แชร์

บทที่ 284

ผู้เขียน: หลันซานอวี่
อวิ๋นฝูหลิงล้วงขวดยาเล็กๆ ออกจากแขนเสื้อ นางกล่าว “ฝ่าบาท นี่คือน้ำค้างแตงโมที่หม่อมฉันคิดค้นและทำเองเพคะ มีฤทธิ์ต่อโรคแผลในปาก ลิ้น เจ็บคอต่างๆ หลังจากใช้แล้วไม่เพียงบรรเทาอาการเจ็บทันที อีกทั้งไม่เกินสามวันแผลในปากก็สามารถหายดีเพคะ”

“เพียงแต่หม่อมฉันเป็นคนทำยานี้เอง ในวังให้ความสำคัญกับการใช้ยา โดยเฉพาะยาที่ฝ่าบาทใช้ ยิ่งประมาทไม่ได้เด็ดขาด”

“หม่อมฉันถวายยาขวดนี้ให้ฝ่าบาท แต่ใช้ได้หรือไม่ ฝ่าบาทเป็นคนตัดสินพระทัยเองเลยเพคะ”

เวลานี้ฮ่องเต้จิ่งผิงรู้สึกเพียงแค่กลืนน้ำลายก็เจ็บคอมาก เมื่อได้ยินว่ายาที่อยู่ในมืออวิ๋นฝูหลิงสามารถบรรเทาอาการเจ็บคอ ดวงตาก็ลุกวาวทันที

แต่เขายังมีสติอยู่ เข้าใจว่าต่อให้อวิ๋นฝูหลิงหวังดี ยาก็ไม่มีปัญหา แต่เขาก็ไม่สามารถใช้ส่งเดช

โอวหยางหมิงอดไม่ได้ที่จะเกิดความสนใจต่อยาในมืออวิ๋นฝูหลิง

เขาเดินเข้าไปกล่าว “ฝ่าบาท หรือไม่ให้กระหม่อมดูยาในมือแม่นางอวิ๋นก่อน?”

ฮ่องเต้จิ่งผิงพยักหน้า บ่งบอกว่าอนุญาต

โอวหยางหมิงรับยามาจากมืออวิ๋นฝูหลิง เขาเทออกมาตรวจดูเล็กน้อย พบว่าของที่อยู่ในขวดเป็นผงสีขาว

เขาดมผงยาอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ใช้นิ้วจิ้มผงยาขึ้นมาเล็กน้อย ใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 285

    อวิ๋นกานซงพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากนั้นเล่าเรื่องที่อวิ๋นฝูหลิงเข้าวังกับอี้อ๋อง อีกทั้งได้รับอนุญาตรักษาฮ่องเต้จิ่งผิง และยังรักษาจนหายดีด้วยให้นางฟังฮูหยินรองอวิ๋นยิ่งฟังยิ่งหวาดกลัวจบแล้ว จบเห่แล้ว!อวิ๋นฝูหลิงยังมีชีวิต เดิมทีนี่ก็เป็นข่าวร้ายอยู่แล้ว ตอนนี้นางยังรักษาฝ่าบาทจนหายดี มีความดีความชอบอันยิ่งใหญ่นี้ ยิ่งแตะต้องนางส่งเดชไม่ได้แล้วความสนใจของอวิ๋นหลิงจือกลับอยู่ที่ตัวอี้อ๋องทั้งหมดทั้งๆ ที่ต่างก็เป็นผู้หญิงสกุลอวิ๋น แต่อวิ๋นฝูหลิงได้รับความโปรดปรานตั้งแต่เด็ก เป็นคุณหนูใหญ่ผู้สูงศักดิ์ของจวนจี้ชุนโหวและนางทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรด้อยกว่าอวิ๋นฝูหลิง กลับได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาในสกุลอวิ๋นเพียงเพราะพ่อของนางคือนายท่านรองอวิ๋นที่ไม่ได้รับความโปรดปราน และไม่ใช่ผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์จี้ชุนโหวนางยอมรับไม่ได้!โชคดีที่สวรรค์มีตา ให้สามีภรรยาจี้ชุนโหวตายก่อนวัยอันควร เหลือไว้เพียงอวิ๋นฝูหลิงที่เป็นเด็กกำพร้าคนนี้นางจะทำลายอวิ๋นฝูหลิงด้วยมือตัวเอง ให้คุณหนูผู้สูงศักดิ์ในอดีตคนนี้ ได้ลิ้มลองรสชาติที่ตกลงมาจากก้อนเมฆ แล้วถูกเหยียบย่ำลงไปในโคลนและทุกสิ่งที่อ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 286

    อวิ๋นกานซงผ่านความตึงตระหนกในตอนแรกแล้ว เวลานี้ค่อยๆ สงบลง สมองก็แจ่มใสมาก“ตื่นตระหนกอะไร?” เขาตำหนิฮูหยินรองอวิ๋น“ต่อให้นางกลับมาแล้ว ข้าก็เป็นอารองของนาง นางอยากปฏิเสธความสัมพันธ์นี้ มันไม่ง่ายเช่นนั้น!”“นางที่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง สักวันก็ต้องออกเรือน ผู้หญิงที่ออกเรือนก็เหมือนน้ำที่ถูกสาดออกไป กิจการของสกุลอวิ๋นย่อมไม่ถึงคราวของลูกสาวที่ออกเรือนแล้วคนหนึ่งมารับช่วงต่อ”“ยิ่งกว่านั้นผู้ดูแลของสำนักช่วยชีพและที่นาร้านค้าในปัจจุบัน ล้วนเปลี่ยนเป็นคนของพวกเราหมดแล้ว นางอยากเอาสำนักช่วยชีพและที่นาร้านค้ากลับคืน ก็ต้องดูด้วยว่ามีความสามารถพอหรือไม่!”“ตอนนั้นพวกเราสามารถกลืนทรัพย์สมบัติมหาศาลนี้ของสกุลอวิ๋น เบื้องหลังก็มีที่พึ่งเช่นกัน”“นางที่เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง เอาอะไรมาสู้กับพวกเรา?”คำพูดเหล่านี้ของอวิ๋นกานซง ก็เหมือนกำลังบอกให้ตัวเองฟังเช่นกันเมื่อนึกถึงที่พึ่งที่ตัวเองเกาะติด  ในใจเขาก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทันทีฮูหยินรองอวิ๋นยิ่งฟังยิ่งรู้สึกว่ามีเหตุผล จึงไม่ตื่นตระหนกและไม่กลัวแล้วเช่นกัน“นายท่านพูดถูก!”“ตอนนั้นพวกเราสามารถฆ่านางครั้งแรก ก็ย่อมสามารถฆ่าครั้งท

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 287

    หมอหลวงจงกล่าวอีก “แต่บ้านสายหลักสกุลอวิ๋นไม่มีสายเลือดเหลือแล้วไม่ใช่หรือ? หรือนางเป็นคนของบ้านรอง?”หมอหลวงเจิ้งส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วย “ท่าทางที่ประจันหน้ากันก่อนหน้านี้ของแม่นางอวิ๋นกับอวิ๋นกานซง เหมือนคนของบ้านรองที่ไหน?”โอวหยางหมิงกล่าวอย่างเรียบเฉย “สกุลอวิ๋นมีแค่สายเลือดบ้านสายหลัก มีบ้านรองที่ไหน?”“แค่ลูกนอกสมรสที่มาอาศัยเขาอยู่ ก็กล้าเรียกตัวเองว่าเป็นบ้านรอง?”“ทายาทของสกุลอวิ๋นกลับมา สิ่งที่ควรคืนก็ต้องคืน!”กล่าวจบ โอวหยางหมิงก็ไม่พูดมากอีก ถือยาที่ต้มเสร็จไปเปลี่ยนยาให้ฮ่องเต้จิ่งผิงแล้วทิ้งให้หมอหลวงจงกับหมอหลวงเจิ้งมองหน้ากันพวกเขาเคยฟังเพลงกล่อมเด็กที่มีการร้องในเมืองเมื่อเร็วๆ นี้แล้ว และเกิดความสงสัยนานแล้วแต่พวกเขาเป็นคนรู้จักกาลเทศะ ก็ไม่ได้ไปถามอวิ๋นกานซงตรงๆอวิ๋นกานซงนับว่าเป็นคนหน้าด้านเลยทีเดียว เจอเรื่องเช่นนี้ยังสามารถทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อให้หมอหลวงในสำนักหมอหลวงที่ไม่ถูกกับเขาหยิบยกเรื่องนี้มาพูด เขาก็สามารถปฏิเสธเหมือนตัวเองเป็นคนถูกแต่วันนี้โอวหยางหมิงกลับบอกว่าอวิ๋นกานซงเป็นลูกนอกสมรสตรงๆ ในน้ำเสียงยังค่อนข้างดูถูกอวิ๋นกานซงด้วย

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 288

    เพราะฮ่องเต้จิ่งผิงยังป่วยอยู่ ดังนั้นอาหารเช้าจึงจืดแต่ว่าอวิ๋นฝูหลิงไม่ใช่คนกินยาก อีกทั้งวัตถุดิบอาหารของยุคโบราณล้วนเป็นธรรมชาติไร้สิ่งเจือปน ของที่สามารถมาถึงโต๊ะอาหารของฮ่องเต้ มีอะไรบ้างที่ไม่ใช่ของคุณภาพสูงต่อให้เป็นข้าวต้มเปล่าหนึ่งชาม ก็ทำมาจากข้าวบรรณาการ ซึ่งส่งกลิ่นข้าวที่หอมโชยจมูก หลังจากฮ่องเต้เสวยข้าวต้มเปล่าหมดไปหนึ่งชาม จู่ๆ ก็เอ่ยปากกล่าว “เจ้าเจ็ด เจ้าหาลูกสะใภ้ให้เราได้ดีมาก!”มุมปากเซียวจิ่งอี้เผยอขึ้น “เพราะกระหม่อมโชคดี และอาศัยบุญบารมีของเสด็จพ่อ”ฮ่องเต้จิ่งผิงมองไปทางอวิ๋นฝูหลิง “เจ้ารักษาเราจนหายดี อยากได้รางวัลอะไร?”อวิ๋นฝูหลิงวางชามตะเกียบลง กล่าวตรงๆ “ฝ่าบาทจะประทานรางวัลแก่หม่อมฉันจริงหรือเพคะ?”ฮ่องเต้จิ่งผิงขมวดคิ้ว “คำพูดเราศักดิ์สิทธิ์ เจ้ารักษาเราหาย สร้างความดีความชอบอย่างใหญ่หลวง ย่อมสมควรประทานรางวัล พูดมาเถอะ อยากได้อะไร?”อวิ๋นฝูหลิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาท คิดว่าพระองค์คงทราบเรื่องครอบครัวของหม่อมฉันหมดแล้ว เรื่องวุ่นวายเหล่านั้น หม่อมฉันจัดการเองได้ เพียงแต่อยากให้ฝ่าบาทหนุนหลังหม่อมฉันสักครั้งเพคะ!”เมื่อฮ่องเต้จิ่งผิงได้ยินก็ห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 289

    อวิ๋นฝูหลิงหอมแก้มอวิ๋นจิงมั่ว “ขอโทษนะ แม่มีธุระต้องทำ ไม่ได้ตั้งใจ”อวิ๋นจิงมั่วซุกตัวเข้าไปในอ้อมแขนอวิ๋นฝูหลิง“ไม่เป็นไรขอรับ มั่วเอ๋อร์ไม่โทษท่านแม่ขอรับ”สองแม่ลูกกอดกันอบอุ่นมาก เซียวจิ่งอี้ที่อยู่ข้างๆ ดูจนน้อยใจเจ้าเด็กนี่ ในสายตามีแต่แม่ ไม่มองเขาที่เป็นพ่อคนนี้เลยสักนิด!ผ่านไปครู่หนึ่ง อวิ๋นจิงมั่วเหมือนเพิ่งจะเห็นเซียวจิ่งอี้ เขาเงยหน้าเรียก “ท่านพ่อ” อย่างอ่อนหวานหลังจากนั้นก็ถาม “เสด็จปู่เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”เซียวจิ่งอี้ลูบศีรษะของเขา “เสด็จปู่ของเจ้าไม่เป็นอะไรแล้ว พรุ่งนี้ข้าพาเจ้าเข้าวังไปพบเสด็จปู่ดีหรือไม่?”“ได้!” อวิ๋นจิงมั่วพยักหน้าอวิ๋นฝูหลิงกับอวิ๋นจิงมั่วเล่นกันครู่หนึ่ง หลังจากกินอาหารเย็นด้วยกัน ก็ส่งอวิ๋นจิงมั่วให้เซียวจิ่งอี้แล้วส่วนนางพาเหยากวงไปที่เรือนเปลี่ยวหลังหนึ่งของจวนอ๋องประตูห้องถูกผลักออก ผู้หญิงที่ถูกมัดอยู่ในห้องได้ยินเสียงก็เงยหน้ามองเมื่อเห็นว่าผู้มาคืออวิ๋นฝูหลิง สีหน้าของนางดุร้ายขึ้นมาทันที“เจ้าขังข้าไว้ที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?”อวิ๋นฝูหลิงเดินเข้าไป จ้องอวิ๋นซานหูตรงๆ “ยังจำชื่ออวิ๋นฝูหลิงได้หรือไม่?”ม่านตาอวิ๋

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 290

    “พวกเขาเป็นคนทำร้ายเจ้า!”“ข้าได้ยินทุกอย่างเลย ท่านพ่อท่านแม่ข้าอยากได้ทรัพย์สินของสกุลอวิ๋น พี่หญิงข้าริษยาเจ้า นางชอบซื่อจื่ออันกั๋วกง อยากแย่งงานแต่งของเจ้า”“ดังนั้นพวกเขาจึงร่วมมือกัน วางแผนทำให้เจ้าเสียตัว”“คิดไม่ถึงว่าไปๆ มาๆ คนที่อยู่กับเจ้ากลายเป็นอี้อ๋อง”“พวกเขากลัวเจ้าเกาะอี้อ๋องติด เช่นนั้นก็ยิ่งกำจัดยากแล้ว ดังนั้นจึงตัดสินใจวางเพลิง อยากเผาเจ้าให้ตายโดยตรง”“และพอดีกับเจ้าเสียตัวและยังถูกดูหมิ่น จึงสามารถบอกกับโลกภายนอกว่า เจ้ารู้สึกอับอายโกรธแค้นจึงฆ่าตัวตาย”“ที่ข้าพูดเป็นความจริงทั้งหมดนะ!”อวิ๋นซานหูนอนหลับก็ยังฝัน อยากรักษาหน้าตัวเองให้หายดี ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว นางย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมืออวิ๋นฝูหลิงคิดไม่ถึงว่าอวิ๋นซานหูจะติดเบ็ดง่ายเช่นนี้ ถึงกับไม่สงสัยนางเลย ก็สารภาพเรื่องราวในตอนนั้นออกมาอย่างหมดเปลือกแล้วนี่ทำให้นางไม่ได้ใช้แผนที่เตรียมมาล่วงหน้าเลย นางล้วงยาขวดหนึ่งออกจากแขนเสื้อแล้วกล่าว “ยานี่สามารถลบรอยแผลเป็นบนหน้าเจ้า เจ้าสามารถลองใช้ดูก่อน ดูว่าข้าหลอกเจ้าหรือไม่”“แต่ว่าแผลเป็นบนใบหน้าเจ้าลึกเกินไป อยากรักษาให้หายทั้งหมด อย่างน้อยก็

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 291

    อวิ๋นซานหูเอายาที่ได้รับจากอวิ๋นฝูหลิงมาใช้ทันทีมิใช่นางไม่สงสัยว่าอวิ๋นฝูหลิงอาจทำร้ายนาง แต่ยามนี้รูปลักษณ์ของนางพังทลาย ทั้งยังถูกครอบครัวทอดทิ้งและโดนดูถูกเหยียดหยาม จึงไม่มีสิ่งใดจะเสียอีกแล้วหากยาที่อวิ๋นฝูหลิงมอบให้สามารถรักษาใบหน้าของนางได้จริง ๆ แม้ว่าต้องการจะใช้นางเพื่อทำเรื่องใด นางก็ยอมทำทั้งนั้นในช่วงที่รูปลักษณ์ของนางถูกทำลาย อวิ๋นซานหูสัมผัสได้ถึงช่องว่างใหญ่หลวงของการตกจากสวรรค์มาสู่ขุมนรกชีวิตที่น่าเวทนาเช่นนี้ นางไม่อยากพบเจออีกแล้วขอเพียงรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้า และฟื้นฟูรูปลักษณ์ให้กลับมาเป็นเช่นเดิมได้ นางก็จะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครา ทั้งยังสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับมนุษย์อีกครั้งเพื่อความหวังเช่นนี้ ไม่มีสิ่งใดที่อวิ๋นซานหูทำไม่ได้วันรุ่งขึ้น เหยากวงไปรายงานอวิ๋นฝูหลิงว่า “พระชายา ทางด้านอวิ๋นซานหูได้ส่งข่าวมาว่า ไม่ว่าพระชายาจะให้นางทำสิ่งใด นางก็เต็มใจจะทำทุกอย่างเจ้าค่ะ”อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้ว “ตอบรับเร็วถึงเพียงนี้เชียว ข้ายังคิดว่านางจะใคร่ครวญดูอีกสักสองสามวันเสียอีก ช่างเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวจริงๆ”เหยากวงกล่าวว่า “ความจริงเป็นเพราะยารักษารอยแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 292

    อวิ๋นฝูหลิงก้าวเดินอย่างแผ่วเบา พลางกล่าวกับหลิงโหยวว่า “แค่คนเฝ้าประตูผู้หนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดคุยกับเขาหรอก”หลิงโหยวพยักหน้า และรีบนำคนเข้าไปโดยพลัน หลังจากนั้นก็แยกกันยืนอยู่ทั้งสองฝั่งอวิ๋นฝูหลิงหยุดฝีเท้า เงยหน้ามองป้ายที่แขวนอยู่บนประตูหลักของจวนจี้ชุนโหวเซียวจิ่งอี้จับมืออวิ๋นฝูหลิง และกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัว เดิมทีสิ่งนี้เป็นของเจ้าอยู่แล้ว แค่ถึงเวลาที่ควรนำกลับมาเท่านั้น”อวิ๋นฝูหลิงยิ้มพลางพยักหน้าให้เซียวจิ่งอี้นางมิได้กลัวนางรอคอยวันนี้อยู่ รอคอยมาเนิ่นนานแล้วอวิ๋นฝูหลิงยืดหลังตรง ก้าวข้ามธรณีประตู เดินเข้าไปในประตูหลักอย่างผ่าเผยนายท่านผู้เฒ่าหางกับโอวหยางหมิงเดินตามหลังอวิ๋นฝูหลิงอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ราวกับเป็นเทพผู้พิทักษ์สององค์เมื่อคนเฝ้าประตูเห็นเช่นนั้น ก็รีบวิ่งไปรายงานที่สวนด้านหลังโดยพลันอวิ๋นฝูหลิงนั่งอยู่ที่โถงหลัก รอพวกอวิ๋นกานซงอยู่เงียบ ๆประตูหลักของจวนจี้ชุนโหวเปิดกว้าง โดยไม่มีความตั้งใจที่จะปิดบังแม้แต่น้อยการกระทำนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้คนให้หยุดเดิน แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ข้างเคียง ก็ยังมีคนใช้ออกมาถามไถ่ข้อมูล หากมีเรื่องน่าส

บทล่าสุด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 620

    เทียนเฉวียนได้ยินเช่นนั้นก็เข้าใจทันทีว่าท่านอ๋องคิดจะนั่งรอลาภลอยในเมื่อเวินเจาผู้นั้นเป็นนายน้อยเผ่าเยว่ สถานะในเผ่าเยว่ก็ย่อมไม่ธรรมดาหลังจากคนแคว้นเยว่เหล่านั้นรู้ข่าวว่าเวินเจาถูกจับตัวมา จะต้องคิดหาวิธีมาช่วยเขาออกไปเป็นแน่เทียนเฉวียนไปทำตามคำสั่งของเซียวจิ่งอี้ทันทีทว่าหลังจากรอมาสามวัน ก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวจากทางด้านเวินเจาแม้แต่น้อยเซียวจิ่งอี้ตระหนักได้ว่าตัวเองเจอคู่ต่อสู้เข้าแล้วราชครูแคว้นเยว่หลบหนีเก่งมาก ทำให้ยามนี้เขารู้สึกจนปัญญาอยู่บ้างหากพูดตามหลักการแล้ว คนแคว้นเยว่เหล่านั้นต้องการฟื้นฟูแคว้น ตัวตนของเวินเจาซึ่งมีสายเลือดราชวงศ์ จึงทำให้พวกเขามีเหตุผลอันชอบธรรมมิเช่นนั้นอาศัยเพียงราชครูผู้นั้น คนแคว้นเยว่ที่เหลือจะเชื่อฟังคำสั่งเขาได้อย่างไร?ทว่าหลังจากผ่านไปนาน คนแคว้นเยว่เหล่านั้นกลับไม่มีท่าทีว่าจะมาช่วยเวินเจาแม้แต่น้อยนี่หมายความว่ามองแผนของเขาออกใช่หรือไม่? หรือคิดว่ายามนี้ไม่ใช่จังหวะที่ดีในการช่วยเหลือ จึงกำลังวางแผนและเฝ้าดูอยู่?หรือคนแคว้นเยว่ยอมแพ้เรื่องนายน้อยเวินเจาผู้นี้แล้ว?เซียวจิ่งอี้คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนแ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 619

    ทหารชั้นผู้น้อยคนนั้นได้กลิ่นเลือดจาง ๆ สายหนึ่งกลิ่นเลือดจางมาก จนแทบไม่ได้กลิ่นแต่เขาเกิดมาพร้อมจมูกที่อ่อนไหวต่อกลิ่น แค่เพียงกลิ่นจาง ๆ ก็สามารถได้กลิ่นเช่นกันทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินหลายก้าว ไล่ตามสือจ่างซึ่งเป็นผู้นำไปยามนี้สือจ่างเดินออกมาจากเรือนแล้ว ทหารชั้นผู้น้อยรีบเดินไปตรงหน้าสือจ่าง และกระซิบไม่กี่ประโยคก้นบึ้งในดวงตาของสือจ่างฉายแววประหลาดใจ และหันกลับไปมองลานบ้านด้านหลังในลานบ้าน ชายวัยกลางคนกับหญิงสาวผู้งดงามเห็นว่าในที่สุดทหารก็ตรวจค้นเสร็จแล้ว จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกใครจะรู้ว่ายังไม่ทันถอนหายใจเสร็จ ประตูเรือนกลับถูกคนพังเปิดเข้ามาอย่างกะทันหันกลุ่มทหารที่เข้ามาตรวจค้นก่อนหน้านี้บุกเข้ามาอีกครั้งชายวัยกลางคนเห็นเช่นนั้นก็ใจเต้นแรง แต่บนใบหน้ากลับยังสงบ และก้าวออกมาด้วยรอยยิ้มคาดไม่ถึงว่าเขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก สือจ่างผู้นั้นซึ่งเป็นหัวหน้าก็ผลักเขาไปด้านข้าง ก่อนออกคำสั่งเสียงเคร่งขรึมว่า “ค้นหาทั้งในและนอกเรือนใหม่อีกครั้ง ค้นให้ละเอียด!”ทหารทุกคนตอบรับ และแยกย้ายไปค้นหาอีกครั้งทันทีทหารชั้นผู้น้อยซึ่งประสาทรับกลิ่นไวยืนอยู่ที่เดิม จมูกขยับฟ

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 618

    “ขอรับ” เทียนซูรับคำสั่งก่อนจะถอยออกไปผ่านไปไม่นาน เทียนซูก็กลับมา“ท่านอ๋อง ผู้ดูแลหอจินอวี้กับพนักงานยืนยันศพกันหมดแล้วขอรับ แน่ใจแล้วว่าเป็นคนที่อยู่ข้างตัวราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้น”เซียวจิ่งอี้ใคร่ครวญครู่หนึ่ง ก่อนถามว่า “คนผู้นี้ถูกจับได้ที่ใด?”“ถูกจับที่ตรอกหูลู่ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองขอรับ” เทียนซูตอบกลับเซียวจิ่งอี้กล่าวทันที “ไปเอาแผนที่จินโจวมา”ผ่านไปไม่นาน แผนที่จินโจวก็ถูกแขวนขึ้นเซียวจิ่งอี้เดินไปข้างหน้าแผนที่ หาตำแหน่งตรอกหูลู่บนแผนที่เขายื่นมือออกไปแตะบนแผนที่ หลังจากนั้นก็วงขอบเขตโดยประมาณและกล่าวว่า“ถ่ายทอดคำสั่ง ให้คนไปค้นหาทุกซอกทุกมุมของตรอกหูลู่”คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ย่อมไม่ปรากฏตัวที่ตรอกหูลู่โดยไม่มีสาเหตุบางทีสถานที่ซ่อนตัวของพวกเขา อาจจะอยู่ใกล้ตรอกหูลู่นอกจากนี้คนผู้นั้นที่ถูกจับได้ ยังกัดลิ้นปลิดชีพตัวเอง ไม่ให้ความหวังตัวเองว่าจะมีชีวิตรอดเลย เห็นได้ชัดว่าทำเพื่อปกป้องใครบางคนดูท่าคนรอบกายราชครูแคว้นเยว่ผู้นั้นจะจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่งการเดินทางมาจินโจวครั้งนี้ของเขา ไม่แน่คนข้างกายที่พามาอาจจะล้วนเป็นคนสนิททั้งสิ้นหากคนสนิทเห

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 617

    จิตรกรฝีมือดีเช่นนี้ เหตุใดจึงถูกเซียวจิ่งอี้เชิญไปได้ง่าย ๆยิ่งไปกว่านั้นจิตรกรฝีมือดีเหล่านั้นก็ยังไม่เคยเห็นพวกท่านจอมปราชญ์เหวินมาก่อน เหตุใดจึงสามารถวาดภาพเหมือนจากความว่างเปล่าให้เหมือนพวกเขาโดยสมบูรณ์ได้?นอกจากนี้ท่านจอมปราชญ์เหวินอยู่ที่จินโจวมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้ยินว่าในจินโจวมีจิตรกรชื่อดังอันใดเลยตั้งแต่เขาหลบหนีจากหอจินอวี้มาจนถึงตอนนี้ ก็ยังผ่านไปไม่พ้นครึ่งวันเสียด้วยซ้ำภายในระยะเวลาอันสั้นถึงเพียงนี้ เหตุใดจึงมีคนที่สามารถวาดภาพพวกเขาออกมาได้มากมายเช่นนี้?ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินไม่อยากจะเชื่อแต่เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาพูดจาหนักแน่น เขาก็ไม่กล้าคิดไปเองมากเกินไปไม่รู้เพราะเหตุใด เขามักรู้สึกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวจิ่งอี้ จะมีความแปลกประหลาดมากเสมอบางทีอาจมีคนมากความสามารถอยู่ข้างกายเซียวจิ่งอี้จริง ๆ ซึ่งสามารถวาดภาพเหมือนออกมาได้เหมือนจริงโดยสมบูรณ์ โดยที่อาศัยเพียงคำอธิบายไม่กี่ประโยคยามนี้คนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา ต่างเป็นคนที่เคยปรากฏตัวที่หอจินอวี้หากข้างกายเซียวจิ่งอี้มีจิตรกรฝีมือดีอยู่จริง ๆ เกรงว่าคนเหล่านี้ที่อยู่ข้างกายเขา คงล้วนถูกวาด

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 616

    ท่านจอมปราชญ์เหวินได้แต่แสร้งทำเป็นผ่านทางมา และรีบพาคนจากไปยามที่ออกมาจากหอจินอวี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็ถอดหน้ากากออกการสวมหน้ากากเดินบนท้องถนน จะยิ่งดึงดูดความสนใจหลังจากถอดหน้ากาก รูปลักษณ์ของเขาก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก ในฝูงชนจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นเมื่อคิดว่าแผนการของตนล้มเหลว จนถูกเซียวจิ่งอี้ไล่ล่าราวกับสุนัขไร้บ้านตัวหนึ่ง อีกทั้งนายน้อยเผ่าเยว่เป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ในใจท่านจอมปราชญ์เหวินจึงหดหู่เป็นอย่างยิ่งเป็นความผิดของเซียวจิ่งอี้!ท่านจอมปราชญ์เหวินรู้สึกราวกับว่าเซียวจิ่งอี้เกิดมาเพื่อเป็นหายนะของเขาเขาวางแผนจัดการเซียวจิ่งอี้หลายครั้ง แต่ก็ถูกอีกฝ่ายหลบเลี่ยงได้ทุกครั้งเมื่อเขาคิดจะฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายให้แคว้นต้าฉี ก็จะถูกเซียวจิ่งอี้ทำลายแผนการเสมอยามนี้เมื่อนึกถึงเซียวจิ่งอี้ ท่านจอมปราชญ์เหวินก็โกรธจนกัดกรามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ นี้ เขายังไม่มีกำลังที่จะโต้กลับได้รอก่อนเถอะรอให้เขากลับไปที่เมืองหลวง ก็จะสามารถอาศัยอำนาจขององค์ชายสาม จัดการเซียวจิ่งอี้ให้สิ้นซาก!ท่านจอมปราชญ์เหวินกัดฟัน ขณะที่สีหน้ามืดครึ้มผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดท่านจอมป

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 615

    อวิ๋นฝูหลิงยังจำเรื่องที่เซียวจิ่งอี้ขอให้นางวาดภาพเหมือนได้หลังจากพบเซียวจิ่งอี้ ทั้งสองคนก็ไปยังคุกที่ขังผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ไว้เมื่อพูดถึงแขกผู้มีเกียรติบนชั้นสามของหอจินอวี้ ผู้ดูแลกับพนักงานของหอจินอวี้ก็ต่างจดจำได้เป็นอย่างดีชั้นสามของหอจินอวี้ ไม่ใช่ว่าใครต่างก็มีสิทธิ์ขึ้นไปได้นี่เป็นอุบายที่หอจินอวี้โยนออกมา เป็นวิธีดึงดูดลูกค้าเพื่อสร้างกำไรแบบหนึ่งผู้ที่สามารถขึ้นไปชั้นสามของหอจินอวี้ได้ หมายความว่าเป็นคนที่มีสถานะและทักษะการพนันสูงแต่กลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน กลับเป็นเวินเจาพาขึ้นไปด้วยตัวเองนับตั้งแต่เวินจือเหิงนอนป่วยติดเตียง อำนาจทั้งหมดของสกุลเวินก็ตกไปอยู่ในมือของเวินเจาเวินเจาพาคนไปพักอยู่ที่ชั้นสามของหอจินอวี้ ทั้งยังบอกให้ปรนนิบัติกลุ่มของท่านจอมปราชญ์เหวิน เหล่าคนของหอจินอวี้ย่อมไม่กล้าไม่เชื่อฟังไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลของหอจินอวี้ หรือพนักงาน ยามนี้เมื่อถูกขังอยู่ในคุก ทุกคนก็หวาดกลัวอยู่ตลอดเมื่อเห็นการสืบสวนก่อนหน้านี้ของเซียวจิ่งอี้ คนเหล่านี้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง และออกไปจากคุกโดยเร็ว ทุกคนต่างก็แย่งชิงกันเป็นคนแรกเพราะกล

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 614

    “พี่สาม ทางด้านเมืองหลวงมีข่าวคราวบ้างหรือไม่?”“พวกท่านปู่โอวหยางคิดค้นเทียบยาใหม่ที่ใช้รักษาผู้ที่ป่วยเพราะขี้ผึ้งทองได้แล้วหรือไม่?”หลังจากค้นพบขี้ผึ้งทอง อวิ๋นฝูหลิงก็ดึงพวกรองเจ้าสำนักโอวหยางกับหมอหลวงจงมาร่วมศึกษาด้วยกัน ทั้งยังเขียนจดหมายส่งให้นายท่านผู้เฒ่าหาง รวมถึงส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับชีพจรและการรักษาให้เขาด้วยแม้เมืองหลวงกับจินโจวจะเป็นสถานที่ที่ได้รับผลกระทบจากขี้ผึ้งทองมากที่สุด แต่ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าที่อื่นจะไม่ได้รับผลกระทบถึงอย่างไรการค้าของแคว้นต้าฉีก็เจริญรุ่งเรืองมาก จากใต้ขึ้นเหนือมีพ่อค้ามากมาย บางทีอาจจะมีคนที่เดินทางระหว่างเมืองหลวงกับจินโจว ซื้อขี้ผึ้งทองติดไปด้วยสองสามกล่องก็เป็นได้อวิ๋นฝูหลิงคิดว่านางออกจากเมืองหลวงมาหลายวันถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าทางด้านเมืองหลวงจะมีความคืบหน้าใหม่อันใดบ้างตั้งแต่อวิ๋นฝูหลิงกลับมาถึงจินโจว ก็ยุ่งอยู่กับการรักษาผู้ป่วยมาโดยตลอด หางซานสุ่ยจึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนางตอนนี้เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นฝ่ายถามขึ้นมา หางซานสุ่ยก็นับว่ามีโอกาสแล้วเขาหยิบจดหมายสองสามฉบับออกมาจากในโต๊ะ“จดหมายพวกนี้ถูกส่ง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 613

    แม้ว่าราชครูแคว้นเยว่จะหนีไปแล้ว แต่เขาอยู่ที่หอจินอวี้ตั้งหลายวัน จึงมักจะมีช่วงเวลาที่ผ่อนคลายจนเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงแม้เขาจะใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ จึงไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนรอบตัวเขาทุกคนจะสวมหน้ากากกระมัง?เริ่มต้นไล่ไปจากผู้ใต้บังคับบัญชา บางทีอาจจะค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ก็เป็นได้เซียวจิ่งอี้ตัดสินใจไต่สวนผู้ดูและกับพนักงานเหล่านั้นของหอจินอวี้ยังมีทักษะการวาดภาพเหมือนอันยอดเยี่ยมของอวิ๋นฝูหลิง จะต้องจับพวกปลาซิวปลาสร้อยพวกนั้นได้เป็นแน่แม้ว่ากลุ่มของราชครูแคว้นเยว่จะฉวยโอกาสวางเพลิงเพื่อหนีออกไปจากหอจินอวี้ แต่ประตูเมืองจินโจวก็ปิดอยู่ ยามนี้พวกเขาคงยังซ่อนตัวอยู่ในเมืองนอกจากนี้ มีบางสิ่งที่ต้องจัดการด้วยเช่นกันเซียวจิ่งอี้ยืนอยู่หน้าประตูสำนักผิงอัน หันกลับมามองอวิ๋นฝูหลิงที่กำลังยุ่งคราหนึ่งเพียงชั่วครู่เดียว เขาก็พลิกร่างขึ้นหลังม้า มุ่งตรงไปยังที่ว่าการเมืองจินโจวครึ่งชั่วยามต่อมา มีประกาศใบหนึ่งถูกนำมาติดไว้ที่ประตูที่ว่าการทั้งยังมีคนตีฆ้องจากที่ว่าการ อ่านเนื้อหาในประกาศไปทั่วเมืองประกาศนี้กล่าวถึงอันตรายของขี้ผึ้งทอง

  • ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ   บทที่ 612

    “ข้าอยากจับคนร้ายที่กระทำความผิด ให้ได้แบบคาหนังคาเขา”“แต่ไม่คิดเลยว่าคนผู้นั้นจะโหดเหี้ยมถึงขั้นเสียสติ ตั้งใจวางเพลิงในหอจินอวี้ เพื่อหลบหนีการไล่ล่า”“เป็นเพราะข้าไม่รอบคอบ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย”“วันนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเหตุเพลิงไหม้ที่หอจินอวี้ ค่ารักษาและค่ายาข้าจะจ่ายให้เอง”“นอกจากนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จะได้รับห้าตำลึง ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะได้รับสิบตำลึง”“ได้ยินว่ามีสองคนที่ถูกไฟไหม้จนบาดเจ็บสาหัส สองคนนี้จะได้รับยี่สิบตำลึง”“เงินเหล่านี้ถือเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ที่อยากจะรักษาร่างกายเหล่าผู้บาดเจ็บ”“ข้าจะให้คนนำเงินมามอบให้ในภายหลัง!”ผู้บาดเจ็บทุกคนได้ยินเช่นนั้น ความไม่พอใจที่สุมอยู่ในอกก็หายไปกว่าครึ่งทันทีตอนนี้เมื่อย้อนคิดดูแล้ว เมื่อคืนยามที่หอจินอวี้ถูกปิดล้อม ผู้นำคนนั้นก็บอกว่าทำเพื่อสืบคดีบางอย่างจริง ๆคิดดูอีกครายามนั้นที่เกิดเพลิงไหม้ ทหารเหล่านั้นก็มิได้บังคับขังพวกเขาไว้ในหอจินอวี้ ทว่ากลับรีบเข้ามาในหอเพื่อดับไฟช่วยคนหากไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ใช่แค่ได้รับบาดเจ็บ แต่กว่าครึ่งคงตายตกไปในเหตุเพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status