แชร์

บทที่ 494

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“จื้อหย่วน ถึงท่านไม่ต้องการข้าก็ไม่อาจไม่ต้องการลูกของพวกเรานะ!” เหอเซียงหนิงกุมท้องน้อยด้วยสีหน้าช้ำใจสุดแสน

ฉินจื้อหย่วนตะลึงลาน

เหอเซียงหนิงตั้งครรภ์ลูกของเขา?

เขาแต่งงานกับกัวเยว่หลินมาสามปีแล้วแต่กลับไม่มีลูกเสียที ความจริงเขาก็ร้อนใจเหมือนกัน ช่วงเวลาที่ผ่านมาก็เคยไปหาหมอ แต่หมอบอกว่าวาสนายังมาไม่ถึง

ผู้ใดจะคาดว่ากัวเยว่หลินไม่ตั้งครรภ์มาตลอด เหอเซียงหนิงกลับตั้งครรภ์ลูกของเขาไวขนาดนี้?

“ที่เจ้าพูดมาเป็นความจริง?” ฉินจื้อหย่วนอดถามไม่ได้

เหอเซียงหนิงพยักหน้าติดต่อกัน “ย่อมเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ข้าจะโกหกท่านได้อย่างไร? ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ท่านจะไม่สนใจพวกข้าแม่ลูกไม่ได้นะ!”

ในเวลาเดียวกัน ฉู่จวินถิงมองไปทางหมอหลวงในกลุ่มคนแล้วเอ่ยว่า “หมอหลวงสวี ท่านมาดูหน่อย”

เดิมหมอหลวงสวีถวายการรักษาให้องค์ชายทั้งสอง ยามนี้องค์ชายทั้งสองอาการคงที่แล้ว เขาเพิ่งออกมาก็เห็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้พอดี

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง”

ยามนั้น หลังจากบรรดาหมอหลวงออกมา องค์ชาย เกากุ้ยเฟยรวมถึงจงเฟยก็ออกมาจากกระโจมเช่นกัน เห็นว่าข้างนอกนั้นทุกคนล้อมวงเข้าหากัน ท่าทางคึกคักยิ่งนัก ไม่รู้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 495

    เหอเซียงหนิงไม่เชื่อหรอกว่าฉินจื้อหย่วนจะไม่สนใจ!คราวนี้ฉินจื้อหย่วนไม่ได้ปฏิเสธ เหอเซียงหนิงไม่สำคัญ แต่ลูกในท้องนาง จะไม่เอาไม่ได้ฉินซวงซวงเห็นฉินจื้อหย่วนหวั่นไหวแล้วก็รีบเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ ท่านอย่าทำอะไรเลอะเลือนเด็ดขาดนะ!”“ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงไปเกลือกกลั้วกับพวกขอทานมากขนาดนั้น ผู้ใดจะไปรู้ว่าใช่ลูกของท่านหรือไม่? เกรงว่าแม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้เลยกระมัง!”“เมื่อก่อนข้าเห็นเหอเซียงหนิงเป็นสหายถึงได้ช่วยปิดบังให้นางมาโดยตลอด ยามนี้แม้แต่กับพี่ใหญ่ข้านางยังวางอุบาย ข้าก็ไม่ช่วยปิดบังให้นางแล้ว!”“ความจริงก่อนหน้านี้นางมักมั่วสุมกับผู้ชายเป็นประจำ หาได้สะอาดผุดผ่องไม่ ยามนี้ไม่มีที่พึ่งพิงก็คิดจะให้พี่ใหญ่ข้าเป็นเจ้าโง่ มีเรื่องดีแบบนี้เสียที่ไหน!”สีหน้าฉินซวงซวงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แลดูบิดเบี้ยวหลายส่วน ทั้งยังแฝงไว้ซึ่งความย่ามใจประดุจคนถ่อยได้ทีเหอเซียงหนิงคิดจะทำลายนาง นางก็จะทำให้เหอเซียงหนิงตายโดยไร้ที่กลบฝัง!หลินจือเยว่มองดูสีหน้าที่ไม่คุ้นเคยของฉินซวงซวง สีหน้าของเขาซับซ้อนยากจะบรรยาย ซวงซวงในใจเขาในช่วงหลายปีนี้เป็นคนอ่อนโยนน่ารักมาตลอดแท้ๆไม่เพียงอ่อนโยน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 496

    กัวเยว่หลินเห็นสีหน้าฉินจื้อหย่วนก็รู้ความคิดของเขาแล้ว เป็นสามีภรรยากันมาสามปี มองปราดเดียวก็เห็นความร้อนตัวของเขาทะลุปรุโปร่ง เกรงว่าเด็กคนนี้คงเป็นลูกเขาไม่ผิดแล้วถ้าเป็นแค่ความผิดพลาด ไล่เหอเซียงหนิงไปแล้วขอโทษนางดีๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสกอบกู้คลี่คลายแต่ยามนี้ภรรยาเอกอย่างนางยังไม่มีลูก เหอเซียงหนิงกลับตั้งครรภ์แล้ว นี่นับเป็นอะไร?นางไม่ยอมเด็ดขาด!“ฉินจื้อหย่วน พวกเราหย่ากัน!”กัวเยว่หลินเหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จ้องมองฉินจื้อหย่วนด้วยแววตาเด็ดเดี่ยวตลอดเวลาที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าฉินจื้อหย่วนดีต่อนางเหลือเกิน ดังนั้นแม้ว่ามารดาบังเกิดเกล้าของเขาจะไม่อยู่แล้ว ในจวนลูกของแม่เลี้ยงได้รับความโปรดปรานมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยตัดพ้อสิ่งใดก่อนนี้บิดามารดาก็เคยเกลี้ยกล่อมนาง บอกว่าตระกูลฉินไม่คู่ควรกับนาง แต่นางคิดว่าขอเพียงฉินจื้อหย่วนดีกับนาง สามีภรรยามีน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้วไซร้ จะต้องมีชีวิตที่มีความสุขได้อย่างแน่นอนจนถึงตอนนี้นางจึงตระหนักว่าคำพูดของบิดามารดาเป็นเรื่องจริง ฉินจื้อหย่วนแค่เสแสร้งแสดงเอาเท่านั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก!ในหัวฉินจื้อหย่วนคิดเพียงว่าจะเก็บ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 497

    ฉินเซี่ยงเหิงโมโหแทบตายแล้ว เดิมก็ไม่อยากให้ฉินซวงซวงถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง เหอเซียงหนิงตายคนเดียวก็ตายไปพี่ใหญ่กลับเลือกผลักฉินซวงซวงออกไปเพื่อลูกในท้องเหอเซียงหนิงเนี่ยนะ?“ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้นเอง ผู้ใดใช้ให้นางไม่ยอมเลิกราเสียทีเล่า? เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ล้วนแต่เป็นปัญหาที่นางก่อขึ้นมาทั้งสิ้น!”“ถ้าไม่ได้รับบทเรียนเสียบ้าง วันหน้าเรื่องแบบนี้ก็คงจะเกิดไม่หยุดหย่อน ข้าเหนื่อยหน่ายเหลือทนแล้ว”ฉินจื้อหย่วนมีสีหน้าเย็นชา กล่าวถึงที่สุดแล้ว สาเหตุที่ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ล้วนแต่ต้องโทษฉินซวงซวงถ้าหย่ากัน เขาก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลกัวอีกแล้ว!ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินเซี่ยงเหิงเดิมก็ธรรมดา แม่เลี้ยงลำเอียงเข้าข้างพวกเขาทุกอย่าง ทำให้ท่านพ่อไม่ดีต่อเขาเหมือนในอดีต เรื่องดีทุกอย่างล้วนมอบให้พวกฉินเซี่ยงเหิงสองคนนั้นแทนที่จะรอให้ถูกฉินเซี่ยงเหิงกดเอาไว้หลังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลกัว มิสู้ฉวยโอกาสนี้สั่งสอนพวกเขาไปด้วยเสียเลย!“สวรรค์ คิดไม่ถึงว่าตระกูลฉินจะวุ่นวายปานนี้ ข้าว่าแล้วเชียวว่าฉินซวงซวงเป็นดาวหายนะ เริ่มจากทำให้ตระกูลหลินตกต่ำ ยามนี้ยั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 498

    ซ่งรั่วเจินวาจาคมกริบ คำถามรวบรัดตรงประเด็นทำให้คนตระกูลถังทั้งสองใบ้กินไปในชั่วพริบตาทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่เข้าใจได้อย่างไร?การวางแผนให้ร้ายวันนี้ทำให้คนมิอาจโต้แย้งได้เลย ถ้าพวกเขาใส่ร้ายได้สำเร็จก็จะไม่อาจแก้ไขได้อีกแล้ว เกรงว่าในใต้หล้านี้นอกจากซ่งรั่วเจินก็คงมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ยามนี้แผนการถูกเปิดโปง แค่อธิบายว่าถูกหลอกง่ายๆ ก็คิดจะปล่อยให้เรื่องผ่านเลยไป เช่นนี้ออกจะไม่ยุติธรรมสำหรับซ่งรั่วเจินเกินไปแล้ว!“ยามนี้เรื่องยังไม่ได้รับการตรวจสอบ ต่อให้สิ่งที่ถังเสวี่ยหนิงพูดมาเป็นความจริง นางก็ต้องมีความคิดร้ายต่อข้าอย่างแน่นอน มิฉะนั้นนางสามารถไปแจ้งความได้ ไยต้องเลือกโอกาสในวันนี้ด้วย?”“ยามนี้ข้าไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ต้องการตรวจสอบเรื่องราวให้กระจ่าง พวกท่านก็คิดจะยัดข้อหาใหญ่โตเช่นนี้ให้ข้า ข้ารับไม่ไหวหรอกนะ!”แววตาซ่งรั่วเจินเย็นชาดุจน้ำแข็ง สำหรับคนที่คิดร้ายต่อนางแล้ว นางไม่มีทางปล่อยไปง่ายๆในเมื่อถังเสวี่ยหนิงไม่ยอมเลิกรา อย่างนั้นก็ใช้โอกาสนี้ให้นางได้รับบทเรียนเสียบ้าง วันหน้าถ้ายังคิดจะมาหาเรื่องนางอีกจะได้ใคร่ครวญใ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 499

    หลินจือเยว่เห็นว่าบริเวณนั้นมีคนมากมายขนาดนี้แต่กลับไม่มีใครเชื่อเขาสักคน ความรู้สึกที่มีร้อยปากยากอธิบายนี้ทำให้เขารู้สึกอัดอั้นจนถึงที่สุด“ข้าไม่ได้ทำจริงๆ พวกเจ้าเชื่อข้าเถอะ! ซวงซวง เจ้าบอกพวกเขาสิว่าข้ารู้เรื่องนี้หรือไม่?”ฉินซวงซวงเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยว่า “จือเยว่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พวกท่านอย่าใส่ร้ายเขา!”ทว่าทุกคนฟังแล้วนอกจากจะไม่เชื่อถือ ยังรู้สึกว่าหลินจือเยว่ช่างมีความสามารถจริงๆ ถึงกับทำให้ฉินซวงซวงยอมแบกรับทุกอย่างเพื่อเขาด้วยความยินยอมพร้อมใจ“จุ๊ๆ เกิดเรื่องขึ้นมาก็ให้ฉินซวงซวงรับไปคนเดียว ตอนแรกเมืองหลวงยังชมว่าหลินโหวดีอยู่เลย ข้าว่าเป็นพวกขี้ขลาดมากกว่า!”“แล้วไม่ใช่หรือไร? ไม่รู้ว่าคนแบบเขามีดีตรงไหน น่าขันนัก!”หลินจือเยว่โมโหจนแทบจะพ่นเลือดออกมาอยู่รอมร่อ เขาไม่รู้เรื่องจริงๆ นี่นา!ซ่งรั่วเจินเห็นหลินจือเยว่ถูกคุมตัวไปแล้ว อารมณ์ก็ดีขึ้นไม่น้อย เรื่องครึกครื้นของตระกูลฉินยิ่งดูก็ยิ่งมาก แต่เกรงว่าพอแม่ทัพฉินทราบเรื่องคงถึงกับหน้ามืดเลยทีเดียวนางหันไปมองฉู่จวินถิง แต่กลับพบว่าชายหนุ่มถอนสายตากลับไปเพื่อหลบตานางโดยไม่รู้ตัวก็อดจะประหลาดใจไม่ได้“อะแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 500

    เมื่อพิธีล่าสัตว์สิ้นสุดลง เรื่องวุ่นวายถึงคราวยุติ ซ่งรั่วเจินก็ติดตามพี่ชายของตนเองเตรียมตัวจากไป“ข้าต้องไปศาลาว่าการซุ่นเทียนก่อนสักรอบ หลังจากนั้นค่อยไปหาเจ้า” ฉู่จวินถิงกล่าวซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ เรื่องนี้วุ่นวายใหญ่โตเพียงนี้ เกรงว่าคนทั้งเมืองหลวงคงกำลังรอดูผลลัพธ์อยู่ ฉู่จวินถิงจำเป็นต้องปิดคดีโดยเร็วที่สุดอวิ๋นเนี่ยนชูกับเมิ่งชิ่นได้ยินบทสนทนาที่คุ้นเคยปานนี้ระหว่างทั้งคู่ก็หันมาสบตากันโดยสัญชาตญาณ ต่างลอบอมยิ้มอย่างอดไม่อยู่“หลังจากนั้นค่อยไปหาเจ้า?” ฉู่จวินถิงเพิ่งจากไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็ใช้ไหล่กระแซะซ่งรั่วเจิน กลั้นยิ้มเอ่ยว่า “รั่วเจิน เจ้ากับท่านอ๋องสนิทสนมกันถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่ใช่ว่าคบกันแล้วไม่บอกพวกข้าหรอกนะ?”ความอึดอัดวาบผ่านใบหน้าซ่งรั่วเจิน นางอธิบายว่า “ท่านอ๋องมาหาข้าเพื่อแจ้งบทสรุปของเรื่องนี้กับข้าเท่านั้น”“รั่วเจิน เจ้าหน้าแดงแล้ว! บอกความจริงมานะ ผู้ชายแบบฉู่อ๋องยังมีสิ่งใดให้ติอีกหรือ?”“ถ้าข้ามีวาสนาดีเช่นนี้จะต้องตอบรับโดยไม่ลังเลแน่นอน เจ้าลองคิดดูสิถ้าเจ้าได้เป็นชายาของฉู่อ๋อง พวกฉินซวงซวงยังจะกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกงั้นรึ? หลบยังแทบไม่ทันด้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 501

    “ข้ากลับมองว่าฉู่อ๋องหาได้ปิดบังแม้แต่น้อย เขาคงรู้เป็นอย่างดีว่าฮองเฮามิได้พอใจกระมัง?” เมิ่งชิ่นเอ่ยถามซ่งรั่วเจินเปล่งเสียงตอบรับ ที่จริงนางมิได้หวั่นเกรงต่อฮองเฮาแม้แต่น้อย เสียก็แต่ปัญหาภายในราชวงศ์นั้นสลับซับซ้อนยิ่ง เพียงเหตุลอบปลงพระชนม์ฉู่เทียนเช่อในวันนี้ก็เห็นได้ชัดเจนว่าขอเพียงก้าวเท้าเข้าไปก็ราวกับติดอยู่ในหล่มโคลนตมแล้ว“รั่วเจิน ข้าว่าเจ้ามิจำเป็นต้องกังวลนักหรอก หากฮองเฮาควบคุมบงการฉู่อ๋องได้จริงแล้วละก็ ฉู่อ๋องก็คงมิครองโสดมาจวบจนบัดนี้ได้หรอก”“ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน ฮองเฮาก็คิดจะจัดแจงหมั้นหมายให้ฉู่อ๋องอยู่แล้ว แต่ดูเอาเถิดว่าถึงตอนนี้แล้วหาคนมาปลงใจได้เสียที่ไหน? ชัดเจนว่าหากมีฉู่อ๋องอยู่ เจ้าก็มิจำเป็นต้องหวั่นเกรงใดๆ ต่อฮองเฮา”“อีกอย่างท่านแม่ข้าเคยว่าไว้ ไม่ว่าแม่นางใดจะแต่งงานกับชายใดก็ล้วนมิอาจเลี่ยงต้องประสบทุกข์ยาก ชีวิตคนเรานั้นยากจะสมบูรณ์แบบพรั่งพร้อม”“บ้างก็สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียวมักมีแม่สามีร้ายกาจ บ้างก็แม่สามีดีเหลือหลายสามีภรรยากลับมิสมานฉันท์ ข้ากลับมองว่าอย่างน้อยฉู่อ๋องฝ่าบาทก็ทรงปกป้องเจ้าได้มิใช่หรือ?”“เมิ่งชิ่น นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 502

    ไม่นานนักซ่งอี้อันก็กลับมาซ่งรั่วเจินเห็นเขากลับมาแล้วสายตาเอาแต่จับจ้องอยู่ที่นางจึงเอ่ยถาม “เกี่ยวข้องกับข้าหรือไม่?”“ถูกเผ็ง” ซ่งอี้อันพยักหน้า “บุตรชายคนโตของสกุลหร่วนถูกพิษเข้า บัดนี้อาการถึงมือหมอหลวงแล้ว ทว่ายังคงไร้ซึ่งหนทางเช่นเดิม นางจึงนึกถึงหมอเทวดาที่ช่วยรักษาข้าและพี่ใหญ่ขึ้นมาได้ เลยอยากให้ข้าช่วยแนะนำให้”จบประโยค พี่ชายน้องชายทั้งสี่ก็ต่างมองไปยังซ่งรั่วเจิน ฝีมือการแพทย์ของน้องหญิงบ้านตนย่อมเป็นที่ประจักษ์ในหมู่พวกเขาอยู่แล้วกระทั่งโรคที่ท่านหมอมากมายในเมืองหลวงยังไม่อาจรักษาให้หายได้ ขอเพียงน้องหญิงออกโรงแค่เพียงยาก็รักษาหายได้แล้ว ไม่เพียงแค่ซ่งเยี่ยนโจวและซ่งอี้อันเท่านั้น กระทั่งร่างกายของชิงอินก็เป็นนางเช่นกันที่ช่วยปรับสมดุลให้ดีขึ้นได้ จนบัดนี้เรียกได้ว่าแตกต่างกับเมื่อก่อนลิบลับ!“หร่วนอวี้เฉิงที่ว่าคือคุณชายใหญ่สกุลหร่วนหรือ?”ฉับพลันซ่งรั่วเจินก็หวนนึกถึงสิ่งที่ฉู่จวินถิงเคยบอกนางเอาไว้ว่าหร่วนอวี้เฉิงพักอยู่ที่จวนฉู่อ๋อง หมอหลวงทั้งหลายต่างได้เคยตรวจดูอาการกันแล้ว ทว่าก็ทำได้เพียงรักษาประคองชีวิตไว้ได้เท่านั้น ไม่อาจถอนพิษออกไปได้จนสิ้นดังนั้นจ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 738

    “ข้าว่าเรื่องนี้ก็เลิกแล้วต่อกันเพียงเท่านี้จะดีกว่า ถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปเชิญเช่ออ๋องมาแล้วละ”หลังนางกลับบ้านเดิม เช่ออ๋องก็มารับนางเป็นการเฉพาะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดีขึ้นอย่างหาได้ยากถ้าเช่ออ๋องรู้ว่าตนเองมาหาเรื่องถึงตระกูลซ่งจะต้องพิโรธมากเป็นแน่!“นั่นจะได้อย่างไรกัน?” ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “พี่สะใภ้ถึงขั้นตั้งใจมาคาดคั้นถึงตระกูลซ่ง เห็นได้ชัดว่าเข้าใจผิดมากเพียงใด ถ้าข้าไม่มาเห็นเข้าพอดี เกรงว่าป่านนี้ซ่งรั่วเจินคงรักษาชีวิตไว้ไม่ได้แล้ว”“นอกจากนี้ อีกสองวันข้าก็จะลงใต้แล้ว ถ้าไม่อธิบายเรื่องเข้าใจผิดกันให้ชัดเจน พอข้ากลับมาก็ไม่ได้เห็นซ่งรั่วเจินแล้วน่ะสิ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าติดต่อกัน กล่าวด้วยสีหน้าเจ็บช้ำใจว่า “ท่านอ๋องพูดถูกเพคะ หม่อมฉันหวาดกลัวยิ่งนัก!”ซ่งจืออวี้เห็นน้องสาวของตนเองแสดงละครร่วมกับฉู่อ๋อง ใบหน้าพระชายาเช่ออ๋องเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีดำ เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงแล้วเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว จนเขาอดตะลึงไม่ได้ความเร็วในการเปลี่ยนสีหน้านี้ช่างรวดเร็วมากจริงๆ!หลังจากอวิ๋นหยางไปเชิญเช่ออ๋อง พระชายาเช่ออ๋องก็กระวนกระวายอย่างเห็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 737

    น้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันทำให้คนทั้งสองภายในห้องต่างนิ่งอึ้งไป ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงที่เดินเข้ามาในห้องอย่างแช่มช้า ดวงตางามก็ฉายแววตกใจเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไร?คงไม่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของตนเองหรอกนะ?ซ่งจืออวี้อ่านสายตาน้องสาวตนเองออกจึงเหยียดริมฝีปากอย่างอ่อนใจ หัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ของซ่งรั่วเจินจึงหยุดเต้นไปในที่สุดได้ยินแล้วจริงๆ ด้วย!ชั่วขณะที่พระชายาเช่ออ๋องเห็นว่าฉู่อ๋องมาแล้ว ใบหน้าก็พลันถอดสี คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญถึงเพียงนี้!ความลนลานวาบผ่านดวงตานาง แต่ก็กลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็ว นางเอ่ยว่า “ที่แท้ก็ฉู่อ๋องมานี่เอง”“ข้าเพิ่งมาถึงก็ได้ยินว่าพี่สะใภ้กำลังข่มขู่คนอยู่ ไม่ทราบว่าเกิดเรื่องใดขึ้นหรือถึงได้มาขู่เอาชีวิตคนในจวนสกุลซ่งเช่นนี้?”ใบหน้าหล่อเหลาของฉู่จวินถิงมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใดๆ เลยสักนิด น้ำเสียงผ่อนคลายเรียบเรื่อยราวกับเป็นการถามไถ่ธรรมดาทั่วไป ทว่าความกดดันที่แผ่ซ่านออกมาทั่วร่างรวมถึงสายตาเย็นเฉียบทำให้คนเข้าใจว่า เขามีโทสะแล้ว“ซ่งรั่วเจินไม่เคารพข้า...”พระชายาเช่ออ๋องยังพูดไม่จบ ฉู่จวินถิงก็กล่าวขึ้นว่า “อ้อ? พี่สะใภ้มาถึงตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 736

    “ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้ดีชั่วเช่นนี้ วันนี้ข้าให้โอกาสเจ้ารักษาก็คือให้เกียรติเจ้า!”“ถ้าฉู่อ๋องรู้ว่าเจ้าไปยั่วยวนเช่ออ๋องลับหลังเขา เจ้าคิดว่าฉู่อ๋องยังจะชอบเจ้าอยู่งั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมา นางยั่วยวนเช่ออ๋อง?“พระชายาเช่ออ๋อง ท่านคิดว่าหม่อมฉันสมองไม่ดีหรือสายตามีปัญหาหรือเพคะ?”“ฉู่อ๋องยังไม่แต่งงาน กล้าหาญชาญศึกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามของเมืองหลวง ไยหม่อมฉันจะต้องปล่อยมือจากฉู่อ๋องไปยั่วยวนเช่ออ๋องด้วยเพคะ?”เมื่อซ่งจืออวี้มาหาน้องหญิงห้าเป็นเพื่อนฉู่อ๋อง ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ดังออกมาจากข้างใน เขาเบิกตากว้างอย่างอดไม่อยู่เหตุใดสตรีวิปลาสผู้นี้จึงมาใส่ร้ายน้องหญิงห้าส่งเดชเช่นนี้!“เช่ออ๋องไม่ดีตรงไหน? ฉู่อ๋องเย็นชาเสียขนาดนั้น เหมือนก้อนหินไม่มีผิด ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียชีวิตเอาได้ ไหนเลยจะอ่อนโยนเหมือนเช่ออ๋อง?”พระชายาเช่ออ๋องแย้งกลับมาอีกประโยค “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ามันไม่รู้จักพอ!”“ฉู่อ๋องหน้าตาหล่อเหลาปานนั้น ถึงเขาจะตีหน้าเย็นชาทั้งวันแต่ก็เป็นชายรูปงามที่หาได้ยากนักในโลกนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 735

    ซ่งรั่วเจินเพิ่งมาถึงโถงหน้าก็เห็นพระชายาเช่ออ๋องที่แต่งกายอย่างหรูหราอาภรณ์สีชมพูตัดเย็บจากผ้าแพรชั้นดี คลุมทับด้วยเสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีขาว รูปโฉมนางเหมือนสาวน้อยที่งดงามน่ารัก ผิวพรรณขาวบริสุทธิ์ ดวงตาชั้นเดียวเชิดขึ้นเล็กน้อยทอประกายคมกริบแม่นมสี่คนกับสาวใช้สี่คนยืนอยู่ข้างกาย กล่าวได้ว่าวางมาดใหญ่โตยิ่งนัก“คารวะพระชายาเช่ออ๋องเพคะ”ซ่งรั่วเจินแสดงคารวะ นางรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามจับจ้องตนเองตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว แต่การจ้องมองเช่นนี้...แสดงท่าทีของผู้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ในใจก็เข้าใจขึ้นมาหลายส่วนเห็นที...จะไม่ได้มาดีสินะ!“เจ้าก็คือซ่งรั่วเจิน?”พระชายาเช่ออ๋องมองประเมินซ่งรั่วเจิน ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าแม่นางผู้นี้เป็นหญิงงามผู้หนึ่ง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถอาศัยสถานะหญิงที่เคยถอนหมั้นไปเข้าตาฉู่อ๋องได้แล้วสายตาฉู่อ๋องสูงส่งมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ไม่เคยต้องตาแม่นางคนใดมาก่อน แต่กลับถูกนางล่อลวงจนลุ่มหลงหัวปักหัวปำ ชั่วขณะนี้เมื่อได้เห็นแล้วก็จำต้องยอมรับว่างดงามจริงดังกล่าว“เพคะ” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “ไม่ทราบว่าพระชายาเช่ออ๋องมาหาหม่อมฉันด้วยธุระอันใดหรือเพคะ?”“ข้าไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status