Share

บทที่ 69

Author: จี้เวยเวย
ฉู่จวินถิงเองก็รู้เสน่ห์ของตน เห็นซ่งรั่วเจินบอกลาสองประโยคก็หมุนกายจากไป ถึงขั้นไม่มีความคิดอยู่สนทนามากเกินจำเป็นกับเขาเลยสักเศษเสี้ยว จึงเอ่ยปากอย่างสุดระงับ

“แม่นางซ่งโปรดยั้งฝีเท้าด้วย”

เขาสาวเท้าไล่ตามไป

ในบริเวณห่างออกไปไม่ไกล ฉู่อวิ๋นกุยมองพี่สามที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่ใกล้ชิดกับสตรีกำลังเร่งรุดไล่ตามไป ตกตะลึงอย่างสุดระงับ “ข้าก็ว่าแล้วพี่สามปฏิบัติต่อแม่นางซ่งไม่เหมือนผู้อื่น ในเวลาปกติเคยเห็นเขาเป็นฝ่ายไปสนทนากับหญิงสาวหรือไม่เล่า?”

“ท่านอ๋อง มิสู้ท่านไปดู?” บ่าวรับใช้ตัวน้อยเอ่ยถาม

“โอกาสดีได้อยู่เพียงลำพังนี้ ข้าจะไปทำอันใด? หากทำพี่สามหมดสนุก คนซวยก็คือข้า!”

ฉู่อวิ๋นกุยโบกพัด สีหน้าภาคภูมิใจ “เจ้าอย่าพูดไปเลย แม่นางซ่งรูปโฉมงดงามดุจจันทรา นับว่าเหมาะสมกับพี่สาม ก็แค่นางคล้ายไม่สนใจพี่สาม นี่ไม่น่าสนใจหรือ?”

ซ่งรั่วเจินชะงักฝีเท้าอย่างสงสัย “ท่านอ๋องยังมีธุระหรือ?”

“ข้ามีเรื่องอยากขอคำชี้แนะจากเจ้า สามารถให้เกียรติไปดื่มชากับข้าได้หรือไม่?”

ซ่งรั่วเจินนึกขึ้นได้ว่าใกล้ถึงเวลาฝังเข็มให้พี่รองของตนแล้ว น่ากลัวว่าไม่สามารถเสียเวลาได้ ทำได้เพียงปฏิเสธ

“ขออภัย หม่อมฉันยังม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 70

    งานเลี้ยงนับญาติ ณ สกุลสวี ยามซ่งรั่วเจินกับหลิ่วหรูเยียนมาถึง จวนสกุลสวีครื้นเครงไม่ธรรมดา ราชครูสวีมีตำแหน่งสูงภายในราชสำนัก ลูกสาวที่หายไปก็กลับสู่วงศ์ตระกูลได้ในที่สุด ชนชั้นสูงทั่วทั้งเมืองหลวงแทบจะมาทั้งหมดแล้วบ่าวรับใช้เดินขวักไขว่ไปมา เพื่อเตรียมโต๊ะงานเลี้ยงจึงยุ่งวุ่นวายมาก บ่าวน้อยนำทางแขกเข้าจวนทุกทิศทาง“รั่วเจิน!”เสียงคุ้นหูเจือความดีใจเสียงหนึ่งดังขึ้น แขนของซ่งรั่วเจินถูกคล้องไว้แล้ว เผชิญหน้ากับรอยยิ้มมีความสุข“ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าแล้ว ออกจากเมืองหลวงแค่ครึ่งเดือน คิดไม่ถึงเกิดเรื่องมากเพียงนี้ เดิมทีข้าวางแผนไปหาเจ้าที่จวน ต่อมาได้ยินท่านแม่พูดว่าวันนี้เจ้าเองก็มาเข้าร่วมงานเลี้ยงนับญาติของสกุลสวีด้วย ก็เลยมาหาเจ้าที่นี่”“เนี่ยนชู ในที่สุดเจ้าก็กลับมาจากเยี่ยมญาติแล้ว”เนตรขนงซ่งรั่วเจินเจือรอยยิ้ม อวิ๋นเนี่ยนชูเป็นสหายสนิทที่เติบโตมาพร้อมเจ้าของร่างเดิมตั้งแต่เด็ก สนิทสนมแนบแน่น บังเอิญกลับไปเยี่ยมญาติเมื่อครึ่งเดือนก่อน นี่ถึงได้พบกันในวันนี้นางจำในนิยายได้ เจ้าของร่างเดิมถูกสกุลหลินรังแก อวิ๋นเนี่ยนชูมาอยู่เป็นเพื่อนนางบ่อย ๆ คอยปลอบใจนางหลังเจ้าข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 71

    “คิดไม่ถึงแม่นางซ่งอายุยังน้อย ถึงขั้นมองอุบายต้มตุ๋นของผู้มีวิชาออก เมื่อนั้นข้าเองก็เกือบถูกหลอก ต้องขอบคุณแม่นางซ่งมาก”สวีเยว่เอ๋อร์มาพร้อมชายอีกหนึ่งคน ได้เห็นซ่งรั่วเจินก็รู้สึกสนิทสนมมากเป็นพิเศษ“รั่วเจิน เจ้ามาแล้วดีเหลือเกิน ก่อนนี้ได้ยินเรื่องความชอบของเจ้า ตั้งใจซื้อของหวานผลไม้ที่เจ้าชอบมาจากร้านอวิ๋นหย่าเป็นพิเศษ อีกเดี๋ยวไปชิมดีหรือไม่?”“ได้เลย” ซ่งรั่วเจินพยักหน้ารับคำ“เฮ่ออัน นี่ก็คือรั่วเจิน ต้องขอบคุณนางพวกเราถึงหาน้องหญิงของเจ้าพบ” สวีรั่วหลานยิ้มแย้มเอ่ยปากแนะนำ “รั่วเจิน นี่คือลูกชายข้าเฮ่ออัน”ซ่งรั่วเจินมองชายหนุ่มตรงหน้า เห็นเขาสวมชุดผ้าไหมสีขาว รูปร่างสูงใหญ่ ยังห้อยหยกหยางจือหนึ่งชิ้นที่เอว รัศมีโดดเด่นใบหน้าหล่อเหลาเปล่งประกายหยักยิ้มสุภาพอ่อนโยน บนตัวไม่มีไอเย็นแม้แต่น้อย เห็นชัดว่าเป็นคุณชายสง่างามใสสะอาดท่านหนึ่ง“ขอบคุณแม่นางซ่งมากที่ช่วยเหลือ ข้าคนสกุลสวีมีวาสนาแล้ว”ภายในสายตาสวีเฮ่ออันสะท้อนแววตกตะลึงวูบหนึ่งเรื่องซ่งรั่วเจินถอนหมั้นเอะอะเอิกเกริกไปทั่ว เขาได้ยินข่าวตั้งแต่แรกแล้ว ได้ยินท่านแม่ชื่นชมนางงดงามดุจจันทรา กลับไม่เคยพบหน้ามาก่อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 72

    “ซวงซวงเองก็ถูกผู้มีวิชาหลอก มิได้ตั้งใจ เหตุใดแม่นางซ่งต้องว่าร้ายไปทุกที่ด้วยเล่า?”“ให้ข้าพูด เดิมทีเจ้าก็ไม่รู้วิชาเต๋า ก็เพียงจับพลัดจับผลูช่วยสวีฮูหยินตามหาลูกสาวพบเท่านั้น นี่ก็โอ้อวดโอหังเพียงนี้ ช่างน่าขันเกินไปแล้ว!”เหอเซียงหนิงมองทางทุกคน เอ่ยเตือน “ทุกท่านคงมิได้ลืมไปแล้วหรอกกระมัง?”“ครั้งก่อนในงานเลี้ยงชมดอกอิงฮวา ซ่งรั่วเจินยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างฮูหยินทั้งสองท่านของบ้านใหญ่และบ้านรองสกุลต่ง ยังพูดว่าคุณชายน้อยต่งถูกอาสะใภ้ฆ่าตาย นำพาให้ความสัมพันธ์ของสกุลต่งบ้านแตกสาแหรกขาด ฮูหยินรองสกุลต่งเสียใจหนัก จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!”“ให้ข้าพูด ซ่งรั่วเจินโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งกว่าซวงซวงร้อยเท่า! ซวงซวงมิได้ตั้งใจ แต่นางกลับทำเพราะมีเจตนา”“ข้าชี้แนะทุกท่านยังอยู่ให้ห่างจากคนเช่นนี้สักหน่อย หาไม่แล้วใครรู้เล่าว่าจะสร้างเรื่องอันใดออกมาอีก?”เพียงถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนก็นึกถึงข่าวลือสกุลต่ง อย่างไรเสียวันนั้นก็โวยวายไม่งามตามาก“ข้าได้ยินมาว่าคืนวันนั้นสวี่อิ๋งเฉียวกับสามีเร่งรุดไปเมืองซีอวิ๋น จนกระทั่งวันนี้ยังไม่ได้รับข่าวส่งกลับมา ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 73

    “พวกเจ้าปล่อยข้า! เป็นนางตบข้า พวกเจ้าจับข้าไว้ทำอันใด?”สายตาซ่งรั่วเจินเยียบเย็น “ตบสองฉาดนี้เป็นการสั่งสอนเจ้า ข้าถอนหมั้นไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า”“หากจวนหลินไม่พอใจ ย่อมต้องมาพูดกับข้าเอง ตรงข้ามกันเจ้าใช้ฐานะอะไรมาพูดถ้อยคำเหล่านี้?”“คนรู้ก็คิดว่าเจ้าเป็นสหายสนิทของฉินซวงซวง คนไม่รู้ยังคิดว่าเจ้าหลงรักหลินจือเยว่จึงทวงความยุติธรรมแทนเขา”“ส่วนสกุลต่ง หากข้าพูดเท็จ สกุลต่งย่อมมาคิดบัญชีกับข้าเอง ยังไม่ต้องให้เจ้ามาถาม!”คนรอบกายเห็นซ่งรั่วเจินกล้าลงมือตบคน ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ ทั้งยังนึกถึงคำพูดของเหอเซียงหนิง เหตุที่หลินจือเยว่เสียตำแหน่งไปก็เพราะสกุลซ่งสตรีเช่นนี้ หากให้นางแต่งเข้าจวน เกิดความขัดแย้งขึ้นมา น่ากลัวว่าต้องไม่สงบสุขจริง“รั่วเจิน เจ้าไม่ควรลงมือ ภายภาคหน้าเรื่องเช่นนี้ให้แม่ทำเอง”หลิ่วหรูเยียนรู้สึกเสียใจภายหลังอย่างอดไม่ได้ เมื่อครู่นางตอบสนองเชื่องช้าไปบ้าง แต่ตอนนี้ลูกสาวตบก็ตบไปแล้ว พลาดโอกาสอันดีไป นางเองก็ไม่สามารถไปตบคนได้อีกเดิมทีซ่งรั่วเจินคิดว่าหลิ่วหรูเยียนตำหนิตนเองลงมือ คิดไม่ถึงได้ยินคำพูดนี้แล้ว ก็เกือบหัวเราะออกมาส่วนสายตาคนรอบกายเหล่านี

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 74

    สวี่อิ๋งเฉียวขอบตาแดงก่ำ ใบหน้าสะท้อนความเจ็บปวดทุกข์ระทม“ข้าคิดไม่ถึงว่าสวี่ชิงเหมยจะโหดเหี้ยมเพียงนี้ สามารถลงมือกับหลานชายของตนได้!”“หากมิใช่เพราะแม่นางซ่งบอกความจริงทั้งหมดแก่ข้า น่ากลัวว่าเป๋ยอวี่ของข้าต้องตายตาไม่หลับอยู่ในบ่อน้ำไปทั้งชาติแน่นอน!”บรรยากาศเงียบลงในทันใดแม้แต่เสียงเข็มตกยังได้ยินทุกคนล้วนเบิกตากว้าง พวกเขาได้ยินอะไรแล้ว?ต่งเป๋ยอวี่มิได้หายไป แต่ถูกสวี่ชิงเหมยฆ่าตายแล้วโยนลงในบ่อน้ำ?“ต่งฮูหยิน ท่านรีบลุกขึ้นเถิด” ซ่งรั่วเจินรีบเข้าไปประคองคนขึ้นมาสวี่อิ๋งเฉียวปาดน้ำตาที่หางตา แม้เจ็บปวดมาก แต่ภายในสายตาเปี่ยมความซาบซึ้งใจ“ข้าคิดมาโดยตลอดว่าเป๋ยอวี่ไม่รู้ความจึงถูกคนหลอกพาไป ยามสวี่ชิงเหมยเสแสร้งต่อหน้าข้า ข้ายังปลอบนาง คิดว่าทั้งหมดเป็นความผิดของข้า”“หากมิใช่เพราะข้าสั่งสอนเป๋ยอวี่เข้มงวดจนเกินไป เขาก็ไม่มีวันโมโหจากไป หากมิใช่เจ้าเตือนสติข้า ข้ายังไม่รู้ว่าจะต้องเลอะเลือนไปถึงยามใด”ต่งหานโจวเองก็เอ่ยปากขอบคุณ “แม่นางซ่ง ขอบคุณเจ้ามากที่ทวงความยุติธรรมให้เป๋ยอวี่ เจ้าเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา!”“ภายภาคหน้ามีที่ใดให้สกุลต่งช่วยเหลือขอให้เอ่ยปาก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 75

    เหอเซียงหนิงโง่งมแล้วนับตั้งแต่สวี่อิ๋งเฉียวคุกเข่า สมองนางก็ขาวโพลนในทันทีทันใดคำพูดของซ่งรั่วเจินเป็นความจริงได้อย่างไร? เดิมทีนางก็ไม่สามารถรู้เรื่องพรรค์นี้ได้นี่!“เหอเซียงหนิง เจ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือ?”ซ่งรั่วเจินหันมองทางหญิงสาวที่กำลังก้มหน้า ต้องการหนีออกไป เมื่อครู่สาดน้ำเสียใส่นาง ตอนนี้คิดหนีไปเงียบ ๆ มีเรื่องดีเพียงนี้ที่ใดกัน?“ข้า...ข้าไม่มีอะไรจะพูด...”เหอเซียงหนิงตกใจมาก ครู่ต่อมาคิดหนีไป คิดไม่ถึงจะชนเข้ากับฉู่อวิ๋นกุย“บังอาจ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ถึงขั้นขวัญกล้าชนอวิ๋นอ๋อง!”“หม่อมฉันมิได้ตั้งใจ ท่านอ๋องโปรดอภัยด้วยเพคะ!” เหอเซียงหนิงตกใจจนหมดความกล้า รีบคุกเข่าลงฉู่อวิ๋นกุยปรายตามองเหอเซียงหนิงแวบหนึ่ง สายตาหันมองผู้กระทำผิดอย่างเสด็จพี่สามของตน ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่คนเกือบถูกชนก็คือเสด็จพี่สาม!ใครคาดคิดเสด็จพี่สามคล่องแคล่วว่องไว ขยับถอยหลังหนึ่งก้าว หญิงคนนี้จึงชนเขา!เวรกรรม!ฉู่จวินถิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “น้องห้า อิงตามกฎราชสำนัก สร้างข่าวลือเท็จต้องจัดการเยี่ยงไร?”“อิงตามกฎ ผู้กระทำผิดต้องถูกตัดลิ้น”เหอเซียงหนิงเบิกตาโต สายตาเปี่ยมความตกตะลึ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 76

    ภายในห้องสวีรั่วหลานกับหลิ่วหรูเยียนสบมองสวี่อิ๋งเฉียวก็ตาแดงไปด้วยอย่างสุดระงับ ในฐานะมารดาเฉกเดียวกัน เรื่องพรรค์นี้ไม่ต่างจากถูกฟ้าผ่าตอนกลางวันแสก ๆใครคาดคิดเล่าว่าสะใภ้ใต้ชายคาเดียวกันจะน่ากลัวเพียงนี้?“ปกติสวี่ชิงเหมยมองดูแล้วอ่อนโยนบอบบาง คิดไม่ถึงจะโหดเหี้ยมอำมหิตเช่นนี้ สามารถลงมือกับเด็กได้ลง” หัวคิ้วสวีรั่วหลานขมวดมุ่น ข่าวนี้ช่างน่าตกตะลึงโดยแท้“แม้ปกติข้าไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนาง ก็เห็นว่าอุปนิสัยต่างกันเท่านั้น เห็นนางเป็นญาติ แต่นาง...”สวี่อิ๋งเฉียวปาดน้ำตา ข่มอารมณ์ตนเองให้สงบลง พูดอย่างรู้สึกผิด “วันนี้เดิมทีเป็นงานนับญาติวันมงคล กลับถูกข้ารบกวนแล้ว ขออภัยจริงๆ...”“อย่าได้กล่าวเช่นนี้เลย พวกเราล้วนเป็นแม่คนเหมือนกัน ไฉนเลยจะไม่เข้าใจความรู้สึกของท่าน?”สวีรั่วหลานรีบโบกมือ เอ่ยถามอย่างห่วงใย “เรื่องนี้นายท่านต่งจะตัดสินอย่างไร?”“หลังนายท่านรู้เรื่องนี้ก็ไม่ได้ปกป้องสวี่ชิงเหมย ยอมให้พวกเราพาคนไปส่งศาลาว่าการ พูดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมอบคำชี้แจงให้เป๋ยอวี่ให้ได้”สวี่อิ๋งเฉียวพูดถึงเรื่องนี้ก็ซาบซึ้งใจ ก่อนนี้กลับมาถึงนางยังลังเล แต่มากที่สุดก็ตัดสิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 77

    สวี่อิ๋งเฉียวอึ้งงัน คิดเพียงว่าถ้อยคำนี้ของซ่งรั่วเจินคล้ายยังมีความนัยอื่น ก็ไม่รู้ว่าเป็นไปตามที่นางคาดเดาหรือไม่ขณะนางเตรียมเอ่ยถาม ต่งหานโจวกับราชครูสวีก็เดินเข้ามาพร้อมกัน“ฮูหยิน พวกเรากลับก่อนเถิด ที่บ้านยังมีเรื่องให้ต้องจัดการอีกมาก”สวี่อิ๋งเฉียวดึงสายตากลับ นึกได้ว่าแม้สวี่ชิงเหมยถูกส่งไปที่ศาลาว่าการแล้ว แต่ภายในเรือนยังมีเรื่องอีกมากให้จัดการ ท่านพ่อท่านแม่ถูกทำร้ายไปไม่น้อยกว่าพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาเล็ก“ซ่งฮูหยิน แม่นางซ่ง บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจกล่าวเพียงคำขอบคุณได้หมด”ต่งหานโจวมองทางพวกหลิ่วหรูเยียนสองคนและทำความเคารพอย่างเต็มรูปแบบหากมิใช่ซ่งรั่วเจินเอ่ยทั้งหมดนี้ออกมา บิดาเลอะเลือนอย่างเขาต่อให้ตายไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับลูกอย่างไรจนกระทั่งสองสามีภรรยาสกุลต่งจากไป หลิ่วหรูเยียนถูกพวกสวีฮูหยินดึงไปจิบชาที่อีกฝั่งแล้ว“รั่วเจิน พวกเราเองก็ไปชิมผลไม้กันเถอะ?” สวีเยว่เอ๋อร์เอ่ยปากเสนอซ่งรั่วเจินพยักหน้า เรียกอวิ๋นเนี่ยนชูไปพร้อมกัน“วันนี้สกุลสวีจัดงานเลี้ยงได้ดีมาก ขนมเหล่านี้ล้วนมาจากร้านชื่อดัง”“เจ้าดูขนมดอกกุ้ยฮวา ก่อนนี้ให้บ่าวรับใช้ไปซ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 977

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง “ผู้ชายดีๆ ในเมืองหลวงมีไม่น้อย หลังจากหม่อมฉันถอนหมั้น คนที่มาทาบทามสู่ขอหม่อมฉันก็มีมากมาย...”“ยังมีมากมายอีกด้วย? ไหนลองบอกข้ามาซิว่ามีใครบ้าง?”ฉู่จวินถิงรู้ว่าแม่นางผู้นี้กำลังหยอกเย้าตนเองอยู่ แต่ครั้นคิดถึงว่าตอนนั้นนางไม่มีความคิดจะแต่งงานกับเขาเลยสักนิด หากไม่ใช่เพราะเขาไม่ยอมแพ้ ยามนี้ไม่แน่ว่าคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้วก็เป็นได้มือของเขาเกาะกุมเนื้ออ่อนบริเวณเอวนาง ออกแรงเล็กน้อยก็ทำให้นางหัวเราะคิกขึ้นมา“ฮ่าๆ จั๊กจี้ ท่านปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ”ซ่งรั่วเจินกลัวจั๊กจี้มาแต่ไหนแต่ไร ทั้งร่างพลันอ่อนระทวย ดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมกอดของฉู่จวินถิง“ท่านปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะ เร็วเข้า!”ฉู่จวินถิงมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ข้าไม่ปล่อย เจ้าบอกข้ามาก่อนว่ามีใครบ้าง”“ไม่มี ไม่มี นอกจากท่านก็ไม่มีใครทั้งนั้น”ซ่งรั่วเจินอ้อนวอนอย่างอ่อนใจ นางคิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงจะมาไม้นี้ ยื่นมือเข้าไปคิดจะจั๊กจี้เขาบ้าง แต่กลับพบว่าเนื้อบนตัวชายหนุ่มแข็งกว่านางมากนัก เมื่อแตะถูกบริเวณเอวอย่างไม่ทันระวังก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงเค้าโครงกล้ามเนื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 976

    ฉู่อวิ๋นกุยอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ชั่วชีวิตนี้ข้าคงคิดไม่ถึงเลยว่าด้วยนิสัยของเสด็จพี่จะมีวันที่เตรียมการเช่นนี้เอาไว้ด้วย”ก่อนหน้านี้เมื่อเสด็จพี่พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เค้นสมองครุ่นคิด แต่นอกจากเรื่องดอกไม้ไฟแล้ว ความคิดอื่นๆ ล้วนถูกปฏิเสธทันควันเมื่อเทียบกันในยามนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกันว่าความคิดพวกนั้นของตนเองไม่เข้าท่าเอาเสียจริงๆซ่งรั่วเจินขึ้นเรือที่ตกแต่งอย่างหรูหราไปกับฉู่จวินถิงแล้วค่อยพบว่าคนอื่นๆ ไม่ได้ตามมาด้วยจึงอดถามไม่ได้ว่า “มีแค่พวกเราสองคนหรือ?”ฉู่จวินถิงมองหญิงสาวตรงหน้า สายตาตกลงบนริมฝีปากสีกุหลาบนั้น ความรู้สึกอ่อนนุ่มเมื่อครู่ก่อนยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในห้วงคำนึง เพียงปรารถนาจะลิ้มรสอย่างเต็มที่สักคราเขาก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ร่นระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง “อืม มีแค่พวกเรา”แววตาของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นลึกล้ำขึ้นมา กระทั่งน้ำเสียงก็ยังแหบพร่าอยู่บ้างครู่ก่อนยังมีท่าทางอบอุ่นดุจอาบไล้อยู่ในสายลมวสันต์อยู่แท้ๆ ฉับพลันนั้นก็เปลี่ยนเป็นเปี่ยมแรงกดดัน ดวงตาคู่นั้นยังคงอ่อนโยนเปี่ยมแววรักใคร่ ทว่าแฝงไว้ซึ่งแววคุกคาม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 975

    ซ่งหลินมองรอยยิ้มของลูกสาวตนเอง ในใจรู้สึกเป็นสุขอย่างไม่อาจพรรณนา ประกอบกับได้ยินคำพูดของภรรยาตนเองพอดี เขาจึงอดกล่าวขึ้นไม่ได้ว่า“ตอนนี้ท่าทีของข้าดีมากแล้ว ไม่ว่าพ่อตาบ้านไหนก็เห็นลูกเขยขัดตาทั้งนั้นแหละ แต่ฉู่อ๋องผู้นี้ นิสัยไร้ที่ติเลยจริงๆ”“ในอดีตตอนข้าอยู่ในสนามรบมักได้หารือกับเขาบ่อยๆ เป็นสุภาพบุรุษที่หาได้ยากคนหนึ่ง ทั้งยังมีความรับผิดชอบ เขาจะไม่ทำให้เจินเอ๋อร์ผิดหวังแน่นอน”คิดถึงว่าตอนแรกเขาก็คิดว่าฉู่จวินถิงเป็นลูกเขยที่ดีคนหนึ่ง ไม่ว่าลูกสาวสกุลใดได้แต่งงานกับเขา จะต้องได้มีชีวิตที่ดีพร้อมอย่างแน่นอน แต่เจ้าหมอนี่นิสัยเย็นชาเกินไป ไม่ถูกใจลูกสาวบ้านไหนสักคน เขาจึงเลิกล้มความคิดนี้ไปใครเลยจะคาดว่าวกไปวนมาสุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป็นจริง ฉู่อ๋องถึงกับต้องการแต่งงานกับลูกสาวเขาคนเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อพวกสหายเก่าแก่ได้รู้เรื่องนี้ แต่ละคนก็มีสีหน้าเหมือนเห็นผี ในใจเขาไม่ต้องบอกเลยว่าปลาบปลื้มมากแค่ไหน!กู้หรูเยียนพยักหน้าน้อยๆ “สายตาของเจินเอ๋อร์ก็ดีเหมือนกัน โชคดีที่ถอนหมั้นเสียตั้งแต่ตอนนั้น มิฉะนั้นถ้าเข้าไปอยู่ในจวนสกุลหลิน พ่อแม่อย่างพวกเราก็ทำผิดต่อนางมากเกินไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 974

    แต่หลังจากที่กู้ฮวนเอ๋อร์ได้ยินว่าญาติผู้พี่ไม่เคยได้สิ้นเปลืองความคิดเพื่อเรื่องนี้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ แต่กลับเป็นฉู่อ๋องเสียอีกที่สะสางทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งยังยอมรับต่อหน้าฮองเฮาว่าเขาเป็นฝ่ายพยายามเอาชนะใจนาง ญาติผู้พี่ยังไม่แน่ว่าจะรับปาก นางจึงตระหนักว่าที่แท้สตรีก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีเหมือนญาติผู้พี่ได้เหมือนกันไม่ต้องก้มศีรษะให้ครอบครัวสามี ทั้งยังไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าว นางมีความกล้าถอนหมั้นในวันแต่งงาน ทั้งยังไม่เกรงกลัวถ้อยคำซุบซิบนินทาต่อให้ใครจะคิดว่านางไม่คู่ควรกับฉู่อ๋อง ทว่าในสายตาฉู่อ๋อง สิ่งที่กลัวกลับเป็นการทำให้นางรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจฉู่มู่เหยาก็เข้าใจความคิดของกู้ฮวนเอ๋อร์เช่นกัน ถึงนางจะเป็นถึงองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ แต่ก็ไม่กล้ามีความคิดเช่นพี่สะใภ้แต่เมื่อได้เห็นพี่สะใภ้และเสด็จพี่เช่นนี้ นางก็อวยพรให้พวกเขาจากใจจริงแม้ว่าชั่วชีวิตนี้ตนเองไม่แน่ว่าจะสามารถใช้ชีวิตแบบพี่สะใภ้ได้ แต่เพียงได้เห็นว่าพวกเขาทำได้ นางก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้วสี่พี่น้องสกุลซ่งเห็นว่าฉู่จวินถิงให้ความสำคัญกับน้องสาวของพวกตนเช่นนี้ก็อดมองตากันไม่ได้ ใบหน้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status