Share

บทที่ 283

Author: หลันซานอวี่
องค์ชายสามกระสับกระส่าย ไม่มีกะจิตกะใจคิดเรื่องอื่นแล้ว

และเซียวจิ่งอี้และคนอื่นกลับสังเกตเห็นคำว่า ‘พระบัญชา’ ของจั่วเยี่ยน

ฝ่าบาทสามารถออกคำสั่งแล้ว หรือเขาฟื้นแล้ว?

เซียวจิ่งอี้รีบถามทันที “ผู้บัญชาการจั่ว เสด็จพ่อฟื้นหรือยัง?”

จั่วเยี่ยนพยักหน้า “แม่นางอวิ๋นรักษาฝ่าบาทฟื้นแล้วขอรับ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนกรูกันเข้าไปในตำหนักโดยมีไทเฮานำหน้า

เมื่อเข้าไปในตำหนัก ฮ่องเต้จิ่งผิงฟื้นแล้วจริงๆ

เพียงแต่เขายังป่วยอยู่ สีหน้าซีดเซียวเล็กน้อย ดูไม่มีชีวิตชีวาอะไร ประกอบกับเจ็บคอเพราะติดไข้หวัดลมเย็น หลังจากมอบหมายไม่กี้คำ ก็นานหลับไปแล้ว

ไทเฮาเห็นเขาหลับตา อดรู้สึกแน่นหน้าอกไม่ได้

“แม่นางอวิ๋น เหตุใดฝ่าบามนอนหลับไปอีกแล้ว?”

อวิ๋นฝูหลิงรีบอธิบาย “ทูลไทเฮา พระวรกายฝ่าบาททรงอ่อนแอเพราะประชวร การนอนหลับในเวลานี้ เป็นสัญญาณซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเพคะ”

ไทเฮาพยักหน้า นี่จึงจะวางใจ

“ฝีมือการแพทย์ของเจ้าเยี่ยมจริงๆ รักษาฝ่าบาทให้ดี หลังจากฝ่าบาทหายดีแล้ว ย่อมมีรางวัลให้เจ้า!”

เวลานี้ ไทเฮารู้สึกถูกชะตากับอวิ๋นฝูหลิงมากขึ้นหลายส่วน

อย่างไรก็ตาม หมอที่ดีนั้นหายาก
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 284

    อวิ๋นฝูหลิงล้วงขวดยาเล็กๆ ออกจากแขนเสื้อ นางกล่าว “ฝ่าบาท นี่คือน้ำค้างแตงโมที่หม่อมฉันคิดค้นและทำเองเพคะ มีฤทธิ์ต่อโรคแผลในปาก ลิ้น เจ็บคอต่างๆ หลังจากใช้แล้วไม่เพียงบรรเทาอาการเจ็บทันที อีกทั้งไม่เกินสามวันแผลในปากก็สามารถหายดีเพคะ”“เพียงแต่หม่อมฉันเป็นคนทำยานี้เอง ในวังให้ความสำคัญกับการใช้ยา โดยเฉพาะยาที่ฝ่าบาทใช้ ยิ่งประมาทไม่ได้เด็ดขาด”“หม่อมฉันถวายยาขวดนี้ให้ฝ่าบาท แต่ใช้ได้หรือไม่ ฝ่าบาทเป็นคนตัดสินพระทัยเองเลยเพคะ”เวลานี้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้สึกเพียงแค่กลืนน้ำลายก็เจ็บคอมาก เมื่อได้ยินว่ายาที่อยู่ในมืออวิ๋นฝูหลิงสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอ ดวงตาก็ลุกวาวทันทีแต่เขายังมีสติอยู่ เข้าใจว่าต่อให้อวิ๋นฝูหลิงหวังดี ยาก็ไม่มีปัญหา แต่เขาก็ไม่สามารถใช้ส่งเดชโอวหยางหมิงอดไม่ได้ที่จะเกิดความสนใจต่อยาในมืออวิ๋นฝูหลิงเขาเดินเข้าไปกล่าว “ฝ่าบาท หรือไม่ให้กระหม่อมดูยาในมือแม่นางอวิ๋นก่อน?”ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า บ่งบอกว่าอนุญาตโอวหยางหมิงรับยามาจากมืออวิ๋นฝูหลิง เขาเทออกมาตรวจดูเล็กน้อย พบว่าของที่อยู่ในขวดเป็นผงสีขาวเขาดมผงยาอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มผงยาขึ้นมาเล็กน้อย ใ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 285

    อวิ๋นกานซงพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากนั้นเล่าเรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงเข้าวังกับอี้อ๋อง อีกทั้งได้รับอนุญาตรักษาฮ่องเต้จิ่งผิง และยังรักษาจนหายดีด้วยให้นางฟังฮูหยินรองอวิ๋นยิ่งฟังยิ่งหวาดกลัวจบแล้ว จบเห่แล้ว!อวิ๋นฝูหลิงยังมีชีวิต เดิมทีนี่ก็เป็นข่าวร้ายอยู่แล้ว ตอนนี้นางยังรักษาฝ่าบาทจนหายดี มีความดีความชอบอันยิ่งใหญ่นี้ ยิ่งแตะต้องนางส่งเดชไม่ได้แล้วความสนใจของอวิ๋นหลิงจือกลับอยู่ที่ตัวอี้อ๋องทั้งหมดทั้งๆ ที่ต่างก็เป็นผู้หญิงสกุลอวิ๋น แต่อวิ๋นฝูหลิงได้รับความโปรดปรานตั้งแต่เด็ก เป็นคุณหนูใหญ่ผู้สูงศักดิ์ของจวนจี้ชุนโหวและนางทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรด้อยกว่าอวิ๋นฝูหลิง กลับได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาในสกุลอวิ๋นเพียงเพราะพ่อของนางคือนายท่านรองอวิ๋นที่ไม่ได้รับความโปรดปราน และไม่ใช่ผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์จี้ชุนโหวนางยอมรับไม่ได้!โชคดีที่สวรรค์มีตา ให้สามีภรรยาจี้ชุนโหวตายก่อนวัยอันควร เหลือไว้เพียงอวิ๋นฝูหลิงที่เป็นเด็กกำพร้าคนนี้นางจะทำลายอวิ๋นฝูหลิงด้วยมือตัวเอง ให้คุณหนูผู้สูงศักดิ์ในอดีตคนนี้ ได้ลิ้มลองรสชาติที่ตกลงมาจากก้อนเมฆ แล้วถูกเหยียบย่ำลงไปในโคลนและทุกสิ่งที่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 286

    อวิ๋นกานซงผ่านความตึงตระหนกในตอนแรกแล้ว เวลานี้ค่อยๆ สงบลง สมองก็แจ่มใสมาก“ตื่นตระหนกอะไร?” เขาตำหนิฮูหยินรองอวิ๋น“ต่อให้นางกลับมาแล้ว ข้าก็เป็นอารองของนาง นางอยากปฏิเสธความสัมพันธ์นี้ มันไม่ง่ายเช่นนั้น!”“นางที่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง สักวันก็ต้องออกเรือน ผู้หญิงที่ออกเรือนก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป กิจการของสกุลอวิ๋นย่อมไม่ถึงคราวของลูกสาวที่ออกเรือนแล้วคนหนึ่งมารับช่วงต่อ”“ยิ่งกว่านั้นผู้ดูแลของสำนักช่วยชีพและที่นาร้านค้าในปัจจุบัน ล้วนเปลี่ยนเป็นคนของพวกเราหมดแล้ว นางอยากเอาสำนักช่วยชีพและที่นาร้านค้ากลับคืน ก็ต้องดูด้วยว่ามีความสามารถพอหรือไม่!”“ตอนนั้นพวกเราสามารถกลืนทรัพย์สมบัติมหาศาลนี้ของสกุลอวิ๋น เบื้องหลังก็มีที่พึ่งเช่นกัน”“นางที่เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง เอาอะไรมาสู้กับพวกเรา?”คำพูดเหล่านี้ของอวิ๋นกานซง ก็เหมือนกำลังบอกให้ตัวเองฟังเช่นกันเมื่อนึกถึงที่พึ่งที่ตัวเองเกาะติด  ในใจเขาก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันทีฮูหยินรองอวิ๋นยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงไม่ตื่นตระหนกและไม่กลัวแล้วเช่นกัน“นายท่านพูดถูก!”“ตอนนั้นพวกเราสามารถฆ่านางครั้งแรก ก็ย่อมสามารถฆ่าครั้งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 287

    หมอหลวงจงกล่าวอีก “แต่บ้านสายหลักสกุลอวิ๋นไม่มีสายเลือดเหลือแล้วไม่ใช่หรือ? หรือนางเป็นคนของบ้านรอง?”หมอหลวงเจิ้งส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วย “ท่าทางที่ประจันหน้ากันก่อนหน้านี้ของแม่นางอวิ๋นกับอวิ๋นกานซง เหมือนคนของบ้านรองที่ไหน?”โอวหยางหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “สกุลอวิ๋นมีแค่สายเลือดบ้านสายหลัก มีบ้านรองที่ไหน?”“แค่ลูกนอกสมรสที่มาอาศัยเขาอยู่ ก็กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นบ้านรอง?”“ทายาทของสกุลอวิ๋นกลับมา สิ่งที่ควรคืนก็ต้องคืน!”กล่าวจบ โอวหยางหมิงก็ไม่พูดมากอีก ถือยาที่ต้มเสร็จไปเปลี่ยนยาให้ฮ่องเต้จิ่งผิงแล้วทิ้งให้หมอหลวงจงกับหมอหลวงเจิ้งมองหน้ากันพวกเขาเคยฟังเพลงกล่อมเด็กที่มีการร้องในเมืองเมื่อเร็วๆ นี้แล้ว และเกิดความสงสัยนานแล้วแต่พวกเขาเป็นคนรู้จักกาลเทศะ ก็ไม่ได้ไปถามอวิ๋นกานซงตรงๆอวิ๋นกานซงนับว่าเป็นคนหน้าด้านเลยทีเดียว เจอเรื่องเช่นนี้ยังสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อให้หมอหลวงในสำนักหมอหลวงที่ไม่ถูกกับเขาหยิบยกเรื่องนี้มาพูด เขาก็สามารถปฏิเสธเหมือนตัวเองเป็นคนถูกแต่วันนี้โอวหยางหมิงกลับบอกว่าอวิ๋นกานซงเป็นลูกนอกสมรสตรงๆ ในน้ำเสียงยังค่อนข้างดูถูกอวิ๋นกานซงด้วย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 288

    เพราะฮ่องเต้จิ่งผิงยังป่วยอยู่ ดังนั้นอาหารเช้าจึงจืดแต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงไม่ใช่คนกินยาก อีกทั้งวัตถุดิบอาหารของยุคโบราณล้วนเป็นธรรมชาติไร้สิ่งเจือปน ของที่สามารถมาถึงโต๊ะอาหารของฮ่องเต้ มีอะไรบ้างที่ไม่ใช่ของคุณภาพสูงต่อให้เป็นข้าวต้มเปล่าหนึ่งชาม ก็ทำมาจากข้าวบรรณาการ ซึ่งส่งกลิ่นข้าวที่หอมโชยจมูก หลังจากฮ่องเต้เสวยข้าวต้มเปล่าหมดไปหนึ่งชาม จู่ๆ ก็เอ่ยปากกล่าว “เจ้าเจ็ด เจ้าหาลูกสะใภ้ให้เราได้ดีมาก!”มุมปากเซียวจิ่งอี้เผยอขึ้น “เพราะกระหม่อมโชคดี และอาศัยบุญบารมีของเสด็จพ่อ”ฮ่องเต้จิ่งผิงมองไปทางอวิ๋นฝูหลิง “เจ้ารักษาเราจนหายดี อยากได้รางวัลอะไร?”อวิ๋นฝูหลิงวางชามตะเกียบลง กล่าวตรงๆ “ฝ่าบาทจะประทานรางวัลแก่หม่อมฉันจริงหรือเพคะ?”ฮ่องเต้จิ่งผิงขมวดคิ้ว “คำพูดเราศักดิ์สิทธิ์ เจ้ารักษาเราหาย สร้างความดีความชอบอย่างใหญ่หลวง ย่อมสมควรประทานรางวัล พูดมาเถอะ อยากได้อะไร?”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาท คิดว่าพระองค์คงทราบเรื่องครอบครัวของหม่อมฉันหมดแล้ว เรื่องวุ่นวายเหล่านั้น หม่อมฉันจัดการเองได้ เพียงแต่อยากให้ฝ่าบาทหนุนหลังหม่อมฉันสักครั้งเพคะ!”เมื่อฮ่องเต้จิ่งผิงได้ยินก็ห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 289

    อวิ๋นฝูหลิงหอมแก้มอวิ๋นจิงมั่ว “ขอโทษนะ แม่มีธุระต้องทำ ไม่ได้ตั้งใจ”อวิ๋นจิงมั่วซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนอวิ๋นฝูหลิง“ไม่เป็นไรขอรับ มั่วเอ๋อร์ไม่โทษท่านแม่ขอรับ”สองแม่ลูกกอดกันอบอุ่นมาก เซียวจิ่งอี้ที่อยู่ข้างๆ ดูจนน้อยใจเจ้าเด็กนี่ ในสายตามีแต่แม่ ไม่มองเขาที่เป็นพ่อคนนี้เลยสักนิด!ผ่านไปครู่หนึ่ง อวิ๋นจิงมั่วเหมือนเพิ่งจะเห็นเซียวจิ่งอี้ เขาเงยหน้าเรียก “ท่านพ่อ” อย่างอ่อนหวานหลังจากนั้นก็ถาม “เสด็จปู่เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”เซียวจิ่งอี้ลูบศีรษะของเขา “เสด็จปู่ของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว พรุ่งนี้ข้าพาเจ้าเข้าวังไปพบเสด็จปู่ดีหรือไม่?”“ได้!” อวิ๋นจิงมั่วพยักหน้าอวิ๋นฝูหลิงกับอวิ๋นจิงมั่วเล่นกันครู่หนึ่ง หลังจากกินอาหารเย็นด้วยกัน ก็ส่งอวิ๋นจิงมั่วให้เซียวจิ่งอี้แล้วส่วนนางพาเหยากวงไปที่เรือนเปลี่ยวหลังหนึ่งของจวนอ๋องประตูห้องถูกผลักออก ผู้หญิงที่ถูกมัดอยู่ในห้องได้ยินเสียงก็เงยหน้ามองเมื่อเห็นว่าผู้มาคืออวิ๋นฝูหลิง สีหน้าของนางดุร้ายขึ้นมาทันที“เจ้าขังข้าไว้ที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?”อวิ๋นฝูหลิงเดินเข้าไป จ้องอวิ๋นซานหูตรงๆ “ยังจำชื่ออวิ๋นฝูหลิงได้หรือไม่?”ม่านตาอวิ๋

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 290

    “พวกเขาเป็นคนทำร้ายเจ้า!”“ข้าได้ยินทุกอย่างเลย ท่านพ่อท่านแม่ข้าอยากได้ทรัพย์สินของสกุลอวิ๋น พี่หญิงข้าริษยาเจ้า นางชอบซื่อจื่ออันกั๋วกง อยากแย่งงานแต่งของเจ้า”“ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกัน วางแผนทำให้เจ้าเสียตัว”“คิดไม่ถึงว่าไปๆ มาๆ คนที่อยู่กับเจ้ากลายเป็นอี้อ๋อง”“พวกเขากลัวเจ้าเกาะอี้อ๋องติด เช่นนั้นก็ยิ่งกำจัดยากแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจวางเพลิง อยากเผาเจ้าให้ตายโดยตรง”“และพอดีกับเจ้าเสียตัวและยังถูกดูหมิ่น จึงสามารถบอกกับโลกภายนอกว่า เจ้ารู้สึกอับอายโกรธแค้นจึงฆ่าตัวตาย”“ที่ข้าพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะ!”อวิ๋นซานหูนอนหลับก็ยังฝัน อยากรักษาหน้าตัวเองให้หายดี ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว นางย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมืออวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นซานหูจะติดเบ็ดง่ายเช่นนี้ ถึงกับไม่สงสัยนางเลย ก็สารภาพเรื่องราวในตอนนั้นออกมาอย่างหมดเปลือกแล้วนี่ทำให้นางไม่ได้ใช้แผนที่เตรียมมาล่วงหน้าเลย นางล้วงยาขวดหนึ่งออกจากแขนเสื้อแล้วกล่าว “ยานี่สามารถลบรอยแผลเป็นบนหน้าเจ้า เจ้าสามารถลองใช้ดูก่อน ดูว่าข้าหลอกเจ้าหรือไม่”“แต่ว่าแผลเป็นบนใบหน้าเจ้าลึกเกินไป อยากรักษาให้หายทั้งหมด อย่างน้อยก็

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 291

    อวิ๋นซานหูเอายาที่ได้รับจากอวิ๋นฝูหลิงมาใช้ทันทีมิใช่นางไม่สงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงอาจทำร้ายนาง แต่ยามนี้รูปลักษณ์ของนางพังทลาย ทั้งยังถูกครอบครัวทอดทิ้งและโดนดูถูกเหยียดหยาม จึงไม่มีสิ่งใดจะเสียอีกแล้วหากยาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้สามารถรักษาใบหน้าของนางได้จริง ๆ แม้ว่าต้องการจะใช้นางเพื่อทำเรื่องใด นางก็ยอมทำทั้งนั้นในช่วงที่รูปลักษณ์ของนางถูกทำลาย อวิ๋นซานหูสัมผัสได้ถึงช่องว่างใหญ่หลวงของการตกจากสวรรค์มาสู่ขุมนรกชีวิตที่น่าเวทนาเช่นนี้ นางไม่อยากพบเจออีกแล้วขอเพียงรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า และฟื้นฟูรูปลักษณ์ให้กลับมาเป็นเช่นเดิมได้ นางก็จะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครา ทั้งยังสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับมนุษย์อีกครั้งเพื่อความหวังเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดที่อวิ๋นซานหูทำไม่ได้วันรุ่งขึ้น เหยากวงไปรายงานอวิ๋นฝูหลิงว่า “พระชายา ทางด้านอวิ๋นซานหูได้ส่งข่าวมาว่า ไม่ว่าพระชายาจะให้นางทำสิ่งใด นางก็เต็มใจจะทำทุกอย่างเจ้าค่ะ”อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้ว “ตอบรับเร็วถึงเพียงนี้เชียว ข้ายังคิดว่านางจะใคร่ครวญดูอีกสักสองสามวันเสียอีก ช่างเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวจริงๆ”เหยากวงกล่าวว่า “ความจริงเป็นเพราะยารักษารอยแ

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status