กู้ฮวนเอ๋อร์เผยสีหน้าโศกเศร้า “ข้าไม่ทันระวังจริงๆ...”ซ่งรั่วเจิน “...”นางเข้าใจอวิ๋นอ๋องแล้ว คนรักหน้าตาอย่างเขาคนหนึ่ง น่ากลัวว่าไม่เคยขายหน้าเช่นนี้มาก่อนความรักครั้งนี้ของกู้ฮวนเอ๋อร์...ลำบากโดยแท้!“ญาติผู้พี่ ท่านมีวิธีอันใดหรือไม่? ข้าชอบอวิ๋นอ๋องด้วยใจจริง ได้ยินมาว่าเขาชอบฟังบทเพลงผีผา ข้ายังเตรียมหาอาจารย์ไว้เรียนเป็นพิเศษอีกด้วย”“ครั้งก่อนฮองเฮาเรียกข้าเข้าวัง เดิมทีก็ตั้งใจให้ข้าและอวิ๋นอ๋องได้รู้จักกัน แต่เพียงเขาได้ยินชื่อของข้า คนก็ไม่มาแล้ว!”กู้ฮวนเอ๋อร์ก้มหน้า ใบหน้าเรียวเล็กปกปิดความผิดหวัง “เดิมทีข้าเพียงแอบชอบ กลับไม่มีความยึดมั่น อย่างไรเสียเขาก็มีฐานะสูงศักดิ์ ใช่ว่าข้าจะคู่ควรกับเขา ทว่าบัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ข้าจึงอยากลองดู”ซ่งรั่วเจินเข้าใจแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์เข้าตาฮองเฮา อวิ๋นอ๋องเองก็เป็นคนในหัวใจนาง หากอวิ๋นอ๋องยินดีอยู่ร่วมกันกับนาง นั่นก็คือคู่สร้างคู่สมเรื่องแต่งงานของสตรี ส่วนใหญ่ล้วนฟังคำสั่งฟ้าบัญชาสวรรค์ บัดนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ขอเพียงพยายามก็สามารถแต่งงานกับคนที่ชอบได้ ย่อมต้องสู้สุดจิตสุดใจดูสักครั้ง“ญาติผู้น้องฮวนเอ๋อร์ ข้าไม่เคยได
กู้ชิงเหยี่ยนพยักหน้า “ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีคนพูดว่าจวนอัครมหาเสนาบดีร่ำรวยถึงเพียงนี้ ใช่หรือไม่ว่าท่านอัครมหาเสนาบดีรับสินบน”“เช้าวันนี้ ฝ่าบาทตำหนิอัครมหาเสนาบดีถังอย่างแรงที่ห้องทรงพระอักษร เสียงด่าดังมากจนภายนอกได้ยิน”ราชครูกู้พูดเนิบนาบอย่างไม่ใส่ใจ ภายในเสียงกลับเผยกลิ่นอายที่ได้รับชมละครฉากสนุกหลายส่วนเรื่องถังเสวี่ยหนิงทำร้ายรั่วเจินในพิธีล่าสัตว์ เขาย่อมรู้ ยิ่งไม่ต้องพูดเรื่องสกุลซ่งแจกจ่ายโจ๊ก ถังเสวี่ยหนิงเองก็แจกจ่ายโจ๊ก แต่ยังต้องการแจกจ่ายซาลาเปาเนื้อ สองคนได้พบกันที่ประตูเมืองทิศประจิม เขาได้ยินเรื่องรั่วเจินสั่งให้คนเก็บแผงไปทั้งหมดนี้แล้ว จะต้องเป็นเพราะหลานสาวถูกรังแก กลับอดกลั้นไว้ มิได้บอกผู้อาวุโสอย่างพวกเขาเหล่านี้บัดนี้ถังเสวี่ยหนิงก่อเรื่องโง่งมเหล่านี้ออกมา ก็สมควรแล้ว!พี่น้องสกุลซ่งสบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกมีความสุขในคราวเคราะห์ของผู้อื่นคิดใช้วิธีการเช่นนี้มารังแกน้องหญิงห้า ยกหินใส่เท้าตน บัดนี้อัครมหาเสนาบดีถังจะต้องปวดหัวแน่“ฮองเฮาอยากให้ถังเสวี่ยหนิงเป็นลูกสะใภ้มาโดยตลอด ก็ไม่รู้บัดนี้นึกเสียใจภายหลังไปแล้วหรือไม่?”ซ่งอี้อันหรี่ตาลง ด
ลู่หมิ่นฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก “พี่หญิง ท่านดูออกก็ดีแล้วเพคะ ถังเสวี่ยหนิงผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมจริงๆ”“เรื่องระหว่างพิธีล่าสัตว์คราวก่อนก็ทำความผิดใหญ่หลวงไปแล้ว ถ้าบอกว่านางบริสุทธิ์จริงๆ ถูกหลอกลวงมา ข้ากลับเชื่อไม่ลง”ฮองเฮาได้ยินแล้วก็เงียบไป เรื่องคราวก่อนคนมีวิจารณญาณล้วนมองพิรุธออก แม้สุดท้ายจะยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังเสวี่ยหนิง แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่ฉลาดเองถึงได้ถูกคนวางหลุมพรางเอาเช่นนั้นหลังเกิดเรื่องนี้ นางก็กระจ่างแล้วว่าถังเสวี่ยหนิงเป็นพวกไม่มีสมองจริงๆคงเป็นเพราะครอบครัวให้ท้ายมาจนชิน เข้าใจว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามที่นางต้องการ นิสัยเช่นนี้ หากได้เป็นชายาฉู่อ๋องจริงๆ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วงเสียอีก“พี่หญิง ความจริงข้ารู้สึกว่าแม่นางซ่งผู้นั้นก็ดีมากนะเพคะ ท่านดูจากเรื่องแจกโจ๊กคราวนี้สิ เห็นได้ชัดว่าถังเสวี่ยหนิงจงใจหาเรื่องนาง”“แต่ท่านดูสิว่าแม่นางซ่งทำอย่างไร? นางไม่ชิงดีชิงเด่น ยอมแบกรับคำครหาอยู่หลายวัน นางยังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย”“ด้วยฐานะของพวกเรา จำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของภาพรวม ไม่อาจทำลายเรื่องสำค
“หลายปีมานี้เขาไม่เคยชอบพอแม่นางคนไหนมาก่อน ยามนี้ยากนักกว่าจะมีแม่นางที่ชอบ ไยท่านต้องคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วย แบบนี้มิเท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านแม่ลูกหรือเพคะ?”“นอกจากนี้...ยามนี้เกรงว่าคนที่ชอบพอแม่นางซ่งจะไม่ได้มีแค่ฉู่อ๋องเพียงคนเดียว”“อันที่จริงหลังพิธีล่าสัตว์ครั้งนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าถังเสวี่ยหนิงไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถังฮูหยินจงใจเข้าวังมาขอร้อง ข้าจึงอดทนรอดูต่อไป ตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็ยิ่งไม่เหมาะสมกับฉู่อ๋อง”ฮองเฮาเอ่ยขึ้นช้าๆ สาเหตุที่วันนี้โมโหเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหล่าสนมในวังหลายคนล้วนแต่เยาะเย้ยเสียดสีนาง ทำให้นางเสียหน้า“แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือจะกลับเมืองหลวงแล้ว? หลานสาวของเขาหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอ๋อร์คุ้นเคยกับฉู่อ๋องมาตั้งแต่เล็ก ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าในใจจวินถิงคิดอย่างไรกันแน่”ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไป “ข้าจำได้ว่าแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาตั้งแต่เล็ก ชอบตามหลังฉู่อ๋องอยู่ทั้งวัน ยามนั้นยังเคยพูดเย้าว่าวันหน้าจะให้ทั้งคู่แต่งงานกัน”“แต่ภายหลังหลิงไท่ซือย้ายไปจากเมืองหลวง ตอนนี้จะกลับมาแล้วงั้นหรือ?”……ณ จ
ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงวันเกิดของฉู่มู่เหยา ซ่งรั่วเจินแต่งตัวอย่างพิถีพิถันแล้วจึงตามพี่ชายทั้งสามคนไปเข้าวังพร้อมกันงานเลี้ยงวันเกิดขององค์หญิงหกคราวนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากคนที่นางเชิญมาด้วยตนเองแล้ว บุตรชายหญิงที่ยังไร้พันธะหมั้นหมายของขุนนางขั้นสี่ขึ้นไปก็มาร่วมงานเช่นกันได้ยินว่าตอนแรกไม่ได้วางแผนไว้เช่นนี้ ภายหลังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเปลี่ยนแปลงเสียอย่างนั้น ทุกคนคาดเดากันว่าคงทำเช่นนี้เพื่อคัดเลือกคู่ครองให้กับบรรดาองค์ชายองค์หญิง ด้วยเหตุนี้ คุณชายและคุณหนูทุกคนที่มาร่วมงานจึงเตรียมตัวมาอย่างดี“น้องหญิงห้า ชุดที่เจ้าทำให้ข้าชุดนี้พอดีตัวดีจริงๆ นอกจากใส่สบายแล้วยังดูดีอีกด้วย!”ซ่งจืออวี้สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินมอบให้เขามา ในใจรู้สึกยินดียิ่งนัก มิน่าเล่ากิจการร้านลั่วเสินจึงรุ่งเรืองปานนั้น ชุดที่น้องหญิงห้าออกแบบช่างไม่เหมือนใครเลยจริงๆเขารู้สึกว่าไม่เคยมีชุดไหนที่ดูดีเท่าชุดนี้มาก่อนเลย!ซ่งจิ่งเซินกับซ่งอี้อันก็สวมชุดที่ซ่งรั่วเจินให้พวกเขามาอย่างพร้อมใจยิ่ง วันที่พวกเขาได้รับชุด ทุกคนมีความสุขมากวันนี้ประสบโอกาสเหมาะพอดีก็ย่อมต้องนำออกมาสวม“น้องหญิงห้า ข้า
ฉู่อวิ๋นกุยกวาดสายตามองไปโดยจิตใต้สำนึก แม้ปกติฉู่จวินถิงสวมชุดไหนก็ดูดีมากอยู่แล้ว แต่การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้แตกต่างออกไปเป็นพิเศษ ขับเน้นให้รูปร่างเขาดูสูงเพรียวกว่าเดิม ทำให้ดวงตาเขาพลันสว่างวาบ“ข้านึกแล้วเชียวว่าเหตุใดวันนี้จึงรู้สึกว่าท่านดูหล่อเหลากว่าปกติ การตัดเย็บของอาภรณ์ชุดนี้ทำได้ไม่เลวจริงๆ กองภูษาทำงานได้ดูดีเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”ฉู่อวิ๋นกุยมีสีหน้าสงสัย เมื่อขยับเข้าไปพินิจดูโดยละเอียดก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง “แต่ทักษะการเย็บปักดูเหมือนจะอ่อนด้อยไปหน่อยนะ”ฉู่จวินถิงปัดมือฉู่อวิ๋นกุยออก “อย่าแตะ เดี๋ยวทำเลอะ”ฉู่อวิ๋นกุย “???”หร่วนอวี้เฉิงได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองจึงขยับเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน สังเกตสีหน้าของฉู่จวินถิงรวมถึงระดับความเอาใจใส่ที่มีต่ออาภรณ์ชุดนี้แล้วก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรขึ้นมา“จวินถิง อาภรณ์ชุดนี้ของเจ้าคงไม่ใช่แม่นางซ่งให้มากระมัง?”เมื่อวาจานั้นดังขึ้น มุมปากของฉู่จวินถิงก็โค้งขึ้นมาอีกครั้งจนดูเหมือนจะหุบไม่ลงเลยทีเดียว เขามองหร่วนอวี้เฉิงเป็นเชิงชมเชย “ตาแหลม!”ฉู่อวิ๋นกุย “!!!”“มิน่าเล่าถึงได้ทะนุถนอมอาภรณ์ชุดนี้เสียขนาดนั้น!” ฉู่อวิ
“ดูสิ ซ่งรั่วเจินมาแล้ว”“คราวนี้สาเหตุที่การแจกโจ๊กของถังเสวี่ยหนิงก่อให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลเช่นนี้ก็เพราะอยากเอาชนะซ่งรั่วเจิน คิดไม่ถึงว่าจะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ไม่รู้ว่าวันนี้จะมาหรือไม่?”“ต้องยอมรับว่าซ่งรั่วเจินมีฝีมือทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะทำให้ฉู่อ๋องประทับใจในตัวนางได้อย่างไร?”ชั่วขณะที่คุณหนูทั้งหลายในงานเห็นซ่งรั่วเจิน ความรู้สึกหลากหลายปนเปคิดถึงตอนแรกที่นางถูกถอนหมั้น ใครต่อใครล้วนคิดว่านางโชคร้ายทั้งยังขวัญกล้าเทียมฟ้า ผู้ใดเลยจะคาดว่าในไม่ช้านางจะไปเข้าตาฉู่อ๋อง ส่วนหลินจือเยว่ที่แต่เดิมเริ่มเข้ามามีอำนาจในราชสำนักกลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษ ช่างชวนให้คนทอดถอนใจโดยแท้“รั่วเจิน”ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้วก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาใบหน้าซ่งรั่วเจินแฝงรอยยิ้ม มือถือของขวัญวันเกิดสำหรับองค์หญิงหก ถามว่า “องค์หญิงหกเล่า? ไยหม่อมฉันจึงไม่เห็นเลยเพคะ?”“วันนี้เป็นวันเกิดของนาง บอกว่าอยากแต่งตัวดีๆ สักหน่อย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มา” ฉู่จวินถิงยิ้มบางพี่น้องตระกูลซ่งทั้งสามคนเห็นฉู่อ๋องกับน้องสาวตนเองคุยกันอย่างเป็นกันเองเช่นนี้ ดูเหมือนเป็นถ้อยคำเรียบง่ายไม่กี
“ช่วงนี้ฉู่อ๋องสนิทสนมกับซ่งรั่วเจินมากไม่ใช่หรือ? หลิงไท่ซือย้ายกลับเมืองหลวงมาทั้งครอบครัวพอดีเช่นนี้ นั่นมิเท่ากับว่า...”ทุกคนพลันสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้ แต่ละคนบังเกิดความสนอกสนใจขึ้นมาทันทียามนี้ซ่งรั่วเจินเป็นถึงหลานสาวของราชครูกู้ มีฐานะสูงศักดิ์กว่ากาลก่อน แต่หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ก็เป็นถึงหลานสาวของหลิงไท่ซือ ทั้งเคยสร้างความชอบในสนามรบและยังได้รับคำชมเชยจากฝ่าบาทสตรีทั้งสองยืนเคียงข้างกันก็ไม่รู้จริงๆ ว่าฉู่อ๋องจะเลือกอย่างไรฉู่มู่เหยาเดินยิ้มมาถึงตรงหน้าพวกซ่งรั่วเจินแล้วยิ้มเอ่ยว่า “ก่อนหน้านี้พี่หญิงเชี่ยนเอ๋อร์ไปคารวะเสด็จแม่ที่ตำหนัก เสด็จแม่ไม่ได้เจอนางนานแล้วจึงพูดจากับนางมากหน่อยทำให้มาถึงล่าช้า”ซ่งรั่วเจินไม่รู้จักหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ แต่สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าสายตาของฝ่ายตรงข้ามเหมือนจะมองมาที่ตนเองโดยแฝงนัยลึกซึ้งเนื้อหาในนิยายกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับฉินซวงซวงและหลินจือเยว่เป็นหลัก ส่วนตระกูลซ่งที่มีหน้าที่ชูบทตัวเอกยามนี้ตกอยู่ในสภาพอเนจอนาถลงเรื่อยๆ ส่วนหลิงเชี่ยนเอ๋อร์...ในนิยายต้นฉบับที่นางอ่านดูเหมือนจะไม่เคยปรากฏตัว“องค์หญิงหก สุขสันต์วั
ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที
เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่? “ผ่าม!” กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง! “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก! ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“ “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!” ซ่งรั่วเจิน “...” หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค
ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้” อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน” ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?” “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย” “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร
เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่ “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี” “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด” “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?” จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค
“พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง” ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว “ข้า...” นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด” “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน” จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง
ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ” นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์ “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน” เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง? นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่ หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ
นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน
“ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป
“เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ