แชร์

บทที่ 426

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
เดิมทีสวีเฮ่ออันกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกับอวิ๋นเฉิงเจ๋ออยู่ภายในศาลา อีกไม่นานอวิ๋นเฉิงเจ๋อก็จะเข้าราชสำนักเป็นขุนนาง กลายเป็นสหายร่วมงาน ย่อมรู้สึกดีใจ

เพราะเหตุนี้ ได้รับเชิญจากอวิ๋นเฉิงเจ๋อ เขาจึงตั้งใจเชิญสหายร่วมงานอีกสองท่านมาเพื่อแนะนำให้เขารู้จัก กอปรกับอวิ๋นเฉิงเจ๋อเชิญสหายร่วมสำนักสอบติดขุนนางอีกสองท่านมาด้วย ทั้งหกจึงกำลังสนทนากันอย่างออกรสออกชาติ

คิดไม่ถึงขณะกำลังอารมณ์ดีก็มองเห็นบ่าวรับใช้จวนอวิ๋นกำลังออกตามหาทั่วสารทิศ พูดว่าคุณหนูรองบ้านตนหายตัวไป นี่ถึงพากันมาพร้อมกัน

สรุปว่า...ถึงขั้นได้ยินเรื่องมากมายเพียงนี้?

ครู่ต่อมาพวกสวีเฮ่ออันหันมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อ เรื่องของอวิ๋นซีหว่านและฉินเซี่ยงเหิงชุลมุนวุ่นวายมาก คนทั้งเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว

แต่พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากอวิ๋นซีหว่านและฉินเซี่ยงเหิงฉีกหน้าถอนหมั้นกันแล้ว ถึงขั้นยังหันมาหมายตาอวิ๋นเฉิงเจ๋อ แม้แต่วิธีการเช่นนี้ก็คิดออกมาได้

คุณหนูในห้องหอคนหนึ่ง ถึงขั้นลองปีนเตียงของอวิ๋นเฉิงเจ๋อ บังคับให้เขาแต่งงานด้วยไม่สำเร็จ ยังสร้างปัญหาให้ตนเองอีกด้วย

ใต้เท้าอวิ๋นกลับไร้เหตุผลยิ่งกว่า ทั้งๆ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 427

    มองใบหน้าเปี่ยมแผนการของอนุอวิ๋น จางเหวินแค่นหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง “ยังคิดใช้วิธีนี้บีบบังคับข้า? ขอเพียงข้าและอวิ๋นหงหล่างหย่ากัน เนี่ยนชูก็จะกลับบ้านมารดากับข้า”“ถึงตอนนั้นข้าจะพูดสาเหตุการหย่าร้างอย่างชัดเจน ส่วนชื่อเสียงของเนี่ยนชูเจ้าไม่ต้องกังวลไป เดิมทีนางก็เป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่ง หรือยังต้องกังวลจะแต่งงานออกเรือนไม่ได้อีกกระนั้น?”“นายท่าน ฮูหยินนี่คือต้องการทำลายซีหว่านเจ้าค่ะ หากซีหว่านตายข้าก็ไม่ขอมีชีวิตอยู่แล้ว!” อนุอวิ๋นร้องไห้พลางพูดออกมาอวิ๋นซีหว่านเห็นสถานการณ์แล้วก็ทำให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก “ให้ข้าตายเถอะ ล้วนต้องโทษลูกทำร้ายท่าน ฮูหยินใหญ่นี่คือเห็นข้าขัดตาตั้งนานแล้ว อยากให้พวกเราตาย”อวิ๋นหงหล่างเห็นสองแม่ลูกล้วนเจ็บปวดสิ้นหวังจนอยากตาย สีหน้าไม่สบอารมณ์มาก ยามสบมองจางเหวินสีหน้าก็เปี่ยมความไม่เข้าใจ“ฮูหยิน นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กเท่านั้น ขอเพียงพวกเราร่วมมือกันปกปิดเรื่องนี้ เดิมทีก็ไม่มีคนอื่นรู้ เหตุใดเจ้าต้องโวยวายจนถึงขั้นนี้ให้ได้?”“พูดไปแล้วเจ้าก็แค่ไม่พอใจพวกนางสองแม่ลูกเท่านั้น ทั้งๆ ที่เจ้ารู้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของทั้งตระกูล แต่ตอน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 428

    จางเหวินและอวิ๋นเนี่ยนชูล้วนคิดไม่ถึงเลยว่าภายนอกจะมีคนมากมายถึงเพียงนี้ หากเป็นในอดีตจะต้องรู้สึกกังวลอย่างแน่นอน เว้นเสียแต่ตอนนี้กลับคิดว่าคนเหล่านี้มาได้ช่างดีเหลือเกิน“ท่านแม่ ท่านตัดสินใจแล้วแน่หรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูมองจางเหวินอย่างกังวล นางรู้ดีว่าหลายปีมานี้มารดาได้รับความทุกข์ ยิ่งไปกว่านั้นยังมิใช่เคยพูดเกลี้ยกล่อมเพียงครั้งเดียว แต่มารดาอดทนเอาไว้ วันนี้คล้ายกับว่าจะตั้งใจทำแบบไม่คิดหันหลังกลับจริงๆ...“เนี่ยนชู แม่คิดดีแล้ว แท้จริงแล้วแม่ก็ไม่อยากใช้ชีวิตเช่นนี้อีก เดิมทีข้าคิดว่าจะรอจนเจ้ากับเฉิงเจ๋อต่างมีชีวิตที่มั่นคงของตนแล้วจึงค่อยหย่ากับพ่อเจ้า”“เช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถลดผลกระทบต่อพวกเจ้าให้น้อยที่สุด แต่ตอนนี้พวกเขากลับยิ่งเหิมเกริม หากพวกเขากล้าลงมือกับเฉิงเจ๋อ ภายภาคหน้าก็อาจกล้าลงมือกับงานแต่งของเจ้าเฉกเดียวกัน”สีหน้าจางเหวินมุ่งมั่น นางไม่มีความอาลัยอาวรณ์ต่อชายผู้นี้ตั้งนานแล้ว สิ่งเดียวที่หวังคือให้ลูกๆ ได้มีอนาคตที่ดีเท่านั้นบัดนี้ในเมื่อแม้แต่เรื่องเล็กน้อยนี่ก็ทำไม่ได้ แล้วนางยังจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่ออะไรอีกเล่า?อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงโดยไม่รู้ตัว ภาย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 429

    “ท่านน้า ข้าใกล้จะได้เข้ารับราชการเป็นขุนนางแล้ว ถึงตอนนั้นข้าก็จะมีเงินเดือน จะต้องสามารถดูแลท่านและเนี่ยนชูดีๆ ได้แน่”สายตาอวิ๋นเฉิงเจ๋อมุ่งมั่น หลายปีมานี้ เขาไม่ใช่ไม่เตรียมการมาก่อน คิดไว้ตั้งแต่แรกว่าน้าเขยปฏิบัติต่อท่านน้าไม่ดี เขาจะต้องดูแลท่านน้าให้ดี ไม่มีวันทำให้นางเสียใจ ใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้กังวลไม่ด้อยไปกว่าจวนอวิ๋น!จางเหวินพยักหน้ายิ้มๆ “น้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถมาโดยตลอด”......ซ่งรั่วเจินกำลังเดินตามซ่งจิ่งเซินหาร้านค้า ระยะนี้สกุลซ่งมีร้านค้าเพิ่มขึ้นไม่น้อย นอกจากส่วนหนึ่งที่ปล่อยเช่าออกไปแล้ว ที่เหลือบางส่วนยังไม่มีคนเช่าเพราะเหตุนี้ นางจึงอยากเปิดกิจการเล็กๆ ของตนของอร่อยในยุคสมัยโบราณเทียบกับยุคสมัยปัจจุบันไม่ได้ คิดไปคิดมา นางก็เลือกไก่ทอด“น้องหญิงห้า ที่ร้านนี้กำลังทำก็คือไก่ทอดที่เจ้าพูดถึงน่ะหรือ?”ซ่งจิ่งเซินมองร้านตรงหน้าอย่างแปลกใจ นี่คือน้องหญิงห้าจัดแจงไว้ แต่ไก่ทอดอะไรนี้ เขากลับไม่เคยได้ยินมาก่อน ก็ไม่รู้ว่าน้องหญิงห้าไปเอาตำรับมาจากที่ใดซ่งรั่วเจินยิ้มบางๆ พลางพยักหน้า “ท่านรอทำออกมาแล้วลองชิมดูก็จะรู้ ข้าเชื่อว่านี่จะต้องกลายเป็นของว่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 430

    “เฉินเซียง แม้แต่ฉู่อ๋องก็มาแล้ว เจ้าว่าไก่ทอดที่คุณหนูของพวกเราพูดถึงจะทำออกมาได้อร่อยจริงหรือไม่?”ตวนอู่มีสีหน้าแปลกใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยได้ยินไก่ทอดนี้มาก่อน ทว่าทั้งหมดล้วนทำตามคำสั่งของคุณหนูก็เท่านั้นเดิมทีก็เป็นกิจการของบ้านตน ต่อให้ค้าขายไม่ดีก็ไม่เป็นไร แต่บัดนี้แม้แต่ฉู่อ๋องก็ถูกเรียกความสนใจแล้ว หากไม่อร่อยขึ้นมา นั่นจะยังหาทางลงได้อีกหรือ?“คุณหนูพูดว่าอร่อยก็ต้องอร่อย!” เฉินเซียงไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย “ข้าคิดว่าคุณหนูทำอะไรก็สำเร็จไปหมดทุกอย่าง ไก่ทอดนี้จะต้องอร่อยมากเป็นแน่ ถึงตอนนั้นยังจะโด่งดังไปทั่วทั้งเมืองหลวง!”ขณะกำลังพูดคุยกันนั้น ไก่ทอดก็ออกจากหม้อแล้ว หลังโรยผงยี่หร่าและผงพริกแล้ว ซ่งรั่วเจินก็ยิ้มแย้มเดินเข้ามาหยุดต่อหน้าทั้งคู่“พวกท่านลองชิมดู”ซ่งจิ่งเซินหันมองฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว “ท่านอ๋อง เชิญท่านชิมก่อน”ฉู่จวินถิงสนใจของว่างที่ซ่งรั่วเจินทำเองมาก คิดเพียงว่าปกติแม่นางคนนี้เฉยเมยต่อเรื่องมากมาย คล้ายมั่นใจมากมีเพียงยามพูดถึงของว่าง สีหน้านางมีชีวิตชีวามากเป็นพิเศษ น่ารักและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีกกร๊อบเพียงไก่ทอดเข้าปาก เสียงกรอบก็ดังออก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 431

    “ตามใจเจ้า” เห็นได้ชัดว่าซ่งจิ่งเซินเป็นพวกหลงน้องสาว ไม่ว่าน้องสาวจะพูดอะไร เขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมดเวลานั้น ซ่งรั่วเจินพลันสัมผัสได้ว่าตรงหัวมุมข้างหน้ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาทางพวกตน จึงมองไปทางนั้นโดยสัญชาตญาณฝ่ายตรงข้ามเป็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่ง พบว่าซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นแล้วก็ไม่หลบ แต่กลับยิ้มพลางพยักให้น้อยๆ“พี่สี่ นั่นใครหรือ?”ซ่งจิ่งเซินมองตามทิศทางสายตาของซ่งรั่วเจินไปก็พบว่าตอนนี้บุรุษผู้นั้นหันหลังไปแล้ว เพียงมองจากเงาหลังดูไม่ออกว่าเป็นใคร“ไม่รู้สิ ข้าไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร”“นั่นคือคนตระกูลกู้” ฉู่จวินถิงอธิบายซ่งรั่วเจินอึ้งไป “ตระกูลกู้? ครอบครัวฝั่งแม่ของฉินฮูหยิน?”“ใช่แล้ว ร้านค้าบนถนนเส้นนี้เดิมเป็นสินเดิมที่ตระกูลกู้มอบให้ฉินฮูหยินในตอนนั้น ได้ยินว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีคนตระกูลกู้ช่วยช่วยดูแลจัดการ แต่ตอนนี้ร้านค้าเป็นของพวกเจ้าแล้ว คิดว่าคงมาเห็นโดยบังเอิญ”ซ่งจิ่งเซินได้ยินอย่างนั้นก็อดกังวลใจไม่ได้ “พวกเขาคงไม่คิดว่าพวกเราฮุบร้านค้านี้มาแล้วไม่พอใจพวกเราหรอกนะ?”ภูมิหลังของตระกูลกู้ไม่ธรรมดาเลย แต่ไม่ได้มีการไปมาหาสู่กับตระกูลซ่งของพวกเข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 432

    หลิ่วเฟยเยี่ยนถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้โมโหจนแทบกระอักเลือด นี่คือคำพูดคนงั้นรึ?มีใครตายอะไรกัน?แต่พอถูกขัดจังหวะเช่นนี้ น้ำตาที่แต่เดิมยังไหลลงมาได้ยามนี้กลับไหลไม่ออกเสียแล้ว จึงได้แต่กล่าวอย่างเศร้าสร้อย“พี่หญิง ท่านไม่ต้องปิดบังข้า ข้ารู้หมดแล้ว ที่ซื่อจื่อสามารถกลับมาอย่างปลอดภัยก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากรั่วเจินในตอนนั้น ได้ยินว่าตอนพวกท่านอยู่ในจวนอ๋องยังได้รับการปฏิบัติเสมือนแขกผู้มีเกียรติ”“มีน้ำใจตรงนี้อยู่ ขอเพียงพวกท่านยินดีขอร้องแทนฮั่นเฟย ครอบครัวเซียงอ๋องจะต้องไม่ถือสาเอาความแน่นอน!”“ข้าไม่รู้ว่าตอนนี้พวกท่านคิดอะไรอยู่กันแน่ ทั้งที่เป็นครอบครัวเดียวกัน เรื่องที่แค่ช่วยพูดไม่กี่ประโยคก็สามารถคลี่คลายได้แท้ๆ แต่เหตุใดจึงไม่ยอมช่วยเหลือ?”ได้ยินคำตัดพ้อต่อว่าทั้งทางตรงทางอ้อม หลิ่วหรูเยียนรู้สึกเพียงเอือมระอาเหลือประมาณตั้งแต่เล็กจนโต ทุกครั้งที่หลิ่วเฟยเยี่ยนเจอเรื่องที่คลี่คลายไม่ได้ก็มักมาขอความช่วยเหลือจากนาง แต่เพียงบ่ายเบี่ยงสักนิดก็จะร้องไห้ไม่จบไม่สิ้น“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าไม่ได้ช่วย? เซียงอ๋องซาบซึ้งในน้ำใจรั่วเจินจริงๆ แต่พวกเขาก็แสดงออกชั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 433

    ซ่งจิ่งเซินที่อยู่ข้างๆ มองภาพนี้อย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ท่านอ๋องช่างดีต่อน้องหญิงห้าจริงๆ!ยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ถามออกมาเองแล้ว นอกจากนี้ ดูจากท่าทางรู้ใจกันเช่นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เรียกได้ว่าเป็นคู่สวรรค์สรรค์สร้างโดยแท้!“หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะก่อเรื่องอะไรมา ท่านน้าก็มักหาวิธีมาขอให้ท่านแม่ช่วยสะสาง แต่ตอนที่บ้านเกิดเรื่อง ท่านแม่อยากไปปรึกษานางกลับไม่เห็นแม้แต่เงา”“ยามนี้ถ้าจะกำจัดเรื่องยุ่งยากนี้ไปให้พ้นก็มีวิธีเดียว...”ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากช้าๆ มองไปทางบุรุษตรงหน้า มุมปากวาดโค้งขึ้นน้อยๆฉู่จวินถิงเลิกคิ้ว แลดูอ่อนใจอยู่บ้าง “เห็นที ข้าถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องรับบทผู้ร้ายสินะ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าท่านอ๋องรู้สึกว่ายุ่งยาก ข้าก็สามารถไปขอความช่วยเหลือจากซื่อจื่อน้อย คิดว่าเรื่องเล็กน้อยนี้ เขาน่าจะยินดีช่วยเหลือ”“ไม่จำเป็น ไยต้องรบกวนคนอื่นด้วย?” ฉู่จวินถิงกล่าวเห็นดังนั้น รอยยิ้มก็อาบย้อมแววตาซ่งรั่วเจิน นางหันไปมองซ่งจิ่งเซิน “พี่สี่ ประเดี๋ยวต้องแสดงให้สมจริงหน่อยนะเจ้าคะ”ซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ ตบอกรับรอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 434

    หลิ่วเฟยเยี่ยนถูกหลิ่วหรูเยียนคาดคั้นเช่นนี้ ในใจเพียงรู้สึกว่าน่าขัน รั่วเจินกล้าไปหาเรื่องฉู่อ๋องอย่างไม่รู้ดีชั่ว ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นมายังคิดจะทำให้นางเดือดร้อนไปด้วย?นางสะบัดมือหลิ่วหรูเยียนออกพลางกล่าวว่า “พี่หญิง ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยท่าน แต่ฉู่อ๋องเป็นใครกัน?”“ข้าอยากช่วยเหลือจริงๆ นะเจ้าคะ ทว่าข้ามีใจแต่ไร้กำลังจริงๆ!”ทว่าหลิ่วหรูเยียนไม่คิดจะปล่อยให้นางจากไปทั้งอย่างนี้จึงจับมือนางไว้แน่นไม่ปล่อย“เฟยเยี่ยน ยามนี้ซ่งหลินเป็นตายไม่แน่ชัด แต่น้องเขยคงสามารถพูดอะไรต่อหน้าท่านอ๋องได้บ้าง เจ้าต้องคิดหาวิธีช่วยข้านะ”“ข้ามีเจินเอ๋อร์เป็นลูกสาวคนเดียว นางเป็นแก้วตาดวงใจของข้า ยามนี้ทำให้ท่านอ๋องโกรธกริ้ว ไม่รู้ว่าจะมีจุดจบเช่นไร เจ้าจะต้องช่วยข้านะ”“ขอแค่เจ้าช่วยข้าขอให้ท่านอ๋องยกโทษให้เจินเอ๋อร์ ทางด้านเซียงอ๋องข้าก็จะช่วยเจ้าเต็มที่ดีหรือไม่?”หลิ่วเฟยเยี่ยนได้ยินเช่นนั้น ในใจก็พลันลังเลขึ้นมา ถ้าตระกูลซ่งยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ไม่แน่ว่าอาจมีประโยชน์จริงๆ ก็เป็นได้“งั้นข้าจะตามไปดูหน่อยก็แล้วกัน?”แม่นมที่อยู่ข้างๆ เห็นว่าหลังนายหญิงของตนพูดเช่นนั้นไปแล้ว หลิ่วเฟยเ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 734

    พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลยถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าวซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดายกู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 733

    ซ่งรั่วเจินตัดสินใจไปรับบิดากลับมา ก่อนออกเดินทางย่อมต้องเตรียมสิ่งของมากมาย แต่ก่อนหน้านั้นยังต้องบอกคนในครอบครัวเสียก่อนหลังนางบอกเรื่องที่จะเดินทางไปชายแดน คนในจวนล้วนอึ้งตกใจกันหมด“เจินเอ๋อร์ เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าจะไปชายแดนด้วยตัวเอง?” กู้หรูเยียนมีสีหน้าตกตะลึง “ก่อนนี้ไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงมาก่อนเลย”“น้องหญิงห้า ถ้าเจ้าเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านพ่อก็ให้พี่ชายอย่างพวกข้าไปดีกว่า ผู้หญิงแบบเจ้าไปสถานที่ห่างไกลปานนั้นจะอันตรายเกินไปแล้ว” ซ่งจืออวี้เอ่ยอย่างร้อนใจซ่งจิ่งเซินพยักหน้า “ใช่แล้ว พวกเขารับราชการอาจไม่สะดวก ข้ามีประสบการณ์เดินทางโชกโชน ให้ข้าไปดีกว่า!”“ความจริงสาเหตุที่ข้าจะเดินทางไปเป็นเพราะข้าทำนายดวงชะตาให้ท่านพ่อ”เมื่อซ่งรั่วเจินเอ่ยวาจาประโยคนี้ออกมา สีหน้าทุกคนในห้องล้วนเคร่งเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าจะเกิดปัญหาอันใด?“ก่อนนี้ข้าก็เคยทำนายเหมือนกัน ดวงชะตาของท่านพ่อปลอดภัยไร้อันตราย สามารถกลับมาได้อย่างราบรื่น แต่ช่วงนี้เกิดเหตุเปลี่ยนแปลงขึ้น น่าจะเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยภายนอก”“ถ้าไม่ไป ข้ากังวลว่าอาจมีอันตราย ดังนั้นจึงคิดว่าจะไปด้วยตั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 732

    “ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันได้ค้นตัวไต้ซือเทียนจีใช่หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ก่อนหน้านี้คนผู้นั้นรีบร้อนเกินไป พวกข้าไม่เปิดโอกาสให้เขา แต่ว่ากันตามปกติแล้ว ของที่มีค่ามากมักจะไม่พกติดตัวไว้”“สิ่งสำคัญที่สุดมักไม่พกติดตัวก็จริง แต่คนในวงการพวกข้า โดยเฉพาะคนชั่วร้ายอย่างเขา จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเก็บจุดอ่อนของฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ข่มขู่อย่างแน่นอน”คิ้วบางของซ่งรั่วเจินเลิกขึ้นน้อยๆ ต่อให้เคยเจอไต้ซือเทียนจีเพียงครั้งเดียว แต่ก็ทราบว่าเป็นจิ้งจอกเฒ่าผู้หนึ่งกระทำเรื่องชั่วช้ามาหลายปีขนาดนี้แต่ก็ยังอยู่รอดปลอดภัย แล้วจะไม่มีวิธีปกป้องตัวเองเลยได้อย่างไร?กู้ชิงฉือได้ยินเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปข้างกายไต้ซือเทียนจีแล้วเริ่มค้นหาอย่างละเอียด การค้นตัวครั้งนี้พบว่านอกจากยันต์ที่อ่านไม่ออกพวกนั้นแล้วยังมียาลูกกลอนอีกสองเม็ด“ไม่มีของอย่างอื่น แต่มีหินก้อนหนึ่ง นี่คือหยิบติดตัวมาด้วยงั้นรึ?”กู้ชิงฉือมองก้อนหินในมือ หินก้อนนี้แม้พอจะนับได้ว่ามนเกลี้ยง แต่ก็ดูแตกต่างจากก้อนหินที่พบเห็นได้ทั่วไปบริเวณริมแม่น้ำมากเกินไป“ข้าขอดูหน่อย”ซ่งรั่วเจินก้าวเร็วๆ เข้ามาหา มองก้อนหินในมือแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 731

    เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้วฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ“ยังช่วยได้”ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้นซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้วตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียวหลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถามจ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟัง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status