Share

บทที่ 4 /1 รวี่เยว่

last update Last Updated: 2025-04-08 22:24:15

บทที่ 4/1 รวี่เยว่

"คุณหนูคิดถึงท่านเสนาธิการมากเลยหรือเจ้าคะ" เสียงของแม่นมชุนราบเรียบทว่าแฝงความขุ่นมัวอยู่ในนั้น

หวังลี่ถิงเป็นเด็กไวต่อความรู้สึกและอ่อนไหว นางจึงจับสังเกตได้จากน้ำเสียงของแม่นม ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มเข้ากันจนเป็นเส้นตรง ก้มหน้าลงเล็กน้อย หลังจากผ่านไปราวสามอึดใจจึงตัดสินใจเอ่ยปากออกมา

"ถิงเอ๋อร์คิดถึงท่านพ่อเจ้าค่ะแม่นม แต่ทำไมแม่นมถึงดูไม่ค่อยพอใจหรือเจ้าคะ ท่านพ่อ…ทำอะไรผิดหรือเจ้าคะ"

ชุนอิ่งหันไปสบตาท่านป้าของนาง ส่ายศีรษะเล็กน้อยอย่างไม่เห็นด้วย คุณหนูยังเด็กเกินไปที่จะมารับรู้เรื่องราวน่าอดสูที่กำลังเผชิญ

"ช้าเร็วก็ต้องบอกอยู่ดี ไม่บอกวันนี้จะรอให้ข้าบอกวันไหนอาอิ่ง"

ท่าทีของแม่นมชุนดูเคร่งเครียด ปฏิเสธความเห็นของหลานสาว จริงอยู่ที่หวังลี่ถิงยังเด็ก ทว่ากลับฉลาดหลักแหลมและรู้ความไม่น้อยไปกว่าผู้ใหญ่ นางมีค่าเกินกว่าจะมีบุรุษไร้ใจเห็นแก่ตัวอย่างหวังเหลียงเป็นบิดา

หากเขาทราบว่าบัดนี้บุตรสาวพลังธาตุตื่นขึ้นแล้ว ทั้งยังเป็นมหาธาตุหยินหยาง คงไม่แคล้วจะมาพาตัวกลับไปและฉกฉวยหาผลประโยชน์จากนางเป็นแน่

"คุณหนูรอสักครู่นะเจ้าคะ เดี๋ยวแม่นมกลับมา" ร่างท้วมของหญิงวัยกลางคนหยัดกายขึ้น ก้าวออกไปจากห้องของเด็กหญิง เพื่อหยิบของบางอย่างมาจากห้องนอนของตน

"พี่ชุนอิ่งเกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ" หวังลี่ถิงหันมาถามสาวใช้ที่นั่งก้มหน้าบีบมือตนเองแน่นอยู่ตอนนี้ เด็กหญิงรู้สึกได้ถึงความอึมครึมที่เริ่มครอบงำอารมณ์ของผู้ใหญ่ทั้งสอง

ไม่กี่อึดใจแม่นมชุนก็กลับมาพร้อมม้วนสารในมือ

"คุณหนูจะอ่านเองหรือให้แม่นมอ่านให้ฟังเจ้าคะ" นางรู้ว่าข้อความในนั้นเป็นสิ่งที่จะทำร้ายหัวใจเด็กหญิง แต่นางก็เชื่อมั่นว่าหวังลี่ถิงจะผ่านพ้นความเจ็บปวดนี้ไปได้

"ถิงเอ๋อร์ขออ่านเองเจ้าค่ะแม่นม" มือเล็กยื่นไปรับม้วนสารมาเปิดอ่าน ครั้นได้เห็นข้อความข้างในดวงตาท้อดอกพลันแดงก่ำขอบตารื้นน้ำ ม้วนสารร่วงจากมือเล็กตกลงพื้น หยาดน้ำตาเม็ดโตหยดลงบนกระดาษ เกิดเป็นด่างดวงบนตราประทับของตระกูลหวัง

- ตระกูลหวังขอแจ้งให้ทราบว่า บัดนี้ได้แต่งตั้ง เหวินไป๋เหลียน เป็นฮูหยินเอกของ หวังเหลียง เสนาธิการทหารแห่งราชวงศ์หวงฝู่ อาณาจักรอู๋ซาง แทนเยว่หนิงลี่ผู้ล่วงลับ

บุตรสาวคนเดียวของเยว่หนิงลี่ หวังลี่ถิง ขอปลดลงไปเพียงบุตรอนุ ด้วยเพราะมิอาจเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหวังได้

เนื่องมาจากไร้ซึ่งคุณสมบัติของชนชั้นสูงที่พึงมี อันได้แก่ รูปโฉม พลังธาตุ ความสามารถในการต่อสู้ อีกทั้งร่างกายอ่อนแอ ไม่สามารถเข้าร่วมกองทัพ

หากหวังลี่ถิงรับทราบและไม่ถือปฏิบัติตามกฏบัญญัติ ที่ได้ระบุไว้ในกฏของตระกูลหวัง ตัวข้าจำเป็นต้องลบชื่อนางออกจากแผนผังวงศ์ตระกูล

- ลงชื่อ หวังเหลียง

หวังลี่ถิงน้ำตาหลั่งรินราวเขื่อนแตก ร่างเล็กสะอื้นฮักจนตัวโยน ทว่ากลับไม่มีเสียงคร่ำครวญหลุดออกมาแม้แต่แอะเดียว มือเล็กกำเข้าหากันแน่นจนสั่นเทิ้ม ทั้งแม่นมชุนและชุนอิ่งต่างพากันร้องไห้ไปกับคุณหนูของตน พวกนางสามคนกอดกันสะอื้นให้อยู่พักใหญ่ ในที่สุดเสียงเล็กของหวังลี่ถิงก็ดังขึ้น

"ตั้งแต่เมื่อใดกันเจ้าคะแม่นม"

"หนึ่งเดือนหลังวันเกิดคุณหนูที่ผ่านมาเจ้าค่ะ คนที่มาส่งสารพอเห็นว่าคุณหนูยังคงไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ก็แจ้งให้ชายใจดำคนนั้นทราบตามที่ตนรู้เห็นมา ครั้นชายใจดำผู้นั้นรู้ว่าคุณหนูพลังธาตุยังไม่ตื่นทั้งที่อายุเก้าหนาวแล้ว จึงได้ส่งม้วนสารนี้มาให้เจ้าค่ะ" นิ้วอวบของหญิงวัยกลางคนปาดน้ำตาออกจากใบหน้าเล็กขณะแถลงความ หัวใจของนางรวดร้าวยามได้เห็นน้ำตาของหวังลี่ถิง

ทั้งที่มารดาของเด็กน้อยพลีชีพเพื่อแผ่นดิน แต่บิดาแท้ๆกลับทำเหมือนอีกฝ่ายหาใช่สายเลือดของตน เพียงเพราะไม่พอใจที่เขาต้องแต่งกับสตรีที่ตนไม่ได้รัก ตามคำสั่งของท่านโหวผู้เฒ่า จึงทำให้สตรีที่ตนรักใคร่เป็นได้เพียงอนุ

ท้ายที่สุดเอาความไม่พอใจทั้งหมดที่มี มาระบายใส่บุตรีผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ …ต่ำช้ายิ่งนัก

"แม่นมได้เขียนสารตอบไปหรือยังเจ้าคะ"

แม่นมชุนส่ายหน้า คราแรกนางตั้งใจว่าจะรอให้เด็กหญิงเติบโตกว่านี้อีกสักหน่อย จึงค่อยบอกนาง ทว่าเมื่อเห็นว่าเวลานี้หวังลี่ถิงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถึงได้เปลี่ยนใจบอกความจริงให้รู้

"ถ้าเช่นนั้นแม่นมช่วยถิงเอ๋อร์ ฮึก เขียนสารตอบกลับหน่อยนะเจ้าคะ ฮึก" ร่างเล็กยังคงสะอื้นอยู่บ้างเล็กน้อย ทว่าน้ำตาได้เหือดแห้งไปแล้ว

"คุณหนูจะให้แม่นมตอบกลับว่าอย่างไรเจ้าคะ"

"ตอบกลับไปว่า ข้าหวังลี่ถิง เป็นบุตรสาวของรองแม่ทัพเยว่หนิงลี่ผู้กล้าหาญ พลีชีพในสมรภูมิรบเพื่อปกป้องมาตุภูมิและเกียรติยศของอาราจักรอู๋ซาง มิอาจลดตัวลงไปเป็นเพียงบุตรอนุ ทำลายเกียรติอันยิ่งใหญ่รองแม่ทัพเยว่หนิงลี่ได้ ข้า อนุญาตให้ท่านเสนาธิการหวังเหลียง ลบชื่อของข้า หวังลี่ถิงออกจากแผนผังตระกูลหวัง บัดนี้ ข้าหาใช่บุตรสาวของท่านและคนตระกูลหวังอีกต่อไป"

สายตาของเด็กหญิงแน่วแน่เด็ดเดี่ยวยามเอ่ยวาจาทุกถ้อยคำ

เสี่ยวหลานและจวี๋จื่อที่ต่างก็ร้องไห้ไปกับนาง เวลาลุกขึ้นมาตบปีกตบมือชื่นชมความเด็ดเดี่ยวของสหายรัก

"เยี่ยมมากถิงเอ๋อร์ บิดาแบบนี้ไม่ต้องมีดีกว่า มีไปก็รังแต่จะเป็นภาระชีวิต" เสี่ยวหลานส่งเสียงให้กำลังใจ

"ถูกต้องที่สุด เดรัจฉานอย่างพวกเรายังรักลูก แต่บิดา ไม่ใช่สิ อดีตบิดาของเจ้าเป็นมนุษย์แท้ๆกลับแล้งน้ำใจ น่ารังเกียจที่สุด!" จวี๋จื่อพลันแยกเขี้ยวในตอนท้ายด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 4 รวี่เยว่ /2

    บทที่ 4 รวี่เยว่ /2 "ด่าได้ดีจวี๋จื่อ!" เสี่ยวหลานถูหัวของมันกับแก้มของแมวสาว แม่นมชุนยกยิ้ม ชื่นชมคุณหนูของตนว่าสมแล้วที่เป็นบุตรีของนักรบผู้หาญกล้า สายเลือดของเยว่หนิงลี่เข้มข้นกว่าสายเลือดคนตระกูลหวังโดยแท้จริง นางชอบใจตรงที่คุณหนูใช้คำว่า ข้าอนุญาต!!! สาแก่ใจยิ่งนัก นางเลยเขียนตัวหนังสือของคำนั้นใหญ่กว่าตัวหนังสืออื่นๆในสาร เมื่อเขียนสารจบพวกนางจึงนั่งรถม้าเข้าไปในเมืองเพื่อส่งสารไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางได้เห็นประกาศของสำนักบำเพ็ญติดไว้ที่จตุรัสกลางเมือง - ในอีกสามเดือนตัวแทนของสี่สำนักใหญ่จะมาดูการทดสอบนักเรียนของสำนักกระบี่จันทรา หรือผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมการทดสอบ อายุต้องไม่เกินสิบสองหนาว หากเด็กคนใดสนใจ สามารถลงชื่อสมัครได้ที่สำนักกระบี่จันทราโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ดวงตาของหวังลี่ถิงสว่างวาบนางหันไปหาแม่นมกับสาวใช้ เอ่ยปากบอกความประสงค์ของตนออกมาอย่างไม่ลังเล "ข้าต้องเข้าร่วมการทดสอบนี้เจ้าค่ะ ช่วยพาข้าไปลงชื่อสมัครทีนะเจ้าคะ" สำนักกระบี่จันทราเป็นสำนักมีชื่อเสียงประจำเมืองลวี่เฟิง ซึ่งถือเป็นเมืองใหญ่ของทิศอีสาน ในทุกๆปีจะจัดงานประลองขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ศิษย์ของสำนัก

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /1

    บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่/1 หมู่บ้านซีซาน เป็นหนึ่งในหมู่บ้านของเขตเมืองลวี่เฟิง ตั้งอยู่บนพื้นที่ห่างไกลอันแสนสงบสุข ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรอู๋ซาง ทิวทัศน์งดงามของเทือกเขาเขียวขจีสูงใหญ่ทอดยาวสุดสายตา ดูละม้ายคล้ายมังกรสีเขียวตัวมหึมากำลังหลับใหล ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า กอปรกับแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาสูง มุ่งลงทิศใต้ผ่านป่าเขาลำเนาไพร มอบความชุ่มชื้นและชีวิตให้สรรพสิ่ง รวี่เยว่น้อยเปิดม่านหน้าต่างรถม้า หลับตาสูดหายใจรับพลังปราณบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ตามที่แม่นมชุนให้คำแนะนำ และเมื่อกลับถึงบ้านนางก็ตรงเข้าห้อง ฝึกเดินลมปราณต่อทันทีจนถึงเวลาอาหารเย็น หลังกินอาหารเย็นเรียบร้อย ร่างเล็กจึงมานอนเล่นบนกองฟางเหม่อมองท้องฟ้าและดวงดารา อย่างที่ชอบทำอยู่เป็นประจำก่อนเข้านอน โดยมีแมวส้มจวี๋จื่ออยู่เป็นเพื่อน เสี่ยวหลานกลับรังของมันไปตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตก ตามธรรมชาติของนกน้อย ท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้ สว่างไสวจากแสงแห่งจันทรา มือเล็กเรียกไฟธาตุกำเนิดในมือข้างซ้ายออกมารับแสงจันทร์ "ถิงเอ๋อร์ ไม่สิ รวี่เยว่ เจ้าจะลงประลองในอีกสามเดือนจริงๆ อย่างนั้นหรือ" จวี๋จื่อเกยคา

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /2

    บททึ่ 5 อาจารย์ของรวี่เยว่ /2 วูบบบ มหาเทพหวงหลงซึ่งกำลังคันไม้คันมือคล้ายเด็กได้ของเล่นใหม่ รีบพาร่างเล็กมาโผล่ ณ ลานฝึกกลางหุบเขาเล็กๆ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังปราณฟ้าดิน ต้นไม้ใบหญ้าทุกต้นมีละอองสีเงินและสีทองล้อมรอบ "ที่นี่คือลานฝึกที่ข้าสร้างให้เจ้าโดยเฉพาะ ยอดเยี่ยมไปเลยใช่หรือไม่" มหาเทพจอมซนยืนเอามือไพล่หลังยืดอกบอกรวี่เยว่ด้วยความภาคภูมิใจ "ท่านเทพสร้างให้รวี่เยว่โดยเฉพาะเลยหรือเจ้าคะ?!" ร่างเล็กถามเสียงสูงด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ พลางกวาดตามองไปทั่วหุบเขา หากเดาไม่ผิดต้นไม้ใบหญ้าพวกนี้คือพืชปราณทั้งหมด!! "ถูกต้อง พวกเรามาเริ่มฝึกกันเถอะเด็กน้อย" "เอ่ออ แล้วรวี่เยว่ไม่ต้องกราบท่านเทพเป็นอาจารย์ก่อนหรือเจ้าคะ" ร่างเล็กยืนเอามือประสานไว้ที่หน้าอก เอียงหน้ากะพริบตาปริบๆ เอ่ยถามมหาเทพเรื่องที่ศิษย์ต้องกราบอาจารย์ ก่อนได้รับการสั่งสอนตามธรรมเนียม…หรือว่าบนแดนเทพไม่มีธรรมเนียมปฏิบัตินี้กัน? "…" มหาเทพหวงหลง คำถามของรวี่เยว่สร้างความงุนงงให้กับมหาเทพหวงหลงไม่น้อย ด้วยเพราะเขาไม่เคยรับศิษย์หรือสั่งสอนวิชาให้ใครมาก่อน จึงแอบส่งจิตไปถามมหาเทพชิงหลง ที่ชอบแอบหนีลงมาเที่ยวเล่นบนพิ

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /1

    บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /1 ภายในหัวเล็กๆ ของรวี่เยว่เต็มไปด้วยคำถาม นางไปทำให้ใครโกรธแค้นถึงได้ถูกทำร้ายด้วยยาพิษร้ายแรงชนิดนี้ ตลอดเวลาที่อยู่ในจวนเสนาธิการ นางก็อยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่ไปวุ่นวายกับใครตามคำสั่งของท่านแม่ แต่กลับถูกน้องชายที่เกิดจากฮูหยินรองหาเรื่องกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ ท่านย่าของนางก็ถือหางหลานชาย ทั้งที่นางคือผู้ถูกกระทำแท้ๆ หลายปีที่ผ่านมานางต้องกล้ำกลืนความอยุติธรรมที่ถูกหยิบยื่นให้ ทั้งที่น้อยเนื้อต่ำใจแต่ก็เคยไม่ปริปากบ่น แต่การตั้งใจวางยาพิษเพื่อตัดอนาคตนางแบบนี้ นับว่าชั่วร้ายเกินไป นางอภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!ดวงตาของรวี่เยว่เอ่อท้นด้วยน้ำตาแห่งความเคืองแค้น ปากเล็กเอ่ยถามอาจารย์ของตนเสียงสั่น "ท่านอาจารย์เจ้าคะ ท่านบอกศิษย์ได้หรือไม่เจ้าคะ ว่าใครเป็นคนทำ ใครวางยาพิษข้า" มหาเทพหวงหลงมองหน้าลูกศิษย์ตัวน้อยอย่างเห็นใจ ไม่ว่าใครที่ตกอยู่ในสถานะการณ์เช่นเดียวกันกับนาง ย่อมต้องโกรธแค้นเป็นธรรมดา ขนาดว่าตัวเขาเป็นเทพยังขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อย เมื่อได้รู้เห็นเรื่องราวของเด็กหญิงผ่านกระจกส่องพิภพ แต่กระนั้นเรื่องบางอย่างเขาก็มิอาจเข้ามาก้าวก่าย ต้องปล่อยให้เป็นไปตามชะตาล

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2

    บทที่ 6 พี่ชายคนงาม /2 และก็เป็นอย่างที่มหาเทพหวงหลงคาดการณ์ไว้ ในระยะเวลาเพียงสองเดือนครึ่ง พลังของรวี่เยว่ทะยานแตะระดับจู้จีตอนต้นเป็นที่เรียบร้อย เด็กในวัยเดียวกันไม่มีใครต่อกรกับนางได้อย่างแน่นอน ไม่ใช่แค่เด็ก ผู้ใหญ่บางคนก็เช่นเดียวกัน… วันนี้รวี่เยว่ขอแม่นมชุน ให้พานางมาฝึกในป่าทางทิศตะวันออกของเมืองลวี่เฟิง นางอยากเห็นสัตว์อสูรตัวเป็นๆด้วยตาตนเองสักครั้ง เคยเห็นเพียงซากของพวกมันที่ถูกนำไปขายในตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์อสูรระดับต่ำ ในขณะที่กำลังเดินอยู่กับคนนำทางและนายพราน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบในป่าอยู่นั้น พื้นใต้เท้าของพวกเขาก็สั่นสะเทือนรุนแรง พร้อมเสียงสัตว์คำรามดังอยู่ด้านหน้าราวครึ่งลี้* ครืน! ครืน! ครืน! ฮึมมมมมม "เกิดอะไรขึ้น!" แม่นมชุนเอ่ยถามคนนำทาง หญิงวัยกลางคนรีบเอาตัวบังร่างเล็กของรวี่เยว่ "ดูท่าว่ามีฝูงสัตว์อสูรกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ รีบหลบกันก่อนเถอะ" คนนำทางตอบคำถามพลางกวาดตามองหาที่หลบให้ทุกคน "ตรงนั้นรีบไปกันเถอะ" พวกเขาใช้วิชาตัวเบาทะยานขึ้นไปหลบบนชะง่อนผา ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นฝูงสัตว์พอดี ห่างไปไม่ไกลฝูงกระทิงเกราะสัตว์อสูรระดับห้า พวกมันมี

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1

    บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /1 ดวงตาของเด็กหนุ่มกลายเป็นสีเงินในขณะที่กล่าวคำว่า “เจ้าต้องกลับไปกับข้า” เรียวคิ้วเล็กของรวี่เยว่มุ่นเข้าหากัน เมื่อได้ยินถ้อยคำจากปากเด็กหนุ่ม ไพล่คิดในใจว่า พี่ชายคนงามจะพานางกลับบ้านไปด้วย ทั้งที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกแท้ๆ ช่างเป็นบุรุษเจ้าชู้ยิ่ง! นางยังเด็กอยู่เลยนะ แม้แต่เด็กก็ไม่ละเว้น ใช้ไม่ได้! ส่วนสาเหตุที่ทำให้นางคิดเช่นนี้ เป็นเพราะเมื่อก่อนนางเคยเห็นบิดา พาหญิงสาวอายุน้อยกว่ากลับมาบ้านอยู่สองสามคน และแต่งตั้งพวกนางเป็นอนุของเขาในเวลาต่อมา "รวี่เยว่ยังไปกับองค์ไท่จื่อไม่ได้เพคะ รวี่เยว่มีธุระที่ต้องทำอีกหลายอย่างเลย องค์ไท่จื่อไม่โกรธรวี่เยว่นะเพคะ" ทุกคน ณ ที่นั้นต่างพากันตกตะลึง ไม่เว้นแม้ราชันย์หมาป่าพระจันทร์เงิน เด็กหญิงตรงหน้าสามารถต้านมนตรามายาจิ้งจอกขององค์ไท่จื่อได้!!! ร่างใหญ่โตสีเงินตัดสินใจก้าวมาหาฮั่วเฮ่อฉี เอ่ยถ้อยคำอย่างใจเย็น เมื่อเห็นสีหน้ามืดครึ้มของเด็กหนุ่ม "ฝ่าบาท ข้าทราบว่าท่านชอบเอาลูกสัตว์ไปเลี้ยงดู แต่กับลูกมนุษย์…เกรงว่าจะไม่เหมาะสมนัก" จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นส่งกระแสจิตไปหาเขาแทน 'แม้ว่านางจะพิเศษกว่

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 7 เริ่มต้นหลอมโอสถ /2

    บทที่ 7เริ่มต้นหลอมโอสถ /2 รอให้นางถึงระดับหยวนอิงก่อนเถอะ นางจะกลับไปทวงทุกอีแปะคืนด้วยตนเอง! "ได้แน่นอน หากรวี่เยว่น้อยอยากฝึกการหลอมโอสถ อาจารย์ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยสอน" มหาเทพหวงหลงแวบหายไปราวสามอึดใจ และกลับมาพร้อมเทพหนุ่มรูปโฉมสะคราญยิ่งอีกองค์หนึ่ง ทำเอารวี่เยว่และสหายทั้งสองตัวของนางหลุดอุทานออกมาพร้อมกันอย่างลืมสำรวม "โห รูปงามมากเลย" ผู้ที่มหาเทพหวงหลงพามาระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น พลางเดินไปลงนั่งข้างสหาย "ท่านต้องการให้ข้าช่วยสอนเด็กน้อยปรุงยาอย่างนั้นสินะ" มหาเทพชิงหลงเสกพัดออกมาโบกด้วยท่าทางเกียจคร้าน "ใช่ เจ้าพอจะช่วยนางได้หรือไม่" "ได้แน่นอน แต่นางต้องกราบข้าเป็นอาจารย์ก่อน" เขาก็อยากมีลูกศิษย์เป็นผู้ถูกเลือกเหมือนกัน เรื่องดีๆ แบบนี้หมื่นปีจะมีสักครั้ง รวี่เยว่มองหน้าอาจารย์ของตน ครั้นเห็นว่าเขาพยักหน้ารับ ร่างเล็กจึงเดินมาคุกเข่าและโขกศีรษะจบครบสามครั้งตามธรรมเนียม "อาจารย์รอง ศิษย์ขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ" ที่นางเรียกอาจารย์รองเพราะจะได้ไม่สับสน มหาเทพชิงหลงดูพอใจกับไหวพริบของร่างเล็ก เขาเสกตำราออกมาสองเล่ม และบอกให้นางท่องจำเนื้อหาในนั้นทั้งหมด ห

    Last Updated : 2025-04-08
  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1

    บทที่ 8 คนจากสี่สำนักใหญ่ /1 แม้ว่าเมืองลวี่เฟิงจะเป็นเมืองชายแดน ทว่าเป็นที่ตั้งหอประมูลโอสถสำคัญของอาณจักรอู๋ซาง เจ้าของหอแห่งนี้เป็นคนตำหนักเทพอนันต์ และมักนำโอสถชั้นสูงออกมาทำประมูลอยู่หลายครั้งภายในหนึ่งปี การประมูลโอสถระดับสูงครั้งต่อไปจะมีขึ้นในอีกสามวัน ทำให้เวลานี้ในเมืองลวี่เฟิงจึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ ลานประลองในวันนี้ถูกจัดขึ้น ณ สนามประลองใหญ่ของฝ่ายใน ซึ่งสามารถจุคนได้มากถึงสองหมื่นคน บนเฉลียงใหญ่ของอัฒจันทร์สองด้าน มีธงของสี่สำนักใหญ่แสดงอยู่ ด้านหนึ่งเว้นไว้สำหรับสำนักกระบี่จันทรา ส่วนเฉลียงอีกด้านตระเตรียมที่นั่งพิเศษไว้เช่นกัน ทว่ากลับไม่มีธงหรือสัญลักษณ์ของสำนักใดแสดงไว้ รวี่เยว่มองสนามประลองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางประหม่าจนมือเย็นไปหมด "จวี๋จื่อ เสี่ยวหลาน ข้าตื่นเต้นมากเลยทำอย่างไรดี" "สูดหายใจลึกๆ เหมือนกับตอนที่นั่งบำเพ็ญรวี่เยว่ เจ้าชนะแน่นอน เชื่อมั่นในตนเองหน่อย เจ้าทำได้" เสี่ยวหลานที่เกาะอยู่บ่าเล็กส่งเสียงให้กำลังสหายของมัน "ใช่แล้วรวี่เยว่ อย่างที่ท่านอาจารย์ทั้งสองบอกไว้ ในเด็กรุ่นเดียวกันไม่มีใครเอาชนะเจ้าได้แน่นอน" จวี๋จื่อเอาหัวน

    Last Updated : 2025-04-08

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/2 คนร้ายตัวจริง ถึงแม้ตัวเลี่ยวโร่เป้ยจะโดดเด่นเปี่ยมด้วยพรสวรรค์อย่างไร แต่กลับไม่มีสิทธิ์นั่งบัลลังก์ของอาณาจักรหวงซา ด้วยว่ามีมารดาเป็นสตรีจากอาณาจักรอู๋ซาง รวมถึงเรื่องที่นางเป็นเพียงบุตรีจากอนุ เมื่อเป็นเช่นนั้น เลี่ยวเจิงเวยจึงหารือกับสือเซิน วางแผนช่วยเขาพิชิตอาณาจักรอู๋ซาง หากทำสำเร็จเลี่ยวเจิงเวยสัญญาเป็นมั่นเหมาะว่า จะแต่งตั้งเลี่ยวโร่เป้ยขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอู๋ซางคนต่อไป ภายใต้ร่มเงาของอาณาจักรหวงซา เรื่องนี้วั่งเฉาหาได้รับรู้ เขาเข้าใจว่า หากหวงฝู่ฮ่าวอวี่ได้นั่งบัลลังก์ต่อจากพระบิดา สำนักกระบี่สวรรค์จะสนับสนุนวั่งเตี้ยนเถียน ให้ได้รับตำแหน่งฮองเฮาอย่างเต็มที่…ทั้งที่ความจริงตนเป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของสือเซิน …อาณาจักรหวงซาซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของมหาพิภพทงเทียนเหอ มีสายแร่หลายชนิดเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอาณาจักร ทว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย และเต็มไปด้วยภูเขาหินจึงขาดแคลนพื้นทำการเกษตร หลายร้อยปีมานี้มักเข้าโจมตีเมืองติดชายแดนของอาณาจักรอู๋ซางอยู่เนืองๆ จุดประสงค์เพื่อแย่งชิงดินแดนอันอุดมสมบูรณ์ในเขตนั้นมาเป็นของตน เพิ่งจะมีการทำสัญญาสงบศึกไปเม

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง

    บทที่ 51/1 คนร้ายตัวจริง จวนอัครมหาเสนาบดี ภายในโถงรับรองของเรือนส่วนตัว วั่งเฉาเข่าทรุดกระอักเลือด รับแรงกดดันหนักหน่วงจากบุรุษในชุดผ้าไหมสีเงินที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ภายในใจอัดแน่นไปด้วยความหวาดหวั่นค่อนไปทางหวาดกลัว หวนรำลึกถึงเรื่องเมื่อสิบกว่าปีก่อน ในวันที่บุรุษผู้นี้เดินทางมาหาเขา พร้อมยื่นข้อเสนออันแสนหอมหวานยั่วยวนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน สิ่งที่เขาต้องลงมือทำคือการกำจัดเด็กหญิงซึ่งมีชะตาหงส์ตามคำทำนายของหอพยากรณ์ในปีนั้น เด็กผู้หญิงอายุห้าหนาว ที่เกิดกลางฤดูวสันต์หลายคนถูกกำจัด ไม่ก็ถูกทำให้ไร้ซึ่งพลังธาตุ หากแต่คาดไม่ถึงว่า หนึ่งในนั้นจะรอดพ้นการคุกคามทั้งหมดทั้งมวลมาได้! กระทั่งเติบใหญ่ขึ้นมาและกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการผู้สูงส่ง แม้แต่พยัคฆ์อนธการยังยอมรับนางเป็นคู่พันธะ! “อาจารย์ หากวั่งเฉาตายจะมีคนสงสัยได้นะขอรับ โปรดยั้งมือด้วยเถิด” เสียงทุ้มของชายหนุ่มรูปงามที่นั่งกอดกระบี่อยู่บนเก้าอี้ดังขึ้น แรงกดดันหายไปตามคำขอ วั่งเฉาหอบหายใจรีบโกยอากาศเข้าปอดหนักหน่วง นึกว่าตนจะแดดิ้นด้วยมือบุรุษตรงหน้าเสียแล้ว เพียงแค่แรงกดดันยังทำเขากระอักเลือดไปหลายคำจนแทบสิ้นสติ

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 50/2ความหวาดหวั่นและยำเกรง

    บทที่ 50/2 ความหวาดหวั่นและยำเกรง บัดนี้ เด็กคนนั้นกลายเป็นธิดาเทพแห่งตำหนักเทวาอนธการอันยิ่งใหญ่ สูงส่งห่างไกลจนมิอาจเอื้อมถึง เขาเคยปรามาสนางว่าเป็นเพียงแค่ขยะไร้ประโยชน์ ทั้งที่ความจริงนางคืออัจฉริยะ จะมีสักกี่คนบนมหาพิภพทงเทียนเหอ ที่สามารถบรรลุระดับหยวนอิงตั้งแต่อายุสิบห้า!… เขาและมารดาทำลายวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สมควรเป็นของตนลงกับมือ! ช่างน่าแค้นใจนัก… แต่หากว่าเขาทวงสิทธิ์ความเป็นบิดาของนาง กลับคืนมาต่อหน้าธารกำนัลในเวลานี้ ไม่แน่ว่าครั้งนี้อาจได้ผล! ด้วยเพราะฮ่องเต้ทรง ให้ความสำคัญเรื่องความกตัญญู ต่อบุพการีและผู้มีพระคุณเป็นอย่างยิ่ง หวังเหลียงหยัดกายลุกขึ้นก้าวออกมาที่ขอบกั้นอัฒจันทร์ กำลังจะอ้าปากเปล่งเสียงเรียกชื่อบุตรี ทว่ากลับถูกพลังลึกลับอันแข็งแกร่ง กระแทกเข้าที่ลำคอจนจุกแน่นก่อนกระอักเลือดออกมา ครั้นเหลือบมองขึ้นไปด้านบน สายตาพลันประสบเข้ากับดวงตาสีเขียวมรกต ทรงอำนาจดุดันของพยัคฆ์อนธการ พร้อมถ้อยคำส่งผ่านพลังปราณดังกึกก้องในโสตประสาท “หากไม่อยากสลายเป็นจุณ ก็เลิกคิดตอแยกับรวี่เยว่ซะ เพราะข้าหาใช่ผู้มีจิตใจเมตตา จำใส่กระโหลกหนาๆ ของเจ้าเอาไว้ให้ดี!” 
 ร่างอรช

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 50/1 ความหวาดหวั่นและยำเกรง

    บทที่ 50/1 ความหวาดหวั่นและยำเกรง สุ้มเสียงแว่วหวาน เอื้อนเอ่ยแสดงความเคารพฮ่องเต้ของแคว้นอู๋ซางอย่างนอบน้อม วรกายสูงสง่าของโอรสสวรรค์ หยัดขึ้นจากเก้าอี้ประธาน ก้าวมาหาหญิงสาวด้วยรอยยิ้มประดับมุมปากบางเบา “ธิดาเทพ ยินดีที่ได้พบ” เขากล่าวรับคำทักทายของนาง ก่อนเอ่ยวาจาต่อจากนั้น “คล้ายมาก ช่างคล้ายมากจริงๆ ต้าอ๋อง ท่านเองก็คิดเหมือนข้าใช่หรือไม่” ฮ่องเต้หวงฝู่ฮุ่ยหมิ่นหันไปถามลูกพี่ลูกน้องของตน ผู้เป็นอ๋องปกครองแดนทักษิณ ต้าอ๋องหรือ หวงฝู่เจิ้งหยาง บุตรชายของต้าอ๋องผู้เฒ่าผู้ล่วงลับ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปิตุลาของหวงฝู่ฮุ่ยหมิ่น “คล้ายอาลี่มากพะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมเห็นด้วยกับพระองค์” ต้าอ๋องลุกขึ้นจากที่นั่งก้าวมาสมทบกับฮ่องเต้ “ธิดาเทพ ข้าคงต้องขอละลาบละล้วงถามท่านซักคำถาม ไม่ทราบว่าพอจะบอกข้าได้ไหมว่า มารดาของท่านมีนามว่าอะไรหรือ” ต้าอ๋องเอ่ยถามสิ่งที่ต้องการทราบ ด้วยน้ำเสียงสุภาพและอ่อนโยน “เรียนต้าอ๋อง มารดาของหม่อมฉันมีนามว่า เยว่หนิงลี่เพคะ” คำตอบของนางสร้างความตื่นตะลึงอีกครั้งให้ใครหลายๆคนในสนามประลอง บุตรีรองแม่ทัพเยว่หนิงลี่! นั่นก็หมายความว่า หญิงสาวตรงหน้าคือเด

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ท49/2 วันเปิดงาน

    บทที่ 49/2 วันเปิดงาน ฮั่วเฮ่อฉีเองช่วงนี้ก็มัวแต่วุ่นวายอยู่กับพี่น้อง และศิษย์จากตำหนักเทพอนันต์ จนแทบไม่มีเวลาปลีกตัวมาพบรวี่เยว่ ชายหนุ่มถูกผู้อาวุโสขอให้ช่วยหลอมยา ให้บรรดาน้องๆ และศิษย์ตัวแทน จนตัวเขาแทบหมดเรี่ยวแรงทุกวี่วัน อี้หรงได้แต่มองคู่พันธะอย่างเห็นใจ ‘ใครใช้ให้ท่านอยากเป็นนักปรุงโอสถระดับเก้า ตั้งแต่อายุเท่านี้กันล่ะ ก้มหน้ารับชะตากรรมไปเถอะ ข้าเอาใจช่วย‘ สรุปว่าการเอาใจช่วยของอี้หรง ซึ่งหากฟังดีๆ จะคล้ายว่ากำลังสมน้ำหน้าเขา ทำให้มันโดนฮั่วเฮ่อฉีกัดหูไปหนึ่งทีจนน้ำตาร่วง… 
 จากฤดคิมหันต์ย่างเข้าต้นฤดูสารท อากาศที่เคยร้อนอบอ้าวผันเปลี่ยนเป็นเย็นสดชื่นอีกครั้ง เวลาแห่งการประลองอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอู๋ซางได้เริ่มต้นขึ้น ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางเข้าเมืองเทียนหวงเพื่อร่วมแข่งขัน หรือร่วมเป็นสักขีพยานในศึกของนักพรตรุ่นเยาว์ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจ สนามประลองหลักที่ใช้ทำพิธีเปิดนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองหลวง สามารถจุผู้ชมได้มากถึงสองหมื่นคน ท้องฟ้าสีครามสดใสไร้เมฆบัง สายลมเย็นพัดเข้ามาเบาๆ ราวกับดนตรีที่เล่นโดยธรรมชาติ ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 49/1 วันเปิดงานประลอง

    บทที่ 49/1 วันเปิดงานประลอง สิบห้าวันต่อมา ตัวแทนจากตำหนักเทวาอนธการได้เดินมาถึง โดยมีผู้อาวุโสหนึ่งและสอง นำศิษย์มากฝีมือซึ่งมีอายุไม่เกินสิบแปด จำนวนทั้งหมดหกคนที่จะเข้าร่วมการประลอง เดินทางมาด้วยตนเอง ส่วนองค์ไท่จื่ออย่างองค์ชายใหญ่ และองค์หญิงรองมิได้เข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ เพียงแค่มาร่วมชมความสนุกเฉยๆ ฮ่องเต้ทราบข่าวจากชินอ๋องอวี้เหวินเทียนหยา จึงมอบตำหนักรับรองริมทะเลสาบให้เป็นที่พักสำหรับคนจากตำหนักเทวาอนธการ ส่วนคนจากตำหนักเทพอนันต์ มีตำหนักใกล้ภูเขาทางทิศเหนือเป็นที่พักประจำอยู่แล้ว อวี้เหวินเทียนหยาและรวี่เยว่ไปรอรับพวกเขาอยู่ที่นั่นตั้งแต่ช่วงสาย ครั้นพอได้เวลามวลอากาศบนท้องฟ้าเหนือตำหนักก็แยกออกเป็นช่องกว้างขนาดใหญ่ คณะเดินทางทั้งหมดจากตำหนักเทวาอนธการก็ทยอยกันออกมา ทันทีที่อวี้เหวินอิงเอ๋อร์เห็นหน้ารวี่เยว่ นางก็ขี่กระบี่พุ่งตรงมาหา ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราจดจ้องธิดาเทพผู้เป็นสหายรักด้วยแววตาน้อยอกน้อยใจ “รวี่เยว่ คนใจร้าย ท่านทิ้งข้าไว้คนเดียวตั้งหลายเดือน ข้าเหงามากเลยรู้ไหม ฮึก ไม่มีใครเล่นสนุกกับข้าเลย ทุกคนเอาแต่เก็บตัวฝึกวิชา…ท่านสัญญาได้หรือไม่ว่าต่อไป

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 48/2 ความเปลี่ยนแปลง

    บทที่ 48/2 ความเปลี่ยนแปลง ในที่สุดก็ครบกำหนดจ่ายหนี้ที่ค้างไว้ ทั้งหวังเหลียงและฮูหยินผู้เฒ่าต่างอ้อนวอนหญิงสาว ขอให้นางเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก ยอมให้พวกเขาอาศัยอยู่ที่จวนหลังนี้ต่อไป เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือครอบครัวของนาง รวี่เยว่หัวเราะเย้ยหยัน ก่อนกล่าววาจาตอบโต้จนคนฟังหน้าชา “ฮ่าๆๆ ให้ข้าเห็นกับความเป็นพ่อลูกอย่างนั้นรึ! ช่างพูดออกมาได้ไม่อายปาก หากไม่ตกที่นั่งลำบากคงยังมองว่าข้าเป็นเพียงขยะไร้ประโยชน์อยู่สิท่า หึ! หน้าหนาไร้ยางอาย ข้าหาใช่บุตรหลานของพวกท่านนานแล้ว จำมิได้รึ?! เสมียนหวัง ท่านยังจำได้หรือไม่ หลังจากท่านส่งหนังสือตัดขาดไปให้ข้าเมื่อหกปีก่อน ท่านก็หยุดส่งเสียข้า ไม่สนใจว่าข้าจะมีที่ซุกหัวนอนหรือมีข้าวกิน โชคดีที่เจ้าของบ้านเช่าหลังนั้นเวทนาข้า แม่นมชุน และพี่ชุนอิ่ง ถึงได้ยอมให้พวกข้าอยู่โดยไม่เก็บเงินค่าเช่าเป็นเวลาสามเดือน! ไฉนตอนนั้นพวกท่านถึงไม่คิดว่าข้าเป็นคนในครอบครัวบ้างเล่า ทั้งๆ ที่เสวยสุขอยู่บนทรัพย์สินของมารดาข้าแท้ๆ! ข้าให้เวลาพวกท่านเก็บของหนึ่งวัน พรุ่งนี้เช้ายามเฉิน (07:00-08:59) พวกท่านทุกคนต้องย้ายออกไปจากที่นี่! หากไม่ยอมไปข้าจะไปแจ้งทาง

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง

    บทที่ 48/1 ความเปลี่ยนแปลง หวังเหลียงกระดกจอกสุราเข้าปากจนหมด ก่อนหันมามองมารดาด้วยสายตาว่างเปล่า “ท่านแม่จะถามข้าทำไมขอรับ ในเมื่อท่านบอกเองว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น” “อาเหลียง นี่มันใช่เวลาที่เจ้าจะมาประชดประชันข้าไหม ลองตรองดูให้ดี บางทีเรื่องนี้อาจเชื่อมโยงกัน เริ่มจากการที่เจ้ามาถามข้าเรื่องพิษ ต่อมาลุงของเจ้าก็หายตัว จากนั้นพลังของเจ้าก็…เฮ้อออ “ฮูหยินผู้เฒ่าถอนหายใจยาวในท้ายประโยคและเริ่มกล่าวต่อ “เจ้าไม่คิดว่ามันน่าแปลกหรอกรึ แต่ที่ข้ามาถามเจ้า เป็นเพราะวันนี้ทั้งเสียนเอ๋อร์และเหยียนเอ๋อร์ จู่ๆ ก็ไข้ขึ้นสูงอย่างไม่มีสาเหตุ หมอกี่คนมาตรวจต่างบอกว่าเป็นไข้ไม่ได้ถูกพิษ อาการเหมือนกับเจ้าก่อนหน้านี้ไม่มีผิด” คำพูดของหญิงชรามีความเป็นไปได้อยู่หลายส่วน หากนำมาเชื่อมโยงกันให้ดีๆ ก็จะเห็นจุดที่น่าสงสัย ทว่าในเอกสารที่เขาเคยอ่านผ่านตา ระบุไว้ชัดเจนเรื่องพิษเพลิงอสูรสดับปราณ ว่าจะออกฤทธิ์ได้ดีกับเด็กเล็กเท่านั้น ทั้งไม่เคยปรากฏในบันทึกไว้ว่าพิษนี้มีผลกับผู้ใหญ่ แต่หากตัวเขาถูกพิษชนิดนี้จริง นั่นก็หมายความว่า ต้องมีนักปรุงโอสถระดับสูง ที่สามารถปรุงพิษเพลิงอสูร

  • ทั่วทั้งใต้หล้าข้ายอมสยบเพียงนาง   บททค่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ

    บทที่ 47/2 สองตำหนักเปิดใจ ครั้งนี้ฮั่วเฮ่อฉีดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ หากองค์ราชาอวี้เหวินเทียนเหิงมีความสามารถพิเศษนี้จริง นั่นก็หมายความว่ารวี่เยว่คือองค์หญิงของตำหนักเทวาอนธการ และอวี้เหวินเทียนหยาก็คือพระปิตุลาของนาง! มิน่าเล่าเขาถึงกล่าวว่า สวรรค์เล่นตลกกับเขา! รอยยิ้มงดงามเจิดจ้าราวแสงตะวันยามเช้า ที่ส่งไปถึงดวงตาของฮั่วเฮ่อฉีผุดพรายเต็มดวงหน้า มือใหญ่ยกมากุมต้นแขนทั้งสองข้างของอวี้เหวินเทียนหยาพร้อมเขย่าเบาๆ “หลานเขยคงต้องขอฝากตัวกับท่านแล้ว พระปิตุลาของรวี่เยว่” เขาลอยหน้าลอยตาเอ่ยวาจาฝากฝังตัวเองกับอีกฝ่ายแบบเนียนๆ อวี้เหวินเทียนหยาคิ้วกระตุก ก้าวถอยหลังให้หลุดจากการเกาะกุมของฮั่วเฮ่อฉี ก่อนเอ่ยวาจาน้ำเสียงเนิบนาบระคนหมั่นไส้อย่างอดไม่อยู่ “หึ! อย่าเพิ่งหลงระเริงนัก ข้ายังไม่ได้บอกว่าท่านผ่านการทดสอบแล้วเสียหน่อย เรื่องนี้คงต้องดูกันอีกนาน และที่สำคัญเสด็จพี่ของข้าฝากมาบอกท่านว่า” “ธิดาของข้าจะเป็นเพียงภรรยาคนเดียวในชีวิตของสามีนาง หากบุรุษผู้นั้นทำไม่ได้ ก็ไสหัวไปไกลๆ เพราะข้าจะไม่มีวันยกนางให้เด็ดขาด!” อวี้เหวินเทียนหยาถ่ายทอดวาจาของ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status