Share

บทที่ 327

Author: หลันซานอวี่
อวิ๋นฝูหลิงได้ยินก็ยิ้มออกมา เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ช่างโลภมากเสียจริง

ทว่ามีเด็กมากมายเช่นนี้ การให้เลือกเพียงคนเดียวก็เป็นเรื่องที่ยากจริง ๆ

อย่างไรก็ตามอวิ๋นฝูหลิงก็มิได้เปลี่ยนคำพูด และกล่าวว่า “เลือกคนที่ชอบที่สุดมาคนหนึ่งก่อน”

อวิ๋นจิงมั่วสังเกตคำว่า ‘ก่อน’ ที่อวิ๋นฝูหลิงพูดได้ในชั่วพริบตา เขากะพริบตา ก่อนที่สายตาจะกวาดมองไปยังคนที่เรียงแถวอยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นก็เดินไปจูงมือเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งมาข้างหน้า และดึงเขาออกมาจากในแถว

“ท่านแม่ ข้าอยากเลือกเขาขอรับ”

อวิ๋นฝูหลิงมองอวิ๋นจิงมั่วเลือกเด็กผู้ชายอายุเท่ากับเขามาคนหนึ่ง เด็กผู้ชายคนนี้ดูผอมมากท่าทางดูชอบโอนอ่อนผ่อนตามและขี้กลัว ทว่าในแววตากลับแฝงไปด้วยความดื้อรั้นและโดดเดี่ยว

อวิ๋นฝูหลิงขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

นางจำได้ว่ายามที่อีกฝ่ายแนะนำตัว เด็กคนนี้บอกว่าเขาถนัดเรื่องการต่อสู้มากที่สุด!

แต่เนื่องจากเป็นคนที่อวิ๋นจิงมั่วเลือก อวิ๋นฝูหลิงจึงไม่ได้เอ่ยคัดค้าน นางพยักหน้า พลางกล่าวว่า “เลือกมาอีกหนึ่งคน”

ครั้งนี้ อวิ๋นจิงมั่วเลือกเด็กชายใบหน้ากลมมาคนหนึ่ง ซึ่งมีรูปลักษณ์ยิ้มแย้มโดยธรรมชาติ ดูน่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่ง

อวิ๋นฝู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 328

    เพราะกฎเกณฑ์ของราชสำนัก นอกจากจวนที่ได้รับพระราชทานแล้ว มีเพียงครอบครัวขุนนางขั้นสามขึ้นไปเท่านั้น จึงจะสามารถใช้คำว่า ‘จวน’ ได้อวิ๋นกานซงในยามนี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว ดังนั้นป้ายขนาดใหญ่ของเรือนสามทางเข้า จึงแขวนได้แค่เพียง ‘เรือนครอบครัวอวิ๋น’เซี่ยงซื่อนั่งอยู่ในห้องโถงของเรือนหลัก รู้สึกว่าไม่ว่าจะมองที่ใดก็ล้วนขัดตาทั้งสิ้นเรือนสามทางเข้า หากมองในสายตาของครอบครัวทั่วไป ก็นับได้ว่าเป็นเรือนหลังใหญ่แต่สำหรับเซี่ยงซื่อผู้เคยชินกับการใช้ชีวิตในจวนจี้ชุนโหว ย่อมคิดว่ามันคับแคบจวนจี้ชุนโหวเป็นจวนที่องค์ไท่จูพระราชทาน เป็นเรือนขนาดใหญ่ที่มีห้าทางเข้า ทั้งยังมีสวนขนาดใหญ่กับสระบัว ไม่มีสิ่งใดน่ารื่นรมย์ไปกว่าการได้พักผ่อนข้างสระบัวแสนเย็นสบายในฤดูร้อนอีกแล้วยิ่งไปกว่านั้นจวนจี้ชุนโหวก็ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เพื่อนบ้านทั้งซ้ายขวาล้วนเป็นขุนนางร่ำรวยเมื่อลองมองดูในยามนี้ ไม่เพียงแต่เป็นเรือนหลังเล็ก ทว่าเพื่อนบ้านก็ยังเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาฐานะด้วยแม้แต่คนใช้ที่คอยปรนนิบัติ เพราะข้อจำกัดของเรือน จึงถูกขายออกไปแล้วส่วนหนึ่ง เหลือเพียงคนที่ซื่อสัตย์และเป็นประโยชน์แค่ส่วนหนึ่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 329

    เมื่อได้ยินว่าลูกชายกลับมาแล้ว อวิ๋นกานซงกับเซี่ยงซื่อก็หยุดทะเลาะกัน และบนใบหน้าก็เผยความตกใจระคนดีใจออกมาไม่นาน ชายหนุ่มร่างสูงเหยียดตรง ใบหน้าหล่อเหลาก็เดินเข้ามาในเรือนชายผู้นั้นสวมชุดบัณฑิตสีเขียว ผมยาวสีดำขลับถูกรวบขึ้นด้วยกวานหยกสีขาว ที่เอวมีหยกเนื้อขาวนวลรูปปลาห้อยอยู่ ในความสง่างามที่ไม่โดดเด่นเผยความหรูหรามั่งคั่งออกมาชายหนุ่มผู้นี้คืออวิ๋นชิงมู่ผู้เป็นลูกชายคนโตของอวิ๋นกานซงกับเซี่ยงซื่อเมื่ออวิ๋นชิงมู่เข้ามาในเรือน ก็กล่าวว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”“ข้ากลับไปที่จวนจี้ชุนโหว แต่กลับถูกคนไล่ออกมา และบอกว่าครอบครัวพวกเรามิใช่สายเลือดสกุลอวิ๋น”“โชคดีที่ข้าบังเอิญเจอชุนหรงคนสนิทของท่านพ่อ จึงรู้ว่าครอบครัวของพวกเราย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว”“ข้าได้ยินจากชุนหรงว่าอวิ๋นฝูหลิงกลับมาแล้ว นางเป็นคนไล่ท่านพ่อท่านแม่ออกมาจากจวนจี้ชุนโหวหรือ?”ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้อวิ๋นชิงมู่ร่ำเรียนอยู่ที่สถานศึกษาลู่ซานที่ชิงโจว หากไม่ใช่เพราะครานี้กลับมา คงยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นในครอบครัวระยะนี้เซี่ยงซื่อเห็นลูกชาย ก็ราวกับมีคนให้พึ่งพิงอีกครั้ง ยามนี้จึงเริ่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 330

    แม้จะช่วยนางออกมาได้ ก็อย่าได้คิดว่าจะได้ตบแต่งกับครอบครัวดี ๆ เลยส่วนการตบแต่งเป็นสนมของอวี้อ๋อง อวี้อ๋องมีชื่อเสียงเรื่องความไม่เป็นโล้เป็นพาย ทั้งยังโกรธเรื่องที่ถูกอวิ๋นหลิงจือวางหลุมพรางใส่ คิดดูแล้วย่อมไม่ชอบพออวิ๋นหลิงจือกล่าวได้ว่าชีวิตนี้ของอวิ๋นหลิงจือ พังทลายไปแล้วแค่คนไม่มีค่าผู้หนึ่ง เหตุใดต้องยอมทุ่มเทแรงกายแรงใจและเงินทองให้นางด้วย นี่มิใช่ว่าเป็นการสิ้นเปลืองหรือ!อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยงซื่อที่กำลังร่ำไห้ อวิ๋นชิงมู่ก็ไม่อาจเอ่ยคำพูดไม่ดีในใจออกไปได้ และทำเพียงพูดแบบขอไปที“ท่านแม่ นี่เป็นรับสั่งจากฝ่าบาท ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้”“พวกเราทำได้เพียงรอจนกว่าน้องจะถูกเนรเทศไป จึงค่อยคิดหาวิธีติดสินบนเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่คุมตัวไปส่ง และแอบเปลี่ยนแปลงความจริงตบตาผู้คนเท่านั้น”“หรือรอให้น้องไปถึงชายแดนก่อน หลังจากนั้นจึงติดสินบนเจ้าหน้าที่ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าระวัง ให้พวกเขาแจ้งข่าวการตาย เพื่อให้น้องแกล้งตายและหนีออกมา”เซี่ยงซื่อหยุดร้องไห้ ดวงตาทั้งสองข้างเป็นประกายขึ้นมา “สมกับที่เป็นลูกชายข้า เพียงชั่วครู่เดียวก็คิดวิธีได้ถึงสองวิธีแล้ว!”“น้องสาวเจ้าอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 331

    อวิ๋นกานซงและเซี่ยงซื่อคิดว่าที่อวิ๋นชิงมู่กลับมากะทันหันเช่นนี้ เพราะได้ยินว่าช่วงนี้ที่บ้านเกิดเรื่องครั้นยามนี้รู้ว่ามีสาเหตุอื่น ในใจของทั้งสองจึงรู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูกขึ้นมาอย่างน่าประหลาดกระทั่งยามอวิ๋นกานซงได้สติ เซี่ยงซื่อก็ก้าวเข้าไปจับตัวอวิ๋นชิงมู่หันซ้ายหันขวาดูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความร้อนใจระคนกังวลใจ“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือ?”“หรือว่าเจ้าโดนรังแกในสำนักศึกษา”“ไยแม่ถึงเห็นเจ้าซูบผอมลงขนาดนี้...”เมื่อได้พูดก็พูดออกมายาวเหยียดไม่หยุดอวิ๋นชิงมู่รู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้วว่าทันทีที่เซี่ยงซื่อได้รู้เรื่องของเขา จะพูดจาจู้จี้จุกจิกเป็นพิเศษแม้เขาจะรู้สึกจนใจ แต่ก็รู้สึกอบอุ่นยิ่งที่นางเป็นห่วงเขาเช่นนี้เขาปรามมิให้เซี่ยงซื่อจู้จี้ต่ออีก กล่าวว่า “ข้าไม่เป็นอะไร ใช้ชีวิตในสำนักศึกษาเป็นอย่างดีขอรับ”เขาเงยหน้ามองอวิ๋นกานซง กล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ท่านพ่อ ที่ข้ากลับมาครานี้ด้วยอยากจะได้เงินจากที่บ้านสักก้อนหนึ่ง”“ช่วงนี้ข้าคบหากับซื่อจื่อซุ่นอ๋อง คุณชายเจ็ดแห่งจวนเฉิงเอินกง และหลานชายคนรองของตระกูลเสนาบดีกรมขุนนาง”“พวกเขาอยากร่วมมือกันทำการค้าในเมืองหลวง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 332

    ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย?พอเอาทรัพย์สินในมืออวิ๋นกานซงมารวมกัน คิดแล้วก็ยังมีแค่แสนกว่าตำลึงเท่านั้นเองหากให้ไปหนึ่งหมื่นตำลึงในตอนนี้ เขาออกจะเจ็บปวดอยู่บ้างจริง ๆอวิ๋นกานซงมิได้พูดออกไปตรง ๆ ว่าจะไม่ให้ ทว่ากลับถามออกไปแทน “พวกเจ้าอยากทำการค้าอันใดเล่า? ถึงได้ต้องการเงินทุนมากมายขนาดนี้? นอกจากเจ้าแล้ว พวกซื่อจื่อซุ่นอ๋องเองก็ออกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงด้วยหรือ?”อวิ๋นชิงมู่เห็นว่าหากวันนี้ไม่พูดให้ชัดเจน เกรงว่าเงินหนึ่งหมื่นตำลึงนี้คงมาไม่ถึงมือเขาบรรจงหยิบกล่องกระเบื้องเคลือบน้อยที่แต่งแต้มไปด้วยภาพวาดสีทองออกมาอย่างระมัดระวังกล่องกระเบื้องเคลือบน้อยใบนั้นมีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือเด็ก เมื่อเปิดออก ก็เผยโฉมขี้ผึ้งสีเหลืออร่ามดั่งทองคำที่อยู่ด้านในออกมา“ท่านพ่อ ท่านแม่ สิ่งนี้คือขี้ผึ้งทอง เป็นของดีที่บัดนี้กำลังเป็นที่นิยมที่สุดของทางเจียงหนาน”“ของสิ่งนี้มีราคาสูง สูงยิ่งกว่าทองคำเสียอีก ซื่อจื่อซุ่นอ๋องเป็นผู้ให้กล่องนี้กับข้าเอง”“ของสิ่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเบาเหมือนลอยได้ราวกับเทพเซียน ลืมเลือนเรื่องวุ่นวายทุกอย่างบนโลกนี้ ฉะนั้นเจ้าขี้ผึ้งทองนี้จึงได้อีกชื่อว่าขี้ผึ้งเทพ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 333

    อวิ๋นซานหูที่ถูกเซี่ยงซื่อว่าขานว่าเสียสติ ยามนี้กำลังนั่งส่องกระจกมองใบหน้าของตนเองราวกับกำลังลุ่มหลงก็ไม่ปานนางยกมือขึ้นมาแตะดวงหน้าเบา ๆบาดแผลสยดสยองที่เดิมทีอยู่บนใบหน้าได้มลายหายไปไม่เหลือร่องรอย มีเพียงผิวเนียนนุ่มราวกับไข่ที่ปอกเปลือกไปแล้วอยู่เท่านั้นอวิ๋นซานหูถึงขั้นคิดว่า หลังจากที่นางใช้ยาลบรอยแผลเป็นของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ใบหน้าของนางนั้นงดงามกว่าก่อนหน้านั้นถึงสามเท่าแลกใบหน้านี้คืนกลับมาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำไปทั้งหมดก่อนหน้านี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว!ทันใดนั้นบานประตูพลันถูกคนผลักออกอวิ๋นซานหูมองไปตามเสียง คนที่เข้ามาคือสาวใช้ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงนามว่าเหยากวงผู้นั้น ในใจของนางพลันบีบรัดแน่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางถึงได้รู้สึกว่าบนกายสาวใช้ผู้นี้แฝงไปด้วยความกดดันที่อธิบายไม่ถูก ทำให้คนรู้สึกอันตรายและหวาดผวา“อวิ๋นฝูหลิงต้องการให้ข้าทำอันใดอีก?” อวิ๋นซานหูวางกระจกทองแดงลงแล้วเอ่ยถามสายตาของเหยากวงเย็นชาดั่งเกาทัณฑ์ “เจ้าเรียกชื่อเจ้านายเช่นนี้ได้หรือ?”อวิ๋นซานหูอดหดคอไม่ได้หลังถูกเหยากวงจ้องมองนางอึดอัดใจระคนไม่ยินยอม แต่อย่างไรก็ยั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 334

    อวิ๋นซานหูมิใช่คนที่รู้จักบุญคุณคนเช่นนั้นอวิ๋นซานหูถูกเหยากวงตอกหน้าจนถึงกับพูดไม่ออกไม่รั้งรอให้นางคิดหาข้ออ้างใหม่ขึ้นมาอีก เหยากวงจึงสะบัดมือของนางออกอย่างรำคาญ“พระชายาตรัสว่า เรื่องที่พระนางต้องการให้เจ้าทำ เจ้าได้ทำแล้ว ยามนี้ใบหน้าของเจ้าก็รักษาหายดีแล้ว ข้อตกลงอันเป็นสิ้นสุดเท่านี้”“มอบตั๋วเงินให้เจ้าแล้ว เจ้าไปเก็บข้าวของแล้วรีบออกไปแต่เนิ่น ๆ เถิด!”พูดจบ เหยากวงก็ไม่สนใจอวิ๋นซานหูอีก หมุนตัวแล้วเดินจากไปทันทีเพียงแต่หลังจากเดือนออกมาจากตัวเรือนแล้ว เหยากวงจึงยกมือเรียกบ่าวรับใช้ในเรือนมาสั่งคำไว้ว่า “จับตาดูอวิ๋นซานหูทุกคำพูดทุกฝีก้าว หากนางเก็บข้าวของแล้วออกจากที่นี่ไปก็แล้วไป มิอย่างนั้นหากมีความผิดปกติใด ๆ รีบให้คนมารายงานข้าทันที!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นรีบรับคำทันทีเหยากวงหันไปมองเรือนที่อวิ๋นซานหูพักอยู่แวบหนึ่ง แล้วแค่นเสียงดูถูกอยู่ในใจเดิมทีคิดว่าผ่านเรื่องราวมากมายขนาดนี้ อวิ๋นซานหูจะได้รับบทเรียน รู้จักว่าง่ายขึ้นมาบ้างนึกไม่ถึงเลยว่าจะโง่เง่าได้ถึงขนาดนี้!ทั้งที่รู้ว่าตนเองถูกพระชายาบีบอยู่ในมือ ทำได้เพียงเชื่อฟังคำเท่านั้นทว่ากลับมีแต่เล่ห์เหลี่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 335

    อันที่จริงแล้วในบรรดาบุตรธิดาทั้งสามของอวิ๋นกานซง อวิ๋นหลิงจือต่างหากจึงจะเป็นคนโหดเหี้ยม ทั้งมีใจทะเยอทะยาน ทั้งมีหัวคิด และยังมีความสามารถในการลงมือทำน่าเสียดายเพียงแค่ ในใจของอวิ๋นกานซงนั้น นางเป็นได้เพียงบุตรสาว และเป็นได้เพียงหมากไว้ใช้ประโยชน์ตัวหนึ่งเท่านั้นแม้จะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ทว่ากลับมิได้ใส่ใจลงไปเต็มที่ และเห็นเป็นความหวัดของตระกูลอย่างที่ทำกับอวิ๋นชิงมู่ท้ายที่สุดแล้ว การที่บุตรสาวคนหนึ่งได้มีการแต่งงานที่ดี เสริมให้ตระกูลแข็งแกร่งขึ้นได้จากแรงสนับสนุนทางการเกี่ยวดองที่เปี่ยมอำนาจ จึงจะบรรลุในคุณค่าในการมีตัวตนของสตรีแม้ว่าอวิ๋นฝูหลิงจะไม่คิดว่าอวิ๋นชิงมู่จะคุกคามอะไรนางได้มากมายนัก ทว่านางก็มิได้วางใจแต่อย่างใดนางกล่าวกับจางซานมู่ว่า “ให้คนคอยสอดส่องทางอวิ๋นชิงมู่ไว้สักหน่อย”“เจ้าให้คนของเจ้าตื่นตัวสักหน่อย คอยดูว่าพอจะสืบข้อมูลน่าเชื่อถือในเรือนครอบครัวอวิ๋นได้หรือไม่”อวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าจางซานมู่ได้ซื้อตัวเหล่าอันธพาลเจ้าถิ่นตามท้องถนนมาไว้เป็นพวกดังคำกล่าวที่ว่าแมวมีวิถีของแมว หนูก็มีวิถีของหนู สำหรับอันธพาลเจ้าถิ่นเหล่านี้หากใช้พวกเขาได้ถูกต้อง ก็สาม

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status