Home / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

Share

บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

last update Last Updated: 2025-01-27 03:03:49

ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไว

เจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน

‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน

ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น

‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน

‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เดนโดยไม่ตั้งใจ

ลินินกรีดร้องออกมา พลันรู้สึกว่าตัวเองจะต้องล้มลงอย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเป็นเช่นนั้น มือหนาของเจย์เดนก็เข้ามาประคองเอาไว้ได้ทันกาลพอดี

เมื่อคว้าร่างบางได้แล้ว มือหนาก็เอื้อมไปปิดประตูลง พลางแยกยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นประหนึ่งว่าสามารถจับเหยื่อชิ้นใหญ่ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น เขาก้มมองลินินที่กำลังกอดเจ้าเจย์เดนอยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะปล่อยมือหนาของตัวเองออกในที่สุด แล้วทำเป็นเอ่ยเสียงเข้ม

“เจ้ามายืนอยู่หน้าห้องข้าทำไมกัน” อันที่จริงเจย์เดนทราบอยู่แล้วว่าลินินมีธุระอะไร แต่เขาอยากฟังจากปากของเธอตามตรงเสียมากกว่า

“ฉันแค่อยากจะมาขอบคุณ...ขอบคุณนะเจย์เดน” ว่าจบเธอก็กำลังจะเดินเลี่ยงคนตรงหน้าเพื่อหวังจะออกไปจากห้องของเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น คิดหรือว่าเขาจะยอมปล่อยให้เหยื่อตัวน้อย ๆ หลุดมือไปง่าย ๆ

มันต้องเล่นให้หนำใจก่อนสิ...เจย์เดนคิดในใจ พลันรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้า

“เจ้ามาแค่นี้เองเหรอ? นี่เป็นวิธีการขอบคุณของเจ้าอย่างนั้นสิ?” ว่าพลางก้าวเดินไปใกล้เธอมากขึ้น ลินินที่เห็นแบบนั้นก็ก้าวถอยหลังไปตามกัน พื้นที่ในห้องนอนช่างกว้างขวาง แต่เพียงไม่นานนักขาของเธอก็ไปสะดุดเข้ากับขอบเตียงของเขาจนได้

ร่างของลินินทรุดลงไปบนเตียง ซึ่งเจย์เดนที่ดูเหมือนจะคิดแผนการณ์นี้เอาไว้เสียแต่เนิ่น ๆ แล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นไปตามคาดก็อดพึงพอใจเสียไม่ได้

“นี่...เจ้าคงไม่คิดว่า เข้ามาในห้องของข้าแบบนี้แล้วจะได้กลับออกไปง่าย ๆหรอกนะ?” สองแขนแกร่งค้ำยันลงบนฟูกที่นอนเพื่อกักกันตัวเธอไม่ให้หลุดเงื้อมมือไปได้ง่าย ๆ

ลินินที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มมองหาทางหนีทีไล่ แต่เมื่อคิดไปถึงว่าคนตรงหน้าเป็นถึง แวมไพร์ อย่างไร...ความไวของเธอก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้อยู่แล้ว

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงรีบส่งสายตาอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “คือว่า...ฉันต้องรีบไปอ่านหนังสือ...มัน...มันใกล้สอบแล้ว” หญิงสาวพยายามหว่านล้อม ส่วนเจย์เดนก็ยังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนไม่ได้ฟังคำกล่าวของเธอเลยสักนิด

“ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าเจ้านี่หอมน่ากินเหลือเกิน” ว่าพลางจะก้มลงมาสูดดมกลิ่นตรงบริเวณซอกคอของเธอ

ในขณะที่เจย์เดนหลับตาพริ้มพร้อมสูดกลิ่นหอมเย้ายวนนั้น ลินินก็อาศัยจังหวะนั้นไถลตัวออกจากการกักขังของเขาได้สำเร็จ แล้วรีบวิ่งไปเปิดประตูเพื่อกลับห้องของตัวเอง

เจย์เดนทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพลางสายตามองตามร่างบางที่วิ่งดุ๊กดิ๊กพ้นประตูไปจนลับตา

“หึ เอาไว้กินครั้งหน้าก็ไม่สาย” ว่ากันตามตรง หากเขาจะลงมือจริง ๆ ลินินไม่มีทางหนีรอดหรอก

ยามเช้าในวันหยุดสุดสัปดาห์ ลินินออกมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องสวนกระจกของคฤหาสน์ ส่วนางกายธอก็มีสาใช้คนสนิทอย่าง เบล คอยนั่งให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง อันที่จริงเธอค่อนข้างตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นมนูษย์นั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างเอาเป็นเอาตายแบบนี้ แต่ด้วยท่าทางขะมักเขม้นนัน มันกลับทำให้เธอรู้สึกทึ่งอย่างแปลกประหลาด

“ไปพักผ่อนก็ได้นะเบล ไม่ต้องมานั่งอยู่ที่นี่หรอก อากาศมันหนาว” ลินินบอกกล่าว แต่สายตาก็ยังไม่ละออกจากหนังสือ

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เผื่อคุณหนูขาดเหลืออะไรจะได้เรียกข้าได้ตลอด” เมื่อเห็นเธอยืนกรานเช่นนั้น ลินินก็ไม่ได้ว่าอะไร

ขณะเดียวกันนั้น ชายชราคนหนึ่งก็เดินผ่านบริเวณนั้นพอดี เมื่อเห็นลินินเขาก็เดินเข้ามาทักทายพร้อมรอยยิ้ม ลินินจำได้ทันทีว่าเป็นชายชราที่เรียกธอว่า ‘ท่านหญิง’ ยามเมื่อเธอมาคฤหาสน์นี้ครั้งแรก

“ท่านหญิง...” เขาค้อมศีรษะให้เธอ จนลินินต้องลุกขึ้นยืนแล้วก้มศีรษะคืนให้ด้วยความนอบน้อมยิ่งกว่า ด้วยความเห็นว่าเขาอาวุโสยิ่งนัก “อ่านหนังสืออยู่หรือขอรับ”

“ค่ะ พอดีใกล้สอบแล้ว...” ลินินตอบกลับ

“ช่างขยันนัก ขอให้สมปรารถนาได้คณะที่ที่หวังนะขอรับ”

“ขอบคุณค่ะ” ลินินค้อมศีรษะให้เมื่อได้ยินคำอวยพรจากคุณปู่ตรงหน้า แต่ก่อนที่จะกลับไปสนใจหนังสือตรงหน้าต่อ เธอกลับเอ่ยถามถึงเรื่องที่ค้างคาใจมานานขึ้นเสียก่อน “ว่าแต่...ทำไมคุณปู่ถึงเรียกหนูว่าท่านหญิงเหรอคะ”

ชายชราได้ยินเช่นนั้นก็ยกยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะบอกเล่าถึงหน้าที่ของตัวเองในคฤหาสน์หลังนี้ “ข้าน้อยเป็นโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ทำนายดวงชะตาให้กับตระกูลนี้มาจวบจะพันปีเข้าแล้ว”

ลินินตั้งใจฟังราวกับไม่อยากขาดตกบกพร่องไปสักประโยค “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยได้ทำนายดวงชะตาของท่านชาย ดาราประจำตัวของท่านบอกว่าจะได้คู่ครองที่เหมาะสมในช่วงนี้ ข้าน้อยจึงหาเครื่องหมายนำทางไปสู่คู่ครองให้กับท่านชายขอรับ”

ในตอนแรกที่ได้ฟังเช่นนั้น ลินินก็ขมวดคิ้ววุ่น ด้วยความยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่ท่านโหรหลวงกำลังสื่อ จนกระทั่งในที่สุดเขาก็กล่าวประโยคที่ทำให้เธอเริ่มกระจ่างแจ้ง “กุหลาบดอกนั้น...คือเครื่องหมายนำทางขอรับ”

เมื่อได้ยินแบบนั้น ลินินก็อึ้งไปครู่หนึ่ง “อย่าบอกนะว่าเป็นกุหลาบสีดำดอกนั้น!?”

โหรหลวงไม่ได้กล่าวอะไร เพียงแค่ยกยิ้มแล้วค้อมศีรษะให้ เขาทราบว่าท่านชายยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ลินินทราบ แต่ชายชราครุ่นคิดมาสักพักแล้วว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ควรคืบหน้าได้แล้ว มิฉะนั้นอาจไม่ทันกาล จึงชิงลงมือบอกเธอเสียเองเลย

อาจทำให้เจย์เดนไม่พอใจ แต่ถึงอย่างไรลินินก็ต้องทราบเข้าในสักวันนั่นแหละ

ลินินที่ทราบเรื่องก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ ชาร์ล ไปเหมากุหลาบในร้านที่เธอทำงานพาร์ทไทม์ขึ้นมาได้ เมื่อนั้นเธอจึงพอจะทราบแล้วว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะในตอนนั้นเธอเก็บกุหลาบดอกนั้นไปแล้ว

‘นี่แสดงว่าเขาตามดูเธอมาตั้งแต่หลายเดือนก่อนแล้วอย่างนั้นสิ!!!’

ลินินครุ่นคิดพลางทำสีหน้าแตกตื่น ก่อนจะรีบบอกกล่าวด้วยท่าทางลนลาน “แต่...ฉันแค่บังเอิญเก็บกุหลาบดอกนั้นได้นะคะ อาจไม่ใช่ฉันก็ได้”

ไม่รู้สิ เธอคิดว่าตัวเองอาจไม่เหมาะเป็นว่าที่ชายยาของเขาเลยสักนิด

โหรหลวงเห็นดังนั้นก็เอ่ยประโยคหนึ่งขึ้นมา “บนโลกนี้ ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกขอรับ...”

“?”

“คุณหนูก็เห็นมิใช่หรือ ว่าท่านชายตั้งใจพาคุณหนูมา ถึงกับยอมทุ่มเงินมหาศาล เรื่องแบบนี้หากจะมองว่าบังเอิญก็คงไม่ใช่หรอกขอรับ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นลินินก็เริ่มใจสั่นไหวพลันหน้าแดงขึ้นมาทันที นี่หมายความว่าเธอไปถูกตาต้องใจเขาอย่างนั้นเหรอ!?

ว่าแต่...นี่เขาหายไปทั้งวันเลยนะ ลินินคิดในใจพลางนึกสงสัยว่าตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่

ไม่ได้นะ...นี่เราจะสงสัยเรื่องของเขาไปเพื่ออะไรกัน! โต้แย้งกับตัวเองเสร็จก็ทำใจให้โล่งเพื่ออ่านหนังสือต่อ...

ช่วงบ่าย แสงตะวันเริ่มคล้อยลง ลินินจึงเปลี่ยนไปอ่านภายในห้องสมุดของคฤหาสน์แทน แต่เมื่อเห็นร่างสูงของเจย์เดนเดินผ่านไป โดยมีชาร์ลที่คอยเดินอยู่ข้าง ๆ เธอก็เริ่มนึกถึงสิ่งที่โหรหลวงเล่าให้ฟังขึ้นมา

‘เขาถูกใจอะไรในตัวฉันกันนะ’ คิดในใจพลางสายตายังจับจ้องไปที่ร่างสูง ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะยืนสนทนาเรื่องสำคัญของตัวเองอยู่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นเธอที่นั่งอยู่ตรงนี้

“นัดเซ็นสัญญากับทางนั้นได้เลยนะ” เสียงเข้มแว่วเข้ามาดังกระทบหู แล้วอยู่ ๆ ลินินก็หน้าขึ้นสีแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เธอพยายามสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อทำใจให้สงบก่อนจะจ้องมองหนังสือต่อไป

แต่ก็เหมือนแค่มองผ่านตัวอักษรเท่านั้น เพราะในสมองของเธอตอนนี้ครุ่นคิดถึงเรื่องของเจย์เดนอยู่ตลอดเวลา

“ตั้งสติหน่อยลินิน...” เธอกล่าวย้ำเตือนตัวเอง แต่แล้วเจย์เดนก็เดินเข้ามาในห้องสมุดพอดี ขายาวของเขาหยุดชะงักลงเมื่อเห็นว่าเธอก็นั่งอยู่ที่นี่เช่นกัน

สายตาคมกริบจ้องมองเธอราวกับกำลังพินิจบางอย่าง ลินินเองก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้นที่กำลังจับจ้อง แต่ก็เลือกที่จะพยายามก้มหน้าก้มตาเพื่อหลีกเลี่ยงการประชันหน้าโดยตรง

หากมองหน้าเขาตอนนี้ มีหวังเธอต้องเขินจนสติแตกกระเจิงแน่...สมาธิลินิน...มีสมาธิเข้าไว้...

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังตั้งใจกับการอ่านหนังสือ เจย์เดนก็มีมารยาทมากพอที่จะไม่เข้าไปก่อกวนเธอ เขาจึงค่อย ๆ เดินเลี่ยงกลับออกจากห้องสมุดไป

‘ฟู่ว เกือบไปแล้ว...’ เธอถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ราวกับเอาตัวรอดจากปีศาจได้สำเร็จอย่างนั้น

แต่แล้วหลังจากช่วงบ่ายในวันนั้นเธอก็ไม่ได้เห็นหน้าเจย์เดนอีกเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า

Related chapters

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    Last Updated : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทนำ

    ยามค่ำคืนช่วงเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง อากาศโดยรอบจึงเย็นจัด เมฆหมอกบางเบาโอบล้อมรอบตึกสูงระฟ้าราวกับกำลังปกปิดความลึกลับอีกด้านหนึ่งของโลกเอาไว้ ท้องฟ้าในยามนี้มืดสนิทมีเพียงแสงเบาบางจากดวงจันทร์ที่คล้ายกับรอยยิ้มเหยียดเยาะเยือกเย็นชวนน่าหวาดหวั่นณ ทางเดินทอดยาวสู่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ปรากฎภาพหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านสวนสาธารณะ วันนี้เป็นดั่งเช่นทุกวันที่เธอต้องออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายดอกไม้ สองขาก้าวไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย เพียงแต่ในวันนี้กลับมีสิ่งแปลกประหลาดที่เข้ามาสะดุดสายตาของเธอเข้าโดยบังเอิญเสียอย่างนั้น ดวงตาคู่สวยเพ่งมองเจ้าสิ่งนั้นก่อนจะพบว่ามันคือกุหลาบดอกหนึ่งซึ่งถูกวางทิ้งเอาไว้บนกลางทางเดินนอกจากนี้ มันช่างต่างจากดอกกุหลาบที่เธอเห็นทุกวันในร้านยิ่งนัก เจ้าพวกนั้นทั้งสดใสและบานสะพรั่ง แต่กุหลาบที่เธอพบในค่ำคืนนี้กลับแตกต่างออกไป ชวนน่าอัศจรรย์ระคนสงสัย เพราะสีของมันนั้นดำขลับสนิทราวกับถูกวาดขึ้นมาจากฝันร้ายของใครบางคน“ใครเอาแกมาทิ้งกันนะ” ด้วยความที่เธอเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ในร้านจัดดอกไม้มานับแรมปี จึงมีความผูกพันให้กับดอกไม้นานาชนิด แม้ว่าสีของเจ้าดอกไม้นี้จะไม่ค่อยน่าเชยชม

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 1 กุหลาบต้องมนต์

    “ท่านชายต้องเร่งหาคู่ครองได้แล้วนะขอรับ!” อยู่ ๆ ชายชราคนหนึ่งก็โผล่พรวดเข้ามาภายในห้องทำงานอันแสนองค์อาจ เขาคือโหรหลวงประจำตระกูลแบรดฟอร์ด ตระกูลซึ่งเก่าแก่และทรงอำนาจมากที่สุดในแวมไพร์ชนชั้นสูงสิ้นเสียงของชายชรา ร่างสูงที่นั่งจมอยู่กับกองงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็เงยหน้าขึ้นแล้วกอดอกใส่ด้วยท่าทางกวน ๆ“หมายความว่าอย่างไร ทำไมอยู่ ๆ ท่านจึงมาพูดเรื่องนี้ได้”“ข้าได้รับคำนายว่าช่วงนี้ท่านชายจะหาคู่ครองที่เหมาะสมได้ขอรับ เพราะฉะนั้นท่านชายต้องรีบเร่งหาได้แล้ว ก่อนจะสายเกินไปเสียก่อน”“หาเมื่อไหร่ก็ได้ตลอดนั่นแหละ สาว ๆ พวกนั้นแค่กระดิกนิ้วก็เข้ามาแล้ว” เจย์เดนตอบโต้กลับไป“หากเพียงเพื่อรักสนุกจะทำเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่หากนำมาเป็นชายาข้างกาย ข้าน้อยว่ามิสมควร” ถึงแม้กาลเวลาจผ่านมาจนถึงยุคที่มีอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่พวกเขาก็ยังติดพูดสรรพนามเช่นนี้อยู่เสมอ“แล้วท่านจะให้ข้าทำอย่างไร? ยุคนี้สมัยนี้ก็หาได้แต่แบบนี้แหละ” เจย์เดนกอดอก คราวนี้สายตาของเขาเริ่มฉายแววจริงจังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่งานตรงหน้ากองจนแทบจะท่วมหัวอยู่แล้ว แต่กลับต้องมาเสวนาเรื่องผู้หญิงที่คอยแต่จะหวังเข้าหาเขาเพื่อผลปร

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 2 พรหมลิขิตก่อตัว

    “เฮ้อ แล้วจะให้ข้านำมันไปให้ใครกันล่ะ” เจย์เดนถอนหายใจอย่างยาวเหยียด พร้อมกับจ้องมองดอกกุหลาบที่อยูในฝาแก้วครอบ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะเอ่ยว่า คู่ครองหาเมื่อไหร่ก็เหมือนกันหมด แต่เขาก็หวังอยากจะหาให้ได้ในเร็ววันนั่นแหละ...บอกตามตรง แวมไพร์เช่นเขาก็เหงาเป็นเหมือนกันนะผู้ติดตามคนสนิทที่ยืนฟังอยู่จึงเสนอความคิดขึ้นว่า “เช่นนั้น ท่านชายลองนำไปให้คนที่ท่านหมายปองดูก่อนดีหรือไม่ขอรับ”“ไม่มีผู้ใดที่ข้าหมายปองเป็นพิเศษหรอก”“คุณหนูเฟย์อย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามอย่างเขาเห็นว่าท่านชายสนิทสนมกับเธอเป็นพิเศษ จึงคิดว่าบางทีพวกเขาอาจมีบางสิ่งที่เข้ากันได้“นี่เจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่เลย นางเป็นเพียงสหายของข้า”คุณหนูเฟย์ คือลูกสาวตระกูลแวมไพร์ที่ตระกูลแบรดฟอร์ดของเขาร่วมค้าธุรกิจด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่เขาและเธอสนิทกันมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่หากมองลึกลงไปในความสัมพันธ์นั้น ไม่มีความพิสวาทเลยแม้แต่น้อย“หรือจะเป็นคุณหนูอลิเซียเล่าขอรับ” ชาร์ลยังคงเสนอรายชื่อหญิงสาวที่ดูเหมาะสมกับเจ้านายของตนอย่างไม่หยุดยั้ง“เจ้าอย่าพูดชื่อคนที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาเชียว”สาเหตุที่เจย์เดนกล่าวเช่นนั้น เป็นเพราะคุณหนูอลิเซีย

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 3 หนี้สิน

    “วันนี้นางขายดอกไม้ได้เยอะนัก” เจย์เดนนั่งมองเธอที่กำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่อย่างขะมักขะเม้น “แต่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งนั้น” ว่าพลางขมวดคิ้วไปด้วย“เพราะส่วนใหญ่ผู้ชายซื้อดอกไม้ให้ผู้หญิงอย่างไรขอรับ” ผู้ติดตามให้เหตุผล ก่อนที่ท่านชายของเขาจะขุ่นเคืองใจไปมากกว่านี้ เพราะมันคงไม่เป็นผลดีต่อพวกมนุษย์เพศชายพวกนั้นแน่“แต่ผู้ชายพวกนี้เขาซื้อดอกไม้ให้แฟนสาวหรือภรรยากันทุกวันเลยอย่างนั้นเหรอ?” เขาจับสังเกตและจำใบหน้าของลูกค้าประจำทุกคนได้ บางคนก็เข้ามาอุดหนุนทุกวัน บ้างก็วันเว้นวันจนน่าประหลาด“เอ่อ...ก็คงรักภรรยามากน่ะขอรับ” ชาร์ลรีบแก้ต่าง แต่ในอีกมุมหนึ่งมันถือเป็นการสอพลอเพื่อมิให้ท่านชายของเขาฉุนเฉียวจนเกินงาม“เหอะ รักคนจัดช่อดอกไม้สิไม่ว่า...” เจย์เดนแค่นหัวเราะอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก ก่อนจะหันไปเอ่ยสั่งชาร์ลเสียงเด็ดขาด “ข้าอยากให้เจ้าไปเหมาดอกไม้ร้านนั้นมา ก่อนที่มนุษย์พวกนั้นจะเข้ามาอีก”ว่าที่ชายาของเขา มิควรได้มีชายใดมาเชยชมอย่างออกนอกหน้าเช่นนี้สิ มันทำให้เขาหงุดหงิดอย่างไรไม่รู้“เอ่อ...แต่...ดอกไม้เยอะมากเลยนะขอรับ ท่านชายจะเอาไปทำอะไรกัน”“ข้าบอกให้ไปซื้อก็ไปซื้อมาเถอะ” เจย

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

    Last Updated : 2025-01-24
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

    Last Updated : 2025-01-24

Latest chapter

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 9 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

    ลินินกระโดดโลดเต้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าควรไปกล่าวขอบคุณเจย์เดนอย่างเป็นทางการ เมื่อนั้นเธอจึงวิ่งออกจากห้องและตรงสู่ห้องนอนของเจย์เดนโดยเร็วไวเจย์เดนซึ่งตอนแรกยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเธอ เมื่อเห็นว่าลินินวิ่งออกไปข้างนอก เขาก็รีบวิ่งกลับห้องตัวเองอย่างรู้ทัน‘อยู่ในห้องหรือเปล่านะ’ ลินินยังลังเลที่จะเคาะประตู ด้วยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายหรือเปล่า เธอจึงกอดเจ้าเจย์เดนตัวน้อยและเดินวนเวียนไปมาอยู่ตรงหน้าห้องของเขาแทน ผ่านไปสักพัก ลินินก็เริ่มใช้หูแนบไปกับบานประตู เพื่อจับเสียงที่อยู่ภายในห้องนั้น และเมื่อภายในห้องเงียบงัน เธอก็ยิ่งรู้สึกไม่กล้าเคาะประตูมากขึ้นเท่านั้น‘เข้ามาสิ เข้ามาหาข้าสิ’ เจย์เดนคิดในใจ ขณะที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากประตูห้องของตัวเองนัก แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ไร้วี่แววว่าคนข้างนอกจะเปิดเข้ามา ทั้งที่กลิ่นของเธอยังคงเด่นชัดว่าอยู่ตรงหน้าห้องของตน ‘เหตุใดนางจึงไม่เข้ามาหาข้า!’ ด้วยความฉุนเฉียวชั่วขณะ มือหนาจึงดึงเปิดบานประตูออกทันใด ซึ่งการกระทำนี้ทำให้ลินินที่กำลังแนบหูไปกับบานประตูอย่างพินิจพิเคราะห์ ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงเซถลาเข้าไปในเขตห้องของเจย์เด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

    ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขาชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ""เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อยใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุดแต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออกเห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าด

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 8 ท่านชายจอมปากแข็ง

    เมื่อเห็นว่าลินินนั่งอ่านหนังสือบนเตียงด้วยความลำบากอย่างที่ผู้ติดตามคนสนิทของตนรายงาน เจย์เดนก็มานั่งคิดอีกครั้ง ก่อนจะเกิดอุบายว่า “ข้าอยากไปเที่ยวเดินเล่นในห้องสักหน่อย” จากนั้นเขาก็บอกให้ลินินติดสอยห้อยตามไปด้วย“ห้างเหรอ?” เธอยืนแง้มประตูห้องนอนเพื่อพูดคุยกับเขา “แต่ฉํนต้องอ่านหนังสือนะ” ลินินกล่าวถึงความจำเป็นของตัวเอง เธอเพิ่งเลิกเรียนจากที่โรงเรียนมา ก็หวังจะรีบทบทวนบทเรียนและอ่าหนังสือต่อเลย“กฎอีกข้อ ข้าสั่งอะไรเจ้าต้องว่าตามนั้น” พูดจบ เจย์เดนก็ไม่มัวรีรอฟังคำโต้แย้งจากเธออีก เขาหมุนตัวหันหลังแล้วเดินลงไปรอเธอที่ลานจอดรถคฤหาสน์ลินินเห็นแบบนั้นก็แอบอดถอนหายใจในความเอาแต่ใจของเจย์เดนแต่เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้า เจย์เดนกลับไม่ค่อยตื่นตาตื่นใจที่จะเดินไปไหนเลย เอาแต่ยกมือขึ้นป้องแสงจากหลอดไฟนีออน ที่ดูเหมือนจะแยงตาของเขามากจนเกินควรลินินเห็นแบบนี้ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ‘ไม่ชอบที่สว่าง ๆ แล้วทำไมถึงพามาเดินห้างกัน หรือว่าเป็นแวมไพร์ขี้เหงา นาน ๆ ทีจึงอยากออกมาเดินเล่นกับคนอื่นเขาบ้าง?’ หลังจากคิดเช่นนั้น เธอก็ส่ายศีรษะด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหยิบหมวกแก๊ปที่ตัวเองพกติดกระเป๋าเป็นประจำ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 7 ชีวิตช่วงแรกในคฤหาสน์

    วันรุ่งขึ้น ลินินตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ด้วยกลัวว่าจะไปโรงเรียนไม่ทันเวลา เพราะคฤหาสน์ตระกูลแบดฟอร์ดตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง มิหนำซ้ำบริเวณโดยรอบยังล้อมไปด้วยผืนป่าพนาไพรอีกด้วยเธออดคิดไม่ได้ว่าอาจต้องเดินลงภูเขาสูงชันนี้ด้วยตัวเอง และหารถประจำทางเพื่อต่อเข้าไปในเมืองให้ได้วางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว สองขาก็รีบวิ่งลงบันไดมาอย่างเร่งรีบ ก่อนจะพบกับเจย์เดนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องทานอาหาร นอกจากนี้บนโต๊ะยังเตรียมสำรับอาหารเอาไว้อีกที่หนึ่งด้วย“นั่งลงทานมื้อเช้าซะ” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ“นั่ง...บนโต๊ะ...กับคุณเหรอ?” รู้สึกแปลกใจที่คนอย่างเธอจะมีสิทธิ์ได้ร่วมโต๊ะกับผู้ทรงอำนาจเช่นเขา ตอนแรกลินินคิดว่าจะต้องไปนั่งรวมกับพวกสาวใช้ซะอีก แต่ก่อนที่เธอจะทันปฏิเสธด้วยความเกรงใจก็ถูกสายตาเฉียบคมของเขามองมาเสียก่อน ประหนึ่งออกคำสั่งกลาย ๆ“นั่ง-ลง” เขาพูดเน้นทีละพยางค์ ลินินที่ได้ยินแบบนั้น อยู่ ๆ ก็ทิ้งตัวนั่งลงโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีบางอย่างมาผลักเธอเข้า“ฉันต้องรีบไปโรงเรียนนะคะ (. .)”“กินมื้อเช้าก่อน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเข้ม “เดี๋ยวให้ชาร์ลไปส่ง” ขณะพูดก็ปรายตามองไปหาผู้ติดตามคนสนิทของตัวเอง ช

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 6 หน้าที่ของเจ้า

    แต่ในขณะที่เธอกำลังก้าวเดินตามแผ่นหลังของเจย์เดน ชายชราคนหนึ่งก็รีบเดินตรงเข้ามาพร้อมเอ่ยทักทายเธออย่างนอบน้อม ราวกับมองว่าเธอนั้นมีฐานะสูงส่งอย่างไรอย่างนั้น“มาแล้วหรือครับท่านหญิง”ท่านหญิงอย่างนั้นเหรอ? ลินินครุ่นคิดในใจพลางขมวดคิ้วแล้วหันมองไปยังเจย์เดนด้วยความฉงน คิดไม่ตกว่าเขาพาเธอมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุผลใดกันแน่แต่ถึงอย่างนั้นเจย์เดนก็ยังคงปิดปากเงียบก่อนจะส่งสายตาให้ชายชราผู้ที่เดินเข้ามาทักทายเธอรีบออกไป“ตามมา...” ขายาวก้าวนำเธอต่อไป ลินินก็เดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย เอาเถอะ จะให้มาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น ยังดีกว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนแหละนะลินิน...ขณะที่เดินตามเขาไป สายตาของเธอก็มองสำรวจภายในคฤหาสน์ระหว่างทางที่เดินไปด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะดูหรูหราอลังการ แต่กลับดูมืดมนและอึมครึมชวนให้รู้สึกน่าอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเสียงกระซิบแผ่วเบาหรือเสียงหวีดร้องดังตามสายลมมาเป็นครั้งคราวอีกต่างหาก สร้างความหวาดหวั่นภายในใจให้กับลินินไม่น้อยเลยทีเดียว เธอจึงรีบสาวเท้าเดินให้ว่องไวมากยิ่งขึ้นเพื่อตามหลังเจย์เดนให้ทันร่างสูงเดินพาลินินไปที่ห้องนอนของ

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 5 ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์แบรดฟอร์ด

    เจย์เดนพาลินินกลับไปเก็บข้าวของที่บ้านหลังเก่า เธอก็ได้แต่จำใจยอมจากลา พลางคิดหาทางเอาตัวรอดว่าจะพูดอย่างไรให้เขายอมปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ‘เขาจ่ายค่าตัวเราไปเท่าไหร่กันนะ’ ลินินครุ่นคิดในใจ“สามล้านถ้วน” เจย์เดนเอ่ยเสียงเรียบ สร้างความตื่นตกใจให้กับลินินเป็นอย่างยิ่งว่าเขาล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอได้อย่างไรกัน แต่สุดท้ายก็คิดเพียงว่าเจย์เดนแค่บังเอิญพูดถึงมันขึ้นมาพอดี หารู้ไม่ว่าเขาแอบพินิจใจเธออยู่ เหมือนเป็นการทำความรู้จักในช่วงแรกเริ่ม “ข้าตัวเจ้าสามล้าน จะไปหาเงินมาไถ่ตัวเองจากข้างั้นเหรอ?”“เปล่าค่ะ...” และแล้วก็ต้องยอมพ่ายแพ้ เธอนึกไม่ถึงว่าเขาจะควักเงินจ่ายไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลเช่นนี้ เป็นจำนวนเงินที่เธอคิดว่าชาตินี้ก็คงหามาชดใช้ไม่ได้หมด“รีบเก็บของซะ ฉันเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”คำว่า ‘เหนื่อย’ เจย์เดนเพียงพูดไปเช่นนั้นเพื่อเป็นการเร่งเร้าเธอไปในตัว เพราะแวมไพร์เหนื่อยเป็นที่ไหนกันเล่าชาร์ลส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองเจ้านายของตัวเองอย่างรู้ทัน ก่อนจะแอบส่ายศีรษะอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้ว่าปากจะหนักไปถึงไหน จึงเรียนรู้ที่จะเอ่ยคำพูดที่สื่อความหมายโดยตรงไม่ได้สักทีลินินรีบไปเก็บของออก

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 4 เหตุเพราะกุหลาบดอกนั้น

    “โอ๊ย เจ็บนะ!” ลินินโวยวายเมื่อถูกโยนเข้ามาในห้องโถงกลางเรือนบ้าน“สักล้านนึงพอจะได้ไหม” ชายวัยกลางคนที่พาตัวเธอขึ้นรถมาด้วยเอ่ยขึ้น ดูเหมือนว่าเขากำลังจะคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่ลินินที่นั่งอยู่กลางห้องโถงเริ่มหน้าซีด แววตาเริ่มหม่นหมอง เมื่อทราบว่าครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่การข่มขู่ ที่พวกเขาแค่เรียกตัวเธอมาเพื่อตักเตือน แล้วจากนั้นจะยอมปล่อยให้กลับไปหาเงินมาชดใช้ดั่งครั้งก่อนหลังจากวางสายลง มือหนาของเจ้าหนี้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะกดชัตเตอร์จับภาพของเธอเพื่อส่งไปให้ปลายทาง“ตาแก่นี่ดูชอบเธอนะ” เขาว่าพลางยื่นรูปชายสูงอายุคนหนึ่งที่ตอบกลับว่าจะขอซื้อตัวเธอมาให้ลินินได้พิจารณาตัวของเธอสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ยิ่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานมากเท่าไหร่ก็ไม่ได้ทำให้เธอสงบนิ่งลงได้เลย แล้วเป็นใครจะกล้าทำใจให้สงบได้กันเล่า ในเมื่อทราบว่าตัวเองจะถูกขายให้กับใครที่ไหนก็ไม่รู้“ขอร้องล่ะ หนูจ่ายให้คุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้วนะ” ลินินทิ้งตัวคุกเข่าก่อนจะทำท่าเว้าวอนขอความเห็นใจ เธอยังอยากมีอนาคตอีกยาวไกล หากโดนขายให้ชายแก่รุ่นราวคราวพ่อคงเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก“นี่ยัยหนู ฉันเห็นใจเธออยู่หรอกนะที่ต

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status