Home / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Share

บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

last update Last Updated: 2025-01-27 03:03:22

ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไว

เจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน

‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน

ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น

‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน

‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เดนโดยไม่ตั้งใจ

ลินินกรีดร้องออกมา พลันรู้สึกว่าตัวเองจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเป็นเช่นนั้น มือหนาของเจย์เดนก็เข้ามาประคองเอาไว้ได้ทันกาลพอดี

เมื่อคว้าร่างบางได้แล้ว มือหนาก็เอื้อมไปปิดประตูลง พลางแยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นประหนึ่งว่าสามารถจับเหยื่อชิ้นใหญ่ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น เขาก้มมองลินินที่กำลังกอดเจ้าเจย์เดนอยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะปล่อยมือหนาของตัวเองออกในที่สุด แล้วทำเป็นเอ่ยเสียงเข้ม

“เจ้ามายืนอยู่หน้าห้องข้าทำไมกัน” อันที่จริงเจย์เดนทราบอยู่แล้วว่าลินินมีธุระอะไร แต่เขาอยากฟังจากปากของเธอตามตรงเสียมากกว่า

“ฉันแค่อยากจะมาขอบคุณ...ขอบคุณนะเจย์เดน” ว่าจบเธอก็กำลังจะเดินเลี่ยงคนตรงหน้าเพื่อหวังจะออกไปจากห้องของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น คิดหรือว่าเขาจะยอมปล่อยให้เหยื่อตัวน้อย ๆ หลุดมือไปง่าย ๆ

มันต้องเล่นให้หนำใจก่อนสิ...เจย์เดนคิดในใจ พลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้า

“เจ้ามาแค่นี้เองเหรอ? นี่เป็นวิธีการขอบคุณของเจ้าอย่างนั้นสิ?” ว่าพลางก้าวเดินไปใกล้เธอมากขึ้น ลินินที่เห็นแบบนั้นก็ก้าวถอยหลังไปตามกัน พื้นที่ในห้องนอนช่างกว้างขวาง แต่เพียงไม่นานนักขาของเธอก็ไปสะดุดเข้ากับขอบเตียงของเขาจนได้

ร่างของลินินทรุดลงไปบนเตียง ซึ่งเจย์เดนที่ดูเหมือนจะคิดแผนการณ์นี้เอาไว้เสียแต่เนิ่น ๆ แล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามคาดก็อดพึงพอใจเสียไม่ได้

“นี่...เจ้าคงไม่คิดว่า เข้ามาในห้องของข้าแบบนี้แล้วจะได้กลับออกไปง่าย ๆหรอกนะ?” สองแขนแกร่งค้ำยันลงบนฟูกที่นอนเพื่อกักกันตัวเธอไม่ให้หลุดเงื้อมมือไปได้ง่าย ๆ

ลินินที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มมองหาทางหนีทีไล่ แต่เมื่อคิดไปถึงว่าคนตรงหน้าเป็นถึง แวมไพร์ อย่างไร...ความไวของเธอก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้อยู่แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงรีบส่งสายตาอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “คือว่า...ฉันต้องรีบไปอ่านหนังสือ...มัน...มันใกล้สอบแล้ว” หญิงสาวพยายามหว่านล้อม ส่วนเจย์เดนก็ยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนไม่ได้ฟังคำกล่าวของเธอเลยสักนิด

“ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเจ้านี่หอมน่ากินเหลือเกิน” ว่าพลางจะก้มลงมาสูดดมกลิ่นตรงบริเวณซอกคอของเธอ

ในขณะที่เจย์เดนหลับตาพริ้มพร้อมสูดกลิ่นหอมเย้ายวนนั้น ลินินก็อาศัยจังหวะนั้นไถลตัวออกจากการกักขังของเขาได้สำเร็จ แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูเพื่อกลับห้องของตัวเอง

เจย์เดนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพลางสายตามองตามร่างบางที่วิ่งดุ๊กดิ๊กพ้นประตูไปจนลับตา

“หึ เอาไว้กินครั้งหน้าก็ไม่สาย” ว่ากันตามตรง หากเขาจะลงมือจริง ๆ ลินินไม่มีทางหนีรอดหรอก

ยามเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ ลินินออกมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องสวนกระจกของคฤหาสน์ ส่วนางกายธอก็มีสาใช้คนสนิทอย่าง เบล คอยนั่งให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง อันที่จริงเธอค่อนข้างตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นมนูษย์นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้ แต่ด้วยท่าทางขะมักเขม้นนัน มันกลับทำให้เธอรู้สึกทึ่งอย่างแปลกประหลาด

“ไปพักผ่อนก็ได้นะเบล ไม่ต้องมานั่งอยู่ที่นี่หรอก อากาศมันหนาว” ลินินบอกกล่าว แต่สายตาก็ยังไม่ละออกจากหนังสือ

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เผื่อคุณหนูขาดเหลืออะไรจะได้เรียกข้าได้ตลอด” เมื่อเห็นเธอยืนกรานเช่นนั้น ลินินก็ไม่ได้ว่าอะไร

ขณะเดียวกันนั้น ชายชราคนหนึ่งก็เดินผ่านบริเวณนั้นพอดี เมื่อเห็นลินินเขาก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้ม ลินินจำได้ทันทีว่าเป็นชายชราที่เรียกธอว่า ‘ท่านหญิง’ ยามเมื่อเธอมาคฤหาสน์นี้ครั้งแรก

“ท่านหญิง...” เขาค้อมศีรษะให้เธอ จนลินินต้องลุกขึ้นยืนแล้วก้มศีรษะคืนให้ด้วยความนอบน้อมยิ่งกว่า ด้วยความเห็นว่าเขาอาวุโสยิ่งนัก “อ่านหนังสืออยู่หรือขอรับ”

“ค่ะ พอดีใกล้สอบแล้ว...” ลินินตอบกลับ

“ช่างขยันนัก ขอให้สมปรารถนาได้คณะที่ที่หวังนะขอรับ”

“ขอบคุณค่ะ” ลินินค้อมศีรษะให้เมื่อได้ยินคำอวยพรจากคุณปู่ตรงหน้า แต่ก่อนที่จะกลับไปสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ เธอกลับเอ่ยถามถึงเรื่องที่ค้างคาใจมานานขึ้นเสียก่อน “ว่าแต่...ทำไมคุณปู่ถึงเรียกหนูว่าท่านหญิงเหรอคะ”

ชายชราได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบอกเล่าถึงหน้าที่ของตัวเองในคฤหาสน์หลังนี้ “ข้าน้อยเป็นโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ทำนายดวงชะตาให้กับตระกูลนี้มาจวบจะพันปีเข้าแล้ว”

ลินินตั้งใจฟังราวกับไม่อยากขาดตกบกพร่องไปสักประโยค “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยได้ทำนายดวงชะตาของท่านชาย ดาราประจำตัวของท่านบอกว่าจะได้คู่ครองที่เหมาะสมในช่วงนี้ ข้าน้อยจึงหาเครื่องหมายนำทางไปสู่คู่ครองให้กับท่านชายขอรับ”

ในตอนแรกที่ได้ฟังเช่นนั้น ลินินก็ขมวดคิ้ววุ่น ด้วยความยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่ท่านโหรหลวงกำลังสื่อ จนกระทั่งในที่สุดเขาก็กล่าวประโยคที่ทำให้เธอเริ่มกระจ่างแจ้ง “กุหลาบดอกนั้น...คือเครื่องหมายนำทางขอรับ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลินินก็อึ้งไปครู่หนึ่ง “อย่าบอกนะว่าเป็นกุหลาบสีดำดอกนั้น!?”

โหรหลวงไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่ยกยิ้มแล้วค้อมศีรษะให้ เขาทราบว่าท่านชายยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ลินินทราบ แต่ชายชราครุ่นคิดมาสักพักแล้วว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ควรคืบหน้าได้แล้ว มิฉะนั้นอาจไม่ทันกาล จึงชิงลงมือบอกเธอเสียเองเลย

อาจทำให้เจย์เดนไม่พอใจ แต่ถึงอย่างไรลินินก็ต้องทราบเข้าในสักวันนั่นแหละ

ลินินที่ทราบเรื่องก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ ชาร์ล ไปเหมากุหลาบในร้านที่เธอทำงานพาร์ทไทม์ขึ้นมาได้ เมื่อนั้นเธอจึงพอจะทราบแล้วว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะในตอนนั้นเธอเก็บกุหลาบดอกนั้นไปแล้ว

‘นี่แสดงว่าเขาตามดูเธอมาตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้วอย่างนั้นสิ!!!’

ลินินครุ่นคิดพลางทำสีหน้าแตกตื่น ก่อนจะรีบบอกกล่าวด้วยท่าทางลนลาน “แต่...ฉันแค่บังเอิญเก็บกุหลาบดอกนั้นได้นะคะ อาจไม่ใช่ฉันก็ได้”

ไม่รู้สิ เธอคิดว่าตัวเองอาจไม่เหมาะเป็นว่าที่ชายยาของเขาเลยสักนิด

โหรหลวงเห็นดังนั้นก็เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา “บนโลกนี้ ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกขอรับ...”

“?”

“คุณหนูก็เห็นมิใช่หรือ ว่าท่านชายตั้งใจพาคุณหนูมา ถึงกับยอมทุ่มเงินมหาศาล เรื่องแบบนี้หากจะมองว่าบังเอิญก็คงไม่ใช่หรอกขอรับ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นลินินก็เริ่มใจสั่นไหวพลันหน้าแดงขึ้นมาทันที นี่หมายความว่าเธอไปถูกตาต้องใจเขาอย่างนั้นเหรอ!?

ว่าแต่...นี่เขาหายไปทั้งวันเลยนะ ลินินคิดในใจพลางนึกสงสัยว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

ไม่ได้นะ...นี่เราจะสงสัยเรื่องของเขาไปเพื่ออะไรกัน! โต้แย้งกับตัวเองเสร็จก็ทำใจให้โล่งเพื่ออ่านหนังสือต่อ...

ช่วงบ่าย แสงตะวันเริ่มคล้อยลง ลินินจึงเปลี่ยนไปอ่านภายในห้องสมุดของคฤหาสน์แทน แต่เมื่อเห็นร่างสูงของเจย์เดนเดินผ่านไป โดยมีชาร์ลที่คอยเดินอยู่ข้าง ๆ เธอก็เริ่มนึกถึงสิ่งที่โหรหลวงเล่าให้ฟังขึ้นมา

‘เขาถูกใจอะไรในตัวฉันกันนะ’ คิดในใจพลางสายตายังจับจ้องไปที่ร่างสูง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยืนสนทนาเรื่องสำคัญของตัวเองอยู่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นเธอที่นั่งอยู่ตรงนี้

“นัดเซ็นสัญญากับทางนั้นได้เลยนะ” เสียงเข้มแว่วเข้ามาดังกระทบหู แล้วอยู่ ๆ ลินินก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอพยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำใจให้สงบก่อนจะจ้องมองหนังสือต่อไป

แต่ก็เหมือนแค่มองผ่านตัวอักษรเท่านั้น เพราะในสมองของเธอตอนนี้ครุ่นคิดถึงเรื่องของเจย์เดนอยู่ตลอดเวลา

“ตั้งสติหน่อยลินิน...” เธอกล่าวย้ำเตือนตัวเอง แต่แล้วเจย์เดนก็เดินเข้ามาในห้องสมุดพอดี ขายาวของเขาหยุดชะงักลงเมื่อเห็นว่าเธอก็นั่งอยู่ที่นี่เช่นกัน

สายตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับกำลังพินิจบางอย่าง ลินินเองก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้นที่กำลังจับจ้อง แต่ก็เลือกที่จะพยายามก้มหน้าก้มตาเพื่อหลีกเลี่ยงการประชันหน้าโดยตรง

หากมองหน้าเขาตอนนี้ มีหวังเธอต้องเขินจนสติแตกกระเจิงแน่...สมาธิลินิน...มีสมาธิเข้าไว้...

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังตั้งใจกับการอ่านหนังสือ เจย์เดนก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่เข้าไปก่อกวนเธอ เขาจึงค่อย ๆ เดินเลี่ยงกลับออกจากห้องสมุดไป

‘ฟู่ว เกือบไปแล้ว...’ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ราวกับเอาตัวรอดจากปีศาจได้สำเร็จอย่างนั้น

แต่แล้วหลังจากช่วงบ่ายในวันนั้นเธอก็ไม่ได้เห็นหน้าเจย์เดนอีกเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า

Related chapters

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขา ชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ" "เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อย ใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุด แต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออก เห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา

    Last Updated : 2025-01-27
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 13 บางทีพวกมนุษย์สาว อาจชอบชายหนุ่มที่ร้ายลึก

    หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ ลินินก็พบว่าบริเวณลานจอดรถมีรถหรูที่ไม่คุ้นเคยจอดอยู่คันหนึ่ง แต่ก่อนที่จะทันได้สงสัยไปมากกว่านี้ ก็ปรากฎภาพหญิงสาวผมสีบลอนด์ท่าทางดูสง่าวิ่งยิ้มร่าเข้ามา“เจย์เดน...” เสียงแหลมเอ่ยเรียกตั้งแต่บริเวณหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ ก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้ามาเกาะแขนเจย์เดนด้วยท่าทีออดอ้อน “ไม่เจอกันนานเลย ทำไมเดี๋ยวนี้เจ้าไม่ไปหาข้าที่บ้านเลยล่ะ”“ไง อลิเซีย”หญิงสาวเจ้าของชื่อยิ้มร่าเมื่อได้ยินเจย์เดนทักทาย แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าลินินลงมาจากรถที่เจย์เดนเป็นคนขับ“นังนี่ใครกัน” เธอส่งสายตาแดงฉานใส่ ทำเอาลินินถึงกับผงะถอยหลังเจย์เดนไม่ตอบอะไร ด้วยความที่เขารู้ดีว่าอลิเซียนั้นคลั่งไคล้ในตัวเขามากขนาดไหน หากบอกไปว่าลินินคือว่าที่ชายาของตนตามตรง มีหวังลินินคงโดนอลิเซียฉีกทึ้งร่างเป็นแน่“เจ้ามีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ” เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องนั้น จึงถามเรื่องของอลิเซียขึ้นแทน ประหนึ่งว่าใส่ใจเรื่องของเธอมากกว่าแทน แต่มว่าน้ำเสียงของเขากลับดูไม่ค่อยอยากต้อนรับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่เนี่ยสิ“ข้าคิดถึงเจ้า” เจ้าหล่อนก็บอกตามตรงอย่างไม่อายปาก ลินินเลิกคิ้วขึ้นทันทีเมื

    Last Updated : 2025-02-07
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 14 ความอดทนของเธอนี่มันช่าง...

    ตกปากรับคำเป็นที่เรียบร้อย ลินินกลับขึ้นไปเก็บข้าวของในห้องนอนเดิมของตัวเอง แต่ถึงจะขุ่นเคืองเจ้าแวมไพร์ตัวโตที่ทำตัวผีเข้ามากเพียงใด เธอก็ยังหยิบเจ้าเจย์เดนตัวน้อยติดมือไปด้วย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเธอติดมันไปแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นตุ๊กตาที่สื่อถึงบุคคลที่ใจร้ายใส่เธอก็ตามไม่นานนัก เธอก็ลงมาถึงห้องนอนชั้นใต้ดิน อากาศที่หนาวเย็นจัดยิ่งลงมาชั้นใต้ดินซึ่งปราศจากฮีทเตอร์ ก็ยิ่งสร้างความทรมานให้เธอเป็นเท่าตัวแต่เจย์เดนกลับไม่ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยความที่คุ้นชินกับการอาศัยอยู่อย่างแวมไพร์ พวกเขาไม่ค่อยสนใจสภาพอากาศเป็นหลักสักเท่าไหร่ เนื่องจากอากาศพวกนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกรู้สาแต่อย่างใดหากแต่ลินินเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น…ระหว่างที่กำลังเก็บข้าวของลงไป สาวใช้คนสนิทของเธออย่าง เบล ก็เข้ามาช่วยเหลือ เธอได้แต่มองลินินด้วยสีหน้าทนทุกข์ไม่แพ้กัน“ท่านชายทำเกินไปนะเจ้าคะ” เบลนั้นอดต่อว่าการกระทำของเจ้านายตัวเองเสียไม่ได้ ถึงแม้ในคฤหาสน์หลังนี้เขาจะมีอำนาจมากล้น แต่การกระทำเช่นนี้ต่อว่าที่ชายาของตน ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องต่างพูดว่ามันไม่เหมาะสมทั้งนั้นแหละ“ช่างเถอะ เขาจะสั่งให้ทำอ

    Last Updated : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 15 เริ่มมีอาการ

    กระทั่งยามดึกสงัด เจย์เดนลุกขึ้นมาเพื่อวัดไข้ให้ลินินอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอลดลงแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงนอน แต่อย่างที่บอกว่าแวมไพร์เช่นพวกเขาไม่จำเป็นต้องหลับนอนแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น เขาจึงม่ได้หลับใหลเช่นที่ทุกคนเข้าใจ เพราะถึงแม้ดวงตาจะหลับลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างชัดเจนแขนแกร่งเอื้อมไปโอบกอดร่างบางดั่งเดิมอีกครั้ง พลางในจิดว่า เธอช่างเป็นหมอนข้างที่กอดได้ลงตัวเหลือเกิน มือหนาประคองศีรษะของเธอขึ้นเพื่อให้นอนหนุนบนแขนของตนแทนนิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมที่ปกดวงหน้าสวยอยู่เล็กน้อยออก ใบหน้าของเธอสงบนิ่งยามหลับใหล แต่ให้ความรู้สึกดึงดูดใจเขาอย่างน่าประหลาด“แม่คะ...” อยู่ ๆ เสียงหวานก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ดูเหมือนว่าจะครางเรียกหาผู้เป็นแม่ ทั้งดวงหน้าเล็กที่ยับยู่ มือเล็กกำผ้าห่มแน่น ทำให้ร่างสูง ต้องผงกหัวขึ้นมาดูอาการของเธออีกครั้งหลังจากที่ทิ้งศีรษะลงไปบนหมอนเรียบร้อยแล้ว“ฝันร้ายเหรอ?” เจย์เดนกระซิบข้างหูของเธอเบา ๆ พลางใช้มือหนาลูบศีรษะของเธอไปด้วยเพื่อเป็นการปลอบ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ดวงหน้าสวยเหงื่อแตกพลั่กอีกครั้ง หันซ้ายหันขวาราวกับกำล

    Last Updated : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 16 แอบอ้อน

    ลินินกลับลงไปยังห้องใต้ดินอีกครั้ง เหตุเพราะเจย์เดนยังไม่ได้สั่งงานอะไรเพิ่ม เธอจึงลงมานั่งพักทบทวนความว้าวุ่นใจของตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง “คุณหนู ถึงเวลาทานมื้อเช้าแล้วเจ้าค่ะ” เบลมาตามถึงห้อง ด้วยเห็นว่าลินินไม่อยู่ข้างบน จึงคาดการณ์เอาไว้ว่าเจ้านายของเธอจะต้องลงมาอยู่ข้างล่างเป็นแน่ และเป็นไปตามคาด “ให้พวกเขากินกันไปก่อนเลย ยังไงข้าก็ไม่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะอยู่แล้ว ไม่ต้องรอข้าหรอก” ลินินกล่าวแบบนั้น เบลก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำสั่งแล้วนำความนี้ไปบอกเจย์เดน ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลานั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ บ่งบอกถึงตำแหน่งผู้นำตระกูล ในคราแรกสีหน้าของเขาดูองอาจยิ่งนัก แต่เมื่อเบลนำความจากว่าที่ชายาของเขามาบอกกล่าว สีหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นสลดใจทันที “ไปบอกนางว่าข้าสั่งให้ขึ้นมาทานด้วยกัน...” เขาทราบดีว่าสิ่งที่ตนทำลงไปเมื่อวานนี้มันผิดมหันต์ ถึงตอนนี้จึงอยากให้เธอมานั่งร่วมโต๊ะด้วย แต่แล้วน้ำเสียงประชดประชันก็ดังขึ้นจากตรงตำแหน่งเก้าอี้ทางฝั่งซ้ายของเขาเสียก่อน “ในเมื่อนังชั้นต่ำนั่นไม่อยากมานั่งร่วมโต๊ะด้วย เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องใส่ใจไปหรอก-

    Last Updated : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 17 ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

    ดวงตาแดงฉานราวคนโกรธจัด มือหนาเอื้อมบีบลำคอของิลิเซียอย่างไม่ยั้งมือ แรงบีบนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะนำร่างของเธอผลักจนติดผนังแล้วยกลอยขึ้นไม่ต่างตากที่เธอลงมือกับลินิน“ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ อลิเซีย…” เสียงเข้มเยือกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ หญิงสาวดิ้นรนพร้อมมือปัดป่ายไปมาหวังจะแกะมือหนาของเจย์เดนออก แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผลในตอนนั้นเอง ผู้ติดตามของอลิเซียก็รีบเข้ามาหว่งจะช่วยเธอ แต่มีหรือเจย์เดนจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาล้มผู้ติดตามของอลิเซียได้เพียงแค่มือเดียวเท่านั้น ก่อนตะตามมาด้วยเสียงพูดจาข่มขี่ประหนึ่งคนขลาดเขลา“หากท่านกล้าลงมือทำร้ายนาง ตระกูลแบรดฟอร์ดจะต้องชดใช้อย่างสาสม!”“เช่นนั้นเจ้ากลับไปรายงานผู้นำตระกูลของเจ้า ว่าบุตรสาวของเขาหมายจะทำร้ายว่าที่ชายาของข้า ต่อให้แยกศีรษะของนาวออกมา ก็ไม่อาจลดทอนความผิดได้!”สิ่งนี้ผู้ติดตามของอลิเซียก็ทราบดี หากนับตามศักดิ์จริง เจย์เดนมีฐานะเป็นถึงองค์ชายแห่งโลกแวมไพร์ของพวกเขา และการที่มนุษย์สาวซึ่งเขาให้สิทธิ์ว่าเป็นว่าที่ชายา ย่อมเท่ากับว่าคุณหนูอลิเซียของเขาหมายจะทำลายร้างราชวงศ์และหากเรื่องนี้ถูกนำขึ้นสภา พวกแวมไพร์อาวุโสจ

    Last Updated : 2025-02-15

Latest chapter

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 8 อยู่บ้านกับท่านพ่อ 2

    ในเช้าวันหนึ่งหลังมื้ออาหาร อยู่ๆ ลินินก็ได้รับสายจากบริษัทว่ามีธุระเร่งด่วนต้องเข้าไปเจรจากับทางโรงงานฝ่ายผลิต ด้วยแบบเสื้อผ้าที่โรงงานจัดทำตัวอย่างรุ่นแรกออกมามันผิดไปจากแบบที่เธอคาดหวังเอาไว้มากคิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะจัดการบอกเลขาว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่โรงงานด้วยตัวเอง“ดูเหมือนต้องไปที่โรงงานเองแล้วล่ะ แบบที่ส่งมามันไม่ตรงกับที่สั่งไว้เลย” เธอบ่นให้สามีฟังขณะที่เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกเจย์เดนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ทำหน้าฉงน “เจ้าสั่งเลขาไปแทนก็ได้หนิลินิน ไม่เห็นต้องไปเองเลย ทำไมต้องเหนื่อยเองด้วย?” น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าคัดค้านสุดตัวลินินจึงหยุดมือจากการเตรียมเอกสารแล้วหันมามองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมสามีเธอจึงมีทีท่าเช่นนั้น“ก็เพราะเป็นแบรนด์ของฉันไง ฉันก็เลยอยากเข้าไปดูเอง”ได้ยินแบบนั้นเจ้าแวมไพร์ก็เริ่มขยับตัวเหมือนอยู่ไม่สุข สีหน้าของเขาเริ่มออกอาการกังวล ส่วนภรรยาตัวน้อยของเขาก็จับจ้องมองตามท่าทีนั้นอย่างไม่วางตา ด้วยสงสัยว่าสามีเป็นอะไรไป“แต่เจ้าไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้นี่นา ข้าแค่…แค่คิดว่าเจ้าควรพักบ้าง” ว่าจบก็ส่งมือหนาเข้ามากอบกุมมือเรียวของเธออ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 7 คำชมจากแม่สามี

    ในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ท่านพ่อและท่านแม่ของเจย์เดนมาถึงพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้ใหญ่ในครอบครัวอดตกใจเสียไม่ได้“ลินิน เจ้านี่เก่งเหลือเกิน” ท่านแม่เอ่ยชมขณะมองดูหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ “ของข้าแค่คนเดียวก็ลมแทบจับแล้ว” ลินินยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นเจย์เดนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ตัวเอง “อะไรกันท่านแม่ ข้าเลี้ยงยากเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไลเรนได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เลี้ยงยากมาก เจ้าดื้อมากตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว” “ดื้อเหรอคะ?” ลินินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ไม่เห็นเคยรู้เลย” เธอนึกภาพเจย์เดนผู้มีท่าทีสงบนิ่งกลายเป็นเด็กดื้อไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องความขี้แกล้ง อันนี้พอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะเจย์เดนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ข้าไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย ท่านแม่น่ะพูดเกินไป”“งั้นเหรอ?” ท่านแม่ส่งยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มาทางเจย์เดน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเล่าเรื่องสมัยที่เจย์เดนยังเป็นเด็กขึ้น “แล้วใครกันที่ปีนต้นไม้หนีออกจากบ้านเพร

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 6 อยู่บ้านกับท่านพ่อ

    บังเอิญว่าในวันนี้ลินินจะต้องไปตรวจงานออกแบบเสื้อผ้าที่บริษัทของเธอ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็พร้อมจะออกเดินทางเจย์เดนในเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นเล็กน้อยก็เดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยมาดเข้ม "เจ้าจะไปนานไหม?" เขาถามลินินพร้อมย่อตัวนั่งลงตรงหน้าก่อนจะยื่นมือหนาออกไปช่วยสวมรองเท้าให้เธอ"ไม่นานหรอก นายอยู่ดูเด็ก ๆ ไหวใช่ไหม?" ลินินหันมายิ้มให้เล็กน้อยเจย์เดนพยักหน้ามั่นใจ "ข้าเป็นแวมไพร์นะ เลี้ยงเด็กแค่นี้จะไปยากอะไร" ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจลินินเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะนิดหน่อย "งั้นฝากด้วยนะ อย่าให้พวกเขาทำบ้านพังล่ะ""บ้านทนจะตาย เจ้าอย่ากังวลไปเลย" เขาพูดติดตลก พร้อมยกมือโบกให้ลินินก่อนที่เธอจะเดินออกไปตอนแรกทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย เด็ก ๆ นั่งวาดรูปอยู่ในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่นานนัก เรย์เน่เริ่มบ่นว่าเบื่อและอยากเล่นซ่อนแอบ"ท่านพ่อ เล่นซ่อนแอบกับพวกเราไหมคะ" ไม่เพียงแค่เอ่ยถาม ยังส่งสายตาแวอย่างออดอ้อนมาให้เจย์เดนอีกต่างหากร่างสูงที่นั่งเฝ้าลูก ๆ พร้อมทำงานไปด้วยก็ชายตาขึ้นจากกองงาน ก่อนจะตอบรับ "ได้สิ นับสิบนะ"ยังไม่ทันจะเริ่มนับ เด็ก ๆ ทั้งห้าก็วิ่งวุ่นหาที่ซ่อนไปทั่วคฤหาสน์

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 5 ข้าวกล่องหรรษา

    เช้าวันหนึ่งลินินตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ยังหลับอยู่ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำข้าวกล่องไปให้สามีที่บริษัท จึงรีบเร่งเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน“ทำเสต๊กแล้วกัน” เธอว่าพลางตัดชื้นเนื้อแล้วจับมันพลิกใส่เตาย่าง เมื่อสุกได้ที่แบบกลาง ๆ แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ และพร้อมเริ่มเตรียมอย่างอื่นต่อไปแต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ลูก ๆ ทั้งสี่ เจย์เนส เรย์เน่ เคย์ลิส และไลเอนน์ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเข้าเสียก่อน"ท่านแม่ทำอะไรเหรอครับ/คะ?" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ถามอย่างตื่นเต้น และเมื่อทราบว่าท่านแม่ของพวกเขากำลังจะทำรู้ข้าวกล่องไปให้ท่านพ่อที่บริษัท ทุกคนก็ดูเหมือนอยากจะช่วยกันคนละไม้คนละมือขึ้นมาในทันทีแต่แทนที่การช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิมเสียอย่างนั้นเจย์เนสที่เป็นพี่ใหญ่สุดพยายามช่วยลินินหั่นผลไม้ แต่ด้วยความที่ยังมือใหม่จึงหั่นออกมาได้ไม่ค่อยเท่ากันนัก บางชิ้นก็ใหญ่เกินกว่าจะยัดลงปากได้ ส่วนบางชิ้นก็บางเฉียบจนแทบไม่ไต้องเตี้ยวกันเลย จนลินินต้องเข้ามาแก้ให้ส่วนเรย์เน่ คนนี้ชื่นชอบความสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้รับหน้าที่ยืนแต่งจานสลัด แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก จึงใส่ใ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 4 ศึกชิงนางจากผู้ท้าชิงห้าคน

    นานวันเข้า เจย์เนสและเรย์เน่ก็เริ่มโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบเข้าแล้ว ส่วนน้องน้อยของพวกเขาตอนนี้ก็คล้ายกับเด็กมนุษย์ในช่วงวัยห้าขวบ และใช่ ทั้งมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปีเป็นอย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าพวกเขาจะโตไวและเรียนรู้เร็วมาก เจย์เดนกับลินินจึงจ้างครูมาคอยสอนพวกเขาที่บ้านด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าพวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะไปเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่น ๆนอกจากนี้ เมื่อเริ่มโตขึ้น การติดแม่ก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นน้อง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนั้นแทนเจย์เนสในวัยหนุ่มน้อยเริ่มสนใจการอ่านหนังสือในห้องเงียบ ๆ หรือออกไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์ที่ท่านพ่อของเขาจ้างมาฝึกส่วนตัวเสียมากกว่ามาขลุกอยู่ในห้องกับน้อง ๆ และนอกเหนือจากนั้นนิสัยก็เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนผู้เป็นพ่ออย่างไม่ทิ้งห่างส่วนเรย์เน่ก็เริ่มมีความสนใจในเรื่องศิลปะและดนตรี บ่อยครั้งเธอจะเก็บตัวฝึกซ้อมเปียโนหรือวาดภาพในมุมของตัวเอง "ช่วงนี้ส่งไม้ต่อให้น้อง ๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงาเลย"ลินินได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ถึงก็ยังมีสมาชิกตัวโตที่ดูเหมือนจะคอยมาแย่งแม่ของพวกเขาอยู่ตลอด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 3 เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

    และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้ เมื่อลินินส่องกระจกและเริ่มเห็นหน้าท้องที่ดูเหมือนจะอวบอิ่มขึ้น“นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจนลงพุงหรือยังไงกันเนี่ย” เธอพึมพำ แต่แล้วก็นึกถึงตอนที่ตั้งท้องสองแฝดขึ้นมาได้ ว่ามันก็เริ่มต้นเช่นนี้นอกจากนี้เมื่อสังเกตอาการไปนานวันเข้า ยังมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วยอีกต่างหาก อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเจย์เดนต้องตัดสินใจพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในที่สุด“ซูบผอมลงอีกแล้วนะขอรับท่านหญิง” ท่านหมอเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม"ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะกินเยอะไป อาหารก็เลยอาจจะไม่ย่อย แต่พอเห็นว่าผอมลงแล้วท้องป่องเหมือนครั้งที่แล้ว ก็เลยคิดว่าคงจะ..." ลินินพูดเสียงเบาขณะที่ท่านหมอก็อัลตร้าซาวน์บริเวณหน้าท้องของเธอไปพลาง“ขอรับ ตั้งครรภ์อีกแล้ว..." ท่านหมอยืนยันความคิดของเธอเจย์เดนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พลันหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลา ดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องไปยังหมอหลวงราวกับอยากจะให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิดไป "ปกติแล้วแวมไพร์จะตั้งครรภ์ได้ครั้งเดียวไม่ใช่หรือ?"“นั่นน่ะสิ” แววตาคู่สวยของลินินก็จับจ้องใบหน้าของท่านหมอด้วยความฉงนเช่นกัน พร้อมกับหันมองสามีของตน

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 2 ตารางเวรนอนกับท่านแม่

    หลังจากเจย์เนสและเรย์เน่เริ่มรู้ความ ภายในบ้านก็เริ่มวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องที่แฝดทั้งสองติดลินินมากจนถึงขั้นที่ว่าต้องจัดตารางว่าใครจะได้นอนกับแม่ในวันไหนกันเลยทีเดียวภายในห้องนั่งเล่น เด็ก ๆ เดินเข้ามาด้วยท่าทางตื่นเต้นก่อนจะวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะราวกับภูมิใจนำเสนอให้ลินินที่นั่งอยู่ในห้องนั้นได้ดูมัน"ตารางเวรนอนกับแม่" ลินินอ่านตัวหนังสือที่จ่าอยู่บนนั้นที่เรย์เน่และเจย์เนสช่วยกันออกแบบด้วยลายมือเด็ก ๆ ของพวกเขา นอกจากนี้ยังแบ่งช่องพร้อมใส่ชื่อตัวเองอย่างเสร็จสรรพด้วย"ใช่ค่ะ พวกเราจะได้ไม่ต้องแย่งกันว่าใครจะนอนกับท่านแม่วันไหน”“แม่นอนกับพวกลูกได้ทุกวันทั้งคู่อยู่แล้ว” ลินินอธิบาย แต่แล้วก็ได้รับการส่ายศีรษะตอบกลับจากพวกเด็ก ๆ“แต่ท่านแม่นอนตะแคงกอดพวกเราได้แค่คนเดียว เพราะฉะนั้นแบ่งเป็นวันแบบนี้เนี่ยะแหละครับดีแล้ว” เจย์เนสยังคงยืนกรานว่าจะจัดตารางแบบนี้ โดยมีน้องสาวฝาแฝดอย่างเรย์เน่พยักหน้าหงึกหงักอยู่ข้าง ๆ“วันนี้เป็นวันของพี่เจย์เนสนะ” เรย์เน่พูดขึ้นอย่างจริงจัง หลังจากมองดูตารางในมือ “พรุ่งนี้เป็นวันของน้อง” เธอเสริมพลางยิ้มกว้างให้พี่ชายเจย์เนสพยักหน้าใบหน

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 1 ครอบครัวสุขสันต์

    “เจ้าปีศาจยักษ์ ส่งตัวราชินีของข้ามา ไม่อย่างนั้นโดนดีแน่!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายวัยหนี่งขวบ (?) ดังลั่นไปทั่วขณะที่ถือดาบไม้ไล่ฟาดฟันพ่อของเขาใช่แล้ว อย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าลูกแวมไพร์นั้นโตเร็วและ แต่ก็ไม่คิดว่าเพียงหนึ่งปีจะโตถึงขนาดเล่นอัศวินกับท่านพ่อของพวกเขาได้แล้ว!ช่วงเดือนแรก หากเป็นทารกมนุษย์ทั่วไป ก็คงไม่ส่งเสียงพูดอ้อแอ้ใช่ไหมล่ะ แต่บ้านนี้ส่งเสียงได้ตั้งแต่หนึ่งเดือนหลังคลอด เรื่องนั้นว่าตกใจแล้ว แต่สิ่งที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาเริ่มคลานได้ในเดือนที่สอง และตั่งท่าเดินได้เสร็จสรรพในระยะเวลาเพียงหกเดือน! ทำเอาท่านแม่อย่างลินินตกอกตกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นลูกโตวันโตคืนชนิดที่ว่าไม่ต้องสอนให้ตั้งคลานหรือยืนตั้งไข่เลย พวกเขาทำได้เองตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีก็ถือดาบวิ่งไล่ฟันเจย์เดนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและในตอนนี้ หากนับตามลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ สองแฝดเหมือนเด็กอายุสี่ขวบเข้าให้แล้วล่ะ“ไม่ส่งคืนหรอก นี่ราชินีของข้า” แต่ดูเหมือนคนเป็นพ่อจะไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่นัก ดูจากที่เล่นกับลูกชายอย่างมีความสุขแล้วอยู่ ๆ ร่างสูงใช้สองแขนแกร่งช้อนตัวของลินินท

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 55 ชีวิตใหม่

    หลายเดือนต่อมา ท้องของลินินก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และอีกไม่นานก็จะถึงวันกำหนดคลอดของเธอแล้ว ถึงแม้จะตั้งครรภ์เพียงสี่เดือนครึ่ง อุ้มท้องไม่นานเท่าอายุครรภ์ของมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายไปกว่ากันหรอก เพราะข้างในเป็นแวมไพร์เด็กที่เมื่อเวลาดิ้นทีก็ทำผู้เป็นแม่แทบลมจับเลยทีเดียว “ลินิน ข้าต้องออกไปบริษัท พอดีมีโครงการจะซื้อเครื่องบินลำใหม่ ต้องไปฟังความคิดเห็นคณะผู้บริหารด้วย เจ้าอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม” จะว่าไปแล้ว ช่วงใกล้คลอดนี้เจย์เดนจับตาดูภรรยาทุกฝีก้าวเสียยิ่งกว่าช่วงแรกเสียอีก จะขยับแต่ละทีก็จะต้องมีเขาคอยช่วยประคองอยู่ตลอด ลินินที่ได้ยินสามีเอ่ยแบบนั้นก็พยักหน้าเหมือนว่ารับทราบ “นายไปเถอะ ฉันอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง” โชคยังดี เพราะด้วยความที่ใกล้ครบกำหนดคลอดแล้ว แม่สามีจึงอาสาว่าจะมาช่วยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอีกแรงด้วย นั่นทำให้เจย์เดนที่ข่วงนี้งานรัดตัวรู้สึกวางใจไปได้เปราะหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่เป็นห่วงหรอกนะ “ห้ามดื้อนะรู้ไหม” ว่าจบเขาก็กดนิมฝีปากลงบนหน้าผากของเธอประหนึ่งว่าคนตรงหน้าคือสิ่งที่น่าทะนุถนอมที่สุดในโลก “สภาพนี้ฉันดื้อไม่ไหวหรอก” เธอกล่าวระคนติดตลก แ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status