Home / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

Share

บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

last update Last Updated: 2025-01-26 00:01:40

เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย

“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย

“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์

ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดน

แต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควร

ลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำออกมา

สองขาก้าวเดินไปใกล้เขาแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้น ลินินเอื้อมตัวสวมหมวกใบนั้นให้เจย์เดนอย่างถือวิสาสะ ดีที่วันนี้เขาไม่ได้ใส่สูทเต็มยศออกมา การแต่งตัวจึงดูเข้ากับหมวกแก๊ปของเธออย่างน่าเหลือเชื่อ ลินินเห็นแบบนั้นก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจที่ใส่หมวกให้เขาได้สำเร็จ

ส่วนเจ้าตัวที่ถูกกระทำเช่นนั้นก็ได้แต่มองหน้าเธอด้วยสายตาชวนตะลึง ไม่คิดว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้กับตัวเอง

“ไม่ต้องก็ได้...” ในขณะที่กำลังจะถอดหมวกออก ลินินก็รีบเขย่งปลายเท้าขึ้นอีกครั้งเพื่อเอื้อมปกป้องหมวกใบนั้นจากมือหนาที่กำลังจะถอดมันออก

“ใส่เอาไว้เถอะ จะได้ไม่ต้องคอยยกมือป้องตาตัวเองอยู่” เมื่อเห็นแววตาจริงจังและดูเป็นห่วงเป็นใยส่งออกมาจากเธอ เจย์เดนก็ยอมลดแขนของตัวเองลงแล้วใส่หมวกนั้นต่อ

หลังจากนั้น ร่างสูงก็เริ่มเดินวนไปเรื่อย ทำทีเป็นเข้าร้านนู้นออกร้านนี้ จนสุดท้ายมาหยึดที่ร้านขายอุปกรณ์การเรียนซึ่งเปนรที่เขตั้งใจมาเป็นอันดับแรก แต่กลับต้องเดินอ้อมให้เมื่อยเสียก่อน เหมือนปากของตัวเองที่หนักมากเสียจนบอกกล่าวกันตรง ๆ ไม่ได้

ลินินเห็นว่าเขาเดินเข้ามาในร้านแบบนี้ เธอจึงถือโอกาสไปเลือกเครื่องเขียนของตัวเองด้วย เจย์เดนที่เห็นเธอเดินเลือกของตัวเองก็แอบยกยิ้มขึ้นมุมปาก และหลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นฝ่ายเดินตามลินินไปเสียแล้ว

“นายไม่เลือกของตัวเองเหรอ?” ลินินเอ่ยถามเมื่อหันหลังกลับไปมองอีกสักกี่ครั้งก็ยังเห็นพ่อหนุ่มแวมไพร์นี้เดินตามเธออยูไม่ห่าง

“เลือก...เลือกอยู่...” ว่าพลางยื่นมือหนาของตัวเองไปแตะลูบคลำเครื่องเขียนในร้าน

“ใช้ของน่ารักขนาดนั้นเชียวเหรอเนี่ย” ลินินเอ่ยขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นภาพตรงหน้า

เจย์เดนกำลังยืนเลือกปากกาลายการ์ตูนอยู่ ร่างสูงที่รู้ตัวว่าตัวเองทำเรื่องน่าอายก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ ก่อนจะรีบปล่อยมือออก

“อะไรกัน ไม่ต้องอายหรอก ใคร ๆ ก็ใช้ของแบบนี้ดั้งนั้นแหละ” ลินินว่าก่อนจะหันหลังเดินเลือกของต่อไป แต่ก็ยังไม่วายแอบหัวเราะเขาต่ออีกนิดหน่อย

เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็หรี่ตามองเธออย่างคาดโทษ ‘เจ้ากล้าหัวเราะแวมไพร์ที่น่าเกรงขามอย่างข้างั้นหรือ!’ ว่าพลางทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยังตามติดเธอไม่ห่าง

ลินินเลือกของใส่ตะกร้าเพียงสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ด้วยความที่งของเธอมีไม่มาก แต่เมื่อเดินผ่านตุ๊กตาตัวหนึ่งเข้า มันคือตุ๊กตาแดร็กคูล่าที่ในมือถือลูกฟักทองอยู่ โดยรวมมันก็น่ารักอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่มันเหมือนใครบางคนด้วย จึงถูกตาต้องใจเธอจนอยากได้เข้าไปใหญ่

อันที่จริงแล้ว การที่เธอมองตุ๊กตาตัวนี้โดยละสายตาไม่ได้ สาเหตูหนึ่งก็เป็นเพราะมันมีรูปร่างและท่าทางเหมือนเจย์เดนอย่างไรเล่า

ดูเหมือนว่าช่วงนี้ใกล้เทศกาลฮาโลวีนแล้ว ในห้างจึงวางจำหน่ายของเช่นนี้ นอกจากนี้บนป้ายยังเขียนว่าลิมิเต็ดด้วย ซึ่งหมายความว่า มันมีเพียงไม่กี่ตัวบนโลกนี้ และดูเหมือนจะเป็นตัวสุดท้ายแล้วด้วยสิ...

แต่ถึงอย่างนั้น ลินินก็ทำได้เพียงมองมันตาระห้อย ก่อนจะต้องจำใจร่ำลามัน

แต่ความอาลัยอาวรณ์ของเธอที่มีต่อตุ๊กตานั้นหลบไม่พ้นสายตาอันเฉียบแหลมของเจย์เดน เขาพยายามภาวนาในใจว่า ‘อ้อนข้าสิ มาอ้อนข้าสิ’ ราวกับอยากให้เธอมาวิงวอนขอให้เขาซื้อให้ หากเป็นแบบนั้นเขาก็พร้อมจะควักเงินจ่ายให้ในทันที แต่ถึงอย่างนั้น ลินินก็ล่วงหน้าจากตุ๊กตาตัวนี้ไปไกลแล้ว

เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็ได้แต่เดินคอตกพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย หลังจากนั้น มือหนาก็เอื้อมไปหยิบตุ๊กตาตัวนั้นแล้วเดินนำไปใส่ลงในตะกร้ารถเข็นของเธอด้วย

“เอ๊ะ?” ลินินหันมองด้วยสีหน้าสงสัย เขาจะซื้อตุ๊กจาจัวนี้อย่างนั้นเหรอ?

“ฉันชอบ...จะซื้อ...” ครั้นจะบอกว่าตั้งใจจะซื้อเพื่อเธอก็ทำไม่ได้อีกตามเคย “มัน...มันน่ารักดี” แต่บอกตามตรง เจย์เดนไม่ได้รู้สึกถึงความน่ารักของมันเลยแม้แต่น้อย มันก็แค่แดร็คคูล่า น่ารักตรงไหนกัน ไม่รู้ว่าทำไมลินินจะต้องอาลัยอาวรณ์มันขนาดนั้นด้วย

ลินินเห็นแบบนั้นก็ได้แต่อิจฉาที่เจย์เดนสามารถซื้อมันไปครอบครองได้ แทนที่มันจะเป็นของเธอเอง

หลังจากเดินไปสักพักก็ผ่านโซนเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโต๊ะอ่าหนังสือ ลินินที่เห็นเข้าโดยบังเอิญก็มองมันด้วยความคิดที่ว่า หากได้ไปตั้งในห้องก็คงจะดีไม่น้อย

“เจ้าช่วยข้าเลือกหน่อยสิ เอาโต๊ะแบบไหนดี” เจย์เดนที่เดินอยู่ข้าง ๆ เอ่ยขึ้น

“จะซื้อโต๊ะใหม่เหรอ?”

“อืม...อยากได้ไปตั้งในห้องทำงานอีกตัว ช่วยเลือกหน่อยสิ”

ร่างสูงพาลินินเดินชมโต๊ะที่วางเรียงรายกันอยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังให้เลือกเก้าอี้ลองมานั่งคู่กันด้วยอีกต่างหาก ว่าสูงพอเหมาะกับตัวเธอหรือไม่ แต่ลินินก็ไม่ได้เอะใจแต่อย่างใดว่าเขาตั้งใจจะซื้อให้เธอ

ลินินลังเลอยู่หน้าชุดโต๊ะและเก้าอี้สองชุดที่เธอได้เลือกเอาไว้ในใจ โดยชุดหนึ่งทำจากไม้เนื้อดีราคาหลักหมื่น ส่วนอีกชุดนั้นสวยไม่แพ้กัน แต่หากเทียบกับวัสดุแล้วไม่ค่อยดีนัก ราคาจึงลดหลั่นลงมา ทำให้เธอรู้สึกลังเลใจที่จะเลือกยิ่งนัก แต่เมื่อนึกถึงระดับเจย์เดนแล้วก็ควรจะใช้ของดีสักหน่อย

ระหว่างที่ลินินลองนั่ง เจย์เดนก็มองเธออย่างพิจารณา เมื่อเห็นว่ามันสูงพอดีกับสัดส่วนร่างกายของเธอจึงตัดสินใจเคาะว่าเอาเป็นโต๊ะกับเก้าอี้เซ็ตนี้แล้วกัน

“ตัวนี้น่าจะดีนะ ปรับได้หลายระดับด้วย นายลองนั่งดูสิ ว่าพอดีกับตัวนายหรือเปล่า” ลินินกล่าวพร้อมลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้แล้วพยายามดึงให้เจย์เดนมาลอง

“ไม่ต้องหรอก เอาตัวนี้ตามที่เธอว่าแล้วกัน” จากนั้นเขาก็โบกมือเรียกให้พนักงานหาของเตรียมเอาไว้

“ครับ คุณเจย์เดน เดี๋ยวทางห้างจะจัดเตรียมของให้เรียบร้อยครับ” พนักงานชายคนหนึ่งกล่าวขึ้น เขาเป็นพนักงานระดับผู้จัดการ ในตอนแรกที่เห้นเจย์เดนก้าวเข้ามาเหยียบในร้านเขาก็คิดว่าจะเข้ามาบริการให้ระดับวีไอพี แต่เมื่อเจย์เดนเห็นแบบนั้นก็รีบยกมือหยุดเขาเสียก่อน ด้วยความอยากอยู่กับว่าที่ชายาของตนเพียงลำพังไร้ซึ่งคนรบกวน

ลินินเลือกโต๊ะให้เจย์เดนเรียบร้อยแล้วก็ไปที่โซนร้านหนังสือ เพื่อหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ เจย์เดนเห็นแบบนั้นก็แอบมองตาม ก่อนจะมองเธอเริ่มนับเงินในกระเป๋าของตัวเองอย่างน่าเอ็นดู

รอยยิ้มนั้นดูอ่อนโยนกว่าทุกครั้งที่เขาเคยยิ้มให้ผู้ใด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ตัวเองเลยว่ามีรอยยิ้มแบบนั้นให้กับเธอคนนี้เสียดื้อ ๆ เธอไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยืนอยู่ในที่ของตัวเอง รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนของเขาก็ปรากฎออกมาเสียอย่างนั้น

“แบบนี้มนุษย์เขาเรียกว่าอาการคลั่งรักนะขอรับท่านชาย” ระหว่างที่ลินินกำลังเพลิดเพลินกับการเลือกหนังสือของตัวเอง เจย์เดนที่ยืนมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูก็ไม่ทันสังเกตว่าผู้ติดตามคนสนิทอย่าง ชาร์ล โผล่มายืนข้างกายตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อได้ยินเสียงของเขาก็สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะกระแอมขึ้นแก้เก้อเขิน

“คลั่งรักอะไรของเจ้า...แล้วนี่มาได้อย่างไรกัน” พยายามหลีกเลี่ยงบทสนทนาของการคลั่งรัก จึงเอ่ยถามเรื่องการมาเยือนขึ้นแทนเสียเลย

“เห็นท่านชายขับรถออกมาโดยไม่บอกกล่าว ข้าซึ่งเป็นผู้ติดตามของท่านก็ต้องขับตามมาอยู่แล้วขอรับ” ว่าพลางกอดอกทำท่าภูมิใจเหมือนตัวเองเป็นผู้ติดตามที่น่ายกย่อง

"เอาเถอะ เจ้ามาก็ดีแล้ว...เดี๋ยวไปทำเรื่องจ่ายเงินให้เรียบร้อย แล้วก็โทรบอกให้คนของเราขับรถมารับของพวกนี้ไปด้วย" เจย์เดนเอ่ยสั่งเสียงเข้ม แม้ภายนอกจะพยายามทำตัวปกติ แต่ในใจกลับยังพะวงว่าคนอื่นจะจับได้ ในเรื่องที่เขาแอบตามใจว่าที่ชายาของตัวเอง “อ่อ... เจ้าช่วยไปดูของตกแต่งโต๊ะเรียนให้นางด้วย ชั้นวางหนังสือ กล่องใส่อุปกรณ์เครื่องเขียน จัดเซ็ตมาให้หมดเลยนะ”

ชาร์ลได้รับคำสั่งก็รีบไปจัดการ ทิ้งให้เจย์เดนคอยเฝ้ามองลินินต่อไป

และสาเหตุที่ต้องให้คนในคฤหาสน์ออกมารับแทนที่จะให้พนักงานจากห้างสรรพสินค้าขับรถไปส่งเองนั้น ก็เพราะกลัวว่าพวกมนุษย์จะไปเห็นคฤหาสน์แล้วเกิดความสนใจจึงรุกล้ำความเป็นส่วนตัวกันได้อย่างไรล่ะ

หลังจากชาร์ลไปจัดการเรื่องจ่ายเงินและจัดส่งของให้เจย์เดนเรียบร้อยแล้ว เขาก็ขอตัวล่วงหน้ากลับไปที่คฤหาสน์ก่อน

ส่วนเจย์เดนก็เดินตามลินินเหมือนลูกหมา และเมื่อเธอเลือกหนังสือเสร็จแล้ว ขณะที่ลินินกำลังจะควักเงินในกระเป๋าของตัวเองมาจ่ายค่าหนังสือ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องเขียนที่ซื้อเพิ่มเติม เจย์เดนก็หยิบบัตรเครดิตตัวเองออกมาแล้วยื่นให้พนักงานตรงหน้าโดยไม่รีรอ

“เอ๊ะ นี่มันส่วนของฉันนะ” ลินินกล่าวปาม กลัวว่าเขาจะลืมว่าของพวกนี้เป็นของที่เธอเลือกสรรค์เอง ไม่ได้เกี่ยวอะกับเขาเลย

“เจ้าเก็บเงินเอาไว้กินขนมเถอะ” เจย์เดนว่าแบบนั้นแล้วพาเธอเดินออกจากร้านมาพร้อมของในมือ

เขาพาลินินไปทานข้าวต่อ และนี่ถือเป็นการทานอาหารนอกคฤหาสน์ครั้งแรกระหว่างพวกเขาสองคน แต่ระหว่างที่เดินอยู่ด้วยกันนั้น ลินินไม่กล้าที่จะเดินเคียงข้างเจย์เดนเลยแม้แต่น้อย เธอรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นความแตกต่างระหว่างตัวเองกับเขา การแต่งตัวของเธอไม่ได้ดูดีนัก แถมรองเท้ายังมีรอยขาดเล็ก ๆ ดูไม่น่ามองอีกด้วย แต่เจย์เดนกลับไม่รับรู้ถึงความประหม่าของเธอเลย แถมยังพาเธอเข้าไปในร้านระดับภัตราคารอีกต่างหาก

เมื่อทั้งสองกลับมาถึงคฤหาสน์ ลินินก็ขอตัวกลับขึ้นห้องพร้อมหนังสือใหม่เอี่ยมในมือเตรยมพร้อมอ่านอย่างจริงจัง

แต่เมื่อขึ้นมาถึงห้อง เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าโต๊ะและเก้าอี้ที่เธอไปช่วยเจย์เดนเลือก ได้ถูกนำมาจัดเอาไว้ในห้องนอนของเธอเอง มันสวยงามมากราวกับถูกเสกมาวางเอาไว้ตรงนั้น

และเมื่อนั้นเอง เธอจึงได้ทราบความตังใจของเจย์เดนที่ไปเดินห้างในวันนี้ ไม่เพียงเท่านั้น ตุ๊กตาแดร็คคูล่าตัวนั้นยังมานั่งอยู่บนเตียงของเธออีกต่างหาก

ลินินรีบเข้าไปอุ้มมันขึ้นมากอด ด้วยความดีใจเธอจึงกระโดดโลดเต้นไปมา “ขอบคุณนะเจย์เดน...” เธอกล่าวลอย ๆ แต่แล้วก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ถ้าอย่างนั้นแกชื่อเจย์เดนแล้วกัน” ว่าพลางลูบหัวเจ้าแดร็กคูล่าตัวน้อยและกอดรัดฟัดเหวี่ยงมันจนหนำใจ

หารู้ไม่ว่าทุกการแสดงออกของเธอนั้นอยู่ในสายตาเจ้าของคฤหาสน์อย่างเจย์เดนที่กำลังแอบยืนมองจากระเบียงข้างนอกห้องพร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นตรงมุมปาก

Related chapters

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขาชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ""เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุดแต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออกเห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าด

    Last Updated : 2025-01-27
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

    Last Updated : 2025-01-27
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทนำ

    ยามค่ำคืนช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศโดยรอบจึงเย็นจัด เมฆหมอกบางเบาโอบล้อมรอบตึกสูงระฟ้าราวกับกำลังปกปิดความลึกลับอีกด้านหนึ่งของโลกเอาไว้ ท้องฟ้าในยามนี้มืดสนิทมีเพียงแสงเบาบางจากดวงจันทร์ที่คล้ายกับรอยยิ้มเหยียดเยาะเยือกเย็นชวนน่าหวาดหวั่นณ ทางเดินทอดยาวสู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฎภาพหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ วันนี้เป็นดั่งเช่นทุกวันที่เธอต้องออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายดอกไม้ สองขาก้าวไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย เพียงแต่ในวันนี้กลับมีสิ่งแปลกประหลาดที่เข้ามาสะดุดสายตาของเธอเข้าโดยบังเอิญเสียอย่างนั้น ดวงตาคู่สวยเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นก่อนจะพบว่ามันคือกุหลาบดอกหนึ่งซึ่งถูกวางทิ้งเอาไว้บนกลางทางเดินนอกจากนี้ มันช่างต่างจากดอกกุหลาบที่เธอเห็นทุกวันในร้านยิ่งนัก เจ้าพวกนั้นทั้งสดใสและบานสะพรั่ง แต่กุหลาบที่เธอพบในค่ำคืนนี้กลับแตกต่างออกไป ชวนน่าอัศจรรย์ระคนสงสัย เพราะสีของมันนั้นดำขลับสนิทราวกับถูกวาดขึ้นมาจากฝันร้ายของใครบางคน“ใครเอาแกมาทิ้งกันนะ” ด้วยความที่เธอเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านจัดดอกไม้มานับแรมปี จึงมีความผูกพันให้กับดอกไม้นานาชนิด แม้ว่าสีของเจ้าดอกไม้นี้จะไม่ค่อยน่าเชยชม

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 1 กุหลาบต้องมนต์

    “ท่านชายต้องเร่งหาคู่ครองได้แล้วนะขอรับ!” อยู่ ๆ ชายชราคนหนึ่งก็โผล่พรวดเข้ามาภายในห้องทำงานอันแสนองค์อาจ เขาคือโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ตระกูลซึ่งเก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุดในแวมไพร์ชนชั้นสูงสิ้นเสียงของชายชรา ร่างสูงที่นั่งจมอยู่กับกองงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็เงยหน้าขึ้นแล้วกอดอกใส่ด้วยท่าทางกวน ๆ“หมายความว่าอย่างไร ทำไมอยู่ ๆ ท่านจึงมาพูดเรื่องนี้ได้”“ข้าได้รับคำนายว่าช่วงนี้ท่านชายจะหาคู่ครองที่เหมาะสมได้ขอรับ เพราะฉะนั้นท่านชายต้องรีบเร่งหาได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไปเสียก่อน”“หาเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดนั่นแหละ สาว ๆ พวกนั้นแค่กระดิกนิ้วก็เข้ามาแล้ว” เจย์เดนตอบโต้กลับไป“หากเพียงเพื่อรักสนุกจะทำเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่หากนำมาเป็นชายาข้างกาย ข้าน้อยว่ามิสมควร” ถึงแม้กาลเวลาจผ่านมาจนถึงยุคที่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่พวกเขาก็ยังติดพูดสรรพนามเช่นนี้อยู่เสมอ“แล้วท่านจะให้ข้าทำอย่างไร? ยุคนี้สมัยนี้ก็หาได้แต่แบบนี้แหละ” เจย์เดนกอดอก คราวนี้สายตาของเขาเริ่มฉายแววจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่งานตรงหน้ากองจนแทบจะท่วมหัวอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาเสวนาเรื่องผู้หญิงที่คอยแต่จะหวังเข้าหาเขาเพื่อผลปร

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 2 พรหมลิขิตก่อตัว

    “เฮ้อ แล้วจะให้ข้านำมันไปให้ใครกันล่ะ” เจย์เดนถอนหายใจอย่างยาวเหยียด พร้อมกับจ้องมองดอกกุหลาบที่อยูในฝาแก้วครอบ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเอ่ยว่า คู่ครองหาเมื่อไหร่ก็เหมือนกันหมด แต่เขาก็หวังอยากจะหาให้ได้ในเร็ววันนั่นแหละ...บอกตามตรง แวมไพร์เช่นเขาก็เหงาเป็นเหมือนกันนะผู้ติดตามคนสนิทที่ยืนฟังอยู่จึงเสนอความคิดขึ้นว่า “เช่นนั้น ท่านชายลองนำไปให้คนที่ท่านหมายปองดูก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่มีผู้ใดที่ข้าหมายปองเป็นพิเศษหรอก”“คุณหนูเฟย์อย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามอย่างเขาเห็นว่าท่านชายสนิทสนมกับเธอเป็นพิเศษ จึงคิดว่าบางทีพวกเขาอาจมีบางสิ่งที่เข้ากันได้“นี่เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่เลย นางเป็นเพียงสหายของข้า”คุณหนูเฟย์ คือลูกสาวตระกูลแวมไพร์ที่ตระกูลแบรดฟอร์ดของเขาร่วมค้าธุรกิจด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่เขาและเธอสนิทกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่หากมองลึกลงไปในความสัมพันธ์นั้น ไม่มีความพิสวาทเลยแม้แต่น้อย“หรือจะเป็นคุณหนูอลิเซียเล่าขอรับ” ชาร์ลยังคงเสนอรายชื่อหญิงสาวที่ดูเหมาะสมกับเจ้านายของตนอย่างไม่หยุดยั้ง“เจ้าอย่าพูดชื่อคนที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาเชียว”สาเหตุที่เจย์เดนกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะคุณหนูอลิเซีย

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 3 หนี้สิน

    “วันนี้นางขายดอกไม้ได้เยอะนัก” เจย์เดนนั่งมองเธอที่กำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่อย่างขะมักขะเม้น “แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น” ว่าพลางขมวดคิ้วไปด้วย“เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามให้เหตุผล ก่อนที่ท่านชายของเขาจะขุ่นเคืองใจไปมากกว่านี้ เพราะมันคงไม่เป็นผลดีต่อพวกมนุษย์เพศชายพวกนั้นแน่“แต่ผู้ชายพวกนี้เขาซื้อดอกไม้ให้แฟนสาวหรือภรรยากันทุกวันเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาจับสังเกตและจำใบหน้าของลูกค้าประจำทุกคนได้ บางคนก็เข้ามาอุดหนุนทุกวัน บ้างก็วันเว้นวันจนน่าประหลาด“เอ่อ...ก็คงรักภรรยามากน่ะขอรับ” ชาร์ลรีบแก้ต่าง แต่ในอีกมุมหนึ่งมันถือเป็นการสอพลอเพื่อมิให้ท่านชายของเขาฉุนเฉียวจนเกินงาม“เหอะ รักคนจัดช่อดอกไม้สิไม่ว่า...” เจย์เดนแค่นหัวเราะอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งชาร์ลเสียงเด็ดขาด “ข้าอยากให้เจ้าไปเหมาดอกไม้ร้านนั้นมา ก่อนที่มนุษย์พวกนั้นจะเข้ามาอีก”ว่าที่ชายาของเขา มิควรได้มีชายใดมาเชยชมอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้สิ มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไรไม่รู้“เอ่อ...แต่...ดอกไม้เยอะมากเลยนะขอรับ ท่านชายจะเอาไปทำอะไรกัน”“ข้าบอกให้ไปซื้อก็ไปซื้อมาเถอะ” เจย

    Last Updated : 2025-01-24

Latest chapter

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขาชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ""เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุดแต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออกเห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

    เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดนแต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควรลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 7 ชีวิตช่วงแรกในคฤหาสน์

    วันรุ่งขึ้น ลินินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยกลัวว่าจะไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เพราะคฤหาสน์ตระกูลแบดฟอร์ดตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง มิหนำซ้ำบริเวณโดยรอบยังล้อมไปด้วยผืนป่าพนาไพรอีกด้วยเธออดคิดไม่ได้ว่าอาจต้องเดินลงภูเขาสูงชันนี้ด้วยตัวเอง และหารถประจำทางเพื่อต่อเข้าไปในเมืองให้ได้วางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว สองขาก็รีบวิ่งลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะพบกับเจย์เดนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทานอาหาร นอกจากนี้บนโต๊ะยังเตรียมสำรับอาหารเอาไว้อีกที่หนึ่งด้วย“นั่งลงทานมื้อเช้าซะ” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ“นั่ง...บนโต๊ะ...กับคุณเหรอ?” รู้สึกแปลกใจที่คนอย่างเธอจะมีสิทธิ์ได้ร่วมโต๊ะกับผู้ทรงอำนาจเช่นเขา ตอนแรกลินินคิดว่าจะต้องไปนั่งรวมกับพวกสาวใช้ซะอีก แต่ก่อนที่เธอจะทันปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ถูกสายตาเฉียบคมของเขามองมาเสียก่อน ประหนึ่งออกคำสั่งกลาย ๆ“นั่ง-ลง” เขาพูดเน้นทีละพยางค์ ลินินที่ได้ยินแบบนั้น อยู่ ๆ ก็ทิ้งตัวนั่งลงโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีบางอย่างมาผลักเธอเข้า“ฉันต้องรีบไปโรงเรียนนะคะ (. .)”“กินมื้อเช้าก่อน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเข้ม “เดี๋ยวให้ชาร์ลไปส่ง” ขณะพูดก็ปรายตามองไปหาผู้ติดตามคนสนิทของตัวเอง ช

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 6 หน้าที่ของเจ้า

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวเดินตามแผ่นหลังของเจย์เดน ชายชราคนหนึ่งก็รีบเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างนอบน้อม ราวกับมองว่าเธอนั้นมีฐานะสูงส่งอย่างไรอย่างนั้น“มาแล้วหรือครับท่านหญิง”ท่านหญิงอย่างนั้นเหรอ? ลินินครุ่นคิดในใจพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองไปยังเจย์เดนด้วยความฉงน คิดไม่ตกว่าเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดกันแน่แต่ถึงอย่างนั้นเจย์เดนก็ยังคงปิดปากเงียบก่อนจะส่งสายตาให้ชายชราผู้ที่เดินเข้ามาทักทายเธอรีบออกไป“ตามมา...” ขายาวก้าวนำเธอต่อไป ลินินก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เอาเถอะ จะให้มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแหละนะลินิน...ขณะที่เดินตามเขาไป สายตาของเธอก็มองสำรวจภายในคฤหาสน์ระหว่างทางที่เดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะดูหรูหราอลังการ แต่กลับดูมืดมนและอึมครึมชวนให้รู้สึกน่าอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแผ่วเบาหรือเสียงหวีดร้องดังตามสายลมมาเป็นครั้งคราวอีกต่างหาก สร้างความหวาดหวั่นภายในใจให้กับลินินไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินให้ว่องไวมากยิ่งขึ้นเพื่อตามหลังเจย์เดนให้ทันร่างสูงเดินพาลินินไปที่ห้องนอนของ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status