แชร์

บทที่ 164

ผู้เขียน: พิณเคล้าสายฝน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-08-01 18:00:00
เมื่อเยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มนางกลับไปที่เรือนฝั่งตะวันออก เขาก็พบกับตงเหมย

“ท่านอ๋อง ซวงเอ๋อร์เป็นอะไรหรือ?” ตงเหมยเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่เป็นกังวล เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์หมดสติ จึงวางฝ่ามือบนหน้าผากของนาง แล้วอุทานว่า: "โอ้สวรรค์ เหตุใดถึงได้ร้อนขนาดนี้! "

เยี่ยเป่ยเฉิงเพิกเฉยต่อนาง เดินตรงผ่านตงเหม่ย จากนั้นก็เตะประตูเรือนอวิ๋นซวนให้เปิดออก อุ้มนางเข้าไปในห้อง และสั่งให้ตงเหมยไปตามหมอมา

ตงเหมยมองดูสีท้องฟ้า เห็นว่าฝนยังคงตกหนักอยู่ แม้ว่านางจะไปเชิญหมอมา แต่อีกสักครู่ใหญ่ๆก็คงจะมาไม่ถึง

เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์เปียกโชกไปทั้งตัว ก็เห็นได้ชัดว่าไข้สูงเกิดจากความเย็นที่เข้าสู่ร่างกาย

ด้วยความที่สถานการณ์เร่งด่วน ตงเหมยจึงเพิกเฉยต่อกฏมารยาท ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ท่านอ๋อง ซวงเอ๋อร์เปียกฝน ความเย็นคงจะเข้าสู่ร่างกาย ข้าขอแนะนำว่าให้ใช้น้ำร้อนแช่ร่างกาย เพื่อขับลมเย็นออกจากร่างกายก่อน"

เมื่อได้ยินตงเหมยพูดเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงก็มองไปที่นาง แล้วพูดว่า "เจ้ามีวิธีไหม?"

ตงเหมยก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเยี่ยเป่ยเฉิงวางนางเอาไว้บนเตียงแล้ว แถมยังห่มผ้าห่มหนาๆให้นาง ก็อดไม่ได้ที่จ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 165

    ข้างนอกฝนตกหนัก แต่ข้างในกลับร้อนอบอ้าวเยี่ยเป่ยเฉิงปลดเข็มขัดออก เสื้อผ้าที่งดงามถูกเปลื้องออกทีละชิ้น เผยให้เห็นหน้าอกที่แข็งแกร่งล่ำสันของเขาเขาอุ้มหลินซวงเอ๋อร์แล้วลงไปแช่ตัวในอ่างด้วยกันอ่างอาบน้ำมีขนาดใหญ่มาก ทั้งสองคนจึงแช่ในอ่างได้โดยไม่มีปัญหา แถมยังมีพื้นที่ว่างอีกด้วยเพียงแต่ว่่าหลินซวงเอ๋อร์อ่อนแอมาก จนนางไม่สามารถนั่งคนเดียวในนั้นได้เยี่ยเป่ยเฉิงอุ้มนางไว้ในอ้อมแขน และปล่อยให้นางนั่งอยู่บนตักของตนเอง ทำให้หน้าอกที่แข็งแกร่งของเขาแนบไปกับแผ่นหลังของนางเพื่อขับไล่ความเย็นในร่างกายของนาง ตงเหมยจึงตั้งใจต้มน้ำร้อนให้เดือดความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก นางขมวดคิ้ว และดิ้นรนอยู่ในอ้อมแขนของเยี่ยเป่ยเฉิงสุดฤทธิ์ ทำให้มือทั้งสองข้างของนางตบไปมั่วซั่วไม่รู้ว่าว่าไปสัมผัสตรงไหนของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ จึงค่อยๆกระชับแขนทั้งสองข้าง แล้วกอดนางเอาไว้แน่น เพื่อป้องกันไม่ให้นางเคลื่อนไหวมั่วซั่ว“ร้อน…” หลินซวงเอ๋อร์พยายามดิ้นรน ร่างกายของนางก็กระสับกระส่ายไปมาแต่หารู้ไม่ว่า นางร้อน แต่เยี่ยเป่ยเฉิงร้อนยิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-01
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 166

    เดิมทีเยี่ยเป่ยเฉิงกำลังหลับตาเอามือค้ำหน้าผาก แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยสามารถปลุกเขาให้ตื่นได้ในทันทีเขามองดูริมฝีปากของหลินซวงเอ๋อร์เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด ราวกับว่ากำลังพึมพำอะไรบางอย่างเหมือนว่ากำลังฝันร้ายอะไรอยู่เยี่ยเป่ยเฉิงเขย่าไหล่ของนาง และพยายามปลุกให้นางตื่น แต่นาง ติดอยู่ในภวังค์แห่งฝันร้าย จึงไม่อาจตื่นขึ้นมาได้เมื่อเห็นริมฝีปากขอวนางขยับเล็กน้อย เยี่ยเป่ยเฉิงก็ค่อยๆเอนตัวไปฟัง ในที่สุดก็ได้ยินสิ่งที่นางพูดได้อย่างชัดเจน“ท่านอ๋อง……”นางกำลังเรียกตนเองอยู่หัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงเต้นเร็วขึ้น จึงตั้งใจฟังมากยิ่งขึ้น“ท่านอ๋อง ขอร้องท่านล่ะ ได้โปรดอย่าจากไปเลย...”เสียงของนางเต็มไปด้วยการสะอื้นไห้ และเหมือนเสียงที่กำลังอ้อนวอนเยี่ยเป่ยเฉิงจับมือนางเอาไว้อย่างระมัดระวัง และรู้สึกว่านิ้วของนาง สั่นเทาเล็กน้อย แม้แต่ทั้งร่างกายของนางก็กำลังสั่นเทาเยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ราวกับว่าถูกเข็มแทงอย่างแรงไม่รู้ว่านางฝันร้ายอะไรกันแน่ อะไรที่ทำให้นางกวาดกลัวมากขนาดนี้?ในความฝัน หลินซวงเอ๋อร์ถูกอู๋เต๋อไห่บีบคอเอาไว้แน่น รอยแส้บนร่างกายก็มีเลือดไหลออกมาทีละ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-01
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 167

    ตอนกลางคืนอากาศหนาวเล็กน้อยหลินซวงเอ๋อร์ไม่ยอมมุดเข้าไปในผ้าห่มของตนเอง แต่โหยหาอ้อมกอดของเยี่ยเป่ยเฉิงเท่านั้นเมื่อก้มหน้ามองคนที่อยู่ในอ้อมแขน เยี่ยเป่ยเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะโดยปกติแล้ว เมื่อต้องเผชิญกับตนเองสาวน้อยคนนี้จะหลบหลีกทุกครั้ง มีแต่ตอนที่ป่วยเท่านั้น ที่นางคลานเข้ามาหาเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเยี่ยเป่ยเฉิงไม่รู้ว่าจะจัดการกับนางอย่างไร จึงเปิดผ้าห่มออก โอบกอดนางเอาไว้แล้วนอนลงไปหลินซวงเอ๋อร์หมดสติ และรู้สึกว่าบริเวณรอบๆถูกล้อมรอบไปด้วยลมหายใจอุ่นๆ และมีกลิ่นหอมของไม้จันทน์เย็นๆปะทะมาที่ใบหน้า ซึ่งมีกลิ่นหอมมากนางกระชับมือที่โอบรอบเอวของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งอ่อนโยนทั้งแผ่วเบาว่า“ชอบจัง…”นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงลึกล้ำอย่างไร้ขอบเขต เขาถามนางอย่างอบอุ่นว่า: "ชอบอะไร?"หลินซวงเอ๋อร์หายใจเบาๆในอ้อมแขนของเขา เมื่อได้ยินเสียงของเขา ก็ตอบไปตามสัญชาตญาณว่า: "กลิ่นของเจ้า อ้อมแขนของเจ้า... "เสียงของนางเบามาก จนแทบไม่ได้ยิน ราวกับว่านางกำลังพูดในความฝันแต่เยี่ยเป่ยเฉิงกลับได้ยินมันอย่างชัดเจนหลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโอบกอดนางเอาไว้ นางรู้สึกแค่ว่า กลิ่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-02
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 168

    ท้องฟ้านอกหน้าต่างเริ่มสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่สว่างเต็มที่หลินซวงเอ๋อร์ลืมตาขึ้นมาอย่างเงียบๆการนอนในครั้งนี้ ถือว่านางนอนหลับสนิท อาการไข้บนตัวนางก็เกือบจะหายดีแล้ว และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามากข้างนอกฝนตกตลอดทั้งคืน หลินซวงเอ๋อร์ก็ได้ยินเสียงกิ่งไม้ ที่ขูดกรอบหน้าต่างอย่างคลุมเครือ เสียงครืดคราด และแฝงไปด้วยความหนาวเย็นเพียงแต่ว่า อุณหภูมิที่อยู่ในผ้าห่มช่างอบอุ่นมากจริงๆ...หลินซวงเอ๋อร์เคลื่อนไหวอย่างเกียจคร้าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปมีลมหายใจร้อนกระทบมาที่หูของนาง ทำให้นางตัวแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่งจู่ๆนางก็นึกเรื่องอะไรบางอย่างออกเมื่อวานนี้ เห็นได้ชัดว่านางยังคุกเข่าอยู่ในลานจวน แล้วฝนก็ตกหนัก หลังจากนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็กลับมาด้วยความโกรธหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น? นางจำอะไรไม่ได้เลยหลินซวงเอ๋อร์ที่จำได้บ้างไม่ได้บ้าง คราวนี้ก็ตอบสนองได้ว่า เตียงอันนี้อ่อนนุ่มกว่าเตียงของนางเป็นร้อยเท่า และอบอุ่นกว่าเป็นร้อยเท่า...ที่นี่ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ห้องของนาง...หลินซวงเอ๋อร์หันศีรษะเล็กน้อย แล้วมองย้อนกลับไปสิ่งที่นางเห็นคือใบหน้าที่คุ้นเคยใบหน้าหนึ่ง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-02
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 169

    คำพูดที่จะพูดต่อไป เขายังพูดไม่จบ ก็มองนางด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟหลินซวงเอ๋อร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจ้องมอง นางเบี่ยงเบนความสนใจด้วยความตื่นตระหนกเล็กน้อย: "ขอบคุณท่านอ๋องดูแลข้า ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลับไปแล้ว..."ขณะที่พูด นางก็ดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาจากบนร่างของเขาแต่เขากลับไม่ยอมปล่อยนางนางทรมานเขามาทั้งคืน คิดจะจากไปอย่างง่ายดายแบบนี้?จะเป็นไปได้อย่างไร!กลิ่นหอมอ่อนๆบนร่างกายของหญิงสาว ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงพลิกตัวแล้วกดนางเอาไว้ใต้ตัวเขา“ข้าดูแลเจ้ามาตลอดทั้งคืนแล้ว เจ้าไม่คิดจะตอบแทนข้าเลยหรือ?”เมื่อเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงเข้ามาใกล้ หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาอยากจะทำอะไร นางหน้าแดงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวด้วยหวั่นไหวว่า: "ท่านอ๋อง... นี่มันรุ่งเช้าแล้วนะคะ"กลางวันแสกๆเช่นนี้ หลินซวงเอ๋อร์ไม่เชื่อว่าเขาจะกล้า..."อูม~"เยี่ยเป่ยเฉิงไม่เปิดโอกาสให้โอกาสนางพูดอะไรอีก เขาเอาตัวทับร่างของนางเอาไว้ แล้วจูบไปที่ริมฝีปากของนางอย่างดุเดือดหลินซวงเอ๋อร์วางมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าอกของเยี่ยเป่ยเฉิง มือขยำเสื้อผ้าของเขาอยู่ ทั้งรู้สึกตื่นตระหนกทั้งรู้สึกร้อนใจ แม้แต่การหายใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-02
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 170

    รุ่งสางตอนที่หลินซวงเอ๋อร์ออกมาจากเรือนอวิ๋นซวน แก้มของนางแดงราวกับว่าเป็นหยดเลือดเมื่อเปิดประตู ตงเหมยก็รออยู่ในห้องตั้งแต่เช้าตรู่แล้วเมื่อเห็นว่าในที่สุดนางก็กลับมา ตงเหมยก็รีบเข้าไปทักทายก่อนที่ตงเหมยจะเอ่ยปากถาม ก็เห็นหลินซวงเอ๋อร์นั่งอยู่บนเตียงด้วยท่าทางที่อาลัยอาวรณ์ สีหน้าของนางแดงยิ่งกว่าลูกพลับเสียอีก“ซวงเอ๋อร์...เจ้ากับท่านอ๋อง …”นางพูดจากระอึกกระอัก แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า“เจ้ากับท่านอ๋องมีอะไรกันแล้วหรือ?”หลินซวงเอ๋อร์ค่อยลืมตาขึ้น นัยน์ตาที่สุกใสของเต็มไปด้วยความชุ่มชื้น ราวกับว่านางเพิ่งจะร้องไห้มา“เมื่อคืนเจ้ามีไข้ ไม่ได้กลับมาทั้งคืน เจ้าได้ขึ้นไปบนเตียงของท่านอ๋องหรือไม่?” ตงเหมยก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วจ้องไปที่หลินซวงเอ๋อร์อย่างไม่ละสายตาตั้งแต่ตงเหมยถูกเยี่ยเป่ยเฉิงไล่ออกมาเมื่อวาน นางก็ไม่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ออกมาเลยชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ด้วยกันในห้องตามลำพัง ตงเหมยก็นึกถึงท่าทางที่วิตกกังวลของเยี่ยเป่ยเฉิงที่มองไปที่หลินซวงเอ๋อร์ ก็คาดเดาอะไรบางอย่างได้อย่างคลุมเครือเมื่อได้ยินคำว่า"ท่านอ๋อง"สองคำนี้ นัยน์ตาของหลินซวงเอ๋อร์ก็ขยับ จู่ๆนางก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-02
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 171

    สิ่งเหล่านี้ แม่ของนางเคยสอนนางเอาไว้ จะต้องรู้สถานะของตนเอง อย่าไปคาดหวังอะไรที่ไม่ใช่สิ่งของของตนตงเหมยถอนหายใจแล้วพูดว่า: "ข้ามองออกว่า ท่านอ๋องดีกับเจ้าเป็นพิเศษจริงๆ แม้แต่ชิวจวี๋ก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ เมื่อคืนเจ้ามีไข้สูง ท่านอ๋องก็ดูแลเจ้าทั้งคืน"เมื่อได้ยินสิ่งที่ตงเหมยพูด หลินซวงเอ๋อร์ก็หวั่นไหวอยู่ในใจครู่หนึ่งบางครั้ง นางก็สามารถสัมผัสได้ถึงความเมตตาที่เยี่ยเป่ยเฉิงมีต่อนาง แต่ความเมตตาของเขาทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่ใช่ความจริงนางไม่กล้าแม้แต่จะมีความคิดโลภ เพราะกลัวว่าถ้านางโลภแล้ว จะติดอยู่ในภวังค์ จนไม่สามารถถอนตัวออกมาได้หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "ท่านอ๋องเป็นบุคคลที่มีสถานะสูงส่ง แม้ว่าเขาจะดีต่อข้า ข้าก็ควรจะรู้สึกสำนึกในบุญคุณ แทนที่จะไปคาดหวังอะไรที่มันเกินตัว"อาธิเช่น ให้เขามาชื่นชอบตนเอง แล้วรับตนเองเป็นอนุภรรยาสิ่งเหล่านี้เป็นการคาดหวังเกินตัวที่ไม่ควรมีตงเหมยกลับไม่เข้าใจ: "ท่านอ๋องไม่ดีอย่างไร?เทียบกับหนุ่มจ้วงหยวนคนนั้นไม่ได้ตรงไหน?ซวงเอ๋อร์ เจ้าอย่าออกจากจวนไปเลย อยู่กับท่านอ๋องเถิด ท่านอ๋องจะคอยปกป้องเจ้า และมอบสถานะใหม่ให้แก่เจ้า ซึ่งเป็นสถา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03
  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 172

    เสวียนอู่กำลังรออยู่นอกประตู เยี่ยเป่ยเฉิงก็ผลักเปิดประตูแล้วเดินออกมาแม้ว่าเขาจะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่ดูใบหน้าของเขาไม่ได้เหนื่อยล้าเลย ในทางตรงกันข้ามกลับดูสดชื่นดูเหมือนว่า วันนี้ท่านอ๋องจะอารมณ์ดีมากเสวียนอู่เดินตามหลัง แล้วถามว่า “วันนี้ท่านอ๋องจะไปที่ไหนหรือ?”เยี่ยเป่ยเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า"ไปที่เรือนด้านหน้า"เสวียนอู่ถามว่า: "จะไปแสดงคารวะนายหญิงหรือขอรับ?"เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า:"ต้องแวะไปคารวะอยู่แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่จะต้องทำในวันนี้!"เสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋อง ข้ามีเรื่องหนึ่งที่จะบอกกับท่าน..."เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า "มีเรื่องอะไรก็เอาไว้คุยกันทีหลัง"วันนี้ เขาอยากจะจัดการเรื่องสำคัญที่อยู่ในใจก่อน! เขารอไม่ไหวแม้แต่ช่วงเวลาเดียว!ทั้งสองเดินตามกันไปจนถึงเรือนด้านหน้า เท้าหน้ายังไม่ทันได้ก้าวเข้าไปในลานจวน ก็เห็นจ้าวชิงชิงกระพือปีกมาราวกับว่าเป็นผีเสื้อ"พี่เป่ยเฉิง"จ้าวชิงชิงแต่งกายด้วยชุดสีแดงเข้ม กระโดดโลดเต้นจนไปถึงที่ตรงหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง ดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้แล้วเริ่มออดอ้อนว่า: "พี่เป่ยเฉิง ชิงชิงไม่ได้เจอท่านมานา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-08-03

บทล่าสุด

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 649

    เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินซวงเอ๋อร์แทบชะงักงันไปที่บั้นเอวนางมีปานแดงรูปเสี้ยวจันทร์จริงๆ ท่านแม่บอกว่า มันมีติดตัวมาตั้งแต่นางเกิด เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่บั้นเอว จึงมีน้อยคนที่จะรู้เรื่องนี้“ท่าน...คือแม่ของข้าจริงหรือ?” หลินซวงเอ๋อร์หัวใจเต้นแรง ขอบตาแดงเรื่อขึ้นอวี๋หว่านหนิงยื่นมือมาจับมือของนางไว้ พลางกล่าวเสียวเศร้า “ซวงเอ๋อร์ ข้าคือแม่เจ้าจริงๆ หลายปีนี้ทำให้เจ้าลำบากนัก...”แม่นมซุนอยู่ด้านข้างพลางกล่าวเสริม “องค์หญิง นางคือเสด็จแม่ของท่านจริงๆ หลายปีมานี้ ฮองเฮาไม่เคยเลิกราในการตามหาท่าน เพียงแต่ภาคกลางกว้างขวางนัก พวกท่านเองก็ข่าวคราวเงียบหาย หลายปีนี้ พวกท่านลำบากก็จริง ฮองเฮาก็ไม่ได้สุขสบายใจ...”หลินซวงเอ๋อร์นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ พลันหันไปมองอวี๋หว่านหนิงแล้วกล่าว “ที่จริง ข้าไม่เคยตำหนิท่านเลย เพียงแต่บางครั้งก็เคยคิด ว่าท่านแม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้หรือไม่”“ตอนยังเป็นเด็ก ข้าเคยคาดหวังให้นางมาหาบ้าง แต่พอโตขึ้นก็ไม่เห็นนางมาเสียที ข้าจึงภาวนาให้นางอยู่ดีมีสุขแทน แม้จะไม่ได้พบหน้า แต่ขอให้นางยังมีชีวิตอยู่ เป็นความคิดถึงในใจก็เพียงพอแล้ว...”

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 648

    อวี๋หว่านหนิงรับเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา พลันเกิดความตื้นตันจนไม่รู้ตอบอย่างไรดีทันใดนั้น แม่นมซุนเดินขึ้นมาพร้อมกล่าว “องค์หญิง ที่นี่คือวังหลวงแห่งเป่ยหรง ฮองเฮาทรงตามหาท่านมานาน ทุ่มแทแรงกายแรงใจไม่น้อยกว่าจะหาพบ...”“องค์หญิง?” หลินซวงเอ๋อร์นึกว่าตนหูฝาดไป “ท่านเรียกข้าอยู่หรือ?”นางกล่าวตอบ “พวกท่านจำคนผิดหรือเปล่า ข้าไม่ใช่องค์หญิง ข้าคือหลินซวงเอ๋อร์ต่างหาก”นางเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ถูกทอดทิ้ง เติบโตมาจากชนบทแร้นแค้น เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยผู้หนึ่งเท่านั้นองค์หญิงอะไรกัน ยังมีวังเป่ยหรงอีก แล้วใครคือฮองเฮา?พวกนางคงจำคนผิดเป็นแน่แม่นมซุนกล่าวตอบ “ไม่ผิดเจ้าค่ะ ไม่มีผิดแน่นอน ท่านก็คือองค์หญิงของเรา องค์หญิงที่พลัดพรากจากฮองเฮาไป...”หลินซวงเอ๋อร์คล้ายกับยังมึนงงอยู่ ความคิดนางเกิดความสับสน ปวดหัวเป็นอย่างมากแม่นมซุนอธิบายต่อ “สมัยที่อดีตฮ่องเต้สวรรคต ฮ่องเต้องค์ใหม่ยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ ราชสำนักเป่ยหรงเกิดความวุ่นวาย ตอนนั้นฮองเฮายังมีฐานะเป็นเพียงพระชายาแห่งรัชทายาท นางเสี่ยงอันตรายให้กำเนิดแฝดชายหญิงคู่หนึ่ง เพื่อปกป้องชีวิตของพวกท่านไว้ จึงให้คนสนิทส่งพวกท่านออก

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 647

    หลินซวงเอ๋อร์เปลือกตากระตุกเล็กน้อย นางก็อยากตื่น แต่ทำอย่างไรก็ไม่อาจตื่นขึ้นมาหน้าอกคล้ายถูกกรีดจนเป็นแผลเหวอะหวะ เหงื่อเย็นในตัวไหลพราก ลำคอคล้ายถูกงูพิษตัวหนึ่งรัดไว้ ยิ่งรัดก็ยิ่งแน่น จนนางใกล้จะหายใจไม่ออกข้างโสตนั้น ได้ยินเสียงคุ้นหูประเดี๋ยวไกลประเดี๋ยวใกล้ ถัดจากนั้น คล้ายมีมืออ่อนโยนลูบไล้ใบหน้านางเบาๆ“เด็กดี หมดเรื่องแล้ว เจ้าปลอดภัยดีแล้ว รีบตื่นมาเถิด ตื่นมาเร็วเข้า...”หลังจากได้ยินเสียงนั้นชัดเจนมากขึ้น ลำคอที่ถูกรัดแน่นก็ค่อยๆ คลายออก นางลืมตาช้าๆ ภาพเบื้องหน้าจากพร่ามัวจนกลายเป็นชัดเจน สิ่งแรกที่เข้าสู่ม่านตาก็คือม่านคลุมเตียงสีม่วงที่อยู่เหนือศีรษะขึ้นไป คล้ายเป็นภาพฝัน เสมือนเป็นแหยักษ์ที่ถูกเหวี่ยงลงมา เพื่อคลุมตัวนางให้อยู่ตรงกลางเตียงนี้เป็นเตียงที่สวยงาม จนแม้แต่เสาเตียงก็เป็นลวดลายที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน หัวเตียงนอกจากจะแกะสลักลายดอกไม้แล้วยังฝังด้วยหยกเจียระไนงดงามและพลอยล้ำค่าอีกชั่วขณะนั้น นางรู้สึกมึนงงยิ่งนี่มันเป็นที่ไหนกัน?“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้สึกตัวแล้วรึ?” จนกระทั่งข้างหูได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง นางจำได้ว่าตอนอยู่ในความฝัน ได้ยินเสียงนี้จนคุ

DMCA.com Protection Status