แชร์

บทที่ 669

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
กู้ฮวนเอ๋อร์เผยสีหน้าโศกเศร้า “ข้าไม่ทันระวังจริงๆ...”

ซ่งรั่วเจิน “...”

นางเข้าใจอวิ๋นอ๋องแล้ว คนรักหน้าตาอย่างเขาคนหนึ่ง น่ากลัวว่าไม่เคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อน

ความรักครั้งนี้ของกู้ฮวนเอ๋อร์...ลำบากโดยแท้!

“ญาติผู้พี่ ท่านมีวิธีอันใดหรือไม่? ข้าชอบอวิ๋นอ๋องด้วยใจจริง ได้ยินมาว่าเขาชอบฟังบทเพลงผีผา ข้ายังเตรียมหาอาจารย์ไว้เรียนเป็นพิเศษอีกด้วย”

“ครั้งก่อนฮองเฮาเรียกข้าเข้าวัง เดิมทีก็ตั้งใจให้ข้าและอวิ๋นอ๋องได้รู้จักกัน แต่เพียงเขาได้ยินชื่อของข้า คนก็ไม่มาแล้ว!”

กู้ฮวนเอ๋อร์ก้มหน้า ใบหน้าเรียวเล็กปกปิดความผิดหวัง “เดิมทีข้าเพียงแอบชอบ กลับไม่มีความยึดมั่น อย่างไรเสียเขาก็มีฐานะสูงศักดิ์ ใช่ว่าข้าจะคู่ควรกับเขา ทว่าบัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ข้าจึงอยากลองดู”

ซ่งรั่วเจินเข้าใจแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์เข้าตาฮองเฮา อวิ๋นอ๋องเองก็เป็นคนในหัวใจนาง หากอวิ๋นอ๋องยินดีอยู่ร่วมกันกับนาง นั่นก็คือคู่สร้างคู่สม

เรื่องแต่งงานของสตรี ส่วนใหญ่ล้วนฟังคำสั่งฟ้าบัญชาสวรรค์ บัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ขอเพียงพยายามก็สามารถแต่งงานกับคนที่ชอบได้ ย่อมต้องสู้สุดจิตสุดใจดูสักครั้ง

“ญาติผู้น้องฮวนเอ๋อร์ ข้าไม่เคยได
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 670

    กู้ชิงเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคนพูดว่าจวนอัครมหาเสนาบดีร่ำรวยถึงเพียงนี้ ใช่หรือไม่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีรับสินบน”“เช้าวันนี้ ฝ่าบาทตำหนิอัครมหาเสนาบดีถังอย่างแรงที่ห้องทรงพระอักษร เสียงด่าดังมากจนภายนอกได้ยิน”ราชครูกู้พูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ ภายในเสียงกลับเผยกลิ่นอายที่ได้รับชมละครฉากสนุกหลายส่วนเรื่องถังเสวี่ยหนิงทำร้ายรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ เขาย่อมรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสกุลซ่งแจกจ่ายโจ๊ก ถังเสวี่ยหนิงเองก็แจกจ่ายโจ๊ก แต่ยังต้องการแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อ สองคนได้พบกันที่ประตูเมืองทิศประจิม เขาได้ยินเรื่องรั่วเจินสั่งให้คนเก็บแผงไปทั้งหมดนี้แล้ว จะต้องเป็นเพราะหลานสาวถูกรังแก กลับอดกลั้นไว้ มิได้บอกผู้อาวุโสอย่างพวกเขาเหล่านี้บัดนี้ถังเสวี่ยหนิงก่อเรื่องโง่งมเหล่านี้ออกมา ก็สมควรแล้ว!พี่น้องสกุลซ่งสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่นคิดใช้วิธีการเช่นนี้มารังแกน้องหญิงห้า ยกหินใส่เท้าตน บัดนี้อัครมหาเสนาบดีถังจะต้องปวดหัวแน่“ฮองเฮาอยากให้ถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด ก็ไม่รู้บัดนี้นึกเสียใจภายหลังไปแล้วหรือไม่?”ซ่งอี้อันหรี่ตาลง ด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 671

    ลู่หมิ่นฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก “พี่หญิง ท่านดูออกก็ดีแล้วเพคะ ถังเสวี่ยหนิงผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมจริงๆ”“เรื่องระหว่างพิธีล่าสัตว์คราวก่อนก็ทำความผิดใหญ่หลวงไปแล้ว ถ้าบอกว่านางบริสุทธิ์จริงๆ ถูกหลอกลวงมา ข้ากลับเชื่อไม่ลง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็เงียบไป เรื่องคราวก่อนคนมีวิจารณญาณล้วนมองพิรุธออก แม้สุดท้ายจะยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังเสวี่ยหนิง แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่ฉลาดเองถึงได้ถูกคนวางหลุมพรางเอาเช่นนั้นหลังเกิดเรื่องนี้ นางก็กระจ่างแล้วว่าถังเสวี่ยหนิงเป็นพวกไม่มีสมองจริงๆคงเป็นเพราะครอบครัวให้ท้ายมาจนชิน เข้าใจว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามที่นางต้องการ นิสัยเช่นนี้ หากได้เป็นชายาฉู่อ๋องจริงๆ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วงเสียอีก“พี่หญิง ความจริงข้ารู้สึกว่าแม่นางซ่งผู้นั้นก็ดีมากนะเพคะ ท่านดูจากเรื่องแจกโจ๊กคราวนี้สิ เห็นได้ชัดว่าถังเสวี่ยหนิงจงใจหาเรื่องนาง”“แต่ท่านดูสิว่าแม่นางซ่งทำอย่างไร? นางไม่ชิงดีชิงเด่น ยอมแบกรับคำครหาอยู่หลายวัน นางยังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย”“ด้วยฐานะของพวกเรา จำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของภาพรวม ไม่อาจทำลายเรื่องสำค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 672

    “หลายปีมานี้เขาไม่เคยชอบพอแม่นางคนไหนมาก่อน ยามนี้ยากนักกว่าจะมีแม่นางที่ชอบ ไยท่านต้องคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วย แบบนี้มิเท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านแม่ลูกหรือเพคะ?”“นอกจากนี้...ยามนี้เกรงว่าคนที่ชอบพอแม่นางซ่งจะไม่ได้มีแค่ฉู่อ๋องเพียงคนเดียว”“อันที่จริงหลังพิธีล่าสัตว์ครั้งนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าถังเสวี่ยหนิงไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถังฮูหยินจงใจเข้าวังมาขอร้อง ข้าจึงอดทนรอดูต่อไป ตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็ยิ่งไม่เหมาะสมกับฉู่อ๋อง”ฮองเฮาเอ่ยขึ้นช้าๆ สาเหตุที่วันนี้โมโหเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหล่าสนมในวังหลายคนล้วนแต่เยาะเย้ยเสียดสีนาง ทำให้นางเสียหน้า“แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือจะกลับเมืองหลวงแล้ว? หลานสาวของเขาหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอ๋อร์คุ้นเคยกับฉู่อ๋องมาตั้งแต่เล็ก ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าในใจจวินถิงคิดอย่างไรกันแน่”ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไป “ข้าจำได้ว่าแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาตั้งแต่เล็ก ชอบตามหลังฉู่อ๋องอยู่ทั้งวัน ยามนั้นยังเคยพูดเย้าว่าวันหน้าจะให้ทั้งคู่แต่งงานกัน”“แต่ภายหลังหลิงไท่ซือย้ายไปจากเมืองหลวง ตอนนี้จะกลับมาแล้วงั้นหรือ?”……ณ จ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 673

    ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของฉู่มู่เหยา ซ่งรั่วเจินแต่งตัวอย่างพิถีพิถันแล้วจึงตามพี่ชายทั้งสามคนไปเข้าวังพร้อมกันงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหกคราวนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากคนที่นางเชิญมาด้วยตนเองแล้ว บุตรชายหญิงที่ยังไร้พันธะหมั้นหมายของขุนนางขั้นสี่ขึ้นไปก็มาร่วมงานเช่นกันได้ยินว่าตอนแรกไม่ได้วางแผนไว้เช่นนี้ ภายหลังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงเสียอย่างนั้น ทุกคนคาดเดากันว่าคงทำเช่นนี้เพื่อคัดเลือกคู่ครองให้กับบรรดาองค์ชายองค์หญิง ด้วยเหตุนี้ คุณชายและคุณหนูทุกคนที่มาร่วมงานจึงเตรียมตัวมาอย่างดี“น้องหญิงห้า ชุดที่เจ้าทำให้ข้าชุดนี้พอดีตัวดีจริงๆ นอกจากใส่สบายแล้วยังดูดีอีกด้วย!”ซ่งจืออวี้สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินมอบให้เขามา ในใจรู้สึกยินดียิ่งนัก มิน่าเล่ากิจการร้านลั่วเสินจึงรุ่งเรืองปานนั้น ชุดที่น้องหญิงห้าออกแบบช่างไม่เหมือนใครเลยจริงๆเขารู้สึกว่าไม่เคยมีชุดไหนที่ดูดีเท่าชุดนี้มาก่อนเลย!ซ่งจิ่งเซินกับซ่งอี้อันก็สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินให้พวกเขามาอย่างพร้อมใจยิ่ง วันที่พวกเขาได้รับชุด ทุกคนมีความสุขมากวันนี้ประสบโอกาสเหมาะพอดีก็ย่อมต้องนำออกมาสวม“น้องหญิงห้า ข้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 674

    ฉู่อวิ๋นกุยกวาดสายตามองไปโดยจิตใต้สำนึก แม้ปกติฉู่จวินถิงสวมชุดไหนก็ดูดีมากอยู่แล้ว แต่การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้แตกต่างออกไปเป็นพิเศษ ขับเน้นให้รูปร่างเขาดูสูงเพรียวกว่าเดิม ทำให้ดวงตาเขาพลันสว่างวาบ“ข้านึกแล้วเชียวว่าเหตุใดวันนี้จึงรู้สึกว่าท่านดูหล่อเหลากว่าปกติ การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้ทำได้ไม่เลวจริงๆ กองภูษาทำงานได้ดูดีเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าสงสัย เมื่อขยับเข้าไปพินิจดูโดยละเอียดก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง “แต่ทักษะการเย็บปักดูเหมือนจะอ่อนด้อยไปหน่อยนะ”ฉู่จวินถิงปัดมือฉู่อวิ๋นกุยออก “อย่าแตะ เดี๋ยวทำเลอะ”ฉู่อวิ๋นกุย “???”หร่วนอวี้เฉิงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองจึงขยับเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน สังเกตสีหน้าของฉู่จวินถิงรวมถึงระดับความเอาใจใส่ที่มีต่ออาภรณ์ชุดนี้แล้วก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“จวินถิง อาภรณ์ชุดนี้ของเจ้าคงไม่ใช่แม่นางซ่งให้มากระมัง?”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น มุมปากของฉู่จวินถิงก็โค้งขึ้นมาอีกครั้งจนดูเหมือนจะหุบไม่ลงเลยทีเดียว เขามองหร่วนอวี้เฉิงเป็นเชิงชมเชย “ตาแหลม!”ฉู่อวิ๋นกุย “!!!”“มิน่าเล่าถึงได้ทะนุถนอมอาภรณ์ชุดนี้เสียขนาดนั้น!” ฉู่อวิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1

    ราชวงศ์ฉู่โยว เมืองหลวงเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังหยุดเรียงกันหน้าประตูจวนหลินโหว ตามมาด้วยเสียงประทัดฆ้องกลอง ครึกครื้นมากเป็นพิเศษแขกเหรื่อมาร่วมงานเห็นภาพนี้แล้วก็ตกตะลึง “เหตุใดมีเกี้ยวเจ้าสาวสองหลังกันเล่า?”“แม่นางห้าสกุลซ่ง—ซ่งรั่วเจิน รอหลินโหวมานานสองปี ดูแลงานทั้งจวนโหวแทนเขา บัดนี้หลินโหวคว้าชัยชนะกลับมา ตบแต่งแม่นางซ่งก็คือเรื่องดีของเมืองหลวง แต่เกี้ยวเจ้าสาวเข้าประตูพร้อมกัน มิใช่ว่ายังแต่งกับคนอื่นด้วยหรือ?”“คุณหนู ตอนนี้จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”ซ่งรั่วเจินรู้สึกเพียงเสียงดังเอะอะอยู่ข้างหูพักหนึ่ง ขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ลืมตาทั้งสองข้างก็มองเห็นชุดแต่งงานสีแดงเข้ม?เกิดเหตุอันใดขึ้น?ชุดแต่งงานซิ่วเหอและเกี้ยวเจ้าสาวสีแดงเข้ม นี่มิใช่ขบวนแต่งงานหรอกหรือ?“ท่านโหวทำเกินไปแล้ว ก่อนนี้เขาออกรบอยู่ภายนอก หากมิได้ท่านดูแลฮูหยินผู้เฒ่า ไฉนเลยเขาจะสามารถออกรบอย่างสบายใจได้? บัดนี้กลับมาอย่างยากลำบาก เขาถึงขั้นตบแต่งฉินซวงซวงเป็นภรรยาหลวงลำดับเดียวกันในวันแต่งงาน ไม่บอกกล่าวแม้คำเดียว เห็นได้ชัดว่ากำลังรังแกคุณหนู!”เฉินเซียงยิ่งพูดยิ่งโมโห บัดนี้เกี้ยวเจ้าสาวทั้งสองหลังหยุดอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 2

    ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้วเหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใดใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่าน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 3

    “แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ยเพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริงครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!“ไอ้สารเลว!”หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปากซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคล

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 674

    ฉู่อวิ๋นกุยกวาดสายตามองไปโดยจิตใต้สำนึก แม้ปกติฉู่จวินถิงสวมชุดไหนก็ดูดีมากอยู่แล้ว แต่การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้แตกต่างออกไปเป็นพิเศษ ขับเน้นให้รูปร่างเขาดูสูงเพรียวกว่าเดิม ทำให้ดวงตาเขาพลันสว่างวาบ“ข้านึกแล้วเชียวว่าเหตุใดวันนี้จึงรู้สึกว่าท่านดูหล่อเหลากว่าปกติ การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้ทำได้ไม่เลวจริงๆ กองภูษาทำงานได้ดูดีเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าสงสัย เมื่อขยับเข้าไปพินิจดูโดยละเอียดก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง “แต่ทักษะการเย็บปักดูเหมือนจะอ่อนด้อยไปหน่อยนะ”ฉู่จวินถิงปัดมือฉู่อวิ๋นกุยออก “อย่าแตะ เดี๋ยวทำเลอะ”ฉู่อวิ๋นกุย “???”หร่วนอวี้เฉิงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองจึงขยับเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน สังเกตสีหน้าของฉู่จวินถิงรวมถึงระดับความเอาใจใส่ที่มีต่ออาภรณ์ชุดนี้แล้วก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“จวินถิง อาภรณ์ชุดนี้ของเจ้าคงไม่ใช่แม่นางซ่งให้มากระมัง?”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น มุมปากของฉู่จวินถิงก็โค้งขึ้นมาอีกครั้งจนดูเหมือนจะหุบไม่ลงเลยทีเดียว เขามองหร่วนอวี้เฉิงเป็นเชิงชมเชย “ตาแหลม!”ฉู่อวิ๋นกุย “!!!”“มิน่าเล่าถึงได้ทะนุถนอมอาภรณ์ชุดนี้เสียขนาดนั้น!” ฉู่อวิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 673

    ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของฉู่มู่เหยา ซ่งรั่วเจินแต่งตัวอย่างพิถีพิถันแล้วจึงตามพี่ชายทั้งสามคนไปเข้าวังพร้อมกันงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหกคราวนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากคนที่นางเชิญมาด้วยตนเองแล้ว บุตรชายหญิงที่ยังไร้พันธะหมั้นหมายของขุนนางขั้นสี่ขึ้นไปก็มาร่วมงานเช่นกันได้ยินว่าตอนแรกไม่ได้วางแผนไว้เช่นนี้ ภายหลังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงเสียอย่างนั้น ทุกคนคาดเดากันว่าคงทำเช่นนี้เพื่อคัดเลือกคู่ครองให้กับบรรดาองค์ชายองค์หญิง ด้วยเหตุนี้ คุณชายและคุณหนูทุกคนที่มาร่วมงานจึงเตรียมตัวมาอย่างดี“น้องหญิงห้า ชุดที่เจ้าทำให้ข้าชุดนี้พอดีตัวดีจริงๆ นอกจากใส่สบายแล้วยังดูดีอีกด้วย!”ซ่งจืออวี้สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินมอบให้เขามา ในใจรู้สึกยินดียิ่งนัก มิน่าเล่ากิจการร้านลั่วเสินจึงรุ่งเรืองปานนั้น ชุดที่น้องหญิงห้าออกแบบช่างไม่เหมือนใครเลยจริงๆเขารู้สึกว่าไม่เคยมีชุดไหนที่ดูดีเท่าชุดนี้มาก่อนเลย!ซ่งจิ่งเซินกับซ่งอี้อันก็สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินให้พวกเขามาอย่างพร้อมใจยิ่ง วันที่พวกเขาได้รับชุด ทุกคนมีความสุขมากวันนี้ประสบโอกาสเหมาะพอดีก็ย่อมต้องนำออกมาสวม“น้องหญิงห้า ข้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 672

    “หลายปีมานี้เขาไม่เคยชอบพอแม่นางคนไหนมาก่อน ยามนี้ยากนักกว่าจะมีแม่นางที่ชอบ ไยท่านต้องคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วย แบบนี้มิเท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านแม่ลูกหรือเพคะ?”“นอกจากนี้...ยามนี้เกรงว่าคนที่ชอบพอแม่นางซ่งจะไม่ได้มีแค่ฉู่อ๋องเพียงคนเดียว”“อันที่จริงหลังพิธีล่าสัตว์ครั้งนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าถังเสวี่ยหนิงไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถังฮูหยินจงใจเข้าวังมาขอร้อง ข้าจึงอดทนรอดูต่อไป ตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็ยิ่งไม่เหมาะสมกับฉู่อ๋อง”ฮองเฮาเอ่ยขึ้นช้าๆ สาเหตุที่วันนี้โมโหเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหล่าสนมในวังหลายคนล้วนแต่เยาะเย้ยเสียดสีนาง ทำให้นางเสียหน้า“แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือจะกลับเมืองหลวงแล้ว? หลานสาวของเขาหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอ๋อร์คุ้นเคยกับฉู่อ๋องมาตั้งแต่เล็ก ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าในใจจวินถิงคิดอย่างไรกันแน่”ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไป “ข้าจำได้ว่าแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาตั้งแต่เล็ก ชอบตามหลังฉู่อ๋องอยู่ทั้งวัน ยามนั้นยังเคยพูดเย้าว่าวันหน้าจะให้ทั้งคู่แต่งงานกัน”“แต่ภายหลังหลิงไท่ซือย้ายไปจากเมืองหลวง ตอนนี้จะกลับมาแล้วงั้นหรือ?”……ณ จ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 671

    ลู่หมิ่นฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก “พี่หญิง ท่านดูออกก็ดีแล้วเพคะ ถังเสวี่ยหนิงผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมจริงๆ”“เรื่องระหว่างพิธีล่าสัตว์คราวก่อนก็ทำความผิดใหญ่หลวงไปแล้ว ถ้าบอกว่านางบริสุทธิ์จริงๆ ถูกหลอกลวงมา ข้ากลับเชื่อไม่ลง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็เงียบไป เรื่องคราวก่อนคนมีวิจารณญาณล้วนมองพิรุธออก แม้สุดท้ายจะยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังเสวี่ยหนิง แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่ฉลาดเองถึงได้ถูกคนวางหลุมพรางเอาเช่นนั้นหลังเกิดเรื่องนี้ นางก็กระจ่างแล้วว่าถังเสวี่ยหนิงเป็นพวกไม่มีสมองจริงๆคงเป็นเพราะครอบครัวให้ท้ายมาจนชิน เข้าใจว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามที่นางต้องการ นิสัยเช่นนี้ หากได้เป็นชายาฉู่อ๋องจริงๆ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วงเสียอีก“พี่หญิง ความจริงข้ารู้สึกว่าแม่นางซ่งผู้นั้นก็ดีมากนะเพคะ ท่านดูจากเรื่องแจกโจ๊กคราวนี้สิ เห็นได้ชัดว่าถังเสวี่ยหนิงจงใจหาเรื่องนาง”“แต่ท่านดูสิว่าแม่นางซ่งทำอย่างไร? นางไม่ชิงดีชิงเด่น ยอมแบกรับคำครหาอยู่หลายวัน นางยังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย”“ด้วยฐานะของพวกเรา จำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของภาพรวม ไม่อาจทำลายเรื่องสำค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 670

    กู้ชิงเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคนพูดว่าจวนอัครมหาเสนาบดีร่ำรวยถึงเพียงนี้ ใช่หรือไม่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีรับสินบน”“เช้าวันนี้ ฝ่าบาทตำหนิอัครมหาเสนาบดีถังอย่างแรงที่ห้องทรงพระอักษร เสียงด่าดังมากจนภายนอกได้ยิน”ราชครูกู้พูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ ภายในเสียงกลับเผยกลิ่นอายที่ได้รับชมละครฉากสนุกหลายส่วนเรื่องถังเสวี่ยหนิงทำร้ายรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ เขาย่อมรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสกุลซ่งแจกจ่ายโจ๊ก ถังเสวี่ยหนิงเองก็แจกจ่ายโจ๊ก แต่ยังต้องการแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อ สองคนได้พบกันที่ประตูเมืองทิศประจิม เขาได้ยินเรื่องรั่วเจินสั่งให้คนเก็บแผงไปทั้งหมดนี้แล้ว จะต้องเป็นเพราะหลานสาวถูกรังแก กลับอดกลั้นไว้ มิได้บอกผู้อาวุโสอย่างพวกเขาเหล่านี้บัดนี้ถังเสวี่ยหนิงก่อเรื่องโง่งมเหล่านี้ออกมา ก็สมควรแล้ว!พี่น้องสกุลซ่งสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่นคิดใช้วิธีการเช่นนี้มารังแกน้องหญิงห้า ยกหินใส่เท้าตน บัดนี้อัครมหาเสนาบดีถังจะต้องปวดหัวแน่“ฮองเฮาอยากให้ถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด ก็ไม่รู้บัดนี้นึกเสียใจภายหลังไปแล้วหรือไม่?”ซ่งอี้อันหรี่ตาลง ด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 669

    กู้ฮวนเอ๋อร์เผยสีหน้าโศกเศร้า “ข้าไม่ทันระวังจริงๆ...”ซ่งรั่วเจิน “...”นางเข้าใจอวิ๋นอ๋องแล้ว คนรักหน้าตาอย่างเขาคนหนึ่ง น่ากลัวว่าไม่เคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อนความรักครั้งนี้ของกู้ฮวนเอ๋อร์...ลำบากโดยแท้!“ญาติผู้พี่ ท่านมีวิธีอันใดหรือไม่? ข้าชอบอวิ๋นอ๋องด้วยใจจริง ได้ยินมาว่าเขาชอบฟังบทเพลงผีผา ข้ายังเตรียมหาอาจารย์ไว้เรียนเป็นพิเศษอีกด้วย”“ครั้งก่อนฮองเฮาเรียกข้าเข้าวัง เดิมทีก็ตั้งใจให้ข้าและอวิ๋นอ๋องได้รู้จักกัน แต่เพียงเขาได้ยินชื่อของข้า คนก็ไม่มาแล้ว!”กู้ฮวนเอ๋อร์ก้มหน้า ใบหน้าเรียวเล็กปกปิดความผิดหวัง “เดิมทีข้าเพียงแอบชอบ กลับไม่มีความยึดมั่น อย่างไรเสียเขาก็มีฐานะสูงศักดิ์ ใช่ว่าข้าจะคู่ควรกับเขา ทว่าบัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ข้าจึงอยากลองดู”ซ่งรั่วเจินเข้าใจแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์เข้าตาฮองเฮา อวิ๋นอ๋องเองก็เป็นคนในหัวใจนาง หากอวิ๋นอ๋องยินดีอยู่ร่วมกันกับนาง นั่นก็คือคู่สร้างคู่สมเรื่องแต่งงานของสตรี ส่วนใหญ่ล้วนฟังคำสั่งฟ้าบัญชาสวรรค์ บัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ขอเพียงพยายามก็สามารถแต่งงานกับคนที่ชอบได้ ย่อมต้องสู้สุดจิตสุดใจดูสักครั้ง“ญาติผู้น้องฮวนเอ๋อร์ ข้าไม่เคยได

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 668

    มือสองข้างของนางประสานกัน ท่าทีสับสน “คือ...ข้า...”“ไม่ขอปิดบัง แท้จริงแล้วข้าชอบอวิ๋นอ๋อง” กู้ฮวนเอ๋อร์สารภาพออกมา“แค่กๆๆ” สายตาซ่งรั่วเจินเผยแววตกตะลึง “อวิ๋นอ๋อง?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบปิดปากซ่งรั่วเจิน พูดว่า “ญาติผู้พี่ ท่านเบาลงเสียงหน่อย อย่าให้คนอื่นได้ยินเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเองก็สนใจขึ้นมาแล้ว “เล่าให้ข้าฟังหน่อยสิ?”กู้ฮวนเอ๋อร์เล่าเหตุการณ์ที่นางได้พบอวิ๋นอ๋องเป็นครั้งแรกวันนั้นนางตั้งใจแต่งตัวไปเข้าร่วมงานเลี้ยงชมดอกบัว ไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกแม่นางที่ปกติมีความสัมพันธ์ไม่ดีขัดขาเข้า คนมิอาจควบคุมตนเองได้จึงล้มหงายหลังข้างหลังก็คือสระบัว หากตกลงไป น่ากลัวว่าต้องกลายเป็นตัวตลกของทั้งเมืองหลวงแน่โชคดีตอนนี้เองอวิ๋นอ๋องบังเอิญผ่านมา ประคองนางไว้ นี่ถึงทำให้นางรอดพ้นจากความอับอายนี้ไปได้ซ่งรั่วเจินได้ยินเรื่องวีรบุรุษช่วยสาวงามแล้ว เนตรขนงเจือรอยยิ้มแม้ว่าเรื่องทำนองนี้จำเจอย่างมาก แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าสำหรับสตรีแล้ว นี่ก็คือช่วงเวลาทำให้ใจคนหวั่นไหวได้อย่างง่ายดายที่สุด“นับตั้งแต่นั้นมา ข้าก็มักอยากลอบไปดูอวิ๋นอ๋องอยู่ตลอด แต่ข้าไม่กล้าเป็นฝ่ายเข้าไปพูดกับอวิ๋นอ๋องก่อน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 667

    วันนี้ซ่งรั่วเจินถูกเรียกมาตั้งแต่เช้า ติดตามมารดาและพวกพี่ชายไปสกุลกู้“ก่อนหน้านี้นับญาติกันอย่างกะทันหันเกินไป วันนี้ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ พวกเจ้าเองก็ถือโอกาสนี้รู้จักเหล่าญาติพี่น้องเถอะ”บนรถม้า กู้หรูเยียนยิ้มกว้างเล่าสถานการณ์ของลูกหลานสกุลกู้ ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็ได้รู้ว่าสกุลกู้มีคนมากมายจากการแนะนำนี้ท่านลุงใหญ่กู้ชิงเหยี่ยนและท่านป้าสะใภ้สวี่ซื่อคลอดลูกสาวสองคนลูกชายสองคน แบ่งออกเป็นลูกชายคนโตกู้จิ่งหลิน ลูกชายคนรองกู้ชิงฉือ ลูกสาวคนที่สามกู้หนานเวย และลูกสาวคนสุดท้องกู้เจาหยวนท่านลุงรองกู้ชิงซิวและป้าสะใภ้หลิงซื่อมีลูกชายสามคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตกู้มู่เฉิน ลูกชายคนรองกู้หลินเซียว ลูกชายคนที่สามกู้สือเหย่และลูกสาวคนเล็กกู้ฮวนเอ๋อร์ภายในนั้น นอกจากกู้เจาหยวน กู้สือเหย่และกู้ฮวนเอ๋อร์ที่ยังไม่แต่งงาน คนอื่นล้วนแต่งงานแล้วส่วนท่านลุงสามกู้ชิงเจ๋อ ทุกคนมิได้เอ่ยถึงอย่างรู้ใจกัน เพราะเรื่องของกู้อวิ๋นเวย กู้ชิงเจ๋อยังมิอาจแยกแยะถูกผิดได้ บัดนี้มิได้อาศัยในสกุลกู้“หรูเยียน ในที่สุดพวกเจ้าก็มาแล้ว หลายวันนี้เจ้าลิงซุกซนเหล่านี้ล้วนบ่นว่าอยากพบญาติผู้พี่ผู้น้องอยู่ตลอด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 666

    ผู้ดูแลเผยสีหน้าเอือมระอา ทุกวันเพียงแค่เงินแจกจ่ายโจ๊กก็ใช้จ่ายไปไม่น้อย ครั้นเปลี่ยนเป็นแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อราคาก็ชวนให้คนตกตะลึง อีกเดี๋ยวจะต้องไปคลังขอเบิกเงินอีกแล้ว...ซ่งจิ่งเซินและซ่งจืออวี้มองบรรยากาศครึกครื้นที่ประตูเมืองทิศทักษิณแห่งนั้น เอ่ยออกมาอย่างสลดใจ “ความยิ่งใหญ่เช่นนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นมาก่อน สกุลถังเงินหนาไม่ผิดไปดังคาด!”“น้องสี่ อัครมหาเสนาบดียอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เหตุใดกับเรื่องนี้ถึงได้โง่งมนัก ปล่อยให้ถังเสวี่ยหนิงทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้?”ซ่งจืออวี้เผยสีหน้าสงสัย คนไม่เคยสัมผัสมาก่อนอาจไม่เข้าใจ แต่อัครมหาเสนาบดีไม่มีทางไม่รู้ผลลัพธ์ที่ตามมาของการกระทำนี้ซ่งจิ่งเซินหัวเราะเบาๆ “ได้ยินมาว่าเมื่อคืนดื่มสุราจนเมามาย น่ากลัวว่าจะยังไม่รู้เรื่องนี้”“หากรู้เข้า จะต้องไม่ปล่อยให้นางทำเรื่องเหลวไหลแน่ แต่เรื่องนี้ชุลมุนวุ่นวายใหญ่โตถึงเพียงนี้ ต่อให้หลังผ่านวันนี้ไปจะห้ามเอาไว้ น่ากลัวว่าไม่ทันการณ์แล้ว”“ฉวยโอกาสในครั้งนี้ พวกเราเองก็หาเงินได้มาก อย่างไรเสียจวนถังก็ไม่ขาดเงินอยู่แล้ว”“สกุลถังแจกจ่ายโจ๊ก พวกเราหาเงินได้อย่างไร?” ซ่งจืออวี้ตกตะลึงซ่งจิ่งเซิ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status