หน้าหลัก / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

แชร์

บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

ผู้เขียน: มินซอลทัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-02 11:13:08

เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้ว

ทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

เมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะ

และมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ

“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”

ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็มีข้อสงสัยผุดขึ้นมาอีกครั้ง นั่นคือ แล้วทำไมชาร์ลถึงยังอยู่ที่คฤหาสน์เล่า เพราะหากว่ากันตามตรง ตำแหน่งในบริษัทของเขาคงไม่ต่างจากเลขาของท่านประธานอย่างเจย์เดนด้วยซ้ำ

“พอดี ท่านชายต้องการความเป็นส่วนตัวกับคู่ค้าท่านนี้ กระผมจึงไม่ได้ไปด้วยขอรับ” ชาร์ลแอบหาข้ออ้างให้ท่านชายของเขาอีกครั้ง ด้วยความที่เจย์เดนสั่งให้ตนมาคอยจับตาดูลินินแทนช่วงที่เขาไม่อยู่ จึงลงเอยด้วยการพูดบอกออกไปเช่นนั้น

“ส่วนตัวอย่างนั้นเหรอ?” ลินินเท้าคางครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่อาจเป็นไปได้ แต่แทนที่เธอจะเข้าใจ กลับกลายเป็นยิ่งคิดมากเข้าไปใหญ่เนี่ยสิ

คู่ค้าทางธุรกิจที่เขาไปร่วมประชุมด้วยคือใครกัน ทำไมเขาถึงต้องคุยเป็นส่วนตัวถึงต้องการความเป็นส่วนตัวน่ะ! คงจะเป็นสาวสวยล่ะสิท่า!

และดูเหมือนว่ายิ่งคิดลินินก็จะยิ่งว้าวุ่นใจมากขึ้นเท่านั้น เธอจึงตัดสินใจหยิบส้อมขึ้นมาจิ้มเนื้อเสต๊กชั้นดีตรงหน้าเข้าปากเพื่อคลายความกังวลแทน แต่เหมือนจะไม่ค่อยช่ยอะไรเท่าไหร่

อะไรกัน..งของกินก็ยังไม่ช่วยอีกเหรอเนี่ย! โธ่เอ๊ยลินิน...ทำไมอยู่ ๆ ก็อยากเจอเขาอย่างไม่มีเหตุผลขึ้นมาแบบนี้ล่ะ ราวกับมีบางอย่างในชีวิตเธอหายไปอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะหากว่ากันตามตรงแล้ว เธอไม่ได้เจอหน้าเขามาสองวันติดแล้วนะ!

แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำได้เพียงถอนหายใจและอยู่กับความว้าวุ่นนี้ไปตลอดทั้งเช้า

ลินินนั่งอ่านหนังสือเล่มใหญ่อยู่ในห้องสมุดตลอดทั้งบ่าย แต่ไม่ใช่หนังสือเรียนแต่อย่างใด เป็นหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับแวมไพร์ในแต่ละยุค เธอไปขอหยิบยืมมาจากท่านโหรหลงเพื่อที่ตัวเองจะได้เข้าใจความเป็นเจย์เดนมากยิ่งขึ้น

ชาร์ลก็คอยแอบจับตาดูเธอเพื่อเก็บรายงานให้กับเจ้านายของตนอยู่ไม่ขาด จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา...

ชาร์ลกดรับสายโทรศัพท์ก่อนจะได้ยินเสียงเจย์เดนเล็ดลอดออกมา บอกให้เตรียมเสื้อผ้าไปให้ตนที่โรงแรม ลินินเงยหน้าขึ้นจากหนังงสือที่เธอตั้งใจอ่านมาตลอดทั้งช่วงบ่ายทันที พร้อมอาสาว่าจะเตรียมและนำไปให้ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าเธอมีเรื่องจะคุยกับเจย์เดน

ชาร์ลที่เห็นแบบนั้นก็ไม่คัดค้านแต่อย่างใด เพราะสิ่งนี้หากพูดกันตามตรงก็เป็นสิ่งที่ภรรยาควรเป็นธุระให้กับสามีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าในตอนนี้ทั้งสองจะยังไม่ใช่สามีภรรยากันอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่จากรูปการณ์ในตอนนี้แล้ว คาดว่าคงอีกไม่ช้าแน่นอน

เมื่อไปถึงโรงแรม ชาร์ลก็เดินพาลินินตรงไปยังห้องพักที่เจย์เดนเปิดเอาไว้ ภายในโรงแรมนั้นหรูหรามาก แต่ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะระดับเจย์เดนจะมาเปิดห้องในที่แบบนี้ก็ย่อมได้อยู่แล้ว

แต่สิ่งที่ลินินสงสัยมันไม่ใช่เรื่องความหรูของโรงแรมหรอก มันกลับเป็นความคิดที่ว่า ‘ประชุมงานต้องเปิดห้องในโรงแรมเชียวเหรอ?’ นั่นแหละ

และเมื่อมาถึงหน้าประตูห้อง ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก็ทำให้เธอถึงกับชะงัก เมื่อเห็นคนที่ตัวเองเฝ้ามองหามาตลอดตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในชุดคลุมอาบน้ำ และสนทนากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกัน ทั้งบุคลิกและการแต่งกายของเธอช่างสง่างามเป็นยิ่งนัก

ว่าแต่...ทำไมเขาถึงอยู่ในชุดแบบนั้นกับผู้หญิงคนนี้ล่ะ...มันทำให้เธออดคิดถึงเรื่องอย่างว่าไม่ได้เลยทีเดียว

“สวัสดีครับคุณหนูเฟย์” ชาร์ลที่เดินตามเข้ามาในห้องก็เอ่ยทักทายหญิงสาวตรงหน้าด้วยท่าทางนอบน้อมทันที ก่อนจะเดินตรงไปพูดคุยกับพวกเขาด้วยความเป็นกันเอง

“ไง ชาร์ล มาแล้วเหรอ...” จากคำพูดคำจาแล้ว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคงสนิทกันพอตัว หรือว่าเธอคนนี้จะเป็นคนที่เจย์เดนชอบ...ลินินคิดแบบนั้น เพราะดูจากรอยยิ้มและท่าทางเป้นกันเองของเจย์เดน ทุกอย่างที่เธอเฝ้าหวังจะให้เกิดขึ้นเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ล้วนไปอยู่กับปู้หญิงคนนี้หมดเลย

ร่างบางยังยืนอยู่ตรงหน้าประตูที่เปิดค้างเอาไว้ รู้สึกใจหวิวอย่างไรพิกล พลางสายตาก็จับจ้องมองไปที่แวมไพร์หนุ่มและหญิงสาวตรงหน้าที่ดูจะเหมาะสมกันยิ่งนัก จนอดคิดไม่ได้ว่าเธอนั้นอาจเป็นเพียงหญิงสาวที่เพียงบังเอิญไปเก็บกุหลาบนั้นมา จึงคิดไปว่าตัวเองอาจเป็นเพียงว่าที่ชายาที่เขาจำใจเลือก บางทีเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำ

เจย์เดนหันมองเธอก่อนจะกวักมือเรียกให้เดินตรงไปหา ลินินที่เห้นแบบนั้นก็เดินเข้าไปอย่างว่าง่าย แต่ภายในใจก็ยังครุ่นคิดเรื่องนั้นวนเวียนอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากส่งถุงกระดาษที่ใส่เสื้อผ้าไปให้แวมไพร์หนุ่มตรงหน้าแล้ว ลินินก็ก้าวถอยหลังออกไป ราวกับว่าเธอไม่อยากยืนอยู่ข้างเขา โดยเฉพาะเมื่อมีคุณหนูเฟย์คนนี้อยู่ด้วย เพราะมันทำให้เธอรู้สึกเป็นจุดด้อยอย่างไรก็ไม่รู้

ระหว่างที่พวกแวมไพร์กำลังพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน มนุษย์สาวอย่างลินินก็ทำเพียงค่อย ๆ เดินย่องออกจากห้องไป

เจย์เดนลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อโดยไม่ได้เอะใจในความว้าวุ่นใจของลินินเลยสักนิด สำหรับเขาแล้วที่มาอยู่ในห้องนี้ นั่นเป็นเพราะเสื้อผ้าของเจย์เดนโดนกาแฟหกใส่ และคุณหนูเฟย์ที่เป็นสหายของเขาก็เพียงแค่มาอยู่รอด้วยเท่านั้นเอง

“ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะ ดูตาซุ่มซ่ามนี่ให้ดีด้วยล่ะชาร์ล” หลังจากพูดจาเย้าแหย่แล้ว เฟย์ก็เดินออกจากห้องไป

เจย์เดนพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะหันมองซ้ายมองขวาเพื่อหาหญิงสาวอีกคนที่ควรจะอยู่ในห้องนี้ด้วยกัน “นางไปไหนแล้วล่ะ”

เพราะมัวแต่นั่งคุยกับสหาย เขาจึงแทบไม่ทันสังเกตว่า ลินินหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ชาร์ลเองก็หันมองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงงไม่แพ้กัน ก่อนจะส่ายศีรษะแล้วบอกกล่าวตรงกัน “ไม่ทราบขอรับ”

“เอาเถอะ อยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ เจ้ากลับไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวข้าไปหานางเอง” ว่าจบ แวมไพร์หนุ่มที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกไปตามหาว่าที่ชายาของตน

จนในที่สุดเขาก็จับกระแสพลังงานของเธอได้ นี่คงเป็นข้อดีของการที่เขาใส่พลังของตนลงไปในกุหลาบดอกนั้น เนื่องจากมันช่วยให้เขาเชื่อมโยงกระแสจิตกับเธอได้มากกว่าผู้ใด

ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่บริเวณหน้าโบสถ์คริสตจักรแห่งหนึ่ง ‘นางอยู่ในนี้ เข้าไปทำอะไรในที่แบบนี้กัน’ ว่าพลางนั่งกอดอกรออยู่หน้าโบสถ์

ในตอนนั้นเอง เขาก็ใช้พลังเพ่งตรงไปยังจิตใจของเธออย่างนึกสนุก ก่อนจะได้ยินเสียงอธิษฐานของลินินดังสะท้อนในโสตประสาทอย่างชัดเจน “หาแฟนให้หนูสักคนได้ไหมคะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีแฟนเลย”

คำขอของลินินทำให้ใบหน้าของเจย์เดนกระตุกหัวคิ้วขมวดมุ่นทันควัน ‘นี่เจ้าอยากได้คนอื่นมาแทนข้าอย่างนั้นเหรอ!?’ อยู่ ๆ ความหวงของก็ปะทุขึ้นมาจนล้นอก เจย์เดนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและชี้นิ้วมุ่งตรงไปยังแท่นบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ภายในโบสถ์ด้วยท่าทางจริงจัง

“อย่าได้ทำตามคำขอนางเชียว หากเจ้ารับคำขอเรื่องนี้ ข้าจะมาชำระบัญชีกับพวกเจ้าให้หมด!” แวมไพร์หนุ่มเอ่ยตะโกนเอ่ยตะโกนอยู่ตรงหน้าโบสถ์โดยไม่สนสายตาของคนที่เดินผ่านไปมาแม้แต่น้อย

ผู้คนแถวนั้นต่างหันมองและเอาแต่ส่ายศีรษะด้วยความขนขัน พลางคิดไปว่าน่าเสียดายที่หน้าตาหล่อเหลาอย่างกับเทพบุตร แต่กลับไม่เต็มบาทเสียอย่างนั้น

ผ่านไปสักพัก ลินินก็เดินออกมาจากโบสถ์พร้อมแววตาเหม่อลอย แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องสะดุ้งเมื่อพบว่าเจย์เดนยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาขรึมจัด สายตากรุ่นไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจอย่างชัดเจน

ลินินก้าวถอยหลังเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าทางเหมือนกำลังเก็บกดอารมณ์อะไรบางอย่างไว้เต็มที่ เขายืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ราวกับกำลังรอคำอธิบายจากเธอ อะไรกัน แค่ออกมาข้างนอกเพียงไม่นาน ทำให้เขาโกรธขนาดนี้เลยหรือ

“ฉัน...ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหนีออกมานะ แค่อยากมาขอพร...” ลินินคิดว่าเขาไม่พอใจที่เธอแอบออกมาโดยไม่บอกกล่าว แต่เปล่าเลย ไม่ใช่เรื่องนั้นเลยสักนิด

“อย่างนั้นเหรอ แล้วเจ้าขอพรว่าอะไรล่ะ?” น้ำเสียงดูไม่น่าภิรมย์เลยสักนิด ทำเอาหญิงสาวถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความกระอักกระอ่วน นอกจากนี้เธอก็ไม่อยากนึกถึงคำอธิษฐานสักเท่าไหร่หรอก ด้วยกลัวว่าเจย์เดนจะทราบว่าเธอขอเรื่องน่าอายเพียงใด

“แล้วนาย...นายมาทำอะไรที่นี่เหรอ?” ลินินพยายามเปลี่ยนเรื่องแล้วปรายสายตาไปทางอื่น

แต่ดูเหมือนว่าคำถามนี้จะไม่ค่อยปลอบประโลมอารมณ์ของเจย์เดนเลยแม้แต่น้อย แววตายังคงเต็มไปด้วยความน้อยใจปนความหงุดดหงิดหน่อย ๆ แต่ก็พยายามเลี่ยงไม่ให้พูดถึงสิ่งที่เป็นต้นเหตุ ด้วยความที่ไม่กล้าพูด...

ส่วนลินินก็ยังน้อยใจเรื่องผู้หญิงคนนั้นไม่หาย แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาตามตรงเช่นกัน

“เฮ้อ...เจ้านี่...กลับ!” เจย์เดนหันหลังละสายตาจากลินิน ทำเหมือนว่าต้องการเมินเธอ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ยอมเดินตาม เขาก็ต้องก้าวถอยหลังมาอีกครั้ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วคว้าจับข้อมือของเธอให้เดินไปขึ้นรถพร้อมกัน

ถึงจะโกรธเธอมากขนาดไหน แต่เขาก็ไม่กล้าใจร้ายใส่เธอโดยการทิ้งให้เธอหาทางกลับไปที่คฤหาสน์ด้วยตัวเอง

ทำไมกันนะ อยู่ ๆ ก็ไม่กล้าทำอะไรที่จะเสี่ยงให้เธอไปหาชายอื่นโดยเสียอย่างนั้น ยิ่งหวนนึกถึงคำอธิษฐานก็ยิ่งสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ระหว่างที่เดินตามเจย์เดนไปที่รถของเขานั้น ลินินก็แอบเหลือบมองเขาไปพลาง เหตุใดเขาจึงทำตัวเหมือนแวมไพร์ผีเข้าผีออกเช่นนี้เล่า เมื่อครู่ยังหงุดหงิดจนแทบจะเมินใส่ แต่ตอนนี้กลับจับมือเธอแน่นเสียอย่างนั้น

‘ชาตินี้เจ้าไม่มีวันได้แต่งกับคนอื่นนอกจากข้าหรอก!’ เจย์เดนประกาศกร้าวในใจ แต่มนุษย์อย่างลินินไม่มีทางที่จะพินิจใจของเขาได้อยู่แล้ว เธอจึงไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทนำ

    ยามค่ำคืนช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศโดยรอบจึงเย็นจัด เมฆหมอกบางเบาโอบล้อมรอบตึกสูงระฟ้าราวกับกำลังปกปิดความลึกลับอีกด้านหนึ่งของโลกเอาไว้ ท้องฟ้าในยามนี้มืดสนิทมีเพียงแสงเบาบางจากดวงจันทร์ที่คล้ายกับรอยยิ้มเหยียดเยาะเยือกเย็นชวนน่าหวาดหวั่นณ ทางเดินทอดยาวสู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฎภาพหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ วันนี้เป็นดั่งเช่นทุกวันที่เธอต้องออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายดอกไม้ สองขาก้าวไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย เพียงแต่ในวันนี้กลับมีสิ่งแปลกประหลาดที่เข้ามาสะดุดสายตาของเธอเข้าโดยบังเอิญเสียอย่างนั้น ดวงตาคู่สวยเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นก่อนจะพบว่ามันคือกุหลาบดอกหนึ่งซึ่งถูกวางทิ้งเอาไว้บนกลางทางเดินนอกจากนี้ มันช่างต่างจากดอกกุหลาบที่เธอเห็นทุกวันในร้านยิ่งนัก เจ้าพวกนั้นทั้งสดใสและบานสะพรั่ง แต่กุหลาบที่เธอพบในค่ำคืนนี้กลับแตกต่างออกไป ชวนน่าอัศจรรย์ระคนสงสัย เพราะสีของมันนั้นดำขลับสนิทราวกับถูกวาดขึ้นมาจากฝันร้ายของใครบางคน“ใครเอาแกมาทิ้งกันนะ” ด้วยความที่เธอเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านจัดดอกไม้มานับแรมปี จึงมีความผูกพันให้กับดอกไม้นานาชนิด แม้ว่าสีของเจ้าดอกไม้นี้จะไม่ค่อยน่าเชยชม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 1 กุหลาบต้องมนต์

    “ท่านชายต้องเร่งหาคู่ครองได้แล้วนะขอรับ!” อยู่ ๆ ชายชราคนหนึ่งก็โผล่พรวดเข้ามาภายในห้องทำงานอันแสนองค์อาจ เขาคือโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ตระกูลซึ่งเก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุดในแวมไพร์ชนชั้นสูงสิ้นเสียงของชายชรา ร่างสูงที่นั่งจมอยู่กับกองงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็เงยหน้าขึ้นแล้วกอดอกใส่ด้วยท่าทางกวน ๆ“หมายความว่าอย่างไร ทำไมอยู่ ๆ ท่านจึงมาพูดเรื่องนี้ได้”“ข้าได้รับคำนายว่าช่วงนี้ท่านชายจะหาคู่ครองที่เหมาะสมได้ขอรับ เพราะฉะนั้นท่านชายต้องรีบเร่งหาได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไปเสียก่อน”“หาเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดนั่นแหละ สาว ๆ พวกนั้นแค่กระดิกนิ้วก็เข้ามาแล้ว” เจย์เดนตอบโต้กลับไป“หากเพียงเพื่อรักสนุกจะทำเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่หากนำมาเป็นชายาข้างกาย ข้าน้อยว่ามิสมควร” ถึงแม้กาลเวลาจผ่านมาจนถึงยุคที่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่พวกเขาก็ยังติดพูดสรรพนามเช่นนี้อยู่เสมอ“แล้วท่านจะให้ข้าทำอย่างไร? ยุคนี้สมัยนี้ก็หาได้แต่แบบนี้แหละ” เจย์เดนกอดอก คราวนี้สายตาของเขาเริ่มฉายแววจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่งานตรงหน้ากองจนแทบจะท่วมหัวอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาเสวนาเรื่องผู้หญิงที่คอยแต่จะหวังเข้าหาเขาเพื่อผลปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 2 พรหมลิขิตก่อตัว

    “เฮ้อ แล้วจะให้ข้านำมันไปให้ใครกันล่ะ” เจย์เดนถอนหายใจอย่างยาวเหยียด พร้อมกับจ้องมองดอกกุหลาบที่อยูในฝาแก้วครอบ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเอ่ยว่า คู่ครองหาเมื่อไหร่ก็เหมือนกันหมด แต่เขาก็หวังอยากจะหาให้ได้ในเร็ววันนั่นแหละ...บอกตามตรง แวมไพร์เช่นเขาก็เหงาเป็นเหมือนกันนะผู้ติดตามคนสนิทที่ยืนฟังอยู่จึงเสนอความคิดขึ้นว่า “เช่นนั้น ท่านชายลองนำไปให้คนที่ท่านหมายปองดูก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่มีผู้ใดที่ข้าหมายปองเป็นพิเศษหรอก”“คุณหนูเฟย์อย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามอย่างเขาเห็นว่าท่านชายสนิทสนมกับเธอเป็นพิเศษ จึงคิดว่าบางทีพวกเขาอาจมีบางสิ่งที่เข้ากันได้“นี่เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่เลย นางเป็นเพียงสหายของข้า”คุณหนูเฟย์ คือลูกสาวตระกูลแวมไพร์ที่ตระกูลแบรดฟอร์ดของเขาร่วมค้าธุรกิจด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่เขาและเธอสนิทกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่หากมองลึกลงไปในความสัมพันธ์นั้น ไม่มีความพิสวาทเลยแม้แต่น้อย“หรือจะเป็นคุณหนูอลิเซียเล่าขอรับ” ชาร์ลยังคงเสนอรายชื่อหญิงสาวที่ดูเหมาะสมกับเจ้านายของตนอย่างไม่หยุดยั้ง“เจ้าอย่าพูดชื่อคนที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาเชียว”สาเหตุที่เจย์เดนกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะคุณหนูอลิเซีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 3 หนี้สิน

    “วันนี้นางขายดอกไม้ได้เยอะนัก” เจย์เดนนั่งมองเธอที่กำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่อย่างขะมักขะเม้น “แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น” ว่าพลางขมวดคิ้วไปด้วย“เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามให้เหตุผล ก่อนที่ท่านชายของเขาจะขุ่นเคืองใจไปมากกว่านี้ เพราะมันคงไม่เป็นผลดีต่อพวกมนุษย์เพศชายพวกนั้นแน่“แต่ผู้ชายพวกนี้เขาซื้อดอกไม้ให้แฟนสาวหรือภรรยากันทุกวันเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาจับสังเกตและจำใบหน้าของลูกค้าประจำทุกคนได้ บางคนก็เข้ามาอุดหนุนทุกวัน บ้างก็วันเว้นวันจนน่าประหลาด“เอ่อ...ก็คงรักภรรยามากน่ะขอรับ” ชาร์ลรีบแก้ต่าง แต่ในอีกมุมหนึ่งมันถือเป็นการสอพลอเพื่อมิให้ท่านชายของเขาฉุนเฉียวจนเกินงาม“เหอะ รักคนจัดช่อดอกไม้สิไม่ว่า...” เจย์เดนแค่นหัวเราะอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งชาร์ลเสียงเด็ดขาด “ข้าอยากให้เจ้าไปเหมาดอกไม้ร้านนั้นมา ก่อนที่มนุษย์พวกนั้นจะเข้ามาอีก”ว่าที่ชายาของเขา มิควรได้มีชายใดมาเชยชมอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้สิ มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไรไม่รู้“เอ่อ...แต่...ดอกไม้เยอะมากเลยนะขอรับ ท่านชายจะเอาไปทำอะไรกัน”“ข้าบอกให้ไปซื้อก็ไปซื้อมาเถอะ” เจย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 6 หน้าที่ของเจ้า

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวเดินตามแผ่นหลังของเจย์เดน ชายชราคนหนึ่งก็รีบเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างนอบน้อม ราวกับมองว่าเธอนั้นมีฐานะสูงส่งอย่างไรอย่างนั้น“มาแล้วหรือครับท่านหญิง”ท่านหญิงอย่างนั้นเหรอ? ลินินครุ่นคิดในใจพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองไปยังเจย์เดนด้วยความฉงน คิดไม่ตกว่าเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดกันแน่แต่ถึงอย่างนั้นเจย์เดนก็ยังคงปิดปากเงียบก่อนจะส่งสายตาให้ชายชราผู้ที่เดินเข้ามาทักทายเธอรีบออกไป“ตามมา...” ขายาวก้าวนำเธอต่อไป ลินินก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เอาเถอะ จะให้มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแหละนะลินิน...ขณะที่เดินตามเขาไป สายตาของเธอก็มองสำรวจภายในคฤหาสน์ระหว่างทางที่เดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะดูหรูหราอลังการ แต่กลับดูมืดมนและอึมครึมชวนให้รู้สึกน่าอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแผ่วเบาหรือเสียงหวีดร้องดังตามสายลมมาเป็นครั้งคราวอีกต่างหาก สร้างความหวาดหวั่นภายในใจให้กับลินินไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินให้ว่องไวมากยิ่งขึ้นเพื่อตามหลังเจย์เดนให้ทันร่างสูงเดินพาลินินไปที่ห้องนอนของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24

บทล่าสุด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขาชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ""เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุดแต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออกเห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

    เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดนแต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควรลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 7 ชีวิตช่วงแรกในคฤหาสน์

    วันรุ่งขึ้น ลินินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยกลัวว่าจะไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เพราะคฤหาสน์ตระกูลแบดฟอร์ดตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง มิหนำซ้ำบริเวณโดยรอบยังล้อมไปด้วยผืนป่าพนาไพรอีกด้วยเธออดคิดไม่ได้ว่าอาจต้องเดินลงภูเขาสูงชันนี้ด้วยตัวเอง และหารถประจำทางเพื่อต่อเข้าไปในเมืองให้ได้วางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว สองขาก็รีบวิ่งลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะพบกับเจย์เดนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทานอาหาร นอกจากนี้บนโต๊ะยังเตรียมสำรับอาหารเอาไว้อีกที่หนึ่งด้วย“นั่งลงทานมื้อเช้าซะ” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ“นั่ง...บนโต๊ะ...กับคุณเหรอ?” รู้สึกแปลกใจที่คนอย่างเธอจะมีสิทธิ์ได้ร่วมโต๊ะกับผู้ทรงอำนาจเช่นเขา ตอนแรกลินินคิดว่าจะต้องไปนั่งรวมกับพวกสาวใช้ซะอีก แต่ก่อนที่เธอจะทันปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ถูกสายตาเฉียบคมของเขามองมาเสียก่อน ประหนึ่งออกคำสั่งกลาย ๆ“นั่ง-ลง” เขาพูดเน้นทีละพยางค์ ลินินที่ได้ยินแบบนั้น อยู่ ๆ ก็ทิ้งตัวนั่งลงโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีบางอย่างมาผลักเธอเข้า“ฉันต้องรีบไปโรงเรียนนะคะ (. .)”“กินมื้อเช้าก่อน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเข้ม “เดี๋ยวให้ชาร์ลไปส่ง” ขณะพูดก็ปรายตามองไปหาผู้ติดตามคนสนิทของตัวเอง ช

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 6 หน้าที่ของเจ้า

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวเดินตามแผ่นหลังของเจย์เดน ชายชราคนหนึ่งก็รีบเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างนอบน้อม ราวกับมองว่าเธอนั้นมีฐานะสูงส่งอย่างไรอย่างนั้น“มาแล้วหรือครับท่านหญิง”ท่านหญิงอย่างนั้นเหรอ? ลินินครุ่นคิดในใจพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองไปยังเจย์เดนด้วยความฉงน คิดไม่ตกว่าเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดกันแน่แต่ถึงอย่างนั้นเจย์เดนก็ยังคงปิดปากเงียบก่อนจะส่งสายตาให้ชายชราผู้ที่เดินเข้ามาทักทายเธอรีบออกไป“ตามมา...” ขายาวก้าวนำเธอต่อไป ลินินก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เอาเถอะ จะให้มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแหละนะลินิน...ขณะที่เดินตามเขาไป สายตาของเธอก็มองสำรวจภายในคฤหาสน์ระหว่างทางที่เดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะดูหรูหราอลังการ แต่กลับดูมืดมนและอึมครึมชวนให้รู้สึกน่าอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแผ่วเบาหรือเสียงหวีดร้องดังตามสายลมมาเป็นครั้งคราวอีกต่างหาก สร้างความหวาดหวั่นภายในใจให้กับลินินไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินให้ว่องไวมากยิ่งขึ้นเพื่อตามหลังเจย์เดนให้ทันร่างสูงเดินพาลินินไปที่ห้องนอนของ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status