Share

บทที่ 332

Author: หลันซานอวี่
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้เลย?

พอเอาทรัพย์สินในมืออวิ๋นกานซงมารวมกัน คิดแล้วก็ยังมีแค่แสนกว่าตำลึงเท่านั้นเอง

หากให้ไปหนึ่งหมื่นตำลึงในตอนนี้ เขาออกจะเจ็บปวดอยู่บ้างจริง ๆ

อวิ๋นกานซงมิได้พูดออกไปตรง ๆ ว่าจะไม่ให้ ทว่ากลับถามออกไปแทน “พวกเจ้าอยากทำการค้าอันใดเล่า? ถึงได้ต้องการเงินทุนมากมายขนาดนี้? นอกจากเจ้าแล้ว พวกซื่อจื่อซุ่นอ๋องเองก็ออกเงินหนึ่งหมื่นตำลึงด้วยหรือ?”

อวิ๋นชิงมู่เห็นว่าหากวันนี้ไม่พูดให้ชัดเจน เกรงว่าเงินหนึ่งหมื่นตำลึงนี้คงมาไม่ถึงมือ

เขาบรรจงหยิบกล่องกระเบื้องเคลือบน้อยที่แต่งแต้มไปด้วยภาพวาดสีทองออกมาอย่างระมัดระวัง

กล่องกระเบื้องเคลือบน้อยใบนั้นมีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือเด็ก เมื่อเปิดออก ก็เผยโฉมขี้ผึ้งสีเหลืออร่ามดั่งทองคำที่อยู่ด้านในออกมา

“ท่านพ่อ ท่านแม่ สิ่งนี้คือขี้ผึ้งทอง เป็นของดีที่บัดนี้กำลังเป็นที่นิยมที่สุดของทางเจียงหนาน”

“ของสิ่งนี้มีราคาสูง สูงยิ่งกว่าทองคำเสียอีก ซื่อจื่อซุ่นอ๋องเป็นผู้ให้กล่องนี้กับข้าเอง”

“ของสิ่งนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกเบาเหมือนลอยได้ราวกับเทพเซียน ลืมเลือนเรื่องวุ่นวายทุกอย่างบนโลกนี้ ฉะนั้นเจ้าขี้ผึ้งทองนี้จึงได้อีกชื่อว่าขี้ผึ้งเทพ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 333

    อวิ๋นซานหูที่ถูกเซี่ยงซื่อว่าขานว่าเสียสติ ยามนี้กำลังนั่งส่องกระจกมองใบหน้าของตนเองราวกับกำลังลุ่มหลงก็ไม่ปานนางยกมือขึ้นมาแตะดวงหน้าเบา ๆบาดแผลสยดสยองที่เดิมทีอยู่บนใบหน้าได้มลายหายไปไม่เหลือร่องรอย มีเพียงผิวเนียนนุ่มราวกับไข่ที่ปอกเปลือกไปแล้วอยู่เท่านั้นอวิ๋นซานหูถึงขั้นคิดว่า หลังจากที่นางใช้ยาลบรอยแผลเป็นของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ใบหน้าของนางนั้นงดงามกว่าก่อนหน้านั้นถึงสามเท่าแลกใบหน้านี้คืนกลับมาได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางทำไปทั้งหมดก่อนหน้านี้นับว่าคุ้มค่าแล้ว!ทันใดนั้นบานประตูพลันถูกคนผลักออกอวิ๋นซานหูมองไปตามเสียง คนที่เข้ามาคือสาวใช้ข้างกายอวิ๋นฝูหลิงนามว่าเหยากวงผู้นั้น ในใจของนางพลันบีบรัดแน่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาดไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด นางถึงได้รู้สึกว่าบนกายสาวใช้ผู้นี้แฝงไปด้วยความกดดันที่อธิบายไม่ถูก ทำให้คนรู้สึกอันตรายและหวาดผวา“อวิ๋นฝูหลิงต้องการให้ข้าทำอันใดอีก?” อวิ๋นซานหูวางกระจกทองแดงลงแล้วเอ่ยถามสายตาของเหยากวงเย็นชาดั่งเกาทัณฑ์ “เจ้าเรียกชื่อเจ้านายเช่นนี้ได้หรือ?”อวิ๋นซานหูอดหดคอไม่ได้หลังถูกเหยากวงจ้องมองนางอึดอัดใจระคนไม่ยินยอม แต่อย่างไรก็ยั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 334

    อวิ๋นซานหูมิใช่คนที่รู้จักบุญคุณคนเช่นนั้นอวิ๋นซานหูถูกเหยากวงตอกหน้าจนถึงกับพูดไม่ออกไม่รั้งรอให้นางคิดหาข้ออ้างใหม่ขึ้นมาอีก เหยากวงจึงสะบัดมือของนางออกอย่างรำคาญ“พระชายาตรัสว่า เรื่องที่พระนางต้องการให้เจ้าทำ เจ้าได้ทำแล้ว ยามนี้ใบหน้าของเจ้าก็รักษาหายดีแล้ว ข้อตกลงอันเป็นสิ้นสุดเท่านี้”“มอบตั๋วเงินให้เจ้าแล้ว เจ้าไปเก็บข้าวของแล้วรีบออกไปแต่เนิ่น ๆ เถิด!”พูดจบ เหยากวงก็ไม่สนใจอวิ๋นซานหูอีก หมุนตัวแล้วเดินจากไปทันทีเพียงแต่หลังจากเดือนออกมาจากตัวเรือนแล้ว เหยากวงจึงยกมือเรียกบ่าวรับใช้ในเรือนมาสั่งคำไว้ว่า “จับตาดูอวิ๋นซานหูทุกคำพูดทุกฝีก้าว หากนางเก็บข้าวของแล้วออกจากที่นี่ไปก็แล้วไป มิอย่างนั้นหากมีความผิดปกติใด ๆ รีบให้คนมารายงานข้าทันที!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นรีบรับคำทันทีเหยากวงหันไปมองเรือนที่อวิ๋นซานหูพักอยู่แวบหนึ่ง แล้วแค่นเสียงดูถูกอยู่ในใจเดิมทีคิดว่าผ่านเรื่องราวมากมายขนาดนี้ อวิ๋นซานหูจะได้รับบทเรียน รู้จักว่าง่ายขึ้นมาบ้างนึกไม่ถึงเลยว่าจะโง่เง่าได้ถึงขนาดนี้!ทั้งที่รู้ว่าตนเองถูกพระชายาบีบอยู่ในมือ ทำได้เพียงเชื่อฟังคำเท่านั้นทว่ากลับมีแต่เล่ห์เหลี่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 335

    อันที่จริงแล้วในบรรดาบุตรธิดาทั้งสามของอวิ๋นกานซง อวิ๋นหลิงจือต่างหากจึงจะเป็นคนโหดเหี้ยม ทั้งมีใจทะเยอทะยาน ทั้งมีหัวคิด และยังมีความสามารถในการลงมือทำน่าเสียดายเพียงแค่ ในใจของอวิ๋นกานซงนั้น นางเป็นได้เพียงบุตรสาว และเป็นได้เพียงหมากไว้ใช้ประโยชน์ตัวหนึ่งเท่านั้นแม้จะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน ทว่ากลับมิได้ใส่ใจลงไปเต็มที่ และเห็นเป็นความหวัดของตระกูลอย่างที่ทำกับอวิ๋นชิงมู่ท้ายที่สุดแล้ว การที่บุตรสาวคนหนึ่งได้มีการแต่งงานที่ดี เสริมให้ตระกูลแข็งแกร่งขึ้นได้จากแรงสนับสนุนทางการเกี่ยวดองที่เปี่ยมอำนาจ จึงจะบรรลุในคุณค่าในการมีตัวตนของสตรีแม้ว่าอวิ๋นฝูหลิงจะไม่คิดว่าอวิ๋นชิงมู่จะคุกคามอะไรนางได้มากมายนัก ทว่านางก็มิได้วางใจแต่อย่างใดนางกล่าวกับจางซานมู่ว่า “ให้คนคอยสอดส่องทางอวิ๋นชิงมู่ไว้สักหน่อย”“เจ้าให้คนของเจ้าตื่นตัวสักหน่อย คอยดูว่าพอจะสืบข้อมูลน่าเชื่อถือในเรือนครอบครัวอวิ๋นได้หรือไม่”อวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าจางซานมู่ได้ซื้อตัวเหล่าอันธพาลเจ้าถิ่นตามท้องถนนมาไว้เป็นพวกดังคำกล่าวที่ว่าแมวมีวิถีของแมว หนูก็มีวิถีของหนู สำหรับอันธพาลเจ้าถิ่นเหล่านี้หากใช้พวกเขาได้ถูกต้อง ก็สาม

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 336

    ลูกพี่อู๋และคนอื่น ๆ รับคำด้วยใบหน้าเหยเกทว่าพอคิดว่าสามารถเขียนจดหมายกลับไปได้แล้ว หลายคนจึงอดดีใจขึ้นมาไม่ได้เมื่อพูดคุยนอกเรื่องกันเสร็จสิ้น อวิ๋นฝูหลิงจึงวกกลับมาที่ปัญหาหลัก“เปลี่ยนผู้ดูแลที่ดินออกทั้งหมด แล้วเลือกเอาจากในหมู่ชาวนาที่มาเช่าที่ดินให้ขึ้นมาทำหน้าที่นี้ก่อน หากทำดีต่อไปก็ให้เป็นผู้ดูแลที่ดิน หากทำไม่ดีก็เปลี่ยนคนใหม่”“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกชาวนาที่มาเช่าที่ดินพวกนั้นจะเป็นคนของอวิ๋นกานซงไปทั้งหมด”“ตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วงเสร็จพอดี ข้าจะแบ่งที่มาปลูกสมุนไพรเสียหน่อย”“อย่างไรเสียชาวนาพวกนั้นก็ว่างกันอยู่แล้ว ให้พวกเขาทุกคนไปปลูกสมุนไพรให้ข้า แล้วให้เงินค่าแรงตามอัตราในเมือง”อวิ๋นกานซงซื้อตัวผู้ดูแลที่ดินไปได้หลายคน แล้วยังจะซื้อตัวชาวนาเช่าที่พวกนั้นทุกคนได้อีกหรือ?จำนวนชาวนามีมากกว่าผู้ดูแลที่ดินเสียอีก หนึ่งที่ดินมีหนึ่งผู้ดูแล ทว่าชาวนาที่เช่าที่ดินกลับมีมากกว่าร้อยคนยิ่งไปกว่านั้นพอรวมที่นาสิบกว่าแห่งเข้าด้วยกันแล้ว จำนวนชาวนาก็ยิ่งมากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวนึกดูแล้วต่อให้อวิ๋นกานซงอยากจะซื้อตัวคน แต่ก็คงไม่อาจซื้อตัวคนมากมายขนาดนี้ได้แ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 337

    อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า “ถูกต้อง คนเช่นนางจะไปรู้จักบุญคุณคนได้อย่างไร!”อวิ๋นซานหูเป็นคนมีจิตใจคับแคบที่สุด ตอนแรกก็เพราะว่านางตกอยู่ในสภาพจนตรอก ถึงได้ตอบตกลงต่อเงื่อนไขของอวิ๋นฝูหลิง ยอมให้อวิ๋นฝูหลิงบีบอยู่ในกำมือเหยากวงขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ทันใดนั้นจึงกล่าวขึ้นมาว่า “พระชายา นางคงมิได้มีแต่ความเคียดแค้นท่านอยู่ในใจ เลยคิดจะอยู่ต่อเพื่อหาโอกาสแก้แค้นท่านหรอกกระมังเพคะ?”อวิ๋นฝูหลิงคิดเล็กน้อย ก็ใช่ว่าจะไม่มีความเป็นไปได้สักหน่อยแต่ว่านะ...นางเงยหน้าขึ้นมองเหยากวง “นางจะเขลาถึงขนาดนี้จริง ๆ หรือ?”ผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไป ขอแค่มีหัวคิดสักหน่อย ก็ควรรู้ว่าบัดนี้อวิ๋นฝูหลิงมิได้เป็นดังเมื่อวันวานอีกแล้วกระทั่งจวนจี้ชุนโหวกับสำนักช่วยชีพนางยังทวงกลับคืนมาได้ อวิ๋นกานซงไม่เพียงถูกนางขับออกจากจวนจี้ชุนโหว ทั้งยังถูกเปิดโปงเรื่องที่เขามิใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของสกุลอวิ๋นต่อหน้าประชาราษฎร์อีกกระทั่งอวิ๋นหลิงจือก็ถูกเนรเทศไปเป็นนางบำเรอแก่ทหารตามชายแดน อวิ๋นกานซงก็ไร้ตำแหน่งหมอหลวงต่อสู้กันมาถึงขั้นนี้แล้ว เหตุใดอวิ๋นซานหูถึงยังกล้าที่จะเป็นศัตรูกับนาง ถึงขั้นคิดเพ้อเจ้อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 338

    อวิ๋นซานหูที่เป็นคุณหนูสูงศักดิ์นิ้วทั้งสิบไม่เคยต้องซักผ้าถูทำความสะอาดเรือน ทำอันใดไม่เป็นสักอย่าง ที่ดีเพียงอย่างเดียวก็มีแค่ใบหน้างดงามนั่นก็เท่านั้นคนที่มีเพียงความงามทว่าไร้ซึ่งหัวสมอง มักพบจุดจบไม่ดีตอนนี้เหยากวงถึงเข้าใจเจตนาของอวิ๋นฝูหลิง จึงรีบมองอวิ๋นฝูหลิงด้วยสายตาเลื่อมใสทันที“พระชายาทรงมีพระปรีชายิ่ง เป็นหม่อมฉันเองที่โง่เขลาเพคะ”“เอาละ เจ้าไปทำธุระเถิด” อวิ๋นฝูหลิงยิ้มเล็กน้อย พลางก้มหน้าดูสมุดบัญชีต่อช่วงพลบค่ำ อวิ๋นซานหูประเมินเวลาดูแล้ว ในที่สุดก็เริ่มเคลื่อนไหวนางเพิ่งก้าวออกจากห้อง ก็ถูกสาวใช้ขวางเอาไว้เสียแล้ว “แม่นาง ท่านมีกิจธุระอันใดให้ต้องจัดการสั่งบ่าวไปทำก็ได้เจ้าค่ะ”สาวใช้ยิ้มละไม ทว่าคำพูดที่กล่าวออกมานั้นกลับแฝงไปด้วยความเย็นชาไม่ยอมให้โต้เถียงอวิ๋นซานหูรู้ดีว่าบ่าวรับใช้ในเรือนของนางเหล่านี้นั้นมีหน้าที่คอยรับใช้ปรนนิบัติ ทว่าในความเป็นจริงแล้วล้วนเป็นอวิ๋นฝูหลิงที่ส่งมาคอยจับตาดูนางต่างหากเมื่อก่อนครั้งที่ใบหน้าของนางยังไม่หายดี และนางยังหวังให้อวิ๋นฝูหลิงรักษาหน้าให้นาง ดังนั้นจึงไม่กล้าเนรคุณ เลยได้แต่อยู่ในเรือนอย่างว่าง่าย โผล่หน้าอ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 339

    อวิ๋นซานหูเคยได้ยินบ่าวรับใช้พูดคุยกัน ไม่ว่าอี้อ๋องจะยุ่งเพียงไร มักจะกลับมากินข้าวเย็นพร้อมกับอวิ๋นฝูหลิงสองแม่ลูกเสมอดังนั้นนางถึงได้คำนวณเวลา แล้วเดินไปตามการประดับเรือนในความทรงจำ ด้วยอยากจะไปขวางอยู่ระหว่างทางที่เซียวจิ่งอี้ต้องเดินผ่านเพื่อไปยังเรือนหลักใครจะคิดว่าตลอดทางมานี้ กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเซียวจิ่งอี้อวิ๋นซานหูอดร้อนใจขึ้นมานิด ๆ ไม่ได้อวิ๋นฝูหลิงออกปากให้นางออกจากจวนเซียวอ๋องแล้ว แต่ทันทีที่นางก้าวออกจากเรือนก็มีสาวใช้คอยติดสอยห้อยตามทุกฝีก้าวอยู่ข้าง ๆ หากวันนี้ไม่เจอตัวเซียวจิ่งอี้ ดึงดูดความสนใจจากเขาไม่ได้ เช่นนั้นหากวันข้างหน้าคิดจะเข้าหาเขาก็ยากกว่าตอนนี้เสียอีกอวิ๋นซานหูกำลังสวดอ้อนวอนต่อสรวงสวรรค์ ใครจะคิดว่าจู่ ๆ จะได้ยินเสียงพูดคุยเข้าทันทีที่ได้ยิน นางก็จำได้ทันทีว่าน้ำเสียงนั้นเป็นของเซียวจิ่งอี้อวิ๋นซานหูอดปลื้มปีติอยู่ในใจไม่ได้ พลางแอบคิดว่าสวรรค์ช่างเอ็นดูนางเสียจริง ๆอวิ๋นซานหูเปลี่ยนทิศทาง เดินไปตามทิศทางที่เสียงดังลอดเข้ามาในทันทีทันใดยามนี้สาวใช้ผู้นั้นก็รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล นางเปลี่ยนสีหน้าทันที คิดอยากเอื้อมมือออกไปรั้ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 340

    แผนการของอวิ๋นซานหูล้มเหลว ทั้งยังถูกอวิ๋นฝูหลิงเห็นกันจะจะ คาหนังคาเขา ในใจพลันกระวนกระวายไม่เป็นสุข กำลังกลัดกลุ้มคิดไม่ตกว่าควรจะทำเช่นไรดีครั้นได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเช่นนั้น นางก็รู้แจ้งราวกับมีน้ำมนต์ราดลงบนศีรษะ พยักหน้าราวกับกำลังตำกระเทียมพลางกล่าวว่า “ใช่แล้ว จวนอ๋องใหญ่เกินไป ข้าเลยหลงทางโดยไม่ทันตั้งตัว แล้วบังเอิญมาเจอท่านอ๋องเข้า...” ไม่รั้งรอให้นางได้กล่าวจนจบ อวิ๋นฝูหลิงก็หันไปมองสาวใช้ที่คอยตามอวิ๋นซานหูไม่ห่างผู้นั้นสาวใช้ผู้นั้นมีไหวพริบปฏิภาณยิ่ง รีบเอ่ยปากทันทีว่า “กราบทูลพระชายา บ่าวคอยตามแม่นางซานหูมาตลอดทาง ทั้งคอยเตือนนางเรื่องทางไปเรือนหลักอยู่หลายครั้งหลายหน ทว่านางกลับเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทั้งยังพูดว่าก่อนจะไปจากจวนอ๋องก็ขอเดินเล่นในจวนอ๋องสักหน่อย ด้วยวันข้างหน้าคงไม่มีโอกาสอีก”“เมื่อครู่บ่าวได้ยินเสียงพูดคุยของท่านอ๋อง เดิมทีคิดจะหลบเลี่ยงไป แต่พอแม่นางซานหูได้ยินเสียงของท่านอ๋องเข้า นางไม่เพียงไม่หลบเลี่ยง ซ้ำยังตรงดิ่งไปทางท่านอ๋องด้วยเพคะ”“เดิมทีบ่าวอยากจะขัดขวางไว้ ทว่าจนใจที่แม่นางซานหูเคลื่อนไหวเร็วเกินไป ชั่วพริบตานั้นบ่าวเลยขวางไว้ไม่ทัน”คว

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 372

    องครักษ์ของจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินไม่ธรรมดา แต่ละคนล้วนเป็นผู้กล้าที่เคยผ่านสนามรบและเคยเห็นเลือดมาก่อนถ้าหากมีคนกล้าบุกเข้าไป องครักษ์เหล่านี้ล้วนไม่ได้มีไว้ประดับ!แม้ฮูหยินฉู่รำคาญคนเหล่านี้ แต่ก็มีแผนรับมือในใจแล้วหลังจากนางพบว่าวันนี้มีผู้คนจำนวนมากมาที่จวน จึงเตรียมการทันทีมีองครักษ์ของจวนอยู่ที่นี่ วันนี้อย่าว่าแต่ห้องคลอดเลย ต่อให้เป็นลานเรือนของห้องคลอด ก็ไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปได้เมื่อเหล่าฮูหยินที่อยู่ในลานเห็นดังนี้ ก็รู้ว่าวันนี้พวกนางไม่สามารถไปดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดที่ห้องคลอดแล้วด้วยเหตุนี้ทุกคนทำได้เพียงนั่งลงดื่มน้ำชาอย่างไม่พอใจเพราะการจากไปตอนนี้เลยมันไม่เหมาะสมต่อให้จะไป ก็ต้องไม่ใช่ตอนนี้ระหว่างทางที่ไปห้องคลอด อวิ๋นฝูหลิงถามฮูหยินฉู่ว่าพวกโอวหยางหมิงมาหรือยังโอวหยางหมิงและคนอื่นมากันแล้ว แต่ว่าฮูหยินฉู่พาพวกเขาไปยังอีกสถานที่หนึ่งอวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าพวกโอวหยางหมิงมากันแล้ว ก็เปลี่ยนใจทันที “ไปหาพวกเจ้าสำนักโอวหยางก่อน”เมื่อฮูหยินฉู่ได้ยิน ก็รีบพาอวิ๋นฝูหลิงไปยังห้องรับแขกที่ต้อนรับพวกโอวหยางหมิงทันทีภายในห้องรับแขก บรรยากาศกำลังครึกคร

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 371

    จ้าวเสวียซือจงใจลดเสียงให้เบาลง และยังยื่นศีรษะเข้าไปทางหน้าต่างรถเซียวจิ่งอี้มองเขาอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง“ข้ารู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร”“หดหัวของเจ้ากลับไป!”จ้าวเสวียซือหดศีรษะกลับไปอย่างอับอายพริบตาต่อมา เซียวจิ่งอี้ปิดหน้าต่างรถทันทีจ้าวเสวียซือรู้สึกถึงการเหยียดหยามของเซียวจิ่งอี้ โมโหจนแทบช้ำในเขาก็แค่รู้ตัวช้าไปหน่อย ไม่ทันสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ!หลังจากมาถึงจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดิน อวิ๋นฝูหลิงก็เข้าใจในสิ่งที่จ้าวเสวียซือพูดแล้ว เกือบครึ่งหนึ่งของเมืองหลวงล้วนรู้เรื่องคร่าวๆ แล้วจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในวันนี้คึกคักมาก แขกเหรื่อเต็มไปหมดมีคนไม่น้อยที่อาศัยข้ออ้างมาเยี่ยมฮูหยินน้อยฉู่ เพื่อมาดูอวิ๋นฝูหลิงผ่าท้องทำคลอดฮูหยินฉู่รู้เจตนาการมาเยือนของคนเหล่านี้ แต่ก็ไม่สามารถไล่คนตรงๆ ได้ทำได้เพียงรับหน้าไปพลาง หาวิธีส่งแขกไปพลางทว่าฮูหยินฉู่ยังคิดวิธีไม่ออก อวิ๋นฝูหลิงก็มาถึงแล้วเมื่ออวิ๋นฝูหลิงเห็นผู้คนที่อยู่เต็มลาน ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้และผู้คนที่มารุมสอบถามเรื่องการผ่าท้องทำคลอดกับฮูหยินฉู่ในตอนแรก เพิ่งเห็นอวิ๋นฝูหลิงมา ก็กรูกันเข้าไปหานางทันทีแต่หลัง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 370

    หากนางต้องการคน ขอแค่นางบอกมา เกรงว่ากระทั่งหมอหลวงในสำนักหมอหลวงก็คงมีคนมากมายที่ยินยอมช่วยเหลือจำเป็นต้องมาถึงสกุลหางเชียวหรือ?การกระทำเช่นนี้ของอวิ๋นฝูหลิงนั้นถือว่านึกถึงบุญคุณที่สกุลหางได้ช่วยเหลือไว้ก่อนหน้านี้ จึงมามอบน้ำใจให้ถึงสกุลหาง!หลังจากที่นายท่านหางเข้าใจจุดสำคัญของเรื่องนี้ ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ความอบอุ่นแผ่ซ่านอยู่ในหัวใจวันนี้ข่าวที่อวิ๋นฝูหลิงจะผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่นั้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ในเมืองหลวงจึงมีเรื่องใหม่ให้ได้พูดคุยถกกันอย่างบ้าคลั่งบางคนตื่นตระหนกตกใจ บางคนก็สงสัยใคร่รู้และมีบางคนคิดจะฉวยโอกาสนี้ แอบปลุกปั่นสร้างเรื่องวันต่อมาอวิ๋นฝูหลิงหลับสนิทตลอดทั้งคืน เตรียมตัวไปจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความกระปรี้กระเปร่าเดิมทีวันนี้เซียวจิ่งอี้จะต้องไปตรวจตราค่ายใหญ่แถบชานเมืองหลวงทว่าพอเขานึกว่าวันนี้อวิ๋นฝูหลิงจะต้องผ่าท้องเอาเด็กออกให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว เลยวางใจไม่ลงจริง ๆถึงอย่างไรการผ่าตัดครั้งนี้ก็นับว่าเป็นการผ่าท้องเอาเด็กออกในขณะที่คนยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสกุลฉู่ก็ดี

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 369

    กระทั่งยามที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ได้สติ อวิ๋นฝูหลิงก็โยนแส้ใส่อ้อมแขนของนางแล้ว“เอาละ พวกเราสองคนหายกันแล้วนะ”ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถึงกับนิ่งอึ้งยามที่นาได้สติ ตัวอวิ๋นฝูหลิงก็เดินจากไปไกลแล้วฉยงอวี้จวิ้นจู่กำแส้ขี่ม้าในมือแน่น พร้อมกับคิ้วที่กระตุกเล็กน้อยอวิ๋นฝูหลิงผู้นี้ไม่เหมือนกับที่นางคิดเลยสักนิดนิสัยไม่เหมือนใครดี!หลังจากที่อวิ๋นฝูหลิงออกจากจวนแม้ทัพพิทักษ์แผ่นดิน ก็ไปยังเรือนในเมืองหลวงของสกุลหางนายท่านผู้เฒ่าหางดีใจยิ่งนักที่เห็นนางมา“ฝูหลิง ทำไมวันนี้ถึงได้มีเวลามาได้เล่า?”อวิ๋นฝูหลิงก้าวไปคารวะ แล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าเป็นเพราะคิดถึงท่านปู่หาง เลยมาเยี่ยมหาอย่าไรเล่าเจ้าคะ”นางเขย่าห่อกระดาษในมือเล็กน้อย “รู้ว่าท่านชอบกินขนมลี่จื่อของโจวจี้ จึงตั้งใจเอามาแสดงความกตัญญูกับท่านปู่เจ้าค่ะ!”รอยยิ้มบนใบหน้าของนายท่านผู้เฒ่าหางยิ่งกว้างกว่าเดิมรีบให้บ่าวไพร่นำขนมลี่จื่อที่อวิ๋นฝูหลิงนำมาไปวางใส่จานมา เขาจะไว้กินแกล้มกับชาปู่หลานพูดคุยกันได้สักพัก อวิ๋นฝูหลิงจึงพูดเรื่องจริงจังขึ้นมา“ท่านปู่หาง ตอนนี้ข้ามีคนไข้อยู่ในมือ นางตั้งครรภ์แฝด หากจะคลอดอย่างธรรมดา

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 368

    ลูกเติบโตอยู่ในท้องของนางทุกวัน ๆ ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ล้วนนำมาซึ่งความปีติยินดีที่ยากจะเอื้อนเอ่ยออกมาได้นางไม่อาจทอดทิ้งลูกในท้องได้จริง ๆหลังได้รู้จักกับวิธีการผ่าท้องเอาเด็กออกของอวิ๋นฝูหลิง ฮูหยินน้อยฉู่ก็ตัดสินใจได้เฉียบขาดเสียยิ่งกว่าผู้ใดเหล่าหมอที่รายล้อมอยู่ข้าง ๆ ล้วนอับจนหนทาง มิสู้ให้อวิ๋นฝูหลิงได้ลองทำมิดีกว่าหรือหากรักษาพวกนางสามแม่ลูกไว้ได้จะเป็นการดีที่สุดหากทำไม่ได้ เช่นนั้นก็เอาชีวิตของนางไปแทนลูก ๆ เถิดแม้นาจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ทว่ายามที่เหตุการณ์ดำเนินมาถึงตรงหน้า นางก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ดีโชคดีที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจานุ่มนวล ทำให้นางคลายความตื่นตระหนกในใจไปได้มากหลังจากอวิ๋นฝูหลิงจับชีพจรให้ฮูหยินน้อยฉู่แล้ว จึงกำชับนางว่านับตั้งแต่ตอนนี้ห้ามกินอะไรเข้าไป มิเช่นนั้นจะกระทบต่อการผ่าตัด เป็นอันตรายถึงชีวิตฮูหยินน้อยฉู่ได้ยินน้ำเสียงแสนจริงจังของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว รีบแสดงท่าทีว่านางเชื่อฟังคำพูดของอวิ๋นฝูหลิงไม่มีบิดพลิ้ว ไม่กินอะไรลงท้องแน่นอนอวิ๋นฝูหลิงเห็นเช่นนั้น ก็พอใจมากนางชอบผู้ป่วยที่เชื่อฟังคำสั่งของหมอเป็นที่สุดหลังอวิ๋นฝูหลิงกำชับสิ่งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 367

    โอวหยางหมิงไม่ทันตั้งตัวกับคำขอของอวิ๋นฝูหลิงเอาเสียเลยนี่เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ทำการผ่าท้องเอาเด็กออก ในขณะที่มารดาที่ตั้งครรภ์ยังมีชีวิตอยู่หากเป็นอย่างที่อวิ๋นฝูหลิงพูดจริง ๆ ที่ว่าหลังผ่าตัดแล้ว ทั้งมารดาและบุตรล้วนมีชีวิตอยู่ต่อได้โดยปลอดภัยละก็ พอจะจินตนาการออกเลยว่าจะก่อความตื่นตะลึงมากมายมหาศาลเลยทีเดียววีรกรรมอันยิ่งใหญ่นี้ จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์ทางการแพทย์ ถึงขั้นในตำราประวัติศาสตร์ก็อาจจะเป็นได้ว่าจะบันทึกเอาไว้อย่างโดดเด่นอีกด้วยฉากที่ได้เป็นประจักษ์พยานเช่นนี้ โอวหยางหมิงย่อมหวังว่าตัวเขาเองจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วยหลังจากโอวหยางหมิงตอบรับคำร้องขอของอวิ๋นฝูหลิงแล้ว ก็เอ่ยถามอีกครั้งว่า “ฝูหลิง เจ้าต้องการผู้ช่วยสักกี่คน จะให้ปู่เรียกคนในสำนักแพทย์หลวงมาให้เจ้าสักหลาย ๆ คนหน่อยหรือไม่?”โอวหยางหมิงมั่นใจ ขอแค่เขาเรียกตัว เหล่าหมอหลวงในสำนักแพทย์หลวงจำนวนไม่น้อยจะต้องให้ความสนใจกับการผ่าคลอดครั้งนี้ ทั้งยังเต็มใจมาช่วยอีกด้วยอวิ๋นฝูหลิงส่ายหน้าพลางกล่าว “เรื่องท่านหมอนั้นข้ามีตัวเลือกอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องการใครอีกเจ้าค่ะ”“แต่ได้ยินว่าในสำนักแพทย์หลว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 366

    ยามนี้ ผู้เฝ้าประตูเดินเข้ามารายงานว่า “ท่านอ๋อง พระชายา แม่ทัพน้อยฉู่จากจวนแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินมาขอรับ”“บอกว่าต้องการเชิญพระชายาให้ไปตรวจอาการอีกครั้งขอรับ!”อวิ๋นฝูหลิงวางชามโจ๊กในมือลง ฉวยผ้าเช็ดปากมาซับปากเล็กน้อย“เชิญให้ท่านแม่ทัพน้อยฉู่รอที่โถงหน้าสักครู่ อีกประเดี๋ยวข้าจะตามไป”เมื่อวานนี้นางมั่นใจยิ่ง ว่าท้ายที่สุดแล้วสกุลฉู่ก็จะมาหานางเนื่องจากสถานการณ์ของฮูหยินน้อยฉู่ หากเป็นการคลอดธรรมชาติ ด้วยวิชาแพทย์ในปัจจุบันนี้ของแคว้นต้าฉีนั้น แทบจะไม่มีหมอคนไหนที่สามารถรับรองความปลอดภัยของทั้งมารดาและบุตรได้เลยเดิมทีนางคิดว่าสกุลฉู่จะฝืนทนต่ออีกสองสามวัน เฝ้าหาหมอชื่อดังหลายท่านไปตรวจดูนึกไม่ถึงว่านี่เพิ่งผ่านไปเพียงวันเดียว ฉู่หมิงก็มาเชิญนางถึงหน้าประตูด้วยตนเองเสียแล้วการกระทำของสกุลฉู่ ยิ่งทำให้อวิ๋นฝูหลิงมั่นใจว่าสกุลฉู่เอนเอียงที่จะใช้วิธีผ่าท้องเอาเด็กออกที่นางเสนอแล้วเซียวจิ่งอี้ว่า “วันนี้ข้าไม่มีกิจอันใดพอดี ตามเจ้าไปได้”อวิ๋นฝูหลิงพยักหน้า หลังกลับไปหยิบกล่องยาที่ห้องแล้ว จึงเดินไปที่โถงหน้ากับเซียวจิ่งอี้ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นว่าไม่มีใครเรียกนาง ครั้นลองคิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 365

    อย่าว่าแต่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ถูกเซียวจิ่งอี้แย่งแส้ไปเลย นี่ยังถูกซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาขนาดนี้อีกครั้นฉยงอวี้จวิ้นจู่สบเข้ากับดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเดือดดาลคู่นั้นของเซียวจิ่งอี้ ในใจพลันหวาดหวั่นขึ้นมาแต่พอนึกถึงสาเหตุที่ตัวเองมาที่นี่ในวันนี้แล้ว จึงรู้สึกมั่นใจและหาญกล้าขึ้นมาทันที“พี่เจ็ด ท่านถามว่าข้าคิดจะทำอะไรหรือ? ข้าอยากถามอวิ๋นฝูหลิงมากกว่า ว่านางคิดจะทำอะไร?”“เจ้ายังจะกล้าต่อปากต่อคำอีก?” เซียวจิ่งอี้บันดาลโทสะ ง้างมือเหวี่ยงแส้ออกไปฉยงอวี้จวิ้นจู่หลบไปข้าง ๆ ด้วยความตกใจทันทีดวงตาคลอไปด้วยน้ำตา ท่าทางน้อยอกน้อยใจเป็นที่สุดทว่าแส้ของเซียวจิ่งอี้กลับสะบัดไปถูกอากาศเท่านั้น มิได้พุ่งไปยังบริเวณที่ฉยงอวี้จวิ้นจู่ยืนอยู่เมื่อครู่นี้ด้วยซ้ำ“หากเจ้ายังกล้าทำตนไม่เคารพไม่ให้เกียรติพี่สะใภ้เจ้าอยู่อีก หนหน้าแส้ในมือข้าจะไม่โดยเพียงอากาศแล้ว!” แววตาของเซียวจิ่งอี้เย็นชาเป็นอย่างยิ่งเขาไม่ยอมให้ใครหน้าไหนก็ตามมารังแกอวิ๋นฝูหลิง!ฉยงอวี้จวิ้นจู่เห็นเซียวจิ่งอี้มีโทสะเข้าแล้วจริง ๆ ถึงกับอดหดคอด้วยความหวาดกลัวไม่ได้นางชอบเล่นกับเซียวจิ่งอี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะว่

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 364

    “วันพรุ่งไม่สู้ลองเชิญพระชายาอี้อ๋องมาอีกครั้ง แล้วให้อธิบายวิธีผ่าเปิดหน้าท้องเอาเด็กออกให้ละเอียดดีหรือไม่?”“หลังลองฟังดูแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกครา?”หลังจากที่คังจวิ้นอ๋องและคนอื่น ๆ สบตากัน ทุกคนล้วนเห็นด้วยที่วันพรุ่งจะเชิญอวิ๋นฝูหลิงมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวคังจวิ้นอ๋อง พวกเขาอยากได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดเองกับหูส่วนทางอวิ๋นฝูหลิงหลังจากกลับมาถึงจวนอี้อ๋องนั้น ก็เข้ามิติไปรื้อค้นในเรือนไม้ไผ่ เพื่อตระเตรียมของสำหรับการผ่าคลอดนางมีลางสังหรณ์ ว่าสุดท้ายแล้วสกุลฉู่จะยอมให้นางทำการผ่าคลอดวันต่อมา ขณะที่อวิ๋นฝูหลิงกำลังกินข้าวเช้า ในจวนอ๋องพลันมีแขกไม่ได้รับเชิญท่านหนึ่งปรากฏตัวครั้นอวิ๋นฝูหลิงรู้ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่เสด็จมา จึงประหลาดใจไม่น้อยนับแต่งานเลี้ยงพระราชวังเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คลุกคลีอะไรกันอวิ๋นฝูหลิงสัมผัสได้ราง ๆ ว่าฉยงอวี้จวิ้นจู่ดูเหมือนจะมีเจตนาร้ายต่อนาง จึงคอยอยู่ห่าง ๆ ไว้แล้วเหตุใดนางถึงได้โผล่มาถึงหน้าจวนกะทันหันแบบนี้?วันนี้เซียวจิ่งอี้มิได้มีกิจอันใดพอดี และกำลังร่วมกินข้าวเช้าอยู่กับอวิ๋นฝูหลิงครั้นทราบว่าฉยงอวี้จวิ้นจู

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status