Share

บทที่ 159

Author: พิณเคล้าสายฝน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เยี่ยเป่ยเฉิงไม่อยากอยู่ในจวนโหวชั่วคราว ดังนั้นจึงออกจากจวนแล้วตรงไปที่ค่ายทหาร

เขาไม่รู้ว่าจะระบายความโกรธได้ที่ไหน แต่เขารู้ว่า เวลานี้เขาไม่ควรอยู่ในจวนโหว

เขาคิดที่จะไปที่สนามฝึกซ้อมเพื่อชกกับรองแม่ทัพ ฝึกทหาร และยิงธนู!

ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาจะเผชิญหน้ากับหลินซวงเอ๋อร์ไม่ได้อีก!

คิดไม่ถึงว่า ทันทีที่เขาออกจากจวนโหว ก็พบกับฉีหมิงอยู่ที่นอกประตู

ใบหน้าที่หล่อเหลาของเยี่ยเป่ยเฉิงเคร่งขรึมลง

ตอนนี้มันจบล่ะ แม้แต่กะจิตกะใจที่จะไปค่ายทหารก็ไม่มี!

ไม่รู้ว่าฉีหมิงรออยู่ข้างนอกประตูจวนนานแค่ไหนแล้ว เมื่อเขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงออกมา นัยน์ตาของเขาก็สว่างขึ้น และรีบเข้าไปทักทายทันที

เยี่ยเป่ยเฉิงมีใบหน้าที่เคร่งขรึม มองเขาด้วยสีหน้าท่าทางที่ไร้ความรู้สึก และไม่อยากคุยกับเขาเลย

ฉีหมิงเดินไปที่ตรงหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง ทำความเคารพเยี่ยเป่ยเฉิงก่อน แล้วกล่าวว่า: "ในวันนั้นที่ข้าขอรางวัล ท่านอ๋องยังไม่ได้รับปากเลย"

น้ำเสียงของเขาไม่ถ่อมตัวและไม่หยิ่งผยอง ไม่ช้าไม่เร็ว แต่ทุกคำพูดเต็มไปด้วยความเร่งรัด

นี่เป็นครั้งแรกที่เยี่ยเป่ยเฉิงสัมผัสได้ถึงรสชาติของการถูกคนบีบบังคับ

เขาขมวดคิ้วลึกทันที

ในง
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 160

    เขาขี่ม้ามาถึงจวนไป๋พ่อบ้านดูแลจวนก็รีบออกมาต้อนรับเยี่ยเป่ยเฉิงโยนบังเหียนให้พ่อบ้าน แล้วเดินจ้ำอ้าวเข้าไปในจวน“ไป๋อวี้ถังอยู่ไหน? ข้ามีเรื่องอยากจะคุยกับเขา!”พ่อบ้านพูดกระอึกกระอัก พลางสั่งให้คนรับใช้จัดการม้าของเยี่ยเป่ยเฉิง พลางนำทางเยี่ยเป่ยเฉิงไปที่ลานด้านใน"ท่านอ๋องได้โปรดตามข้าน้อยมา นายท่านของข้าน้อยอยู่ลานด้านใน"พวกเขาทั้งสองเดินมาที่ลานด้านในทีละคน ยังไม่ทันได้เข้าไปในประตู ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนหนึ่งมาจากข้างในเยี่ยเป่ยเฉิงหยุดเดินเล็กน้อย และรู้สึกสงสัยมีเสียงผู้หญิงในลานจวนของไป๋อวี้ถัง?เขามองพ่อบ้าน แล้วกล่าวด้วยความสงสัยว่า “ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่? มีผู้หญิงอยู่ข้างใน?”พ่อบ้านรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อย และไม่รู้จะอธิบายอย่างไรอยู่ครู่หนึ่งเขายังรู้สึกว่าช่วงนี้นายท่านของเขาผิดปกติไปเล็กน้อยเขาที่ไม่เคยมีผู้หญิงอยู่ข้างกายเลย แต่ในช่วงเวลานี้กลับขลุกอยู่กับผู้หญิงทุกวัน“ท่านอ๋อง เข้าไปดูเองเถิด ข้าน้อยไม่รู้จะว่าพูดอย่างไร”เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว และผลักเปิดประตูออกเมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาเห

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 161

    ไป๋อวี้ถังจะไปฟังคำพูดเสียดสีของเขาออกได้อย่างไร เขาดื่มเหล้าที่อยู่ในแก้วหมดจอก แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความขมขื่นว่า: "สหายเยี่ยไม่ใช่ข้า จะไปเข้าใจความเจ็บปวดของข้าได้อย่างไร"ความรู้สึกที่อยากจะสัมผัสแต่สัมผัสไม่ได้ อยากจะรักก็รักไม่ได้ เยี่ยเป่ยเฉิงจะไปเข้าใจได้อย่างไร?ท้ายที่สุดแล้ว คนที่เยี่ยเป่ยเฉิงต้องการที่จะครอบครอง ก็เป็นคนที่เขาต้องการมากที่สุดเช่นกันเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกว่าวันนี้ไป๋อวี้ถังผิดปกติไปจริงๆ หลังจากนึกถึงเรื่องนี้แล้ว เขาก็เริ่มคาดเดาในใจเขามองไปที่ไป๋อวี้ถัง แล้วกล่าวว่า "ทำไม?สหายไป๋ไม่ได้เจอหญิงสาวที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบคนนั้นเลยหรือ?"รู้แล้วยังจะมาถามอีกไป๋อวี้ถังเหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิง ถอนหายใจเบาๆจนแทบจะสังเกตไม่เห็น "เป็นไปตามที่เจ้าต้องการ ตามที่คุณต้องการ ต้นเหล็กอายุพันปีไม่ง่ายเลยที่จะออกดอกบานสะพรั่งหนึ่งหน แต่พอบานก็ร่วงโรยทันที"เป็นไปตามที่คาดคิดเอาไว้ แต่ในฐานะที่เป็นสหายกันมาหลายปี เยี่ยเป่ยเฉิงก็ทนไม่ได้ที่จะปล่อยให้เขาอยู่ตัวคนเดียวเขารู้จักไป๋อวี้ถังคนนี้เป็นอย่างดี เขาเป็นเหมือนลาที่ดื้อรั้น เมื่อเขาแน่วแน่ในเรื่องอะไรแล้วจะ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 162

    เมื่อเอ่ยถึงหลินซวงเอ๋อร์ เยี่ยเป่ยเฉิงก็รู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจเขาเกือบลืมความตั้งใจเดิมที่จะมาหาไป๋อวี้ถังในวันนี้แล้ว เดิมทีอยากจะให้เขาดื่มกับตนเองเพื่อแก้เซ็งเมื่อเห็นว่าเขาอารมณ์ไม่ดี ไป๋อวี้ถังจึงถามว่า "วันนี้สหายเยี่ยมาหาข้า ไม่ใช่แค่มาเพื่อเยี่ยมเยียนข้าหรอกใช่ไหม?"ไป๋อวี้ถังไม่เชื่อว่าเขาจะปรารถนาดีขนาดนี้!เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ข้าอารมณ์ไม่ค่อยดี"ไป๋อวี้ถังกล่าวว่า: "เป็นเพราะหลินซวงเอ๋อร์?"นอกจากนางแล้ว ไป๋อวี้ถังก็นึกถึงใครไม่ออกอีก“ได้ยินมาว่าจ้วงหยวนคนใหม่ปฏิเสธรางวัลองค์จักรพรรดิต่อหน้าเหล่าขุนนางทั้งหลาย และอยากจะขอแค่สาวรับใช้คนหนึ่งกับเจ้า” ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักไปชั่วคราว มองดูเขา แล้วกล่าวว่า "คนที่ฉีหมิงต้องการ คือหลินซวงเอ๋อร์หรือ?"ทันทีที่พูดจบ เขาก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเยี่ยเป่ยเฉิงเคร่งขรึมลงเขาเดาถูกแล้วเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหยุดหงิดเล็กน้อย: " นางต้องการออกจากจวนโหว จากนั้นก็ฌไปหาฉีหมิง!"ไป๋อวี้ถังเงียบไปเขาได้ยินมานานแล้วว่า ฉีหมิงและหลินซวงเอ๋อร์ได้หมั้นกันตั้งนานแล้ว ทั้งสองผูกสมัครรักใคร่กัน คนหนึ่งอยากจะสู่ขอ อีกคนก็อยากจะแต่ง มันก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 163

    เยี่ยเป่ยเฉิงกวาดสายตามองอย่างเมินเฉยหญิงสาวคนแรกมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม แต่ผิวพรรณของนางไม่ขาวอ่อนโยนเท่าหลินซวงเอ๋อร์หญิงสาวคนที่สองผิวพรรณขาวอ่อนโยน แต่มีหน้าตาที่ไม่สะสวยเท่าหลินซวงเอ๋อร์หญิงสาวคนที่สามหน้าตาดี แต่นัยน์ตาไม่สุกใสเท่าหลินซวงเอ๋อร์ เมื่อมองดูเนื้ออันผอมบางบนร่างกายของนางแล้ว เวลาโอบกอดก็คงจะไม่นุ่มนวลเท่ากับหลินซวงเอ๋อร์อย่างแน่นอน....เลือกแล้วเลือกอีก ก็ไม่พึงพอใจใครสักคน! ไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีความปรารถนาแบบนั้นต่อพวกนาง!ไป๋อวี้ถังกล่าวว่า: "ไม่ชอบใครสักคนเลยหรือ?"เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนซื่อตรง จึงกล่าวตามตรงว่า: "ไม่มี"ทันทีที่พูดจบ ก็เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่าอย่างกะทันหันนอกหน้าต่าง ในไม่ช้าฝนก็เริ่มตกหนักไป๋อวี้ถังกล่าวว่า "ตอนที่ออกมาข้างนอกไม่ทันได้สังเกตเลยว่า สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้"เยี่ยเป่ยเฉิงมองดูท้องฟ้าที่มืดครึ้ม จู่ๆรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยเมื่อที่เขาออกมา เขาแค่พูดไปประโยคหนึ่งเพราะความโกรธ สาวน้อยผู้โง่เขลาคนนั้น คงจะไม่จริงจังใช่ไหม?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็ไม่มีกะจิตกะใจที่จะอยู่ต่อ เขาลุกขึ้นและกำลังจะจากไป หญิงสาวหอจุ้ยชุนก็ร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 164

    เมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มนางกลับไปที่เรือนฝั่งตะวันออก เขาก็พบกับตงเหมย“ท่านอ๋อง ซวงเอ๋อร์เป็นอะไรหรือ?” ตงเหมยเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เป็นกังวล เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์หมดสติ จึงวางฝ่ามือบนหน้าผากของนาง แล้วอุทานว่า: "โอ้สวรรค์ เหตุใดถึงได้ร้อนขนาดนี้! "เยี่ยเป่ยเฉิงเพิกเฉยต่อนาง เดินตรงผ่านตงเหม่ย จากนั้นก็เตะประตูเรือนอวิ๋นซวนให้เปิดออก อุ้มนางเข้าไปในห้อง และสั่งให้ตงเหมยไปตามหมอมาตงเหมยมองดูสีท้องฟ้า เห็นว่าฝนยังคงตกหนักอยู่ แม้ว่านางจะไปเชิญหมอมา แต่อีกสักครู่ใหญ่ๆก็คงจะมาไม่ถึงเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์เปียกโชกไปทั้งตัว ก็เห็นได้ชัดว่าไข้สูงเกิดจากความเย็นที่เข้าสู่ร่างกายด้วยความที่สถานการณ์เร่งด่วน ตงเหมยจึงเพิกเฉยต่อกฏมารยาท ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ท่านอ๋อง ซวงเอ๋อร์เปียกฝน ความเย็นคงจะเข้าสู่ร่างกาย ข้าขอแนะนำว่าให้ใช้น้ำร้อนแช่ร่างกาย เพื่อขับลมเย็นออกจากร่างกายก่อน"เมื่อได้ยินตงเหมยพูดเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็มองไปที่นาง แล้วพูดว่า "เจ้ามีวิธีไหม?"ตงเหมยก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเยี่ยเป่ยเฉิงวางนางเอาไว้บนเตียงแล้ว แถมยังห่มผ้าห่มหนาๆให้นาง ก็อดไม่ได้ที่จ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 165

    ข้างนอกฝนตกหนัก แต่ข้างในกลับร้อนอบอ้าวเยี่ยเป่ยเฉิงปลดเข็มขัดออก เสื้อผ้าที่งดงามถูกเปลื้องออกทีละชิ้น เผยให้เห็นหน้าอกที่แข็งแกร่งล่ำสันของเขาเขาอุ้มหลินซวงเอ๋อร์แล้วลงไปแช่ตัวในอ่างด้วยกันอ่างอาบน้ำมีขนาดใหญ่มาก ทั้งสองคนจึงแช่ในอ่างได้โดยไม่มีปัญหา แถมยังมีพื้นที่ว่างอีกด้วยเพียงแต่ว่่าหลินซวงเอ๋อร์อ่อนแอมาก จนนางไม่สามารถนั่งคนเดียวในนั้นได้เยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มนางไว้ในอ้อมแขน และปล่อยให้นางนั่งอยู่บนตักของตนเอง ทำให้หน้าอกที่แข็งแกร่งของเขาแนบไปกับแผ่นหลังของนางเพื่อขับไล่ความเย็นในร่างกายของนาง ตงเหมยจึงตั้งใจต้มน้ำร้อนให้เดือดความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก นางขมวดคิ้ว และดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยเป่ยเฉิงสุดฤทธิ์ ทำให้มือทั้งสองข้างของนางตบไปมั่วซั่วไม่รู้ว่าว่าไปสัมผัสตรงไหนของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ จึงค่อยๆกระชับแขนทั้งสองข้าง แล้วกอดนางเอาไว้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้นางเคลื่อนไหวมั่วซั่ว“ร้อน…” หลินซวงเอ๋อร์พยายามดิ้นรน ร่างกายของนางก็กระสับกระส่ายไปมาแต่หารู้ไม่ว่า นางร้อน แต่เยี่ยเป่ยเฉิงร้อนยิ่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 166

    เดิมทีเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังหลับตาเอามือค้ำหน้าผาก แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยสามารถปลุกเขาให้ตื่นได้ในทันทีเขามองดูริมฝีปากของหลินซวงเอ๋อร์เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ราวกับว่ากำลังพึมพำอะไรบางอย่างเหมือนว่ากำลังฝันร้ายอะไรอยู่เยี่ยเป่ยเฉิงเขย่าไหล่ของนาง และพยายามปลุกให้นางตื่น แต่นาง ติดอยู่ในภวังค์แห่งฝันร้าย จึงไม่อาจตื่นขึ้นมาได้เมื่อเห็นริมฝีปากขอวนางขยับเล็กน้อย เยี่ยเป่ยเฉิงก็ค่อยๆเอนตัวไปฟัง ในที่สุดก็ได้ยินสิ่งที่นางพูดได้อย่างชัดเจน“ท่านอ๋อง……”นางกำลังเรียกตนเองอยู่หัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงเต้นเร็วขึ้น จึงตั้งใจฟังมากยิ่งขึ้น“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ ได้โปรดอย่าจากไปเลย...”เสียงของนางเต็มไปด้วยการสะอื้นไห้ และเหมือนเสียงที่กำลังอ้อนวอนเยี่ยเป่ยเฉิงจับมือนางเอาไว้อย่างระมัดระวัง และรู้สึกว่านิ้วของนาง สั่นเทาเล็กน้อย แม้แต่ทั้งร่างกายของนางก็กำลังสั่นเทาเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าถูกเข็มแทงอย่างแรงไม่รู้ว่านางฝันร้ายอะไรกันแน่ อะไรที่ทำให้นางกวาดกลัวมากขนาดนี้?ในความฝัน หลินซวงเอ๋อร์ถูกอู๋เต๋อไห่บีบคอเอาไว้แน่น รอยแส้บนร่างกายก็มีเลือดไหลออกมาทีละ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 167

    ตอนกลางคืนอากาศหนาวเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์ไม่ยอมมุดเข้าไปในผ้าห่มของตนเอง แต่โหยหาอ้อมกอดของเยี่ยเป่ยเฉิงเท่านั้นเมื่อก้มหน้ามองคนที่อยู่ในอ้อมแขน เยี่ยเป่ยเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยปกติแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับตนเองสาวน้อยคนนี้จะหลบหลีกทุกครั้ง มีแต่ตอนที่ป่วยเท่านั้น ที่นางคลานเข้ามาหาเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไร จึงเปิดผ้าห่มออก โอบกอดนางเอาไว้แล้วนอนลงไปหลินซวงเอ๋อร์หมดสติ และรู้สึกว่าบริเวณรอบๆถูกล้อมรอบไปด้วยลมหายใจอุ่นๆ และมีกลิ่นหอมของไม้จันทน์เย็นๆปะทะมาที่ใบหน้า ซึ่งมีกลิ่นหอมมากนางกระชับมือที่โอบรอบเอวของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนโยนทั้งแผ่วเบาว่า“ชอบจัง…”นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงลึกล้ำอย่างไร้ขอบเขต เขาถามนางอย่างอบอุ่นว่า: "ชอบอะไร?"หลินซวงเอ๋อร์หายใจเบาๆในอ้อมแขนของเขา เมื่อได้ยินเสียงของเขา ก็ตอบไปตามสัญชาตญาณว่า: "กลิ่นของเจ้า อ้อมแขนของเจ้า... "เสียงของนางเบามาก จนแทบไม่ได้ยิน ราวกับว่านางกำลังพูดในความฝันแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนหลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโอบกอดนางเอาไว้ นางรู้สึกแค่ว่า กลิ่น

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status