Share

บทที่ 538

Author: หลันซานอวี่
หมอจ้าวรู้ดีว่าสกุลใหญ่ล้วนมีแผนการเบื้องหลังมากมายที่ไม่อาจเปิดเผยต่อสาธารณชนได้

โดยเฉพาะสกุลเวินที่กำลังอยู่ในช่วงต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายใน

คุณชายใหญ่เวินที่ร่างกายแข็งแรงมาตลอด กลับล้มป่วยอย่างกะทันหัน ย่อมทำให้คนคิดมากจริง ๆ

หมอจ้าวไม่กล้าพูดว่าทักษะแพทย์ของตัวเองยอดเยี่ยมที่สุดในแคว้นต้าฉี แต่จริยธรรมแพทย์ที่พึงมี เขาไม่กล้าละทิ้งมันไปเด็ดขาด

เขาสามารถทนฟังคนอื่นบอกว่าทักษะแพทย์ของเขาไม่ดีได้ แต่ไม่อาจทนถูกคนอื่นสงสัยในการกระทำได้โดยเด็ดขาด

มิเช่นนั้นในภายภาคหน้าเขาจะยังยืนหยัดอยู่ในวงการแพทย์ได้อย่างไร?

หลังจากมั่วซูถูกเวินจือเหิงดุ ก็ขอโทษหมอจ้าวทันที “หมอจ้าว ขออภัยขอรับ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”

หมอจ้าวได้ยินคำพูดนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง

“ไม่ทราบว่าในจวนยังมีกากยาที่เคยต้มอยู่หรือไม่?”

มั่วซูตอบกลับ “เมื่อเช้าเพิ่งต้มยา น่าจะยังมีกากยาอยู่ขอรับ”

หมอจ้าว “เช่นนั้นรบกวนคุณชายใหญ่ส่งคนไปนำกากยามา มีปัญหาหรือไม่ ข้าเห็นก็ย่อมรู้ได้”

เวินจือเหิงพยักหน้าให้มั่วซูพลางกล่าว “ไปนำกากยามา”

เวินเจาเห็นมั่วซูไปนำกากยามา แม้กากยานั้นย่อมตรวจไม่พบปัญหา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 539

    หมอจ้าวลูบเคราขาว และพยักหน้ากล่าวว่า “หมอหางพูดมีเหตุผล”“ในวงการแพทย์ แม้คนที่มีอายุมากกว่า จะยิ่งมีประสบการณ์มาก และทักษะแพทย์ก็ย่อมยอดเยี่ยม”“แต่ก็มิใช่ว่าจะเป็นเช่นนี้ทุกคน”“ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นจากสกุลอวิ๋นจวนจี้ชุนโหว อายุเพียงยี่สิบปี ทักษะแพทย์กลับเทียบเคียงเจ้าสำนักโอวหยาง ถึงขั้นเก่งกาจกว่าในการรักษาบางโรคด้วย”“ทักษะแพทย์สูงส่ง จนคนต้องชื่นชมว่าสมกับที่เป็นทายาทของผู้อาวุโสอวิ๋น”“ด้วยเหตุนี้ เรื่องในวงการนี้จึงไม่อาจสรุปได้ด้วยมาตรฐานเดียว!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าคำพูดหมอจ้าวมีความยุติธรรม ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีต่อเขามากขึ้นเดิมทีนางวางแผนว่าหากเวินเจายังพูดจ้อต่อไป ก็จะใช้ความล้มเหลวในการรักษาเวินจือเหิงของหมอจ้าวที่ผ่านมาเป็นเหตุผลโต้แย้งแต่เมื่อเห็นหมอจ้าวไม่เหมือนว่าจะเป็นหมอไร้คุณธรรมที่สมรู้ร่วมคิดกับเวินเจา นางก็ล้มเลิกแผนการนี้ทันทีหมอจ้าวคนนี้ดูเป็นคนที่ไม่เลวทีเดียว นางแค่คิดจะมารักษาเวินจือเหิง เพื่อเป็นพันมิตรกับเขา และเพื่อได้รับความช่วยเหลือจากเขาไม่ได้มีความแค้นกับหมอจ้าว จึงไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำเขาขึ้นไป ทำลายชื่อเสียงของเขา จนทำให้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 540

    หมอจ้าวได้ยินก็ขมวดคิ้ว หลังจากได้รับการอนุญาตจากเวินจือเหิง ก็ตรวจชีพจรของเขาอีกครั้งครั้งนี้ หมอจ้าวตรวจชีพจรนานขึ้นแต่หลังจากเขาตรวจอยู่นาน ก็ยังตรวจชีพจรออกแค่ว่าเป็นโรคต้องลมเย็น ส่วนอาการปอดร้อน ฟังชีพจรไม่ออกแม้แต่นิดเดียวจริง ๆเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยในทักษะแพทย์ของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่งแอบคิดว่าทักษะแพทย์ของเขาสู้เด็กวัยรุ่นที่อายุยี่สิบปีคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ?อวิ๋นฝูหลิงมองท่าทางสงสัยในชีวิตของหมอจ้าวออก ในใจก็แอบขอโทษประโยคหนึ่งดูจากชีพจรของเวินจือเหิง เหมือนเป็นแค่อาการป่วยจากการต้องไอเย็นจริง ๆ ส่วนอาการปอดร้อนอันใด ล้วนเป็นนางที่พูดไร้สาระเท่านั้นในส่วนของอาการกระหายน้ำปวดหัวที่นางถามเวินจือเหิง และเวินจือเหิงก็พยักหน้าตอบรับ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นอาการป่วยที่เกิดจากการถูกวางยาพิษอาการเหล่านี้คล้ายกับอาการปอดร้อนอยู่บ้าง ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงใช้โรคปอดร้อนเป็นข้ออ้างนางต้องการแทนที่หมอจ้าว กลายมาเป็นหมอประจำตัวของเวินจือเหิง จึงต้องมีเหตุผลดี ๆ สักข้อหนึ่งเดิมทีวิธีที่ดีที่สุดก็คือการขัดคอหมอจ้าว และตอกย้ำถึงทักษะแพทย์ที่โดดเด่นกว่าของนางแต่หลังจากพูดคุย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 541

    เทียบยานั้นไร้ชีวิต คนไข้กับท่านหมอต่างหากที่มีชีวิตจิตใจรู้เพียงแค่เรื่องเทียบยานั้นไร้ประโยชน์ต้องรู้ว่าคนไข้มีอาการเช่นไร เทียบยาอะไรที่เหมาะกับคนไข้มากที่สุดต่างหากจึงจะสำคัญที่สุดและเส้นทางการเป็นหมอนั้น ให้ความสำคัญกับการสั่งสมประสบการณ์การสั่งสมประสบการณ์นี้ นอกจากจะได้มาจากคนไข้มากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ยังเกิดจากความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยนเจียระไนกับเพื่อร่วมวิชาชีพดังนั้น อวิ๋นฝูหลิงจึงไม่เคยลังเลที่จะแลกเปลี่ยนเจียระไนความรู้กับหมอท่านอื่น ๆ เลยจวบจนถึงบัดนี้ ท่านหมอจ้าวถึงได้ยอมเลื่อมใสหมดใจอย่างแท้จริงกอปรกับที่เขาตรวจโรคให้เวินจือเหิงมานานขนาดนี้ ทว่ากลับมิเคยเห็นเวินจือเหิงอาการดีขึ้นมาสักเศษเสี้ยวเลยจริงอาศัยแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ในฐานะที่เป็นหมอ เขาจึงไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้เลยท่านหมอจ้าวประสานมือแก่เวินจือเหิงและเวินเจา กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ผู้น้อยวิชาแพทย์ต่ำเตี้ยนัก!”“ดั่งคำที่ว่าคลื่นลูกหลังไล่ทับคลื่นลูกเก่า วิชาแพทย์ของท่านหมอหางผู้นี้สูงส่งกว่าผู้น้อยจริงๆ!”“ผู้น้อยละอายใจยิ่งนัก ขอตัวลา!”จบคำ ท่านหมอจ้าวก็ยกกล่องยากขึ้น ขอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 542

    เวินจือเหิงได้ยินเช่นนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปนขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้างกำผ้านวมใต้ร่างแน่นท่าทางเช่นนั้นมิเหมือนท่าทางตกใจหลังจากได้ฟังความจริง กลับดูโกรธเป็นฟืนไฟที่เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ อวิ๋นฝูหลิงเห็นเน้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางกล่าวได้เลยว่าเวินจือเหิงดูไม่เหมือนคนโง่เขลาเลยสักนิด“ดูท่าคุณชายใหญ่เวินจะรู้มานานแล้ว?”เวินจือเหิงคลายมือ ปรับอารมณ์เล็กน้อย แล้วจึงตอบคำถามของอวิ๋นฝูหลิง “แค่มีความสงสัยในใจอยู่บ้างเท่านั้น”“เพียงแต่ผู้น้อยเคยลอบให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่กลับไม่พบสิ่งใดผิดปกติเลย”“ทั้งยังเคยหาท่านหมอท่านอื่นมาแอบตรวจให้เป็นการส่วนตัวแล้ว ล้วนกล่าวว่าข้าติดเชื้อเป็นไข้หวัด ทั้งยังตรวจหาสาเหตุอื่นใดไม่เจอ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ไม่ผิด หากดูเพียงแค่ชีพจรของคุณชาย ก็จะเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ ว่าเป็นไข้หวัด”“ทั้งพิษในตัวคุณชายมิได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่เป็นค่อย ๆ ต้องพิษทีละน้อย ๆ สะสมไว้จากวันเป็นเดือนจนกลายเป็นพิษเรื้อรัง”“ท่านหมอทั่วไปย่อมดูไม่ออก”“คุณชายวาสนาดีไม่น้อยที่ได้มาพบหมอเทวดาเช่นข้า มิเช่นนั้นอย่างมากที่สุดคุณชายก็จะมีชีวิตอยู่ได้เพียงเดือนเดียว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 543

    “ถึงอย่างไรทุกวันนี้ คนที่กุมอำนาจของสกุลเวินก็คือคุณชายรองเวินเจานี่นะ”“เวินเจาจะต้องแอบคุณชายใหญ่เวินทำเรื่องนี้แน่นอน”“แต่ยิ่งมีคนเสพขี้ผึ้งทองมากขึ้น และยิ่งนานขึ้นเท่าไร คิดจะปิดบังเรื่องนี้เช่นไรก็คงปิดไม่มิด มันต้องสร้างความตระหนกไปถึงราชสำนักแน่”“แม้ว่าเวินเจาเป็นคนกระทำเรื่องนี้ แต่ถ้าพูดออกไปแล้วใครจะเชื่อกัน? เกรงว่าถึงเวลานั้นสกุลเวินทั้งสกุลจะต้องถูกลากเข้าไปพัวพันด้วยเป็นแน่”“ถึงอย่างไรเวินเจาก็เป็นถึงคุณชายรองของสกุลเวิน ถึงยามตัดสินโทษ คนทั้งสกุลเวินไม่ว่าจะนายหรือบ่าวล้วนหนีไม่พ้น!” อวิ๋นฝูหลิงพูดจนคอแห้ง จึงพักดื่มชาสักอึกทว่าเวินจือเหิงกลับฟังแล้วรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจเขาเพ่งมองอวิ๋นฝูหลิง “ท่านเป็นคนของราชสำนัก?”อวิ๋นฝูหลิงไม่ปริปากพูด ทำเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น แล้วชูจอกชาให้เขา“คุณชายใหญ่เวินลองไตร่ตรองข้อเสนอของข้าให้ดีเถิด”“ร่วมมือกับข้า คุณชายจะไม่เพียงรักษาชีวิตได้เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสรักษาสกุลเวินเชื้อสายของสกุลเวินเอาไว้ได้”“คิดแล้วคุณชายก็คงไม่ยอมให้ทั้งสกุลเวินต้องตกนรก เพียงเพราะเวินเจาเพียงคนเดียวหรอกกระมัง?”เวินจือเหิงไตร่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 544

    “พอกินหมด พิษในตัวของคุณชายก็สบายไปราว ๆ กึ่งหนึ่งแล้ว คอยดูแลบำรุงร่างกายให้ดี จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักปีครึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา”เวินจือเหิงสีหน้าแข็งค้างทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น“ยาแก้พิษนี่สลายพิษได้เพียงครึ่งเดียว?”อวิ๋นฝูหลิงโยนขวดยาที่บรรจุยาแก้พิษให้เวินจือเหิง“ให้ยาคุณชายไปครึ่งหนึ่งน่ะถูกต้องแล้ว”“หากวันนี้ข้าสลายพิษให้คุณชายหมด แล้วพรุ่งนี้คุณชายทำลายข้อตกลง มิใช่ว่าข้าต้องคว้าน้ำเหลวหรือ?”“ข้าต้องเหลือทางหนีทีไล่ให้ตัวเองด้วยสิ!”เวินจือเหิงบีบขวดยา สีหน้าไม่น่ามองเท่าไรนัก “พูดจาไร้สัจจะ นี่หรือพฤติกรรมของผู้มีคุณธรรม?” “ผู้น้อยเวินจือเหิง ดูเป็นคนต่ำช้าที่เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลเช่นนั้นหรือ?”“ท่านจะดูแคลนผู้น้อยเกินไปหน่อยกระมัง?”อวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าเขาดูเหมือนจะเดือดดาลไม่น้อย จึงได้แต่ตบบ่าเขาเบา ๆ แล้วกล่าวปลอบอย่างขอไปที “ข้าน่ะเป็นพวกทำตนชั่วช้าก่อนจะทำตนเป็นผู้มีคุณธรรม เช่นนี้ดีต่อข้ากับคุณชายแล้ว!”“อย่างไรก็ขอแค่คุณชายให้ความร่วมมือกับข้าเป็นอย่างดี ไม่กระทำตนหน้าไหว้หลังหลอก จงใจหลอกข้า ข้าย่อมสลายพิษในตัวคุณชายออกให้หมดแน่นอน!”เวินจือเหิงกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 1

    อวิ๋นฝูหลิงเพิ่งฟื้นคืนสติอย่างงงงวย ก็ถูกตบหน้าอย่างแรง“นังตัวดี ข้าชอบเจ้านั้นเป็นวาสนาของเจ้า!”“เจ้ายังกล้ากัดข้าอีกหรือ? แรงแค่นี้คิดว่าสามารถหนีพ้นจากเงื้อมมือของข้าได้งั้นหรือ?”“ปรนนิบัติข้ากับพวกพี่น้องให้มีความสุขแต่โดยดี แล้วข้าจะปล่อยเจ้ากับเจ้าเด็กนั่น!”“ไม่เช่นนั้น รอพวกเราพี่น้องทุกคนสนุกกับเจ้าจนพอแล้ว จะขายพวกเจ้าสองแม่ลูกให้ซ่องเสีย!”ความรู้สึกเจ็บแสบที่แก้ม ทำให้สติของอวิ๋นฝูหลิงแจ่มชัดขึ้นหลายส่วนความโกรธอันไร้ขอบเขตพลุ่งพล่านอยู่ในก้นบึ้งหัวใจนางนางเป็นหมอเทวดาที่ได้รับความเคารพมากที่สุดในฐานปฏิบัติการโลกวิบัติ ใครหน้าไหนมันอยากตายถึงกล้าทำแบบนี้กับนาง?นางลืมตาขึ้น ก็มองเห็นชายคนหนึ่งที่กำลังกุมใบหูที่มีเลือดไหลพลางฉีกกระชากเสื้อผ้าของนางด้วยสีหน้าหื่นกามและยังมีผู้ชายอีกหลายคนยืนเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ อย่างหยาบคาย“นังตัวดีนี่นิสัยรุนแรงใช้ได้ เมื่อครู่เกือบกัดหูลูกพี่ขาด”“นิสัยรุนแรงแบบนี้สิถึงจะมีรสชาติ…”“ลูกพี่ ท่านรีบจัดการเถอะ พวกเรายังรอสนุกอยู่นะ อีกเดี๋ยวมีคนมาก็อดหรอก”“วางใจเถอะ วันนี้ฝนตกหนักเช่นนี้ ไม่มีคนมาแน่นอน พวกเรามีเวลาอีกเยอะ ค

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 2

    ระหว่างฟ้าดินที่ถูกหมอกปกคลุม เรือนไผ่สองชั้นหลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางภายในเรือนไผ่เก็บทรัพยากรต่างๆ ที่อวิ๋นฝูหลิงรวบรวมมาได้ในโลกวิบัติ อวิ๋นฝูหลิงเดินวนในเรือนไผ่หนึ่งรอบ พบว่าทรัพยากรเหล่านั้นยังอยู่ นางรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในทันทีด้านซ้ายของเรือนไผ่เป็นแปลงสมุนไพร ปลูกสมุนไพรนานาชนิดส่วนด้านขวามีหินย้อยก้อนหนึ่ง ห้อยอยู่กลางอากาศตรงปลายแหลมของหินย้อย มีน้ำหยดหนึ่งเกาะอยู่ หยดน้ำจะร่วงแหล่มิร่วงแหล่ส่วนด้านล่างของหินย้อยมีชามหินหนึ่งใบ ใช้สำหรับรองหยดน้ำที่หยดลงมาจากหินย้อยเวลานี้ในชามหินรองน้ำได้ครึ่งชามแล้วน้ำนี้เทียบได้กับยาวิเศษ เป็นของที่ดีมากคนทั่วไปดื่มสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกาย ร้อยโรคไม่กล้ำกราย คนป่วยดื่มสามารถขจัดร้อยโรค ฮึกเหิมประดุจมังกรและเสือผาดโผนในพริบตาเวลาปรุงยาเพิ่มหนึ่งหยด สามารถกระตุ้นสรรพคุณยา เพิ่มประสิทธิภาพเพียงแต่หยดน้ำแห่งจิตวิญญาณนี่หยดช้ามาก เก็บมานานสามเดือนกว่าเพิ่งจะได้แค่ครึ่งชามแต่สามารถมีหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณเช่นนี้ครึ่งชาม อวิ๋นฝูหลิงก็ดีใจมากแล้วนางรีบนำหยดน้ำแห่งจิตวิญญาณจากมิติมาดื่มสองอึกทันทีกระแสอุ่นสายหน

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 544

    “พอกินหมด พิษในตัวของคุณชายก็สบายไปราว ๆ กึ่งหนึ่งแล้ว คอยดูแลบำรุงร่างกายให้ดี จะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักปีครึ่งก็ไม่ใช่ปัญหา”เวินจือเหิงสีหน้าแข็งค้างทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น“ยาแก้พิษนี่สลายพิษได้เพียงครึ่งเดียว?”อวิ๋นฝูหลิงโยนขวดยาที่บรรจุยาแก้พิษให้เวินจือเหิง“ให้ยาคุณชายไปครึ่งหนึ่งน่ะถูกต้องแล้ว”“หากวันนี้ข้าสลายพิษให้คุณชายหมด แล้วพรุ่งนี้คุณชายทำลายข้อตกลง มิใช่ว่าข้าต้องคว้าน้ำเหลวหรือ?”“ข้าต้องเหลือทางหนีทีไล่ให้ตัวเองด้วยสิ!”เวินจือเหิงบีบขวดยา สีหน้าไม่น่ามองเท่าไรนัก “พูดจาไร้สัจจะ นี่หรือพฤติกรรมของผู้มีคุณธรรม?” “ผู้น้อยเวินจือเหิง ดูเป็นคนต่ำช้าที่เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพลเช่นนั้นหรือ?”“ท่านจะดูแคลนผู้น้อยเกินไปหน่อยกระมัง?”อวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าเขาดูเหมือนจะเดือดดาลไม่น้อย จึงได้แต่ตบบ่าเขาเบา ๆ แล้วกล่าวปลอบอย่างขอไปที “ข้าน่ะเป็นพวกทำตนชั่วช้าก่อนจะทำตนเป็นผู้มีคุณธรรม เช่นนี้ดีต่อข้ากับคุณชายแล้ว!”“อย่างไรก็ขอแค่คุณชายให้ความร่วมมือกับข้าเป็นอย่างดี ไม่กระทำตนหน้าไหว้หลังหลอก จงใจหลอกข้า ข้าย่อมสลายพิษในตัวคุณชายออกให้หมดแน่นอน!”เวินจือเหิงกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 543

    “ถึงอย่างไรทุกวันนี้ คนที่กุมอำนาจของสกุลเวินก็คือคุณชายรองเวินเจานี่นะ”“เวินเจาจะต้องแอบคุณชายใหญ่เวินทำเรื่องนี้แน่นอน”“แต่ยิ่งมีคนเสพขี้ผึ้งทองมากขึ้น และยิ่งนานขึ้นเท่าไร คิดจะปิดบังเรื่องนี้เช่นไรก็คงปิดไม่มิด มันต้องสร้างความตระหนกไปถึงราชสำนักแน่”“แม้ว่าเวินเจาเป็นคนกระทำเรื่องนี้ แต่ถ้าพูดออกไปแล้วใครจะเชื่อกัน? เกรงว่าถึงเวลานั้นสกุลเวินทั้งสกุลจะต้องถูกลากเข้าไปพัวพันด้วยเป็นแน่”“ถึงอย่างไรเวินเจาก็เป็นถึงคุณชายรองของสกุลเวิน ถึงยามตัดสินโทษ คนทั้งสกุลเวินไม่ว่าจะนายหรือบ่าวล้วนหนีไม่พ้น!” อวิ๋นฝูหลิงพูดจนคอแห้ง จึงพักดื่มชาสักอึกทว่าเวินจือเหิงกลับฟังแล้วรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจเขาเพ่งมองอวิ๋นฝูหลิง “ท่านเป็นคนของราชสำนัก?”อวิ๋นฝูหลิงไม่ปริปากพูด ทำเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น แล้วชูจอกชาให้เขา“คุณชายใหญ่เวินลองไตร่ตรองข้อเสนอของข้าให้ดีเถิด”“ร่วมมือกับข้า คุณชายจะไม่เพียงรักษาชีวิตได้เท่านั้น แต่ยังมีโอกาสรักษาสกุลเวินเชื้อสายของสกุลเวินเอาไว้ได้”“คิดแล้วคุณชายก็คงไม่ยอมให้ทั้งสกุลเวินต้องตกนรก เพียงเพราะเวินเจาเพียงคนเดียวหรอกกระมัง?”เวินจือเหิงไตร่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 542

    เวินจือเหิงได้ยินเช่นนั้น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปนขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้างกำผ้านวมใต้ร่างแน่นท่าทางเช่นนั้นมิเหมือนท่าทางตกใจหลังจากได้ฟังความจริง กลับดูโกรธเป็นฟืนไฟที่เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ อวิ๋นฝูหลิงเห็นเน้นก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยนางกล่าวได้เลยว่าเวินจือเหิงดูไม่เหมือนคนโง่เขลาเลยสักนิด“ดูท่าคุณชายใหญ่เวินจะรู้มานานแล้ว?”เวินจือเหิงคลายมือ ปรับอารมณ์เล็กน้อย แล้วจึงตอบคำถามของอวิ๋นฝูหลิง “แค่มีความสงสัยในใจอยู่บ้างเท่านั้น”“เพียงแต่ผู้น้อยเคยลอบให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่กลับไม่พบสิ่งใดผิดปกติเลย”“ทั้งยังเคยหาท่านหมอท่านอื่นมาแอบตรวจให้เป็นการส่วนตัวแล้ว ล้วนกล่าวว่าข้าติดเชื้อเป็นไข้หวัด ทั้งยังตรวจหาสาเหตุอื่นใดไม่เจอ”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ไม่ผิด หากดูเพียงแค่ชีพจรของคุณชาย ก็จะเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ ว่าเป็นไข้หวัด”“ทั้งพิษในตัวคุณชายมิได้เกิดขึ้นในวันเดียว แต่เป็นค่อย ๆ ต้องพิษทีละน้อย ๆ สะสมไว้จากวันเป็นเดือนจนกลายเป็นพิษเรื้อรัง”“ท่านหมอทั่วไปย่อมดูไม่ออก”“คุณชายวาสนาดีไม่น้อยที่ได้มาพบหมอเทวดาเช่นข้า มิเช่นนั้นอย่างมากที่สุดคุณชายก็จะมีชีวิตอยู่ได้เพียงเดือนเดียว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 541

    เทียบยานั้นไร้ชีวิต คนไข้กับท่านหมอต่างหากที่มีชีวิตจิตใจรู้เพียงแค่เรื่องเทียบยานั้นไร้ประโยชน์ต้องรู้ว่าคนไข้มีอาการเช่นไร เทียบยาอะไรที่เหมาะกับคนไข้มากที่สุดต่างหากจึงจะสำคัญที่สุดและเส้นทางการเป็นหมอนั้น ให้ความสำคัญกับการสั่งสมประสบการณ์การสั่งสมประสบการณ์นี้ นอกจากจะได้มาจากคนไข้มากมายนับไม่ถ้วนแล้ว ยังเกิดจากความรู้ความเข้าใจที่ได้แลกเปลี่ยนเจียระไนกับเพื่อร่วมวิชาชีพดังนั้น อวิ๋นฝูหลิงจึงไม่เคยลังเลที่จะแลกเปลี่ยนเจียระไนความรู้กับหมอท่านอื่น ๆ เลยจวบจนถึงบัดนี้ ท่านหมอจ้าวถึงได้ยอมเลื่อมใสหมดใจอย่างแท้จริงกอปรกับที่เขาตรวจโรคให้เวินจือเหิงมานานขนาดนี้ ทว่ากลับมิเคยเห็นเวินจือเหิงอาการดีขึ้นมาสักเศษเสี้ยวเลยจริงอาศัยแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ในฐานะที่เป็นหมอ เขาจึงไม่คู่ควรกับตำแหน่งนี้เลยท่านหมอจ้าวประสานมือแก่เวินจือเหิงและเวินเจา กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ผู้น้อยวิชาแพทย์ต่ำเตี้ยนัก!”“ดั่งคำที่ว่าคลื่นลูกหลังไล่ทับคลื่นลูกเก่า วิชาแพทย์ของท่านหมอหางผู้นี้สูงส่งกว่าผู้น้อยจริงๆ!”“ผู้น้อยละอายใจยิ่งนัก ขอตัวลา!”จบคำ ท่านหมอจ้าวก็ยกกล่องยากขึ้น ขอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 540

    หมอจ้าวได้ยินก็ขมวดคิ้ว หลังจากได้รับการอนุญาตจากเวินจือเหิง ก็ตรวจชีพจรของเขาอีกครั้งครั้งนี้ หมอจ้าวตรวจชีพจรนานขึ้นแต่หลังจากเขาตรวจอยู่นาน ก็ยังตรวจชีพจรออกแค่ว่าเป็นโรคต้องลมเย็น ส่วนอาการปอดร้อน ฟังชีพจรไม่ออกแม้แต่นิดเดียวจริง ๆเขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยในทักษะแพทย์ของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่งแอบคิดว่าทักษะแพทย์ของเขาสู้เด็กวัยรุ่นที่อายุยี่สิบปีคนหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ?อวิ๋นฝูหลิงมองท่าทางสงสัยในชีวิตของหมอจ้าวออก ในใจก็แอบขอโทษประโยคหนึ่งดูจากชีพจรของเวินจือเหิง เหมือนเป็นแค่อาการป่วยจากการต้องไอเย็นจริง ๆ ส่วนอาการปอดร้อนอันใด ล้วนเป็นนางที่พูดไร้สาระเท่านั้นในส่วนของอาการกระหายน้ำปวดหัวที่นางถามเวินจือเหิง และเวินจือเหิงก็พยักหน้าตอบรับ สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นอาการป่วยที่เกิดจากการถูกวางยาพิษอาการเหล่านี้คล้ายกับอาการปอดร้อนอยู่บ้าง ดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงใช้โรคปอดร้อนเป็นข้ออ้างนางต้องการแทนที่หมอจ้าว กลายมาเป็นหมอประจำตัวของเวินจือเหิง จึงต้องมีเหตุผลดี ๆ สักข้อหนึ่งเดิมทีวิธีที่ดีที่สุดก็คือการขัดคอหมอจ้าว และตอกย้ำถึงทักษะแพทย์ที่โดดเด่นกว่าของนางแต่หลังจากพูดคุย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 539

    หมอจ้าวลูบเคราขาว และพยักหน้ากล่าวว่า “หมอหางพูดมีเหตุผล”“ในวงการแพทย์ แม้คนที่มีอายุมากกว่า จะยิ่งมีประสบการณ์มาก และทักษะแพทย์ก็ย่อมยอดเยี่ยม”“แต่ก็มิใช่ว่าจะเป็นเช่นนี้ทุกคน”“ได้ยินว่าคุณหนูใหญ่อวิ๋นท่านนั้นจากสกุลอวิ๋นจวนจี้ชุนโหว อายุเพียงยี่สิบปี ทักษะแพทย์กลับเทียบเคียงเจ้าสำนักโอวหยาง ถึงขั้นเก่งกาจกว่าในการรักษาบางโรคด้วย”“ทักษะแพทย์สูงส่ง จนคนต้องชื่นชมว่าสมกับที่เป็นทายาทของผู้อาวุโสอวิ๋น”“ด้วยเหตุนี้ เรื่องในวงการนี้จึงไม่อาจสรุปได้ด้วยมาตรฐานเดียว!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นว่าคำพูดหมอจ้าวมีความยุติธรรม ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกดีต่อเขามากขึ้นเดิมทีนางวางแผนว่าหากเวินเจายังพูดจ้อต่อไป ก็จะใช้ความล้มเหลวในการรักษาเวินจือเหิงของหมอจ้าวที่ผ่านมาเป็นเหตุผลโต้แย้งแต่เมื่อเห็นหมอจ้าวไม่เหมือนว่าจะเป็นหมอไร้คุณธรรมที่สมรู้ร่วมคิดกับเวินเจา นางก็ล้มเลิกแผนการนี้ทันทีหมอจ้าวคนนี้ดูเป็นคนที่ไม่เลวทีเดียว นางแค่คิดจะมารักษาเวินจือเหิง เพื่อเป็นพันมิตรกับเขา และเพื่อได้รับความช่วยเหลือจากเขาไม่ได้มีความแค้นกับหมอจ้าว จึงไม่จำเป็นต้องเหยียบย่ำเขาขึ้นไป ทำลายชื่อเสียงของเขา จนทำให้

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 538

    หมอจ้าวรู้ดีว่าสกุลใหญ่ล้วนมีแผนการเบื้องหลังมากมายที่ไม่อาจเปิดเผยต่อสาธารณชนได้โดยเฉพาะสกุลเวินที่กำลังอยู่ในช่วงต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในคุณชายใหญ่เวินที่ร่างกายแข็งแรงมาตลอด กลับล้มป่วยอย่างกะทันหัน ย่อมทำให้คนคิดมากจริง ๆหมอจ้าวไม่กล้าพูดว่าทักษะแพทย์ของตัวเองยอดเยี่ยมที่สุดในแคว้นต้าฉี แต่จริยธรรมแพทย์ที่พึงมี เขาไม่กล้าละทิ้งมันไปเด็ดขาดเขาสามารถทนฟังคนอื่นบอกว่าทักษะแพทย์ของเขาไม่ดีได้ แต่ไม่อาจทนถูกคนอื่นสงสัยในการกระทำได้โดยเด็ดขาดมิเช่นนั้นในภายภาคหน้าเขาจะยังยืนหยัดอยู่ในวงการแพทย์ได้อย่างไร?หลังจากมั่วซูถูกเวินจือเหิงดุ ก็ขอโทษหมอจ้าวทันที “หมอจ้าว ขออภัยขอรับ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น”หมอจ้าวได้ยินคำพูดนี้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง“ไม่ทราบว่าในจวนยังมีกากยาที่เคยต้มอยู่หรือไม่?”มั่วซูตอบกลับ “เมื่อเช้าเพิ่งต้มยา น่าจะยังมีกากยาอยู่ขอรับ”หมอจ้าว “เช่นนั้นรบกวนคุณชายใหญ่ส่งคนไปนำกากยามา มีปัญหาหรือไม่ ข้าเห็นก็ย่อมรู้ได้”เวินจือเหิงพยักหน้าให้มั่วซูพลางกล่าว “ไปนำกากยามา”เวินเจาเห็นมั่วซูไปนำกากยามา แม้กากยานั้นย่อมตรวจไม่พบปัญหา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 537

    เวินเจาหวั่นใจ รีบผลักคนเฝ้าประตูออก และก้าวไล่ตามไปอย่างรวดเร็วมั่วซูนำทั้งกลุ่มไปยังเรือนชิวถังที่เวินจือเหิงพักอยู่อย่างว่องไวเวินจือเหิงเห็นมั่วซูนำคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ในกลุ่มนั้นยังมีหมอจ้าวจากสำนักโซ่วอันด้วยเมื่อมองพิจารณาอีกครา สตรีผู้นั้นที่บุกรุกเข้ามาในห้องของเขาเมื่อคืนก็อยู่ด้วยเช่นกัน เพียงแต่วันนี้แต่งกายเป็นบุรุษเขาอดไม่ได้ที่จะตกใจคนทั้งสองกลุ่มมาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร?นี่มันสถานการณ์อันใดกัน?คนทั้งสองกลุ่มเผชิญหน้ากันตอนนี้ สตรีผู้นั้นไม่เพียงแต่ไม่ถูกคนเปิดโปง ทว่ากลับเข้ามาในสกุลเวินอย่างเปิดเผย ดูท่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง!เวินจือเหิงทั้งรู้สึกสับสนทั้งรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ แต่ภายนอกกลับยังสงบนิ่งโชคดีที่มั่วซูเป็นคนมีไหวพริบเมื่อเข้ามาในห้องก็ตะโกนว่า “คุณชาย ท่านมิได้บอกว่าไม่สบาย จึงให้ข้าไปเชิญหมอมาให้ท่านหรือ ท่านเดาสิขอรับว่าเป็นอย่างไร?”เขาส่งเสียง “นี่” ครั้งหนึ่ง และกะพริบตาให้เวินจือเหิง พลางแสดงละครต่อไปขณะพูด “ช่างบังเอิญเสียจริง ทันทีที่ข้าไปถึงประตูใหญ่ ก็บังเอิญเจอหมอจ้าว ทั้งยังมีหมอหางจากสำนักผิงอันท่านนี้ด้วยขอรับ”“ข้ารีบเชิญพวก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 536

    แม้ว่าเวินเจาจะมั่นใจว่าหมอธรรมดา ไม่อาจมองปัญหาบนร่างของเวินจือเหิงออกตั้งแต่เวินจือเหิงป่วย ก็ได้เชิญหมอมาไม่รู้ตั้งกี่คน หมอชื่อดังใกล้จินโจวก็เชิญมาไม่น้อย แต่ก็ยังไม่มีหนทางทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด วันนี้เมื่อเห็นอวิ๋นฝูหลิง จู่ ๆ เขาก็รู้สึกไม่แน่ใจขึ้นมาเมื่อครู่เขาได้ยินหมอจ้าวบอกแล้ว ป้ายหยกลายเห็ดหลินจือชิ้นนั้นในมือของอวิ๋นฝูหลิงไม่ธรรมดาเป็นอย่างยิ่งมีเพียงทายาทสายตรงหรือศิษย์สายตรงของสกุลหางเท่านั้น ที่จะได้รับอนุญาตให้พกติดตัวทักษะแพทย์ของสกุลหางได้รับสืบทอดมาจากผู้อาวุโสอวิ๋นจี้ชุนโหวทักษะแพทย์ของคนผู้นั้นไม่เป็นสองรองใคร เป็นผู้ที่ได้บรรดาศักดิ์โดยอาศัยแค่ทักษะแพทย์คนเช่นนี้ คาดว่าในปัจจุบันมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น!หมอคนอื่นมองลับลมคมในบนร่างของเวินจือเหิงไม่ออก แต่คนของสกุลหาง อาศัยทักษะแพทย์ของพวกเขา คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมองไม่ออกดังนั้นตั้งแต่เวินจือเหิงป่วย เวินเจาก็หลีกเลี่ยงการเชิญหมอจากสำนักผิงอันมาตรวจอาการมาโดยตลอดแม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็หาหมอที่มีทักษะแพทย์ธรรมดาจากสำนักผิงอันมาหมอเหล่านั้นที่เป็นสายตรงของสกุลหาง เขาล้วนไม่กล้าพามาทุกอย่างตั้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status