หน้าหลัก / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

แชร์

บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

ผู้เขียน: มินซอลทัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-27 03:03:22

ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขา

ชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ"

"เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้

ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อย

ใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุด

แต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออก

เห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่

ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าดูไม่จืดเลยทีเดียว สภาพเช่นนี้ต้องใช้เลือดมนุษย์มาจุนเจือเท่านั้น

ลินินเห็นแบบนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปดูอาการของเขาอย่างถือวิสาสะ ด้วยความที่คิดว่าเขาอาจหลับอยู่

'ไม่นะ อย่าเดินเข้ามา!' เจย์เดนคิดในใจ หากเป็นช่วงเวลาอื่นเขาก็อยากให้เธอเข้ามาในห้องนี้อยู่หรอก แต่หากเป็นตอนนี้คงทำให้เธอกลัวจนจับไข้แน่

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นหอมของเธอฟุ้งจนเขี้ยวของเขาแอบงอกออกมาอีกครั้ง โชคดีที่อยู่ใต้ผ้าห่ม จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าเตียงยวบลง บ่งบอกว่าเธออยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้น

"เจย์เดน...นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

"ไม่ ออกไป" เสียงแข็งกร้าวนั้นทำให้ลินินชะงักไป รู้สึกน้อยใจยังไงไม่รู้ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายที่นอนคลุมโปงเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"ไม่สบายเหรอ ขอฉันดูหน่อยสิ"

"ข้าบอกให้ออกไปไง!" เจย์เดนตวาดเสียงใส่ ลินินที่กำลังจะเอื้อมไปดึงผ้าออกก็ต้องรีบดึงมือกลับทันที

"ฉันก็แค่อยากรู้ว่านายโอเคไหมก็เท่านั้นเอง" น้ำเสียงดูน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด เจย์เดนที่อยู่ใต้ผ้าจึงถอนหายใจ พยายามจะอธิบายเรื่องราวเพื่อหวังให้เธอเข้าใจ แต่ดูเหมือนลินินที่ความน้อยใจกำลังถาโถมจะรีบลุกพรวดแล้วหวังจะออกจากห้องไปโดยไม่ฟังกันเลย

เขาจึงตัดสินใจเปิดผ้าที่คลุมโปงออกมาในที่สุด มือหนาคว้าเรียวแขนของเธอเอาไว้ พร้อมกับผลักให้ร่างบางนอนลงแล้วตามขึ้นไปค่อม

"!!!" ลินินที่เห็นสภาพของเจย์เดนในตอนนี้ก็ผวะไปเล็กน้อย แต่แทนที่เธอจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว กลับเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใยอย่างแท้จริง"นายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ใครทำกับนายแบบนี้?"

อาการดูหนักราวกับโดนทำร้าย แต่ไม่ใช่หรอกเขาเพียงแค่เพลียก็เท่านั้น ครั้งล่าสุดที่เข้านอน ดูเหมือนจะเป็นช่วงหลายเดือนก่อนเลย

เจย์เดนได้ยินเธอถามเช่นนั้นก็ชะงักไป ผิดคาดกับที่เขาคิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง กับคนรักเก่าเขายังไม่เคยให้เห็นมุมนี้เลย จึงไม่กล้าที่จะแสดงมันต่อหน้าลินินด้วย ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะยอมรับด้านนี้ของเขาได้

"เจ้าเป็นห่วงข้าเหรอ?" สายตานิ่งเรียบบ่งยอกถึงความจริงจังในการถาม

ลินินพยักหน้าตอบกลับทันที สิ่งนั้นทำให้สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงอย่างช่วยไม่ได้

"ต้องทำยังไงนายถึงจะหาย..."

"นี่เจ้าไม่กลัวข้าเลยอย่างนั้นสิ?" ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอขณะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ลินินส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะได้รับเสียงขบขันของเจย์เดนตอบกลับไป "ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกให้ก็ได้ อาการแบบนี้ ข้าต้องดื่มเลือดมนุษย์..."

"งั้นนายก็ดื่มซะสิ"

"เจ้าอยากให้ข้าดื่มเลือดเจ้าอย่างนั้นเหรอ?"

ลินินพยักหน้าเป็นคำตอบ "ถ้ามันทำให้นายหายก็ดื่มเลย" ดวงตาคู่สวยก็ฉายแววห่วงใยก่อนจะหลับตาลงแล้วหันศีรษะไปอีกทางเพื่อเปิดพื้นที่ให้เขาฝังเขี้ยวตรงคอได้สะดวกขึ้น

คนตัวโตเห็นเช่นนั้นก็แสยะยิ้มขึ้นอย่างขบขัน ในที่สุดก็รับรู้ได้แล้วว่าเธอเป็นห่วงตัวเองจริง ๆ แต่ก็ยังเอ่ยยียวนเธอไม่หยุดหย่อน "ไม่เสียใจแน่นะ..." ให้ตายสิ ในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดแกล้งอีก

เขาค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้บริเวณลำคอของลินินมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากสัมผัสลงบนต้นคอของเธออย่างแผ่วเบา

ลินินหลับตาปี๋ ลุ้นกับความเจ็บที่กำลังจะได้รับ แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากสัมผัสแผ่วเบานั้น ดวงตาคู่สวยจึงลืมขึ้นแล้วมองเจย์เดนด้วยความฉงน

"ไม่ดื่มเหรอ?" ทำตาแป๋วใส่ จนร่างสูงต้องลุกออกจากตัวเธอเพื่อหลบเลี่ยงความน่ารักที่เข้ามากระแทกเต็มอก

"ไม่ ข้าดื่มเลือกมนุษย์ไปเยอะแล้ว เหลือแค่นอนพัก -///-"

"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกเล่า!" ทำแก้มพองลม แล้วเดินกระแทกเท้าออกไป

.

.

.

หลายวันผ่านไป

เฝ้าอ่านหนังสืออยู่หลายเดือน และแล้ววันสำคัญของลินินก็มาถึง เป็นวันที่เธอต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง ลินินรีบตื่นแต่เช้า ด้วยคิดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ เธอจึงกลัวว่าเจย์เดนกับชาร์ลอาจคิดว่าเธอได้หยุดเรียนในวันนี้และไม่มีรถจะพาไปส่งเข้าสอบ จึงเลือกที่จะตื่นเช้าหน่อยเผื่อว่าต้องเดินทางไปเข้าสอบด้วยตัวเอง

หารู้ไม่ว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้จดจำวันสอบของเธอได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นเขียนลงปฏิทินในทุกแพลตฟอร์มด้วย มิหนำซ้ำ ยังแอบซุ่มวางแผนมาโดยตลอดว่าจะจัดการทุกอย่างให้เอื้ออำนวยความสะดวกของเธออย่างไรดี

และหากจะบอกว่าหญิงสาวตื่นเช้ามาก ๆ แล้ว แวมไพร์หนุ่มตนนี้ก็ไม่ต่างกัน เขาออกจากห้องนอนมาก่อนที่ลินินจะตื่นด้วยซ้ำ

เขาเดินวนไปวนมาอยู่ในโถงคฤหาสน์ท่ามกลางบรรดาผู้รับใช้ที่ต้องตื่นขึ้นมาจากการที่เขาไปเรียกให้มารวมตัวกัน ณ ห้องโถงแห่งนี้

"เตรียมสำรับอาหารเช้าของลินินให้ดี" เจย์เดนสั่งผู้รับใช้ น้ำเสียงฟังดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยถ้อยวาทะที่ไร้ผู้ใดกล้าขัดขืน

บรรดาผู้รับใช้ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ค้อมศีรษะ ก่อนจะขานรับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

“มาเตรียมการแต่เช้าเชียวนะขอรับ...” ชาร์ลเอ่ยทักทายขึ้น วันนี้เขาก็รีบมาช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้ลินินไปสอบได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

หลังจากกำชับผู้รับใช้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว เจย์เดนก็หมุนตัวหันหลัง กำลังจะกลับไปที่ห้องของตนเอง เพื่อไม่ให้ลินินทราบว่าเขาอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็ยังไม่วายหันมากำชับผู้ติดตามคนสนิทของตัวเองอีกครา

"เจ้า...ไปส่งนางที่สนามสอบให้ทันเวลาด้วย ห้ามสายโดยเด็ดขาด แล้วใกล้พักช่วงเที่ยง กลับมานำอาหารที่คฤหาสน์ไปส่งให้นางด้วย อย่าให้ไปทานอาหารตามร้านสะดวกซื้อเด็ดขาด"

ชาร์ลค้อมศีรษะน้อมรับคำสั่ง จากนั้นร่างสูงก็เดินกลับขึ้นไปข้างบนทันที

“เจย์เดนล่ะ?” เมื่อก้าวลงจากบันไดแล้วพบว่าที่นั่งของเจย์เดนไร้วี่แววเจ้าที่ เธอก็เอ่ยถามด้วยความฉงน ปกติแล้วเขาตรงเวลาต่อมื้อเช้ามากนัก

และถึงแม้จะทราบแล้วว่าเขาพาตนมาอยู่ในฐานะใด แต่ลินินก็ยังสงวนท่าทีไม่ออกนอกหน้าจนเกินงาม

“เอ่อ...ท่านชายยังไม่ตื่นขอรับ” ชาร์ลแอบอ้างให้ดูสมเหตุสมผล แต่ในความเป็นจริงแล้ว แวมไพร์เช่นพวกเขาไม่จำเป็นต้องนอนด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่คนตรงหน้าเป็นมนุษย์สาว เขาจึงหยิบยกกิจวัตรที่ตรงกับนาฬิกาชีวิตของมนุษย์ขึ้นมาอ้างได้

และมันก็ได้ผล ลินินไร้ข้อกังขาแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะเธอมีเรื่องอื่นให้ต้องคิดมากกว่าเรื่องของเขาด้วย

หลังจากพยักหน้ารับรู้แล้ว เธอก็รีบนั่งลงและทานมื้อเช้าอย่างเร่งรีบ ในระหว่างที่ทานก็มีการหยิบสมุดที่จดเอหาโดยสรุปขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้งด้วย

ชาร์ลที่เห็นแบบนั้นก็อดมองด้วยสายตาภาคภูมิใจเสียไม่ได้ รวมถึงบรรดาผู้รับใช้และสาวใช้คนสนิทของเธอด้วยเช่นกัน ‘ท่านหญิงของเราช่างตั้งใจเหลือเกิน’ ทุกคนที่ยืนมองต่างช่วยกันส่งแรงอธิษฐานให้ลินินสอบผ่านได้ดั่งใจหวังทั้งสิ้น

เมื่อเห็นว่าลินินและชาร์ลออกไปเรียบร้อยแล้ว เจย์เดนก็ลงมาคุมหน้างานอีกครั้ง

“แล้วของว่างของนางเล่า...ไม่ได้เตรียมเอาไว้ตามที่ข้าสั่งหรอกหรือ?”

“กำลังจัดเตรียมเจ้าค่ะท่านชาย” สาวใช้คนสนิทของลินินบอกกล่าว

เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยง ชาร์ลก็กลับมาที่คฤหาสน์เพื่อรับมื้อกลางวันที่เจย์เดนสั่งเตรียมให้ลินินเป็นพิเศษ "ดูอย่าให้เย็นชืดนะ เจ้ารีบเอาไปส่งให้ถึงมือนางด้วย"

ผู้รับใช้ที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่เป็นสถานการณ์ที่พวกเขาเห็นว่า ท่านชายดูจะร้อนรนประหนึ่งเป็นเรื่องสำคัญของตัวเองในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ตกเย็น หลังจากการสอบสิ้นสุดลง ลินินที่อ่อนล้าจากการสอบทั้งวันก็กลับมาถึงคฤหาสน์พร้อมกับชาร์ลที่ดูเหนื่อยล้าไม่ต่างกัน

ลินินตรงเข้าห้องทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ล้มตัวลงนอนไปด้วยความอ่อนเพลีย

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แวมไพร์หนุ่มก็แอบย่องเข้าไปในห้องของเธอดั่งเช่นที่เขาทำทุกวัน และเมื่อเห็นว่าครั้งนี้เธอหลับสนิท เขาก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงข้างเตียงอย่างเบาที่สุด นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเส้นผมที่ปกหน้าของเธออย่างอ่อนโยน "เจ้าทำได้ดีแล้วนะวันนี้..." เขากระซิบเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังเล่านิทานกล่อมให้เธอหลับฝันดี

หลังจากกล่อมไปสักพัก เขาก็ลุกเดินกลับออกจากห้องของเธอ และด้วยความรู้ดีว่าลินินจะต้องตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหิวโหย เขาจึงสั่งให้ผู้รับใช้เตรียมมื้อดึกแสนหรูหราเอาไว้ให้เธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ซึ่งการคาดการณ์ของเขานั้นไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย เพราะลินินตื่นขึ้นมากลางดึกจริง ๆ เธอรู้สึกหิวมาก จนต้องฝืนกฎแอบย่องเดินออกจากห้องในยามวิกาลเลยทีเดียว

ขณะที่กำลังจะเดินไปทางห้องครัวนั้น ลินินก็ต้องตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะที่วางรอเธออย่างดีประหนึ่งจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ต้อนรับ

ในตอนแรกเธอฉงนใจยิ่งนักว่าเป็นสำรับอาหารสำหรับเธอหรือเปล่า แต่เมื่อก้มมองอ่านกระดาษแผ่นเล็กที่มีลายมือตัวบรรจงเขียนเอาไว้ว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับมาจากการสอบนะ ลินิน’ ความสงสัยก็พลันมลายหายไปทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางสายตาของเจย์เดนที่กำลังเฝ้ามองเธออย่างเงียบ ๆ จากมุมบนของคฤหาสน์

‘กินเก่งเหมือนกันนะ’ ลินินทานทุกอย่างบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยง ทำให้เจย์เดนที่แอบมองอยู่รู้สึกทึ่งในความกินเก่งของเธอ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าคนตัวเล็กจะกินเก่งขนาดนี้ หรือ อาจเป็นเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เธอจึงเก้ ๆ กัง ๆ ในการทานก็เป็นได้

หลังจากทานเสร็จ ลินินก็เริ่มเก็บจานหลายใบที่วางอยู่บนโต๊ะไปวางในอ่างครัว ขณะที่เธอกำลังจะลงมือล้างจาน บรรดาผู้รับใช้ก็รีบกรูกันเข้ามาคว้าจานออกจากมือของเธอทันที

“คุณหนูไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ เรื่องนี้ข้าน้อยจะจัดการเอง” สาวใช้คนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพ

ลินินรู้สึกเกรงใจเหล่าผู้รับใช้เป็นอย่างมาก บอกตามตรง หากเธอเป็นแวมไพร์จริง ๆ ชนชั้นของเธอคงไม่ต่างจากพวกเขาหรอก

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะอยู่ในคฤหาสน์นี้มาหลายเดือนแล้ว และทราบฐานะของตนดี แต่เธอก็ยังไม่กล้าทำตัวสูงส่งอยู่วันยังค่ำ

แต่ในเมื่อสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของพวกผู้รับใช้ เธอก็ได้แต่ยอมปล่อยให้พวกเขาจัดการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณตอบกลับไป และด้วยความที่เธอนิสัยอ่อนโยนเช่นนี้ เหล่าผู้รับใช้จึงชื่นชอบเธอเป็นยิ่งนัก

หลังจากนั้น ลินินก็เริ่มตื่นตาตื่นใจไปกับการเดินชมคฤหาสน์ยามวิกาล เธอไม่กล้าเดินไปทางปีกตะวันตกจามที่เจย์เดนกำชับเอาไว้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คฤหาสน์ยามค่ำคืนนั้นมีมนต์สเน่ห์ดึงดูดแปลก ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะยืนมองทางเดินมืดมิดที่มุ่งตรงไปทางนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เจย์เดนที่คอยจับตาดูเธอจากมุมมืด น่าแปลกเสียจริง ทั้งที่หัวใจของเขาไม่เคยเต้น แต่กลับร็สึกเหมือนมันมีชีวิตขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ ยามเมื่อมองดูร่างบางตรงหน้าพร้อมท่าทีซุกซนอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กที่เพิ่งเจอสิ่งใหม่

และแล้ว รอยยิ้มที่ไม่ใช่เพียงแค่การเผยอมุมปากขึ้นก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ไม่นานนัก ลินินก็เลิกสนใจปีกตะวันตกแล้วเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง วันนี้ผ่านไปได้ดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก ชาร์ล ผู้ติดตามของเจย์เดน คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดตอนที่ไปสอบ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ

และเมื่อนึกถึงสิ่งที่ชาร์ลทำให้ตลอดทั้งวัน ลินินก็อดคิดถึงเจย์เดนขึ้นมาเสียไม่ได้

"หรือว่าเขาจะเป็นคนสั่งให้ชาร์ลมาดูแลเรานะ? " ลินินนึกในใจ แต่ก็ไม่ปักใจเชื่อมากนัก เพราะเธอไม่ได้เห็นเขาเลยตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันสอบที่สำคัญของเธอ

แต่ถึงอย่างนั้นก็อดรู้สึกขอบคุณเขาไม่ได้อยู่ดี

“ขอบคุณนะ เจย์เดน” เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะอุ้มตุ๊กตาแดร็กคูล่าที่ดูเหมือนว่า ตอนนี้มันจะกลายเป็นตัวแทนของเขาไปเสียแล้ว พร้อมทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าอีกครั้ง

เจย์เดนที่ซ่อนตัวอยู่ตรงระเบียงข้างนอกห้อง ได้ยินทุกถ้อยคำของเธอ เขามองผ่านหน้าต่างห้อง เห็นลินินกอดตุ๊กตาและผล็อยหลับไปด้วยความสุขใจก็ได้แต่ยืนยิ้มอย่างอ่อนโยน พลันรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การเป็นห่วงเป็นใยและให้ความสำคัญต่อกันและกัน ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้เองสินะ หลังจากไม่ได้สัมผัสมาหลายร้อยปี

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-27
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทนำ

    ยามค่ำคืนช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศโดยรอบจึงเย็นจัด เมฆหมอกบางเบาโอบล้อมรอบตึกสูงระฟ้าราวกับกำลังปกปิดความลึกลับอีกด้านหนึ่งของโลกเอาไว้ ท้องฟ้าในยามนี้มืดสนิทมีเพียงแสงเบาบางจากดวงจันทร์ที่คล้ายกับรอยยิ้มเหยียดเยาะเยือกเย็นชวนน่าหวาดหวั่นณ ทางเดินทอดยาวสู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฎภาพหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ วันนี้เป็นดั่งเช่นทุกวันที่เธอต้องออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายดอกไม้ สองขาก้าวไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย เพียงแต่ในวันนี้กลับมีสิ่งแปลกประหลาดที่เข้ามาสะดุดสายตาของเธอเข้าโดยบังเอิญเสียอย่างนั้น ดวงตาคู่สวยเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นก่อนจะพบว่ามันคือกุหลาบดอกหนึ่งซึ่งถูกวางทิ้งเอาไว้บนกลางทางเดินนอกจากนี้ มันช่างต่างจากดอกกุหลาบที่เธอเห็นทุกวันในร้านยิ่งนัก เจ้าพวกนั้นทั้งสดใสและบานสะพรั่ง แต่กุหลาบที่เธอพบในค่ำคืนนี้กลับแตกต่างออกไป ชวนน่าอัศจรรย์ระคนสงสัย เพราะสีของมันนั้นดำขลับสนิทราวกับถูกวาดขึ้นมาจากฝันร้ายของใครบางคน“ใครเอาแกมาทิ้งกันนะ” ด้วยความที่เธอเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านจัดดอกไม้มานับแรมปี จึงมีความผูกพันให้กับดอกไม้นานาชนิด แม้ว่าสีของเจ้าดอกไม้นี้จะไม่ค่อยน่าเชยชม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 1 กุหลาบต้องมนต์

    “ท่านชายต้องเร่งหาคู่ครองได้แล้วนะขอรับ!” อยู่ ๆ ชายชราคนหนึ่งก็โผล่พรวดเข้ามาภายในห้องทำงานอันแสนองค์อาจ เขาคือโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ตระกูลซึ่งเก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุดในแวมไพร์ชนชั้นสูงสิ้นเสียงของชายชรา ร่างสูงที่นั่งจมอยู่กับกองงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็เงยหน้าขึ้นแล้วกอดอกใส่ด้วยท่าทางกวน ๆ“หมายความว่าอย่างไร ทำไมอยู่ ๆ ท่านจึงมาพูดเรื่องนี้ได้”“ข้าได้รับคำนายว่าช่วงนี้ท่านชายจะหาคู่ครองที่เหมาะสมได้ขอรับ เพราะฉะนั้นท่านชายต้องรีบเร่งหาได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไปเสียก่อน”“หาเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดนั่นแหละ สาว ๆ พวกนั้นแค่กระดิกนิ้วก็เข้ามาแล้ว” เจย์เดนตอบโต้กลับไป“หากเพียงเพื่อรักสนุกจะทำเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่หากนำมาเป็นชายาข้างกาย ข้าน้อยว่ามิสมควร” ถึงแม้กาลเวลาจผ่านมาจนถึงยุคที่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่พวกเขาก็ยังติดพูดสรรพนามเช่นนี้อยู่เสมอ“แล้วท่านจะให้ข้าทำอย่างไร? ยุคนี้สมัยนี้ก็หาได้แต่แบบนี้แหละ” เจย์เดนกอดอก คราวนี้สายตาของเขาเริ่มฉายแววจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่งานตรงหน้ากองจนแทบจะท่วมหัวอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาเสวนาเรื่องผู้หญิงที่คอยแต่จะหวังเข้าหาเขาเพื่อผลปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 2 พรหมลิขิตก่อตัว

    “เฮ้อ แล้วจะให้ข้านำมันไปให้ใครกันล่ะ” เจย์เดนถอนหายใจอย่างยาวเหยียด พร้อมกับจ้องมองดอกกุหลาบที่อยูในฝาแก้วครอบ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเอ่ยว่า คู่ครองหาเมื่อไหร่ก็เหมือนกันหมด แต่เขาก็หวังอยากจะหาให้ได้ในเร็ววันนั่นแหละ...บอกตามตรง แวมไพร์เช่นเขาก็เหงาเป็นเหมือนกันนะผู้ติดตามคนสนิทที่ยืนฟังอยู่จึงเสนอความคิดขึ้นว่า “เช่นนั้น ท่านชายลองนำไปให้คนที่ท่านหมายปองดูก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่มีผู้ใดที่ข้าหมายปองเป็นพิเศษหรอก”“คุณหนูเฟย์อย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามอย่างเขาเห็นว่าท่านชายสนิทสนมกับเธอเป็นพิเศษ จึงคิดว่าบางทีพวกเขาอาจมีบางสิ่งที่เข้ากันได้“นี่เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่เลย นางเป็นเพียงสหายของข้า”คุณหนูเฟย์ คือลูกสาวตระกูลแวมไพร์ที่ตระกูลแบรดฟอร์ดของเขาร่วมค้าธุรกิจด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่เขาและเธอสนิทกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่หากมองลึกลงไปในความสัมพันธ์นั้น ไม่มีความพิสวาทเลยแม้แต่น้อย“หรือจะเป็นคุณหนูอลิเซียเล่าขอรับ” ชาร์ลยังคงเสนอรายชื่อหญิงสาวที่ดูเหมาะสมกับเจ้านายของตนอย่างไม่หยุดยั้ง“เจ้าอย่าพูดชื่อคนที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาเชียว”สาเหตุที่เจย์เดนกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะคุณหนูอลิเซีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 3 หนี้สิน

    “วันนี้นางขายดอกไม้ได้เยอะนัก” เจย์เดนนั่งมองเธอที่กำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่อย่างขะมักขะเม้น “แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น” ว่าพลางขมวดคิ้วไปด้วย“เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามให้เหตุผล ก่อนที่ท่านชายของเขาจะขุ่นเคืองใจไปมากกว่านี้ เพราะมันคงไม่เป็นผลดีต่อพวกมนุษย์เพศชายพวกนั้นแน่“แต่ผู้ชายพวกนี้เขาซื้อดอกไม้ให้แฟนสาวหรือภรรยากันทุกวันเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาจับสังเกตและจำใบหน้าของลูกค้าประจำทุกคนได้ บางคนก็เข้ามาอุดหนุนทุกวัน บ้างก็วันเว้นวันจนน่าประหลาด“เอ่อ...ก็คงรักภรรยามากน่ะขอรับ” ชาร์ลรีบแก้ต่าง แต่ในอีกมุมหนึ่งมันถือเป็นการสอพลอเพื่อมิให้ท่านชายของเขาฉุนเฉียวจนเกินงาม“เหอะ รักคนจัดช่อดอกไม้สิไม่ว่า...” เจย์เดนแค่นหัวเราะอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งชาร์ลเสียงเด็ดขาด “ข้าอยากให้เจ้าไปเหมาดอกไม้ร้านนั้นมา ก่อนที่มนุษย์พวกนั้นจะเข้ามาอีก”ว่าที่ชายาของเขา มิควรได้มีชายใดมาเชยชมอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้สิ มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไรไม่รู้“เอ่อ...แต่...ดอกไม้เยอะมากเลยนะขอรับ ท่านชายจะเอาไปทำอะไรกัน”“ข้าบอกให้ไปซื้อก็ไปซื้อมาเถอะ” เจย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24

บทล่าสุด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขาชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ""เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุดแต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออกเห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

    เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดนแต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควรลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 7 ชีวิตช่วงแรกในคฤหาสน์

    วันรุ่งขึ้น ลินินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยกลัวว่าจะไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เพราะคฤหาสน์ตระกูลแบดฟอร์ดตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง มิหนำซ้ำบริเวณโดยรอบยังล้อมไปด้วยผืนป่าพนาไพรอีกด้วยเธออดคิดไม่ได้ว่าอาจต้องเดินลงภูเขาสูงชันนี้ด้วยตัวเอง และหารถประจำทางเพื่อต่อเข้าไปในเมืองให้ได้วางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว สองขาก็รีบวิ่งลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะพบกับเจย์เดนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทานอาหาร นอกจากนี้บนโต๊ะยังเตรียมสำรับอาหารเอาไว้อีกที่หนึ่งด้วย“นั่งลงทานมื้อเช้าซะ” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ“นั่ง...บนโต๊ะ...กับคุณเหรอ?” รู้สึกแปลกใจที่คนอย่างเธอจะมีสิทธิ์ได้ร่วมโต๊ะกับผู้ทรงอำนาจเช่นเขา ตอนแรกลินินคิดว่าจะต้องไปนั่งรวมกับพวกสาวใช้ซะอีก แต่ก่อนที่เธอจะทันปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ถูกสายตาเฉียบคมของเขามองมาเสียก่อน ประหนึ่งออกคำสั่งกลาย ๆ“นั่ง-ลง” เขาพูดเน้นทีละพยางค์ ลินินที่ได้ยินแบบนั้น อยู่ ๆ ก็ทิ้งตัวนั่งลงโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีบางอย่างมาผลักเธอเข้า“ฉันต้องรีบไปโรงเรียนนะคะ (. .)”“กินมื้อเช้าก่อน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเข้ม “เดี๋ยวให้ชาร์ลไปส่ง” ขณะพูดก็ปรายตามองไปหาผู้ติดตามคนสนิทของตัวเอง ช

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 6 หน้าที่ของเจ้า

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวเดินตามแผ่นหลังของเจย์เดน ชายชราคนหนึ่งก็รีบเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างนอบน้อม ราวกับมองว่าเธอนั้นมีฐานะสูงส่งอย่างไรอย่างนั้น“มาแล้วหรือครับท่านหญิง”ท่านหญิงอย่างนั้นเหรอ? ลินินครุ่นคิดในใจพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองไปยังเจย์เดนด้วยความฉงน คิดไม่ตกว่าเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดกันแน่แต่ถึงอย่างนั้นเจย์เดนก็ยังคงปิดปากเงียบก่อนจะส่งสายตาให้ชายชราผู้ที่เดินเข้ามาทักทายเธอรีบออกไป“ตามมา...” ขายาวก้าวนำเธอต่อไป ลินินก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เอาเถอะ จะให้มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแหละนะลินิน...ขณะที่เดินตามเขาไป สายตาของเธอก็มองสำรวจภายในคฤหาสน์ระหว่างทางที่เดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะดูหรูหราอลังการ แต่กลับดูมืดมนและอึมครึมชวนให้รู้สึกน่าอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแผ่วเบาหรือเสียงหวีดร้องดังตามสายลมมาเป็นครั้งคราวอีกต่างหาก สร้างความหวาดหวั่นภายในใจให้กับลินินไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินให้ว่องไวมากยิ่งขึ้นเพื่อตามหลังเจย์เดนให้ทันร่างสูงเดินพาลินินไปที่ห้องนอนของ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status