Share

บทที่ 166

Penulis: พิณเคล้าสายฝน
last update Terakhir Diperbarui: 2024-10-29 19:42:56
เดิมทีเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังหลับตาเอามือค้ำหน้าผาก แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยสามารถปลุกเขาให้ตื่นได้ในทันที

เขามองดูริมฝีปากของหลินซวงเอ๋อร์เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ราวกับว่ากำลังพึมพำอะไรบางอย่าง

เหมือนว่ากำลังฝันร้ายอะไรอยู่

เยี่ยเป่ยเฉิงเขย่าไหล่ของนาง และพยายามปลุกให้นางตื่น แต่นาง ติดอยู่ในภวังค์แห่งฝันร้าย จึงไม่อาจตื่นขึ้นมาได้

เมื่อเห็นริมฝีปากขอวนางขยับเล็กน้อย เยี่ยเป่ยเฉิงก็ค่อยๆเอนตัวไปฟัง ในที่สุดก็ได้ยินสิ่งที่นางพูดได้อย่างชัดเจน

“ท่านอ๋อง……”

นางกำลังเรียกตนเองอยู่

หัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงเต้นเร็วขึ้น จึงตั้งใจฟังมากยิ่งขึ้น

“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ ได้โปรดอย่าจากไปเลย...”

เสียงของนางเต็มไปด้วยการสะอื้นไห้ และเหมือนเสียงที่กำลังอ้อนวอน

เยี่ยเป่ยเฉิงจับมือนางเอาไว้อย่างระมัดระวัง และรู้สึกว่านิ้วของนาง สั่นเทาเล็กน้อย แม้แต่ทั้งร่างกายของนางก็กำลังสั่นเทา

เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าถูกเข็มแทงอย่างแรง

ไม่รู้ว่านางฝันร้ายอะไรกันแน่ อะไรที่ทำให้นางกวาดกลัวมากขนาดนี้?

ในความฝัน หลินซวงเอ๋อร์ถูกอู๋เต๋อไห่บีบคอเอาไว้แน่น รอยแส้บนร่างกายก็มีเลือดไหลออกมาทีละ
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 167

    ตอนกลางคืนอากาศหนาวเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์ไม่ยอมมุดเข้าไปในผ้าห่มของตนเอง แต่โหยหาอ้อมกอดของเยี่ยเป่ยเฉิงเท่านั้นเมื่อก้มหน้ามองคนที่อยู่ในอ้อมแขน เยี่ยเป่ยเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยปกติแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับตนเองสาวน้อยคนนี้จะหลบหลีกทุกครั้ง มีแต่ตอนที่ป่วยเท่านั้น ที่นางคลานเข้ามาหาเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไร จึงเปิดผ้าห่มออก โอบกอดนางเอาไว้แล้วนอนลงไปหลินซวงเอ๋อร์หมดสติ และรู้สึกว่าบริเวณรอบๆถูกล้อมรอบไปด้วยลมหายใจอุ่นๆ และมีกลิ่นหอมของไม้จันทน์เย็นๆปะทะมาที่ใบหน้า ซึ่งมีกลิ่นหอมมากนางกระชับมือที่โอบรอบเอวของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนโยนทั้งแผ่วเบาว่า“ชอบจัง…”นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงลึกล้ำอย่างไร้ขอบเขต เขาถามนางอย่างอบอุ่นว่า: "ชอบอะไร?"หลินซวงเอ๋อร์หายใจเบาๆในอ้อมแขนของเขา เมื่อได้ยินเสียงของเขา ก็ตอบไปตามสัญชาตญาณว่า: "กลิ่นของเจ้า อ้อมแขนของเจ้า... "เสียงของนางเบามาก จนแทบไม่ได้ยิน ราวกับว่านางกำลังพูดในความฝันแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนหลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโอบกอดนางเอาไว้ นางรู้สึกแค่ว่า กลิ่น

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 168

    ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สว่างเต็มที่หลินซวงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมาอย่างเงียบๆการนอนในครั้งนี้ ถือว่านางนอนหลับสนิท อาการไข้บนตัวนางก็เกือบจะหายดีแล้ว และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามากข้างนอกฝนตกตลอดทั้งคืน หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้ ที่ขูดกรอบหน้าต่างอย่างคลุมเครือ เสียงครืดคราด และแฝงไปด้วยความหนาวเย็นเพียงแต่ว่า อุณหภูมิที่อยู่ในผ้าห่มช่างอบอุ่นมากจริงๆ...หลินซวงเอ๋อร์เคลื่อนไหวอย่างเกียจคร้าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปมีลมหายใจร้อนกระทบมาที่หูของนาง ทำให้นางตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งจู่ๆนางก็นึกเรื่องอะไรบางอย่างออกเมื่อวานนี้ เห็นได้ชัดว่านางยังคุกเข่าอยู่ในลานจวน แล้วฝนก็ตกหนัก หลังจากนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็กลับมาด้วยความโกรธหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? นางจำอะไรไม่ได้เลยหลินซวงเอ๋อร์ที่จำได้บ้างไม่ได้บ้าง คราวนี้ก็ตอบสนองได้ว่า เตียงอันนี้อ่อนนุ่มกว่าเตียงของนางเป็นร้อยเท่า และอบอุ่นกว่าเป็นร้อยเท่า...ที่นี่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ห้องของนาง...หลินซวงเอ๋อร์หันศีรษะเล็กน้อย แล้วมองย้อนกลับไปสิ่งที่นางเห็นคือใบหน้าที่คุ้นเคยใบหน้าหนึ่ง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 169

    คำพูดที่จะพูดต่อไป เขายังพูดไม่จบ ก็มองนางด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจ้องมอง นางเบี่ยงเบนความสนใจด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย: "ขอบคุณท่านอ๋องดูแลข้า ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปแล้ว..."ขณะที่พูด นางก็ดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาจากบนร่างของเขาแต่เขากลับไม่ยอมปล่อยนางนางทรมานเขามาทั้งคืน คิดจะจากไปอย่างง่ายดายแบบนี้?จะเป็นไปได้อย่างไร!กลิ่นหอมอ่อนๆบนร่างกายของหญิงสาว ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงพลิกตัวแล้วกดนางเอาไว้ใต้ตัวเขา“ข้าดูแลเจ้ามาตลอดทั้งคืนแล้ว เจ้าไม่คิดจะตอบแทนข้าเลยหรือ?”เมื่อเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงเข้ามาใกล้ หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาอยากจะทำอะไร นางหน้าแดงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวด้วยหวั่นไหวว่า: "ท่านอ๋อง... นี่มันรุ่งเช้าแล้วนะคะ"กลางวันแสกๆเช่นนี้ หลินซวงเอ๋อร์ไม่เชื่อว่าเขาจะกล้า..."อูม~"เยี่ยเป่ยเฉิงไม่เปิดโอกาสให้โอกาสนางพูดอะไรอีก เขาเอาตัวทับร่างของนางเอาไว้ แล้วจูบไปที่ริมฝีปากของนางอย่างดุเดือดหลินซวงเอ๋อร์วางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกของเยี่ยเป่ยเฉิง มือขยำเสื้อผ้าของเขาอยู่ ทั้งรู้สึกตื่นตระหนกทั้งรู้สึกร้อนใจ แม้แต่การหายใ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 170

    รุ่งสางตอนที่หลินซวงเอ๋อร์ออกมาจากเรือนอวิ๋นซวน แก้มของนางแดงราวกับว่าเป็นหยดเลือดเมื่อเปิดประตู ตงเหมยก็รออยู่ในห้องตั้งแต่เช้าตรู่แล้วเมื่อเห็นว่าในที่สุดนางก็กลับมา ตงเหมยก็รีบเข้าไปทักทายก่อนที่ตงเหมยจะเอ่ยปากถาม ก็เห็นหลินซวงเอ๋อร์นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางที่อาลัยอาวรณ์ สีหน้าของนางแดงยิ่งกว่าลูกพลับเสียอีก“ซวงเอ๋อร์...เจ้ากับท่านอ๋อง …”นางพูดจากระอึกกระอัก แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า“เจ้ากับท่านอ๋องมีอะไรกันแล้วหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์ค่อยลืมตาขึ้น นัยน์ตาที่สุกใสของเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น ราวกับว่านางเพิ่งจะร้องไห้มา“เมื่อคืนเจ้ามีไข้ ไม่ได้กลับมาทั้งคืน เจ้าได้ขึ้นไปบนเตียงของท่านอ๋องหรือไม่?” ตงเหมยก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วจ้องไปที่หลินซวงเอ๋อร์อย่างไม่ละสายตาตั้งแต่ตงเหมยถูกเยี่ยเป่ยเฉิงไล่ออกมาเมื่อวาน นางก็ไม่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ออกมาเลยชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ด้วยกันในห้องตามลำพัง ตงเหมยก็นึกถึงท่าทางที่วิตกกังวลของเยี่ยเป่ยเฉิงที่มองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ ก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้อย่างคลุมเครือเมื่อได้ยินคำว่า"ท่านอ๋อง"สองคำนี้ นัยน์ตาของหลินซวงเอ๋อร์ก็ขยับ จู่ๆนางก็

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 171

    สิ่งเหล่านี้ แม่ของนางเคยสอนนางเอาไว้ จะต้องรู้สถานะของตนเอง อย่าไปคาดหวังอะไรที่ไม่ใช่สิ่งของของตนตงเหมยถอนหายใจแล้วพูดว่า: "ข้ามองออกว่า ท่านอ๋องดีกับเจ้าเป็นพิเศษจริงๆ แม้แต่ชิวจวี๋ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เมื่อคืนเจ้ามีไข้สูง ท่านอ๋องก็ดูแลเจ้าทั้งคืน"เมื่อได้ยินสิ่งที่ตงเหมยพูด หลินซวงเอ๋อร์ก็หวั่นไหวอยู่ในใจครู่หนึ่งบางครั้ง นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่เยี่ยเป่ยเฉิงมีต่อนาง แต่ความเมตตาของเขาทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงนางไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดโลภ เพราะกลัวว่าถ้านางโลภแล้ว จะติดอยู่ในภวังค์ จนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ท่านอ๋องเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงส่ง แม้ว่าเขาจะดีต่อข้า ข้าก็ควรจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณ แทนที่จะไปคาดหวังอะไรที่มันเกินตัว"อาธิเช่น ให้เขามาชื่นชอบตนเอง แล้วรับตนเองเป็นอนุภรรยาสิ่งเหล่านี้เป็นการคาดหวังเกินตัวที่ไม่ควรมีตงเหมยกลับไม่เข้าใจ: "ท่านอ๋องไม่ดีอย่างไร?เทียบกับหนุ่มจ้วงหยวนคนนั้นไม่ได้ตรงไหน?ซวงเอ๋อร์ เจ้าอย่าออกจากจวนไปเลย อยู่กับท่านอ๋องเถิด ท่านอ๋องจะคอยปกป้องเจ้า และมอบสถานะใหม่ให้แก่เจ้า ซึ่งเป็นสถา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 172

    เสวียนอู่กำลังรออยู่นอกประตู เยี่ยเป่ยเฉิงก็ผลักเปิดประตูแล้วเดินออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ดูใบหน้าของเขาไม่ได้เหนื่อยล้าเลย ในทางตรงกันข้ามกลับดูสดชื่นดูเหมือนว่า วันนี้ท่านอ๋องจะอารมณ์ดีมากเสวียนอู่เดินตามหลัง แล้วถามว่า “วันนี้ท่านอ๋องจะไปที่ไหนหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า"ไปที่เรือนด้านหน้า"เสวียนอู่ถามว่า: "จะไปแสดงคารวะนายหญิงหรือขอรับ?"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า:"ต้องแวะไปคารวะอยู่แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะต้องทำในวันนี้!"เสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับท่าน..."เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า "มีเรื่องอะไรก็เอาไว้คุยกันทีหลัง"วันนี้ เขาอยากจะจัดการเรื่องสำคัญที่อยู่ในใจก่อน! เขารอไม่ไหวแม้แต่ช่วงเวลาเดียว!ทั้งสองเดินตามกันไปจนถึงเรือนด้านหน้า เท้าหน้ายังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปในลานจวน ก็เห็นจ้าวชิงชิงกระพือปีกมาราวกับว่าเป็นผีเสื้อ"พี่เป่ยเฉิง"จ้าวชิงชิงแต่งกายด้วยชุดสีแดงเข้ม กระโดดโลดเต้นจนไปถึงที่ตรงหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้แล้วเริ่มออดอ้อนว่า: "พี่เป่ยเฉิง ชิงชิงไม่ได้เจอท่านมานา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 173

    แต่เมื่อเห็นจ้าวชิงชิงร้องไห้ เขากลับรู้สึกรำคาญ! ช่างน่ารำคาญมากจริงๆ!จ้าวชิงชิงยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้เดินจากไปแล้ว โดยที่ไม่ชายตามองนางเลย“พี่เป่ยเฉิง พี่นอชิงชิงด้วย…” จ้าวชิงชิงรู้สึกเสียใจ แต่นางยังคงติดตามเขาไปต้อยๆในเวลานั้น ห้องโถงด้านหน้าได้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อกงชิงเยวี่ยเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงมาสาย และมีสีหน้าที่ไม่เบิกบานใจ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยจ้าวชิงชิงติดตามเยี่ยเป่ยเฉิงมาถึงตรงหน้ากงชิงเยวี่ย ท่าทางของนางดูเหมือนว่ากำลังจะร้องไห้ คงจะพูดคุยกับเยี่ยเป่ยเฉิงได้ไม่ราบรื่นนักกงชิงเยวี่ยเหลือบมองเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างไม่พอใจก่อน จากนั้นก็ให้จ้าวชิงชิงนั่งข้างตน และกล่าวปลอบใจว่า: "ชิงชิง อย่าโกรธไปเลยนะ นั่งลงกินข้าวก่อน เจ้าดูอาหารบนโต๊ะนี้สิ ล้วนทำตามความชอบของเจ้าทั้งนั้น รีบชิมดูเร็ว ว่าอาหารถูกปากหรือไม่"จ้าวชิงชิงเป็นบุตรีของท่านอ๋องอานหนิง และไทเฮาคนปัจจุบันเป็นเสด็จป้าของนาง ตอนนี้เป็นท่านหญิงที่องค์จักรพรรดิแต่งตั้งด้วยพระองค์เอง!ในแง่ของสถานะ นางมีสถานะที่เท่าเทียมกันกับเยี่ยเป่ยเฉิงตอนนี้ นางก็เพิ่งจะเข้าสู่วัยแต่งงาน รูปร่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 174

    สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ตอนที่หลินซวงเอ๋อร์ออกจากจวน บนท้องฟ้าก็มีฝนตกปรอยๆ โชคดีที่ตอนออกขากจวนนางพกร่มกระดาษน้ำมันติดตัวไปด้วยทันทีที่เขาออกจากจวน นางก็พบกับฉีหมิงที่ปากทางเขายืนอยู่ข้างกำแพงลานจวน และสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวพระจันทร์ตัวหนึ่งฝนตกไม่หนัก แต่ยังทำให้เสื้อผ้าของเขายังเปียกโชกนางรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่คิดว่าเขาจะยืนรออยู่ตรงนั้นตลอดเวลา แม้ว่าฝนจะตกก็ไม่รู้จักหลบฝนเมื่อเห็นฉีหมิง หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกลังเลใจ ตะลึงอยู่กับที่ครู่หนึ่ง และไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดีนางสัญญากับเหยาซื่อแล้วว่า ตั้งแต่นี้ไปนางจะไม่ข้องแวะกับเขาอีกขณะที่นางกำลังจะหันหลังกลับแล้วจากไป หลินซวงเอ๋อร์ก็หยุดเดินอีกครั้ง สุดท้ายก็วิ่งไปข้างหน้า และยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าฉีหมิงทันทีที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ ใบหน้าที่สงบนิ่งของฉีหมิงก็เผยรอยยิ้มที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเวลานานออกมา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตั้งแต่วินาทีแรกที่หลินซวงเอ๋อร์ปรากฏตัว เขาก็อยู่ใกล้นางตลอดเวลา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปกปิดความเบิกบานใจเอาไว้ได้ว่า: "ซวงเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ออกมาพบพี่แล้ว..."เขาได้ไว้ว

Bab terbaru

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 625

    เยี่ยเป่ยเฉิงมือสั่นขณะรับขวดกระเบื้องจากตงเหมยมาเนื้อสีขาวของขวดปรากฏเงาสีแดงรำไรอยู่ด้านในตงเหมยกล่าว “ท่านอ๋องบอกว่าจะเชื่อใจนางใช่หรือไม่เจ้าคะ? ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะไม่นำไปให้องค์หญิงอีก ท่านอ๋องลองเอาเลือดซวงเอ๋อร์ไปทดสอบดูก็ได้ ว่าเป็นจริงดั่งที่นางว่าหรือไม่ ใช้รักษาโรคระบาดได้จริง!”“ถึงตอนนั้น ท่านอ๋องย่อมจะรู้เอง ว่าซวงเอ๋อร์ไม่ได้พูดโกหก...”เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกจุกในอก ในยามนี้ เขาเกิดความกลัวที่จะนำไปพิสูจน์เพราะหากว่า ทุกอย่างเป็นจริงดั่งที่ตงเหมยพูด นั่นแสดงว่าเขาทรยศต่อความไว้วางใจของหลินซวงเอ๋อร์อีกครั้งในตอนนั้น นางเคยร่ำไห้พูดกับตนว่า เลือดของนางสามารถช่วยชีวิตคนได้แล้วเขาตอบว่าอย่างไร?อ้อ นึกออกแล้วเขาเย้ยหยันไปว่านางไม่ใช่เทวดา พร้อมกล่าวตำหนิว่านางชอบทำร้ายตนเองบ่อยครั้งสวรรค์ นี่เขาเป็นอะไรไป เขาได้กระทำสิ่งใดต่อนางไปบ้าง...เสวี่ยนอู่เห็นดังนี้ จึงรีบเดินมารับขวดไปจากมือเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมกล่าวต่อเขา “ในค่ายทหารยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ข้าน้อยจะนำไปทดสอบเดี๋ยวนี้...”เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ตงเหมยจึงไม่อยากพูดมากความอีก นางหันหลังเตรียมจะจากไป กลับถูก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 624

    ตงเหมยกล่าวเสียงสะอื้น “เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใดเจ้าคะ? ในยามที่นางโดดเดี่ยวสิ้นหวัง ท่านไม่อยู่เคียงข้าง นางสูญเสียลูกไป ท่านก็ไม่อยู่เคียงข้าง และบัดนี้นางล้มป่วย ท่านก็เอาร่างนางไปอยู่บ้านนอกแทน”“เชื่อตอนนี้จะมีประโยชน์อันใด ทุกอย่างล้วนสายเกินแก้!”ตงเหมยยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห จนแทบอยากระบายความอัดอั้นที่หลินซวงเอ๋อร์ได้รับออกมาแทนนางให้หมดสิ้น“น่าเห็นใจซวงเอ๋อร์นัก...นางทำเพื่อท่าน ต้องทนกล้ำกลืนความเจ็บช้ำมากมาย ไม่เคยที่จะระบายให้ท่านฟังสักครั้ง”“คืนวันนั้น ท่านอ๋องจู่ๆ ทิ้งนางไป นางเพิ่งสูญเสียลูก ยังมีเลือดออกเต็มตัว ตอนบ่าวเปิดประตูเข้าไปเห็น รู้แต่ว่าแทบเป็นลมหมดสติ!”“บ่าวคิดจะบอกท่านให้รู้ แต่ซวงเอ๋อร์ไม่ต้องการให้ท่านเป็นห่วง นางบอกว่าท่านอ๋องเป็นคนทำงานใหญ่ ไม่ควรให้อยู่แต่ในเรือนหลัง ยิ่งกลัวว่าหากพูดไปแล้ว ท่านจะรังเกียจร่างกายที่ไม่สมบูรณ์ของนาง วันหน้าไม่อาจมีทายาทให้ท่านได้อีก”“แต่ว่า ท่านอ๋องรู้หรือไม่ ตอนสูญเสียลูกไปนั้น นางเจ็บปวดเพียงไหน ในใจรู้สึกสิ้นหวังเพียงใด?”“ท่านอ๋องเคยคิดปลอบประโลมจิตใจนางบ้างหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงยืนตะลึงตัวแข็งทื่อ เลือดใน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 623

    “ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์ ข้ากลับมาแล้ว”เยี่ยเป่ยเฉิงผลักประตูเรือนอวิ๋นซวน พร้อมเดินก้าวเข้าไปด้านใน แต่กลับพบว่าภายในว่างเปล่าผ้าห่มบนเตียงถูกพับไว้เรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็จัดวางเป็นระเบียบ ราวกับมีคนมาจัดเก็บแล้วหนึ่งรอบเมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ไม่อยู่ในห้อง เยี่ยเป่ยเฉิงก็คิดว่านางคงไปห้องหนังสือเพราะที่ผ่านมา นางมักชอบเก็บตัวในห้องนั้นเพื่อเขียนหนังสือเงียบๆ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาจึงรีบออกจากเรือนอวิ๋นซวน ตรงไปยังห้องหนังสือทันทีที่ไหนได้ ห้องหนังสือก็ไม่มีร่องรอยของนาง อุปกรณ์เครื่องเขียนบนโต๊ะจัดวางเป็นระเบียบ พู่กันที่นางเคยใช้บ่อยๆ คล้ายมีการล้างน้ำจนสะอาดสะอ้าน เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางก้าวเดินออกจากห้องหนังสือ เดินตามหาไปยังทุกห้อง ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของนางจนกระทั่งตงเหมยกลับมาจากเรือนด้านหน้าทันทีที่เห็นตงเหมย เยี่ยเป่ยเฉิงก็รีบปรี่ไปหา “ซวงเอ๋อร์เล่า นางอยู่ที่ใด?”ในมือตงเหมยถือกล่องอยู่ใบหนึ่ง เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยเป่ยเฉิง นางมิได้ตอบกลับ นอกจากยื่นกล่องในมือให้แก่เยี่ยเป่ยเฉิง“นี่คือเครื่องประดับที่ท่านอ๋องซื้อให้ซวงเอ๋อร์ ก่อนจากไป นางได้ม

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 622

    เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ท่านอ๋องกล่าวถูกต้อง ยาชนิดนี้ไม่อาจพกติดตัวได้ โดยเฉพาะยามเข้านอน ร่างกายมนุษย์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอที่สุด พิษจะซึมเข้าสู่ร่ายกายได้ง่าย...”กล่าวได้ครึ่งหนึ่ง จู่ๆ เสิ่นป๋อเหลียงคล้ายกับนึกอะไรขึ้นมา หันไปมองเยี่ยเป่ยเฉิง พร้อมถามด้วยความตกใจ “พระชายา...นางเคยบาดเจ็บหรือไม่?”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวตอบ “เคย”เดิมทีนางทำเพื่อหวังจะช่วยเขา ขึ้นเขาไปหางูดำหางไหม้เพียงลำพัง กลับมาพร้อมกับบาดแผลทั่วร่าง...เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ถ้าเช่นนั้นก็ถูกแล้ว ข้าน้อยเดาว่า อาการของพระชายา น่าจะเกี่ยวข้องกับถุงผ้านี้...”เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกในยามนี้ เขาได้กระจ่างแจ้งต่อเรื่องราวทุกอย่างมิน่าเล่า นางมักจะบอกว่าไม่อยากอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนมิน่าเล่า นางมักบอกว่ากลางคืนชอบฝันร้าย แม้เขาจะอยู่เป็นเพื่อน นางก็นอนหลับไม่สนิท...มิน่าเล่า นางเริ่มมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเอาแน่ไม่ได้มิน่าเล่า นางคิดจะฆ่าเจียงหว่านให้จงได้...ทั้งที่เมื่อก่อนนางเป็นคนอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่ายราวกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง...แต่เขากลับไม่เชื่อนาง คิดว่านั่นเพราะนางเป็นโรคเครียด เพราะป่วยหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 621

    เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “นางมิได้ตั้งใจ เพียงได้รับความกระทบกระเทือนหนัก จึงทำให้ขาดสติไป ข้าไม่เคยคิดตำหนิ”เมื่อได้ยินดังนี้ เสิ่นป๋อเหลียงก็พอคาดเดาได้บ้าง จึงหยิบผ้าพันแผลออกมา พร้อมทำแผลให้เขาใหม่ และกล่าว “เป็นฝีมือพระชายาใช่หรือไม่?”เห็นเยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล่าวตอบ เสิ่นป๋อเหลียงยิ่งรู้ดีแก่ใจ จึงไม่ถามมากความอีกแผ่นดินนี้ คงมีเพียงสตรีผู้นี้เท่านั้นที่กล้าทำร้ายเขาโดยไม่หวาดกลัว ซ้ำยังได้รับการอภัยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อีกพันแผลเสร็จเรียบร้อย เสิ่นป๋อเหลียงจึงกล่าวกำชับ “บาดแผลยังไม่แห้งสนิทดี อย่าให้โดนน้ำเป็นอันขาด...”ขาดคำไม่ทันไร จมูกก็ได้กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างโชยมาเสิ่นป๋อเหลียงขมวดคิ้วเล็กน้อย พลางสูดกลิ่นหอมประหลาดนั่น แล้วสายตาก็ไปหยุดที่ถุงผ้าใบหนึ่งที่เหน็บอยู่ช่วงเอวของเยี่ยเป่ยเฉิง“ท่านอ๋อง ถุงผ้าใบนั้นให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”นั่นเป็นถุงผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์เป็นคนปักให้เขา เยี่ยป่ยเฉิงย่อมไม่ยินดีจะมอบให้ผู้อื่นแต่เห็นเสิ่นป๋อเหลียงมีสีหน้าเคร่งเครียด จึงได้ถาม “ทำไมรึ? ถุงผ้าข้ามีสิ่งใดผิดปกติหรืออย่างไร?”เสิ่นป๋อเหลียงกล่าว “ข้อนี้คงต้องถามท่านอ๋อง ว่าภา

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 620

    เมื่อได้ยินว่าเสิ่นป๋อเหลียงกลับมา เยี่ยเป่ยเฉิงก็พลันหยุดชะงัก พร้อมถามเสวียนอู่ “เขาอยู่ที่ใด?”เสวียนอู่กล่าว “เขารู้ว่าหลายวันนี้ท่านอ๋องตามหาอยู่ ดังนั้น เมื่อกลับถึงเมืองหลวง ข้าน้อยจึงรีบพาตัวมาทันที ตอนนี้อยู่ค่ายทหารขอรับ”เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าว “เหมาะเลย ข้ากำลังจะกลับจวน ให้เขาตามข้ากลับไปด้วยกัน!”“ขอรับ”เสวียนอู่รีบไปเตรียมรถม้ามาคันหนึ่ง ให้เยี่ยเป่ยเฉิงและเสิ่นป๋อเหลียงโดยสารพร้อมกันภายในรถม้า เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม เสิ่นป๋อเหลียงนั่งอยู่ด้านข้างจึงไม่กล้าพูดจาช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาออกจากวังไปท่องเที่ยว เยี่ยเป่ยเฉิงได้มีจดหมายส่งถึงเขาหลายครั้ง เดิมทีควรรีบกลับมาเมืองหลวงนานแล้ว แต่ระหว่างทางกลับมีอุปสรรคมาขวางกั้น จนทำให้เสียเวลาไปมากและบัดนี้ เขาได้กลับถึงเมืองหลวงแล้ว รู้ว่าเยี่ยเป่ยเฉิงต้องการพบเขาคงมีเรื่องเร่งด่วน ทันทีที่มาถึงจึงมาขอพบเยี่ยเป่ยเฉิงก่อนแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับไม่พูดไม่จา สีหน้าเคร่งเครียดหมองคล้ำ ดูแล้วน่าประหลาดใจยิ่งชั่วขณะนั้น ทั้งคู่ต่างไม่มีการพูดคุย บรรยากาศภายในรถม้าค่อนข้างตึงเครียดเสิ่นป๋อเหลียงเป็นฝ่ายอธิบายก่อน “ใช่ว่าข้

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 619

    ไม่เหลือซากให้เห็น และไม่ได้ออกมาอีกลมเย็นพัดกรูมา เขารู้สึกคล้ายร่างกายถูกหินก้อนใหญ่มากดทับไว้ จนเลือดท่วมทะลัก เจ็บปวดอย่างเหลือแสน...“ไม่...ไม่นะ...”ไป๋อวี้ถังรีบก้าวเท้าพุ่งตัวไป พร้อมเอามือตะกุยดินอย่างบ้าคลั่ง ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปเสียสิ้น“ซวงเอ๋อร์ ข้าไม่ยอมให้เจ้าตาย ข้าจะช่วยเจ้าออกมา ข้าจะช่วยเจ้าออกมาให้ได้...”“เราตกลงว่าจะไปเมืองหยางโจวด้วยกัน เจ้าอย่าทิ้งข้าไปนะ ซวงเอ๋อร์ อย่าทิ้งข้าไป...”เมื่อรอบข้างสงบลง ชาวบ้านก็ต่างแห่กันมา เมื่อเห็นไป๋อวี้ถังเอามือตะกุยดินราวกับไม่คิดชีวิต จนนิ้วมือมีเลือดออก ก็ต่างส่ายหน้าและกล่าวเตือน “คุณชาย ช่างเถิดนะ อย่าขุดอีกเลย ถ้าใครถูกฝังอยู่ใต้ล่าง อย่างไรก็ไม่รอดอยู่แล้ว”ไป๋อวี้ถังไม่ยอมรับฟัง พลางวิ่งเข้าหมู่บ้านถือพลั่วมาหนึ่งอัน ขุดดินไปอย่างบ้าคลั่งอีกเมื่อเห็นเขาเตือนแล้วไม่ฟัง ชาวบ้านบางรายก็ไปช่วยขุดบ้างมีคนหนึ่งกล่าวเตือนเขา “คุณชายก็อย่าเสียใจมากนัก บางที สหายท่านอาจจะรอดตายหวุดหวิด หรือไม่ก็ ไม่ได้รออยู่ที่เชิงเขานี้”ไป๋อวี้ถังหยุดชะงักโดยพลัน นัยน์ตาแดงก่ำ มองชาวบ้านผู้นั้นด้วยความหวัง พลางกล่าว “จริงร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 618

    ไป๋อวี้ถังขี่ม้ามาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขามองหาบ่อน้ำ แล้วจึงเอากระเป๋าใส่น้ำที่พกติดตัวมาบรรจุน้ำในบ่อจนเต็มหมู่บ้านนี้มีผู้คนอยู่ห่างๆ เพียงไม่กี่ครัวเรือน เดิมไป๋อวี้ถังไม่คิดจะอยู่นาน แต่พอรอนแรมมาไกลมาก อีกทั้งละแวกนี้ก็ไม่มีโรงเตี๊ยมพอให้พักอาศัยหากคิดจะหาโรงเตี๊ยมจริงๆ ก็ต้องเดินทางต่อไปอีกประมาณสิบกว่าลี้เพื่อไม่ให้หลินซวงเอ๋อร์ต้องหิวข้าว ไป๋อวี้ถังจึงไปหาครอบครัวหนึ่ง พร้อมใช้เงินซื้อหมั่นโถวหลายลูกที่พวกเขาเพิ่งนึ่งเสร็จใหม่ๆ เนื่องจากเขาเป็นคนใจป้ำ ครอบครัวชาวบ้านธรรมดาทำงานหนึ่งปียังไม่ได้เงินมากมายเท่านี้ จึงได้แถมนมแพะที่รีดเองให้แก่ไป๋อวี้ถังไปด้วยเป็นนมที่เพิ่งผ่านการต้มมา ดื่มแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นมากไป๋อวี้ถึงจึงไม่ปฏิเสธ ยอมรับมาแต่โดยดีแต่เขาไม่กล้าให้หลินซวงเอ๋อร์คอยนาน ขณะหันหลังคิดจะกลับนั้น จู่ๆ มีหญิงชราร้องเรียกจากด้านหลัง“คุณชาย หากไม่รีบร้อนเดินทาง เชิญค้างที่นี่สักคืนค่อยไปก็ได้”ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้างหน้ายังมีคนรออยู่”หญิงชรามองดูท้องฟ้า พลางกล่าว “พรุ่งนี้ค่อยไปก็ยังไม่สาย คุณชายไปพาเพื่อนมาด้วยก็ได้ หลายวันนี้มีฝนตกหน

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 617

    ไป๋อวี้ถังกล่าวตอบ “ข้าก็คิดเช่นนั้น”หลินซวงเอ๋อร์มองหน้าเขาพร้อมยิ้มเล็กน้อย นางกล่าวต่อ “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปก่อน ขอให้พี่ไป๋มีความสุขในเร็ววัน ลาก่อน”กล่าวจบ นางไม่รอช้าที่จะปล่อยผ้าม่านลงไป๋อวี้ถังสีหน้าเปลี่ยนโดยพลัน รีบร้อนกล่าวต่อ “แม่นางซวงเอ๋อร์รอประเดี๋ยว...”ได้ยินเสียงร้องเรียกของไป๋อวี้ถัง หลินซวงเอ๋อร์จึงแหวกผ้าม่านด้วยความสงสัยอีกครั้งในยามนี้ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นสูง แดดภายนอกจึงแสบตายิ่ง หลินซวงเอ๋อร์ยกมือขึ้นบังตา เพื่อลดความแรงกล้าของแสง พลางกล่าวเสียงอ่อนโยน “พี่ไป๋ ท่านยังมีเรื่องอันใดอีก?”นางยังต้องรีบเดินทางต่อ ไม่อยากพูดคุยกับเขานานไป๋อวี้ถังกล่าว “แม่นางซวงเอ๋อร์คิดดีแล้วหรือไม่ว่าจะไปที่ใด หรือเราสองคนจะเดินทางด้วยกัน?”น้ำเสียงเขาฟังดูราบเรียบ คล้ายกับไม่ตั้งใจกดดัน เพียงแต่ถามไปเรื่อยเปื่อยแต่หลินซวงเอ๋อร์แทบไม่ต้องคิด นางรีบกล่าวตอบ “อย่าเลย ข้ายังไม่ได้คิดว่าจะไปที่ใด แผ่นดินกว้างใหญ่ ไปถึงแห่งใดก็อยู่ตรงนั้นก่อน”ไป๋อวี้ถังกล่าวยิ้มๆ “เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะนัก ข้าก็ไม่คิดจะไปที่ใด หรือเราจะเดินทางด้วยกัน เพราะหนทางยังอีกยาวไกล หากมีเพื่อนพูดคุยก

DMCA.com Protection Status