Home / โรแมนติก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก / ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 48

Share

ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 48

Author: Dogsmilea
last update Last Updated: 2025-03-10 20:19:42

เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่คิณณ์เทียวไปมาระหว่างที่ทำงานกับบ้านของลัลน์จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทุกวันศุกร์เขาจะขับรถมาบ้านลัลน์และกลับไปในเช้าวันจันทร์ เขายังคงรับหน้าที่ช่วยงานในสวนตามปกติ เพราะครอบครัวของลัลน์ทำสวนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก หรือพืชไร่ ทำให้เขาได้เรียนรู้งานใหม่ๆ พลอยสนุกไปด้วย

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลานี้คือ คิณณ์ไม่ได้พักที่กระท่อมท้ายสวนอีกต่อไป เขาได้ย้ายขึ้นมานอนในบ้านของครอบครัวลัลน์แล้ว

วันนี้เขาเข้าสวนมะพร้าวเพื่อทำการเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอม คิณณ์ทำการใช้ตะขอสอยทะลายมะพร้าวให้ลงกับร่องคูน้ำที่ขุดไว้เพื่อลดความเสียหายจากการกระแทกอีกทั้งยังทุ่นแรงในการขนย้ายด้วย

“เดี๋ยวนี้ทำคล่องเชียวนะครับ” ลุงสมชัยซึ่งคอยสอนงานเขาเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยนายของตนขยันขันแข็งหัวไวเช่นนี้

“คนเราต้องมีพัฒนาบ้างครับ” คิณณ์ยกยิ้มรับคำชมของลุงสมชัย ขณะวางตะขอลงแล้วใช้ผ้าขนหนูที่พาดไหล่เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า

"ดีครับดี อย่างนี้สิถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งลูกเขยนายหัว" ลุงสมชัยหัวเราะเสียงดัง พลางตบไหล่คิณณ์เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู

“น้ำเย็นๆมาแล้วค่า” เสียงใสอันแสนคุ้นเคยดังมาแต่ไกล เดินมาพร้อมกระติกใบใหญ่ถูลู่ถูกังยกมา รอยยิ้มพรายปรากฏบนใบหน้าหล่อที่ในตอนนี้เริ่มคล้ำแดดขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินไปช่วยคนตัวเล็กยกมา

“หนักขนาดนี้ยังยกมาอีก” เสียงเข้มขึ้นเล็กน้อยดุคนตัวเล็กที่ชอบทำอะไรเกินตัว

“เป็นห่วงนี่คะ เราข้าวกันเถอะค่ะคุณแม่ให้มาตาม” หญิงสาวเสียงอ่อนโยนก่อนไปพูดกับสมชัย

“ลุงชัยคะน้ำหวานในกระติกนี่ยกให้ลุงกับคนอื่นเลยนะคะ ถือว่าเป็นค่าอู้งานของพี่คิณณ์” พร้อมฉีกยิ้มอย่างน่ารักให้

“เจ้าเล่ห์นักนะเรา” มือหนายีหัวหญิงสาวด้วยความเอ็นดู

“ตรงไหนคะ แค่อยากให้พี่ได้พักเอง อันที่จริงแม่ก็ตามพี่คิณณ์ไปทานข้าวจริงๆนะคะ”

“อ้องั้นเหรอ” คิณณ์เลิกคิ้ว เอ่ยเสียงสูงอย่างไม่ค่อยเชื่อ

“งั้นไม่ต้องทานข้าวค่ะ” คนน้องได้ฟังเช่นนั้นเชิดหน้า พลางเดินหนีไปอย่างแง่งอน

“รอพี่ด้วยสิคะ” คิณณ์รีบเร่งฝีเท้าตามหลังไป พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูที่คนน้องช่างแสนงอน

“หนุ่มสาวนี่มันกระชุ่มกระชวยหัวใจจริงๆเนอะว่าไหมพวกเรา” ลุงสมชัยเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะครืน ด้วยความชื่นชมในความสดใสร่าเริงของคนทั้งสอง

เสียงหัวเราะเห็นด้วยจากคนงานที่เหลือตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้ม บรรยากาศอบอุ่นของความสนุกสนานในสวนมะพร้าวยังคงดำเนินต่อไป ท่ามกลางแสงแดดยามสายที่ทาบทอลงมา

“มากันแล้วหรือลูก มาทานข้าวกันเร็ว” มุกลดาเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มต้อนรับ ทั้งสองเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับบรรยากาศสดใส

“อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ”

“มีของโปรดเราด้วยนะ แม่ตั้งใจทำให้เลย” ดพลางดันชามต้มยำทะเลร้อน ๆ ไปตรงหน้าชายหนุ่ม

“ให้มันน้อยๆหน่อย มุก” พงษ์ทวีเอ่ยขัดเมื่อมุกลดาดูจะหลงลูกเขยจนออกหน้าออกตา

“อิจฉาหรือคะ ทำให้ทานทุกวันแล้วยังมาน้อยใจเป็นเด็กๆไปได้”

“ทานข้าวกันเถอะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมดนะคะ” ลัลน์เอ่ยห้ามทัพบุพการีของเธอที่ดูจะเริ่มตั้งวงถกเถียงกันเบา ๆ แต่ก็ทำให้บรรยากาศในบ้านคึกคักได้เสมอ ตั้งแต่คิณณ์มาอยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ พ่อกับแม่ที่เคยมีปากเสียงกันเป็นครั้งคราวกลับเปลี่ยนไป มีท่าทีแบ่งฝ่ายเข้าข้างกันอย่างเห็นได้ชัด และสุดท้ายก็เป็นพงษ์ทวีที่ต้องยอมมุกลดาเหมือนทุกครั้ง

“ลูกจะไปสมัครสอบวันไหนะลูก” เมื่อทุกคนลงมือกินอาหารกันได้สักพัก มุกลดาก็เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พลางมองบุตรสาวที่นั่งอยู่ข้างคิณณ์

“อาทิตย์หน้านี่แหละค่ะ” ตอบพลางเคี้ยวข้าวตุ้ย ๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็กน้อย

คิณณ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่นั่งฟังเงียบ ๆ ในใจพยายามจับน้ำเสียงและคำพูดของว่าที่แม่ยายอย่างตั้งใจ ราวกับกำลังตีความว่าสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อคืออะไร

“แล้วไปเรียนเนวันไหน” พงษ์ทวีเอ่ยถามบุตรสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะมองหน้าลัลน์ที่กำลังตั้งใจตักข้าวเข้าปาก

“เดือนหน้าช่วงๆ กลางเดือนค่ะ”

ทั้งพ่อและแม่ของเธอหันไปสบตากัน ราวกับกำลังส่งสัญญาณบางอย่างให้กันโดยไม่ต้องพูด มุกลดาขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะส่งสายตากดดันไปทางสามีอย่างชัดเจน พงษ์ทวีที่ดูเหมือนจะลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงจำใจเอ่ยปากพูดออกมา ด้วยความกลัวเมียที่เป็นนิสัยฝังลึก

“กลับกรุงเทพวันไหน” เขาเอ่ยถาม แต่ดวงตาไม่ได้มองไปทางบุตรสาว กลับจับจ้องตรงไปยังชายหนุ่มแทน

“พรุ่งนี้ต้องกลับแล้วครับ มีพิธีเช้าต้องรีบกลับ”

พงษ์ทวีเงียบไปชั่วครู่ ราวกับกำลังรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่ในใจ ก่อนจะสูดลมหายใจลึก แล้วเอ่ยประโยคที่ค้างอยู่ในลำคอออกมาอย่างไม่เต็มใจนัก

“เอายัยหนูขึ้นไปด้วยสิ จะได้เตรียมสอบด้วย”พงษ์ทวีเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่พยายามเก็บอาการ แต่ก็ทำให้ทั้งโต๊ะถึงกับชะงักไป ลัลน์เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกต้องหรือไม่ แต่เมื่อหันไปสบตากับมุกลดา ก็พบว่าแม่ของเธอพยักหน้าให้

เธอค่อย ๆ หันไปมองหน้าคิณณ์ ซึ่งในตอนนี้กำลังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้เธอ สายตานั้นแฝงความมั่นใจและอบอุ่น จนหัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด คิณณ์ดูจะไม่ตกใจกับคำพูดของพงษ์ทวีเลย เพราะเขาเดาได้ตั้งแต่แรกแล้ว จากท่าทางกระอักกระอ่วนของว่าที่พ่อตาที่ดูเหมือนเตรียมใจมานาน

“ขอบพระคุณคุณน้ามากนะครับ ผมจะดูแลลัลน์ให้ดีสมกับที่พ่อเลี้ยงดูมานะครับ” คิณณ์พนมมือไหว้คนแก่กว่าอย่างอ่อนน้อม เมื่อท่านยินยอมมอบลูกสาวของท่านให้เขาดูแล

“ทำให้ได้อย่างที่พูดแล้วกัน” แค่นเสียงหัวเราะก่อนจะหันไปตักข้าวกินโดยไม่สนใจชายหนุ่มอีก

ลัลน์ยังคงนั่งนิ่งเหมือนตกอยู่ในความฝัน มองหน้าพ่อของเธอสลับกับคิณณ์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ภาพตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีความอบอุ่นไหลเอ่อล้นเข้ามาในหัวใจจนพูดอะไรไม่ออก ขณะที่มุกลดาเพียงยิ้มพลางตักกับข้าวใส่จานตัวเองต่อ ราวกับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่เธอเตรียมใจไว้อยู่แล้ว

เมื่อถึงเวลาที่ลัลน์ต้องเดินทางกลับกรุงเทพพร้อมกับคิณณ์ ทุกคนในบ้านต่างพากันออกมาส่งถึงหน้าบ้าน บรรยากาศเต็มไปด้วยความอาลัยและอบอุ่น แต่มีคนหนึ่งที่ดูจะอิดออดไม่ยอมปล่อยให้ทั้งคู่ไปง่าย ๆ พงษ์ทวียังคงยืนกอดอกมองลูกสาวอย่างเสียดายเวลา

“พี่ปล่อยให้ลูกกลับกันไปเถอะ เดี๋ยวจะไปถึงกันมืดค่ำ”

“พี่ขอเวลาอีกนิดลูกสาวพี่จะออกจากอกเลยนะ” พงษ์ทวีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับว่าเวลานี้เป็นช่วงสำคัญที่สุดในชีวิต

“พ่อพูดเหมือนหนูจะแต่งออกไปอย่างนั้นแหละค่ะ ยังไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะคะ หนูแค่ไปเรียนเอง” หญิงสาวที่ได้ยินเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยแซวพ่อของตน

“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง” พร้อมส่งสายตาขุ่นเคืองให้คนตัวโตด้านหลัง

“คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะดูแลลัลน์เอง” คิณณ์สัมผัสได้รังสีความขุ่นเคืองจึงเอ่ยคำสัญญาให้พ่อตาได้สบายใจ

“อยากได้ลูกฉันทำเมีย ยังมาเรียกฉันว่าน้า” คำพูดของพงษ์ทวีทำให้ทั้งลัลน์และมุกลดาต้องกลั้นหัวเราะ แต่ก็ยังเห็นแววตาเอ็นดูซ่อนอยู่ในความขัดใจของผู้เป็นพ่อ

“ครับ?”

“แค่นี้ยังไม่เข้าใจอีกรึไง” พงษ์ทวีเอ่ยเสียงเข้มราวกับปกปิดความรู้สึกในใจ

“ขอบคุณครับคุณพ่อ” ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนเห็นรอยบุ๋มข้างแก้ม

“ไปๆเดี๋ยวมืดกันเสียก่อน ลูกรักถ้าเขาข่มเหงรังแกโทรมาหาพ่อนพพ่อจะไปรับหนูมา” พงษ์ทวีโบกมือให้ชายหนุ่มกับลูกสาว ก่อนจะหันมาดึงลัลน์เข้ามากอดแน่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรักและห่วงใย พร้อมเอ่ยขู่สำทับ

“เดินทางปลอดภัยนะลูก” มุกลดาเอ่ยอวยพรด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

เมื่อร่ำลากันเสร็จเป็นเวลาบ่ายสามแล้ว สองสามีภรรยายืนมองตามรถคันงามที่แล่นออกไปด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์จนลับสายตา ลัลน์หันกลับมามองพ่อแม่ผ่านกระจกมองหลัง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

“พ่อแม่หนูคงคิดถึงหนูแย่” คิณณ์หันมายิ้มให้พลางลูบหัวเธอเบา ๆ

“นั่นสิคะ แต่พ่อกับแม่เป็นแบบนี้ทุกทีพอหนูจะกลับไปเรียน แต่พี่คิณณ์เหนื่อยไหมคะขับรถไปมาแบบนี้”

“แค่นี้สบายมาก พี่พิสูจน์จนพ่อหนูยอมรับพี่ยังเหนื่อยกว่าอีก”

“ขอบคุณนะคะที่ไม่ทิ้งหนูไปไหน” ลัลน์หัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ยอย่างซาบซึ้งพร้อมส่งสายตาอบอุ่นไปให้คนพี่ข้างกาย ราวกับขอบคุณจากใจจริง

“เมียพี่ทั้งคนรักมาตั้งนานแล้วจะทิ้งได้ยังไง”

“เว่อร์แล้วค่ะ ตั้งใจขับรถไปเลยนะคะ”

เสียงเพลงหวานละมุนคลอเคล้าในรถที่อบอวลไปด้วยความรัก กลิ่นอายแห่งความสุขอ่อน ๆ แผ่ซ่านอยู่รอบตัว ทั้งสองมุ่งหน้าทะยานไปยังจุดหมายปลายทางที่แม้จะไกลแค่ไหน แต่หัวใจของทั้งคู่กลับใกล้กันจนแทบไม่เหลือช่องว่างระหว่างกันอีกต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+

    เมื่อมาถึงคอนโดของชายหนุ่ม เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสามทุ่ม การจราจรที่ติดขัดทำให้ทั้งสองทำได้เพียงสั่งอาหารมากินแทนการออกไปทานข้างนอก หญิงสาวใช้ปลายนิ้วบรรจงแกะเนื้อปลานิลทอดออกจากก้างอย่างประณีต ก่อนวางลงบนจานของชายหนุ่มพลางเอ่ยเสียงใส“ปลานิลทอดอร่อยดีนะคะพี่คิณณ์” “หนูชอบก็กินเยอะๆสิคะ” คิณณ์ละสายตาจากจานอาหาร มองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ของดีต้องแบ่งกันชิมสิคะ” รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้างามเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าอย่างนั้นเราต้องผลัดกันชิมแล้วล่ะ” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมพราวระยับอย่างสื่อความหมาย“เหนื่อยขนาดนี้ยังมีแรงหื่นอีกหรือคะ”“พี่อดมาสามเดือนแล้วนะคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน พลางส่งสายตาเว้าวอน คนน้องหน้าแดงซ่าน รีบตักข้าวใส่ปากเหมือนตั้งใจจะกลบเกลื่อนความรู้สึก แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้เขายิ่งจ้องเธอไม่วางตา“ทานข้าวค่ะ พูดเรื่องนั้นเวลาทานข้าวได้ยังไงคะ”“พี่พูดได้ทุกตอนเลยนะ ไม่กินข้าวแล้วทำตอนนี้ยังได้เลย” เขากระซิบหยอกเสียงพร่า แต่ยังไม่ทันจะขยับเข้าใกล้ คนตัวเล็กก็ส่งสายตาดุมาให้ราวกับเตือนว่าอย่าคิดลองดี ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

    Last Updated : 2025-03-14
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 50

    คืนวันผันผ่าน ลัลน์เริ่มต้นเข้าเรียนที่เน พร้อมเตรียมสอบตั๋วทนายควบคู่ไปด้วย แต่กระนั้น เธอก็ยังคงพักอยู่กับคิณณ์เช่นเดิม กิจวัตรประจำวันของทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง ในยามเช้า ชายหนุ่มจะเป็นผู้ไปส่งเธอ ส่วนยามเย็น เขาก็ไปรับเธอกลับ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาราวกับเป็นความเคยชินที่อบอุ่นเช้าวันนี้ก็ไม่ต่างจากวันก่อน ๆ คิณณ์ขับรถมาส่งลัลน์ที่เนตามปกติ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงจากรถ เธอหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มซุกซน ก่อนยกนิ้วเรียวยาวแตะที่แก้มสากของเขาเป็นเชิงบอกใบ้“ที่รัก ลืมอะไรไปหรือเปล่าคะ?”ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มบางจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่ลัลน์โน้มตัวเข้าไปใกล้ จรดริมฝีปากลงบนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย“ขับรถดี ๆ ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอกระซิบเบา ๆ ราวกับจะส่งมอบพลังใจให้เขาตลอดทั้งวัน“ตั้งใจเรียนนะคะ เรียนไม่ไหวก็นอนเลย” คิณณ์หัวเราะในลำคอ ก่อนเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบา ๆ“นี่คือคำแนะนำของผู้พิพากษางั้นหรือคะ” หญิงสาวเบ้ปาก ขยับถอยเล็กน้อยก่อนเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ“ถ้าไม่มีสมาธิจะเรียนสู้ไปหลับให้สมองปลอดโปร่งไม่ดีกว่าเหรอ”“จะเก็บคำแนะนำนี

    Last Updated : 2025-03-14
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 51

    1 ปีผ่านไปลัลน์เรียนจบเนติบัณฑิตและได้ใบอนุญาตว่าความมาภายในหนึ่งปีสร้างความภาคภูมิใจให้ทั้งครอบครัวของหญิงสาว และแน่นอนว่าคนคอยติวคอยดูแลตลอดมาภาคภูมิใจในเมียเด็กของเขาเป็นอย่างยิ่ง ทุกความสำเร็จของตัวเล็กมีเขาอยู่เคียงข้างเธอเสมอแต่ความสงบไม่อาจคงอยู่ได้นานปัญหาเข้ามาแทรกแซง คิณณ์นั้นถึงเวลาย้ายเวียนศาลไปจังหวัดอื่นซึ่งความกังวลของเขานั้น คือเขาคงไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดได้ยากเป็นเหตุให้เขาต้องห่างจากคนรัก ความกังวลที่ก่อตัวทำให้เขาเริ่มคิดถึงอนาคตของเธอมากขึ้น และสุดท้ายจึงตัดสินใจถามออกไป“หนูว่าหนูจะไปทำอะไรต่อหลังเรียนจบนะคะ”“หนูจะไปเก็บคดี แล้วเตรียมสอบผู้ช่วยต่อค่ะ”“อ้องั้นเหรอ” คิณณ์ตอบรับเสียงเรียบ แต่แววตากลับดูเคร่งเครียดจนลัลน์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ต้องย้ายศาลน่ะ คราวนี้พี่ต้องไปประจำที่ศาลพิจิตร”“ย้ายศาลงั้นหรือคะ” เสียงหวานแผ่วลงจนแทบกลืนหายไปในลำคอ“อืม พี่คงต้องไปอยู่ที่นั่นสักระยะอาจมาหาเราได้น้อยลง”ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศทันที ลัลน์เม้มริมฝีปากแน่น เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นหน้าที่ของเขา หน้าที่ที่เขาต้องทำตลอดและสิ่งนี้คือความฝันของเข

    Last Updated : 2025-03-16
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 52

    “หนูคะเดี๋ยววันนี้ไปบ้านพี่กันนะ” คิณณ์ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่กำลังสาละวนกับการเก็บเสื้อผ้าอยู่ “ตอนไหนหรือคะ” ร่างบางถึงชะงักมือ หันไปถามอย่างแปลกใจ“เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเลยค่ะ เดี๋ยวไปค้างที่บ้านพี่เลย”“มัดมือชกเหลือเกินนะคะ”“ฮึๆ ไม่ทำแบบนี้หนูก็บ่ายเบี่ยงอีก”“พี่ไปแต่งตัวเลยค่ะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะรอนาน” หญิงสาวรีบไล่คนพี่ที่ยังคงเปลือยอก สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว อวดมัดกล้ามแน่นที่เจ้าตัวตั้งใจฟิตมาเป็นอย่างดี ลัลน์เผลอมองเพียงครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี ภาพล่อตาล่อใจแบบนี้ไม่ดีต่อหัวใจเธอเลย“หนูเก็บของไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่รีบอาบแล้วเราไปบ้านกัน” คำว่าบ้านทำให้คนน้องหัวใจพองโต ทั้งหวั่นเกรงเมื่อต้องไปบ้านคนรักพบเจอพ่อแม่ของเขา ถึงแม้เธอจะเจอพ่อแม่ของเขาแล้วก็ตามแต่นั่นก็เพียงชั่วครู่ไม่ถึงวัน อีกทั้งวันนี้เธอต้องไปบ้านของเขาอีกต่างหากหญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความฟุ้งซ่านที่พักนี้มักจะก่อตัวขึ้นได้ง่ายเหลือเกิน ก่อนจะรีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นด้วยใจสั่นไหว พลางเงยหน้ามองนาฬิการอคอยเวลาที่จะได้พบพ่อแม่ของคิณณ์อีกครั้งเมื่อรถหรูเคลื่อ

    Last Updated : 2025-03-18
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 53

    ภายใต้แสงแดดยามเช้าอ่อน ๆ กลิ่นหอมละมุนของดอกพุดซ้อนลอยล่องไปตามสายลม อากาศแจ่มใสเป็นใจให้กับฤกษ์งามยามดี คิณณ์ในชุดสูทสีครีมเข้าชุดกับกางเกงขายาว ผมถูกเซตขึ้นอย่างประณีต ยิ่งขับให้บุคลิกดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มแห่งความสุข มือหนากอบกุมพานธูปเทียนแพไว้แน่นขณะก้าวเดินนำขบวนขันหมากไปยังบ้านเรือนไทยของเจ้าสาวเสียงดนตรีบรรเลงแห่ขันหมากดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและรอยยิ้มแห่งความยินดี ไอย์ลดาและวินตรัยก้าวตามลูกชายมาอย่างสง่างามเตรียมพร้อมสำหรับค่าผ่านทางของประตูเงินประตูทอง ซึ่งมีหนูนาและรินทร์ในชุดไทยห่มสไบสีชมพูกลีบบัว ยืนรอเป็นด่านแรก“จะผ่านด่านนี้ได้เจ้าบ่าวต้องตะโกนบอกรักเจ้าสาวนะคะ ยิ่งดังมากแสดงว่ารักมาก” รินทร์เอ่ยเสียงทะเล้น ดวงตาพราวระยับ ในเมื่อนี่คือโอกาสเธอจึงต้องรีบฉวยโอกาสแกล้งพี่ชายในวันสำคัญของเขาอย่างเต็มที่!“ยัยรินทร์ให้มันน้อยๆหน่อย” เสียงลอดไรฟันเอ่ยกระซิบน้องสาวที่แกล้งเขาไม่เข้าเรื่อง“ทำสิคะเจ้าบ่าวหรือไม่รักเจ้าสาว” รินทร์หาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จงใจยั่วโมโห“แกรับเงินไปแล้วปล่อยพี่เข้าไปเดี๋ยวนี้!”“ไม

    Last Updated : 2025-03-18
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 1

    ท่ามกลางร่มไม้เขียวขจีข้างริมสระน้ำ ใต้ร่มไม้มีหญิงสาวร่างท้วมคนหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อน หญิงสาวแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาตัวโคร่งใส่กระโปรงพลีทยาวคลุมข้อเท้า ดวงตาภายใต้กรอบแว่นหนากำลังสอดส่องเหมือนหาใครอยู่ “ลัลน์จ๋าาา ฉันมาแล้วขอโทษนะที่มาช้าพอดีว่าติดธุระ ขอโทษที่ทำให้แกรอนานนะ” สาวเจ้าร่างบางหน้าตาคมสวย ใส่ชุดนักศึกษาวิ่งกระหืดกระหอบพลางตะโกนเรียกหาเพื่อนรักซึ่งกำลังนั่งรออยู่ “หนูนานี่นะตลอดเลย น่าน้อยใจชะมัด” “โอ๋ๆๆๆ ไม่โกรธนะจ๊ะลัลน์จ๋า ทำแก้มป่องๆแบบนี้เดี๋ยวพี่มาร์คจะไม่รักนะ” หนูนากล่าวไปพลางหยิกแก้มลัลน์ไปด้วยความเอ็นดู “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่มาร์คเขาเล่า” ลัลน์ว่าพลางหน้าแดงขวยเขินเมื่อหนูนาเอ่ยถึงแฟนหนุ่มของตน “แหมๆๆ อิจฉาคนรักกันหวานชื่นเนอะ เมื่อไหร่ฟ้าจะส่งผู้ชายหน้าตาดีแบบพี่มาร์คมาให้ฉันซักคนบ้าง” “ไม่ต้องมาทำแซวเลยมาคุยธุระของเรากันดีกว่า เราไปติดต่อกับทางคณะเรื่องฝึกงานแล้ว เห็นว่าให้ส่งเอกสารฝึกงานภายในอาทิตย์หน้า ว่าแต่หนูนาจะไปฝึกสำนักงานอัยการจังหวัดจริงใช่ไหม แกไม่คิดเปลี่ยนใจไปสำนักงานทนายความกั

    Last Updated : 2024-11-21
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 2

    เมื่อหญิงสาวมาถึงหน้าห้องแฟนหนุ่มแล้วจึงกดรหัสเข้าห้องไปในห้อง แต่เมื่อลัลน์เปิดประตูห้องเข้าไปกลับเจอรองเท้าส้นสูงสีแดงของผู้หญิงวางระเกะระกะ เมื่อไล่สายตาไปตามทางเดินกลับมีเสื้อผ้าชายหญิงที่ถอดทิ้งไว้อย่างไม่ไยดี เสียงเนื้อกระทบเนื้อปนกับเสียงครางของชายหญิงดังลั่นห้อง หญิงสาวกลั้นใจเดินไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อให้เห็นถึงความจริง“อ๊าส์ อ๊าส์ อื้อออ มาร์คขาา อ๊ะส์ ญดาเสียวจังเลย อ๊าส์ๆๆ”พลั่บๆๆๆๆๆ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง“ฮึม ซี๊ดดด ตอดอีกดา อืมม แม่งเอามันชิบ”หญิงสาวผมยาวสีทองกำลังขึ้นขี่ขย่มมาร์คอย่างเมามัน ชายหนุ่มครางในลำคอยึดสะโพกญดาแทงเอ็นตอกสวนร่องฉ่ำ ปากจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มโดยไม่รู้เลยว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญกำลังรับชมหนังสดนี้อยู่“พะ พะ พี่มาร์คคะ” ลัลน์เรียกมาร์คด้วยเสียงอันสั่นเครือ น้ำตาไหลเต็มนองหน้าสาว ทำให้กิจกรรมเข้าจังหวะระหว่างมาร์คกับญดาพลันชะงักลง“ว้ายยย นังบ้าแกเข้ามาในห้องของคนอื่นได้ยังไง ไม่มีมารยาท!!!” ญดากรีดร้องเสียงดัง มือขาวควานหาผ้ามาคลุมร่างกายขาวผ่องไว้“ละ ลัลน์ ” ชายผู้ก่อเรื่องสร้างปัญหาเรียกแฟนสาวของตนเสียงค่อย พลางอ้ำอึ้งน้ำล

    Last Updated : 2024-11-21
  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 3

    ภายในห้องพักผู้พิพากษามีเพียงชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคมคาย ร่างกายหนากำยำภายใต้เชิ้ตสีขาวนั่งอ่านสำนวนคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนอยู่บนโต๊ะอยู่ในห้องเพียงลำพัง เมื่อมีเสียงประตูห้องเปิดเข้ามาชายหนุ่มจึงเงยหน้าจากเอกสาร มองชายอายุอานามประมาณสี่สิบกว่าสวมชุดครุยผู้พิพากษาเปิดประตูเข้ามาในห้องพักแล้วจึงเดินไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตน “พี่บอกหลายครั้งแล้วนะคิณณ์ ไอ้อาการเย็นชาไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเนี่ยให้ลดๆ ซะบ้าง ทุกวันนี้นอกจากพี่แล้วก็ไม่มีใครกล้าคบค้าสมาคมกับแกแล้วนะ เป็นแบบนี้การทำงานมันจะลำบากเอานะ” ณรงค์ผู้พิพากษาซึ่งเป็นทั้งพี่เลี้ยงและผู้พิพากษาบัลลังก์เดียวกับคิณณ์บ่นกับพฤติกรรมของชายหนุ่มที่ไม่เคยจะสนใจอะไร แต่ก็นับว่าดีขึ้นกว่าห้าปีที่แล้วนักที่เขายอมลดความเย็นชาลงและยอมพูดจากับคนแปลกหน้าบ้าง ไม่เช่นนั้นตอนนี้คงไม่มีผู้พิพากษาที่ชื่อคิณณ์ณภัทรมานั่งพิจารณาคดีร่วมกับเขาได้!!!“ผมว่าผมพูดไปมากแล้วนะครับพี่ณรงค์” กล่าวจบก็ก้มหน้าเซ็นเอกสารของตนปล่อยให้คนพูดโมโหอยู่คนเดียว“เออ!!! ใช่ที่นายพูดมากขึ้นน่ะนายพูดถูก แต่ไอ้อาการเย็นชาทำตัวน่ากลัวเมื่อไหร่จะปรับลดให้เป็

    Last Updated : 2024-11-21

Latest chapter

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 53

    ภายใต้แสงแดดยามเช้าอ่อน ๆ กลิ่นหอมละมุนของดอกพุดซ้อนลอยล่องไปตามสายลม อากาศแจ่มใสเป็นใจให้กับฤกษ์งามยามดี คิณณ์ในชุดสูทสีครีมเข้าชุดกับกางเกงขายาว ผมถูกเซตขึ้นอย่างประณีต ยิ่งขับให้บุคลิกดูสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาประดับรอยยิ้มแห่งความสุข มือหนากอบกุมพานธูปเทียนแพไว้แน่นขณะก้าวเดินนำขบวนขันหมากไปยังบ้านเรือนไทยของเจ้าสาวเสียงดนตรีบรรเลงแห่ขันหมากดังก้องไปทั่วบริเวณ บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นและรอยยิ้มแห่งความยินดี ไอย์ลดาและวินตรัยก้าวตามลูกชายมาอย่างสง่างามเตรียมพร้อมสำหรับค่าผ่านทางของประตูเงินประตูทอง ซึ่งมีหนูนาและรินทร์ในชุดไทยห่มสไบสีชมพูกลีบบัว ยืนรอเป็นด่านแรก“จะผ่านด่านนี้ได้เจ้าบ่าวต้องตะโกนบอกรักเจ้าสาวนะคะ ยิ่งดังมากแสดงว่ารักมาก” รินทร์เอ่ยเสียงทะเล้น ดวงตาพราวระยับ ในเมื่อนี่คือโอกาสเธอจึงต้องรีบฉวยโอกาสแกล้งพี่ชายในวันสำคัญของเขาอย่างเต็มที่!“ยัยรินทร์ให้มันน้อยๆหน่อย” เสียงลอดไรฟันเอ่ยกระซิบน้องสาวที่แกล้งเขาไม่เข้าเรื่อง“ทำสิคะเจ้าบ่าวหรือไม่รักเจ้าสาว” รินทร์หาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จงใจยั่วโมโห“แกรับเงินไปแล้วปล่อยพี่เข้าไปเดี๋ยวนี้!”“ไม

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 52

    “หนูคะเดี๋ยววันนี้ไปบ้านพี่กันนะ” คิณณ์ซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาเงยหน้าขึ้นมองคนตัวเล็กที่กำลังสาละวนกับการเก็บเสื้อผ้าอยู่ “ตอนไหนหรือคะ” ร่างบางถึงชะงักมือ หันไปถามอย่างแปลกใจ“เก็บเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปเลยค่ะ เดี๋ยวไปค้างที่บ้านพี่เลย”“มัดมือชกเหลือเกินนะคะ”“ฮึๆ ไม่ทำแบบนี้หนูก็บ่ายเบี่ยงอีก”“พี่ไปแต่งตัวเลยค่ะเดี๋ยวคุณพ่อคุณแม่จะรอนาน” หญิงสาวรีบไล่คนพี่ที่ยังคงเปลือยอก สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว อวดมัดกล้ามแน่นที่เจ้าตัวตั้งใจฟิตมาเป็นอย่างดี ลัลน์เผลอมองเพียงครู่ก่อนจะเบือนหน้าหนี ภาพล่อตาล่อใจแบบนี้ไม่ดีต่อหัวใจเธอเลย“หนูเก็บของไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่รีบอาบแล้วเราไปบ้านกัน” คำว่าบ้านทำให้คนน้องหัวใจพองโต ทั้งหวั่นเกรงเมื่อต้องไปบ้านคนรักพบเจอพ่อแม่ของเขา ถึงแม้เธอจะเจอพ่อแม่ของเขาแล้วก็ตามแต่นั่นก็เพียงชั่วครู่ไม่ถึงวัน อีกทั้งวันนี้เธอต้องไปบ้านของเขาอีกต่างหากหญิงสาวสะบัดหน้าไล่ความฟุ้งซ่านที่พักนี้มักจะก่อตัวขึ้นได้ง่ายเหลือเกิน ก่อนจะรีบเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นด้วยใจสั่นไหว พลางเงยหน้ามองนาฬิการอคอยเวลาที่จะได้พบพ่อแม่ของคิณณ์อีกครั้งเมื่อรถหรูเคลื่อ

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 51

    1 ปีผ่านไปลัลน์เรียนจบเนติบัณฑิตและได้ใบอนุญาตว่าความมาภายในหนึ่งปีสร้างความภาคภูมิใจให้ทั้งครอบครัวของหญิงสาว และแน่นอนว่าคนคอยติวคอยดูแลตลอดมาภาคภูมิใจในเมียเด็กของเขาเป็นอย่างยิ่ง ทุกความสำเร็จของตัวเล็กมีเขาอยู่เคียงข้างเธอเสมอแต่ความสงบไม่อาจคงอยู่ได้นานปัญหาเข้ามาแทรกแซง คิณณ์นั้นถึงเวลาย้ายเวียนศาลไปจังหวัดอื่นซึ่งความกังวลของเขานั้น คือเขาคงไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดได้ยากเป็นเหตุให้เขาต้องห่างจากคนรัก ความกังวลที่ก่อตัวทำให้เขาเริ่มคิดถึงอนาคตของเธอมากขึ้น และสุดท้ายจึงตัดสินใจถามออกไป“หนูว่าหนูจะไปทำอะไรต่อหลังเรียนจบนะคะ”“หนูจะไปเก็บคดี แล้วเตรียมสอบผู้ช่วยต่อค่ะ”“อ้องั้นเหรอ” คิณณ์ตอบรับเสียงเรียบ แต่แววตากลับดูเคร่งเครียดจนลัลน์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“มีอะไรหรือเปล่าคะ”“พี่ต้องย้ายศาลน่ะ คราวนี้พี่ต้องไปประจำที่ศาลพิจิตร”“ย้ายศาลงั้นหรือคะ” เสียงหวานแผ่วลงจนแทบกลืนหายไปในลำคอ“อืม พี่คงต้องไปอยู่ที่นั่นสักระยะอาจมาหาเราได้น้อยลง”ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศทันที ลัลน์เม้มริมฝีปากแน่น เธอเข้าใจดีว่านี่เป็นหน้าที่ของเขา หน้าที่ที่เขาต้องทำตลอดและสิ่งนี้คือความฝันของเข

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 50

    คืนวันผันผ่าน ลัลน์เริ่มต้นเข้าเรียนที่เน พร้อมเตรียมสอบตั๋วทนายควบคู่ไปด้วย แต่กระนั้น เธอก็ยังคงพักอยู่กับคิณณ์เช่นเดิม กิจวัตรประจำวันของทั้งสองไม่เปลี่ยนแปลง ในยามเช้า ชายหนุ่มจะเป็นผู้ไปส่งเธอ ส่วนยามเย็น เขาก็ไปรับเธอกลับ เป็นเช่นนี้เรื่อยมาราวกับเป็นความเคยชินที่อบอุ่นเช้าวันนี้ก็ไม่ต่างจากวันก่อน ๆ คิณณ์ขับรถมาส่งลัลน์ที่เนตามปกติ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวลงจากรถ เธอหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มซุกซน ก่อนยกนิ้วเรียวยาวแตะที่แก้มสากของเขาเป็นเชิงบอกใบ้“ที่รัก ลืมอะไรไปหรือเปล่าคะ?”ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนรอยยิ้มบางจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า ขณะที่ลัลน์โน้มตัวเข้าไปใกล้ จรดริมฝีปากลงบนแก้มของเขาอย่างแผ่วเบา สูดดมกลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย“ขับรถดี ๆ ตั้งใจทำงานนะคะ” เธอกระซิบเบา ๆ ราวกับจะส่งมอบพลังใจให้เขาตลอดทั้งวัน“ตั้งใจเรียนนะคะ เรียนไม่ไหวก็นอนเลย” คิณณ์หัวเราะในลำคอ ก่อนเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนรักเบา ๆ“นี่คือคำแนะนำของผู้พิพากษางั้นหรือคะ” หญิงสาวเบ้ปาก ขยับถอยเล็กน้อยก่อนเลิกคิ้วมองเขาอย่างแปลกใจ“ถ้าไม่มีสมาธิจะเรียนสู้ไปหลับให้สมองปลอดโปร่งไม่ดีกว่าเหรอ”“จะเก็บคำแนะนำนี

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก Nc25+

    เมื่อมาถึงคอนโดของชายหนุ่ม เวลาก็ล่วงเลยไปจนเกือบสามทุ่ม การจราจรที่ติดขัดทำให้ทั้งสองทำได้เพียงสั่งอาหารมากินแทนการออกไปทานข้างนอก หญิงสาวใช้ปลายนิ้วบรรจงแกะเนื้อปลานิลทอดออกจากก้างอย่างประณีต ก่อนวางลงบนจานของชายหนุ่มพลางเอ่ยเสียงใส“ปลานิลทอดอร่อยดีนะคะพี่คิณณ์” “หนูชอบก็กินเยอะๆสิคะ” คิณณ์ละสายตาจากจานอาหาร มองคนตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนโยน“ของดีต้องแบ่งกันชิมสิคะ” รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้างามเปี่ยมไปด้วยความสุข“ถ้าอย่างนั้นเราต้องผลัดกันชิมแล้วล่ะ” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาคมพราวระยับอย่างสื่อความหมาย“เหนื่อยขนาดนี้ยังมีแรงหื่นอีกหรือคะ”“พี่อดมาสามเดือนแล้วนะคนดี” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน พลางส่งสายตาเว้าวอน คนน้องหน้าแดงซ่าน รีบตักข้าวใส่ปากเหมือนตั้งใจจะกลบเกลื่อนความรู้สึก แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้เขายิ่งจ้องเธอไม่วางตา“ทานข้าวค่ะ พูดเรื่องนั้นเวลาทานข้าวได้ยังไงคะ”“พี่พูดได้ทุกตอนเลยนะ ไม่กินข้าวแล้วทำตอนนี้ยังได้เลย” เขากระซิบหยอกเสียงพร่า แต่ยังไม่ทันจะขยับเข้าใกล้ คนตัวเล็กก็ส่งสายตาดุมาให้ราวกับเตือนว่าอย่าคิดลองดี ชายหนุ่มชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือก

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 48

    เป็นเวลาสามเดือนกว่าแล้วที่คิณณ์เทียวไปมาระหว่างที่ทำงานกับบ้านของลัลน์จนกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ทุกวันศุกร์เขาจะขับรถมาบ้านลัลน์และกลับไปในเช้าวันจันทร์ เขายังคงรับหน้าที่ช่วยงานในสวนตามปกติ เพราะครอบครัวของลัลน์ทำสวนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก หรือพืชไร่ ทำให้เขาได้เรียนรู้งานใหม่ๆ พลอยสนุกไปด้วย สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลานี้คือ คิณณ์ไม่ได้พักที่กระท่อมท้ายสวนอีกต่อไป เขาได้ย้ายขึ้นมานอนในบ้านของครอบครัวลัลน์แล้ว วันนี้เขาเข้าสวนมะพร้าวเพื่อทำการเก็บเกี่ยวมะพร้าวน้ำหอม คิณณ์ทำการใช้ตะขอสอยทะลายมะพร้าวให้ลงกับร่องคูน้ำที่ขุดไว้เพื่อลดความเสียหายจากการกระแทกอีกทั้งยังทุ่นแรงในการขนย้ายด้วย “เดี๋ยวนี้ทำคล่องเชียวนะครับ” ลุงสมชัยซึ่งคอยสอนงานเขาเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าที่ลูกเขยนายของตนขยันขันแข็งหัวไวเช่นนี้ “คนเราต้องมีพัฒนาบ้างครับ” คิณณ์ยกยิ้มรับคำชมของลุงสมชัย ขณะวางตะขอลงแล้วใช้ผ้าขนหนูที่พาดไหล่เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า "ดีครับดี อย่างนี้สิถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งลูกเขยนายหัว" ลุงสมชัยหัวเราะเสียงดัง พลางตบไหล่คิณณ์เบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “น้ำเย็นๆมาแล้วค่า” เสียง

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 47

    กว่าคิณณ์จะเลื่อยไผ่เสร็จและช่วยคนงานขนขึ้นรถก็เป็นเวลาเย็นย่ำพอดี แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันสาดส่องลอดผ่านกิ่งใบของต้นไม้ใหญ่ ที่ใต้ร่มเงานั้นมีหญิงสาวคนรักของเขายืนส่งยิ้มหวานให้กำลังใจไม่ห่าง ชายหนุ่มที่เปื้อนไปด้วยเหงื่อและฝุ่นไม้รีบปรี่ตรงไปหาคนน้องทันทีเมื่อเสร็จงาน “ทานน้ำหวานสักหน่อยนะคะ” ลัลน์ส่งแก้วน้ำแดงเย็นชื่นใจให้เขาทันที แต่คิณณ์กลับยกมือหนากุมมือนุ่มนิ่มของเธอไว้ พร้อมป้อนเข้าปากตัวเองอย่างอารมณ์ดี “น้ำหวานเหมือนเมียพี่เลย” เขายิ้มกริ่มหยอกล้อ ทำให้คนตรงหน้าเขินจนต้องหลบสายตา ใบหน้าเนียนขึ้นสีระเรื่อก่อนจะก้มหน้างุดไปกับคำหวานของคนรัก “เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ พี่คงเหนียวตัวแย่” ลัลน์พูดรัวเร็วราวกับจะหาทางเปลี่ยนเรื่อง ก่อนรีบชวนเขากลับบ้านโดยไม่รอฟังคำตอบ คิณณ์ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของคนตัวเล็กที่เดินหนีเขาไปยืนรออยู่ที่รถ ดวงตาคมทอดมองด้วยสายตาเอ็นดูและอบอุ่น ก่อนจะก้าวขาตามเธอไปเงียบๆ วันนี้ทั้งเหนื่อยล้าและร่างกายเมื่อยล้ามาทั้งวัน เขาก็หวังเพียงให้มีเรื่องดีๆ ที่ช่วยเติมเต็มหัวใจเขาสักหน่อย เมื่อถึงบ้านหนุ่มสาวสองคนขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามา เสียงหมาในบ้านเห่าเตือนใน

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 46

    “แค่นี้ก็ลุกมากินเองไม่เป็นรึไง” พงษ์ทวีอดกระแนะกระแหนชายหนุ่มกำยำตรงหน้าไม่ได้ “ขอโทษด้วยครับ” ชายหนุ่มไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไรไปนอกเสียจากขอโทษผู้ใหญ่ที่ทำให้ต้องรอเสียมากกว่า คำขอโทษของเขามีความจริงใจ ไม่ใช่เพียงเพราะมารยาท แต่เพราะเขารู้สึกผิดจริงที่ทำให้พ่อของลัลน์ต้องรอ ตามปกติทุกวันเขาเป็นคนตื่นเช้าเสมอ ทว่าค่ำคืนที่ผ่านมากว่าที่เขาจะข่มตาหลับลงได้ก็เกือบย่ำรุ่ง จึงไม่แปลกที่วันนี้เขาจะตื่นสายจนผิดวิสัย “ไม่เป็นไรหรอก แม่ก็พึ่งทำกับข้าวเสร็จเองไม่ช้าไปหรอก” มุกลดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน พลางส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างเอ็นดูช่วยปลอบใจว่าที่ลูกเขยคนนี้ “มาค่ะพี่คิณณ์ ข้าวต้มฝีมือคุณแม่อร่อยไม่แพ้เมื่อวานเลยนะคะ” หญิงสาวอวดสรรพคุณโชว์ฝีมือแม่เสร็จสรรพพร้อมฉีกยิ้มอย่างน่ารักให้คนข้างกาย “อวดเหมือนตัวเองทำเลยนะ” “พี่คิณณ์อ่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว” คนน้องสะบัดหน้าหนีอย่างน่าเอ็นดู ตักข้าวต้มปลาร้อนๆ เข้าปากอย่างแง่งอน พลางทำเป็นไม่สนใจคนตัวโตข้างกาย คิณณ์มองหญิงสาวตักข้าวเข้าปากด้วยสายตาเอ็นดู อดยิ้มบางๆ กับท่าทางน่ารักของเธอไม่ได้ ก่อนจะจับช้อนคนข้าวในชามของตัวเองให้เย็นลง แล้

  • ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก   ท่านคะ ทำแบบนี้เห็นทีจะหลงรัก 45

    “ไม่ต้องพิสูจน์ ฉันไม่อนุญาต!” พงษ์ทวีเอ่ยปฏิเสธเสียงเข้ม น้ำเสียงแข็งกร้าวของเขาทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันทันที ไม่มีช่องว่างให้ชายหนุ่มตรงหน้าได้เอ่ยคำใดโต้กลับ “คุณน้าครับ ผมจริงจังกับลัลน์นะครับ ผมไม่ได้อยากทิ้งขว้างอะไรลูกคุณน้าเลย ผมแค่อยากดูแลเธอตลอดไปเท่านั้น” คิณณ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและแฝงความอ่อนน้อม ทำให้พงษ์ทวีเงียบไปดวงตาคมจ้องมองชายหนุ่มนิ่งงัน ราวกับพยายามอ่านความนัยในคำพูดเหล่านั้น แต่ท่าทีของเขายังคงตึงเครียด “พ่อคะ หนูรักพี่คิณณ์จริงๆนะคะพ่อ” ลัลน์เอ่ยขึ้นน้ำเสียงสั่นเครือปนความเว้าวอน จ้องมองพ่อด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง ทั้งหวังให้เขาเข้าใจและยอมเปิดใจสักครั้ง “ลูกน่ะรักเขาพ่อรู้ แต่เขาน่ะรักลูกเหมือนที่ลูกรักเขาไหม” “รักสิคะ ที่ผ่านมาพี่เขาดูแลหนูมาตลอด ทั้งเรื่องฝึกงานและการสอบ พี่เขาช่วยเหลือหนูทุกอย่างเลยนะคะ” “แกจะบอกสิ่งที่เขาทำแค่นั้นคือเขารักแกแล้วงั้นเหรอ” พงษ์ทวีขมวดคิ้วเข้ม จ้องมองลูกสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “ยามเจ็บป่วยพี่เขาก็ดูแลหนูนะคะพ่อ” หญิงสาวเขยิบตัวไปนั่งใกล้ๆพ่อของตน พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนมาให้ “งั้นเขาเคยพาล

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status