แชร์

บทที่ 576

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
แค่ประมาทเพียงเล็กน้อย ก็จะถูกคนเจาะช่องทาง หาโอกาสหลบหนีลงทะเลได้

เมื่อมีคนหนีออกไปได้ แล้วแอบไปแจ้งข่าวแก่มือมืดที่อยู่เบื้องหลังและวางแผนเรื่องทั้งหมดนี้ ผลที่ตามมาต้องเลวร้ายจนไม่อยากนึกถึงแน่

ฉะนั้นอุบายที่ใช้ยาสลบนี้ เป็นวิธีที่ทั้งสบายใจ ทั้งประหยัดแรงที่สุดจริง ๆ

อวิ๋นฝูหลิงรีบแสร้งทำเป็นล้วงเข้าไปในแขนเสื้อ แล้วควักยาสลบออกมาสองสามห่อส่งให้เทียนเฉวียน

“ยาไม่กี่ห่อนี้ มากพอที่จะทำให้คนนับพันสลบไสลได้”

“ใส่ยาลงไปในน้ำหรืออาหาร ไร้สีไร้รส สัมผัสไม่ได้สักนิดเดียว พอกินเข้าไปแล้ว ใช้เวลาไม่เกินห้าลมหายใจก็พากันสลบแล้ว”

“สองห่อนี้เป็นควันยาสลบ หากไม่สะดวกลงมือกับอาหารก็จุดควันยาสลบนี่ ขอแค่สูดควันยาสลบนี้เข้าไป ก็จะหมดสติล้มพับทันที”

“ห่อนี้เป็นยาแก้ เผื่อว่าพวกเจ้าไม่ระวังจนโดนลูกหลงไปด้วย ก็ให้ใช้ยาแก้นี้”

เทียนเฉวียนเก็บยาสลบที่อวิ๋นฝูหลิงให้ไว้เรียบร้อย

“ท่านอ๋องบอกว่ายามโหย่วพลลาดตระเวนบนเกาะจะถึงคราวเปลี่ยนกะ และยามนี้ก็จะเป็นเวลาที่กำหนดไว้ให้ทานข้าว ยาวโหย่วเป็นเวลาที่เหมาะแก่การลงมือที่สุด”

อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้านำความไปบอกแก่ท่านอ๋อง ยามโหย่วข้า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 577

    ยามโหย่วอวิ๋นฝูหลิงทำตามแผนที่ได้ตกลงไว้กับเซียวจิ่งอี้ นำคนขึ้นชายหาดโดยไร้สุ้มเสียงหลังจัดการยามที่ด่านรอบนอกทั้งสองแห่ง ก็เปลี่ยนคนที่เฝ้ายามทั้งหมดเป็นคนของพวกเขาเองจะว่าไปแล้ว เพื่อให้จัดการเหล่าแรงงานที่ถูกจับมาบนเกาะเหล่านั้นได้สะดวก ไม่ให้พวกเขาหลบหนี จึงตั้งด่านไว้ตามจุดสำคัญ ๆ ไม่กี่แห่งบนเกาะหมัวกุ่ย และจัดคนไปคอยเฝ้าไว้ส่วนสถานที่อื่น ๆ บ้างก็ปลูกพุ่มหนามไว้ บ้างก็สร้างกำแพงสูงขึ้นมาล้อมไว้ ไม่ให้คนเดินผ่านเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ช่วยทำให้อวิ๋นฝูหลิงเบาใจไปไม่น้อยแต่เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง อวิ๋นฝูหลิงจึงจัดแจงคนคอยลาดตระเวนตามแนวชายหาดไว้ จับตาดูเกาะหมัวกุ่ยทั้งเกาะไว้อย่างแน่นหนา ไม่ปล่อยให้ใครก็ตามหนีออกไปได้เมื่อจัดแจงเรื่องรอบนอกเรียบร้อย อวิ๋นฝูหลิงจึงนำคนเข้าไปในเกาะด้วยตัวเองนางคว้าแผ่นที่ฉบับหนึ่งออกมาดูแผนที่ที่วาดไว้ก่อนหน้านี้ให้เทียนเฉวียนไปแล้ว ส่วนแผ่นนี้เป็นแผ่นี่นางวาดขึ้นมาใหม่ตามที่จดจำได้หลังจากที่นางกลับไปที่เรือใหญ่แล้วอวิ๋นฝูหลิงแยกแยะทิศทาง เข้าเกาะไปตามสัญลักษณ์บนแผนที่ เพื่อไปรวมตัวกับเซียวจิ่งอี้ตลอดทางมานี้ หากพบเข้ากับคนที่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 578

    คำพูดมากมายท่วมท้นอยู่ในปาก สุดท้ายก็กลั่นออกมาได้เพียงประโยคเดียวว่า “ท่านปลอดภัยไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”เซียวจิ่งอี้ลูบศีรษะอวิ๋นฝูหลิง กล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ข้าขอโทษ ทำให้เจ้าต้องเป็นห่วงเสียแล้ว”ครั้นสัมผัสได้ถึงสายตาของคนรอบข้างที่พากันมองมา สายตานั้นมีทั้งความสงสัย ทั้งความอยากรู้อยากเห็นอวิ๋นฝูหลิงจึงตระหนักได้ว่ายามนี้ยังมีเรื่องมากมายที่จำเป็นต้องจัดการ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะพูดคุยกันนักนางกุมมือของเซียวจิ่งอี้ “ยังไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้วกัน ภารกิจเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือจัดการเรื่องบนเกาะหมัวกุ่ยนี้ให้เรียบร้อย”นางมองไปที่กลุ่มคนที่สวมใส่เสื้อผ้าเนื้อหยาบแบบง่าย ๆ เหล่านั้น แล้วกระซิบถามว่า “คนพวกนี้เป็นชาวบ้านที่ถูกจับตัวมาใช้แรงงานบนเกาะหรือ?”เซียวจิ่งอี้พยักหน้า “วันนี้โชคดีที่มีพวกเขาอยู่ด้วย แผนของข้าถึงได้ดำเนินได้อย่างราบรื่น”ชาวบ้านพวกนี้ถูกจับมาบนเกาะหมัวกุ่ย พวกเขาถูกกดขี่ถูกทุบตีด่าทอแม้ว่าหลายคนจะชินชา ทว่าในใจของคนบนเกาะหมัวกุ่ยใช่ว่าจะไร้ความโกรธแค้นเซียวจิ่งอี้ไม่เพียงช่วยพวกเขาแก้แค้น แต่ยังมอบความหมายที่จะทำให้พวกเขาได้ออกไปจากเกาะหมัวกุ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 579

    หลายวันมานี้เซียวจิ่งอี้ถูกกักขังอยู่บนเกาะหมัวกุ่ย จึงไม่ได้รับข่าวสารจากภายนอกเลยโชคดีที่การมาถึงของอวิ๋นฝูหลิง ทำให้เขารู้ทันข่าวสารจากภายนอกหลังจากอวิ๋นฝูหลิงกับเซียวจิ่งอี้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารซึ่งกันและกันแล้ว นางก็มองเขาแล้วเอ่ยถามว่า “ต่อจากนี้ท่านคิดจะทำอะไร?”เซียวจิ่งอี้เงยหน้า กวาดสายตามองไปยังคนที่เบียดเสียดกันแน่นขนัดอยู่ไม่ไกลคนพวกนั้นล้วนเป็นคนบนเกาะหมัวกุ่ยที่ถูกทำให้สลบไสลไปทั้งสิ้นคนบนเกาะหมัวกุ่ย เกือบทั้งหมดล้วนถูกย้ายมาที่นี่แล้วต่อให้เล็ดลอดออกไปสองสามคน ก็หนีไม่พ้นเทียนเฉวียนกับคนอื่นๆ ที่ปูพรมค้นหาแน่ ยิ่งไปกว่านั้นอวิ๋นฝูหลิงเองก็วางกำลังไว้ที่รอบนอกสุดด้วยคนพวกนี้ อย่าได้คิดหนีไปแม้แต่คนเดียวเลยไม่ช้าเร็วก็จะต้องมารวมตัวพร้อมหน้ากันหมดอยู่ดีเซียวจิ่งอี้ดึงสายตากลับมา แล้วกล่าวว่า “จับคนไว้ได้แล้ว แน่นอนว่าต้องถามข้อมูลที่มีประโยชน์ออกมาจากปากของพวกเขาเสียก่อน”กลุ่มคนบนเกาะหมัวกุ่ย นำโดยแม่ทัพใหญ่เฉาผู้นั้น คิดดูแล้วคงจะมีตำแหน่งสูงไม่น้อยในหมู่คนเผ่าเยว่ผู้จงรักภักดีต่อแคว้นเดิม และเขายังติดต่อกับท่านราชครูผู้นั้นผ่านจดหมายอยู่บ่อยครั้ง ย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 580

    ก่อนหน้านี้เขาเห็นฟางอวี่คุยกับแรงงานคนหนึ่ง ท่าทางของทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งฟางอวี่ยังช่วยย้ายโจรสลัดที่สลบไสลพวกนั้นส่วนหนึ่ง ลูกพี่อู๋คิดว่าพอเกาะหมัวกุ่ยถูกพวกเขาเข้ายึดครอง เหล่าโจรสลัดพวกนั้นที่เดิมทีอยู่บนเกาะล้วนถูกจับไว้แล้ว ฟางอวี่อยู่แรงงานพวกนั้นก็ดี เขาจึงไม่ได้สนใจฟางอวี่อีกนึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กคนนี้จะมีความคิดมุทะลุ ถึงขั้นกล้าแอบตามพวกเขามา“เจ้าเด็กนี่ หลายวันนี้ที่สองกฎต่าง ๆ แก่เจ้าไปล้วนเสียแรงเปล่าจริง ๆ !” ลูกพี่อู๋ง้างมือขึ้นหมายจะสั่งสอนเขาก่อนที่ลูกพี่อู๋จะลงมือ ฟางอวี่ก็รีบยอมรับผิดแต่โดยดีทันทีอวิ๋นฝูหลิงเห็นดังนั้น จึงห้ามปรามลูกพี่อู๋ไว้นางมองฟางอวี่ “เอาเถอะ เจ้าอยากจะตามมาก็ตาม พอดีกับว่าเจ้าคงคุ้นเคยกับเกาะนี้มากกว่าพวกข้า ข้าคิดจะเดินดูให้รอบ ๆ เสียหน่อย เจ้ามานำทางแล้วกัน”ฟางอวี่ได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าทันที“ขอบคุณคุณชายขอรับ!”ฟางอวี่เดาได้นานแล้วว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ก่อนหน้านี้นางกอดกับเซียวจิ่งอี้ ไม่ว่าจะมาเช่นไรทั้งสองคนก็เหมือนคู่รักกันมากกว่าแต่ยามนี้อวิ๋นฝูหลิงยังคงแต่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 581

    อวิ๋นฝูหลิงปรับเปลี่ยนทิศทาง เดินไปยังทิศที่เป็นแหล่งกำเนิดความร้อนด้วยทักษะเล็กน้อย กอปรกับโชคดีของนาง การค้นหาเส้นทาง ใช้เวลาไม่นานนัก ก็หาตำแหน่งบ่อน้ำเจอหมอกขาวลอยอยู่รอบบ่อน้ำพุร้อน ยามที่เข้าไปจึงราวกับอยู่ในแดนสวรรค์อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนสูงอย่างเห็นได้ชัด อวิ๋นฝูหลิงอยู่แค่ไม่นาน บนร่างก็เริ่มมีเหงื่อผุดออกมาอวิ๋นฝูหลิงยื่นมือมาทดสอบอุณหภูมิน้ำ อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนค่อนข้างสูง ท่าทางจะอยู่ที่ประมาณสี่สิบถึงห้าสิบองศาสระน้ำตรงกลาง สามารถมองเห็นน้ำพุผุดขึ้นมาจากใต้ดินนอกจากตรงกลางสระน้ำแล้ว รอบด้านยังมีสระเล็ก ๆ อีกหลายสระ ดูแล้วคงจะเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นในภายหลังคิดว่าคงถูกคนบนเกาะหมัวกุ่ยสร้างขึ้น น้ำพุร้อนไหลลงไปในสระน้ำเล็ก ๆ หลายสระรอบ ๆ คนบนเกาะย่อมมาแช่น้ำพุร้อนได้โดยสะดวกอวิ๋นฝูหลิงได้กลิ่นกำมะถันรุนแรง คิดว่านี่คงเป็นน้ำพุร้อนกำมะถันการแช่บ่อน้ำพุร้อนเช่นนี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากหากสามารถย้ายบ่อน้ำพุร้อนไปได้ก็คงดี หลังจากนี้นางจะได้แช่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการแต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายบ่อน้ำพุร้อนนี้ได้อวิ๋นฝูหลิงสังเกตภูมิประเทศรอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 582

    อวิ๋นฝูหลิงได้ยินเสียงร้องโหยหวนเลือนรางดังขึ้นท่ามกลางค่ำคืนนางไม่ได้ถามให้มากความ และโบกมือให้ทหารยามผู้นั้น “ไปทำงานเถอะ”อวิ๋นฝูหลิงคิดว่าเซียวจิ่งอี้ยังไม่รู้ว่าต้องยุ่งไปอีกนานเพียงใด ยามนี้อย่าเพิ่งไปรบกวนเขาจะดีกว่านางหันกลับมาพูดกับลูกพี่อู๋ “เจ้าไปถามหน่อยว่ามีเรือนที่สะอาดหรือไม่ ช่วยเตรียมให้ข้าห้องหนึ่ง ข้าอยากพักผ่อน”ลูกพี่อู๋ตอบรับเสียงหนึ่ง และหาคนไปจัดเตรียมให้ทันทีอวิ๋นฝูหลิงยืนอยู่หน้าเรือน มองคนงานเหล่านั้นที่กำลังทำงานอยู่ไม่ไกล ซึ่งบางส่วนก็หันมามองนางด้วยสายตาสงสัยอวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้ว ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับฟางอวี่ว่า “ตรงนี้ข้าไม่มีธุระอันใดแล้ว เจ้าไปเดินเล่นคนเดียวก่อนเถอะ”“อยู่บนเกาะเท่านั้น อย่าออกไปนอกเกาะ มิเช่นนั้นหากเกิดเรื่องข้าจะไม่สนใจเจ้าแล้ว”“รอให้เรื่องบนเกาะจบแล้ว พวกเราจะเดินทางกลับ”“เจ้าพาพวกข้ามาที่เกาะหมัวกุ่ย เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าก่อนหน้านี้ ย่อมคำนวณไว้แล้ว เมื่อกลับไปที่แคว้นต้าฉี ข้าจะตอบแทนตามที่รับปากเจ้าไว้ทั้งหมด!”ภายใต้แสงไฟ ในดวงตาของฟางอวี่คลอน้ำตาชั้นหนึ่ง ในความพร่ามัวเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและตกใจเขาตะล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 583

    ทันใดนั้นเองมือข้างหนึ่งก็ยื่นมาจากด้านข้าง ออกแรงดึงฟางอวี่ไว้“อาอวี่ เจ้าเด็กนี่อย่างกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง ไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่?”ฟางอวี่เงยหน้า ยิ้มขอบคุณชายวัยกลางคนตรงหน้า และกล่าวว่า “ลุงหลี่ ข้าไม่เป็นไร”ลุงหลี่กับฟางอวี่รู้จักกันบนเกาะหมัวกุ่ย ไม่กี่ปีมานี้ก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จึงมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากก่อนหน้านี้ยามที่เกิดความวุ่นวายบนเกาะ ฟางอวี่ฉวยโอกาสหลบหนีออกไป ลุงหลี่ไม่รู้ว่าเขาหนีออกไปสำเร็จจริง ๆ หรือถูกฝังร่างอยู่ในทะเลไปแล้ว จึงเป็นห่วงเขามาโดยตลอดดังนั้นยามที่เห็นฟางอวี่กลับมาเกาะหมัวกุ่ยอีกครั้ง ในใจลุงหลี่ก็ทั้งดีใจทั้งกังวลเพียงแต่ก่อนหน้านี้ยุ่งมาก และฟางอวี่ยังติดตามขุนนางมาที่เกาะ ที่ผ่านมาลุงหลี่จึงหาโอกาสคุยกับฟางอวี่ไม่ได้ตอนนี้เมื่อได้พบหน้ากัน ลุงหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ตอนแรกเจ้าหนีออกไปแล้วไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงกลับมาที่เกาะหมัวกุ่ยกับคนพวกนั้นอีกเล่า?”ฟางอวี่เล่าเรื่องที่ตัวเองประสบหลังหลบหนีออกไปจากเกาะหมัวกุ่ยยามนั้นเขาพบกระแสน้ำวนในทะเล สหายที่หลบหนีออกจากเกาะหมัวกุ่ยด้วยกันล้วนถูกฝังอยู่ในทะเล มีเพียงเขาที่แม้จะเกือบเอาช

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 584

    เขารู้ว่าพวกสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ในใจก็วิตกกังวลเหมือนเขาดังนั้นทันทีที่ลุงหลี่หลับมาถึงกระท่อม ก็มีสหายตรงเข้ามาหาการพูดคุยของลุงหลี่กับฟางอวี่เมื่อครู่ มีคนเห็นไม่น้อยดังนั้นยามนี้จึงมีคนเข้ามาสอบถามข่าวคราวคนที่เข้ามา หลังจากลุงหลี่กระซิบไปไม่กี่ประโยค ก็จากไปอย่างพึงพอใจแทบทุกคนที่เข้ามาถามไถ่ ล้วนเริ่มด้วยคำว่า “ข้าจะบอกเจ้า แต่เจ้าอย่าเอาไปบอกคนอื่นเชียว” ก่อนจะปิดท้ายอีกครั้งว่า “เรื่องนี้ข้าจะไม่บอกคนอื่นเด็ดขาด”อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นความลับยิ่งใหญ่เพียงใด แต่หากพูดออกไปแล้ว ก็จะไม่ใช่ความลับอีกต่อไปดังนั้นเรื่องที่มีอ๋องท่านหนึ่งอยู่บนเกาะหมัวกุ่ย จึงแพร่กระจายจากหนึ่งไปสิบ จากสิบไปร้อย ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้ จนแพร่ไปสู่กลุ่มคนงานทุกคนทว่าทุกคนต่างก็แอบแพร่กระจายข่าวอย่างลับ ๆ ไม่มีผู้ใดทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตแม้จะเป็นเช่นนี้ สถานะท่านอ๋องของเซียวจิ่งอี้ กลับทำให้คนเหล่านี้รู้สึกปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังทำให้ความเชื่อใจที่พวกเขามีต่อเซียวจิ่งอี้เพิ่มสูงขึ้นมากนี่คือสิ่งที่อวิ๋นฝูหลิงอยากเห็นตราบใดที่คนเหล่านี้มีความเชื่อใจต่อเซ

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status