Share

บทที่ 237

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินถลันขึ้นไปต้อนรับ สำรวจอวิ๋นเนี่ยนชูอย่างกังวล “เนี่ยนชู เจ้าไม่เป็นอะไรนะ?”

อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงเรื่อ เห็นได้ชัดว่าตกใจหวาดผวา “ข้าไม่เป็นไร แต่ญาติผู้พี่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวานหลังข้าได้รับข่าวจากเจ้าก็บอกญาติผู้พี่”

“เช้าวันนี้พวกเราตั้งใจเปลี่ยนแปลงเวลาและเส้นทาง ใครคาดคิด อีกฝ่ายพบว่าพวกเราระแคะระคายแล้วก็คล้ายเสียสติไป ไล่ตามมาโดยตรง”

“ล้วนต้องโทษข้า ข้าวิ่งช้าเกินไป ไม่ระวังจึงหกล้ม นี่ถึงทำให้ญาติผู้พี่ต้องเดือดร้อน”

ได้ยินดังนั้นซ่งรั่วเจินก็เข้าใจแล้ว บัดนี้สกุลฉินมีอวิ๋นซีหว่านเป็นหนอนบ่อนไส้คนหนึ่ง ย่อมรู้เบาะแสของพวกอวิ๋นเนี่ยนชูเป็นอย่างดี

บัดนี้วางแผนทุ่มสุดตัว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำให้อวิ๋นเฉิงเจ๋อไม่สามารถเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิให้ได้

“นี่ก็มาทันแล้วมิใช่หรือ? เจ้าอย่าร้อนใจ ข้าไปดูบาดแผลของญาติผู้พี่เจ้าก่อน”

ซ่งรั่วเจินเอ่ยปลอบอวิ๋นเนี่ยนชู นี่ถึงมาหยุดข้างกายอวิ๋นเฉิงเจ๋อ มองบาดแผลบนหน้าผาก แม้แตกไปหนึ่งที่ แต่ไม่นับว่าร้ายแรง บนตัวเองก็ล้วนเป็นผิวหนังภายนอกได้รับบาดเจ็บเท่านั้น

โชคดีจริงๆ

“ข้าจะช่วยท่านจัดการบาดแผล”

ซ่งรั่วเจินยื่นยาให้ “นี่คือยา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 238

    ฉินเซี่ยงเหิงย่อมนึกถึงจุดนี้ เดิมทีเขาก็เกือบหมดโอกาสเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว โชคดีท่านตาออกหน้าช่วยเขา นี่ถึงสามารถเข้าร่วมต่อไปได้หากเรื่องนี้เกี่ยวพันมาถึงเขา เขาต้องจบสิ้นแล้วจริงๆ!“เจ้าจงคิดหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามไม่ให้สืบสาวราวเรื่องมาถึงข้า เข้าใจหรือไม่?”สายตาฉินเซียงเหิงเย็นชา เขายังมีอนาคตยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไฉนเลยจะสามารถปล่อยให้ตัวโง่งมเหล่านี้ขัดขวางได้?ฉินซวงซวงเห็นเขาโยนความรับผิดชอบทั้งหมดลงบนศีรษะตน เกิดความไม่พอใจภายในใจ แต่เพื่อทำให้อารมณ์ของฉินเซี่ยงเหิงสงบลง จึงพยักหน้ารับ“ท่านวางใจเถอะ ข้าและท่านพ่อท่านแม่จะหาทางจัดการเรื่องภายนอกเอง ท่านวางใจเข้าร่วมการสอบก็พอ”ซ่งรั่วเจินช่วยอวิ๋นเฉิงเจ๋อรักษาบาดแผลอย่างคล่องแคล่ว นี่ถึงมองส่งซ่งอี้อันและอวิ๋นเฉิงเจ๋อเข้าสนามสอบไปพร้อมกัน“ท่านอาจารย์ ญาติผู้พี่ข้าได้รับบาดเจ็บ หวังว่าพวกท่านจะดูแลมากสักหน่อยนะเจ้าคะ” ภายในสายตาอวิ๋นเนี่ยนชูเปี่ยมกังวล โค้งคำนับให้อาจารย์“วางใจเถอะ ข้าจะระวังให้ดี” อาจารย์เว่ยพยักหน้ารับปากจากนั้นเหล่าบัณฑิตต่างพากันเข้าสนามสอบ คนภายนอกเองก็พากั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 239

    “ความแค้นนี้ข้ากลืนไม่ลงอย่างแท้จริง ข้าต้องได้คำชี้แจงอย่างหนึ่งถึงจะใช้ได้!”สีหน้าอวิ๋นเนี่ยนชูแข็งทื่อดุจเหล็ก เรื่องนี้มิอาจปล่อยผ่านไปได้ เพื่อการสอบญาติผู้พี่อ่านตำราจนดึกดื่น ต่อให้เป็นฤดูหนาวก็ไม่เคยผ่อนแรงมาก่อน นางเห็นแล้วก็รู้สึกเลื่อมใสระคนสงสารมาถึงวันนี้ได้อย่างยากลำบาก ไฉนเลยจะปล่อยให้อวิ๋นซีหว่านทำลายได้?“อาจารย์ทุกท่านต่างรู้เรื่องนี้แล้ว ศาลาว่าการซุ่นเทียนเองก็ไม่มีวันไม่ร่ำไร เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถหาคนลงแรงอยู่เบื้องหลังออกมาได้แล้ว เจ้าไม่ต้องกังวล”“สกุลฉินให้ความสำคัญต่อฉินเซี่ยงเหิงมาก หากเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น น่ากลัวว่าจะต้องคิดหาทางโยนเรื่องนี้มาที่บ้านพวกเจ้าอย่างแน่นอน มิสู้เจ้าปรึกษาวางแผนรับมือกับท่านป้าให้ดี”สายตาซ่งรั่วเจินจริงจังมาก อวิ๋นฮูหยินเป็นคนฉลาด บัดนี้มีจุดอ่อนที่ดีเพียงนี้อยู่ภายในกำมือ ย่อมไม่สามารถปล่อยให้เสียเปล่าได้“ข้าเข้าใจแล้ว” อวิ๋นเนี่ยนชูเข้าใจแล้ว “รั่วเจิน เจ้ากลายเป็นคนฉลาดเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด? หลังถอนหมั้น เจ้าก็เปิดจุดลมปราณเริ่นตูหรือ ข้าเองก็เลื่อมใสเจ้าอย่างอดไม่ได้”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “ก่อนนี้น้ำเข้าสมอง บ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 240

    “ข้าย่อมดีใจแทนพวกเจ้า แต่ไหนแต่ไรมาอี้อันเด็กคนนี้มีความสามารถ น่าเสียดายถูกคนทำร้ายเสียได้”“บัดนี้สามารถเข้าร่วมการสอบฤดูใบไม้ผลิได้ใหม่อีกครั้ง ขอเพียงสามารถสอบได้คะแนนดี ภายภาคหน้าสกุลซ่งเองก็มีความหวังแล้ว แม่กังวลเพียงเจ้าจะห่างเหินกับพวกเราเพราะเรื่องที่ผ่านมา”นายหญิงหลิ่วพูดอย่างปวดใจ “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันทำร้ายเจ้า เจ้าว่าใช่หรือไม่?”หลิ่วหรูเยียนเห็นนายหญิงหลิ่วอยู่ต่อหน้า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นหลายปีมานี้ล้วนปรากฏในสมองของนางตั้งแต่เด็กนางก็คือคนเชื่อฟังมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง กลับไม่ใช่เพราะอุปนิสัยเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก แต่เพราะบิดามารดารักพี่น้องคนอื่นมากกว่านางนางไม่แก่งแย่งไม่ช่วงชิง เพราะตอนเด็กเคยแย่งมา สุดท้ายที่ได้รับคือเสียงดุด่าไปจนถึงลงโทษ นานวันเข้าก็ไม่มีความคิดแย่งชิงแล้วไม่ว่าสิ่งใด หลีกทางให้คนอื่นนั้นสมควรแล้วเดิมทีนางคิดว่าขอเพียงตนเองทำตามคำสั่งของบิดามารดา พวกเขาจะรักนางมากสักหน่อย ทว่าตอนนี้นางก็อายุปูนนี้แล้ว มองทุกอย่างออกอย่างกระจ่างชัดเจน“ท่านแม่ เดิมทีข้าก็เป็นลูกสาวของท่าน ยังพูดว่าห่างเหินไม่ห่างเหิน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 241

    ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปจะดูเหมือนอะไร? พวกเขายังจะมีหน้าอยู่ไหม?“พี่สาม ท่านย่าของพวกเรารักและเอ็นดูพวกเราเสมอ บางทีท่านอาจไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี เลยตัดสินใจให้เงินแทนเพื่อให้พี่รองซื้อสิ่งที่จำเป็น” ซ่งรั่วเจินกล่าวซ่งจืออวี้ตบศีรษะตนเอง พลางทำหน้าตกตะลึง “อ้อ ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง ข้าผิดเอง ปากไวไปหน่อย”“ใช่แล้ว ข้าเพิ่งรู้ว่าอี้อันหายป่วยแล้ว จึงรีบมาโดยไม่ได้เตรียมอะไรไว้ เลยนำเงินติดตัวมาให้แทน”นายหญิงหลิ่วหยิบตั๋วเงินออกมาจากอ้อมอก ยัดใส่มือหลิ่วหรูเยียน แม้ในใจจะปวดร้าว แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มอ่อนโยน “หรูเยียน จงดูแลลูกให้ดี ให้เขาได้บำรุงร่างกายเถิด”“พี่หญิง นี่คือความตั้งใจจริงของข้า”หลิ่วเฟยเยี่ยนมองตั๋วเงินในมือด้วยใจที่เจ็บปวด เดิมทีคิดว่าจะได้อะไรจากจวนตระกูลซ่งบ้าง ที่ไหนได้ต้องเอาเงินตัวเองออกไปก่อนเสียอีก“อี้อันรู้เข้าต้องดีใจมากแน่ ๆ อีกประเดี๋ยวข้าจะให้คนไปซื้อของบำรุงร่างกายกลับมา”หลิ่วหรูเยียนรับตั๋วเงินด้วยรอยยิ้ม ไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธแม้แต่น้อย ในใจกลับรู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แทบไม่เคยได้เงินจากพวกเขาเลย มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เอาไป พอมอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 242

    “พี่หญิง หรือตอนที่ท่านไปก็ให้เราไปพร้อมกับท่านดีหรือไม่?”หลิ่วเฟยเยี่ยนเอ่ยขึ้นด้วยความไม่ไว้วางใจ หากเป็นเมื่อก่อนนางคงไม่กังวลอะไรนัก แต่ระยะนี้นางเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าซ่งรั่วเจินเด็กคนนี้ช่างมีเล่ห์เหลี่ยมนักไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพวกนักต้มตุ๋น หรือครั้งก่อนที่มาจวน นางล้วนไม่ได้ผลประโยชน์เลยสักนิดพวกนักต้มตุ๋นยังหลอกเอาเงินจากหลิ่วหรูเยียนไปถึงหนึ่งแสนตำลึง ส่วนตัวนางเองก็ได้มาห้าหมื่นตำลึง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายไม่รู้จะเพลิดเพลินขนาดไหน ของประดับที่เคยเล็งไว้ก็ซื้อมาได้หมดใครจะไปคิดว่าหลังจากที่ซ่งรั่วเจินเปิดโปงแผนการ อย่าว่าแต่นักต้มตุ๋นเหล่านั้นถูกจับเข้าคุก พวกเขายังถูกบีบให้คืนเงินทั้งหมดอีกด้วย นางตกใจกลัวจนต้องรีบขายเครื่องประดับออกไป ซ้ำยังต้องเพิ่มเงินของตัวเองเข้าไปอีก ทำให้ระยะนี้นางอยู่ในสภาพค่อนข้างลำบากตั๋วเงินเมื่อครู่นั้นก็หยิบมาเพื่อช่วยฮั่นเฟยเท่านั้น เดิมทีคิดไว้ว่ามารดาก็มาด้วย ถ้าร้องไห้บีบน้ำตาเรียกคะแนนสงสารสักหน่อย คงพอจะรีดเงินจากหลิ่วหรูเยียนมาได้บ้างใครจะไปคิด...ว่าจะถูกซ่งจืออวี้และซ่งรั่วเจินสองพี่น้องบีบบังคับจนต้องเอาตั๋วเงินออกมา นับว่าขาด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 243

    หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นางอยากจะโต้กลับอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่เป็นห่วงชื่อเสียงของลั่วชิงอิง นางจึงเลือกที่จะไม่พูดออกมาเมื่อตอนพบกันครั้งก่อนก็ได้พูดชัดเจนแล้ว แม้ว่าสองตระกูลจะมีความคิดเรื่องการหมั้นหมายกันจริง แต่จะต้องจัดการเรื่องของตระกูลเหยาให้เรียบร้อยเสียก่อนรอจนคำครหาเงียบลง แล้วค่อยคบหากันก็ยังไม่สายหากในเวลานี้ข่าวลือจากตระกูลซ่งแพร่กระจายออกไป จะยิ่งทำให้ตระกูลลั่วมีความรู้สึกไม่ดี และอาจทำลายโอกาสระหว่างเยี่ยนโจวกับลั่วชิงอิงได้ซ่งรั่วเจินหันไปมองพี่ชายสามของตนเอง ผู้อื่นอาจมีความกังวล แต่พี่ชายสามกลับไม่กังวลสิ่งใด“ในเมื่อเหยาจิ่นเฉิงได้ดูตัวกับแม่นางลั่วแล้ว พี่ใหญ่ของข้าก็แค่ไปร่วมงานเลี้ยง ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ถ้าหากแค่นี้ทำให้การหมั้นหมายพังทลายได้ เช่นนั้นการหมั้นหมายก็ช่างเปราะบางเกินไปแล้วกระมัง?”“ท่านน้า เหตุใดท่านถึงได้นำเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดจนเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ท่านแม่ของข้าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ท่านยังจะให้ท่านแม่ต้องมาหนักใจเพราะข่าวลือเหล่านี้อีก”“หากจะว่ากันไป ข้าเองก็เพิ่งได้ยินว่าช่วงนี้ญาติผู้น้องเยียนหรานของเรากับหลินจือ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 244

    “จืออวี้ ที่เจ้าพูดว่าเยียนหรานกับหลินจือเยว่สนิทสนมกันมาก ข่าวนี้จริงหรือ?”หลิ่วหรูเยียนถามด้วยความตกใจ แม้ก่อนหน้านี้เฟยเยี่ยนจะเคยพูดว่าเจินเอ๋อร์ไม่ควรถอนหมั้น เจินเอ๋อร์ก็เคยเอ่ยขึ้นว่าควรให้เยียนหรานแต่งงานกับเขาแทนแต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตระกูลหลินประสบปัญหาต่อเนื่อง คนทั่วไปต่างหลีกเลี่ยงกันทั้งนั้น แต่เยียนหรานกลับพุ่งเข้าไปเช่นนี้ หรือนางจะไปเฝ้าตระกูลหลินที่มีแต่เปลือกเปล่าหรืออย่างไร?“ใครจะสนว่าจริงหรือไม่ ข้าได้ยินคนพูดถึงจริง ๆ ตอนนั้นข้าก็ยังคิดว่าแปลกเหมือนกันเลยขอรับ” ซ่งจืออวี้กล่าวซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านแม่ เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นโดยไม่มีมูล ท่านไม่ได้เห็นหรือว่าท่านน้าหน้าถอดสีไปแล้ว? เรื่องนี้ต้องมีปัญหาแน่เจ้าค่ะ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่ามันเป็นเรื่องของตระกูลซุน แม้ซุนเยียนหรานจะคิดจะแต่งเข้าไปในตระกูลหลินจริง นั่นก็คงไม่เกี่ยวกับพวกเขา“วันนี้จวนเซียงอ๋องส่งเทียบเชิญมาให้ ช่างแปลกนัก ตระกูลเรามิได้มีความเกี่ยวข้องกับจวนเซียงอ๋องมากมาย แต่คนที่มาเป็นถึงผู้ดูแลของจวนเซียงอ๋อง แถมยังมีท่าทางสุภาพยิ่ง”เมื่อย้อนคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 245

    “ข้าจะไม่มีวันแพ้นังแพศยานั่น นางคิดจะใช้กลอุบายหลอกผีมาทำร้ายข้า ไม่มีทางเสียหรอก!”ไป๋จวิ้นอวี่และไป๋จวิ้นเทาหันมามองหน้ากัน พวกเขาไม่เชื่อเรื่องผีสางวิญญาณ แต่สภาพของมารดาในตอนนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก“ท่านโหว สองวันนี้ทำอะไรอยู่? เหตุใดถึงไม่มาดูข้า?” หลี่ว์เหวินซิ่วถาม“ท่านพ่ออยู่ที่เรือนนั้นตลอด ได้ยินว่าพี่ใหญ่พบอวี้เยว่หลิงเมื่อคืน แต่ท่านพ่อกลับไม่เห็น ดังนั้นท่านถึงได้ซึมเซาเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งวัน”ไป๋จวิ้นเทาเพิ่งจะไปหาไป๋เฉิงหงมา แต่เขากลับเพียงแค่สั่งให้ไปตามหมอมารักษามารดา ส่วนตนเองยังคงอยู่ในเรือนนั้นโดยไม่มีท่าทีว่าจะออกมาเลย“ทำไมกัน? นังแพศยานั่นตายไปแล้ว เขายังจะคอยคิดถึงนางอีกหรือ?”ในดวงตาของหลี่ว์เหวินซิ่วเต็มไปด้วยความไม่ยอม ทั้ง ๆ ที่นางคือภรรยาที่ท่านโหวแต่งเข้ามาอย่างถูกต้องตามพิธี แต่เพราะในตอนนั้นร่างกายของนางไม่เอื้ออำนวย ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เสียที ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ชอบหน้านางในตอนนั้นมีหญิงมากมายที่ถูกคัดเลือกเข้ามาเป็นอนุภรรยา แต่นางไม่ยอมให้อนุเหล่านั้นตั้งครรภ์และชิงความโดดเด่นไปก่อน และไม่ต้องการถูกผู้คนหัวเราะเยาะว่าไม่มีลูก จึงเป็นฝ่าย

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status