แชร์

บทที่ 442

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ทันใดนั้น ซ่งจืออวี้ก็ลืมตัว ไม่สนแม้สักนิดว่าตนยังยืนอยู่นอกร้าน ปากก็กินไปพร่ำกล่าวชมไป

“น้องหญิงห้า ไก่ทอดนี่เป็นไก่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ข้าเคยกินมาเลย! ไยเจ้าจึงได้เฉลียวฉลาดเยี่ยงนี้ อาหารที่ทำออกมาถึงได้รสเลิศถึงเพียงนี้ได้!”

ซ่งจิ่งเซินเหลือบมองพี่สามที่กินอย่างตะกละตะกลามด้วยสายตารังเกียจ “พี่สาม ท่านกินเสียขนาดนี้ไม่กลัวแขกตกใจเอาหรืออย่างไร เข้าไปกินข้างในเถิด”

ซ่งจืออวี้เองก็รู้ตัวว่าตนมีนิสัยกินมูมมาม พอโดนซ่งจิ่งเซินพูดเช่นนี้อยากจะเถียงกลับ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าของน้องหญิงห้า เขาจึงเกิดรู้สึกกระดากใจขึ้นมาบ้าง

“ก็ได้ ข้าจะเข้าไปกินข้างใน”

แต่แล้วซ่งรั่วเจินกลับยกมือห้าม “ไม่ต้องหรอก พี่สามกินเอร็ดอร่อยถึงเพียงนี้ ผู้อื่นเห็นก็จะได้รู้ว่าอร่อยแน่ๆ พี่สามถือเป็นผู้ช่วยประชาสัมพันธ์เลยทีเดียวล่ะ”

ฟังคำแล้วซ่งจืออวี้ก็ชะงักไป ก่อนจะเพิ่งสังเกตเห็นว่ากลุ่มคนโดยรอบกำลังจ้องมองมายังเขา ในตอนนั้นก็มีคนเดินเข้ามา

“ไก่ทอดนี่ไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน แต่ดูเขากินเสียเอร็ดอร่อยเชียว รสชาติเป็นต้องดีมากแน่ ข้าขอซื้อหนึ่งชุด!”

“ข้าก็ขอซื้อไปลองชิมด้วยอีกชุด!”

เมื่อผู้คนได้ซื้อไก่ทอ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 443

    ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ เรื่องราวจะเกิดพลิกผันได้ถึงเพียงนี้?“นี่เป็นเรื่องของข้า เจ้าจะถามไปไย? หากไม่มีเหตุธุระใดเจ้าก็กลับไปเสียเถอะ” ถังเสวี่ยหนิงมีน้ำเสียงเย็นชา ตั้งแต่เกิดเรื่องขายหน้าในจวนเซียงอ๋องเมื่อครานั้น สองวันมานี้นางก็ไม่ได้ออกจากจวนไปพบเจอผู้ใดอีกเลย ด้วยกลัวจะถูกหัวเราะเยาะตอนนี้ที่เถียนเจียวเจียวถ่อมาหาถึงที่เพื่อถามก็เหมือนจะมาซ้ำเติมกันเสียมากกว่าเถียนเจียวเจียวมีความคิดเยาะเย้ยอยู่บ้างในจิตใจ ก่อนหน้านี้ได้รู้ว่าถังเสวี่ยหนิงมีวาสนาที่ดีเช่นนั้นจะบอกว่านางไม่อิจฉาก็จะเป็นการโกหก ทว่าบัดนี้เมื่อหมั้นหมายสมรสถูกยกเลิกไปแล้ว ในฐานะเพื่อนนางก็รู้สึกเห็นใจอยู่เช่นกัน “ข้าย่อมต้องเป็นห่วงเจ้าอยู่แล้วสิ เรื่องที่เกิดในจวนเซียงอ๋องข้าก็ได้ยินมาหมดแล้ว เรื่องถอนหมั้นนี้จะอย่างไรก็คงไม่แคล้วเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจินเป็นแน่”“ก่อนนี้พวกเราล้วนประเมินนางต่ำจนเกินไป เดิมทีคิดว่าเมื่อนางถูกถอนหมั้นหมายตอนอายุไม่น้อยแล้วจะต้องไร้หนทางสู้รบปรบมือใดได้เป็นแน่ นึกไม่ถึงว่านางจะมากเล่ห์ได้ถึงเพียงนี้!”เถียนเจียวเจียวพูดด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ “ข้าได้ยินมาว่าไม่เพียงฉู่อ๋อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 444

    สกุลฉินกัวเยว่หลินมองหญิงสาวผู้หนึ่งซึ่งปรากฏตัวอยู่นอกเรือนด้วยเรือนคิ้วขมวดมุ่น กลับมาได้แค่เพียงไม่กี่วันแท้ๆ นางก็เผอิญเจอเหอเซียงหนิงไม่รู้ตั้งกี่ครั้งเข้าไปแล้วแต่ไหนแต่ไรนางก็ดูแคลนสตรีเช่นนี้ เรื่องที่ฉินซวงซวงคบชู้สู่ชายก็มากพอให้คนรังเกียจอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหอเซียงหนิงที่ไปเกลือกกลั้วกับพวกขอทาน แค่เห็นบ่อยครั้งเข้าก็รู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว“แม่นางเหอ เห็นแก่ที่เจ้ามีฐานะเป็นสหายของซวงซวง ข้ายอมให้เจ้าอาศัยอยู่ในจวนก็นับว่ายอมให้มากแล้ว แต่เหตุใดเจ้าจึงต้องมาวนเวียนใกล้เรือนของข้าบ่อยนักเล่า?”เรือนคิ้วกัวเยว่หลินขมวดมุ่น ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด เพียงนางได้เจอะเจอหน้าเหอเซียงหนิงก็จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทุกที โดยเฉพาะเมื่อสตรีผู้นี้คล้ายจะกำลังจงใจให้ท่า มิใช่ว่าอยากจะยั่วยวนท่านพี่ของนางหรอกหรือ?เหอเซียงหนิงสะดุ้งโหยง รีบร้อนเอ่ยอธิบาย “ข้า...ข้าก็เพียงผ่านมาแถวนี้โดยบังเอิญเท่านั้น”ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้นางและฉินจื้อหย่วนก็เข้ากันได้ดี นางคิดว่าหากใช้โอกาสนี้ตั้งครรภ์เสียหรือให้เวลานางมากอีกหน่อย ก็คงสามารถทำให้ฉินจื้อหย่วนลุ่มหลงเชื่อฟังจนยอมรับนางเป็นส่วนหนึ่งขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 445

    เหอเซียงหนิงเองก็คับแค้นใจ แต่บัดนี้ในสถานการณ์ที่นางไร้ซึ่งที่พึ่งใดๆ ก็ทำได้เพียงแต่กัดฟันทน นางกล่าว “ซวงซวง เมื่อสองวันก่อนข้าพบเถียนเจียวเจียว ข้าได้เล่าให้นางฟังตามที่เจ้าสั่งแล้ว ว่าทุกสิ่งที่ข้าต้องเจอล้วนเป็นเพราะฝีมือของซ่งรั่วเจิน”“นางดูจะเห็นอกเห็นใจข้าไม่น้อย ยังบอกอีกว่าจะช่วยบอกถังเสวี่ยหนิงให้ร่วมด้วยช่วยกันคิดหาวิถีทางเอาผิดซ่งรั่วเจินให้จงได้!”ฟังคำแล้ว ใบหน้าของฉินซวงซวงก็ผุดพรายรอยยิ้มออกมา “เป็นเช่นที่ข้าคิดไม่มีผิด หากมีถังเสวี่ยหนิงออกหน้าจัดการ พวกเราก็มิจำเป็นต้องต่อกรกับซ่งรั่วเจินด้วยตนเองแล้ว!”“แต่เรื่องวันนั้นเดิมก็มิมีหลักฐานอื่นใด ต่อให้พวกเรายืนยันว่าเป็นซ่งรั่วเจินก็ทำอะไรนางไม่ได้หรอก!”เหอเซียงหนิงอดกังวลขึ้นมาไม่ได้ หากนางมีวิธีแล้วล่ะก็ นางก็อยากจะทำให้ซ่งรั่วเจินได้ลิ้มรสความทรมานอย่างแสนสาหัสอยู่เช่นกัน!เสียก็แต่ ตั้งแต่วันเกิดเหตุนางก็ถามไถ่เอากับผู้คนบริเวณตรอกหย่งอันแล้ว กระทั่งเหล่าขอทานเรียงรายนางก็ถามมาแล้วทั้งย่าน ทว่าท้ายที่สุดก็ยังไม่ได้เบาะแสใดกลับไปฉินซวงซวงหัวเราะออกมาเบาๆ “ก็ยิ่งง่ายเลยมิใช่หรือ? ไร้หลักฐานเราก็สร้างขึ้นมาอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 446

    ซ่งรั่วเจินได้รู้ว่าอวิ๋นเนี่ยนชูติดตามจางเหวินและอวิ๋นเฉิงเจ๋อออกจากจวนอวิ๋นแล้ว จึงตั้งใจไปเยี่ยมเยียนสักหนึ่งรอบ“รั่วเจิน เหตุใดเจ้านำของมามากมายเพียงนี้เล่า?”อวิ๋นเนี่ยนชูเห็นซ่งรั่วเจินสั่งให้คนนำของเข้ามา สายตาเปี่ยมความตกตะลึงประหลาดใจซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “พวกเจ้าย้ายออกมาอย่างกะทันหัน จะต้องยังไม่ทันซื้อของมากมายเป็นแน่ อย่างไรเสียบ้านข้าก็ทำการค้า นี่ถึงหยิบของที่น่าจะต้องใช้งานจากภายในร้านมาให้พวกเจ้าเล็กน้อย”“แต่มากมายถึงเพียงนี้ จ่ายไปไม่น้อยกระมัง นี่รับไว้ไม่ได้หรอก” อวิ๋นเนี่ยนชูรีบพูด“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ผ้าห่ม ชุดชาจิปาถะ ยังมีของกินอีกบางส่วน ไม่ใช่ของราคาแพงอะไร ใช้จ่ายไม่มาก”ซ่งรั่วเจินโบกมือ “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าท่านป้าถึงขั้นคิดหย่าร้าง ชนิดที่ว่ายังพาพวกเจ้าออกมาแล้ว”“คาดว่าเรือนหลังนี้มิใช่เพิ่งจัดหาตกแต่ง เกรงว่าตระเตรียมไว้พรักพร้อมตั้งนานแล้วกระมัง?”อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ท่านแม่จะตัดสินใจเด็ดขาด แม้ว่าเรือนหลังนี้ไม่ใหญ่เท่าจวนอวิ๋น แต่ข้ากลับคิดว่าที่นี่ล้วนดีไปทุกหนแห่ง”“ต่อให้เป็นต้นไม้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 447

    “สมน้ำหน้า!” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้ารังเกียจ “เดิมทีอวิ๋นซีหว่านและแม่ของนางไม่ใช่คนดีอะไร แต่พ่อข้ากลับเอนเอียงเข้าข้างพวกนาง”“หลายปีมานี้ข้าทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว กระนั้นคิดว่าอย่างไรเสียก็เป็นพ่อของข้า ข้าจึงยอมอดกลั้น”“บัดนี้ท่านแม่ตัดสินใจแล้ว ข้าเองก็ไม่อยากกลับไปอีก หาไม่แล้วยังต้องถูกอวิ๋นซีหว่านและอนุอวิ๋นเอาเปรียบ ข้าเห็นสินเดิมของท่านแม่ข้าถูกเติมเข้าไปไม่น้อยแล้ว”“เมื่อหลายวันก่อน ข้าเห็นซีหว่านปักปิ่นปักผมก็รู้สึกคุ้นตามาก มองละเอียดดีแล้วถึงพบว่าเป็นของท่านแม่ข้า น่ากลัวว่าท่านพ่อค้านำไปมอบให้อนุอวิ๋น น่าขยะแขยงจริงๆ!”“บัดนี้ข้าคิดว่าชื่อเสียงท่านพ่อข้าเสื่อมเสียไปแล้วก็ดีเช่นกัน ถือสิทธิ์อะไรท่านแม่ต้องหย่าร้าง ทำให้พวกอนุอวิ๋นได้มีชีวิตที่ดี?”ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ “พวกเขาอยากมีชีวิตที่ดี น่ากลัวว่าไม่ง่ายถึงเพียงนั้น”“ใช่หรือไม่ว่าเจ้าทำนายอะไรได้?” อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้าแปลกใจ“ความลับสวรรค์ไม่อาจเปิดเผย เจ้ารออย่างสบายใจเถอะ ชีวิตในภายภาคหน้าของพวกเจ้าจะต้องดีกว่าจวนอวิ๋นแน่”ซ่งรั่วเจินกะพริบตา เพียงแค่ความสามารถของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ ก็ไม่มีวันปล่อยคนที่รังแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 448

    พิธีล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ยามซ่งรั่วเจินติดตามพี่ชายของตนไปถึงพิธีล่าสัตว์ ถอนหายใจให้กับแผ่นดินกว้างใหญ่อุดมสมบูรณ์ในยุคสมัยโบราณอย่างอดไม่ได้ พื้นที่ของพิธีล่าสัตว์ใหญ่มากจนน่าแปลกใจขณะเพิ่งเข้าใกล้ ก็ได้ยินเสียงดังอึกทึกครึกครื้นเป็นระลอกๆ คึกคักเป็นอย่างมากเทียบกับงานเลี้ยงในเวลาปกติ พิธีล่าสัตว์ในวันนี้เป็นวันที่คุณหนูคุณชายรวมตัวกันครบที่สุดครั้งหนึ่ง ไม่มีใครยอมพลาดโอกาสอันดีเช่นนี้ ดังนั้นที่สามารถมาได้ก็มาแทบทั้งหมด“มิน่าเล่าวันนี้องค์ชายสองถึงยอมเสี่ยงอันตรายในพิธีล่าสัตว์ ขอบเขตกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ต้องการฉวยโอกาสลงมือกลับไม่ยาก”สีหน้าซ่งรั่วเจินเข้มขึ้น สายตามองสำรวจทั่วทั้งพิธีล่าสัตว์อย่างไม่รู้ตัว ก่อนหน้านี้ยามอ่านนิยายอธิบายเพียงว่าฉินซวงซวงได้รับโอกาสที่นี่ รู้เพียงว่าอยู่ทางฝั่งตะวันออก ส่วนตำแหน่งนั้นกลับไม่แน่ชัดทว่า สิ่งนี้สำหรับนางแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ปัญหา“เสวี่ยหนิงเจ้าดู ซ่งรั่วเจินมาแล้ว!” เถียนเจียวเจียวเอ่ยเตือนถ้อยคำนี้พูดออกมา สายตาคนไม่น้อยทอดมองรถม้าของสกุลซ่ง หลังได้เห็นคุณชายรูปโฉมหล่อเหลาทั้งสี่ท่านของสกุลซ่งทยอยลงมาแล้ว ดวงต

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 449

    เถียนเจียวเจียวกำหมัดแน่น สายตาไม่อาจหักใจตกลงบนตัวซ่งอี้อัน ไม่ได้พบหน้าเพียงช่วงเวลาหนึ่ง เขาโดดเด่นเหนือผู้อื่น ยามยืนอยู่ต่อหน้าทุกคนก็ไม่สามารถเมินข้ามได้เดิมทีนางยังอยากผูกสัมพันธ์อันดีกับซ่งรั่วเจิน จะได้เป็นพี่สะใภ้รองของนาง บัดนี้กลับดีนัก หมดโอกาสไปแล้ว!“ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นทั้งข้อง!” ถังเสวี่ยหนิงสบถเสียงเย็น “รอพี่ชายนางรู้ว่านางมีจิตใจโหดเหี้ยมดุจอสรพิษมากเพียงใด ก็ไม่ปกป้องนางถึงเพียงนี้แล้ว!”“หลังผ่านวันนี้ไป ชื่อเสียงของซ่งรั่วเจินก็จะเสื่อมเสียไปจนหมด ทุกคนจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนาง!”ใบหน้าเถียนเจียวเจียวเองก็เผยรอยยิ้ม “เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าคาดหวังเหลือเกิน!”ซ่งรั่วเจินเดินตามพี่ชายสี่คนไปหาที่นั่ง มีคนเดินทางมายังพิธีล่าสัตว์อย่างไม่ขาดสาย ส่วนองค์หญิงหกที่อยู่ไกลๆ ก็เดินออกจากกระโจมโบกมือทักทายนางด้วยรอยยิ้มนางเองก็โบกมือตอบ ฉู่มู่เหยาเดินออกมาแล้ว“แม่นางซ่ง วันนี้เจ้างดงามเหลือเกิน!”ดวงตาฉู่มู่เหยาทอประกายระยับ เมื่อครู่ยามซ่งรั่วเจินลงมานางก็มองเห็นแล้ว ช่างผิวพรรณขาวใสเนียนละเอียด เสื้อผ้าสีแดงงดงามพลิ้วไหว ชวนให้ผู้คนไม่อาจละสายตาได้“องค์หญ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 450

    คนอื่นไม่รู้ ฉู่มู่เหยากลับรู้อุปนิสัยของฉู่เทียนเช่อดีแม้ว่าแต่งงานมีพระชายาแล้ว แต่มีอนุภรรยาหน้าตางดงามภายในจวนไม่น้อย เวลาปกติก็มีคนส่งหญิงงามให้เขาเป็นพิเศษนางอยู่ภายในวัง เพียงแค่เรื่องความเจ้าชู้ของเสด็จพี่รองก็ได้ยินมาไม่น้อย รู้สึกเพียงว่าแม่นางตระกูลใดตกอยู่ในเงื้อมมือของเสด็จพี่รองล้วนอับโชคทั้งสิ้น ตอนนี้เสด็จพี่สามยังไม่มา นางจะต้องปกป้องว่าที่พี่สะใภ้ให้ได้“นางคือสหายที่ดีของข้าซ่งรั่วเจิน” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างไม่ใส่ใจหนึ่งประโยค ชี้ไปทางด้านหน้าพลางเอ่ย “เสด็จพี่รอง ท่านดูเสด็จพี่ใหญ่กำลังหาท่านอยู่นะ ท่านรีบไปเร็วเข้าเถอะ!”ยามฉู่เทียนเช่อได้ยินชื่อซ่งรั่วเจิน ดวงตาเผยแววประหลาดใจระยะนี้เขาได้ยินว่าฉู่จวินถิงค่อนข้างใกล้ชิดกับแม่นางท่านหนึ่ง เมืองหลวงเองก็เคยมีข่าวลืออยู่บ้าง แม่นางคนนั้นชื่อว่าซ่งรั่วเจินเดิมทีเขายังคิดว่าน่าขัน น้องชายไม่เข้าใกล้สตรี รักษาเนื้อรักษาตัวอย่างดีคนนี้ของตนเปิดใจในที่สุด สรุปคือชมชอบสตรีถูกถอนหมั้นคนหนึ่ง ช่างเป็นเรื่องน่าขันมากนักคิดไม่ถึง...ซ่งรั่วเจินถึงขั้นเป็นสตรีงามอันดับหนึ่งเช่นนี้?มิน่าเล่าแม้แต่คนที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 981  

    ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่นั้น นางกำนัลในตำหนักจงเฟยก็พลันเข้ามา“ถวายพระพรฮองเฮาเพคะ”    นางกำนัลก้มกายคำนับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ แต่ในมือกลับถือเซียนบุปผาเอาไว้หนึ่งองค์    “แม่นางของบ่าว ให้บ่าวนำเซียนบุปผามาให้ฮองเฮา ขอเพียงทรงบูชาด้วยใจที่ตั้งมั่น ก็จะสามารถเปล่งปลั่งผุดผ่อง ทำให้เยาว์วัยตราบนานเท่านาน”    เมื่อวาจาถูกเปล่งออกมาเช่นนั้น ฮองเฮาและลู่หมิ่นฮุ่ย ต่างพินิจพิจารณาเซียนบุปผาที่อยู่ตรงหน้า ต้องบอกเลยว่ารูปปั้นนี้ถูกทำขึ้นได้สมจริงยิ่งนัก เซียนบุปผานั้นก็งามวิจิตรด้วยรูปลักษณ์อันเย้ายวนตา    “นี่มันเซียนบุปผาอะไรกัน? ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”    แววตาของฮองเฮาปรากฏแววประหลาดใจวาบหนึ่ง ในใจกับยิ่งรู้สึกสงสัย จงเฟยมีน้ำใจงามถึงเพียงนี้เชียวหรือ จึงยอมมอบของล้ำค่าเช่นนี้ให้แก่นาง?    นางสนมวังหลัง ต่างกำลังช่วงชิงแข่งขัน หวังเพียงให้ตนสามารถงามล้ำกว่าผู้อื่น เพื่อที่ฮ่องเต้จะได้ต้องตาในคราแรกเห็น จงเฟยในวันนี้ผุดผ่องไปทั้งตัวยิ่งกว่าทุกวัน แค่ฮ่องเต้ได้เห็น ราตรีนี้ย่อมต้องพลิกป้ายชื่อของนางเป็นแน่    หากความลับที่ทำให้จงเฟยงดงามขึ้นเป็นเพราะการบูชาเซียนบุปผ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 980

    นับตั้งแต่แต่งงานกันเป็นต้นมา ท่านอ๋องก็ปฏิบัติต่อนางอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะหลังจากแต่งงานแล้ว นั่นยิ่งไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลยฮองเฮามองแหวนบนมือลู่หมิ่นฮุ่ยแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ “ท่านอ๋องของเจ้าดีต่อเจ้ามากมาแต่ไหนแต่ไร ส่งของขวัญมาให้รวดเร็วปานนี้ ข้าได้ยินมาว่าแหวนในร้านขายเครื่องประดับทั่วเมืองหลวงถูกขายหมดเกลี้ยงแล้ว เมื่อก่อนหาได้ขายดีเท่าปิ่นปักผมไม่”“ไม่รู้ว่าจวินถิงคิดวิธีแปลกใหม่เช่นนี้ได้อย่างไร แต่ข้าแค่ได้ยินก็รู้สึกว่าพวกเขาสองคนเป็นคู่สร้างคู่สมโดยแท้ ช่างชวนให้คนอิจฉานัก”ลู่หมิ่นฮุ่ยดื่มชาจิบหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “พี่หญิง ยามนี้ท่านคิดตกแล้วช่างดีเหลือเกิน ข้าได้ยินมาว่าหลังจากที่ไทเฮาทรงทราบว่าฝ่าบาทพระราชทานสมรส ยังให้คนนำของพระราชทานไปส่งที่สกุลซ่งไม่น้อยเลย เห็นได้ชัดว่าโปรดปรานแม่นางซ่งมาก”ฮองเฮาพยักหน้าน้อยๆ วันนี้ตอนที่นางได้ยินข่าวนี้ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ความโปรดปรานที่ไทเฮามีต่อซ่งรั่วเจินช่างชวนให้คนประหลาดใจโดยแท้แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่เป็นข่าวดียิ่งโดยไม่ต้องสงสัย“จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าแม่นางสกุลหลิงผู้นั้นหมู่นี้ใกล้ชิดกับเช่ออ๋องมากทีเดียว คน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 979

    “ก่อนแต่งงานเขาสามารถคิดวิธีการนี้ออกมาได้ หลังแต่งงานก็ย่อมสามารถคิดวิธีอื่นออกมาได้เหมือนกัน เขาย่อมจะมีวิธีแก้ไข”ซ่งหลินมองไปทางกู้หรูเยียน “คิดถึงสมัยที่แม่ข้ายังอยู่ ข้าก็จัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีเหมือนกันไม่ใช่หรือ?”กู้หรูเยียนอึ้งไป คิดถึงเมื่อครั้งที่แม่สามียังอยู่ ระหว่างนางกับแม่สามีก็ดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีความขัดแย้งอันใด ทุกครั้งซ่งหลินล้วนจัดการได้ดีมากตอนเริ่มแรก นางเข้าใจมาตลอดว่าเป็นเพราะแม่สามีนิสัยดี รู้สถานการณ์ที่นางอยู่ในตระกูลหลิ่วแล้วยังยินดียอมรับนางอย่างไรเสีย รูปแบบการทำเรื่องต่างๆ ของตระกูลหลิ่วหลายปีมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดื้อด้านไร้เหตุผล ชอบมาหาผลประโยชน์จากตระกูลซ่ง นางรู้สึกละอายใจต่อตระกูลซ่งมาโดยตลอดโชคดีที่ทั้งแม่สามีและพ่อสามีล้วนไม่เคยตำหนินางเพราะเรื่องนี้ นางย่อมเข้าใจว่าในเรื่องนี้ย่อมขาดความชอบของซ่งหลินไปไม่ได้เลย“ตอนนั้นท่านโน้มน้าวแม่สามีอย่างไรหรือ?” กู้หรูเยียนถามอย่างสงสัยตอนนั้นนางกังวลใจไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ทุกครั้งที่ซ่งหลินบอกนางว่าไม่เป็นไร พ่อสามีและแม่สามีจิตใจกว้างขวาง ไม่เคยเก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ แต่กลับเห็นใจนางเป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 978

    “เมื่อวานข้าได้ดูตั้งแต่ต้นจนจบ การจัดเตรียมแสนอลังการแบบนี้ ไม่เพียงแค่ไม่เคยเห็นมาก่อนเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความจริงใจของฉู่อ๋อง”“ตอนที่ข้าเห็นฉู่อ๋องเป็นฝ่ายถามแม่นางซ่งว่ายินดีแต่งงานกับเขาหรือไม่ก็รู้สึกว่าถ้าบุรุษในใต้หล้าเป็นเหมือนเขากันทุกคนก็คงดี”“ไม่รู้ว่าการมอบแหวนมีความหมายพิเศษอันใดหรือไม่? ตอนข้าเห็นฉู่อ๋องสวมแหวนให้แม่นางซ่งก็รู้สึกว่าพิเศษเอามากๆ วันหน้าตอนข้าแต่งงานก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน”ทันใดนั้น แหวนในร้านขายเครื่องประดับก็กลายเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุด ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงเช้าวันนี้ แหวนทั้งหมดล้วนขายไปจนหมดเกลี้ยงขณะที่เวลานี้จวนสกุลซ่งเพิ่งได้รับราชโองการพระราชทานสมรส“ยินดีด้วย แม่ทัพซ่ง ซ่งฮูหยิน วันที่แปดเดือนหน้าเป็นวันดี หลังแต่งงานแล้ว แม่นางซ่งก็จะกลายเป็นพระชายาฉู่อ๋อง”ขันทีที่อัญเชิญราชโองการมามีรอยยิ้มเต็มใบหน้า ตำแหน่งพระชายาฉู่อ๋องว่างเว้นมานานมากแล้ว ฉู่อ๋องควรแต่งงานตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ก็ผัดผ่อนมาจนถึงตอนนี้บัดนี้ในที่สุดก็มีว่าที่พระชายาฉู่อ๋องเสียที ควรค่าแก่การเฉลิมฉลองโดยแท้“เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งของพระราชทานจากในวัง ไม่เพ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 977

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ ยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อยตัวหนึ่ง “ผู้ชายดีๆ ในเมืองหลวงมีไม่น้อย หลังจากหม่อมฉันถอนหมั้น คนที่มาทาบทามสู่ขอหม่อมฉันก็มีมากมาย...”“ยังมีมากมายอีกด้วย? ไหนลองบอกข้ามาซิว่ามีใครบ้าง?”ฉู่จวินถิงรู้ว่าแม่นางผู้นี้กำลังหยอกเย้าตนเองอยู่ แต่ครั้นคิดถึงว่าตอนนั้นนางไม่มีความคิดจะแต่งงานกับเขาเลยสักนิด หากไม่ใช่เพราะเขาไม่ยอมแพ้ ยามนี้ไม่แน่ว่าคงแต่งงานกับคนอื่นไปแล้วก็เป็นได้มือของเขาเกาะกุมเนื้ออ่อนบริเวณเอวนาง ออกแรงเล็กน้อยก็ทำให้นางหัวเราะคิกขึ้นมา“ฮ่าๆ จั๊กจี้ ท่านปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ”ซ่งรั่วเจินกลัวจั๊กจี้มาแต่ไหนแต่ไร ทั้งร่างพลันอ่อนระทวย ดิ้นขลุกขลักไปมาในอ้อมกอดของฉู่จวินถิง“ท่านปล่อยหม่อมฉันเดี๋ยวนี้นะ เร็วเข้า!”ฉู่จวินถิงมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ข้าไม่ปล่อย เจ้าบอกข้ามาก่อนว่ามีใครบ้าง”“ไม่มี ไม่มี นอกจากท่านก็ไม่มีใครทั้งนั้น”ซ่งรั่วเจินอ้อนวอนอย่างอ่อนใจ นางคิดไม่ถึงเลยว่าฉู่จวินถิงจะมาไม้นี้ ยื่นมือเข้าไปคิดจะจั๊กจี้เขาบ้าง แต่กลับพบว่าเนื้อบนตัวชายหนุ่มแข็งกว่านางมากนัก เมื่อแตะถูกบริเวณเอวอย่างไม่ทันระวังก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงเค้าโครงกล้ามเนื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 976

    ฉู่อวิ๋นกุยอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ชั่วชีวิตนี้ข้าคงคิดไม่ถึงเลยว่าด้วยนิสัยของเสด็จพี่จะมีวันที่เตรียมการเช่นนี้เอาไว้ด้วย”ก่อนหน้านี้เมื่อเสด็จพี่พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เค้นสมองครุ่นคิด แต่นอกจากเรื่องดอกไม้ไฟแล้ว ความคิดอื่นๆ ล้วนถูกปฏิเสธทันควันเมื่อเทียบกันในยามนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนกันว่าความคิดพวกนั้นของตนเองไม่เข้าท่าเอาเสียจริงๆซ่งรั่วเจินขึ้นเรือที่ตกแต่งอย่างหรูหราไปกับฉู่จวินถิงแล้วค่อยพบว่าคนอื่นๆ ไม่ได้ตามมาด้วยจึงอดถามไม่ได้ว่า “มีแค่พวกเราสองคนหรือ?”ฉู่จวินถิงมองหญิงสาวตรงหน้า สายตาตกลงบนริมฝีปากสีกุหลาบนั้น ความรู้สึกอ่อนนุ่มเมื่อครู่ก่อนยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในห้วงคำนึง เพียงปรารถนาจะลิ้มรสอย่างเต็มที่สักคราเขาก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ร่นระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง “อืม มีแค่พวกเรา”แววตาของชายหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นลึกล้ำขึ้นมา กระทั่งน้ำเสียงก็ยังแหบพร่าอยู่บ้างครู่ก่อนยังมีท่าทางอบอุ่นดุจอาบไล้อยู่ในสายลมวสันต์อยู่แท้ๆ ฉับพลันนั้นก็เปลี่ยนเป็นเปี่ยมแรงกดดัน ดวงตาคู่นั้นยังคงอ่อนโยนเปี่ยมแววรักใคร่ ทว่าแฝงไว้ซึ่งแววคุกคาม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 975

    ซ่งหลินมองรอยยิ้มของลูกสาวตนเอง ในใจรู้สึกเป็นสุขอย่างไม่อาจพรรณนา ประกอบกับได้ยินคำพูดของภรรยาตนเองพอดี เขาจึงอดกล่าวขึ้นไม่ได้ว่า“ตอนนี้ท่าทีของข้าดีมากแล้ว ไม่ว่าพ่อตาบ้านไหนก็เห็นลูกเขยขัดตาทั้งนั้นแหละ แต่ฉู่อ๋องผู้นี้ นิสัยไร้ที่ติเลยจริงๆ”“ในอดีตตอนข้าอยู่ในสนามรบมักได้หารือกับเขาบ่อยๆ เป็นสุภาพบุรุษที่หาได้ยากคนหนึ่ง ทั้งยังมีความรับผิดชอบ เขาจะไม่ทำให้เจินเอ๋อร์ผิดหวังแน่นอน”คิดถึงว่าตอนแรกเขาก็คิดว่าฉู่จวินถิงเป็นลูกเขยที่ดีคนหนึ่ง ไม่ว่าลูกสาวสกุลใดได้แต่งงานกับเขา จะต้องได้มีชีวิตที่ดีพร้อมอย่างแน่นอน แต่เจ้าหมอนี่นิสัยเย็นชาเกินไป ไม่ถูกใจลูกสาวบ้านไหนสักคน เขาจึงเลิกล้มความคิดนี้ไปใครเลยจะคาดว่าวกไปวนมาสุดท้ายทุกอย่างก็กลายเป็นจริง ฉู่อ๋องถึงกับต้องการแต่งงานกับลูกสาวเขาคนเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะเมื่อพวกสหายเก่าแก่ได้รู้เรื่องนี้ แต่ละคนก็มีสีหน้าเหมือนเห็นผี ในใจเขาไม่ต้องบอกเลยว่าปลาบปลื้มมากแค่ไหน!กู้หรูเยียนพยักหน้าน้อยๆ “สายตาของเจินเอ๋อร์ก็ดีเหมือนกัน โชคดีที่ถอนหมั้นเสียตั้งแต่ตอนนั้น มิฉะนั้นถ้าเข้าไปอยู่ในจวนสกุลหลิน พ่อแม่อย่างพวกเราก็ทำผิดต่อนางมากเกินไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 974

    แต่หลังจากที่กู้ฮวนเอ๋อร์ได้ยินว่าญาติผู้พี่ไม่เคยได้สิ้นเปลืองความคิดเพื่อเรื่องนี้เลยตั้งแต่ต้นจนจบ แต่กลับเป็นฉู่อ๋องเสียอีกที่สะสางทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งยังยอมรับต่อหน้าฮองเฮาว่าเขาเป็นฝ่ายพยายามเอาชนะใจนาง ญาติผู้พี่ยังไม่แน่ว่าจะรับปาก นางจึงตระหนักว่าที่แท้สตรีก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีเหมือนญาติผู้พี่ได้เหมือนกันไม่ต้องก้มศีรษะให้ครอบครัวสามี ทั้งยังไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังทุกย่างก้าว นางมีความกล้าถอนหมั้นในวันแต่งงาน ทั้งยังไม่เกรงกลัวถ้อยคำซุบซิบนินทาต่อให้ใครจะคิดว่านางไม่คู่ควรกับฉู่อ๋อง ทว่าในสายตาฉู่อ๋อง สิ่งที่กลัวกลับเป็นการทำให้นางรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจฉู่มู่เหยาก็เข้าใจความคิดของกู้ฮวนเอ๋อร์เช่นกัน ถึงนางจะเป็นถึงองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ แต่ก็ไม่กล้ามีความคิดเช่นพี่สะใภ้แต่เมื่อได้เห็นพี่สะใภ้และเสด็จพี่เช่นนี้ นางก็อวยพรให้พวกเขาจากใจจริงแม้ว่าชั่วชีวิตนี้ตนเองไม่แน่ว่าจะสามารถใช้ชีวิตแบบพี่สะใภ้ได้ แต่เพียงได้เห็นว่าพวกเขาทำได้ นางก็รู้สึกเป็นเกียรติแล้วสี่พี่น้องสกุลซ่งเห็นว่าฉู่จวินถิงให้ความสำคัญกับน้องสาวของพวกตนเช่นนี้ก็อดมองตากันไม่ได้ ใบหน้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status