หน้าหลัก / โรแมนติก / ท่านชายแวมไพร์ / บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

แชร์

บทที่ 10 ประหนึ่งเป็นเรื่องของตัวเอง

ผู้เขียน: มินซอลทัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-27 03:03:49

ลินินพยายามจะไม่คิดเรื่องของเขา แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ จึงลุกขึ้นไปถามชาร์ล ที่มีฐานะเป็นถึงคนสนิทของเขา

ชาร์ลได้ยินเธอเอ่ยถามก็อดดีใจแทนท่านชายของตนเสียไม่ได้ "ท่านชายอยู่บนห้องขอรับ แต่ช่วงนี้งานหนัก ท่านจึงอ่อนแรงไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ จึงไม่ได้ลงมาหาคุณหนูขอรับ"

"เอ่อ...ฉันไม่ได้หวังให้เขามาหาสักหน่อย" เอาเป็นว่าหญิงสาวก็ปากแข็งพอตัว แต่สิ่งที่ชาร์ลบอกกบ่าวก็ทำให้เธออดเป็นกังวลเสียไม่ได้

ในกลางดึกคืนนั้น ลินินจึงแอบย่องไปหน้าห้องของเจย์เดน ฝีเท้าเบาเฉียบดุจแมวย่องเบา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เธอซุกซ่อนตัวจากเจ้าของคฤหาสน์ได้เลยแม้แต่น้อย

ใบหน้าหล่อยกยิ้มขณะที่นั่งหลับตาอยู่บนเตียง แต่ตอนนี้เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเธอสักเท่าไหร่ ด้วยแวมไพร์อ่อนแรงนั้นกระหายเลือดมนุษย์มากนัก เขาจึงอยากเลี่ยงที่จะพบเธอให้ถึงสุด

แต่แล้วความตั้งใจนั้นก็พังลง เมื่ออยู่ ๆ ลินินก็เปิดประตูแง้มออก

เห็นแบบนั้นมือหนาก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างของตัวเองทันที บอกตามตรง สภาพของเขาตอนนี้หากเธอได้เห็นคงต้องหวั่นใจเป็นแน่

ดวงหน้าหล่อเส้นเลือดปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาช้ำเลือดข้างหนึ่ง พร้อมมีเขี้ยวงอกออกมา เรียกได้ว่าดูไม่จืดเลยทีเดียว สภาพเช่นนี้ต้องใช้เลือดมนุษย์มาจุนเจือเท่านั้น

ลินินเห็นแบบนั้นก็ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปดูอาการของเขาอย่างถือวิสาสะ ด้วยความที่คิดว่าเขาอาจหลับอยู่

'ไม่นะ อย่าเดินเข้ามา!' เจย์เดนคิดในใจ หากเป็นช่วงเวลาอื่นเขาก็อยากให้เธอเข้ามาในห้องนี้อยู่หรอก แต่หากเป็นตอนนี้คงทำให้เธอกลัวจนจับไข้แน่

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นหอมของเธอฟุ้งจนเขี้ยวของเขาแอบงอกออกมาอีกครั้ง โชคดีที่อยู่ใต้ผ้าห่ม จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าเตียงยวบลง บ่งบอกว่าเธออยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมมือเท่านั้น

"เจย์เดน...นายเป็นอะไรมากหรือเปล่า"

"ไม่ ออกไป" เสียงแข็งกร้าวนั้นทำให้ลินินชะงักไป รู้สึกน้อยใจยังไงไม่รู้ แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายที่นอนคลุมโปงเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้

"ไม่สบายเหรอ ขอฉันดูหน่อยสิ"

"ข้าบอกให้ออกไปไง!" เจย์เดนตวาดเสียงใส่ ลินินที่กำลังจะเอื้อมไปดึงผ้าออกก็ต้องรีบดึงมือกลับทันที

"ฉันก็แค่อยากรู้ว่านายโอเคไหมก็เท่านั้นเอง" น้ำเสียงดูน้อยใจอย่างเห็นได้ชัด เจย์เดนที่อยู่ใต้ผ้าจึงถอนหายใจ พยายามจะอธิบายเรื่องราวเพื่อหวังให้เธอเข้าใจ แต่ดูเหมือนลินินที่ความน้อยใจกำลังถาโถมจะรีบลุกพรวดแล้วหวังจะออกจากห้องไปโดยไม่ฟังกันเลย

เขาจึงตัดสินใจเปิดผ้าที่คลุมโปงออกมาในที่สุด มือหนาคว้าเรียวแขนของเธอเอาไว้ พร้อมกับผลักให้ร่างบางนอนลงแล้วตามขึ้นไปค่อม

"!!!" ลินินที่เห็นสภาพของเจย์เดนในตอนนี้ก็ผวะไปเล็กน้อย แต่แทนที่เธอจะกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว กลับเงียบอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงห่วงใยอย่างแท้จริง"นายไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม ใครทำกับนายแบบนี้?"

อาการดูหนักราวกับโดนทำร้าย แต่ไม่ใช่หรอกเขาเพียงแค่เพลียก็เท่านั้น ครั้งล่าสุดที่เข้านอน ดูเหมือนจะเป็นช่วงหลายเดือนก่อนเลย

เจย์เดนได้ยินเธอถามเช่นนั้นก็ชะงักไป ผิดคาดกับที่เขาคิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง กับคนรักเก่าเขายังไม่เคยให้เห็นมุมนี้เลย จึงไม่กล้าที่จะแสดงมันต่อหน้าลินินด้วย ไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะยอมรับด้านนี้ของเขาได้

"เจ้าเป็นห่วงข้าเหรอ?" สายตานิ่งเรียบบ่งยอกถึงความจริงจังในการถาม

ลินินพยักหน้าตอบกลับทันที สิ่งนั้นทำให้สายตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลงอย่างช่วยไม่ได้

"ต้องทำยังไงนายถึงจะหาย..."

"นี่เจ้าไม่กลัวข้าเลยอย่างนั้นสิ?" ดวงตาคมกริบจ้องมองเธอขณะเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ ลินินส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะได้รับเสียงขบขันของเจย์เดนตอบกลับไป "ถ้าอย่างนั้นข้าจะบอกให้ก็ได้ อาการแบบนี้ ข้าต้องดื่มเลือดมนุษย์..."

"งั้นนายก็ดื่มซะสิ"

"เจ้าอยากให้ข้าดื่มเลือดเจ้าอย่างนั้นเหรอ?"

ลินินพยักหน้าเป็นคำตอบ "ถ้ามันทำให้นายหายก็ดื่มเลย" ดวงตาคู่สวยก็ฉายแววห่วงใยก่อนจะหลับตาลงแล้วหันศีรษะไปอีกทางเพื่อเปิดพื้นที่ให้เขาฝังเขี้ยวตรงคอได้สะดวกขึ้น

คนตัวโตเห็นเช่นนั้นก็แสยะยิ้มขึ้นอย่างขบขัน ในที่สุดก็รับรู้ได้แล้วว่าเธอเป็นห่วงตัวเองจริง ๆ แต่ก็ยังเอ่ยยียวนเธอไม่หยุดหย่อน "ไม่เสียใจแน่นะ..." ให้ตายสิ ในสถานการณ์แบบนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดแกล้งอีก

เขาค่อย ๆ เลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้บริเวณลำคอของลินินมากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะใช้ริมฝีปากสัมผัสลงบนต้นคอของเธออย่างแผ่วเบา

ลินินหลับตาปี๋ ลุ้นกับความเจ็บที่กำลังจะได้รับ แต่ผ่านไปเนิ่นนานก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากสัมผัสแผ่วเบานั้น ดวงตาคู่สวยจึงลืมขึ้นแล้วมองเจย์เดนด้วยความฉงน

"ไม่ดื่มเหรอ?" ทำตาแป๋วใส่ จนร่างสูงต้องลุกออกจากตัวเธอเพื่อหลบเลี่ยงความน่ารักที่เข้ามากระแทกเต็มอก

"ไม่ ข้าดื่มเลือกมนุษย์ไปเยอะแล้ว เหลือแค่นอนพัก -///-"

"แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกเล่า!" ทำแก้มพองลม แล้วเดินกระแทกเท้าออกไป

.

.

.

หลายวันผ่านไป

เฝ้าอ่านหนังสืออยู่หลายเดือน และแล้ววันสำคัญของลินินก็มาถึง เป็นวันที่เธอต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั่นเอง ลินินรีบตื่นแต่เช้า ด้วยคิดว่าวันนี้เป็นวันเสาร์ เธอจึงกลัวว่าเจย์เดนกับชาร์ลอาจคิดว่าเธอได้หยุดเรียนในวันนี้และไม่มีรถจะพาไปส่งเข้าสอบ จึงเลือกที่จะตื่นเช้าหน่อยเผื่อว่าต้องเดินทางไปเข้าสอบด้วยตัวเอง

หารู้ไม่ว่าเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้จดจำวันสอบของเธอได้เป็นอย่างดี ถึงขั้นเขียนลงปฏิทินในทุกแพลตฟอร์มด้วย มิหนำซ้ำ ยังแอบซุ่มวางแผนมาโดยตลอดว่าจะจัดการทุกอย่างให้เอื้ออำนวยความสะดวกของเธออย่างไรดี

และหากจะบอกว่าหญิงสาวตื่นเช้ามาก ๆ แล้ว แวมไพร์หนุ่มตนนี้ก็ไม่ต่างกัน เขาออกจากห้องนอนมาก่อนที่ลินินจะตื่นด้วยซ้ำ

เขาเดินวนไปวนมาอยู่ในโถงคฤหาสน์ท่ามกลางบรรดาผู้รับใช้ที่ต้องตื่นขึ้นมาจากการที่เขาไปเรียกให้มารวมตัวกัน ณ ห้องโถงแห่งนี้

"เตรียมสำรับอาหารเช้าของลินินให้ดี" เจย์เดนสั่งผู้รับใช้ น้ำเสียงฟังดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยถ้อยวาทะที่ไร้ผู้ใดกล้าขัดขืน

บรรดาผู้รับใช้ที่ยืนเรียงแถวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็ค้อมศีรษะ ก่อนจะขานรับ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

“มาเตรียมการแต่เช้าเชียวนะขอรับ...” ชาร์ลเอ่ยทักทายขึ้น วันนี้เขาก็รีบมาช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อให้ลินินไปสอบได้อย่างราบรื่นเช่นกัน

หลังจากกำชับผู้รับใช้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว เจย์เดนก็หมุนตัวหันหลัง กำลังจะกลับไปที่ห้องของตนเอง เพื่อไม่ให้ลินินทราบว่าเขาอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ก็ยังไม่วายหันมากำชับผู้ติดตามคนสนิทของตัวเองอีกครา

"เจ้า...ไปส่งนางที่สนามสอบให้ทันเวลาด้วย ห้ามสายโดยเด็ดขาด แล้วใกล้พักช่วงเที่ยง กลับมานำอาหารที่คฤหาสน์ไปส่งให้นางด้วย อย่าให้ไปทานอาหารตามร้านสะดวกซื้อเด็ดขาด"

ชาร์ลค้อมศีรษะน้อมรับคำสั่ง จากนั้นร่างสูงก็เดินกลับขึ้นไปข้างบนทันที

“เจย์เดนล่ะ?” เมื่อก้าวลงจากบันไดแล้วพบว่าที่นั่งของเจย์เดนไร้วี่แววเจ้าที่ เธอก็เอ่ยถามด้วยความฉงน ปกติแล้วเขาตรงเวลาต่อมื้อเช้ามากนัก

และถึงแม้จะทราบแล้วว่าเขาพาตนมาอยู่ในฐานะใด แต่ลินินก็ยังสงวนท่าทีไม่ออกนอกหน้าจนเกินงาม

“เอ่อ...ท่านชายยังไม่ตื่นขอรับ” ชาร์ลแอบอ้างให้ดูสมเหตุสมผล แต่ในความเป็นจริงแล้ว แวมไพร์เช่นพวกเขาไม่จำเป็นต้องนอนด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่คนตรงหน้าเป็นมนุษย์สาว เขาจึงหยิบยกกิจวัตรที่ตรงกับนาฬิกาชีวิตของมนุษย์ขึ้นมาอ้างได้

และมันก็ได้ผล ลินินไร้ข้อกังขาแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะเธอมีเรื่องอื่นให้ต้องคิดมากกว่าเรื่องของเขาด้วย

หลังจากพยักหน้ารับรู้แล้ว เธอก็รีบนั่งลงและทานมื้อเช้าอย่างเร่งรีบ ในระหว่างที่ทานก็มีการหยิบสมุดที่จดเอหาโดยสรุปขึ้นมาอ่านทวนอีกครั้งด้วย

ชาร์ลที่เห็นแบบนั้นก็อดมองด้วยสายตาภาคภูมิใจเสียไม่ได้ รวมถึงบรรดาผู้รับใช้และสาวใช้คนสนิทของเธอด้วยเช่นกัน ‘ท่านหญิงของเราช่างตั้งใจเหลือเกิน’ ทุกคนที่ยืนมองต่างช่วยกันส่งแรงอธิษฐานให้ลินินสอบผ่านได้ดั่งใจหวังทั้งสิ้น

เมื่อเห็นว่าลินินและชาร์ลออกไปเรียบร้อยแล้ว เจย์เดนก็ลงมาคุมหน้างานอีกครั้ง

“แล้วของว่างของนางเล่า...ไม่ได้เตรียมเอาไว้ตามที่ข้าสั่งหรอกหรือ?”

“กำลังจัดเตรียมเจ้าค่ะท่านชาย” สาวใช้คนสนิทของลินินบอกกล่าว

เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยง ชาร์ลก็กลับมาที่คฤหาสน์เพื่อรับมื้อกลางวันที่เจย์เดนสั่งเตรียมให้ลินินเป็นพิเศษ "ดูอย่าให้เย็นชืดนะ เจ้ารีบเอาไปส่งให้ถึงมือนางด้วย"

ผู้รับใช้ที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่เป็นสถานการณ์ที่พวกเขาเห็นว่า ท่านชายดูจะร้อนรนประหนึ่งเป็นเรื่องสำคัญของตัวเองในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ตกเย็น หลังจากการสอบสิ้นสุดลง ลินินที่อ่อนล้าจากการสอบทั้งวันก็กลับมาถึงคฤหาสน์พร้อมกับชาร์ลที่ดูเหนื่อยล้าไม่ต่างกัน

ลินินตรงเข้าห้องทันที หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ล้มตัวลงนอนไปด้วยความอ่อนเพลีย

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น แวมไพร์หนุ่มก็แอบย่องเข้าไปในห้องของเธอดั่งเช่นที่เขาทำทุกวัน และเมื่อเห็นว่าครั้งนี้เธอหลับสนิท เขาก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปก่อนจะนั่งลงข้างเตียงอย่างเบาที่สุด นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเส้นผมที่ปกหน้าของเธออย่างอ่อนโยน "เจ้าทำได้ดีแล้วนะวันนี้..." เขากระซิบเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังเล่านิทานกล่อมให้เธอหลับฝันดี

หลังจากกล่อมไปสักพัก เขาก็ลุกเดินกลับออกจากห้องของเธอ และด้วยความรู้ดีว่าลินินจะต้องตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหิวโหย เขาจึงสั่งให้ผู้รับใช้เตรียมมื้อดึกแสนหรูหราเอาไว้ให้เธออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ซึ่งการคาดการณ์ของเขานั้นไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย เพราะลินินตื่นขึ้นมากลางดึกจริง ๆ เธอรู้สึกหิวมาก จนต้องฝืนกฎแอบย่องเดินออกจากห้องในยามวิกาลเลยทีเดียว

ขณะที่กำลังจะเดินไปทางห้องครัวนั้น ลินินก็ต้องตื่นตาตื่นใจเมื่อเห็นอาหารบนโต๊ะที่วางรอเธออย่างดีประหนึ่งจัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ ต้อนรับ

ในตอนแรกเธอฉงนใจยิ่งนักว่าเป็นสำรับอาหารสำหรับเธอหรือเปล่า แต่เมื่อก้มมองอ่านกระดาษแผ่นเล็กที่มีลายมือตัวบรรจงเขียนเอาไว้ว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับมาจากการสอบนะ ลินิน’ ความสงสัยก็พลันมลายหายไปทันที

เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงลงมือทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อยท่ามกลางสายตาของเจย์เดนที่กำลังเฝ้ามองเธออย่างเงียบ ๆ จากมุมบนของคฤหาสน์

‘กินเก่งเหมือนกันนะ’ ลินินทานทุกอย่างบนโต๊ะจนหมดเกลี้ยง ทำให้เจย์เดนที่แอบมองอยู่รู้สึกทึ่งในความกินเก่งของเธอ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าคนตัวเล็กจะกินเก่งขนาดนี้ หรือ อาจเป็นเพราะเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เธอจึงเก้ ๆ กัง ๆ ในการทานก็เป็นได้

หลังจากทานเสร็จ ลินินก็เริ่มเก็บจานหลายใบที่วางอยู่บนโต๊ะไปวางในอ่างครัว ขณะที่เธอกำลังจะลงมือล้างจาน บรรดาผู้รับใช้ก็รีบกรูกันเข้ามาคว้าจานออกจากมือของเธอทันที

“คุณหนูไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ เรื่องนี้ข้าน้อยจะจัดการเอง” สาวใช้คนหนึ่งกล่าวด้วยความเคารพ

ลินินรู้สึกเกรงใจเหล่าผู้รับใช้เป็นอย่างมาก บอกตามตรง หากเธอเป็นแวมไพร์จริง ๆ ชนชั้นของเธอคงไม่ต่างจากพวกเขาหรอก

ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะอยู่ในคฤหาสน์นี้มาหลายเดือนแล้ว และทราบฐานะของตนดี แต่เธอก็ยังไม่กล้าทำตัวสูงส่งอยู่วันยังค่ำ

แต่ในเมื่อสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของพวกผู้รับใช้ เธอก็ได้แต่ยอมปล่อยให้พวกเขาจัดการ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณตอบกลับไป และด้วยความที่เธอนิสัยอ่อนโยนเช่นนี้ เหล่าผู้รับใช้จึงชื่นชอบเธอเป็นยิ่งนัก

หลังจากนั้น ลินินก็เริ่มตื่นตาตื่นใจไปกับการเดินชมคฤหาสน์ยามวิกาล เธอไม่กล้าเดินไปทางปีกตะวันตกจามที่เจย์เดนกำชับเอาไว้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คฤหาสน์ยามค่ำคืนนั้นมีมนต์สเน่ห์ดึงดูดแปลก ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะยืนมองทางเดินมืดมิดที่มุ่งตรงไปทางนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เจย์เดนที่คอยจับตาดูเธอจากมุมมืด น่าแปลกเสียจริง ทั้งที่หัวใจของเขาไม่เคยเต้น แต่กลับร็สึกเหมือนมันมีชีวิตขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ ยามเมื่อมองดูร่างบางตรงหน้าพร้อมท่าทีซุกซนอยากรู้อยากเห็นเหมือนเด็กที่เพิ่งเจอสิ่งใหม่

และแล้ว รอยยิ้มที่ไม่ใช่เพียงแค่การเผยอมุมปากขึ้นก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ไม่นานนัก ลินินก็เลิกสนใจปีกตะวันตกแล้วเดินกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง วันนี้ผ่านไปได้ดีกว่าที่เธอคิดไว้มาก ชาร์ล ผู้ติดตามของเจย์เดน คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิดตอนที่ไปสอบ ทำให้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ

และเมื่อนึกถึงสิ่งที่ชาร์ลทำให้ตลอดทั้งวัน ลินินก็อดคิดถึงเจย์เดนขึ้นมาเสียไม่ได้

"หรือว่าเขาจะเป็นคนสั่งให้ชาร์ลมาดูแลเรานะ? " ลินินนึกในใจ แต่ก็ไม่ปักใจเชื่อมากนัก เพราะเธอไม่ได้เห็นเขาเลยตลอดทั้งวัน ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้เป็นวันสอบที่สำคัญของเธอ

แต่ถึงอย่างนั้นก็อดรู้สึกขอบคุณเขาไม่ได้อยู่ดี

“ขอบคุณนะ เจย์เดน” เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนจะอุ้มตุ๊กตาแดร็กคูล่าที่ดูเหมือนว่า ตอนนี้มันจะกลายเป็นตัวแทนของเขาไปเสียแล้ว พร้อมทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าอีกครั้ง

เจย์เดนที่ซ่อนตัวอยู่ตรงระเบียงข้างนอกห้อง ได้ยินทุกถ้อยคำของเธอ เขามองผ่านหน้าต่างห้อง เห็นลินินกอดตุ๊กตาและผล็อยหลับไปด้วยความสุขใจก็ได้แต่ยืนยิ้มอย่างอ่อนโยน พลันรู้สึกถึงความอบอุ่นในใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

การเป็นห่วงเป็นใยและให้ความสำคัญต่อกันและกัน ความรู้สึกมันเป็นเช่นนี้เองสินะ หลังจากไม่ได้สัมผัสมาหลายร้อยปี

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 11 ความรู้สึกที่เริ่มก่อตัว

    เช้าวันต่อมา ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดแต่ลินินก็ยังตื่นแต่เช้าตามความเคยชิน หลังจากลุกทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยเธอก็เดินลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็พบว่าโต๊ะทานอาหารตรงตำแหน่งของเจย์เดนไร้ซึ่งเงาเจ้าของของมันอีกแล้วทำไมกัน...นี่มันสองวันติดแล้วนะ หรือว่าเขาจะไม่อยากร่วมโต๊ะทานอาหารกับเธอกันแน่ ลินินแอบคิดด้วยความน้อยเนื้อตำใจ เช่นนั้นแล้วเรื่องที่เธอแอบดีใจเมื่อคืนนี้ เธอเพียงคิดไปเข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่าถึงจะคิดแบบนั้นแต่สายตาก็ยังกวาดหาเจ้าตัวจนทั่ว เหตุใดเธอจึงต้องรู้สึกว้าวุ่นใจกัน เฮ้อ ไม่เอาสิลินิน วันหยุดพักผ่อนแท้ ๆ หากมัวมานั่งเรียกร้องหาเขาเช่นนี้คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดีเมื่อคิดได้เช่นั้นเธอก็ส่ายศีรษะสลัดความคิดภายในใจออกไป และถึงแม้เจย์เดนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ชาร์ลผู้ติดตามคนสนิทของเขาก็ยังคอยตามติดเธอไม่ห่างไปไหน เพราะเขาได้รับคำสั่งให้คอยดูแลเธออย่างไรล่ะและมีหรือ...ที่ท่าทางว้าวุ่นของลินินจะรอดพ้นสายตาอันฉียบแหลมของเขาไปได้ ชาร์ลยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาราวกับรู้ใจเธอ“ท่านชายไปเข้าประชุมกับคู่ค้าของบริษัทขอรับ”ลินินพยักหน้ารับทราบด้วยความเก้อเขินเล็กน้อย แต่แล้วก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 12 เจ้าแวมไพร์หวงของ

    หลายวันผ่านไป หลังจากเลิกเรียนในวันศุกร์และกลับมาถึงคฤหาสน์เป้นที่เรียบร้อย ลินินก็รีบวิ่งตามเจย์เดนที่กำลังเดินฉับ ๆ ไปยังห้องทำงานของเขาแล้วขออนุญาตเรื่องสำคัญกับเขา “พรุ่งนี้ขอออกไปทำรายงานกับเพื่อนได้หรือเปล่าคะ”เจย์เดนได้ยินแบบนั้นก็หยุดเดินลงกะทันหัน ยกแขนขึ้นกอดอกพร้อมส่งสายตาคมกริบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าทันที “เพื่อนเจ้าผู้หญิงหรือผู้ชาย” สายตาคมกริบจ้องมองเธออย่างคาดโทษ จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ลืมเรื่องคำอธิษฐานที่โบสถ์ และชาตินี้ก็จะไม่มีวันลืมด้วย!“ผู้…หญิง…” ลินินตอบกลับไปด้วยความลังเล เธอไม่กล้าบอกตามตรงว่าอาจารย์จับคู่กับเพื่อนผู้ชายให้ ด้วยสายตาของเขานั้นราวกับจะเชือดเฉือนเธอให้ตายคาที่แบบนั้น ใครจะไปกล้าตอบอะไรที่เข้าข่ายว่าจะขัดใจเขากันเล่า“ถ้าเจ้ากล้าหลอกข้า แล้วข้าจับได้ ซึ่งได้แน่นอนเพราะเจ้าจะอยู่ในสายตาของข้าตลอด ถ้าเป็นแบบนั้นข้าจะไปหักคอเพื่อนเจ้าซะ!”“ผู้ชาย…” รีบเปลี่ยนคำตอบทันควันด้วยความจำนน“แล้วไปทำที่ไหน ห้ามไปที่บ้านมันเด็ดขาด” ประกาศกร้าวเหมือนตัวเองจะไปทำเองอย่างนั้นแหละ “หรือเจ้าจะพามันมาที่นี่ก็ได้นะ”“ได้เหรอ (‘ ‘)?” ถามด้วยความใสซื่อ“ได

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-02
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 13 บางทีพวกมนุษย์สาว อาจชอบชายหนุ่มที่ร้ายลึก

    หลังจากกลับมาถึงคฤหาสน์ ลินินก็พบว่าบริเวณลานจอดรถมีรถหรูที่ไม่คุ้นเคยจอดอยู่คันหนึ่ง แต่ก่อนที่จะทันได้สงสัยไปมากกว่านี้ ก็ปรากฎภาพหญิงสาวผมสีบลอนด์ท่าทางดูสง่าวิ่งยิ้มร่าเข้ามา“เจย์เดน...” เสียงแหลมเอ่ยเรียกตั้งแต่บริเวณหน้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ ก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้ามาเกาะแขนเจย์เดนด้วยท่าทีออดอ้อน “ไม่เจอกันนานเลย ทำไมเดี๋ยวนี้เจ้าไม่ไปหาข้าที่บ้านเลยล่ะ”“ไง อลิเซีย”หญิงสาวเจ้าของชื่อยิ้มร่าเมื่อได้ยินเจย์เดนทักทาย แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเห็นว่าลินินลงมาจากรถที่เจย์เดนเป็นคนขับ“นังนี่ใครกัน” เธอส่งสายตาแดงฉานใส่ ทำเอาลินินถึงกับผงะถอยหลังเจย์เดนไม่ตอบอะไร ด้วยความที่เขารู้ดีว่าอลิเซียนั้นคลั่งไคล้ในตัวเขามากขนาดไหน หากบอกไปว่าลินินคือว่าที่ชายาของตนตามตรง มีหวังลินินคงโดนอลิเซียฉีกทึ้งร่างเป็นแน่“เจ้ามีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ” เขาเลี่ยงที่จะตอบคำถามเรื่องนั้น จึงถามเรื่องของอลิเซียขึ้นแทน ประหนึ่งว่าใส่ใจเรื่องของเธอมากกว่าแทน แต่มว่าน้ำเสียงของเขากลับดูไม่ค่อยอยากต้อนรับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่เนี่ยสิ“ข้าคิดถึงเจ้า” เจ้าหล่อนก็บอกตามตรงอย่างไม่อายปาก ลินินเลิกคิ้วขึ้นทันทีเมื

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-07
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 14 ความอดทนของเธอนี่มันช่าง...

    ตกปากรับคำเป็นที่เรียบร้อย ลินินกลับขึ้นไปเก็บข้าวของในห้องนอนเดิมของตัวเอง แต่ถึงจะขุ่นเคืองเจ้าแวมไพร์ตัวโตที่ทำตัวผีเข้ามากเพียงใด เธอก็ยังหยิบเจ้าเจย์เดนตัวน้อยติดมือไปด้วย ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเธอติดมันไปแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นตุ๊กตาที่สื่อถึงบุคคลที่ใจร้ายใส่เธอก็ตามไม่นานนัก เธอก็ลงมาถึงห้องนอนชั้นใต้ดิน อากาศที่หนาวเย็นจัดยิ่งลงมาชั้นใต้ดินซึ่งปราศจากฮีทเตอร์ ก็ยิ่งสร้างความทรมานให้เธอเป็นเท่าตัวแต่เจย์เดนกลับไม่ได้วิเคราะห์เรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย ด้วยความที่คุ้นชินกับการอาศัยอยู่อย่างแวมไพร์ พวกเขาไม่ค่อยสนใจสภาพอากาศเป็นหลักสักเท่าไหร่ เนื่องจากอากาศพวกนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกรู้สาแต่อย่างใดหากแต่ลินินเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้น…ระหว่างที่กำลังเก็บข้าวของลงไป สาวใช้คนสนิทของเธออย่าง เบล ก็เข้ามาช่วยเหลือ เธอได้แต่มองลินินด้วยสีหน้าทนทุกข์ไม่แพ้กัน“ท่านชายทำเกินไปนะเจ้าคะ” เบลนั้นอดต่อว่าการกระทำของเจ้านายตัวเองเสียไม่ได้ ถึงแม้ในคฤหาสน์หลังนี้เขาจะมีอำนาจมากล้น แต่การกระทำเช่นนี้ต่อว่าที่ชายาของตน ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องต่างพูดว่ามันไม่เหมาะสมทั้งนั้นแหละ“ช่างเถอะ เขาจะสั่งให้ทำอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 15 เริ่มมีอาการ

    กระทั่งยามดึกสงัด เจย์เดนลุกขึ้นมาเพื่อวัดไข้ให้ลินินอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิร่างกายของเธอลดลงแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงนอน แต่อย่างที่บอกว่าแวมไพร์เช่นพวกเขาไม่จำเป็นต้องหลับนอนแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น เขาจึงม่ได้หลับใหลเช่นที่ทุกคนเข้าใจ เพราะถึงแม้ดวงตาจะหลับลง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรับรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้อย่างชัดเจนแขนแกร่งเอื้อมไปโอบกอดร่างบางดั่งเดิมอีกครั้ง พลางในจิดว่า เธอช่างเป็นหมอนข้างที่กอดได้ลงตัวเหลือเกิน มือหนาประคองศีรษะของเธอขึ้นเพื่อให้นอนหนุนบนแขนของตนแทนนิ้วเรียวยาวเกลี่ยผมที่ปกดวงหน้าสวยอยู่เล็กน้อยออก ใบหน้าของเธอสงบนิ่งยามหลับใหล แต่ให้ความรู้สึกดึงดูดใจเขาอย่างน่าประหลาด“แม่คะ...” อยู่ ๆ เสียงหวานก็ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ดูเหมือนว่าจะครางเรียกหาผู้เป็นแม่ ทั้งดวงหน้าเล็กที่ยับยู่ มือเล็กกำผ้าห่มแน่น ทำให้ร่างสูง ต้องผงกหัวขึ้นมาดูอาการของเธออีกครั้งหลังจากที่ทิ้งศีรษะลงไปบนหมอนเรียบร้อยแล้ว“ฝันร้ายเหรอ?” เจย์เดนกระซิบข้างหูของเธอเบา ๆ พลางใช้มือหนาลูบศีรษะของเธอไปด้วยเพื่อเป็นการปลอบ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผล ดวงหน้าสวยเหงื่อแตกพลั่กอีกครั้ง หันซ้ายหันขวาราวกับกำล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 16 แอบอ้อน

    ลินินกลับลงไปยังห้องใต้ดินอีกครั้ง เหตุเพราะเจย์เดนยังไม่ได้สั่งงานอะไรเพิ่ม เธอจึงลงมานั่งพักทบทวนความว้าวุ่นใจของตัวเองอยู่ในห้องเพียงลำพัง “คุณหนู ถึงเวลาทานมื้อเช้าแล้วเจ้าค่ะ” เบลมาตามถึงห้อง ด้วยเห็นว่าลินินไม่อยู่ข้างบน จึงคาดการณ์เอาไว้ว่าเจ้านายของเธอจะต้องลงมาอยู่ข้างล่างเป็นแน่ และเป็นไปตามคาด “ให้พวกเขากินกันไปก่อนเลย ยังไงข้าก็ไม่มีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะอยู่แล้ว ไม่ต้องรอข้าหรอก” ลินินกล่าวแบบนั้น เบลก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตารับคำสั่งแล้วนำความนี้ไปบอกเจย์เดน ร่างสูงใบหน้าหล่อเหลานั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ บ่งบอกถึงตำแหน่งผู้นำตระกูล ในคราแรกสีหน้าของเขาดูองอาจยิ่งนัก แต่เมื่อเบลนำความจากว่าที่ชายาของเขามาบอกกล่าว สีหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นสลดใจทันที “ไปบอกนางว่าข้าสั่งให้ขึ้นมาทานด้วยกัน...” เขาทราบดีว่าสิ่งที่ตนทำลงไปเมื่อวานนี้มันผิดมหันต์ ถึงตอนนี้จึงอยากให้เธอมานั่งร่วมโต๊ะด้วย แต่แล้วน้ำเสียงประชดประชันก็ดังขึ้นจากตรงตำแหน่งเก้าอี้ทางฝั่งซ้ายของเขาเสียก่อน “ในเมื่อนังชั้นต่ำนั่นไม่อยากมานั่งร่วมโต๊ะด้วย เช่นนั้นเจ้าก็ไม่ต้องใส่ใจไปหรอก-

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 17 ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

    ดวงตาแดงฉานราวคนโกรธจัด มือหนาเอื้อมบีบลำคอของิลิเซียอย่างไม่ยั้งมือ แรงบีบนั้นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะนำร่างของเธอผลักจนติดผนังแล้วยกลอยขึ้นไม่ต่างตากที่เธอลงมือกับลินิน“ข้าเตือนเจ้าแล้วนะ อลิเซีย…” เสียงเข้มเยือกเย็นไปถึงขั้วหัวใจ หญิงสาวดิ้นรนพร้อมมือปัดป่ายไปมาหวังจะแกะมือหนาของเจย์เดนออก แต่ดูเหมือนว่าจะไร้ผลในตอนนั้นเอง ผู้ติดตามของอลิเซียก็รีบเข้ามาหว่งจะช่วยเธอ แต่มีหรือเจย์เดนจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาล้มผู้ติดตามของอลิเซียได้เพียงแค่มือเดียวเท่านั้น ก่อนตะตามมาด้วยเสียงพูดจาข่มขี่ประหนึ่งคนขลาดเขลา“หากท่านกล้าลงมือทำร้ายนาง ตระกูลแบรดฟอร์ดจะต้องชดใช้อย่างสาสม!”“เช่นนั้นเจ้ากลับไปรายงานผู้นำตระกูลของเจ้า ว่าบุตรสาวของเขาหมายจะทำร้ายว่าที่ชายาของข้า ต่อให้แยกศีรษะของนาวออกมา ก็ไม่อาจลดทอนความผิดได้!”สิ่งนี้ผู้ติดตามของอลิเซียก็ทราบดี หากนับตามศักดิ์จริง เจย์เดนมีฐานะเป็นถึงองค์ชายแห่งโลกแวมไพร์ของพวกเขา และการที่มนุษย์สาวซึ่งเขาให้สิทธิ์ว่าเป็นว่าที่ชายา ย่อมเท่ากับว่าคุณหนูอลิเซียของเขาหมายจะทำลายร้างราชวงศ์และหากเรื่องนี้ถูกนำขึ้นสภา พวกแวมไพร์อาวุโสจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15
  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 18 แวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่หรือจะยอมออดอ้อน

    “เจ้าไปหาข้ามีเรื่องอะไรอย่างนั้นเหรอ?” หลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลง เจย์เดนก็มาหาลินิน ขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านตำราเกี่ยวกับแวมไพร์โบราณอยู่ในตอนแรกเขาร็สึกตกใจนิดหน่อยที่เห็นเธอมานั่งอ่านตำราที่มีเนื้อหาซับซ้อนเช่นนี้ แต่แล้วรอยยิ้มบาง ๆ ก็ผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครา เมื่อเห็นว่าการกระทำของเธอนั้นสื่อถึงความใส่ใจที่มีต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา เนื้อหาภายในตำรานอกจากจะกล่าวถึงประวัติความเป็นมาและต้นกำเนิดของแวมไพร์แล้วยังมีบทความที่เขียนให้คนทั่วไปเข้าใจถึงพฤติกรรมของแวมไพร์ด้วย เจย์เดนจึงคิดว่าหากเธอเรียนรู้เอาไว้ก็คงดีไม่น้อยลินินเห็นเจย์เดนมาหาก็รีบลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งส่งไปให้เขา เนื้อหาบนกระดาษแผ่นนั้นเต็มไปด้วยตารางการทำงานที่เธอวางแผนเอาไว้เจย์เดนก้มลงอ่านสลับกับการมองหน้าเธอด้วยความฉงน “อะไรกัน?”“ฉันคิดว่าจะออกไปหางานทำตอนช่วงรอให้มหาลัยเปิดเทอม แบบนั้นจะได้มีเงินไปจ่ายค่าเทอม รวมถึงซื้ออุปกรณืการเรียนต่าง ๆ ด้วย”“ค่าเทอมเหรอ?” เจย์เดนเอ่ยเสียงเข้มเจือความแปลกใจ นี่เธอไม่ได้มาขอให้เขาช่วยออกค่าเทอมให้ แต่กลับมาขออนุญาตออกไปหางานทำเพื่อหาเงินมาจัดการภาระตรงส่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-15

บทล่าสุด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 8 อยู่บ้านกับท่านพ่อ 2

    ในเช้าวันหนึ่งหลังมื้ออาหาร อยู่ๆ ลินินก็ได้รับสายจากบริษัทว่ามีธุระเร่งด่วนต้องเข้าไปเจรจากับทางโรงงานฝ่ายผลิต ด้วยแบบเสื้อผ้าที่โรงงานจัดทำตัวอย่างรุ่นแรกออกมามันผิดไปจากแบบที่เธอคาดหวังเอาไว้มากคิ้วสวยขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจ ก่อนจะจัดการบอกเลขาว่าเดี๋ยวจะเข้าไปที่โรงงานด้วยตัวเอง“ดูเหมือนต้องไปที่โรงงานเองแล้วล่ะ แบบที่ส่งมามันไม่ตรงกับที่สั่งไว้เลย” เธอบ่นให้สามีฟังขณะที่เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกเจย์เดนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ทำหน้าฉงน “เจ้าสั่งเลขาไปแทนก็ได้หนิลินิน ไม่เห็นต้องไปเองเลย ทำไมต้องเหนื่อยเองด้วย?” น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าคัดค้านสุดตัวลินินจึงหยุดมือจากการเตรียมเอกสารแล้วหันมามองมาทางเขาอย่างไม่เข้าใจนักว่าทำไมสามีเธอจึงมีทีท่าเช่นนั้น“ก็เพราะเป็นแบรนด์ของฉันไง ฉันก็เลยอยากเข้าไปดูเอง”ได้ยินแบบนั้นเจ้าแวมไพร์ก็เริ่มขยับตัวเหมือนอยู่ไม่สุข สีหน้าของเขาเริ่มออกอาการกังวล ส่วนภรรยาตัวน้อยของเขาก็จับจ้องมองตามท่าทีนั้นอย่างไม่วางตา ด้วยสงสัยว่าสามีเป็นอะไรไป“แต่เจ้าไม่ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองก็ได้นี่นา ข้าแค่…แค่คิดว่าเจ้าควรพักบ้าง” ว่าจบก็ส่งมือหนาเข้ามากอบกุมมือเรียวของเธออ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 7 คำชมจากแม่สามี

    ในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่น ท่านพ่อและท่านแม่ของเจย์เดนมาถึงพร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเด็ก ๆ ทั้งสี่ที่วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน พวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็วจนผู้ใหญ่ในครอบครัวอดตกใจเสียไม่ได้“ลินิน เจ้านี่เก่งเหลือเกิน” ท่านแม่เอ่ยชมขณะมองดูหลาน ๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ใกล้ ๆ “ของข้าแค่คนเดียวก็ลมแทบจับแล้ว” ลินินยิ้มตอบ ขณะเดียวกันนั้นเจย์เดนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มขมวดคิ้วขึ้นในทันทีเมื่อได้ฟังคำพูดของแม่ตัวเอง “อะไรกันท่านแม่ ข้าเลี้ยงยากเหรอ?” ถามด้วยน้ำเสียงจริงจังไลเรนได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เลี้ยงยากมาก เจ้าดื้อมากตั้งแต่ยังเล็ก ๆ แล้ว” “ดื้อเหรอคะ?” ลินินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ “ไม่เห็นเคยรู้เลย” เธอนึกภาพเจย์เดนผู้มีท่าทีสงบนิ่งกลายเป็นเด็กดื้อไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ถ้าหากเรื่องความขี้แกล้ง อันนี้พอจะรู้อยู่บ้างแล้วล่ะเจย์เดนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม “ข้าไม่ได้ดื้ออะไรสักหน่อย ท่านแม่น่ะพูดเกินไป”“งั้นเหรอ?” ท่านแม่ส่งยิ้มพร้อมสายตาเจ้าเล่ห์มาทางเจย์เดน ก่อนจะหลับตาลงแล้วเล่าเรื่องสมัยที่เจย์เดนยังเป็นเด็กขึ้น “แล้วใครกันที่ปีนต้นไม้หนีออกจากบ้านเพร

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 6 อยู่บ้านกับท่านพ่อ

    บังเอิญว่าในวันนี้ลินินจะต้องไปตรวจงานออกแบบเสื้อผ้าที่บริษัทของเธอ หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วก็พร้อมจะออกเดินทางเจย์เดนในเสื้อเชิ้ตที่พับแขนขึ้นเล็กน้อยก็เดินตรงเข้ามาหาเธอด้วยมาดเข้ม "เจ้าจะไปนานไหม?" เขาถามลินินพร้อมย่อตัวนั่งลงตรงหน้าก่อนจะยื่นมือหนาออกไปช่วยสวมรองเท้าให้เธอ"ไม่นานหรอก นายอยู่ดูเด็ก ๆ ไหวใช่ไหม?" ลินินหันมายิ้มให้เล็กน้อยเจย์เดนพยักหน้ามั่นใจ "ข้าเป็นแวมไพร์นะ เลี้ยงเด็กแค่นี้จะไปยากอะไร" ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มขึ้นด้วยความมั่นใจลินินเห็นแบบนั้นก็แอบหัวเราะนิดหน่อย "งั้นฝากด้วยนะ อย่าให้พวกเขาทำบ้านพังล่ะ""บ้านทนจะตาย เจ้าอย่ากังวลไปเลย" เขาพูดติดตลก พร้อมยกมือโบกให้ลินินก่อนที่เธอจะเดินออกไปตอนแรกทุกอย่างดูสงบเรียบร้อย เด็ก ๆ นั่งวาดรูปอยู่ในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่นานนัก เรย์เน่เริ่มบ่นว่าเบื่อและอยากเล่นซ่อนแอบ"ท่านพ่อ เล่นซ่อนแอบกับพวกเราไหมคะ" ไม่เพียงแค่เอ่ยถาม ยังส่งสายตาแวอย่างออดอ้อนมาให้เจย์เดนอีกต่างหากร่างสูงที่นั่งเฝ้าลูก ๆ พร้อมทำงานไปด้วยก็ชายตาขึ้นจากกองงาน ก่อนจะตอบรับ "ได้สิ นับสิบนะ"ยังไม่ทันจะเริ่มนับ เด็ก ๆ ทั้งห้าก็วิ่งวุ่นหาที่ซ่อนไปทั่วคฤหาสน์

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 5 ข้าวกล่องหรรษา

    เช้าวันหนึ่งลินินตื่นขึ้นมา และเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ยังหลับอยู่ เธอก็ตั้งใจว่าจะทำข้าวกล่องไปให้สามีที่บริษัท จึงรีบเร่งเตรียมวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน“ทำเสต๊กแล้วกัน” เธอว่าพลางตัดชื้นเนื้อแล้วจับมันพลิกใส่เตาย่าง เมื่อสุกได้ที่แบบกลาง ๆ แล้ว ก็นำมาตัดเป็นชิ้นพอดีคำ และพร้อมเริ่มเตรียมอย่างอื่นต่อไปแต่ก่อนที่จะทันได้ลงมือ ลูก ๆ ทั้งสี่ เจย์เนส เรย์เน่ เคย์ลิส และไลเอนน์ ก็ตื่นขึ้นมาได้ยินเข้าเสียก่อน"ท่านแม่ทำอะไรเหรอครับ/คะ?" เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ถามอย่างตื่นเต้น และเมื่อทราบว่าท่านแม่ของพวกเขากำลังจะทำรู้ข้าวกล่องไปให้ท่านพ่อที่บริษัท ทุกคนก็ดูเหมือนอยากจะช่วยกันคนละไม้คนละมือขึ้นมาในทันทีแต่แทนที่การช่วยจะทำให้งานเสร็จเร็วขึ้นกลับกลายเป็นวุ่นวายกว่าเดิมเสียอย่างนั้นเจย์เนสที่เป็นพี่ใหญ่สุดพยายามช่วยลินินหั่นผลไม้ แต่ด้วยความที่ยังมือใหม่จึงหั่นออกมาได้ไม่ค่อยเท่ากันนัก บางชิ้นก็ใหญ่เกินกว่าจะยัดลงปากได้ ส่วนบางชิ้นก็บางเฉียบจนแทบไม่ไต้องเตี้ยวกันเลย จนลินินต้องเข้ามาแก้ให้ส่วนเรย์เน่ คนนี้ชื่นชอบความสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ จึงได้รับหน้าที่ยืนแต่งจานสลัด แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก จึงใส่ใ

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 4 ศึกชิงนางจากผู้ท้าชิงห้าคน

    นานวันเข้า เจย์เนสและเรย์เน่ก็เริ่มโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็เหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบเข้าแล้ว ส่วนน้องน้อยของพวกเขาตอนนี้ก็คล้ายกับเด็กมนุษย์ในช่วงวัยห้าขวบ และใช่ ทั้งมดนี้เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปีเป็นอย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าพวกเขาจะโตไวและเรียนรู้เร็วมาก เจย์เดนกับลินินจึงจ้างครูมาคอยสอนพวกเขาที่บ้านด้วย เนื่องจากเล็งเห็นว่าพวกเขาอาจยังไม่พร้อมที่จะไปเข้าเรียนร่วมกับเด็กคนอื่น ๆนอกจากนี้ เมื่อเริ่มโตขึ้น การติดแม่ก็เริ่มน้อยลง กลายเป็นน้อง ๆ เข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนั้นแทนเจย์เนสในวัยหนุ่มน้อยเริ่มสนใจการอ่านหนังสือในห้องเงียบ ๆ หรือออกไปฝึกศิลปะการต่อสู้กับอาจารย์ที่ท่านพ่อของเขาจ้างมาฝึกส่วนตัวเสียมากกว่ามาขลุกอยู่ในห้องกับน้อง ๆ และนอกเหนือจากนั้นนิสัยก็เริ่มเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนผู้เป็นพ่ออย่างไม่ทิ้งห่างส่วนเรย์เน่ก็เริ่มมีความสนใจในเรื่องศิลปะและดนตรี บ่อยครั้งเธอจะเก็บตัวฝึกซ้อมเปียโนหรือวาดภาพในมุมของตัวเอง "ช่วงนี้ส่งไม้ต่อให้น้อง ๆ แล้ว ไม่ต้องกลัวว่าแม่จะเหงาเลย"ลินินได้ฟังเช่นนั้นก็หลุดหัวเราะออกมา แต่ถึงก็ยังมีสมาชิกตัวโตที่ดูเหมือนจะคอยมาแย่งแม่ของพวกเขาอยู่ตลอด

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 3 เกิดเรื่องไม่คาดฝันอีกแล้ว

    และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้งเข้าจนได้ เมื่อลินินส่องกระจกและเริ่มเห็นหน้าท้องที่ดูเหมือนจะอวบอิ่มขึ้น“นี่เราไม่ได้ออกกำลังกายจนลงพุงหรือยังไงกันเนี่ย” เธอพึมพำ แต่แล้วก็นึกถึงตอนที่ตั้งท้องสองแฝดขึ้นมาได้ ว่ามันก็เริ่มต้นเช่นนี้นอกจากนี้เมื่อสังเกตอาการไปนานวันเข้า ยังมีอาการพะอืดพะอมร่วมด้วยอีกต่างหาก อาการนั้นรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเจย์เดนต้องตัดสินใจพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลในที่สุด“ซูบผอมลงอีกแล้วนะขอรับท่านหญิง” ท่านหมอเอ่ยแซวพร้อมรอยยิ้ม"ตอนแรกฉันคิดว่าอาจจะกินเยอะไป อาหารก็เลยอาจจะไม่ย่อย แต่พอเห็นว่าผอมลงแล้วท้องป่องเหมือนครั้งที่แล้ว ก็เลยคิดว่าคงจะ..." ลินินพูดเสียงเบาขณะที่ท่านหมอก็อัลตร้าซาวน์บริเวณหน้าท้องของเธอไปพลาง“ขอรับ ตั้งครรภ์อีกแล้ว..." ท่านหมอยืนยันความคิดของเธอเจย์เดนที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ พลันหยุดนิ่งราวกับถูกหยุดเวลา ดวงตาสีแดงของเขาจับจ้องไปยังหมอหลวงราวกับอยากจะให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิดไป "ปกติแล้วแวมไพร์จะตั้งครรภ์ได้ครั้งเดียวไม่ใช่หรือ?"“นั่นน่ะสิ” แววตาคู่สวยของลินินก็จับจ้องใบหน้าของท่านหมอด้วยความฉงนเช่นกัน พร้อมกับหันมองสามีของตน

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 2 ตารางเวรนอนกับท่านแม่

    หลังจากเจย์เนสและเรย์เน่เริ่มรู้ความ ภายในบ้านก็เริ่มวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องที่แฝดทั้งสองติดลินินมากจนถึงขั้นที่ว่าต้องจัดตารางว่าใครจะได้นอนกับแม่ในวันไหนกันเลยทีเดียวภายในห้องนั่งเล่น เด็ก ๆ เดินเข้ามาด้วยท่าทางตื่นเต้นก่อนจะวางกระดาษแผ่นหนึ่งลงบนโต๊ะราวกับภูมิใจนำเสนอให้ลินินที่นั่งอยู่ในห้องนั้นได้ดูมัน"ตารางเวรนอนกับแม่" ลินินอ่านตัวหนังสือที่จ่าอยู่บนนั้นที่เรย์เน่และเจย์เนสช่วยกันออกแบบด้วยลายมือเด็ก ๆ ของพวกเขา นอกจากนี้ยังแบ่งช่องพร้อมใส่ชื่อตัวเองอย่างเสร็จสรรพด้วย"ใช่ค่ะ พวกเราจะได้ไม่ต้องแย่งกันว่าใครจะนอนกับท่านแม่วันไหน”“แม่นอนกับพวกลูกได้ทุกวันทั้งคู่อยู่แล้ว” ลินินอธิบาย แต่แล้วก็ได้รับการส่ายศีรษะตอบกลับจากพวกเด็ก ๆ“แต่ท่านแม่นอนตะแคงกอดพวกเราได้แค่คนเดียว เพราะฉะนั้นแบ่งเป็นวันแบบนี้เนี่ยะแหละครับดีแล้ว” เจย์เนสยังคงยืนกรานว่าจะจัดตารางแบบนี้ โดยมีน้องสาวฝาแฝดอย่างเรย์เน่พยักหน้าหงึกหงักอยู่ข้าง ๆ“วันนี้เป็นวันของพี่เจย์เนสนะ” เรย์เน่พูดขึ้นอย่างจริงจัง หลังจากมองดูตารางในมือ “พรุ่งนี้เป็นวันของน้อง” เธอเสริมพลางยิ้มกว้างให้พี่ชายเจย์เนสพยักหน้าใบหน

  • ท่านชายแวมไพร์   ตอนพิเศษ 1 ครอบครัวสุขสันต์

    “เจ้าปีศาจยักษ์ ส่งตัวราชินีของข้ามา ไม่อย่างนั้นโดนดีแน่!” เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กชายวัยหนี่งขวบ (?) ดังลั่นไปทั่วขณะที่ถือดาบไม้ไล่ฟาดฟันพ่อของเขาใช่แล้ว อย่างที่ท่านหมอเคยกล่าวว่าลูกแวมไพร์นั้นโตเร็วและ แต่ก็ไม่คิดว่าเพียงหนึ่งปีจะโตถึงขนาดเล่นอัศวินกับท่านพ่อของพวกเขาได้แล้ว!ช่วงเดือนแรก หากเป็นทารกมนุษย์ทั่วไป ก็คงไม่ส่งเสียงพูดอ้อแอ้ใช่ไหมล่ะ แต่บ้านนี้ส่งเสียงได้ตั้งแต่หนึ่งเดือนหลังคลอด เรื่องนั้นว่าตกใจแล้ว แต่สิ่งที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาเริ่มคลานได้ในเดือนที่สอง และตั่งท่าเดินได้เสร็จสรรพในระยะเวลาเพียงหกเดือน! ทำเอาท่านแม่อย่างลินินตกอกตกใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นลูกโตวันโตคืนชนิดที่ว่าไม่ต้องสอนให้ตั้งคลานหรือยืนตั้งไข่เลย พวกเขาทำได้เองตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทราบ รู้ตัวอีกทีก็ถือดาบวิ่งไล่ฟันเจย์เดนได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและในตอนนี้ หากนับตามลักษณะทางกายภาพของมนุษย์ สองแฝดเหมือนเด็กอายุสี่ขวบเข้าให้แล้วล่ะ“ไม่ส่งคืนหรอก นี่ราชินีของข้า” แต่ดูเหมือนคนเป็นพ่อจะไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่นัก ดูจากที่เล่นกับลูกชายอย่างมีความสุขแล้วอยู่ ๆ ร่างสูงใช้สองแขนแกร่งช้อนตัวของลินินท

  • ท่านชายแวมไพร์   บทที่ 55 ชีวิตใหม่

    หลายเดือนต่อมา ท้องของลินินก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และอีกไม่นานก็จะถึงวันกำหนดคลอดของเธอแล้ว ถึงแม้จะตั้งครรภ์เพียงสี่เดือนครึ่ง อุ้มท้องไม่นานเท่าอายุครรภ์ของมนุษย์ แต่ก็ไม่ได้สะดวกสบายไปกว่ากันหรอก เพราะข้างในเป็นแวมไพร์เด็กที่เมื่อเวลาดิ้นทีก็ทำผู้เป็นแม่แทบลมจับเลยทีเดียว “ลินิน ข้าต้องออกไปบริษัท พอดีมีโครงการจะซื้อเครื่องบินลำใหม่ ต้องไปฟังความคิดเห็นคณะผู้บริหารด้วย เจ้าอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม” จะว่าไปแล้ว ช่วงใกล้คลอดนี้เจย์เดนจับตาดูภรรยาทุกฝีก้าวเสียยิ่งกว่าช่วงแรกเสียอีก จะขยับแต่ละทีก็จะต้องมีเขาคอยช่วยประคองอยู่ตลอด ลินินที่ได้ยินสามีเอ่ยแบบนั้นก็พยักหน้าเหมือนว่ารับทราบ “นายไปเถอะ ฉันอยู่ได้ ไม่ต้องห่วง” โชคยังดี เพราะด้วยความที่ใกล้ครบกำหนดคลอดแล้ว แม่สามีจึงอาสาว่าจะมาช่วยดูแลเธออย่างใกล้ชิดอีกแรงด้วย นั่นทำให้เจย์เดนที่ข่วงนี้งานรัดตัวรู้สึกวางใจไปได้เปราะหนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะไม่เป็นห่วงหรอกนะ “ห้ามดื้อนะรู้ไหม” ว่าจบเขาก็กดนิมฝีปากลงบนหน้าผากของเธอประหนึ่งว่าคนตรงหน้าคือสิ่งที่น่าทะนุถนอมที่สุดในโลก “สภาพนี้ฉันดื้อไม่ไหวหรอก” เธอกล่าวระคนติดตลก แ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status