แชร์

บทที่ 340

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
แผนการของอวิ๋นซานหูล้มเหลว ทั้งยังถูกอวิ๋นฝูหลิงเห็นกันจะจะ คาหนังคาเขา ในใจพลันกระวนกระวายไม่เป็นสุข กำลังกลัดกลุ้มคิดไม่ตกว่าควรจะทำเช่นไรดี

ครั้นได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเช่นนั้น นางก็รู้แจ้งราวกับมีน้ำมนต์ราดลงบนศีรษะ พยักหน้าราวกับกำลังตำกระเทียมพลางกล่าวว่า “ใช่แล้ว จวนอ๋องใหญ่เกินไป ข้าเลยหลงทางโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วบังเอิญมาเจอท่านอ๋องเข้า...”

ไม่รั้งรอให้นางได้กล่าวจนจบ อวิ๋นฝูหลิงก็หันไปมองสาวใช้ที่คอยตามอวิ๋นซานหูไม่ห่างผู้นั้น

สาวใช้ผู้นั้นมีไหวพริบปฏิภาณยิ่ง รีบเอ่ยปากทันทีว่า “กราบทูลพระชายา บ่าวคอยตามแม่นางซานหูมาตลอดทาง ทั้งคอยเตือนนางเรื่องทางไปเรือนหลักอยู่หลายครั้งหลายหน ทว่านางกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งยังพูดว่าก่อนจะไปจากจวนอ๋องก็ขอเดินเล่นในจวนอ๋องสักหน่อย ด้วยวันข้างหน้าคงไม่มีโอกาสอีก”

“เมื่อครู่บ่าวได้ยินเสียงพูดคุยของท่านอ๋อง เดิมทีคิดจะหลบเลี่ยงไป แต่พอแม่นางซานหูได้ยินเสียงของท่านอ๋องเข้า นางไม่เพียงไม่หลบเลี่ยง ซ้ำยังตรงดิ่งไปทางท่านอ๋องด้วยเพคะ”

“เดิมทีบ่าวอยากจะขัดขวางไว้ ทว่าจนใจที่แม่นางซานหูเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ชั่วพริบตานั้นบ่าวเลยขวางไว้ไม่ทัน”

คว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Lalipatr Saokaew
กำลังรอชมบทต่อๆไปช่วยลงยาวๆด้วยขอบคุณค่ะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 341

    อวิ๋นฝูหลิงมองอวิ๋นซานหูถูกลากไปอย่างเย็นชาจะโทษก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ตนใจอ่อนเกินไปนางสามารถเอากิจการของจวนจี้ชุนโหวกลับคืนมา เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของครอบครัวอวิ๋นกานซง ในนั้นก็มีผลงานของอวิ๋นซานหูอยู่หลายส่วนเช่นกันแม้นี่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยน แต่อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขั้นหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ฆ่าคนปิดปากโดยตรงดังนั้นเดิมทีนางได้เตรียมเส้นทางที่เป็นไปตามยถากรรมไว้ให้อวิ๋นซานหูถ้าหากนางมีความสามารถที่จะอยู่รอด ไม่ว่าเลือกเส้นทางใดก็เป็นทางที่นางเลือกเอง จะเป็นหรือร้ายล้วนเป็นชะตากรรมของนางแต่ตอนนี้นางกล้าเล่นกับไฟ อวิ๋นฝูหลิงย่อมเก็บนางไว้ไม่ได้แล้ว!หลังจากจัดการอวิ๋นซานหูเสร็จ อวิ๋นฝูหลิงยังไม่หายโมโหหางตานางเหลือบมองเซียวจิ่งอี้ที่อยู่ข้างๆ แม้รู้ว่าเรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา อีกทั้งเขายังหลบเลี่ยงการเข้าใกล้ของอวิ๋นซานหูทันเวลา ทำให้แผนของนางไม่สำเร็จ จัดการได้ดีมากแต่นางก็ยังโมโหเซียวจิ่งอี้อย่างอธิบายไม่ถูก“ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ!”อวิ๋นฝูหลิงจ้องเขม็งใส่เซียวจิ่งอี้แวบหนึ่ง พูดทิ้งท้ายห้าคำนี้จบ ก็หมุนกายเดินจากไปแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเซียวจิ่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 342

    จิงมั่วทำปากจู๋ “พวกท่านสองคนเป็นพ่อแม่ของข้า พวกท่านทะเลาะกัน ข้าจะไม่สนใจได้อย่างไร?”ท่านพ่อไม่ได้เรื่อง เขาต้องลงมือเองแล้วถ้าหากไม่มีเขา ครอบครัวนี้จะทำอย่างไร!ท่าทางนั่นของท่านพ่อ แค่ดูก็ดูว่าง้อผู้หญิงไม่เป็นเขาที่เป็นลูกชายคนนี้ต้องช่วยแล้ว“ท่านแม่ ถ้าหากท่านพ่อทำผิดจริงๆ ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน และช่วยท่านระบายความคับข้องใจแน่นอน”“แต่โบราณว่าไว้ รู้ผิดรู้แก้ไขคือยอดคน หากท่านพ่อยอมรับผิด ท่านแม่ก็ให้อภัยเขาสักครั้งดีหรือไม่ขอรับ?”อวิ๋นฝูหลิงมองลูกชายที่ทำตาคาดหวังและไม่สบายใจ จึงจะตระหนักว่าความรู้สึกแย่ๆ ของตัวเอง ส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวแล้วสำหรับจิงมั่ว ท่านพ่อท่านแม่ล้วนอยู่ข้างกาย มีครอบครัวที่สมบูรณ์ คือความปรารถนาที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจเขาไม่ต้องการให้ทุกสิ่งที่เขามีในวันนี้ถูกทำลายกลายเป็นเพียงความฝันอวิ๋นฝูหลิงจึงจะรู้ตัว ตนไม่ควรทำเช่นนี้นางลูบศีรษะของจิงมั่ว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่ไม่ได้ทะเลาะกับพ่อเจ้า แม่เจอปัญหาการค้าขายนิดหน่อย ดังนั้นจึงอารมณ์ไม่ดี” “แม่ผิดไปแล้ว แม่ไม่ควรให้ความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อพวกเจ้า”กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงคีบ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 343

    อวิ๋นฝูหลิงตกใจกับการกระทำของเซียวจิ่งอี้ กล่าวโดยไม่รู้ตัว “ท่านจะทำอะไร? รีบวางข้าลงเดี๋ยวนี้นะ”เซียวจิ่งอี้หัวเราะเบาๆ “เจ้ายั่วข้าเอง เจ้าว่าข้าจะทำอะไร?”“คืนนี้ทิวทัศน์งดงาม พลาดไม่ได้”“ก่อนหน้านี้บอกว่าจะคลอดน้องสาวให้จิงมั่วไม่ใช่หรือ ข้าว่าเราควรพยายามให้มากๆ จึงจะถูก!”กล่างพลางอุ้มอวิ๋นฝูหลิงเข้าไปในห้องนอนเรือนหลักแล้วเช้าวันต่อมาตอนที่อวิ๋นฝูหลิงตื่น เซียวจิ่งอี้ไม่อยู่ข้างกายนางแล้วอวิ๋นฝูหลิงนวดเอวที่เมื่อยล้า แอบกัดฟันสาวใช้หงจูที่เฝ้าอยู่นอกม่านได้ยินเสียง ก็รีบถามผ่านม่านทันที “พระชายา ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นฝูหลิงขานรับทีหนึ่งหงจูรีบดึงม่านออก ช่วยอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนชุดหงอวี้ที่อยู่ด้านข้างเดินออกจากห้องชั้นใน สั่งให้คนยกของที่ใช้ล้างหน้าล้างตาเข้ามาหงอวี้กับหงจูเป็นสาวใช้ที่ส่งมารับใช้อวิ๋นฝูหลิง หลังจากที่นางเข้าจวนอ๋องทั้งสองคนหนึ่งหนักแน่น คนหนึ่งมีไหวพริบ รับผิดชอบชีวิตประจำวันของอวิ๋นฝูหลิงอวิ๋นฝูหลิงถาม “ท่านอ๋องเล่า?”หงจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ ท่านอ๋องไปประชุมตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ ก่อนไปยังได้กำชับให้พวกบ่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 344

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงแต่งตัวเสร็จ นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่นัดจะไปรักษา หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ก็แบกกล่องยาออกจากจวนแล้วแต่ก่อนออกจากจวน อวิ๋นฝูหลิงแวะไปหาจิงมั่วก่อนทันทีที่เข้าเรือน ก็ได้ยินเสียงอ่านหนังสือแล้วอวิ๋นฝูหลิงส่งสัญญาณมือให้คนรับใช้ สั่งทุกคนห้ามส่งเสียงรอหลังจากเข้าใกล้แล้ว จึงได้ยินเสียงสอนหนังสือของอาจารย์อาจารย์เสวียนที่เซียวจิ่งอี้เชิญมาท่านนี้เป็นบัณฑิตชั้นสูงสองสาขา มีความรู้ความสามารถ แต่น่าเสียดายเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เหมาะกับแวดวงขุนนางต่อมาถูกเพื่อนร่วมงานจับผิด จึงลาออกจากการเป็นขุนนางด้วยความโกรธเซียวจิ่งอี้เสียดายความสามารถ จึงเชิญเขาเข้าจวนมาเป็นอาจารย์อาจารย์เสวียนไม่สนใจเส้นทางขุนนาง ดังนั้นจึงมุ่งความสนใจไปที่การเป็นอาจารย์ อบรมสั่งสอนลูกศิษย์อวิ๋นฝูหลิงฟังอยู่ครู่หนึ่ง คิดในใจว่าอาจารย์เสวียนท่านนี้พอจะมีของจริงๆคัมภีร์ ประวัติศาสตร์ กวี ศาสนา สอนโดยไม่ต้องนึก สร้างสรรค์น่าสนใจขณะเดียวกับที่สอนจิงมั่วรู้จักตัวหนังสือ เขายังสอดแทรกปรัชญาชีวิต หรือบุคคลในประวัติศาสตร์ เล่าให้จิงมั่วฟังเหมือนเป็นนิทานส่วนจิงมั่วก็ฟังอย่างสนอกสนใจ เห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 345

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงถามไถ่อย่างเรียบง่าย ก็ตรวจชีพจรให้วั่นเฉิง จึงจะเริ่มการเริ่มฝังเข็มของวันนี้สวินเส้าคังคอยเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งลงเข็มแรก สวินเส้าคังก็พบว่าวิชาเข็มของอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนไป วิชาเข็มที่ใช้ในวันนี้ไม่เหมือนที่ใช้เมื่อหลายวันก่อนรอหลังจากฝังเข็มเสร็จ บนหน้าผากอวิ๋นฝูหลิงเต็มไปด้วยเหงื่อ แทบจะหมดแรงแล้วเดิมทีการฝังเข็มต้องใช้สมาธิอย่างมาก เวลาลงเข็มต้องจดจ่อเป็นพิเศษอีกทั้งวันนี้นางยังเปลี่ยนวิชาเข็มชุดใหม่ ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิมแล้วสวินเส้าคังประคองอวิ๋นฝูหลิงไปนั่งเก้าอี้ที่ข้างๆ หลังจากนั้นหมุนกายไปรินน้ำชาอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งล่วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ตรงหน้าก็มีน้ำชาเพิ่มมาหนึ่งถ้วย“ขอบคุณศิษย์พี่สวิน!”อวิ๋นฝูหลิงรับน้ำชา เผยอยิ้มกล่าวขอบคุณรอหลังจากดื่มน้ำชาไปแล้วสองถ้วย สวินเส้าคังจึงจะเอ่ยปากขอคำชี้แนะ “ศิษย์น้องอวิ๋น วันนี้เจ้าเปลี่ยนวิชาเข็มชุดใหม่ วิชาเข็มชุดนี้ประณีตนัก”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ถกเถียงวิชาเข็มกับสวินเส้าคังหลายประโยคฮูหยินวั่นเฝ้าลูกชายอยู่ที่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ได้รบกวนพวกเขาสองคนอวิ๋นฝูหลิงรู้สึกว่าได

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 346

    สวินเส้าคังไม่อยากให้ตำแหน่งผู้นำตระกูลตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น อีกทั้งถ้าหากบ้านสายหลักเสียตำแหน่งผู้นำตระกูล วันข้างหน้าคิดจะเอากลับคืนมาก็ไม่ง่ายเช่นนั้นแล้วเกรงว่าตั้งแต่นี้ไปบ้านสายหลักยังจะถูกกดขี่หลังจากสวินเส้าอันพิจารณา แต่งตั้งสวินเส้าคังเป็นผู้นำตระกูลโดยตรงนับตั้งแต่อดีตลูกชายสืบทอดกิจการบิดา พี่ชายตายน้องชายรับช่วงต่อ สวินเส้าอันไม่มีทายาท ดังนั้นส่งต่อกิจการครอบครัวให้น้องชายที่เกิดจากบิดามารดาเดียวกัน ไม่มีใครพูดอะไรได้แต่ช่วยไม่ได้เจตจำนงของสวินเส้าคังคือฝีมือการแพทย์ โดยเฉพาะหลายปีนี้เร่ร่อนไปทั่ว เพื่อหาเบาะแสของอวิ๋นฝูหลิงช่วงก่อนเขาได้รับจดหมายจากทางบ้าน สภาพร่างกายของพี่ใหญ่แย่ลงเรื่อยๆ เร่งเร้าให้เขากลับเจียงเป่ยเพื่อรับช่วงต่อกิจการครอบครัวสวินเส้าคังลังเลมาโดยตลอดเขารู้ว่าตัวเองควรกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นี่คือความรับผิดชอบที่เขาควรแบกรับในฐานะคนสกุลสวินอีกทั้งอวิ๋นฝูหลิงก็หาเจอแล้ว เขาก็ควรกลับเจียงเป่ยแล้วแต่เขาก็ทำใจทิ้งอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ และไม่อยากละทิ้งเจตจำนงของตัวเองอวิ๋นฝูหลิงเห็นสีหน้าสวินเส้าคังดูไม่ได้นัก อดไม่ได้ที่จะกล่าว “เก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 347

    เมื่อสวินเส้าคังได้ยินคำพูดนี้ของอวิ๋นฝูหลิง ก็อารมณ์ดีทันทีความกังวลทั้งหมดหายไปในพริบตาแต่ว่าหลังจากได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายที่มีเจตนาหยอกล้อแฝงอยู่ เขาก็โต้กลับทันที “ไม่มีทาง เรื่องแค่นี้ข้ายังรู้จักแยกแยะอยู่” อวิ๋นฝูหลิงยิ้มจนคิ้วโก่ง จู่ๆ นางก็นึกอะไรขึ้นได้ เอ่ยปากกล่าว “ใช่แล้ว เจียงเป่ยก็มีสาขาของสำนักช่วยชีพ”“เช่นนี้ก็แล้วกัน ข้ายกสาขาของสำนักช่วยชีพทั้งหมดที่อยู่ในเจียงเป่ยให้ท่านดูแล”“รอหลังจากท่านกลับถึงเจียงเป่ย ถ้าหากวันไหนอยากรักษาคน สามารถไปเป็นหมอที่สำนักช่วยชีพโดยตรงเลย”“เป็นอย่างไร?”เมื่อสวินเส้าคังได้ยิน ยกมือชี้อวิ๋นฝูหลิงแล้วชี้อีก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เจ้าอยากดึงข้าเข้าสำนักช่วยชีพทางอ้อม เพื่อเสริมหน้าตาให้เจ้าสินะ”“และยังช่วยเจ้าดูแลการค้าของเจ้าแล้ว”“ยิงธนูครั้งเดียวได้นกสามตัว ไม่มีใครฉลาดกว่าเจ้าแล้วจริงๆ!”อวิ๋นฝูหลิงยิ้มแหะๆ รินน้ำชาให้สวินเส้าคังถ้วยหนึ่ง“ก็ตอนนี้ข้ากำลังขาดหมอ โดยเฉพาะหมอที่มีฝีมือเลิศล้ำอย่างศิษย์พี่สวิน!”“อีกอย่างนะ พวกเราเป็นใคร ท่านปฏิเสธข้าได้ลงคอจริงๆ หรือ?”“อีกทั้งพวกเรายังเป็นการร่วมมือที่ต่างฝ่ายต่างได

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 348

    อวิ๋นฝูหลิงได้ส่งบัตรเชิญของการประชุมใหญ่แวดวงแพทย์ในนามของผู้นำตระกูลสกุลอวิ๋นแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่นางปรากฏตัวในแวดวงการแพทย์อย่างเป็นทางการในฐานะผู้นำตระกูลสกุลอวิ๋นกับหมอถึงเวลานั้น ต้องเผชิญหน้ากับการตั้งคำถามและหาเรื่องแน่นอนอย่างไรก็ตาม แวดวงการแพทย์นั้นไม่ได้อ่อนโยนและสงบอย่างที่เห็นการต่อสู้ที่อยู่ในมุมมืดไม่เคยหยุดลงเลยแม้ทางสกุลสวินเร่งเร้าให้เขากลับไป แต่หลังจากสวินเส้าคังคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าหลังจากการประชุมใหญ่แวดวงแพทย์สิ้นสุดลง เขาค่อยกลับเจียงเป่ยเช่นนี้แล้วถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นในการประชุมใหญ่แวดวงแพทย์ เขายังสามารถช่วยอวิ๋นฝูหลิงได้อวิ๋นฝูหลิงกับสวินเส้าคังกินไปพลางคุยไปพลางในห้องส่วนตัวของหอสุรา แต่ไม่รู้เลยว่าในห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่งที่มีเพียงกำแพงกั้น อวิ๋นกานซงล้วงห่อผ้าใบหนึ่งออกมาเขาเปิดห่อผ้าทีละชั้นอย่างระมัดระวัง ด้านในสุดเผยให้เห็นหนังสือเล็กๆ เล่มหนี่งเมื่อชายวัยกลางคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขาเห็นหนังสือเล่มนั้น ในแววตาเผยให้เห็นความเร่าร้อนทันทีเขาเพิ่งจะยื่นมือออกไป ใครจะรู้ว่ากลับถูกอวิ๋นกานซงห้ามถ้าหากอวิ๋นฝูหลิงอยู่ที่นี

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status