Share

บทที่ 243

Author: จี้เวยเวย
หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย นางอยากจะโต้กลับอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่เป็นห่วงชื่อเสียงของลั่วชิงอิง นางจึงเลือกที่จะไม่พูดออกมา

เมื่อตอนพบกันครั้งก่อนก็ได้พูดชัดเจนแล้ว แม้ว่าสองตระกูลจะมีความคิดเรื่องการหมั้นหมายกันจริง แต่จะต้องจัดการเรื่องของตระกูลเหยาให้เรียบร้อยเสียก่อน

รอจนคำครหาเงียบลง แล้วค่อยคบหากันก็ยังไม่สาย

หากในเวลานี้ข่าวลือจากตระกูลซ่งแพร่กระจายออกไป จะยิ่งทำให้ตระกูลลั่วมีความรู้สึกไม่ดี และอาจทำลายโอกาสระหว่างเยี่ยนโจวกับลั่วชิงอิงได้

ซ่งรั่วเจินหันไปมองพี่ชายสามของตนเอง ผู้อื่นอาจมีความกังวล แต่พี่ชายสามกลับไม่กังวลสิ่งใด

“ในเมื่อเหยาจิ่นเฉิงได้ดูตัวกับแม่นางลั่วแล้ว พี่ใหญ่ของข้าก็แค่ไปร่วมงานเลี้ยง ไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ ถ้าหากแค่นี้ทำให้การหมั้นหมายพังทลายได้ เช่นนั้นการหมั้นหมายก็ช่างเปราะบางเกินไปแล้วกระมัง?”

“ท่านน้า เหตุใดท่านถึงได้นำเรื่องไม่เป็นเรื่องมาพูดจนเป็นเรื่องใหญ่เสมอ ท่านแม่ของข้าร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอยู่แล้ว ท่านยังจะให้ท่านแม่ต้องมาหนักใจเพราะข่าวลือเหล่านี้อีก”

“หากจะว่ากันไป ข้าเองก็เพิ่งได้ยินว่าช่วงนี้ญาติผู้น้องเยียนหรานของเรากับหลินจือ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 244

    “จืออวี้ ที่เจ้าพูดว่าเยียนหรานกับหลินจือเยว่สนิทสนมกันมาก ข่าวนี้จริงหรือ?”หลิ่วหรูเยียนถามด้วยความตกใจ แม้ก่อนหน้านี้เฟยเยี่ยนจะเคยพูดว่าเจินเอ๋อร์ไม่ควรถอนหมั้น เจินเอ๋อร์ก็เคยเอ่ยขึ้นว่าควรให้เยียนหรานแต่งงานกับเขาแทนแต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ตระกูลหลินประสบปัญหาต่อเนื่อง คนทั่วไปต่างหลีกเลี่ยงกันทั้งนั้น แต่เยียนหรานกลับพุ่งเข้าไปเช่นนี้ หรือนางจะไปเฝ้าตระกูลหลินที่มีแต่เปลือกเปล่าหรืออย่างไร?“ใครจะสนว่าจริงหรือไม่ ข้าได้ยินคนพูดถึงจริง ๆ ตอนนั้นข้าก็ยังคิดว่าแปลกเหมือนกันเลยขอรับ” ซ่งจืออวี้กล่าวซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ท่านแม่ เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นโดยไม่มีมูล ท่านไม่ได้เห็นหรือว่าท่านน้าหน้าถอดสีไปแล้ว? เรื่องนี้ต้องมีปัญหาแน่เจ้าค่ะ”หลิ่วหรูเยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เมื่อคิดว่ามันเป็นเรื่องของตระกูลซุน แม้ซุนเยียนหรานจะคิดจะแต่งเข้าไปในตระกูลหลินจริง นั่นก็คงไม่เกี่ยวกับพวกเขา“วันนี้จวนเซียงอ๋องส่งเทียบเชิญมาให้ ช่างแปลกนัก ตระกูลเรามิได้มีความเกี่ยวข้องกับจวนเซียงอ๋องมากมาย แต่คนที่มาเป็นถึงผู้ดูแลของจวนเซียงอ๋อง แถมยังมีท่าทางสุภาพยิ่ง”เมื่อย้อนคิดถึงเหตุการณ์ตอนนั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 245

    “ข้าจะไม่มีวันแพ้นังแพศยานั่น นางคิดจะใช้กลอุบายหลอกผีมาทำร้ายข้า ไม่มีทางเสียหรอก!”ไป๋จวิ้นอวี่และไป๋จวิ้นเทาหันมามองหน้ากัน พวกเขาไม่เชื่อเรื่องผีสางวิญญาณ แต่สภาพของมารดาในตอนนี้ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก“ท่านโหว สองวันนี้ทำอะไรอยู่? เหตุใดถึงไม่มาดูข้า?” หลี่ว์เหวินซิ่วถาม“ท่านพ่ออยู่ที่เรือนนั้นตลอด ได้ยินว่าพี่ใหญ่พบอวี้เยว่หลิงเมื่อคืน แต่ท่านพ่อกลับไม่เห็น ดังนั้นท่านถึงได้ซึมเซาเป็นเช่นนี้ตลอดทั้งวัน”ไป๋จวิ้นเทาเพิ่งจะไปหาไป๋เฉิงหงมา แต่เขากลับเพียงแค่สั่งให้ไปตามหมอมารักษามารดา ส่วนตนเองยังคงอยู่ในเรือนนั้นโดยไม่มีท่าทีว่าจะออกมาเลย“ทำไมกัน? นังแพศยานั่นตายไปแล้ว เขายังจะคอยคิดถึงนางอีกหรือ?”ในดวงตาของหลี่ว์เหวินซิ่วเต็มไปด้วยความไม่ยอม ทั้ง ๆ ที่นางคือภรรยาที่ท่านโหวแต่งเข้ามาอย่างถูกต้องตามพิธี แต่เพราะในตอนนั้นร่างกายของนางไม่เอื้ออำนวย ทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เสียที ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ชอบหน้านางในตอนนั้นมีหญิงมากมายที่ถูกคัดเลือกเข้ามาเป็นอนุภรรยา แต่นางไม่ยอมให้อนุเหล่านั้นตั้งครรภ์และชิงความโดดเด่นไปก่อน และไม่ต้องการถูกผู้คนหัวเราะเยาะว่าไม่มีลูก จึงเป็นฝ่าย

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 246

    ราตรีดำมืดดุจน้ำหมึกสีเข้ม รอบข้างเงียบสงัด แม้ในเรือนจะจุดเทียน แต่ทันทีที่เสียงกรีดร้องของหลี่ว์เหวินซิ่วดังขึ้น ก็ทำให้ทุกคนต่างสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป?”สองพี่น้องไป๋จวิ้นอวี่พุ่งตัวเข้าไปในห้อง ก็เห็นหลี่ว์เหวินซิ่วใช้มือทั้งสองข้างบีบคอตนเองอย่างรุนแรง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว ราวกับจะบีบคอตนเองจนตาย“ท่านแม่ อย่าทำให้พวกเราตกใจเช่นนี้เลย!”สายตาของไป๋จวิ้นเทาเต็มไปด้วยความหวาดผวา ยืนแข็งทื่ออยู่ตรงที่เดิม ไม่กล้าเข้าไปใกล้แม้แต่ก้าวเดียว“เร็วเข้า ท่านหมอ รีบมาดูอาการของท่านแม่ข้า!” ไป๋จวิ้นอวี่ตะโกนอย่างร้อนรนแต่เมื่อหมอหลายคนเห็นฉากแปลกประหลาดนี้ ไหนเลยจะมีใครกล้าเข้าใกล้ พวกเขาต่างพากันวิ่งหนีออกไปด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับร้องตะโกนว่า“ผีหลอก!”“ผีหลอกแล้ว!”ไป๋จวิ้นอวี่รู้สึกโกรธจัด แต่ทำได้แค่วิ่งเข้าไปพร้อมตะโกนเรียกให้ไป๋จวิ้นเทามาช่วยกันแกะมือของหลี่ว์เหวินซิ่วออก แต่กลับพบว่าหลี่ว์เหวินซิ่วมีแรงมากผิดปกติ แม้พวกเขาสองคนร่วมกันก็ยังไม่สามารถปลดมือออกได้ทันใดนั้น หลี่ว์เหวินซิ่วพลันเปลี่ยนมาบีบคอไป๋จวิ้นอวี่แทน ในดวงตาของนางเต็มไปด้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 247

    “เรื่องนี้ไม่ใช่ข้าเพียงคนเดียวที่ได้ยิน ซวงซวงก็ได้ยินเช่นกัน ตอนนี้พวกเขาน่าจะไปแล้ว”สีหน้าของสวีเฮ่ออันเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ?”ทันใดนั้น สวีเฮ่ออันก็ไม่สนใจจะพูดอะไรอีก รีบเร่งตรงไปยังตระกูลซ่งทันที เรื่องที่อวิ๋นเฉิงเจ๋อถูกลอบโจมตีในวันนี้ อาจเกี่ยวข้องกับตระกูลฉิน ฉินซวงซวงมีเรื่องบาดหมางกับซ่งรั่วเจินอยู่ก่อนแล้ว หากคืนนี้จับโอกาสได้ ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะเกิดข่าวลืออะไรขึ้นบ้าง......ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูจวนตระกูลซ่งดังสนั่น ผู้คุ้มกันเปิดประตูออก มองไปที่กลุ่มของไป๋จวิ้นอวี่ด้วยความประหลาดใจ“พวกเราต้องการพบซ่งรั่วเจิน! รีบให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้!”ไป๋จวิ้นอวี่ร้อนรนจนทนไม่ไหว หากไม่รีบจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว เกรงว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาชีวิตของตนเองไว้ได้แล้ว!บ่าวในจวนตระกูลซ่งมองหน้ากัน ก่อนจะนึกถึงคำสั่งที่แม่นางของพวกเขาเคยสั่งไว้ จึงไม่ขัดขวางทว่าทันทีที่ไป๋จวิ้นอวี่และกลุ่มคนเข้ามาในจวนตระกูลซ่งได้ไม่นาน ไป๋จื่อมู่และไป๋เฉิงหงก็ได้ข่าวและรีบตามมาทันทีพวกเขาไม่คาดคิดว่าไป๋จวิ้นอวี่และคนอื่น ๆ จะก่อเรื่องเช่นนี้ กลุ่มคนมากมายมาบุกจวนตระกูลซ่งในยาม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 248

    หลี่ว์เหวินซิ่วมองเส้นดำบนฝ่ามือตนเองอย่างตกใจ เหลือเพียงนิดเดียวเส้นนั้นก็จะถึงปลายนิ้ว นางตกใจจนล้มทรุดลงกับพื้น “เหตุ...เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้...”ไป๋เฉิงหงและคนอื่น ๆ เห็นเส้นดำชัดเจนบนมือของหลี่ว์เหวินซิ่ว ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกส่วนหนึ่งเพราะรู้ว่าหลี่ว์เหวินซิ่วเหลือเวลาอีกเพียงเล็กน้อย อีกส่วนหนึ่งก็เพราะตะลึงกับความสามารถของซ่งรั่วเจิน เดิมทีเส้นนั้นไม่มีอยู่เลย แต่เพียงแค่นางวาดยันต์ ทุกอย่างก็ปรากฏออกมา“ซ่งรั่วเจิน เจ้ารีบช่วยข้า ข้าไม่อยากตาย!”หลี่ว์เหวินซิ่วมองดูเส้นดำที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังปลายนิ้ว นางไม่มีท่าทีหยิ่งผยองเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว“ท่านไม่อยากตาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะเบา ๆ นางเกลียดคนอย่างหลี่ว์เหวินซิ่วที่สุดคนที่ไม่เคยเห็นค่าชีวิตของผู้อื่น ชอบชี้นิ้วสั่งการไปทั่ว แม้แต่ตอนที่ขอให้คนช่วยเหลือก็ยังทำตัวสูงส่ง ไม่รู้เลยว่าเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหน?“ทั้ง ๆ ที่เจ้ามีวิธีช่วยข้า แต่กลับตั้งใจไม่ช่วย ไยเจ้าช่างอำมหิตนัก?”หลี่ว์เหวินซิ่วโกรธจัด แล้วหันไปชี้นิ้วใส่ไป๋จื่อมู่ด้วยความเดือดด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 249

    “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ข้าขอพูดให้ชัด ข้าจะไม่เอาทรัพย์สินจากจวนโหวแม้แต่น้อย““นับจากวันนี้ไป ข้าจะไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับจวนไป๋โหวอีกต่อไป!”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ไป๋จวิ้นอวี่และไป๋จวิ้นเทามองหน้ากันด้วยความยินดีที่แทบปกปิดไม่มิดส่วนไป๋เฉิงหงสีหน้าย่ำแย่ “เจ้าพูดบ้าอะไร? เจ้าคือบุตรของข้า จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับจวนโหวได้อย่างไร?”“ข้าและท่านแม่ของข้าไม่ควรจะอยู่ในจวนโหวตั้งแต่แรกแล้ว ตอนนั้นนางคิดจะพาข้าไป แต่ท่านที่ขัดขวางนางไว้”“ตอนนี้ข้าอยู่ในจวนโหว ก็กลายเป็นหนามยอกอกของพวกเขามานานแล้ว แม้แต่ท่านพ่อเมื่อครู่ก็ยังไม่เชื่อข้าเลยมิใช่หรือ?”ในดวงตาของไป๋จื่อมู่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน นับตั้งแต่ที่เขาได้รู้ความจริง แม้เขาจะเกลียดหลี่ว์เหวินซิ่ว แต่คนที่เขาเกลียดมากกว่าคือไป๋เฉิงหงเพราะหลี่ว์เหวินซิ่วไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาโดยตรง แต่ไป๋เฉิงหงคือบิดาของเขา ชายที่เคยหลอกลวงมารดาของเขา ทำลายชีวิตนาง และปิดบังความจริงจากเขามาตลอดหากไม่ใช่เพราะแม่นมสวี เขาคงตายไปแล้ว เช่นเดียวกับมารดาของเขาแต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ ไป๋เฉิงหงกลับยังสงสัยว่าเขาวางแผนใส่ร้ายหลี่ว์เหวินซิ่ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 250

    พลั่ก!ซ่งจืออวี้ยกเท้าถีบไป๋จวิ้นอวี่อย่างไม่ลังเล กล้าคิดแตะต้องน้องสาวของเขาต่อหน้าต่อตา อยากตายนักหรือ!ขณะเดียวกัน ฉู่จวินถิงก็ลงมือด้วยเช่นกันฉู่จวินถิงเหวี่ยงพัดในมือไปออกไป มันพุ่งกระแทกใบหน้าของไป๋จวิ้นอวี่อย่างรุนแรง!ไป๋จวิ้นอวี่ล้มลงอย่างแรง มือเท้าชี้ขึ้นฟ้าอย่างไม่เป็นท่า ความเจ็บปวดแล่นขึ้นมาที่หน้าท้อง ใบหน้าบวมเป่ง เลือดกำเดาไหลออกมาอย่างบ้าคลั่ง สภาพของเขาช่างน่าเวทนายิ่งนักซ่งจืออวี้หันไปมองฉู่อ๋องด้วยความแปลกใจ เขาจะปกป้องน้องหญิงห้าของเขาไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เหตุใดฉู่อ๋องถึงได้ลงมือปกป้องน้องหญิงห้าเช่นกัน?พัดเล่มนั้น...ดูท่าจะมีมูลค่าไม่น้อยกระมัง?แต่กลับโยนทิ้งไปแบบนี้!ซ่งรั่วเจินมองสอง ‘ผู้พิทักษ์’ ข้างกาย นางได้แต่ถอนใจเบา ๆ ในใจว่า ‘ยังไม่ทันได้ให้โอกาสนางลงมือเลย!’ขณะเดียวกัน ไป๋จวิ้นเทาคว้าคอเสื้อไป๋จื่อมู่ไว้แน่น พร้อมพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า“ไป๋จื่อมู่ เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่? ท่านแม่ข้าเลี้ยงเจ้ามาหลายปี เจ้ากลับร่วมมือกับซ่งรั่วเจินเพื่อฆ่านาง ข้าจะไม่มีวันปล่อยเจ้าไป!”“พรุ่งนี้ข้าจะให้ทุกคนรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของพวกเจ้า พวกเจ้าสมคบคิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 251

    คนต่ำช้าพวกนี้!“อั่ก!”หลี่ว์เหวินซิ่วกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ดวงตาทั้งสองจับจ้องซ่งรั่วเจินเขม็ง“ข้าพูดออกมาหมดแล้ว ตอนนี้เจ้าควรช่วยข้าได้แล้วกระมัง?”“ถ้าท่านขอร้องข้าตั้งแต่สามวันก่อน ข้าพยายามสุดความสามารถอาจยังช่วยเหลือท่านได้ แต่ข้าก็บอกแล้วว่าหากผ่านพ้นคืนนั้นไป พระหรือเทพก็ยากจะช่วยเหลือได้แล้ว”“ตอนนี้ไอพยาบาทแทรกซึมเข้าร่างท่านมากจนกลายเป็นไอมรณะ นอกจากนี้ คนที่ถูกท่านทำร้ายจนตายก็ไม่ยินดีอโหสิกรรมให้ท่าน ข้าทำได้เพียงช่วยยื้อเวลาให้ท่านเท่านั้น” ซ่งรั่วเจินตอบด้วยสีหน้าลำบากใจไป๋จวิ้นเทาหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าหมายความว่าอย่างไร? หรือว่าเจ้าช่วยไม่ได้งั้นรึ?”“ท่านช่วยได้งั้นรึ?” ซ่งรั่วเจินย้อนถาม“เจ้าช่วยไม่ได้แล้วมาอวดดีอยู่ตรงนี้ทำไม? หากแม่ข้าตาย เจ้าก็อย่าหวังเลยว่าจะรอดไปได้!”ไป๋จวิ้นเทาตวาดเสียงกร้าว ทว่าชั่วพริบตาถัดมาก็ถูกฝักดาบฟาดอย่างรุนแรงจนสลบไป“หนวกหู”ฉู่จวินถิงแววตาเฉยเมย ถ้อยคำเพียงสองพยางค์กลับทำให้ทุกคนจากจวนสกุลไป๋ไม่กล้าโวยวายอีกแม้แต่คำเดียวไป๋จวิ้นอวี่เลือดกำเดาหยุดไหลแล้ว มีบทเรียนให้เห็นเมื่อครู่จึงเพียงถามเสียงอ่อน“แม่นางซ่ง เจ้าเ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status