Share

บทที่ 291

Author: หลันซานอวี่
อวิ๋นซานหูเอายาที่ได้รับจากอวิ๋นฝูหลิงมาใช้ทันที

มิใช่นางไม่สงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงอาจทำร้ายนาง แต่ยามนี้รูปลักษณ์ของนางพังทลาย ทั้งยังถูกครอบครัวทอดทิ้งและโดนดูถูกเหยียดหยาม จึงไม่มีสิ่งใดจะเสียอีกแล้ว

หากยาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้สามารถรักษาใบหน้าของนางได้จริง ๆ แม้ว่าต้องการจะใช้นางเพื่อทำเรื่องใด นางก็ยอมทำทั้งนั้น

ในช่วงที่รูปลักษณ์ของนางถูกทำลาย อวิ๋นซานหูสัมผัสได้ถึงช่องว่างใหญ่หลวงของการตกจากสวรรค์มาสู่ขุมนรก

ชีวิตที่น่าเวทนาเช่นนี้ นางไม่อยากพบเจออีกแล้ว

ขอเพียงรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า และฟื้นฟูรูปลักษณ์ให้กลับมาเป็นเช่นเดิมได้ นางก็จะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครา ทั้งยังสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับมนุษย์อีกครั้ง

เพื่อความหวังเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดที่อวิ๋นซานหูทำไม่ได้

วันรุ่งขึ้น เหยากวงไปรายงานอวิ๋นฝูหลิงว่า “พระชายา ทางด้านอวิ๋นซานหูได้ส่งข่าวมาว่า ไม่ว่าพระชายาจะให้นางทำสิ่งใด นางก็เต็มใจจะทำทุกอย่างเจ้าค่ะ”

อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้ว “ตอบรับเร็วถึงเพียงนี้เชียว ข้ายังคิดว่านางจะใคร่ครวญดูอีกสักสองสามวันเสียอีก ช่างเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวจริงๆ”

เหยากวงกล่าวว่า “ความจริงเป็นเพราะยารักษารอยแ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 292

    อวิ๋นฝูหลิงก้าวเดินอย่างแผ่วเบา พลางกล่าวกับหลิงโหยวว่า “แค่คนเฝ้าประตูผู้หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดคุยกับเขาหรอก”หลิงโหยวพยักหน้า และรีบนำคนเข้าไปโดยพลัน หลังจากนั้นก็แยกกันยืนอยู่ทั้งสองฝั่งอวิ๋นฝูหลิงหยุดฝีเท้า เงยหน้ามองป้ายที่แขวนอยู่บนประตูหลักของจวนจี้ชุนโหวเซียวจิ่งอี้จับมืออวิ๋นฝูหลิง และกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว เดิมทีสิ่งนี้เป็นของเจ้าอยู่แล้ว แค่ถึงเวลาที่ควรนำกลับมาเท่านั้น”อวิ๋นฝูหลิงยิ้มพลางพยักหน้าให้เซียวจิ่งอี้นางมิได้กลัวนางรอคอยวันนี้อยู่ รอคอยมาเนิ่นนานแล้วอวิ๋นฝูหลิงยืดหลังตรง ก้าวข้ามธรณีประตู เดินเข้าไปในประตูหลักอย่างผ่าเผยนายท่านผู้เฒ่าหางกับโอวหยางหมิงเดินตามหลังอวิ๋นฝูหลิงอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ราวกับเป็นเทพผู้พิทักษ์สององค์เมื่อคนเฝ้าประตูเห็นเช่นนั้น ก็รีบวิ่งไปรายงานที่สวนด้านหลังโดยพลันอวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่ที่โถงหลัก รอพวกอวิ๋นกานซงอยู่เงียบ ๆประตูหลักของจวนจี้ชุนโหวเปิดกว้าง โดยไม่มีความตั้งใจที่จะปิดบังแม้แต่น้อยการกระทำนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้คนให้หยุดเดิน แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ข้างเคียง ก็ยังมีคนใช้ออกมาถามไถ่ข้อมูล หากมีเรื่องน่าส

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 293

    เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อวิ๋นกานซงก็จิตใจสงบลงโดยพลันบนใบหน้าของเขามีรอยยิ้มผุดขึ้นมา ประสานมือให้โอวหยางหมิงกับนายท่านผู้เฒ่าหางพลางกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าทั้งสองท่านทำให้ข้าสับสนแล้ว ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าท่านผู้เฒ่าทั้งสองท่านหมายความว่าอย่างไร?”กล่าวจบ ก็ยังพูดกับอวิ๋นฝูหลิงว่า “แม่นางอวิ๋น ก่อนหน้านี้เจ้ากับข้าเคยพบกันในวังหลวงเพียงครั้งเดียว ทั้งยังมิได้สนิทชิดเชื้อกันถึงเพียงนั้น”อวิ๋นฝูหลิงคาดเดาไว้ก่อนแล้วว่าอวิ๋นกานซงจะต้องใช้อุบายเช่นนี้นางเอนหลังบนเก้าอี้ และพยายามกล่าวอย่างใจเย็นว่า “ความหมายของท่านคือข้ามิใช่อวิ๋นฝูหลิงคุณหนูใหญ่แห่งจวนจี้ชุนโหว แต่เป็นเพียงตัวปลอมใช่หรือไม่?”“แน่นอนว่าเจ้าเป็นตัวปลอม!” เสียงแหลมสูงของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหันพวกฮูหยินรองอวิ๋นมิได้มีฝีเท้าที่เร็วเท่าอวิ๋นกานซง ในยามนี้จึงเพิ่งรีบเร่งไล่ตามมาจนทันทันทีที่นางเข้ามา ก็ได้ยินคำพูดของอวิ๋นกานซง ยามนี้ก็โชคดีที่มีความคิด จึงคิดตรงกันกับอวิ๋นกานซงเช่นกัน“ทุกคนต่างรู้ดีว่าอวิ๋นฝูหลิงตายไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อนแล้ว เจ้ามาจากที่ใด จึงได้กล้าวิ่งโร่เข้ามาหลอกลวงจวนโหวของพวกเรา?”อวิ๋

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 294

    โอวหยางหมิงกับนายท่านผู้เฒ่าหางจ้องมองอวิ๋นกานซงด้วยสายตาเฉียบแหลมอันเย็นชานายท่านผู้เฒ่าหางกระแทกไม้เท้าลงบนพื้นอย่างรุนแรง“หรือคิดว่านางสูญเสียพ่อแม่ไปหมดแล้ว จึงกลายเป็นเด็กกำพร้าโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพิง จนพวกเจ้าจะมารังแกได้?”“เหอะ คิดว่าพวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องตายกันไปหมดแล้วหรือ?”“กล้ามารังแกยัยหนูฝูหลิง ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องนึกเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิต!”นายท่านผู้เฒ่าหางเดินทางเข้าเมืองหลวงมาครานี้ ก็เพื่อมาสนับสนุนอวิ๋นฝูหลิงโดยเฉพาะน่าเสียดายที่ศิษย์พี่รองสือฉีหลินออกเดินทางไปทั่วสารทิศ ยามนี้ไร้ซึ่งข่าวคราว ส่วนศิษย์น้องสี่ก็อยู่ห่างไกลถึงซีหนาน จึงไม่อาจเดินทางมาได้ทันเวลาดังนั้นวันนี้จึงมีเพียงเขากับศิษย์พี่ใหญ่ที่มาแม้จะเป็นเช่นนั้น น้ำหนักของคำพูดของสองคนนี้ ก็ทำให้อวิ๋นกานซงทนรับไม่ไหวแล้วอวิ๋นกานซงเห็นอวิ๋นฝูหลิงนำหลักฐานยืนยันตัวตนออกมา อีกทั้งยังมีการสนับสนุนจากหลิงโหยว โอวหยางหมิง และนายท่านผู้เฒ่าหาง อุบายที่จะบอกว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นตัวปลอมจึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปเขาเปลี่ยนอุบายโดยพลัน ท่าทีที่มีต่ออวิ๋นฝูหลิงก็กลายเป็นความรักใคร่และมีเมตตา“เจ้าคือฝูหล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 295

    อวิ๋นกานซงรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่าไม่อาจถูกอวิ๋นฝูหลิงจูงจมูกได้ ไม่อย่างนั้นนางจะกุมอำนาจในการคุมสถานการณ์ตอนนี้เขาจึงชิงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “ฝูหลิง ในเมื่อตอนนี้เจ้ากลับมาแล้ว ไม่สู้เข้าไปพักผ่อนในเรือนเสียหน่อยจะดีกว่ากระมัง หากมีเรื่องอันใดก็ค่อยพูดคุยกันคราวหลัง”“เรือนของเจ้าอารองยังเก็บไว้ให้เจ้าอยู่ ทั้งยังมีคนไปทำความสะอาดอยู่เสมอด้วย”“อีกเดี๋ยวจะให้อาสะใภ้รองของเจ้าจัดงานเลี้ยง เชิญญาติมิตรมา และประกาศข่าวการกลับมาของเจ้า”กล่าวจบก็มองไปทางอวิ๋นซานหู และแสร้งทำเป็นดุนาง “เจ้าลูกคนนี้ร่างกายไม่แข็งแรง กลับไม่ยอมพักฟื้นอยู่ที่ชนบท และวิ่งโร่มาทำอันใดถึงที่นี่กัน?”อวิ๋นหลิงจือได้ยินก็กำหมัดแน่น เรือนของอวิ๋นฝูหลิงเป็นเรือนที่ดีที่สุดในจวนจี้ชุนโหวนอกจากเรือนหลัก ซึ่งถูกนางครอบครองมานานแล้วยามนี้เมื่ออวิ๋นฝูหลิงกลับมา อวิ๋นกานซงไม่แม้แต่จะหารือกับนาง ก็คิดจะยกเรือนคืนให้อวิ๋นฝูหลิงเสียแล้วเช่นนั้นนางจะทำอย่างไรเล่า?อวิ๋นฝูหลิงมองอวิ๋นกานซงด้วยรอยยิ้มนางไม่เชื่อว่าอวิ๋นกานซงจะใจดีถึงเพียงนี้อวิ๋นหลิงจืออยากได้เรือนของนางมานานแล้ว นางจากไปนานถึงเพียงนี้ หากเรือนหลั

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 296

    “เป็นท่านพ่อท่านแม่ของข้าที่ต้องการแย่งชิงทรัพย์สมบัติของสกุลอวิ๋นมา จึงจงใจวางเพลิงเพื่อให้อวิ๋นฝูหลิงตาย...”อวิ๋นซานหูยังไม่ทันพูดจบ เส้นเลือดที่หน้าผากของอวิ๋นกานซงก็โป่งพองขึ้นมา พลางตะโกนเสียงดังว่า “หุบปาก เจ้ามันลูกเนรคุณ เห็นอยู่ว่าเจ้าป่วยจนสับสน จึงมาพูดจาเหลวไหลต่อหน้าฝ่าบาทอี้อ๋อง!”“ใครก็ได้ รีบมาพานางไปเสีย และส่งกลับไปคุมตัวที่ชนบท!”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวออกมาโดยพลัน “ข้าก็อยากเห็นว่าผู้ใดจะกล้า!”นางมองอวิ๋นกานซง ด้วยสายตาเย็นชา “อารอง มิใช่ว่าท่านรู้สึกอับอายจนโกรธ ถึงได้กินปูนร้อนท้องเช่นนี้หรือ?”“ยามนั้นข้ากำลังนอนหลับในห้องอยู่ดี ๆ ก็เกิดไฟไหม้อย่างกะทันหันขึ้นกลางดึก ไม่เพียงแต่ประตูหน้าต่างทั้งหมดถูกลงกลอนปิดสนิทจากภายนอก ทว่ายังมีกลิ่นน้ำมันในกองไฟด้วย”“หากไม่ใช่เพราะมีคนจุดไฟ วางแผนเอาชีวิตข้า เกรงว่าแม้แต่คนโง่ก็คงไม่เชื่อ!”“โชคดีที่สาวใช้ข้างกายข้าในยามนั้นเสี่ยงชีวิตปกป้องข้า นางจึงสามารถช่วยข้าออกมาได้”“ไม่เช่นนั้น เกรงว่าข้าคงถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านไปนานแล้ว”แม้โอวหยางหมิงกับนายท่านผู้เฒ่าหางจะรู้เรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงต้องออกมาร่อนเร่ข้างนอกอยู่แล้ว

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 297

    อวิ๋นหลิงจือได้ยินประโยคที่ชิวหมิงต๋าพูดว่า ‘หลังจากถูกโบยหนึ่งร้อยครั้งจะต้องถูกประหาร’ ก็ตัวอ่อนยวบ จนทรุดลงไปนั่งบนพื้น ราวกับก้อนโคลนไม่ว่านางจะเฉลียวฉลาดเพียงใด แต่ก็เป็นเพียงสตรีบอบบางผู้หนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอำนาจของราชวงศ์ ก็ถูกทำให้ตกตะลึงโดยพลัน และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวภายในใจนางคว้าชายเสื้อของอวิ๋นกานซงทันที และกล่าวทั้งน้ำตาว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่อยากตายเจ้าค่ะ ข้าไม่อยากตาย...”เรื่องพวกนี้แม้จะเป็นฝีมือของนาง แต่นางก็ทำเพื่อพวกเขา และเป็นการทำตามคำสั่งของบิดามารดาพวกเขาไม่อาจปล่อยให้ทั้งสกุลติดร่างแหไปกันหมดได้ทางรอดในตอนนี้ มีเพียงผลักคนผู้หนึ่งออกไปรับโทษขอเพียงคนผู้นั้นรับความผิดทั้งหมดไว้ พวกเขาก็มีความหวังที่จะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ความคิดของอวิ๋นหลิงจือหมุนวนอย่างรวดเร็ว ก่อนสายตาจะกวาดไปทางเซี่ยงซื่อผู้เป็นฮูหยินรองอวิ๋น โดยที่ก้นบึ้งในดวงตาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายครอบครัวของพวกเขายังต้องการพ่อซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวมาค้ำจุน เขาจะล้มลงไม่ได้เด็ดขาดด้วยเหตุนี้ จึงมีเพียงการทิ้งเซี่ยงซื่อเท่านั้นขอเพียงผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปได้ พ่อในฐานะหมอหลวงก็ได้ส

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 298

    อวิ๋นกานซงโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง และไม่อาจทนฟังต่อไปได้อีก“อวิ๋นฝูหลิง เจ้าเลิกพูดเหลวไหลได้แล้ว!”“ข้าเป็นลูกชายคนรองของท่านแม่ จะไม่ใช่สายเลือดสกุลอวิ๋นได้อย่างไร!”อวิ๋นฝูหลิงแค่นเสียงหัวเราะ “คำพูดนี้ท่านคงจะเอาไว้ให้หลอกคนอื่น และเอาไว้ให้หลอกตัวเองมากที่สุดเหมือนกัน!”“ความจริงในยามนั้นเป็นเช่นไร มิใช่ว่าจะไม่มีผู้ใดรู้”นางยกมือขึ้นชี้ไปทางโอวหยางหมิงกับนายท่านผู้เฒ่าหาง“สองท่านนี้เป็นศิษย์สายตรงของท่านปู่ทวดข้า ทั้งยังเป็นศิษย์พี่ของท่านย่าข้าด้วยพวกเขาจึงย่อมรู้พื้นเพของท่านดีที่สุด!”โอวหยางหมิงเอ่ยโดยพลัน “ศิษย์น้องของข้ามีลูกชายเพียงคนเดียว คือพ่อของอวิ๋นฝูหลิง จะมีลูกชายคนที่สองมาจากที่ใดกัน?”นายท่านผู้เฒ่าหางก็พยักหน้าตาม “ความจริงเป็นเช่นนี้!”อวิ๋นกานซงเห็นว่าตัวตนของตัวเองถูกปฏิเสธ แม้นี่จะเป็นความจริง แต่เขาก็ไม่อาจยอมรับได้เด็ดขาด และยิ่งไม่อาจเปิดเผยต่อสาธารณะได้อีกด้วยไม่เช่นนั้นทุกสิ่งในสกุลอวิ๋น ย่อมล้วนไม่เกี่ยวข้องอันใดกับเขาอีกเขาอดไม่ได้ที่จะคำรามออกมา “พวกท่านล้วนเป็นพวกเดียวกับอวิ๋นฝูหลิง ย่อมต้องพูดเข้าข้างอวิ๋นฝูหลิงอยู่แล้ว”อวิ๋นฝูหลิ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 299

    เมื่อเผชิญหน้ากับเสียงคำรามของอวิ๋นกานซง สีหน้าของอวิ๋นฝูหลิงกลับไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยนางคิดเรื่องนี้มานานแล้วนางย่อมรู้ว่าแม้จะมีคำให้การของอวิ๋นซานหู แต่ก็เป็นเพียงคำให้การฝ่ายเดียว หลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกอวิ๋นกานซงถูกตัดสินโทษได้ทว่าจุดประสงค์ของนางมิใช่เรื่องนี้การถูกขังคุก การเนรเทศ และการตัดศีรษะล้วนยังไม่เพียงพอ หากมีจุดจบเช่นนี้ย่อมง่ายดายเกินไปสำหรับพวกเขานางต้องการทำให้อวิ๋นกานซงสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียง!นางต้องการทำให้เซี่ยงซื่อเป็นทุกข์ และมีชีวิตที่เหลืออย่างน่าเวทนา!นางอยากให้แผนของอวิ๋นหลิงจือสูญเปล่า และไม่สมหวังในสิ่งที่ต้องการ!หลังจากประสบกับความทุกข์ระทมทุกรูปแบบ ก็ตายไปอย่างน่าเวทนาแม้ว่าคำให้การของอวิ๋นซานหูจะไม่สามารถทำให้พวกอวิ๋นกานซงถูกตัดสินโทษโดยตรงได้ แต่กลับสามารถฉีกหน้ากากจอมปลอมของครอบครัวพวกเขาออก และทำลายชื่อเสียงของพวกเขาที่สั่งสมมาหลายปีได้ถึงอย่างไรอวิ๋นซานหูก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของอวิ๋นกานซง คำพูดจากปากของนาง จะเป็นคำโกหกได้อย่างไร?แม้คนทั้งโลกจะสงสัย แต่ก็มีเพียงความสงสัยหนึ่งส่วน และความเชื่ออีกเก้าส่วนเกรงว่าครอบค

Latest chapter

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status