Share

บทที่ 339

Author: หลันซานอวี่
อวิ๋นซานหูเคยได้ยินบ่าวรับใช้พูดคุยกัน ไม่ว่าอี้อ๋องจะยุ่งเพียงไร มักจะกลับมากินข้าวเย็นพร้อมกับอวิ๋นฝูหลิงสองแม่ลูกเสมอ

ดังนั้นนางถึงได้คำนวณเวลา แล้วเดินไปตามการประดับเรือนในความทรงจำ ด้วยอยากจะไปขวางอยู่ระหว่างทางที่เซียวจิ่งอี้ต้องเดินผ่านเพื่อไปยังเรือนหลัก

ใครจะคิดว่าตลอดทางมานี้ กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเซียวจิ่งอี้

อวิ๋นซานหูอดร้อนใจขึ้นมานิด ๆ ไม่ได้

อวิ๋นฝูหลิงออกปากให้นางออกจากจวนเซียวอ๋องแล้ว แต่ทันทีที่นางก้าวออกจากเรือนก็มีสาวใช้คอยติดสอยห้อยตามทุกฝีก้าวอยู่ข้าง ๆ หากวันนี้ไม่เจอตัวเซียวจิ่งอี้ ดึงดูดความสนใจจากเขาไม่ได้ เช่นนั้นหากวันข้างหน้าคิดจะเข้าหาเขาก็ยากกว่าตอนนี้เสียอีก

อวิ๋นซานหูกำลังสวดอ้อนวอนต่อสรวงสวรรค์ ใครจะคิดว่าจู่ ๆ จะได้ยินเสียงพูดคุยเข้า

ทันทีที่ได้ยิน นางก็จำได้ทันทีว่าน้ำเสียงนั้นเป็นของเซียวจิ่งอี้

อวิ๋นซานหูอดปลื้มปีติอยู่ในใจไม่ได้ พลางแอบคิดว่าสวรรค์ช่างเอ็นดูนางเสียจริง ๆ

อวิ๋นซานหูเปลี่ยนทิศทาง เดินไปตามทิศทางที่เสียงดังลอดเข้ามาในทันทีทันใด

ยามนี้สาวใช้ผู้นั้นก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล นางเปลี่ยนสีหน้าทันที คิดอยากเอื้อมมือออกไปรั้ง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 340

    แผนการของอวิ๋นซานหูล้มเหลว ทั้งยังถูกอวิ๋นฝูหลิงเห็นกันจะจะ คาหนังคาเขา ในใจพลันกระวนกระวายไม่เป็นสุข กำลังกลัดกลุ้มคิดไม่ตกว่าควรจะทำเช่นไรดีครั้นได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเช่นนั้น นางก็รู้แจ้งราวกับมีน้ำมนต์ราดลงบนศีรษะ พยักหน้าราวกับกำลังตำกระเทียมพลางกล่าวว่า “ใช่แล้ว จวนอ๋องใหญ่เกินไป ข้าเลยหลงทางโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วบังเอิญมาเจอท่านอ๋องเข้า...” ไม่รั้งรอให้นางได้กล่าวจนจบ อวิ๋นฝูหลิงก็หันไปมองสาวใช้ที่คอยตามอวิ๋นซานหูไม่ห่างผู้นั้นสาวใช้ผู้นั้นมีไหวพริบปฏิภาณยิ่ง รีบเอ่ยปากทันทีว่า “กราบทูลพระชายา บ่าวคอยตามแม่นางซานหูมาตลอดทาง ทั้งคอยเตือนนางเรื่องทางไปเรือนหลักอยู่หลายครั้งหลายหน ทว่านางกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งยังพูดว่าก่อนจะไปจากจวนอ๋องก็ขอเดินเล่นในจวนอ๋องสักหน่อย ด้วยวันข้างหน้าคงไม่มีโอกาสอีก”“เมื่อครู่บ่าวได้ยินเสียงพูดคุยของท่านอ๋อง เดิมทีคิดจะหลบเลี่ยงไป แต่พอแม่นางซานหูได้ยินเสียงของท่านอ๋องเข้า นางไม่เพียงไม่หลบเลี่ยง ซ้ำยังตรงดิ่งไปทางท่านอ๋องด้วยเพคะ”“เดิมทีบ่าวอยากจะขัดขวางไว้ ทว่าจนใจที่แม่นางซานหูเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ชั่วพริบตานั้นบ่าวเลยขวางไว้ไม่ทัน”คว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 341

    อวิ๋นฝูหลิงมองอวิ๋นซานหูถูกลากไปอย่างเย็นชาจะโทษก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ตนใจอ่อนเกินไปนางสามารถเอากิจการของจวนจี้ชุนโหวกลับคืนมา เปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของครอบครัวอวิ๋นกานซง ในนั้นก็มีผลงานของอวิ๋นซานหูอยู่หลายส่วนเช่นกันแม้นี่เป็นเพียงการแลกเปลี่ยน แต่อวิ๋นฝูหลิงก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขั้นหมดประโยชน์ก็ถีบหัวส่ง ฆ่าคนปิดปากโดยตรงดังนั้นเดิมทีนางได้เตรียมเส้นทางที่เป็นไปตามยถากรรมไว้ให้อวิ๋นซานหูถ้าหากนางมีความสามารถที่จะอยู่รอด ไม่ว่าเลือกเส้นทางใดก็เป็นทางที่นางเลือกเอง จะเป็นหรือร้ายล้วนเป็นชะตากรรมของนางแต่ตอนนี้นางกล้าเล่นกับไฟ อวิ๋นฝูหลิงย่อมเก็บนางไว้ไม่ได้แล้ว!หลังจากจัดการอวิ๋นซานหูเสร็จ อวิ๋นฝูหลิงยังไม่หายโมโหหางตานางเหลือบมองเซียวจิ่งอี้ที่อยู่ข้างๆ แม้รู้ว่าเรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา อีกทั้งเขายังหลบเลี่ยงการเข้าใกล้ของอวิ๋นซานหูทันเวลา ทำให้แผนของนางไม่สำเร็จ จัดการได้ดีมากแต่นางก็ยังโมโหเซียวจิ่งอี้อย่างอธิบายไม่ถูก“ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ!”อวิ๋นฝูหลิงจ้องเขม็งใส่เซียวจิ่งอี้แวบหนึ่ง พูดทิ้งท้ายห้าคำนี้จบ ก็หมุนกายเดินจากไปแล้วผ่านไปครู่หนึ่งเซียวจิ่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 342

    จิงมั่วทำปากจู๋ “พวกท่านสองคนเป็นพ่อแม่ของข้า พวกท่านทะเลาะกัน ข้าจะไม่สนใจได้อย่างไร?”ท่านพ่อไม่ได้เรื่อง เขาต้องลงมือเองแล้วถ้าหากไม่มีเขา ครอบครัวนี้จะทำอย่างไร!ท่าทางนั่นของท่านพ่อ แค่ดูก็ดูว่าง้อผู้หญิงไม่เป็นเขาที่เป็นลูกชายคนนี้ต้องช่วยแล้ว“ท่านแม่ ถ้าหากท่านพ่อทำผิดจริงๆ ข้าจะอยู่เคียงข้างท่าน และช่วยท่านระบายความคับข้องใจแน่นอน”“แต่โบราณว่าไว้ รู้ผิดรู้แก้ไขคือยอดคน หากท่านพ่อยอมรับผิด ท่านแม่ก็ให้อภัยเขาสักครั้งดีหรือไม่ขอรับ?”อวิ๋นฝูหลิงมองลูกชายที่ทำตาคาดหวังและไม่สบายใจ จึงจะตระหนักว่าความรู้สึกแย่ๆ ของตัวเอง ส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวแล้วสำหรับจิงมั่ว ท่านพ่อท่านแม่ล้วนอยู่ข้างกาย มีครอบครัวที่สมบูรณ์ คือความปรารถนาที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจเขาไม่ต้องการให้ทุกสิ่งที่เขามีในวันนี้ถูกทำลายกลายเป็นเพียงความฝันอวิ๋นฝูหลิงจึงจะรู้ตัว ตนไม่ควรทำเช่นนี้นางลูบศีรษะของจิงมั่ว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่ไม่ได้ทะเลาะกับพ่อเจ้า แม่เจอปัญหาการค้าขายนิดหน่อย ดังนั้นจึงอารมณ์ไม่ดี” “แม่ผิดไปแล้ว แม่ไม่ควรให้ความรู้สึกแย่ๆ เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อพวกเจ้า”กล่าวจบ อวิ๋นฝูหลิงคีบ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 343

    อวิ๋นฝูหลิงตกใจกับการกระทำของเซียวจิ่งอี้ กล่าวโดยไม่รู้ตัว “ท่านจะทำอะไร? รีบวางข้าลงเดี๋ยวนี้นะ”เซียวจิ่งอี้หัวเราะเบาๆ “เจ้ายั่วข้าเอง เจ้าว่าข้าจะทำอะไร?”“คืนนี้ทิวทัศน์งดงาม พลาดไม่ได้”“ก่อนหน้านี้บอกว่าจะคลอดน้องสาวให้จิงมั่วไม่ใช่หรือ ข้าว่าเราควรพยายามให้มากๆ จึงจะถูก!”กล่างพลางอุ้มอวิ๋นฝูหลิงเข้าไปในห้องนอนเรือนหลักแล้วเช้าวันต่อมาตอนที่อวิ๋นฝูหลิงตื่น เซียวจิ่งอี้ไม่อยู่ข้างกายนางแล้วอวิ๋นฝูหลิงนวดเอวที่เมื่อยล้า แอบกัดฟันสาวใช้หงจูที่เฝ้าอยู่นอกม่านได้ยินเสียง ก็รีบถามผ่านม่านทันที “พระชายา ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ?”อวิ๋นฝูหลิงขานรับทีหนึ่งหงจูรีบดึงม่านออก ช่วยอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนชุดหงอวี้ที่อยู่ด้านข้างเดินออกจากห้องชั้นใน สั่งให้คนยกของที่ใช้ล้างหน้าล้างตาเข้ามาหงอวี้กับหงจูเป็นสาวใช้ที่ส่งมารับใช้อวิ๋นฝูหลิง หลังจากที่นางเข้าจวนอ๋องทั้งสองคนหนึ่งหนักแน่น คนหนึ่งมีไหวพริบ รับผิดชอบชีวิตประจำวันของอวิ๋นฝูหลิงอวิ๋นฝูหลิงถาม “ท่านอ๋องเล่า?”หงจูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ ท่านอ๋องไปประชุมตั้งแต่เช้าแล้วเจ้าค่ะ ก่อนไปยังได้กำชับให้พวกบ่า

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 344

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงแต่งตัวเสร็จ นึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันที่นัดจะไปรักษา หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ก็แบกกล่องยาออกจากจวนแล้วแต่ก่อนออกจากจวน อวิ๋นฝูหลิงแวะไปหาจิงมั่วก่อนทันทีที่เข้าเรือน ก็ได้ยินเสียงอ่านหนังสือแล้วอวิ๋นฝูหลิงส่งสัญญาณมือให้คนรับใช้ สั่งทุกคนห้ามส่งเสียงรอหลังจากเข้าใกล้แล้ว จึงได้ยินเสียงสอนหนังสือของอาจารย์อาจารย์เสวียนที่เซียวจิ่งอี้เชิญมาท่านนี้เป็นบัณฑิตชั้นสูงสองสาขา มีความรู้ความสามารถ แต่น่าเสียดายเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เหมาะกับแวดวงขุนนางต่อมาถูกเพื่อนร่วมงานจับผิด จึงลาออกจากการเป็นขุนนางด้วยความโกรธเซียวจิ่งอี้เสียดายความสามารถ จึงเชิญเขาเข้าจวนมาเป็นอาจารย์อาจารย์เสวียนไม่สนใจเส้นทางขุนนาง ดังนั้นจึงมุ่งความสนใจไปที่การเป็นอาจารย์ อบรมสั่งสอนลูกศิษย์อวิ๋นฝูหลิงฟังอยู่ครู่หนึ่ง คิดในใจว่าอาจารย์เสวียนท่านนี้พอจะมีของจริงๆคัมภีร์ ประวัติศาสตร์ กวี ศาสนา สอนโดยไม่ต้องนึก สร้างสรรค์น่าสนใจขณะเดียวกับที่สอนจิงมั่วรู้จักตัวหนังสือ เขายังสอดแทรกปรัชญาชีวิต หรือบุคคลในประวัติศาสตร์ เล่าให้จิงมั่วฟังเหมือนเป็นนิทานส่วนจิงมั่วก็ฟังอย่างสนอกสนใจ เห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 345

    หลังจากอวิ๋นฝูหลิงถามไถ่อย่างเรียบง่าย ก็ตรวจชีพจรให้วั่นเฉิง จึงจะเริ่มการเริ่มฝังเข็มของวันนี้สวินเส้าคังคอยเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งลงเข็มแรก สวินเส้าคังก็พบว่าวิชาเข็มของอวิ๋นฝูหลิงเปลี่ยนไป วิชาเข็มที่ใช้ในวันนี้ไม่เหมือนที่ใช้เมื่อหลายวันก่อนรอหลังจากฝังเข็มเสร็จ บนหน้าผากอวิ๋นฝูหลิงเต็มไปด้วยเหงื่อ แทบจะหมดแรงแล้วเดิมทีการฝังเข็มต้องใช้สมาธิอย่างมาก เวลาลงเข็มต้องจดจ่อเป็นพิเศษอีกทั้งวันนี้นางยังเปลี่ยนวิชาเข็มชุดใหม่ ยิ่งเหนื่อยกว่าเดิมแล้วสวินเส้าคังประคองอวิ๋นฝูหลิงไปนั่งเก้าอี้ที่ข้างๆ หลังจากนั้นหมุนกายไปรินน้ำชาอวิ๋นฝูหลิงเพิ่งล่วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ตรงหน้าก็มีน้ำชาเพิ่มมาหนึ่งถ้วย“ขอบคุณศิษย์พี่สวิน!”อวิ๋นฝูหลิงรับน้ำชา เผยอยิ้มกล่าวขอบคุณรอหลังจากดื่มน้ำชาไปแล้วสองถ้วย สวินเส้าคังจึงจะเอ่ยปากขอคำชี้แนะ “ศิษย์น้องอวิ๋น วันนี้เจ้าเปลี่ยนวิชาเข็มชุดใหม่ วิชาเข็มชุดนี้ประณีตนัก”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า ถกเถียงวิชาเข็มกับสวินเส้าคังหลายประโยคฮูหยินวั่นเฝ้าลูกชายอยู่ที่ด้านข้างเงียบๆ ไม่ได้รบกวนพวกเขาสองคนอวิ๋นฝูหลิงรู้สึกว่าได

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 346

    สวินเส้าคังไม่อยากให้ตำแหน่งผู้นำตระกูลตกไปอยู่ในมือของผู้อื่น อีกทั้งถ้าหากบ้านสายหลักเสียตำแหน่งผู้นำตระกูล วันข้างหน้าคิดจะเอากลับคืนมาก็ไม่ง่ายเช่นนั้นแล้วเกรงว่าตั้งแต่นี้ไปบ้านสายหลักยังจะถูกกดขี่หลังจากสวินเส้าอันพิจารณา แต่งตั้งสวินเส้าคังเป็นผู้นำตระกูลโดยตรงนับตั้งแต่อดีตลูกชายสืบทอดกิจการบิดา พี่ชายตายน้องชายรับช่วงต่อ สวินเส้าอันไม่มีทายาท ดังนั้นส่งต่อกิจการครอบครัวให้น้องชายที่เกิดจากบิดามารดาเดียวกัน ไม่มีใครพูดอะไรได้แต่ช่วยไม่ได้เจตจำนงของสวินเส้าคังคือฝีมือการแพทย์ โดยเฉพาะหลายปีนี้เร่ร่อนไปทั่ว เพื่อหาเบาะแสของอวิ๋นฝูหลิงช่วงก่อนเขาได้รับจดหมายจากทางบ้าน สภาพร่างกายของพี่ใหญ่แย่ลงเรื่อยๆ เร่งเร้าให้เขากลับเจียงเป่ยเพื่อรับช่วงต่อกิจการครอบครัวสวินเส้าคังลังเลมาโดยตลอดเขารู้ว่าตัวเองควรกลับไปรับช่วงต่อกิจการครอบครัว นี่คือความรับผิดชอบที่เขาควรแบกรับในฐานะคนสกุลสวินอีกทั้งอวิ๋นฝูหลิงก็หาเจอแล้ว เขาก็ควรกลับเจียงเป่ยแล้วแต่เขาก็ทำใจทิ้งอวิ๋นฝูหลิงไม่ได้ และไม่อยากละทิ้งเจตจำนงของตัวเองอวิ๋นฝูหลิงเห็นสีหน้าสวินเส้าคังดูไม่ได้นัก อดไม่ได้ที่จะกล่าว “เก

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 347

    เมื่อสวินเส้าคังได้ยินคำพูดนี้ของอวิ๋นฝูหลิง ก็อารมณ์ดีทันทีความกังวลทั้งหมดหายไปในพริบตาแต่ว่าหลังจากได้ยินคำพูดประโยคสุดท้ายที่มีเจตนาหยอกล้อแฝงอยู่ เขาก็โต้กลับทันที “ไม่มีทาง เรื่องแค่นี้ข้ายังรู้จักแยกแยะอยู่” อวิ๋นฝูหลิงยิ้มจนคิ้วโก่ง จู่ๆ นางก็นึกอะไรขึ้นได้ เอ่ยปากกล่าว “ใช่แล้ว เจียงเป่ยก็มีสาขาของสำนักช่วยชีพ”“เช่นนี้ก็แล้วกัน ข้ายกสาขาของสำนักช่วยชีพทั้งหมดที่อยู่ในเจียงเป่ยให้ท่านดูแล”“รอหลังจากท่านกลับถึงเจียงเป่ย ถ้าหากวันไหนอยากรักษาคน สามารถไปเป็นหมอที่สำนักช่วยชีพโดยตรงเลย”“เป็นอย่างไร?”เมื่อสวินเส้าคังได้ยิน ยกมือชี้อวิ๋นฝูหลิงแล้วชี้อีก กล่าวด้วยรอยยิ้ม “นี่เจ้าอยากดึงข้าเข้าสำนักช่วยชีพทางอ้อม เพื่อเสริมหน้าตาให้เจ้าสินะ”“และยังช่วยเจ้าดูแลการค้าของเจ้าแล้ว”“ยิงธนูครั้งเดียวได้นกสามตัว ไม่มีใครฉลาดกว่าเจ้าแล้วจริงๆ!”อวิ๋นฝูหลิงยิ้มแหะๆ รินน้ำชาให้สวินเส้าคังถ้วยหนึ่ง“ก็ตอนนี้ข้ากำลังขาดหมอ โดยเฉพาะหมอที่มีฝีมือเลิศล้ำอย่างศิษย์พี่สวิน!”“อีกอย่างนะ พวกเราเป็นใคร ท่านปฏิเสธข้าได้ลงคอจริงๆ หรือ?”“อีกทั้งพวกเรายังเป็นการร่วมมือที่ต่างฝ่ายต่างได

Pinakabagong kabanata

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status