Share

บทที่ 571

Author: หลันซานอวี่
เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้น ก็เกิดสงสัยอยู่ในใจไม่หาย

เดิมทีเขาคิดว่าอวิ๋นฝูหลิงอยากให้คุมตัวเจ้านั่นไว้ เพื่อจะได้รับรองความปลอดภัยของพวกเขาได้มากขึ้น

ทว่าความจริงแล้วดูไม่ค่อยเหมือนกับสิ่งที่เขาคิดสักเท่าไร

ว่าแต่ เรื่องสำคัญกว่าที่อวิ๋นฝูหลิงพูดถึงมันคืออะไรกัน?

ยังไม่ทันที่เทียนเฉวียนจะได้คิดอันใดมากมาย เขาเห็นอวิ๋นฝูหลิงหยิบของสีดำ ๆ รูปร่างเหมือนนกออกมาจากในห่อผ้า

เดิมทีอวิ๋นฝูหลิงไม่อยากเปิดเผยต่อหน้าเทียนเฉวียนนัก ทว่าสถานการณ์ในยามนี้ไม่ธรรมดา พวกเขาไม่รู้เรื่องการป้องกันบนเกาะหมัวกุ่ยที่แน่ชัด หากขืนเข้าไปทั้งอย่างนี้ จะต้องมีสภาพไม่ต่างกับแมลงวันหัวขาดแน่นอน

นางคิดสะระตะไปมา สุดท้ายจึงตัดสินใจคว้าโดรนจากในมิติออกมา ใช้มันสืบส่องสถานการณ์บนเกาะดูเสียก่อน

ดังนั้นการตรวจสอบด้านบนเกาะครั้งนี้ นางจึงตั้งใจพามาแค่พวกเทียนเฉวียนสามคนเท่านั้น

ทั้งยังหาข้ออ้างให้ลูกพี่อู่กับฟางอวี่ออกไปที่อื่น

ที่ให้เทียนเฉวียนรั้งอยู่ ก็เพราะนางต้องการผู้ช่วยหนึ่งคนมาวาดแผนที่สภาพบนเกาะ

อีกทั้งในลูกน้องกลุ่มนี้ เทียนเฉวียนนั้นซื่อสัตย์และไว้ใจได้ อวิ๋นฝูหลิงเชื่อใจเขา

อวิ๋นฝูหลิงบังคับรีโมท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 572

    “เจ้าเก็บแผนที่นี้ไว้ มีมันแล้ว จะเคลื่อนไหวได้สะดวกมากขึ้น”“ตรงสามจุดนี้...” อวิ๋นฝูหลิงเอื้อมมือออกไปชี้ที่ตำแหน่งทั้งสามบนแผนที่ จากนั้นจึงพูดต่อไปว่า “ทั้งสามจุดนี้น่าจะเป็นสถานที่ซึ่งคนที่ถูกจับมาบนเกาะต้องใช้แรงงาน เป็นไปได้มากว่าท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วจะแฝงตัวอยู่ในนี้ เจ้าต้องให้ความสำคัญกับการค้นหาในทั้งสามจุดนี้” “เมื่อหาตัวท่านอ๋องเจอ ให้แจ้งสถานการณ์แก่ท่านอ๋องให้ชัดเจน แล้วดูว่าท่านอ๋องมีแผนการอะไรหรือไม่?”คิดดูแล้ว เซียวจิ่งอี้น่าจะเข้าใจสถานการณ์บนกาะหมัวกุ่ยแห่งนี้มากกว่าพวกเขาแน่เขาอยู่บนเกาะมานานขนาดนี้ แต่กลับไม่หาโอกาสออกไปเลย คิดแล้วคงจะต้องมีเหตุผลบางอย่างเป็นแน่เทียนเฉวียนพยักหน้าหนัก ๆ “ผู้น้อยจดจำไวแล้วขอรับ”อวิ๋นฝูหลิงนึกถึงเรื่องโดรน ทันใดนั้นจึงกระแอมออกมาเบา ๆ หนึ่งครั้ง แล้วกล่าวว่า “เทียนเฉวียน เมื่อครู่นี้...”อวิ๋นฝูหลิงยังไม่ทันพูดจนจบ เทียนเฉวียนก็พูดขึ้นมาอย่างมีไหวพริบยิ่ง “เมื่อครู่นี้ผู้น้อยไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น และไม่มีทางพูดอะไรออกไปแน่นอนขอรับ” อวิ๋นฝูหลิงเผยสีหน้าประหนึ่งได้พบเข้ากับเด็กฉลาดสั่งสอนได้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 573

    ลูกพี่อู๋ได้ยินเช่นนั้น ไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบไต่โขดหินลงไปทันทีทว่าฟางอวี่กลับแปลกใจนักที่นี่เป็นบริเวณที่ขึ้นไปบนเกาะได้โดยไม่ถูกจับง่าย ๆ ที่สุด ก่อนหน้านี้ก็ตกลงแล้วว่าจะขึ้นเกาะจากตรงนี้ กว่าเขากับลูกพี่อู๋จะปีขึ้นมาได้นี่มันไม่ง่ายเลยนะ ทั้งยังรอพวกอวิ๋นฝูหลิงอยู่ข้างบนตั้งนาน แล้วไยตอนนี้อวิ๋นฝูหลิงจะให้พวกเขาลงไปอีก?ฟางอวี่สงสัยไม่หาย กระทั่งยามที่เขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เบื้องหน้าก็ไร้เงาของเทียนเฉวียนแล้วฟางอวี่ได้แต่เก็บงำความสงสัยที่มีอยู่เต็มท้องลงไป ไต่โขดหินลงไปด้านล่างอีกครั้งกับลูกพี่อู๋กระทั่งทั้งสองคนลงมาถึงด้านล่าง ก็เห็นอวิ๋นฝูหลิงกำลังนั่งเอนหลังตากแดดอยู่บนโขดหินก้อนหนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียงความเคลื่อนไหว หันหน้าไปก็เห็นพวกเขาสองคน จึงอธิบายว่า “บนเกาะนี้มีการป้องกันแน่นหนา เป้าหมายของพวกเราทั้งสี่ใหญ่เกินไป เขาเลยลองคิดดู ก็เห็นว่าให้เทียนเฉวียนขึ้นเกาะไปหาตัวคนจะเป็นการดีกว่า”“เขามีวรยุทธ์แข็งแกร่ง วิชาตัวเบาก็ดี เขาไปคนเดียวไม่มีทางถูกจับได้ง่าย ๆ แน่”“ต่อให้ถูกจับได้ ก็หลบหนีออกมาได้ง่าย”คำอธิบายนี้ของอวิ๋นฝูหลิงมีเหตุผลยิ่ง ลูกพี่อู๋กับฟางอวี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 574

    ดูท่าคนของเขาจะตามมาถึงบนเกาะหมัวกุ่ยแล้ว แค่ไม่รู้ว่าคนที่มานั้นเป็นใคร?เซียวจิ่งอี้เปลี่ยนความคิด ยกมือขึ้นกุมท้องทันที แล้วส่งเสียงร้อง “โอ๊ย” ออกมาโจวไห่เซิงที่อยู่ใกล้ที่สุดหน้าเปลี่ยนสีทันทีที่เห็นเช่นนั้น รีบเข้ามาประคองเขา “น้องจิ่ง เป็นอะไรไป?”เมื่อวานเซียวจิ่งอี้ช่วยเขาจากแส้ของผู้คุม ในใจโจวไห่เซิงจึงซาบซึ้งในตัวเซียวจิ่งอี้เป็นอย่างยิ่งครั้นยามนี้เห็นเขากุมท้องพลางร้องโอดโอย ความร้อนรนความเป็นกังวลผุดขึ้นมาเต็มหัวใจในชั่วพริบตาจั่วเยี่ยนที่อยู่ห่างพวกเขาไปเจ็ดแปดก้าวเห็นเช่นนั้น ทั้งตกใจทั้งร้อนใจขึ้นมาทันที รีบทิ้งจอบในมือแล้ววิ่งไปทางเซียวจิ่งอี้เขาจะให้เกิดอะไรขึ้นกับเซียวจิ่งอี้ไม่ได้เด็ดขาด!ไหนเลยจะรู้ว่าเขาเพิ่งวิ่งออกไปได้สองก้าว ก็เห็นเข้ากับสายตาของเซียวจิ่งอี้ที่ส่งมาให้เขาจั่วเยี่ยนเข้าใจได้ทันที เซียวจิ่งอี้แกล้งทำเขาชะลอฝีเท้าลงทันทียามนี้เองที่การเคลื่อนไหวของทางนี้เกิดไปดึงดูดความสนใจของผู้คุมพวกนั้นเข้าผู้คุมคนหนึ่งสะบัดแส้ออกมา แล้วตะโกนลั่น “ทำอะไรกัน? แยกย้ายออกไปทำงานเสีย!”เซียวจิ่งอี้กุมท้องไว้ แล้วยิ้มสู้ผู้คุมพลางกล่าวว่า “ใต้เ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 575

    อวิ๋นฝูหลิงเอนหลังอยู่บนโขดหิน รองมือทั้งสองข้างไว้ใต้ศีรษะต่างหมอน เหม่อมองออกไปไกลยังท้องทะเลตรงขอบฟ้าลูกพี่อู๋กับฟางอวี่นั่งอยู่ไม่ไกลทั้งสองคนมองไปทางอวิ๋นฝูหลิงอยู่หลายครั้ง อยากจะพูดอะไรสักอย่าง ทว่ากลับลังเลแล้วไม่พูดออกไปไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร มองดวงตะวันที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปทางทิศประจิม ทว่ากลับยังไม่เห็นเทียนเฉวียนกลับมาลูกพี่อู๋อดรู้สึกร้อนรนขึ้นมาในใจไม่ได้ยามนี้เอง อวิ๋นฝูหลิงขยับหูเล็กน้อย จู่ ๆ ก็ผุดกายลุกขึ้นนั่งหลังจากที่ร่างกายของนางได้รับหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณจากในมิติมาแล้ว สัมผัสทั้งห้าก็ว่องไวเป็นอย่างยิ่ง ความเคลื่อนไหวภายในรัศมีสามลี้นางล้วนสัมผัสรับรู้ได้นางถึงได้อาบแดดอยู่บนชายหาดได้อย่างสบายอกสบายใจ ไม่กังวลแม้แต่น้อยว่าจะถูกคนบนเกาะหมัวกุ่ยจับได้เพราะทันทีที่มีคนเข้ามาใกล้ นางก็จะรับรู้ได้ทันทียามนี้นางรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของกระแสลมในอากาศ มีคนกำลังมุ่งหน้ามาทางนางและคนที่มาก็ฝีเท้าเบายิ่ง หากมิใช่ว่าประสาทหูนางดีจนน่าตกใจ คงแทบรับรู้ไม่ได้ คิดดูแล้ววิทยายุทธของอีกฝ่ายคงไม่เบา อย่างน้อยที่สุดวิชาตัวเบาก็ดีเยี่ยมอวิ๋นฝูหลิงนึก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 576

    แค่ประมาทเพียงเล็กน้อย ก็จะถูกคนเจาะช่องทาง หาโอกาสหลบหนีลงทะเลได้เมื่อมีคนหนีออกไปได้ แล้วแอบไปแจ้งข่าวแก่มือมืดที่อยู่เบื้องหลังและวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ ผลที่ตามมาต้องเลวร้ายจนไม่อยากนึกถึงแน่ฉะนั้นอุบายที่ใช้ยาสลบนี้ เป็นวิธีที่ทั้งสบายใจ ทั้งประหยัดแรงที่สุดจริง ๆอวิ๋นฝูหลิงรีบแสร้งทำเป็นล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วควักยาสลบออกมาสองสามห่อส่งให้เทียนเฉวียน“ยาไม่กี่ห่อนี้ มากพอที่จะทำให้คนนับพันสลบไสลได้”“ใส่ยาลงไปในน้ำหรืออาหาร ไร้สีไร้รส สัมผัสไม่ได้สักนิดเดียว พอกินเข้าไปแล้ว ใช้เวลาไม่เกินห้าลมหายใจก็พากันสลบแล้ว”“สองห่อนี้เป็นควันยาสลบ หากไม่สะดวกลงมือกับอาหารก็จุดควันยาสลบนี่ ขอแค่สูดควันยาสลบนี้เข้าไป ก็จะหมดสติล้มพับทันที”“ห่อนี้เป็นยาแก้ เผื่อว่าพวกเจ้าไม่ระวังจนโดนลูกหลงไปด้วย ก็ให้ใช้ยาแก้นี้”เทียนเฉวียนเก็บยาสลบที่อวิ๋นฝูหลิงให้ไว้เรียบร้อย“ท่านอ๋องบอกว่ายามโหย่วพลลาดตระเวนบนเกาะจะถึงคราวเปลี่ยนกะ และยามนี้ก็จะเป็นเวลาที่กำหนดไว้ให้ทานข้าว ยาวโหย่วเป็นเวลาที่เหมาะแก่การลงมือที่สุด”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้านำความไปบอกแก่ท่านอ๋อง ยามโหย่วข้า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 577

    ยามโหย่วอวิ๋นฝูหลิงทำตามแผนที่ได้ตกลงไว้กับเซียวจิ่งอี้ นำคนขึ้นชายหาดโดยไร้สุ้มเสียงหลังจัดการยามที่ด่านรอบนอกทั้งสองแห่ง ก็เปลี่ยนคนที่เฝ้ายามทั้งหมดเป็นคนของพวกเขาเองจะว่าไปแล้ว เพื่อให้จัดการเหล่าแรงงานที่ถูกจับมาบนเกาะเหล่านั้นได้สะดวก ไม่ให้พวกเขาหลบหนี จึงตั้งด่านไว้ตามจุดสำคัญ ๆ ไม่กี่แห่งบนเกาะหมัวกุ่ย และจัดคนไปคอยเฝ้าไว้ส่วนสถานที่อื่น ๆ บ้างก็ปลูกพุ่มหนามไว้ บ้างก็สร้างกำแพงสูงขึ้นมาล้อมไว้ ไม่ให้คนเดินผ่านเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ช่วยทำให้อวิ๋นฝูหลิงเบาใจไปไม่น้อยแต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง อวิ๋นฝูหลิงจึงจัดแจงคนคอยลาดตระเวนตามแนวชายหาดไว้ จับตาดูเกาะหมัวกุ่ยทั้งเกาะไว้อย่างแน่นหนา ไม่ปล่อยให้ใครก็ตามหนีออกไปได้เมื่อจัดแจงเรื่องรอบนอกเรียบร้อย อวิ๋นฝูหลิงจึงนำคนเข้าไปในเกาะด้วยตัวเองนางคว้าแผ่นที่ฉบับหนึ่งออกมาดูแผนที่ที่วาดไว้ก่อนหน้านี้ให้เทียนเฉวียนไปแล้ว ส่วนแผ่นนี้เป็นแผ่นี่นางวาดขึ้นมาใหม่ตามที่จดจำได้หลังจากที่นางกลับไปที่เรือใหญ่แล้วอวิ๋นฝูหลิงแยกแยะทิศทาง เข้าเกาะไปตามสัญลักษณ์บนแผนที่ เพื่อไปรวมตัวกับเซียวจิ่งอี้ตลอดทางมานี้ หากพบเข้ากับคนที่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 578

    คำพูดมากมายท่วมท้นอยู่ในปาก สุดท้ายก็กลั่นออกมาได้เพียงประโยคเดียวว่า “ท่านปลอดภัยไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เซียวจิ่งอี้ลูบศีรษะอวิ๋นฝูหลิง กล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ข้าขอโทษ ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วงเสียแล้ว”ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาของคนรอบข้างที่พากันมองมา สายตานั้นมีทั้งความสงสัย ทั้งความอยากรู้อยากเห็นอวิ๋นฝูหลิงจึงตระหนักได้ว่ายามนี้ยังมีเรื่องมากมายที่จำเป็นต้องจัดการ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะพูดคุยกันนักนางกุมมือของเซียวจิ่งอี้ “ยังไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้วกัน ภารกิจเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือจัดการเรื่องบนเกาะหมัวกุ่ยนี้ให้เรียบร้อย”นางมองไปที่กลุ่มคนที่สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบแบบง่าย ๆ เหล่านั้น แล้วกระซิบถามว่า “คนพวกนี้เป็นชาวบ้านที่ถูกจับตัวมาใช้แรงงานบนเกาะหรือ?”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า “วันนี้โชคดีที่มีพวกเขาอยู่ด้วย แผนของข้าถึงได้ดำเนินได้อย่างราบรื่น”ชาวบ้านพวกนี้ถูกจับมาบนเกาะหมัวกุ่ย พวกเขาถูกกดขี่ถูกทุบตีด่าทอแม้ว่าหลายคนจะชินชา ทว่าในใจของคนบนเกาะหมัวกุ่ยใช่ว่าจะไร้ความโกรธแค้นเซียวจิ่งอี้ไม่เพียงช่วยพวกเขาแก้แค้น แต่ยังมอบความหมายที่จะทำให้พวกเขาได้ออกไปจากเกาะหมัวกุ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 579

    หลายวันมานี้เซียวจิ่งอี้ถูกกักขังอยู่บนเกาะหมัวกุ่ย จึงไม่ได้รับข่าวสารจากภายนอกเลยโชคดีที่การมาถึงของอวิ๋นฝูหลิง ทำให้เขารู้ทันข่าวสารจากภายนอกหลังจากอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันแล้ว นางก็มองเขาแล้วเอ่ยถามว่า “ต่อจากนี้ท่านคิดจะทำอะไร?”เซียวจิ่งอี้เงยหน้า กวาดสายตามองไปยังคนที่เบียดเสียดกันแน่นขนัดอยู่ไม่ไกลคนพวกนั้นล้วนเป็นคนบนเกาะหมัวกุ่ยที่ถูกทำให้สลบไสลไปทั้งสิ้นคนบนเกาะหมัวกุ่ย เกือบทั้งหมดล้วนถูกย้ายมาที่นี่แล้วต่อให้เล็ดลอดออกไปสองสามคน ก็หนีไม่พ้นเทียนเฉวียนกับคนอื่นๆ ที่ปูพรมค้นหาแน่ ยิ่งไปกว่านั้นอวิ๋นฝูหลิงเองก็วางกำลังไว้ที่รอบนอกสุดด้วยคนพวกนี้ อย่าได้คิดหนีไปแม้แต่คนเดียวเลยไม่ช้าเร็วก็จะต้องมารวมตัวพร้อมหน้ากันหมดอยู่ดีเซียวจิ่งอี้ดึงสายตากลับมา แล้วกล่าวว่า “จับคนไว้ได้แล้ว แน่นอนว่าต้องถามข้อมูลที่มีประโยชน์ออกมาจากปากของพวกเขาเสียก่อน”กลุ่มคนบนเกาะหมัวกุ่ย นำโดยแม่ทัพใหญ่เฉาผู้นั้น คิดดูแล้วคงจะมีตำแหน่งสูงไม่น้อยในหมู่คนเผ่าเยว่ผู้จงรักภักดีต่อแคว้นเดิม และเขายังติดต่อกับท่านราชครูผู้นั้นผ่านจดหมายอยู่บ่อยครั้ง ย

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 594

    ทว่าไฟดวงหนึ่งในบริเวณที่อยู่ไม่ไกลห่างจากคนตระกูลเวินพวกนี้นักสั่นไหวอยู่ท่ามกลางท้องนภาเล็กน้อย ราวกับกำลังส่งสัญญาณอะไรบางอย่างเซียวจิ่งอี้เห็นไฟดวงนั้นแล้ว มุมปากพลันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยดูท่าเรื่องที่เขามอบหมายแก่เทียนเฉวียน จะจัดการได้เสร็จเรียบร้อยแล้วในเมื่อเตรียมการทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว เช่นนั้นก็ได้เวลาลงมือสะสางเสียทีเซียวจิ่งอี้พยักหน้าให้จ้าวเสวียซือทันทีจ้าวเสวียซือเข้าใจความนัย รีบพาคนลงไปเตรียมพร้อมคนงานขนย้ายของขึ้นไปบนเรือทีละคน ๆ ทุกครั้งที่มาทำการค้า คนญี่ปุ่นพวกนั้นไม่มีใครอยากทำเรื่องเหน็ดเหนื่อยอย่างการขนย้ายของพวกนี้ด้วยตัวเอง ทั้งยังไม่อยากเปลืองเงินทองจ้างคนดังนั้นงานหนักอย่างการขนย้ายของเหล่านี้ ล้วนเป็นฝั่งตระกูลเวินที่รับผิดชอบคนงานบนเรือทำตามคำสั่ง เข้าไปขนย้ายสินค้าที่ใต้ท้องเรือทว่าทันทีที่เข้าใต้ท้องเรือ ก็ถูกจ้าวเสวียซือนำคนเข้าปราบปรามในทันทีคนเหล่านี้ล้วนเป็นชาวบ้านยากจนที่ใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาตระกูลเวิน ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ขององครักษ์ผู้มีวิทยายุทธ์สูงส่งซึ่งอยู่ใต้บังคับบัญชาของเซียวจิ่งอี้กลุ่มนั้นได้บนเรือเพิ่งลงมือได

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 593

    ครั้นเหล่าโจรกบฏเผ่าเยว่พวกนั้นที่ถูกควบคุมตัวอยู่ด้วยกันได้ยินคำพูดของอวิ๋นฝูหลิง ไหนเลยยังจะกล้าคิดหนีขึ้นมาอีกนับแต่ถูกจับ พวกเขาทั้งกลุ่มล้วนได้สัมผัสกับความร้ายกาจของยาพิษพวกนั้นของอวิ๋นฝูหลิงมาแล้วทั้งสิ้นกระทั่งเฉาเหล่าต้ากับพรรคพวกสองสามคนที่เป็นถึงหัวหน้าก็ถูกยาพิษของอวิ๋นฝูหลิงทรมานจนอยู่ไม่สู้ตาย ท้ายที่สุดพอถามอะไรมา ล้วนสารภาพออกไปเสียสิ้นสภาพร่างกายของพวกเขาในยามนี้ยังคงตกอยู่ในฤทธิ์ยาของอวิ๋นฝูหลิง แต่ละคนล้วนอ่อนปวกเปียกไร้เรี่ยวแรงไปทั้งกายบัดนี้เห็นอวิ๋นฝูหลิงหยิบผงพิษที่ทำให้ผิวคนเน่าเปื่อยจนสิ้นลมได้ออกมาอีก ทุกคนจึงอดก่นด่าอวิ๋นฝูหลิงอยู่ในใจไม่ได้แม่นางผู้นี้รูปโฉมก็งดงามอยู่หรอก แต่ทำไมจิตใจถึงได้อำมหิตเช่นนี้!ไม่ว่าในใจพวกเขาจะด่าทอเช่นไร ทว่ากลับไม่กล้าเผยออกมาทางสีหน้าเลยแม้แต่นิดเดียวแต่ละคนล้วนว่าง่ายราวกับแมวเชื่องหวั่นกลัวก็แต่ว่าตนเองจะเผลอทำอะไรไปเพียงเล็กน้อย แล้วจะถูกเข้าใจผิด นำไปสู่หายนะที่เป็นการพาตนเองไปสู่ความตายหลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงตามไปรวมกับเซียวจิ่งอี้ นั่งเรือพ่อค้าญี่ปุ่นออกไปแล้ว เซียวจิ่งอี้ถึงได้เอ่ยถาม “ขวดยาไม่กี่ขวดที

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 592

    ช่วงเวลาที่นางจากไปนี้ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ทางเมืองหลวงจะเป็นเช่นไรบ้างพวกท่านลุงหลินกับท่านปู่โอวหยาง จะศึกษาเทียบยาที่มีประสิทธิภาพที่ดีกว่าของเดิมออกมาได้ไหม?อวิ๋นฝูหลิงลองนับวันดูแล้ว เกรงว่าคงจะควบคุมเรือนเสินเซียนในเมืองหลวงไม่อยู่เสียแล้วเรื่องขี้ผึ้งเทพเซียน เกินกว่าครึ่งล้วนปิดบังไม่มิด ในเมืองหลวงใกล้จะปะทุออกมาแล้วครั้นนึกถึงเรื่องพวกนี้ อวิ๋นฝูหลิงถึงกับลอบถอนหายใจโชคดีที่ในเมืองหลวงมีฮ่องเต้จิ่งผิงคอยดูแลความสงบด้วยองค์เองอยู่ มาตรแม้นว่าจะเกิดความวุ่นวายไปบ้าง แต่ก็มิได้เกิดเรื่องใหญ่โตอันใดยิ่งไปกว่านั้น ทางเมืองหลวงก็พบเรื่องขี้ผึ้งเทพเซียนค่อนข้างเร็ว มีเทียบยาที่นางทิ้งไว้ให้สองสามเทียบอยู่ โอวหยางหมิงกับหมอหลวงทุกคนในสำนักหมอหลวงก็คงจะได้เรื่องได้ราวอะไรบ้างยังพอควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในขอบเขตได้อยู่ส่วนที่อวิ๋นฝูหลิงเป็นห่วงมากกว่าก็คือที่จินโจวจินโจวเป็นสถานที่ที่มีขี้ผึ้งทองปรากฏโฉมเร็วที่สุด แน่นอนว่าคนที่ได้รับพิษของขี้ผึ้งทองนั้นก็มีมากที่สุดและอาการหนักที่สุดด้วยหากจัดการไม่ดี เกรงว่าอาจจะก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นมาได้ในฐานะที่อวิ๋นฝูหลิงเป็น

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 591

    เซียวจิ่งอี้กับอวิ๋นฝูหลิงรู้ซึ้งถึงจุดนี้ดี ดังนั้นจึงเข้าใจกันโดยปริยายว่าจะไม่พูดถึงเรื่องที่โจรสลัดกลุ่มนั้นจัดแจงให้ไปขุดแร่กำมะถันในเมื่อกำหนดวันออกเดินทางเรียบร้อยแล้ว อวิ๋นฝูหลิงจึงฉวยโอกาสก่อนที่จะไปจากที่นี่ รีบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์บนเกาะหมัวกุ่ยแห่งนี้สิ่งแรกที่จะต้องจัดการก็คือทุ่งดอกอิงซู่ผืนใหญ่ผืนนั้นบนเกาะหมัวกุ่ยอวิ๋นฝูหลิงหาไหดินเผามาจำนวนหนึ่งมาได้ นำคนไปขุดย้ายมาบางส่วน ซึ่งส่วนนี้จะนำกลับไปที่เมืองหลวงอย่างเปิดเผย เพื่อทำการศึกษา ยามขุดย้าย นางอาศัยจังหวะที่คนอื่นไม่ทันสังเกต แอบลูบแล้วหยิบใส่เข้าในมิติไปไม่น้อยมีของพวกนี้เก็บไว้ทั้งในที่แจ้งและที่ลับ หากต่อไปคิดจะปลูกต้นอิงซู่มากน้อยเท่าไรก็ปลูกได้ทั้งนั้น ไม่ต้องกังวลว่าจะมีดอกอิงซู่มาปรุงยาไม่พอดอกอิงซู่ที่เหลือในทุ่งนั้น ไม่มีเวลาให้ขุดไปได้ทั้งหมด อวิ๋นฝูหลิงจึงให้คนเผาทิ้งทั้งหมดไม่เพียงคอยอยู่ดูคนเผาเท่านั้น หลังเผาเสร็จแล้วยังตรวจดูอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งวันข้างหน้าจะได้ไม่มีคนใช้ทุ่งดอกอิงซู่แห่งนี้มาทำเรื่องชั่วช้าอีกหลังจัดการเรื่องทุ่งดอกอิงซู่แล้วเสร็จ อวิ๋นฝูหลิงจึงคว้าอีเต้อน้อยเล่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 590

    พวกเขาไม่มีเครื่องมือ จึงขุดเหมืองกำมะถันไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหรือแสงแดดตามธรรมชาติหรือไม่ บริเวณโดยรอบของเหมืองกำมะถันจึงมีหินกำมะถันกระจายตัวอยู่จำนวนมากอวิ๋นฝูหลิงวางแผนว่าวันนี้จะเก็บหินกำมะถันเหล่านี้ไปให้หมดก่อน เมื่อกลับไปรวบรวมคนกับเครื่องมือแล้ว ค่อยเริ่มขุดเหมืองกำมะถันแห่งนี้การเก็บครั้งนี้ พวกเขาเก็บจนพระอาทิตย์ตกอวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว จึงเพิ่งเรียกทุกคนกลับพวกลูกพี่อู๋ล้วนถอดเสื้อคลุมตัวนอกออก เพื่อทำเป็นกระเป๋าใส่หินกำมะถันที่เก็บมากลุ่มคนถือถุงหนัก ๆ ที่ทำจากเสื้อตัวนอก เดินกลับไปยามที่พระอาทิตย์ตกดินเมื่ออวิ๋นฝูหลิงกลับมาที่ห้อง ก็พบว่าเซียวจิ่งอี้กลับมาแล้วเขากำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ถือพู่กันเขียนบางสิ่งอยู่เซียวจิ่งอี้ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว ก็เงยหน้ามองไปทางอวิ๋นฝูหลิงเขาวางพู่กันในมือลง บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “กลับมาแล้วหรือ วันนี้เก็บสิ่งใดได้บ้างหรือไม่?”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แสดงสัญญาณให้พวกเหยากวงถือสัมภาระเข้ามาในห้องอวิ๋นฝูหลิงคลายเชือกที่มัดสัมภาระไว้ และหยิบหินกำมะถันออกมาเขย่าไปทางเซียวจิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 589

    หลังจากจ้าวเสวียซือได้ยินการวิเคราะห์ของเซียวจิ่งอี้ ก็เข้าใจโดยพลัน“คนแคว้นเยว่เจ้าเล่ห์จริงๆ!”ก่อนหน้านี้ยามที่พวกเขาสืบสวนคดีขี้ผึ้งทอง ก็สืบพบว่าขุนนางน้อยใหญ่ของแคว้นจินโจว เกือบครึ่งล้วนยุ่งเกี่ยวกับขี้ผึ้งทองแม้แต่ทางด้านกองทหารรักษาการณ์ของจินโจว ก็ยังมีผู้นำทัพที่ดูดขี้ผึ้งทองเช่นกันยามนั้นพวกเขายังไม่ทันได้จัดการเรื่องนี้ เซียวจิ่งอี้ก็หายตัวไปขณะที่สะกดรอยตามพ่อค้าชาวญี่ปุ่นด้วยเหตุนี้ความสนใจหลังจากนั้นของพวกเขา จึงหันเหมาอยู่ที่การค้นหาร่องรอยของเซียวจิ่งอี้ทั้งหมดยามนี้เมื่อจ้าวเสวียซือหวนนึกขึ้นมาได้ ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นยะเยือกยามนี้ก็จินโจว เริ่มจากเมืองสู่แคว้น หากขุนนางระดับสูงล้วนติดสารเสพติดอย่างขี้ผึ้งทอง เมื่อการเสพติดออกฤทธิ์แล้ว คนแคว้นเยว่ที่ครอบครองขี้ผึ้งทอง ย่อมมีตัวตนราวกับเป็นเทพถึงครานั้นไม่ว่าคนแคว้นเยว่ต้องการทำอันใด ผู้ที่ติดสารเสพติดย่อมล้วนทำตามโดยไม่มีเงื่อนไขเช่นนั้นหากชาวแคว้นเยว่คิดจะโค่นล้มแคว้นต้าฉี และก่อตั้งแคว้นเยว่ขึ้นมาใหม่ มิใช่ว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ หรือ?จ้าวเสวียซือรู้ว่าอาการยามที่ติดยาเสพติดเป็นอย่างไร ยามนั้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 588

    หลังจากได้ยินคำพูดของเซียวจิ่งอี้ ดวงตาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ ในใจทั้งรู้สึกแปลกใจทั้งสงสัยอย่างไรก็ตามไม่รอให้เขาได้เอ่ยปาก ก็มีคนของหน่วยกระบี่เงามาปิดปากเขา และพาตัวไปไต่สวนคนที่ขึ้นเกาะมากับโยชิดะ ล้วนถูกเซียวจิ่งอี้พาตัวไปโดยไม่มีข้อยกเว้นส่วนคนอื่นที่คอยคุ้มกันเรืออยู่ ก็ถูกจั่วเยี่ยนพาคนขึ้นเรือไปจับตัวไว้ทั้งหมดเมื่อจั่วเยี่ยนส่งคนมาแจ้งข่าว บอกว่าคนญี่ปุ่นเหล่านั้นไม่มีตกหล่นไปแม้แต่คนเดียว ถูกจับตัวไว้ทั้งหมดแล้ว เซียวจิ่งอี้จึงเพิ่งถอนหายใจอย่างโล่งอกพานชางอี้ที่อยู่ด้านข้างได้ยินว่าเหล่าพ่อค้าชาวญี่ปุ่นถูกจับตัวไว้ทั้งหมดแล้ว ก็ก้าวมาข้างหน้าอย่างใจกล้า กล่าวว่า “ใต้เท้า เรื่องที่ท่านสั่งพวกข้าน้อยล้วนทำสำเร็จลุล่วงแล้ว ยามนี้เหล่าคนญี่ปุ่นถูกจับตัวไว้หมดแล้ว เรื่องยาถอนพิษที่ท่านรับปากไว้ก่อนหน้านี้...”เดิมทีเซียวจิ่งอี้ก็ไม่คิดจะผิดคำพูดเรื่องนี้อยู่แล้วหากเขาคิดจะลงโทษคนพวกนี้ ก็มีวิธีอีกมากยิ่งไปกว่านั้นหากปล่อยคนเหล่านี้ไว้ บางทีอาจมีประโยชน์อยู่บ้างเขาให้ยาถอนพิษพานชางอี้โดยไม่พูดอะไรพานชางอี้เห็นเซียวจิ่งอี้รักษาคำพูด ก็ถือยาถอนพิษไว้ ด้วยสีหน้าร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 587

    ทางด้านอวิ๋นฝูหลิงพาคนบนเกาะหมัวกุ่ยไปหากำมะถัน ทางฝั่งเซียวจิ่งอี้พาคนไปซุ่มโจมตีตรงทางเข้าเกาะ หลังจากรออยู่นาน ในที่สุดบนท้องทะเลก็มีการเคลื่อนไหวเห็นเพียงเรือใหญ่สองลำค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาช้า ๆ บนทะเล มุ่งตรงใกล้มาทางเกาะหมัวกุ่ยเรื่อย ๆพานชางอี้ลอบกลืนน้ำลาย ถูมือ ข่มกลั้นความตึงเครียดและความหวาดกลัวในก้นบึ้งหัวใจความรู้สึกราวกับถูกแมลงนับพันกัดแทะหัวใจยามที่ยาพิษออกฤทธิ์เมื่อคืน ความรู้สึกที่อยู่ไม่สู้ตาย เขาไม่อยากประสบอีกครั้งแล้วขอเพียงทำตามที่คนผู้นั้นบอก หลอกพวกพ่อค้าชาวญี่ปุ่นขึ้นไปบนเกาะได้ หน้าที่ของเขาก็เสร็จสิ้น ถึงตอนนั้นก็จะได้รับยาถอนพิษเมื่อก่อนเรื่องการต้อนรับเหล่าพ่อค้าชาวญี่ปุ่น ก็เป็นหน้าที่ของเขาวันนี้ตราบใดที่เขาทำเหมือนปกติ ไม่หลุดพิรุธ ทำให้เหล่าพ่อค้าชาวญี่ปุ่นขึ้นเกาะโดยไม่สงสัย ก็นับว่าหน้าที่เสร็จสิ้นแล้วคิดมาถึงตรงนี้ พานชางอี้ก็สูดหายใจเฮือกใหญ่ จึงสงบใจลงได้หลายส่วนเมื่อเห็นเรือใหญ่ทอดสมอตรงชายฝั่ง พานชางอี้ก็สบตากับคนทางด้านซ้ายด้านขวา และพาคนไปต้อนรับทันทีคนเหล่านี้ล้วนกินยาพิษเข้าไปเมื่อคืนหลังผ่านความทรมานยามที่ยาพิษออกฤทธิ์ ยาม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 586

    ถึงอย่างไรเหมืองทอง เหมืองเงิน เหมืองทองแดง และเหมืองเหล็กที่นางเคยได้ยินก่อนหน้านี้ ก็ล้วนมีค่ามากยิ่งไปกว่านั้นอวิ๋นฝูหลิงยังเก็บหินกำมะถันพวกนี้มาด้วย ราวกับของล้ำค่ายิ่ง สิ่งนี้ต้องมีค่ามากเป็นแน่ดวงตาทั้งสองข้างของนางเป็นประกาย “พระชายา ข้าจะพาคนไปหาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ!”อวิ๋นฝูหลิงยกมือขึ้น ส่งสัญญาณให้เหยากวงไม่ต้องรีบร้อนนางมองไปทางเซียวจิ่งอี้ และถามว่า “หากบนเกาะมีเหมืองกำมะถันอยู่จริง ข้าสามารถขุดได้ตามใจหรือไม่? หินกำมะถันที่ขุดออกมาทั้งหมดจะเป็นของข้าหรือไม่?”เซียวจิ่งอี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “เขตทะเลทั้งหมดที่เกาะหมัวกุ่ยไม่มีเจ้าของ ตราบใดที่มีความสามารถในเอาไปได้ มันย่อมเป็นของคนที่พบเจอ!”อวิ๋นฝูหลิงได้ยิน จิตใจก็สงบลงโดยพลัน“ครั้งนี้เจอสมบัติเข้าแล้วจริง ๆ การเดินทางครั้งนี้ทำเงินได้มากทีเดียว!”เซียวจิ่งอี้รู้ว่ากำมะถันสามารถใช้เป็นยาและทำยาลูกกลอนได้ทว่าฮ่องเต้ในอดีตของแคว้นต้าฉี ต่างไม่ชื่นชอบยาลูกกลอน ดังนั้นการกินยาลูกกลอนจึงไม่เป็นที่นิยม กำมะถันในท้องตลาดส่วนมากก็ไหลเวียนผ่านร้านขายยาเซียวจิ่งอี้คิดว่าอวิ๋นฝูหลิงต้องการกำมะถัน เพื่อใช้ในการเป็นวัตถุ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status