Share

บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-08 23:02:22

บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2

และก็เป็นอย่างที่มหาเทพหวงหลงคาดการณ์ไว้ ในระยะเวลาเพียงสองเดือนครึ่ง พลังของรวี่เยว่ทะยานแตะระดับจู้จีตอนต้นเป็นที่เรียบร้อย เด็กในวัยเดียวกันไม่มีใครต่อกรกับนางได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนก็เช่นเดียวกัน…

วันนี้รวี่เยว่ขอแม่นมชุน ให้พานางมาฝึกในป่าทางทิศตะวันออกของเมืองลวี่เฟิง นางอยากเห็นสัตว์อสูรตัวเป็นๆด้วยตาตนเองสักครั้ง เคยเห็นเพียงซากของพวกมันที่ถูกนำไปขายในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำ

ในขณะที่กำลังเดินอยู่กับคนนำทางและนายพราน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบในป่าอยู่นั้น พื้นใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือนรุนแรง พร้อมเสียงสัตว์คำรามดังอยู่ด้านหน้าราวครึ่งลี้*

ครืน! ครืน! ครืน! ฮึมมมมมม

"เกิดอะไรขึ้น!" แม่นมชุนเอ่ยถามคนนำทาง หญิงวัยกลางคนรีบเอาตัวบังร่างเล็กของรวี่เยว่

"ดูท่าว่ามีฝูงสัตว์อสูรกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รีบหลบกันก่อนเถอะ" คนนำทางตอบคำถามพลางกวาดตามองหาที่หลบให้ทุกคน "ตรงนั้นรีบไปกันเถอะ"

พวกเขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปหลบบนชะง่อนผา ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นฝูงสัตว์พอดี ห่างไปไม่ไกลฝูงกระทิงเกราะสัตว์อสูรระดับห้า พวกมันมีผิวหนังบริเวณหน้าผาก ช่วงคอ อกและท้องหนาราวเกราะเหล็ก จำนวนราวสามสิบตัวกำลังวิ่งหนีสิ่งที่ไล่ล่าพวกมัน

ชั่วพริบตาต่อมากลุ่มคนชุดดำราวสิบนายปรากฏตัวขึ้น พวกเขาขี่หลังหมาป่าอสูรทมิฬสีดำตัวมหึมา พวกมันดูน่าเกรงขามจนนายพรานและคนนำทางขนอ่อนลุกไปทั้งตัว

"นั่นใช่คนของตำหนักเทพอนันต์รึเปล่า" นายพรานกระซิบถาม

"ถ้าไม่ใช่แล้วจะเป็นใครไปได้ จะมีใครที่ควบคุมหมาป่าอสูรทมิฬพวกนี้ได้หากไม่ใช่พวกเขา" คนนำทางตอบกลับมาเสียงสั่นจากอาการประหม่า

ดวงตาของรวี่เยว่จับจ้องไปที่คนชุดดำอย่างตื่นเต้น พวกเขาใช้หมาป่าอสูรทมิฬเป็นพาหนะ นางชอบ นางอยากคุยกับพวกมัน ตัวใหญ่นุ่มฟูขนาดนั้นนอนกอดในฤดูหนาวต้องอุ่นแน่ๆ

"นุ่มฟูมากเลยเจ้าค่ะ"

“…” คนอื่นๆ

ในขณะที่รวี่เยว่และทุกคนกำลังตื่นเต้นกับการได้พบเห็นคนตำหนักเทพอนันต์อยู่นั้น

"หากวันนี้ข้าเอาลูกกระทิงเกราะกลับไปไม่ได้ พวกเจ้าทุกคนก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไปจากที่นี่! ไปจับมันมาให้ข้า!!!" เสียงทรงอำนาจเอาแต่ใจของเด็กหนุ่มดังขึ้นด้านหลังชายชุดดำ พวกเขาทุกคนประสานมือก้มหัวรับคำสั่งและควบหมาป่าอสูรทมิฬติดตามไปทันที

"พะย่ะค่ะ!!"

เจ้าของเสียงเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ ปรากฏกายขึ้นหลังชายชุดดำอีกห้าคน

เด็กหนุ่มอายุราวสิบห้า หน้าตาหล่อเหลาค่อนไปงดงาม เรือนผมสีเงินส่องสว่างดุจแสงจันทร์ ท่าทางยโสโอหังไม่เกรงกลัวผู้ใด ขี่หลังราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ!!!

"ฝ่าบาท มีคนอยู่บนชะง่อนหินตรงนั้น" ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงินมองมายังตำแหน่งที่ซ่อนของรวี่เยว่ ก่อนเอ่ยบอกนายของมัน

เด็กหนุ่มเพียงปรายตาองครักษ์ที่ติดตามมาเคลื่อนกายรวดเร็วมายังตำแหน่งที่บอกทันที

"พวกเจ้าเป็นใคร" หนึ่งในองครักษ์เอ่ยถามพวกเขาทั้งห้าคน

"พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบไพลินขอรับ แต่ได้ยินเสียงฝูงกระทิงเกราะมุ่งหน้ามาทางนี้พอดี เลยขึ้นมาหลบภัยบนนี้ขอรับ" คนนำทางประสานมือค้อมเอวตอบกลับอย่างนอบน้อม ไม่มีใครอยากทำให้คนตำหนักเทพอนันต์ขุ่นเคือง

"ตามมา" องครักษ์ออกคำสั่งก่อนเคลื่อนกายกลับไปอยู่ข้างนายเหนือหัว

เมื่อเป็นเช่นนั้น รวี่เยว่และทุกคนจึงต้องจำใจลงมาจากที่ซ่อน ยอมตามองครักษ์ไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนหลังสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิโดยละม่อม

'จะเรียกว่าโชคดีที่ชีวิตนี้ได้มีโอกาสเห็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิใกล้ๆ หรือว่าดวงซวยที่มาเจอคนตำหนักเทพอนันต์กันแน่' คนนำทางเหงื่อกาฬแตกท่วมหลัง รำพึงถึงโชคชะตาของตนอยู่ในใจ

ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงินหรี่ตาจ้องเด็กผู้หญิงตรงหน้าอย่างสงสัย ในเมื่อนางเป็นเพียงเด็กมนุษย์ตัวเล็กๆ หากแต่กลิ่นอายกลับไม่ธรรมดา พลังปราณที่วนเวียนอยู่รอบกายบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ ประหนึ่งพลังปราณแห่งเทพทวย

"เด็กน้อย เงยหน้าขึ้นแล้วบอกข้ามาว่าเจ้ามีนามว่าอะไร" ความสนใจของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน ที่มีต่อเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆตรงหน้า กระตุ้นความใคร่รู้ของเด็กหนุ่มผู้ครอบครองสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิ

รวี่เยว่สะดุ้งโหยง ทว่ายอมเงยหน้าขึ้นตามคำสั่ง ดวงตาดอกท้อกลมโตสบประสานกับดวงตาสีฟ้างดงาม ทั้งมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาดของอีกฝ่าย

"ข้ามีนามว่ารวี่เยว่เจ้าค่ะ แล้วพี่ชายคนงามมีนามว่าอะไรเจ้าคะ"

"บังอาจ!!!" เสียงขององครักษ์ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง

เด็กหนุ่มผมสีเงินยกมือขึ้นห้าม ขยับลงจากหลังพาหนะก้าวมาหาเด็กหญิงตัวน้อยที่หาญกล้าเอ่ยถามนามของเขา มือขาวเชยคางของนางขึ้น

"รวี่เยว่ หึ! ช่างเป็นที่ชื่อฟังดูแล้วพิเศษเสียจริงนะเด็กน้อย ข้าจะยอมบอกชื่อของข้าให้เจ้ารู้ก็ได้ ข้า ฮั่วเฮ่อฉี ไท่จื่อแห่งตำหนักเทพอนันต์…และเจ้าต้องกลับไปกับข้า!!"

* ลี้ หรือ หลี่ : 1 ลี้ เท่ากับ 500 เมตร ตามหน่วยวัดของจีน

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1

    บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1 ดวงตาของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีเงินในขณะที่กล่าวคำว่า “เจ้าต้องกลับไปกับข้า” เรียวคิ้วเล็กของรวี่เยว่มุ่นเข้าหากัน เมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเด็กหนุ่ม ไพล่คิดในใจว่า พี่ชายคนงามจะพานางกลับบ้านไปด้วย ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ ช่างเป็นบุรุษเจ้าชู้ยิ่ง! นางยังเด็กอยู่เลยนะ แม้แต่เด็กก็ไม่ละเว้น ใช้ไม่ได้! ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางคิดเช่นนี้ เป็นเพราะเมื่อก่อนนางเคยเห็นบิดา พาหญิงสาวอายุน้อยกว่ากลับมาบ้านอยู่สองสามคน และแต่งตั้งพวกนางเป็นอนุของเขาในเวลาต่อมา "รวี่เยว่ยังไปกับองค์ไท่จื่อไม่ได้เพคะ รวี่เยว่มีธุระที่ต้องทำอีกหลายอย่างเลย องค์ไท่จื่อไม่โกรธรวี่เยว่นะเพคะ" ทุกคน ณ ที่นั้นต่างพากันตกตะลึง ไม่เว้นแม้ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน เด็กหญิงตรงหน้าสามารถต้านมนตรามายาจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อได้!!! ร่างใหญ่โตสีเงินตัดสินใจก้าวมาหาฮั่วเฮ่อฉี เอ่ยถ้อยคำอย่างใจเย็น เมื่อเห็นสีหน้ามืดครึ้มของเด็กหนุ่ม "ฝ่าบาท ข้าทราบว่าท่านชอบเอาลูกสัตว์ไปเลี้ยงดู แต่กับลูกมนุษย์…เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก" จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นส่งกระแสจิตไปหาเขาแทน 'แม้ว่านางจะพิเศษกว่

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /2

    บทที่ 7เริ่มต้นหลอมโอสถ /2 รอให้นางถึงระดับหยวนอิงก่อนเถอะ นางจะกลับไปทวงทุกอีแปะคืนด้วยตนเอง! "ได้แน่นอน หากรวี่เยว่น้อยอยากฝึกการหลอมโอสถ อาจารย์ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอน" มหาเทพหวงหลงแวบหายไปราวสามอึดใจ และกลับมาพร้อมเทพหนุ่มรูปโฉมสะคราญยิ่งอีกองค์หนึ่ง ทำเอารวี่เยว่และสหายทั้งสองตัวของนางหลุดอุทานออกมาพร้อมกันอย่างลืมสำรวม "โห รูปงามมากเลย" ผู้ที่มหาเทพหวงหลงพามาระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น พลางเดินไปลงนั่งข้างสหาย "ท่านต้องการให้ข้าช่วยสอนเด็กน้อยปรุงยาอย่างนั้นสินะ" มหาเทพชิงหลงเสกพัดออกมาโบกด้วยท่าทางเกียจคร้าน "ใช่ เจ้าพอจะช่วยนางได้หรือไม่" "ได้แน่นอน แต่นางต้องกราบข้าเป็นอาจารย์ก่อน" เขาก็อยากมีลูกศิษย์เป็นผู้ถูกเลือกเหมือนกัน เรื่องดีๆ แบบนี้หมื่นปีจะมีสักครั้ง รวี่เยว่มองหน้าอาจารย์ของตน ครั้นเห็นว่าเขาพยักหน้ารับ ร่างเล็กจึงเดินมาคุกเข่าและโขกศีรษะจบครบสามครั้งตามธรรมเนียม "อาจารย์รอง ศิษย์ขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ" ที่นางเรียกอาจารย์รองเพราะจะได้ไม่สับสน มหาเทพชิงหลงดูพอใจกับไหวพริบของร่างเล็ก เขาเสกตำราออกมาสองเล่ม และบอกให้นางท่องจำเนื้อหาในนั้นทั้งหมด ห

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1

    บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1 แม้ว่าเมืองลวี่เฟิงจะเป็นเมืองชายแดน ทว่าเป็นที่ตั้งหอประมูลโอสถสำคัญของอาณจักรอู๋ซาง เจ้าของหอแห่งนี้เป็นคนตำหนักเทพอนันต์ และมักนำโอสถชั้นสูงออกมาทำประมูลอยู่หลายครั้งภายในหนึ่งปี การประมูลโอสถระดับสูงครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีกสามวัน ทำให้เวลานี้ในเมืองลวี่เฟิงจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ลานประลองในวันนี้ถูกจัดขึ้น ณ สนามประลองใหญ่ของฝ่ายใน ซึ่งสามารถจุคนได้มากถึงสองหมื่นคน บนเฉลียงใหญ่ของอัฒจันทร์สองด้าน มีธงของสี่สำนักใหญ่แสดงอยู่ ด้านหนึ่งเว้นไว้สำหรับสำนักกระบี่จันทรา ส่วนเฉลียงอีกด้านตระเตรียมที่นั่งพิเศษไว้เช่นกัน ทว่ากลับไม่มีธงหรือสัญลักษณ์ของสำนักใดแสดงไว้ รวี่เยว่มองสนามประลองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางประหม่าจนมือเย็นไปหมด "จวี๋จื่อ เสี่ยวหลาน ข้าตื่นเต้นมากเลยทำอย่างไรดี" "สูดหายใจลึกๆ เหมือนกับตอนที่นั่งบำเพ็ญรวี่เยว่ เจ้าชนะแน่นอน เชื่อมั่นในตนเองหน่อย เจ้าทำได้" เสี่ยวหลานที่เกาะอยู่บ่าเล็กส่งเสียงให้กำลังสหายของมัน "ใช่แล้วรวี่เยว่ อย่างที่ท่านอาจารย์ทั้งสองบอกไว้ ในเด็กรุ่นเดียวกันไม่มีใครเอาชนะเจ้าได้แน่นอน" จวี๋จื่อเอาหัวน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2

    บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /2 ทว่าก่อนที่จะได้อ้าปากกล่าวคำใด ท้องฟ้าเหนือลานประลอง พลันปรากฏร่างสีเงินมหึมาของราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน ยืนตระหง่านบดบังแสงอาทิตย์ บนหลังของมันมีเด็กหนุ่มรูปโฉมงดงามอย่างร้ายกาจนั่งอยู่ ด้านหลังของเด็กหนุ่มมีองครักษ์ระดับหยวนอิงสามคนคอยคุ้มกัน พร้อมด้วยองครักษ์ระดับเจี๋ยตันขั้นปลายอีกห้านายขี่กระบี่ติดตาม "องค์ไทจื่อ ฮั่วเฮ่อฉี เชิญพะย่ะค่ะ" เจ้าสำนักกระบี่จันทราประสานมือค้อมเอวเล็กน้อยขณะกล่าวเชิญ ฮั่วเฮ่อฉีปรายตามองอีกฝ่าย พยักหน้าเล็กน้อยก่อนแวบหายไปจากตรงนั้น และปรากฏกายอยู่บนเฉลียงที่ไม่มีธงสัญลักษณ์ ครั้นเห็นว่าผู้มาใหม่นั่งลงเรียบร้อยเจ้าสำนักกระบี่จันทราจึงกล่าวเปิดงาน รวี่เยว่นั่งมุมปากกระตุกยิกๆ คาดไม่ถึงว่าพี่ชายคนงามจะมาปรากฏตัวในสถานที่แห่งนี้ มิใช่ว่าคนตำหนักเทพอนันต์ ไม่ชอบสุงสิงกับผู้อื่นหรอกหรือ "แม่นมคิดว่าที่องค์ไท่จื่อมา เพราะคงใกล้ถึงงานประมูลโอสถทิพย์ที่กำลังจะมาถึงเจ้าค่ะคุณหนู ระหว่างรอเลยมาชมการประลองแก้เบื่อก็เป็นได้ คุณหนูยังจำได้หรือไม่เจ้าคะ องค์ไท่จื่อชอบอะไรตัวเล็กๆ จำพวกนี้" คนฟังกล่าวเสียง อ้อออ ออกมายาว นางจำได

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 9 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /1

    บทที่ 9 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /1 ตั้งแต่เริ่มการประลอง ผู้เข้าแข่งขันถูกคัดกรองจนเหลือเพียงสี่คนสุดท้าย รวี่เยว่ที่ฝ่าฟันอุปสรรค จนเข้ารอบหนึ่งในสี่คนสุดท้ายมาได้อย่างทุลักทุเล… (ตามที่นางต้องการ) เด็กหญิงกำลังเป็นที่จับตามองของสี่สำนักใหญ่ หากการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ นางสามารถคว้าชัยชนะมาได้ ก็จะกลายเป็นผู้เข้าแข่งขันอิสระคนแรกที่ช่วงชิงตำแหน่งนี้มาจากศิษย์ของสำนักกระบี่จันทรา… รวี่เยว่ที่วันนี้ใช้พลังไปไม่น้อย พอขึ้นรถม้าได้นางก็ผล็อยหลับเกือบจะทันที แม่นมชุนและชุนอิ่งมองร่างเล็กด้วยแววตาหลากหลาย ทั้งสงสาร เอ็นดู ชมชื่น ปลาบปลื้ม ภาคภูมิใจ รวมถึงหวาดกลัว พวกนางกลัวเหลือเกินว่าคุณหนูของตนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส คงเป็นเพราะการแข่งขันรอบสุดท้ายของวันนี้ รวี่เยว่ถูกพลังหมัดปฐพีของศิษย์สำนักกระบี่จันทรา กระแทกจนตัวปลิวกลิ้งล้มไปหลายตลบ ผิวขาวผ่องของนางเขียวช้ำเป็นจ้ำ มุมปากมีเลือดไหลซึม ผู้ใหญ่ทั้งสองไม่รู้ว่านี่คือแผนตบตาของรวี่เยว่ นางจำเป็นต้องแกล้งเสียเปรียบผู้เข้าแข่งขันบางคนที่ระดับพลังสูงกว่าบ้าง ก่อนพลิกสถานะการณ์กลับมาชนะอย่างฉิวเฉียด เพื่อปกปิดพลังที่แท้จริงของนาง ลูก

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 9 การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /2

    การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ /2 สนามประลองวันสุดท้าย แทบไม่น่าเชื่อว่าม้ามืดอย่างรวี่เยว่ จะมีผู้ชมในสนามเอาใจช่วยมากกว่าครึ่ง บ่อนพนันชื่อดังถึงขนาดเปิดรับพนันในราคาต่อรองที่ค่อนข้างสูง เพราะเชื่อมั่นในตัวเด็กหญิง แต่กระนั้นคนส่วนมาก กลับลงพนันข้างศิษย์สำนักกระบี่จันทรานามว่า เผยหู่ บุตรชายคนเล็กของท่านเจ้าเมืองลวี่เฟิง หากรวี่เยว่ชนะตัวนางจะได้ส่วนแบ่งถึงสามส่วน!! หากแพ้ก็ไม่มีอะไรต้องเสีย ช่วงนี้รวี่เยว่เห็นอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด เด็กหญิงตัวเล็กๆอย่างนาง จำเป็นต้องมีเงินเพื่ออนาคตที่สดใส เฮ เฮ เฮ รวี่เยว่! รวี่เยว่! รวี่เยว่! เสียงสนับสนุนซึ่งส่วนมากจากชาวบ้าน และผู้เข้าแข่งขันอิสระที่ตกรอบไปแล้วดังกระหึ่มทั่วสนาม หลังจากนางเอาชนะคู่แข่งระดับหนิงชี่ขั้นปลายไปได้เมื่อช่วงเช้า ศิษย์ของสำนักกระบี่จันทราทั้งฝ่ายนอกและฝ่ายใน ต่างมารวมตัวกันเพื่อให้กำลังใจศิษย์ร่วมสำนักอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน ฮั่วเฮ่อฉียังคงมานั่งชมการประลองนี้ตามปกติ ทว่าในวันนี้มีสิ่งที่ดึงความสนใจของเด็กหนุ่มนอกเหนือจากรวี่เยว่น้อย บนเฉลียงฝั่งตรงข้ามซึ่งมีไว้สำหรับเจ้าสำนักกระบี่จันทรา เวลานี้ปรากฏบุรุษช

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 10 กลับไปกับข้า /1

    บทที่ 10 กลับไปกับข้า /1 แต่ก่อนที่กระบี่เล่มนั้นจะถึงตัวรวี่เยว่ องครักษ์ระดับหยวนอิงของตำหนักเทพอนันต์ และองครักษ์ระดับหยวนอิงของตำหนักเทวาอนธการ ได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน ทั้งคู่ใช้พลังหยุดกระบี่เล่มนั้นไว้ ภายในชั่วพริบตากระบี่เหล็กกล้าก็แหลกละเอียดเป็นผุยผงต่อหน้าทุกคน ปลิวหายไปกับสายลมที่พัดผ่าน รวี่เยว่ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นเพราะเสียขวัญ คาดไม่ถึงว่าจะมีคนใจร้าย หมายเอาชีวิตนางต่อหน้าผู้ชมหลายพันคนเยี่ยงนี้ ริมฝีปากจิ้มลิ้มสั่นระริก ดวงตาดอกท้อกลมโตเอ่อท้นด้วยน้ำตา กำลังจะส่งเสียงสะอื้นไห้ ทว่าแม่นมชุนทะยานมากอดนางไว้ได้ก่อน ถึงแม้รวี่เยว่จะเก่งกาจและกล้าหาญ ทว่านางก็เป็นเพียงเด็กอายุเก้าหนาวคนหนึ่งเท่านั้น… "คุณหนู คุณหนูของแม่นม บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าเจ้าคะ" แม่นมชุนน้ำตาไหลอาบใบหน้า ตกใจไม่แพ้ร่างเล็ก หากคุณหนูของนางเป็นอะไรขึ้นมา นางจะไปสู้หน้ารองแม่ทัพเยว่หนิงลี่ในปรโลกได้อย่างไร กลุ่มคนที่มาชมการประลองรอบสุดท้าย ต่างพากันส่งเสียงสาปแช่งเจ้าของกระบี่เล่มนั้นกันกระหึ่ม ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน เผยหลง พี่ชายของเผยหู่นั่นเอง หลายคนเป็นประจักษ์พยาน ว่าเห็นเขาซัดกระบี่ใส่เด

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 10 กลับไปกับข้า /2

    บทที่ 10 กลับไปกับข้า 2ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่อวี้เหวินเทียนหยา กำลังเอ่ยวาจาชักชวนรวี่เยว่ให้กลับไปกับตนอยู่นั้น ยังมีอีกคนที่กำลังร้อนใจไม่แพ้กัน ฮั่วเฮ่อฉีบดกรามดังกรอด ยามได้ยินถ้อยคำของชินอ๋องแห่งตำหนักเทวาอนธการ "เจ้ามารสวรรค์นั่นคิดขโมยรวี่เยว่น้อยของข้าไปต่อหน้าต่อตา อย่าได้ฝันไปหน่อยเลย!!" กล่าวจบกำลังทำท่าจะเหินลงมาจากเฉลียง ทว่าถูกอี้หรงงับหลังเข็มขัดไว้เสียก่อน "อี้หรง ปล่อยข้า! เจ้าจะมาห้ามข้าทำไม เจ้ามารสวรรค์นั่นกำลังจะขโมยรวี่เยว่น้อยของข้าเจ้าไม่เห็นรึ!" ฮั่วเฮ่อฉีดิ้นรนให้พ้นจากการถูกยื้อยุด ทำท่าจะปลดเข็มขัดออก ทว่าถูกเสียงของสหายรักห้ามปราบไว้เสียก่อน "ฝ่าบาท อย่าได้ทำสิ่งใดที่มันบุ่มบ่ามไปมากกว่านี้เลย ท่านเพิ่งสั่งลูกน้องให้เล่นงานมนุษย์ปางตายแท้ๆ หากสร้างเรื่องแย่งชิงเด็กมนุษย์กับคนของตำหนักเทวาอนธการขึ้นมาอีก ข้าเกรงว่าคนผู้นั้นได้เล่นงานท่านแน่" "กระหม่อมเห็นด้วยกับสิ่งที่ท่านอี้หรงกล่าวมาพะย่ะค่ะ" หัวหน้าองครักษ์ระดับหยวนอิงของฮั่วเฮ่อฉีประสานมือค้อมศีรษะเอ่ยสนับสนุน ฮั่วเฮ่อฉีกำหมัดแน่นใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง ยอมหันหลังกลับมานั่งบนเก้าอี้ที่พังไปแถบหน

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-08

Bab terbaru

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง ถึงแม้ตัวเลี่ยวโร่เป้ยจะโดดเด่นเปี่ยมด้วยพรสวรรค์อย่างไร แต่กลับไม่มีสิทธิ์นั่งบัลลังก์ของอาณาจักรหวงซา ด้วยว่ามีมารดาเป็นสตรีจากอาณาจักรอู๋ซาง รวมถึงเรื่องที่นางเป็นเพียงบุตรีจากอนุ เมื่อเป็นเช่นนั้น เลี่ยวเจิงเวยจึงหารือกับสือเซิน วางแผนช่วยเขาพิชิตอาณาจักรอู๋ซาง หากทำสำเร็จเลี่ยวเจิงเวยสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่า จะแต่งตั้งเลี่ยวโร่เป้ยขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอู๋ซางคนต่อไป ภายใต้ร่มเงาของอาณาจักรหวงซา เรื่องนี้วั่งเฉาหาได้รับรู้ เขาเข้าใจว่า หากหวงฝู่ฮ่าวอวี่ได้นั่งบัลลังก์ต่อจากพระบิดา สำนักกระบี่สวรรค์จะสนับสนุนวั่งเตี้ยนเถียน ให้ได้รับตำแหน่งฮองเฮาอย่างเต็มที่…ทั้งที่ความจริงตนเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของสือเซิน …อาณาจักรหวงซาซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของมหาพิภพทงเทียนเหอ มีสายแร่หลายชนิดเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาณาจักร ทว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และเต็มไปด้วยภูเขาหินจึงขาดแคลนพื้นทำการเกษตร หลายร้อยปีมานี้มักเข้าโจมตีเมืองติดชายแดนของอาณาจักรอู๋ซางอยู่เนืองๆ จุดประสงค์เพื่อแย่งชิงดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ในเขตนั้นมาเป็นของตน เพิ่งจะมีการทำสัญญาสงบศึกไปเม

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง จวนอัครมหาเสนาบดี ภายในโถงรับรองของเรือนส่วนตัว วั่งเฉาเข่าทรุดกระอักเลือด รับแรงกดดันหนักหน่วงจากบุรุษในชุดผ้าไหมสีเงินที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความหวาดหวั่นค่อนไปทางหวาดกลัว หวนรำลึกถึงเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อน ในวันที่บุรุษผู้นี้เดินทางมาหาเขา พร้อมยื่นข้อเสนออันแสนหอมหวานยั่วยวนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน สิ่งที่เขาต้องลงมือทำคือการกำจัดเด็กหญิงซึ่งมีชะตาหงส์ตามคำทำนายของหอพยากรณ์ในปีนั้น เด็กผู้หญิงอายุห้าหนาว ที่เกิดกลางฤดูวสันต์หลายคนถูกกำจัด ไม่ก็ถูกทำให้ไร้ซึ่งพลังธาตุ หากแต่คาดไม่ถึงว่า หนึ่งในนั้นจะรอดพ้นการคุกคามทั้งหมดทั้งมวลมาได้! กระทั่งเติบใหญ่ขึ้นมาและกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการผู้สูงส่ง แม้แต่พยัคฆ์อนธการยังยอมรับนางเป็นคู่พันธะ! “อาจารย์ หากวั่งเฉาตายจะมีคนสงสัยได้นะขอรับ โปรดยั้งมือด้วยเถิด” เสียงทุ้มของชายหนุ่มรูปงามที่นั่งกอดกระบี่อยู่บนเก้าอี้ดังขึ้น แรงกดดันหายไปตามคำขอ วั่งเฉาหอบหายใจรีบโกยอากาศเข้าปอดหนักหน่วง นึกว่าตนจะแดดิ้นด้วยมือบุรุษตรงหน้าเสียแล้ว เพียงแค่แรงกดดันยังทำเขากระอักเลือดไปหลายคำจนแทบสิ้นสติ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 50/2ความหวาดหวั่นและยำเกรง

    บทที่ 50/2 ความหวาดหวั่นและยำเกรง บัดนี้ เด็กคนนั้นกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการอันยิ่งใหญ่ สูงส่งห่างไกลจนมิอาจเอื้อมถึง เขาเคยปรามาสนางว่าเป็นเพียงแค่ขยะไร้ประโยชน์ ทั้งที่ความจริงนางคืออัจฉริยะ จะมีสักกี่คนบนมหาพิภพทงเทียนเหอ ที่สามารถบรรลุระดับหยวนอิงตั้งแต่อายุสิบห้า!… เขาและมารดาทำลายวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สมควรเป็นของตนลงกับมือ! ช่างน่าแค้นใจนัก… แต่หากว่าเขาทวงสิทธิ์ความเป็นบิดาของนาง กลับคืนมาต่อหน้าธารกำนัลในเวลานี้ ไม่แน่ว่าครั้งนี้อาจได้ผล! ด้วยเพราะฮ่องเต้ทรง ให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญู ต่อบุพการีและผู้มีพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หวังเหลียงหยัดกายลุกขึ้นก้าวออกมาที่ขอบกั้นอัฒจันทร์ กำลังจะอ้าปากเปล่งเสียงเรียกชื่อบุตรี ทว่ากลับถูกพลังลึกลับอันแข็งแกร่ง กระแทกเข้าที่ลำคอจนจุกแน่นก่อนกระอักเลือดออกมา ครั้นเหลือบมองขึ้นไปด้านบน สายตาพลันประสบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกต ทรงอำนาจดุดันของพยัคฆ์อนธการ พร้อมถ้อยคำส่งผ่านพลังปราณดังกึกก้องในโสตประสาท “หากไม่อยากสลายเป็นจุณ ก็เลิกคิดตอแยกับรวี่เยว่ซะ เพราะข้าหาใช่ผู้มีจิตใจเมตตา จำใส่กระโหลกหนาๆ ของเจ้าเอาไว้ให้ดี!” 
 ร่างอรช

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 50/1 ความหวาดหวั่นและยำเกรง

    บทที่ 50/1 ความหวาดหวั่นและยำเกรง สุ้มเสียงแว่วหวาน เอื้อนเอ่ยแสดงความเคารพฮ่องเต้ของแคว้นอู๋ซางอย่างนอบน้อม วรกายสูงสง่าของโอรสสวรรค์ หยัดขึ้นจากเก้าอี้ประธาน ก้าวมาหาหญิงสาวด้วยรอยยิ้มประดับมุมปากบางเบา “ธิดาเทพ ยินดีที่ได้พบ” เขากล่าวรับคำทักทายของนาง ก่อนเอ่ยวาจาต่อจากนั้น “คล้ายมาก ช่างคล้ายมากจริงๆ ต้าอ๋อง ท่านเองก็คิดเหมือนข้าใช่หรือไม่” ฮ่องเต้หวงฝู่ฮุ่ยหมิ่นหันไปถามลูกพี่ลูกน้องของตน ผู้เป็นอ๋องปกครองแดนทักษิณ ต้าอ๋องหรือ หวงฝู่เจิ้งหยาง บุตรชายของต้าอ๋องผู้เฒ่าผู้ล่วงลับ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปิตุลาของหวงฝู่ฮุ่ยหมิ่น “คล้ายอาลี่มากพะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับพระองค์” ต้าอ๋องลุกขึ้นจากที่นั่งก้าวมาสมทบกับฮ่องเต้ “ธิดาเทพ ข้าคงต้องขอละลาบละล้วงถามท่านซักคำถาม ไม่ทราบว่าพอจะบอกข้าได้ไหมว่า มารดาของท่านมีนามว่าอะไรหรือ” ต้าอ๋องเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการทราบ ด้วยน้ำเสียงสุภาพและอ่อนโยน “เรียนต้าอ๋อง มารดาของหม่อมฉันมีนามว่า เยว่หนิงลี่เพคะ” คำตอบของนางสร้างความตื่นตะลึงอีกครั้งให้ใครหลายๆคนในสนามประลอง บุตรีรองแม่ทัพเยว่หนิงลี่! นั่นก็หมายความว่า หญิงสาวตรงหน้าคือเด

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ท49/2 วันเปิดงาน

    บทที่ 49/2 วันเปิดงาน ฮั่วเฮ่อฉีเองช่วงนี้ก็มัวแต่วุ่นวายอยู่กับพี่น้อง และศิษย์จากตำหนักเทพอนันต์ จนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวมาพบรวี่เยว่ ชายหนุ่มถูกผู้อาวุโสขอให้ช่วยหลอมยา ให้บรรดาน้องๆ และศิษย์ตัวแทน จนตัวเขาแทบหมดเรี่ยวแรงทุกวี่วัน อี้หรงได้แต่มองคู่พันธะอย่างเห็นใจ ‘ใครใช้ให้ท่านอยากเป็นนักปรุงโอสถระดับเก้า ตั้งแต่อายุเท่านี้กันล่ะ ก้มหน้ารับชะตากรรมไปเถอะ ข้าเอาใจช่วย‘ สรุปว่าการเอาใจช่วยของอี้หรง ซึ่งหากฟังดีๆ จะคล้ายว่ากำลังสมน้ำหน้าเขา ทำให้มันโดนฮั่วเฮ่อฉีกัดหูไปหนึ่งทีจนน้ำตาร่วง… 
 จากฤดคิมหันต์ย่างเข้าต้นฤดูสารท อากาศที่เคยร้อนอบอ้าวผันเปลี่ยนเป็นเย็นสดชื่นอีกครั้ง เวลาแห่งการประลองอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอู๋ซางได้เริ่มต้นขึ้น ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางเข้าเมืองเทียนหวงเพื่อร่วมแข่งขัน หรือร่วมเป็นสักขีพยานในศึกของนักพรตรุ่นเยาว์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจ สนามประลองหลักที่ใช้ทำพิธีเปิดนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง สามารถจุผู้ชมได้มากถึงสองหมื่นคน ท้องฟ้าสีครามสดใสไร้เมฆบัง สายลมเย็นพัดเข้ามาเบาๆ ราวกับดนตรีที่เล่นโดยธรรมชาติ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 49/1 วันเปิดงานประลอง

    บทที่ 49/1 วันเปิดงานประลอง สิบห้าวันต่อมา ตัวแทนจากตำหนักเทวาอนธการได้เดินมาถึง โดยมีผู้อาวุโสหนึ่งและสอง นำศิษย์มากฝีมือซึ่งมีอายุไม่เกินสิบแปด จำนวนทั้งหมดหกคนที่จะเข้าร่วมการประลอง เดินทางมาด้วยตนเอง ส่วนองค์ไท่จื่ออย่างองค์ชายใหญ่ และองค์หญิงรองมิได้เข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ เพียงแค่มาร่วมชมความสนุกเฉยๆ ฮ่องเต้ทราบข่าวจากชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยา จึงมอบตำหนักรับรองริมทะเลสาบให้เป็นที่พักสำหรับคนจากตำหนักเทวาอนธการ ส่วนคนจากตำหนักเทพอนันต์ มีตำหนักใกล้ภูเขาทางทิศเหนือเป็นที่พักประจำอยู่แล้ว อวี้เหวินเทียนหยาและรวี่เยว่ไปรอรับพวกเขาอยู่ที่นั่นตั้งแต่ช่วงสาย ครั้นพอได้เวลามวลอากาศบนท้องฟ้าเหนือตำหนักก็แยกออกเป็นช่องกว้างขนาดใหญ่ คณะเดินทางทั้งหมดจากตำหนักเทวาอนธการก็ทยอยกันออกมา ทันทีที่อวี้เหวินอิงเอ๋อร์เห็นหน้ารวี่เยว่ นางก็ขี่กระบี่พุ่งตรงมาหา ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราจดจ้องธิดาเทพผู้เป็นสหายรักด้วยแววตาน้อยอกน้อยใจ “รวี่เยว่ คนใจร้าย ท่านทิ้งข้าไว้คนเดียวตั้งหลายเดือน ข้าเหงามากเลยรู้ไหม ฮึก ไม่มีใครเล่นสนุกกับข้าเลย ทุกคนเอาแต่เก็บตัวฝึกวิชา…ท่านสัญญาได้หรือไม่ว่าต่อไป

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 48/2 ความเปลี่ยนแปลง

    บทที่ 48/2 ความเปลี่ยนแปลง ในที่สุดก็ครบกำหนดจ่ายหนี้ที่ค้างไว้ ทั้งหวังเหลียงและฮูหยินผู้เฒ่าต่างอ้อนวอนหญิงสาว ขอให้นางเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก ยอมให้พวกเขาอาศัยอยู่ที่จวนหลังนี้ต่อไป เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือครอบครัวของนาง รวี่เยว่หัวเราะเย้ยหยัน ก่อนกล่าววาจาตอบโต้จนคนฟังหน้าชา “ฮ่าๆๆ ให้ข้าเห็นกับความเป็นพ่อลูกอย่างนั้นรึ! ช่างพูดออกมาได้ไม่อายปาก หากไม่ตกที่นั่งลำบากคงยังมองว่าข้าเป็นเพียงขยะไร้ประโยชน์อยู่สิท่า หึ! หน้าหนาไร้ยางอาย ข้าหาใช่บุตรหลานของพวกท่านนานแล้ว จำมิได้รึ?! เสมียนหวัง ท่านยังจำได้หรือไม่ หลังจากท่านส่งหนังสือตัดขาดไปให้ข้าเมื่อหกปีก่อน ท่านก็หยุดส่งเสียข้า ไม่สนใจว่าข้าจะมีที่ซุกหัวนอนหรือมีข้าวกิน โชคดีที่เจ้าของบ้านเช่าหลังนั้นเวทนาข้า แม่นมชุน และพี่ชุนอิ่ง ถึงได้ยอมให้พวกข้าอยู่โดยไม่เก็บเงินค่าเช่าเป็นเวลาสามเดือน! ไฉนตอนนั้นพวกท่านถึงไม่คิดว่าข้าเป็นคนในครอบครัวบ้างเล่า ทั้งๆ ที่เสวยสุขอยู่บนทรัพย์สินของมารดาข้าแท้ๆ! ข้าให้เวลาพวกท่านเก็บของหนึ่งวัน พรุ่งนี้เช้ายามเฉิน (07:00-08:59) พวกท่านทุกคนต้องย้ายออกไปจากที่นี่! หากไม่ยอมไปข้าจะไปแจ้งทาง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง

    บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง หวังเหลียงกระดกจอกสุราเข้าปากจนหมด ก่อนหันมามองมารดาด้วยสายตาว่างเปล่า “ท่านแม่จะถามข้าทำไมขอรับ ในเมื่อท่านบอกเองว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น” “อาเหลียง นี่มันใช่เวลาที่เจ้าจะมาประชดประชันข้าไหม ลองตรองดูให้ดี บางทีเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกัน เริ่มจากการที่เจ้ามาถามข้าเรื่องพิษ ต่อมาลุงของเจ้าก็หายตัว จากนั้นพลังของเจ้าก็…เฮ้อออ “ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจยาวในท้ายประโยคและเริ่มกล่าวต่อ “เจ้าไม่คิดว่ามันน่าแปลกหรอกรึ แต่ที่ข้ามาถามเจ้า เป็นเพราะวันนี้ทั้งเสียนเอ๋อร์และเหยียนเอ๋อร์ จู่ๆ ก็ไข้ขึ้นสูงอย่างไม่มีสาเหตุ หมอกี่คนมาตรวจต่างบอกว่าเป็นไข้ไม่ได้ถูกพิษ อาการเหมือนกับเจ้าก่อนหน้านี้ไม่มีผิด” คำพูดของหญิงชรามีความเป็นไปได้อยู่หลายส่วน หากนำมาเชื่อมโยงกันให้ดีๆ ก็จะเห็นจุดที่น่าสงสัย ทว่าในเอกสารที่เขาเคยอ่านผ่านตา ระบุไว้ชัดเจนเรื่องพิษเพลิงอสูรสดับปราณ ว่าจะออกฤทธิ์ได้ดีกับเด็กเล็กเท่านั้น ทั้งไม่เคยปรากฏในบันทึกไว้ว่าพิษนี้มีผลกับผู้ใหญ่ แต่หากตัวเขาถูกพิษชนิดนี้จริง นั่นก็หมายความว่า ต้องมีนักปรุงโอสถระดับสูง ที่สามารถปรุงพิษเพลิงอสูร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ

    บทที่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ ครั้งนี้ฮั่วเฮ่อฉีดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ หากองค์ราชาอวี้เหวินเทียนเหิงมีความสามารถพิเศษนี้จริง นั่นก็หมายความว่ารวี่เยว่คือองค์หญิงของตำหนักเทวาอนธการ และอวี้เหวินเทียนหยาก็คือพระปิตุลาของนาง! มิน่าเล่าเขาถึงกล่าวว่า สวรรค์เล่นตลกกับเขา! รอยยิ้มงดงามเจิดจ้าราวแสงตะวันยามเช้า ที่ส่งไปถึงดวงตาของฮั่วเฮ่อฉีผุดพรายเต็มดวงหน้า มือใหญ่ยกมากุมต้นแขนทั้งสองข้างของอวี้เหวินเทียนหยาพร้อมเขย่าเบาๆ “หลานเขยคงต้องขอฝากตัวกับท่านแล้ว พระปิตุลาของรวี่เยว่” เขาลอยหน้าลอยตาเอ่ยวาจาฝากฝังตัวเองกับอีกฝ่ายแบบเนียนๆ อวี้เหวินเทียนหยาคิ้วกระตุก ก้าวถอยหลังให้หลุดจากการเกาะกุมของฮั่วเฮ่อฉี ก่อนเอ่ยวาจาน้ำเสียงเนิบนาบระคนหมั่นไส้อย่างอดไม่อยู่ “หึ! อย่าเพิ่งหลงระเริงนัก ข้ายังไม่ได้บอกว่าท่านผ่านการทดสอบแล้วเสียหน่อย เรื่องนี้คงต้องดูกันอีกนาน และที่สำคัญเสด็จพี่ของข้าฝากมาบอกท่านว่า” “ธิดาของข้าจะเป็นเพียงภรรยาคนเดียวในชีวิตของสามีนาง หากบุรุษผู้นั้นทำไม่ได้ ก็ไสหัวไปไกลๆ เพราะข้าจะไม่มีวันยกนางให้เด็ดขาด!” อวี้เหวินเทียนหยาถ่ายทอดวาจาของ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status