบ“องค์ชายใหญ่ ข้าจะส่งคนไปสืบเดี๋ยวนี้!”“ไม่ต้อง”หลังจากปฏิเสธอย่างเฉยเมย ปีนขึ้นหลังม้า ขี่ออกไปคนเดียวแล้วจ้านหู “?”หมายความว่าอย่างไร?ตอนที่องค์ชายใหญ่หมดสติ แม้อวิ๋นอิงบอกว่าไม่สนใจ แต่แอบมาเยี่ยมองค์ชายใหญ่ตอนดึกดื่นเวลาที่ไม่มีคนองค์ชายใหญ่ก็อีกคน ทั้งที่คิดถึงอวิ๋นอิง แต่ไม่ยอมรับในใจของพวกเขาสองคนล้วนมีอีกฝ่าย ลูกสาวก็อายุเกือบครึ่งขวบแล้ว เหตุใดไม่ลองเปิดใจสักนิดแล้วอยู่ด้วยกันเลย
คืนแรกที่มาถึงต่างโลก ฉู่เชียนหลีฝันในความฝัน นางอยู่บนสนามรบ สู้จนตัวตาย เลือดไหลเป็นแม่น้ำ น่าสลดใจนัก…ในความฝัน นางได้ต่อสู้ร่วมกับชายคนหนึ่งที่มองไม่เห็นใบหน้า ร่วมเป็นร่วมตาย และยังมีเสียงที่นุ่มนิ่มของเด็ก เรียก ‘ท่านแม่’ ครั้งแล้วครั้งเล่าในความฝัน ราวกับนางได้รับความอยุติธรรมครั้งใหญ่ หัวใจเจ็บปวด และพยายามอธิบายสุดชีวิต แต่พวกคนที่เรียกตัวเองว่า ‘ครอบครัว’ ไม่เชื่อนาง และยังบีบคั้นนางสู่เส้นทางที่สิ้นหวังในความฝัน…มีคนกำลังเรียกนาง‘เชียนหลี…เชียนหลี…’ฉึก!ฉู่เชียนหลีลืมตาฉับพลัน ท้องฟ้าข้างนอกสว่างแล้ว แสงแดดอุ่นๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามา สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวของอากาศ สงบมากนางรู้สึกเวียนศีรษะ และแน่นหน้าอกราวกับนางอยู่ในความฝันอันยาวนานจริงๆนางได้รับความอยุติธรรมนางถูกคนในครอบครัวฆ่าตายแต่เหตุใดนางจำผู้ชายที่เรียกนาง และภาพที่เรียกนางว่า ‘ท่านแม่’ ไม่ได้เลย“องค์หญิง ท่านตื่นแล้ว”เมื่ออ้ายอ้ายได้ยินเสียง ถือกะละมังน้ำอุ่นกับเครื่องใช้เข้ามาปรนนิบัติฉู่เชียนหลีนวดขมับ อยู่ในอาการเหม่อลอย แขนขาอ่อนแรง ไม่มีแรงขยับ ดึงผ้าห่มออก ลงจากเตียง สวมรองเท้
สาวใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็รีบฝนหมึกอย่างเชื่อฟังมองดูองค์หญิงรีบหยิบพู่กัน เขียนอะไรบางอย่าง ท่าทางที่รีบร้อนนั่น เมื่อก่อนเวลาที่นังเป็นห่วงคุณชายเซิ่น ยังไม่รีบร้อนเช่นนี้เลยองค์หญิงกระโดดสระน้ำ หมดสติไปสามวัน หลังจากฟื้น ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเล็กน้อย?นิสัยเปลี่ยนไปน้ำเสียงเปลี่ยนไปแต่เมื่อลองตั้งใจมอง องค์หญิงยังคงเป็นองค์หญิง ยังคงเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยฉู่เชียนหลีเขียนอย่างรวดเร็ว…อ๋องเฉินเป็นอย่างไรบ้าง ข้าอยู่แคว้นหนานยวน…พลางเขียน พลางกล่าวอย่างรีบร้อน “รีบไปหาคน ช่วยข้าส่งจดหมายฉบับนี้ไปให้อ๋องเฉินที่ตงหลิงเจียงหนาน”นางอยากบอกความจริงกับเฟิงเย่เสวียน ต่อให้ตนลืมแล้ว แต่เฟิงเย่เสวียนจำนางได้เขาจะต้องมาหานางแน่นอนไม่ช้าก็เร็วสักวัน พวกเขาครอบครัวสี่คนจะอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา“อ๋องเฉินแห่งตงหลิงเจียงหนาน?”สาวใช้เกาศีรษะด้วยความสงสัย “องค์หญิง ท่านส่งจดหมายให้อ๋องเฉินทำไม? ท่านรู้จักอ๋องเฉินตั้งแต่เมื่อไร?”ฉู่เชียนหลีรีบกล่าว“อธิบายกับเจ้าไม่ได้ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเฉินไม่ธรรมดา…อ๋องเฉิน? อ๋องเฉินตงหลิง?”เงยหน้าฉับพลัน“ข้ารู้จักอ๋องเฉ
ทุกคน “...”สีหน้าฮ่องเต้หนานยวนดูไม่ดีนัก เซิ่ยซือเฉินเป็นแค่บัณฑิตคนหนึ่ง เพื่อบัณฑิตคนหนึ่ง ต้องทุ่มสุดตัวเช่นนี้เลย ต้องตื่นเต้นเช่นนี้เลย?ในฐานะองค์หญิง ไม่ควรมองให้ไกลกว่านี้หน่อยหรือ?เพื่อป้องกันจวินลั่วยวนทำร้ายตัวเอง เขาออกคำสั่ง มัดมือและเท้าของนางโดยตรงจวินลั่วยวนขยับไม่ได้แล้วเห็นท่าทางที่จะยิ้มไม่ยิ้มของฉู่เชียนหลี และยังเลิกคิ้วอย่างยั่วยุ นางโมโหจนแทบกัดลิ้นฆ่าตัวตายหลังจากเหตุการณ์ที่วุ่นวาย ไปจากตำหนักองค์หญิงฉู่เชียนหลีกับหลิงอี้ซิงเดินเคียงข้างกันจากไป เมื่ออารมณ์ดี จังหวะการเดินก็ผ่อนคลายเป็นพิเศษ อดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงเบาๆฮัมไปฮัมมา จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าหลิงอี้ซิงเป็นผู้มีจิตใจเมตตา อุทิศตนให้กับความดีและคุณธรรมหยุดฝีเท้าหันไปถาม “ท่านพี่ ท่านน่าจะเห็นกระมัง ว่าข้าจงใจรังแกจวินลั่วยวน?”หลิงอี้ซิงเดินตามปกติ สายตามองไปข้างหน้า พยักหน้าอย่างเกียจคร้าน ตอบสั้นๆ เพียงคำเดียว“อืม”“ท่านไม่รู้สึกว่าข้านิสัยไม่ดีหรือ?”เขาหยุดเดินหันมามองนาง กล่าวอย่างจริงจัง “ที่เจ้ารังแกนาง นั่นก็ต้องเป็นเพราะนางล่วงเกินเจ้าก่อนแน่นอน ล้วนเป็นความผิดของนาง”เขาไ
“ยวนเอ๋อร์! ยวนเอ๋อร์!” ฮ่องเต้หนานยวนร้อนใจจนหน้าถอดสี “ใครก็ได้ ใครก็ได้รีบมาเร็ว ยวนเอ๋อร์เสียเลือดมากเกินไป หมดสติไปแล้ว!”จวินลั่วยวนที่ ‘เสียเลือดมากเกินไปจนหมดสติ’ “...”เจ้าน่ะสิที่เสียเลือดมากเกินไปเจ้าเสียเลือดมากเกินไปทั้งครอบครัว!หมอหลวงมาอย่างรวดเร็ว หลังจากทำแผลให้จวินลั่วยวนเสร็จ ถอนหายใจด้วยความกังวล “สามเดือนแล้ว ในที่สุดเอ็นขององค์หญิงก็เชื่อมต่อกัน คิดไม่ถึงว่าขาดอีกแล้ว ความพยายามในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า” ต่อจากนี้ก็ต้องใช้เวลาอีกสามเดือน เปิดบาดแผล บำรุงเอ็นทุกวันเมื่อฉู่เชียนหลีได้ยินคำนี้ เบ้าตาแดงฉับพลัน“ล้วนเป็นความผิดของข้า…”นางดึงชายเสื้อของหลิงอี้ซิง กล่าวเสียงสะอึก“ท่านพี่ ข้ามันไม่ดี ต้องเป็นเพราะเรื่องของคุณชายเซิ่นแน่ องค์โกรธข้า ไม่ชอบข้า จึงฟาดมือของตัวเองใส่เสา เพื่อเป็นการแสดงความรังเกียจต่อข้า”“ข้าทำร้ายนาง ฮือๆ…”หลิงอี้ซิงรักน้องสาว ทุกคนในแคว้นหนานยวนรู้เรื่องนี้แล้วฮ่องเต้หนานยวนกล่าวโทษนางได้อย่างไร?กลับกัน เขายังต้องขอร้องหลิงอี้ซิงทักษะการทำนายของหลิงอี้ซิงมีเพียงหนึ่งเดียวในใต้ฟ้า ตลอดหลายปีที่เขานั่งตำแหน
ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน นางค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เตียง จวินลั่วยวนนอนหลับแล้ว ไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน หน้าซีดซูบผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกฉู่เชียนหลีเหลือบมองแวบหนึ่ง“เหตุใดข้อมือของนางยังมีเลือด?”สามเดือนแล้ว แผลยังไม่หาย?นางกำนัลที่อยู่ข้างๆ ตอบ“หมอหลวงบอกว่า จะใช้ยาพิเศษรักษาเอ็นมือและเท้าที่ขาดขององค์หญิง จำเป็นต้องเปิดแผล ขยับเอ็นที่ขาดไปรวมกันทุกวัน จนกระทั่งเชื่อมต่อกัน”“ฮืม?”ฉู่เชียนหลีเลิกคิ้วด้วยความสนใจเช่นนี้ก็เท่ากับว่า จวินลั่วยวนต้องทนกับความเจ็บปวดที่ใช้มีดเปิดปากแผลทุกวันติดต่อกันสามเดือนเต็มๆ น่าสังเวชน่าจะเจ็บมากกระมัง?นางค่อยๆ นั่งลง จับข้อมือของจวินลั่วยวนเบาๆ มองผ้าพันแผลที่ถูกพันห้าหกรอบอย่างครุ่นคิดทันใดนั้นออกแรงกดที่นิ้ว“ซี้ด…!”จวินลั่วยวนเจ็บจนตื่น ลืมตาทันทีฉู่เชียนหลีรีบปล่อยมือ “โอ๊ย…ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจแตะตัวท่าน ดูท่านเจ็บมากเลยนะ ขอโทษจริงๆ”“!”หลินเหยี่ยมาอยู่ในตำหนักของนางได้อย่างไร?นางรังเกียจผู้หญิงคนนี้ที่สุด!อาศัยที่พี่ชายของตัวเองเป็นราชครู แสร้งทำเป็นช่วยเหลือชาวบ้าน ทำแต่ความดีทุกวัน มีแต่คนบอกว่าองค์หญ
เซิ่นสือเฉิน “?”เหตุใดวันนี้รู้สึกว่าหลิงเหยี่ยแปลกๆ?เมื่อก่อนนางชอบเขามากเลยไม่ใช่หรือ? เวลาที่เขาอ่านหนังสือ นางชอบมาอยู่ข้างๆ ฝนหมึกพัดลมให้เขา เวลาที่เขาเขียนหนังสือ นางชอบแอบที่นอกหน้าต่าง จับจิ้งหรีดเล่น เวลาที่เขางีบหลับ นางมักจะชงชาหิมะชั้นดีมาให้เขานางยังบอกว่าจะแต่งงานกับเขาคนเดียวเหตุใดแค่วันเดียว ก็ปล่อยวางได้แล้ว?“องค์หญิงหลิง ข้าขอโทษ” เขากล่าวอย่างรู้สึกผิดที่จริงเขาก็ชอบหลิงเหยี่ยเช่นกัน แต่องค์หญิงยวนบอกเขาว่าหลิงเหยี่ยนิสัยไม่ดี ชอบรังแกคนรับใช้ หาเรื่องชาวบ้าน ใส่ร้ายโยนความผิดให้ผู้อื่นด้วยวิธีที่น่ารังเกียจ และทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายเขาเป็นคนเรียนหนังสือ นิสัยซื่อตรง ไม่สามารถยอมรับคนที่จิตใจอำมหิตอย่างหลิงเหยี่ยเมื่อเปรียบเทียบกัน เขาชอบจวินลั่วยวนที่ไร้เดียงสา จิตใจดี และร่าเริงมากกว่า“เมื่อก่อนท่านส่งข้าเรียนหนังสือ ช่วยข้าหาอาจารย์ ใช้เส้นสาย ทำให้ข้าสอบติดขุนนาง…บุญคุณส่วนนี้ ข้า ข้าทำได้เพียงตอบแทนท่านชาติหน้าแล้ว…”ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างอ่อนโยน“ไม่เป็นไร แค่เรื่องเล็กน้อย”“ได้ยินมาว่าองค์หญิงยวนได้รับบาดเจ็บ พวกเราเข้าวังไปดูนางกันเ
องค์หญิง?คุณชายเซิ่น?ฉู่เชียนหลีไม่ได้รับความทรงจำใดๆ เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก สับสนและงงงวยเล็กน้อยยังไม่ทันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเสียงฝีเท้าที่ยุ่งเหยิงและเสียงต่อต้านดังมาจากนอกประตู “ใต้เท้าหลิง! ใต้เท้าหลิง ต่อให้ท่านบีบคั้นข้าจนตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับนาง!”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ในใจข้ามีเพียงองค์หญิงยวนเอ๋อร์เท่านั้น!”ยวนเอ๋อร์?องค์หญิง?ฉู่เชียนหลีเงยหน้ามองไป เห็นชายหนุ่มสวมชุดเพ้าสีขาวและที่ครอบผมหยก กำลังลากผู้ชายที่ท่าทางสุภาพเหมือนคนเรียนหนังสือเข้ามานางตระหนักถึงบางอย่าง รีบดึงสาวใช้ที่อยู่ข้างกายมาถามเบาๆ“ที่นี่คือแคว้นหนานยวน?”สาวใช้ “?”องค์หญิงเป็นอะไรไป?เหตุใดถามคำถามเช่นนี้?“องค์หญิง ท่าน…”“อย่าพูดไร้สาระ ตอบข้า!”สาวใช้ตกใจ รีบกล่าว “ท่านคือหลิงเหยี่ย องค์หญิงต่างแซ่ของแคว้นหนานยวน ใต้เท้าคือมหาราชครูของแคว้นหนวนยวน เป็นพี่ชายแท้ๆ ของท่าน เพราะใต้เท้าชำนาญการทำนาย เคยช่วยแคว้นสามครั้ง สร้างคุณประโยชน์มากมาย ท่านจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงต่างแซ่…”คำพูดที่เหลือ ฉู่เชียนหลีมองข้ามโดยตรงสิ่งเดียวที่นางคิดคือ นางถูกส่งมาเป็นองค์หญิงต่างแซ่ อีกท