แชร์

บทที่ 622

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“เจ้าคิดว่าให้พวกเขาใช้ไปเสียเลยก็มิใช่เรื่องใหญ่ใช่หรือไม่?" ใบหน้ากู้ชิงซิวเรียบเฉย “เจ้าช่างใจกว้างในทรัพย์สินของผู้อื่นเสียเหลือเกิน!"

กู้ชิงเจ๋อเปิดปาก ทว่ากลับไม่รู้จะพูดสิ่งใด

หลิ่วหรูเยียนขยิบตาให้ซ่งรั่วเจินและคนอื่นๆ แม้จะกล่าวได้ว่าบัดนี้ได้นับญาติกันแล้ว แต่บุญคุณความแค้นของสกุลกู้นั้น พวกเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว อย่างไรก็รีบกลับไปก่อนเป็นการดี

เห็นมารดาขึ้นรถม้าไปแล้ว ซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นว่าไม่ไกลออกไปมีเงาคุ้นตาร่างหนึ่งอยู่ ก็เข้าใจทันทีว่าก่อนหน้านี้ตนไม่ได้ตาฝาดไป ฉู่จวินถิงยังไม่ได้กลับไปจริงๆ

“พี่รอง พวกท่านกลับไปกับท่านแม่ก่อนเถิด ไว้ข้าค่อยตามไป” ซ่งรั่วเจินกล่าว

ซ่งอี้อันมองตามสายตาของซ่งรั่วเจินไป เห็นฉู่อ๋องอยู่ไม่ไกลก็เข้าใจในทันที

“ได้”

ซ่งรั่วเจินวิ่งเหยาะๆ ไปอยู่ตรงหน้าของฉู่จวินถิง ใบหน้าเล็กหมดจดงดงามของนางแฝงความประหลาดใจ

“ท่านอ๋องมาที่นี่ได้อย่างไรเพคะ?”

“เป็นห่วงเจ้า” ฉู่จวินถิงตอบ

ดวงตาของชายหนุ่มคมลึก ใบหน้าน่ามองภายใต้แสงอาทิตย์อบอุ่นมากเป็นพิเศษ ถ้อยคำนี้ยิ่งแสดงออกถึงความห่วงใยอย่างไม่ปิดบัง

ซ่งรั่วเจินชะงักไปเล็กน้อย นางรู้ว่าที่คราว
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
patty
ชอบๆ ชอบมาก ขอบทที่มี นอ กับ พอ เยอะหน่อยจ๊ะ
goodnovel comment avatar
หยง หยง
เห็นด้วยเลยคับ
goodnovel comment avatar
Ma-ei Kwanwatcharapun
ชอบ พอ. ในสายตามีแต่ นอ. คนเดียว...... ส่วน นอ. ทั้งฉลาด ทั้งเก่งจ้า ชอบๆ...... รบกวนไรท์อัพจนจบจริงๆน้า อย่าเทกันเหมือนเรื่องอื่นนะค้า......
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 623

    รุ่งเช้าวันถัดมาลั่วชิงอินยกน้ำชาคำนับแม่สามี ใบหน้างามประดับด้วยความเขินอาย กล่าวด้วยเสียงอ่อนน้อม “ขอท่านแม่โปรดรับชาเจ้าค่ะ”หลิ่วหรูเยียนมองดูซ่งเยี่ยนโจวคู่สามีภรรยาที่กลมเกลียวกัน บนใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มอย่างยากจะปิดบัง นางยกชาขึ้นดื่มด้วยรอยยิ้มระรื่น“ดี ดียิ่ง ต่อไปพวกเจ้าต้องอยู่กันให้ปรองดอง สามีภรรยาจับมือร่วมทาง ข้าก็วางใจแล้ว”“สะใภ้ขอบคุณท่านแม่สามีที่ชี้แนะเจ้าค่ะ” ลั่วชิงอินตอบรับอย่างเชื่อฟังซ่งรั่วเจินและพี่น้องทั้งหลายที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพพี่ใหญ่และพี่สะใภ้หวานชื่นรื่นรมย์ ก็อดลอบขำไม่ได้ ท่าทีหวานซึ้งเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวของฝานซืออิ๋งไม่ได้มีผลกระทบใดๆ “ท่านแม่ ลูกได้ยินมาว่าหลังจากส่งแขกเมื่อคืน พวกท่านก็ออกไปข้างนอกด้วย มีเรื่องใดเกิดขึ้นงั้นหรือ?”ซ่งเยี่ยนโจวเพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าวันนี้เอง รู้เพียงว่าคนในครอบครัวไปสกุลกู้กันมา แต่กลับไม่รู้รายละเอียดใดใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนฉายความกังวลอยู่บ้าง คราวนี้นางก็ไม่ได้ปิดบังอะไร และเล่าความเป็นมาทุกอย่างออกไป“น้องรองของเจ้าไปเข้าเฝ้าแล้ว มีแต่ต้องรอให้เขากลับมาก่อนจึงจะรู้ผล”วันวิวาห์ขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 624

    จ้าวจือเต๋อก็เห็นพ้องกัน “ฝ่าบาท เรื่องนี้ล้วนเป็นกลอุบายที่สกุลหลิ่วเป็นผู้วาง ราชครูกู้เป็นผู้บริสุทธิ์จริง อีกทั้งบุตรสาวราชครูกู้ก็ยังเป็นฮูหยินของแม่ทัพซ่ง หลายปีมานี้ทนทุกข์ในสกุลหลิ่วมาก็ไม่น้อย ไม่ง่ายเลยจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”เดิมทีกู้หวยซวี่ก็เป็นขุนนางผู้เป็นเสาหลัก ฮ่องเต้เดิมก็ไม่ได้ต้องการให้เขาลาออก ถ้อยคำของฉู่จวินถิงก็ตรงพระทัยเข้าพอดี จึงกล่าว“ราชครูกู้ เราว่าข้อเสนอของฉู่อ๋องนั้นดีทีเดียว บัดนี้อุทกภัยในเจียงหนานรุนแรง ประชาชนพลัดถิ่นไร้ที่อาศัย”“เงินบรรเทาภัยพิบัติได้ส่งไปแล้ว ทว่าปัญหาของผู้ประสบภัยยังไม่บรรเทา กลับกันผู้ลี้ภัยยิ่งเพิ่มมากขึ้น ครานี้ให้เจ้าและฉู่อ๋องเร่งรุดไปจัดการอุทกภัยที่เจียงหนานด้วยกันก็แล้วกัน” กู้หวยซวี่รู้ดีว่าฉู่จวินถิงกำลังช่วยเขา จึงรีบกล่าว “ขอบพระทัยฝ่าบาท ขอบพระทัยท่านอ๋องที่เมตตาพ่ะย่ะค่ะ”จ้าวจือเต๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พลอยโล่งใจไปด้วยเปลาะหนึ่ง ก่อนเอ่ยถาม “ฝ่าบาท เช่นนั้นตระกูลใต้เท้าหลิ่วจะจัดการเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ?” “ปลดตำแหน่งขุนนางเขาเสีย!” ฮ่องเต้กล่าวเสียงแข็ง “ส่วนกู้อวิ๋นเวย ประหารชีวิต!”“กระหม่อมรับบัญชา”ได้รับผลลัพธ์เช

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 625

    เมื่อฉู่จวินถิงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในท้องพระโรงและห้องทรงพระอักษรในวันนี้ออกมาแล้ว คนสกุลซ่งก็ต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก“สร้างคุณูปการชดเชยความผิด ถือว่าไร้ปัญหา สกุลหลิ่วและกู้อวิ๋นเวยล้วนได้รับบทลงโทษ นับว่าเยี่ยมทีเดียว” ซ่งเยี่ยนโจวยิ้มพลางกล่าวทุกคนพยักหน้าตามๆ กัน นึกถึงท่าทางยามปกติของคนสกุลหลิ่ว โดยเฉพาะนายท่านหลิ่วที่หมกมุ่นอยู่กับตำแหน่งขุนนาง ทว่าน่าเสียดายที่ตนเองความสามารถไม่พอ หลายปีมานี้จึงไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่งเมื่อครั้งซ่งหลินยังอยู่ นายท่านหลิ่วก็มักจะขอให้เขาช่วยเหลือ ซ่งหลินก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ ทว่าช่วยไม่ได้ที่นายท่านหลิ่วเดิมก็ขุนไม่ขึ้นอยู่แล้ว ลำพังรักษาตำแหน่งเดิมเอาไว้ก็ไม่ง่ายแล้วบัดนี้ถูกปลดจากตำแหน่งขุนนาง ทั้งยังไม่มีความช่วยเหลือจากสกุลซ่งอีกแล้ว อนาคตของสกุลหลิ่วก็เดาได้ไม่ยากแล้วนึกถึงสิ่งที่สกุลหลิ่วกระทำตลอดหลายปีมานี้ มีจุดจบระดับนี้เดิมทีก็เพราะหาเรื่องใส่ตัว ส่วนกู้อวิ๋นเวยที่กล้าขโมยป้ายทองละเว้นโทษตาย แต่เดิมก็เป็นหนทางตายอยู่แล้ว“ขอบพระทัยท่านอ๋องที่แจ้งข่าวนี้แก่พวกเราเพคะ”สีหน้าหลิ่วหรูเยียนประดับยิ้ม แม้ฉู่จวินถิงจะไม่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 626

    นางรออยู่ทั้งวัน ก็ไม่เห็นสามีของนางมาช่วยนางเดิมสามีก็เบื่อหน่ายนางเต็มทีอยู่แล้ว แต่เพราะเห็นว่านางมีสกุลหลิ่วกับสกุลซ่งหนุนหลัง จึงครองตำแหน่งซุนฮูหยินอย่างมั่นคงแต่บัดนี้สกุลซ่งสิ้นหวังแล้ว หากสกุลหลิ่วยังจบสิ้นไปอีก แล้วต่อไปนางอยู่บ้านสกุลซุนจะมีความหวังใดหลงเหลือ?นายท่านหลิ่วหน้าตาขมึงทึง ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นเต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้น ยิ่งได้ฟังคำพูดจากหลิ่วเฟยเยี่ยน พลันยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้นอีก“เพียะ!”นายท่านหลิ่วฟาดฝ่ามือออกไป“ล้วนเป็นเพราะความคิดโง่ๆ ของเจ้า! ถ้าเมื่อวานไม่ไปอาละวาดที่บ้านสกุลซ่ง วันนี้คงไม่เกิดเรื่องมากมายเช่นนี้ เจ้าพอใจแล้วสินะ?”หลิ่วเฟยเยี่ยนถูกตบจนเกือบหน้ามืด กล่าวด้วยความน้อยใจ “จะมาโทษข้าได้อย่างไรเจ้าคะ เป็นเพราะพี่หญิงมาหาข้า สั่งให้ข้าทำเช่นนี้ต่างหาก”นายหญิงหลิ่วนึกถึงกู้อวิ๋นเวยขึ้นมา จึงรีบกล่าว “ใช่แล้ว ยังมีอวิ๋นเวยอีกคน!แม้ว่าสกุลกู้กับอวิ๋นเวยจะตัดความสัมพันธ์มานานปี แต่หลายปีนี้หากอวิ๋นเวยเกิดเรื่องใด สกุลกู้ก็ไม่เคยนิ่งดูดายแม้ตอนนี้พวกเขาต่างก็รู้ว่าอวิ๋นเฟยไม่ใช่สายเลือดที่แท้จริง แต่ความผูกพันมานานปีใช่ว่าจะขาดกั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 627

    “บ้าจริง เมื่อไหร่จะยอมปล่อยข้าออกไปเสียที!”หลิ่วอวิ๋นเวยเอาเท้าเตะซี่กรงห้องขัง รู้สึกเพียงปลายเท้าตนเองเจ็บจี๊ดขึ้นมาจึงรีบกุมไว้ รู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออกครั้นเมื่อนายท่านหลิ่วกับพวกมาถึงและเห็นเหตุการณ์นี้เข้า เดิมทีที่ยังคาดหวังให้หลิ่วอวิ๋นเวยจะช่วยเหลือให้พวกเขาพ้นภัย ที่ไหนได้สภาพของนางย่ำแย่กว่าพวกเขาเสียอีก“อวิ๋นเวย อยู่ดีๆ เจ้าไปขโมยป้ายทองละเว้นโทษตายทำไมกัน เพื่อจะช่วยพวกเราอย่างนั้นรึ?”นายท่านหลิ่วสีหน้ามึนงง คิดไปคิดมาเหตุผลนี้น่าจะพอฟังขึ้น จึงอดไม่ได้ที่จะกล่าวต่อ “ทำไมเจ้าจึงโง่เช่นนี้ ที่เราได้รับเพียงแค่โทษเล็กน้อย ไม่ต้องใช้ถึงป้ายทองหรอกตอนนี้เจ้ากลับเอาตัวเข้าแลกเพียงเพราะเรื่องนี้ ช่างโง่เขลายิ่งนัก!”หลิ่วอวิ๋นเวยเห็นคนสกุลหลิ่วต่างมากันพร้อมหน้า พลันนึกถึงคำพูดราชครูกู้เมื่อวานนี้ จึงกล่าวด้วยความขุ่นเคือง “พวกท่านเปิดโปงชาติกำเนิดของข้าใช่หรือไม่?เดิมทีข้าขโมยป้ายทองก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่เพราะพวกท่าน เอาชาติกำเนิดของข้าไปเที่ยวโพนทะนา พ่อข้าจึงได้ใจร้ายเช่นนี้”คนสกุลหลิ่วฟังแล้วก็รู้สึกเสียใจ ซ้ำยังรู้สึกผิดต่อนาง“อวิ๋นเวย ฟังเจ้าแม่พูดนะ ข้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 628

    ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้น “ได้ ข้าจะไปกับเจ้า”เมื่อมองชายหนุ่มข้างกาย ซ่งรั่วเจินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองเดินไปตามถนนเมืองหลวงด้วยกัน“หญิงสาวยังชอบเครื่องประดับที่สุดอยู่ดี พวกเราไปดูร้านเครื่องประดับกันดีหรือไม่?”ซ่งรั่วเจินคิ้วตาอมยิ้ม โดยรวมสิ่งของพื้นฐานที่หญิงสาวชอบก็ไม่ต่างกันมาก ของประเภทเครื่องประดับมีเยอะเท่าไรก็ไม่พอฉู่จวินถิงเห็นว่ายามที่ตนเองเอื้อนเอ่ย นัยน์ตาใสฉ่ำก็โค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว คล้ายกับพูดคุยได้ เขาจ้องนางด้วยท่าทางสนอกสนใจ รู้สึกเพียงว่าคล้ายกับถูกมอมเมาไม่ว่านางจะพูดอะไร เขาก็อยากบอกว่าดีอวิ๋นหยางมองท่านอ๋องของตัวเองที่ปกติมีนิสัยเยือกเย็นอยู่เสมอ บัดนี้ประเดี๋ยวก็เอาแต่ยิ้ม ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ“หลังจากที่ท่านอ๋องได้พบคุณหนูซ่ง ก็ไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง”เฉินเซียงยิ้มด้วยใบหน้ายินดี แล้วอดไม่ได้ที่จะพูด “เจ้าก็คิดว่าท่านอ๋องกับคุณหนูของพวกข้าเหมาะสมกันใช่หรือไม่?”อวิ๋นหยางปรายตามองเฉินเซียง พร้อมพยักหน้า “เหมาะสมจริงๆ!”ทั้งสองเดินอยู่ด้านหลังอย่างรู้ใจกัน เว้นระยะห่างจากเจ้านายตัวเองเล็กน้อย มองดูคู่กิ่งทองใบหยกตรงหน้า ในใจรู้สึก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 629

    เมื่อได้ปิ่นมุกมา ซ่งรั่วเจินก็เหลือบมองฉู่จวินถิง “พวกเราไปที่ร้านลั่วเสินอีกดีหรือไม่เพคะ? หม่อมฉันอยากสั่งทำชุดกระโปรงชุดหนึ่งให้องค์หญิงหก เข้าคู่กับปิ่นมุกพอดี”“เจ้าอยากไปไหนล้วนได้ทั้งหมด” ฉู่จวินถิงอมยิ้ม “หากมู่เหยารู้ว่าเจ้าใส่ใจกับวันเกิดของนางเช่นนี้ จะต้องดีใจมากเป็นแน่”ซ่งรั่วเจินเดินออกไปด้านนอก สายตาก็มองไปที่ชั้นวางที่วางผ้าคาดผมสีแดงก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว แต่กลับพบว่าผ้าคาดผมที่เคยวางอยู่ตรงนั้นได้หายไปแล้วนัยน์ตาใสฉายแววผิดหวัง เมื่อครู่นางยังคิดอยู่ว่าผ้าคาดผมนี่สวยมากอยู่เลย มิฉะนั้นคงจะซื้อไปด้วยกันแล้วนึกไม่ถึงว่าเวลาเพียงชั่วครู่ ผ้าคาดผมจะถูกคนซื้อไปแล้วร้านลั่วเสินนี่เป็นร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ซ่งรั่วเจินเปิดก่อนหน้านี้ไม่นานไม่เหมือนกับร้านเสื้อผ้าร้านอื่น ร้านลั่วเสินจะขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งหมดเป็นหลักนางคิดว่าอาภรณ์ของยุคโบราณนั้นงดงาม แม้รูปแบบจะซับซ้อน แต่กลับงดงามอย่างประณีต ทว่าด้านจับคู่สีดูขาดหายไปเล็กน้อย จิตวิญญาณก็ขาดไปสักหน่อยเช่นกันด้วยเหตุนี้ นางจึงออกแบบรูปแบบบางอย่าง จ้างช่างปักฝีมือดีกลับมาส่วนหนึ่ง เพิ่งจะเริ่มทำเสื้อผ้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 630

    งานเลี้ยงวันเกิดของฉู่มู่เหยาใกล้จะถึงแล้ว จะต้องรีบจัดเตรียมงานโดยเร็วฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินภาพวาดเป็นครั้งแรก พบว่าวิธีการวาดภาพของนางไม่เหมือนกับที่เห็นตามปกติทั่วไปแค่นางตวัดปลายพู่กันอย่างสบายเพียงไม่กี่ครั้งก็ปรากฏเรือนร่างอรชรของหญิงสาวได้ กระนั้นยังวาดรายละเอียดอันวิจิตของกระโปรงออกมาได้อีกทุกจุดออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งความยาว ความกว้าง แม้กระทั่งวัสดุที่เลือกใช้ก็เขียนไว้ด้านข้างอย่างชัดเจน ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเสื้อผ้าของลั่วเซินฟางจึงมีเอกลักษณ์มากเมื่อก่อนรู้แค่ว่านางเก่งเรื่องศาสตร์ลี้ลับ และยังรู้จักทำการค้า ร้านที่นางเปิดกิจการก็เป็นไปได้ดี แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วนางยังมีพรสวรรค์เพียงนี้หญิงสาวเช่นนี้...เมื่อก่อนในเมืองหลวงต้องได้รับฉายาว่าเป็นกุลสตรีตระกูลใหญ่เท่านั้น ช่างเป็นสตรีที่มีพรสวรรค์ที่หาได้ยากเสียจริงหวนนึกถึงชาติที่แล้วเห็นเพียงแค่ซ่งรั่วเจินผู้เศร้าโศก ต่างจากคนตรงหน้านี้...อุปนิสัยช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงซ่งรั่วเจินเลือกผ้าด้วยตนเอง และหารือกับช่างเย็บปักเกี่ยวกับแบบลวดลายปัก แล้วจึงเดินไปด้านหน้าฉู่จวินถิงชายหนุ่มยืนรอนางอยู่ต

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status