Share

บทที่ 212

Author: จี้เวยเวย
“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

ไป๋จื่อมู่ยืนตะลึงงันอยู่ที่เดิม ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

“แม่นางซ่งเอ่ยเช่นนี้ คงไม่ใช่เรื่องเท็จแน่ ลองคิดให้ดีเถิด ตลอดหลายปีที่เจ้าพำนักอยู่ร่วมกับไป๋ฮูหยิน เจ้าไม่เคยรู้สึกถึงความผิดแปลกแม้สักนิดเลยหรือ?” ฉู่จวินถิงเอ่ยถามด้วยเสียงหนักแน่น

ซ่งรั่วเจินหันไปมองชายหนุ่มข้างกายด้วยความประหลาดใจ เรื่องที่น่าตกตะลึงถึงเพียงนี้ เขากลับเชื่อโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยเลยหรือ?

ไป๋จื่อมู่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยความไม่แน่ใจ “แม่นางซ่ง ที่เจ้ากล่าวมาทั้งหมดเป็นความจริงหรือ?”

“เรื่องเช่นนี้ข้าไม่กล่าวความเท็จกับท่านหรอก” ซ่งรั่วเจินพยักหน้าอย่างหนักแน่น

“ข้าเข้าใจแล้ว” ไป๋จื่อมู่ยิ้มเยาะตนเอง รอยยิ้มที่ปรากฏนั้นแฝงไว้ด้วยความเศร้าสร้อย “แท้จริงแล้ว ข้ารู้ตั้งแต่ยังเยาว์ว่าท่านแม่รักน้องชายทั้งสองมากกว่า ข้าไม่เคยได้รับความใส่ใจเท่าพวกเขา”

“ทุกคนล้วนบอกว่าเป็นเพราะข้าเป็นบุตรชายคนโต จำต้องแบกรับหน้าที่ในการสร้างความรุ่งเรืองให้แก่ตระกูล จึงต้องเข้มงวดกับข้าเป็นพิเศษ...”

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยสงสัย แต่ทุกคนรอบตัวต่างยืนกรานว่าความคิดของเขานั้นผิดไป

พวกเข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 213

    “ท่านอ๋องไม่สงสัยหรือว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไร?”ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่อ๋องยังคงมีสีหน้าปกติราวกับไม่แปลกใจในเรื่องนี้เลย นางจึงรู้สึกแปลกใจไม่น้อย“ก่อนหน้านี้ข้าเคยพบไป๋ฮูหยิน ท่าทีของนางที่มีต่อไป๋จื่อมู่ไม่เหมือนกับมารดาที่รักและเอ็นดูบุตร วันนี้ได้ฟังคำของเจ้า ข้ากลับคิดว่ามันสมเหตุสมผลยิ่งนัก”“ในวังหลวง หากมีสนมคนใดต้องโทษ บุตรของนางจะถูกยกให้ฮองเฮาหรือสนมตำแหน่งสูงเลี้ยงดู”“ครานั้นไป๋ฮูหยินแต่งงานมาได้สามปียังไม่ตั้งครรภ์ ฮูหยินผู้เฒ่าเคยมีความคิดจะให้ใต้เท้าไป๋หย่าขาดเพื่อแต่งภรรยาใหม่ ข้าจึงคิดว่าไป๋จื่อมู่คงเป็นบุตรของอนุภรรยา เพียงแต่เลี้ยงดูในนามไป๋ฮูหยิน”“หลังจากที่ไป๋ฮูหยินตั้งครรภ์เอง นางก็ยิ่งห่างเหินจากไป๋จื่อมู่ไปตามธรรมชาติ”ฉู่จวินถิงดูเหมือนจะเข้าใจทุกสิ่ง เขาเติบโตในวังหลวง เรื่องเช่นนี้เห็นมามากมาย จึงไม่ได้รู้สึกแปลกใจนักเพียงแต่ที่ตระกูลไป๋ปิดบังเรื่องนี้ก็ยังพอเข้าใจได้ ทว่าการที่ไม่เปิดโอกาสให้ไป๋จื่อมู่ได้พบเจอมารดาแท้ๆ เลยนั้น นับว่าเกินไปแล้วซ่งรั่วเจินถอนหายใจเบาๆ “หากเป็นเพียงอนุภรรยาทั่วไป คงไม่ทิ้งร่องรอยความอาฆาตรุนแรงไว้ที่นี่ จนไม่อาจไปเกิด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 214

    หลี่ว์เหวินซิ่วแสร้งทำหน้าเศร้าสลด “หลายวันก่อนหม่อมฉันไม่สบาย เรียกให้เขากลับมา แต่เขาก็ไม่แม้แต่จะสนใจ!”“หม่อมฉันเฝ้าเลี้ยงดูเขาจนเติบใหญ่ กล่อมเกลาเขาให้เป็นคนเก่ง บัดนี้พอมีตำแหน่งขุนนางเขากลับไม่เห็นหัวมารดาคนนี้อีกแล้ว ชะตาชีวิตของข้าช่างน่าเวทนาเสียจริง!”“พี่ใหญ่ ท่านไม่คิดถึงจิตใจท่านแม่บ้างเลยหรือ? ยังไม่รีบยอมรับผิดอีก!”ไป๋จวิ้นอวี่ทำหน้าเคร่งขรึม รีบฉวยโอกาสกล่าวตำหนิ “ข้าอาจจะไม่เก่งเท่าท่าน แต่ข้าเข้าใจดีว่าการเป็นคนนั้นความกตัญญูสำคัญที่สุด!”“กตัญญูหรือ? หากมารดาเมตตา บุตรย่อมกตัญญู ยิ่งไปกว่านั้น ข้าหาใช่บุตรที่ท่านให้กำเนิดไม่ ไยต้องเสแสร้งเช่นนี้ด้วย?”ไป๋จื่อมู่กำจดหมายในมือแน่น ดวงตาแดงก่ำ ใบหน้าที่เคยสงบนิ่งและอ่อนโยนของเขาในยามนี้กลับแฝงด้วยความโกรธเกรี้ยวหลี่ว์เหวินซิ่วสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เจ้าพูดอะไรน่ะ? ข้าเพียงแค่ตำหนิเจ้าไม่กี่คำ เจ้าก็ถึงขั้นไม่ยอมรับข้าเป็นแม่แล้วหรือ?”“มารดาแท้ๆ ของข้าคืออวี้เยว่หลิง เพราะความเห็นแก่ตัวของท่านนางถึงถูกขังอยู่ในเรือนนี้จนตาย ตอนนี้ท่านยังคิดจะรื้อเรือนที่นางเคยอยู่ทิ้งไปอีก!”“ไป๋ฮูหยิน ข้าขอเตือนท่านสักคำ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 215

    “พวกท่านไม่มีบุตร ก็รับอนุภรรยาสักคนก็ได้ เหตุใดต้องทำร้ายนางด้วย?”“หลอกลวงนางไม่พอ ยังขังนางไว้ที่นี่ แย่งชิงบุตรของนาง ทำลายชีวิตของนาง พวกท่านมีสิทธิ์อะไรที่จะทำเช่นนั้น!”ไป๋จื่อมู่ตะโกนด้วยเสียงแหบพร่า เขาแทบไม่เชื่อว่าบิดาที่เขาภาคภูมิใจมาตลอด และมารดาที่เขาเคารพรักจะกลายเป็นคนโหดร้ายเช่นนี้!ส่วนตัวเขาเอง คนที่เคยคิดว่าตนเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา คุณชายที่เป็นชื่นชมของทุกคนในเมืองหลวง แท้จริงแล้วกลับเป็นคนโง่เขลาอย่างสิ้นเชิงเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามารดาผู้ให้กำเนิดเขาต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อเขามากมายเช่นนี้ ถึงขนาดที่นางจากไปแล้วหลายปี เขาก็เพิ่งรู้ถึงการมีอยู่ของนาง...เหล่าบ่าวรับใช้ที่อยู่รอบๆ ต่างเบิกตากว้าง นึกถึงข่าวลือที่เคยได้ยิน แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีโอกาสพูดอะไรได้มากนัก เพราะถูกเตือนให้ระวังคำพูดจนบัดนี้ได้รู้ความจริงว่ามารดาของคุณชายใหญ่เป็นผู้อื่น ทุกสิ่งทุกอย่างจึงกระจ่างชัดในตอนนี้เอง!“เจ้าฟังแค่คำลือไม่กี่คำก็ปักใจเชื่อว่าไม่ใช่บุตรข้า เจ้าลูกอกตัญญู ทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก!”หลี่ว์เหวินซิ่วสีหน้าเขียวคล้ำ “ใครก็ได้ จงนำลูกอกตัญญูคนนี้ไปลงโทษตามกฎตระกูลเสีย!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 216

    “ไป๋ฮูหยิน!” ฉู่จวินถิงเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา “ในเมื่อท่านมิใช่มารดาแท้ๆ ของจื่อมู่ การที่เขาพูดถึงมารดาผู้ล่วงลับ ท่านก็ไม่มีความจำเป็นต้องพูดแทรก”หลี่ว์เหวินซิ่วที่กำลังจะกล่าวตำหนิไป๋จื่อมู่ต่อ เมื่อถูกฉู่จวินถิงตักเตือนขึ้นมา นางก็สะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจหากเป็นวันอื่น นางคงไม่กล้าพูดมากต่อหน้าฉู่อ๋อง แต่วันนี้เป็นเรื่องภายในของตระกูลไป๋ ต่อให้ฉู่อ๋องจะมีอำนาจสูงส่งเพียงใด ก็ไม่อาจแทรกแซงเรื่องครอบครัวได้“ท่านอ๋อง เรื่องนี้เป็นเรื่องในจวนของพวกเรา…” หลี่ว์เหวินซิ่วเอ่ยอย่างลังเล“ก็เพราะเป็นเรื่องของตระกูลไป๋ ข้าจึงไม่ได้พูดมากกว่านี้ มิเช่นนั้นไป๋ฮูหยินคิดหรือว่าการกระทำที่ไร้มารยาทเช่นนี้จะยังยืนอยู่ที่นี่ได้?”ฉู่จวินถิงกวาดตามองหลี่ว์เหวินซิ่วด้วยสายตาเย็นชา ดวงตาที่เยือกเย็นของเขาแฝงด้วยความเคร่งขรึมและดุดันหลี่ว์เหวินซิ่วถึงกับพูดไม่ออก นางรีบปิดปากเงียบในทันที นึกในใจว่าอำนาจและบารมีของฉู่จวินถิงช่างน่ากลัวเหลือเกิน ไม่รู้ว่าไป๋จื่อมู่ไปทำบุญด้วยอะไร ถึงได้ติดตามรับใช้ฉู่อ๋องเมื่อไป๋โหวเดินเข้ามาใกล้และเห็นจดหมายในมือของไป๋จื่อมู่ รวมถึงสิ่งของในกล่อง เขาก็เริ่มน้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 217

    หลี่ว์เหวินซิ่วสังเกตเห็นซ่งรั่วเจินตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นใด เพียงเพราะรูปลักษณ์ของนางที่โดดเด่นจนยากจะมองข้ามแม้นางจะไม่รู้จักซ่งรั่วเจิน แต่เมื่อเห็นว่าซ่งรั่วเจินอยู่เคียงข้างฉู่อ๋อง ก็พอคาดเดาฐานะของนางได้ไม่ยาก เพียงแค่สตรีที่ใช้ความงามเพื่อรับใช้ผู้คน แต่กลับกล้าสอดมือเข้ามาในเรื่องของตระกูลไป๋เช่นนี้หรือ?“แม่นาง คำพูดของเจ้าหมายความว่าอย่างไร?”“ไป๋ฮูหยิน ท่านรู้ดีว่าตนเองเคยทำอะไรลงไป หากไม่ใช่เพราะคำโกหกและการใส่ร้ายป้ายสีของท่านในตอนนั้น มารดาของคุณชายไป๋ก็คงไม่ต้องตายอย่างทุกข์ทรมานเช่นนี้”หลี่ว์เหวินซิ่วสีหน้าถอดสี “เจ้ารู้อะไรถึงได้พูดจาเหลวไหลเช่นนี้!”ซ่งรั่วเจินไม่สนใจกับความโกรธของหลี่ว์เหวินซิ่ว “ไป๋ฮูหยิน ข้าขอเตือนด้วยความหวังดี หน้าผากท่านดำคล้ำ ดวงตาลึกโบ๋ ช่วงนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการตายของคน ทำให้วิญญาณอาฆาตตามทวงชีวิต”“หากไม่แก้ไขโดยเร็ว ภายในสามวันท่านคงไม่รอด”“ส่วนเรื่องที่ท่านอ้างว่าป่วยเพราะเรือนของคุณชายไป๋ส่งผลร้ายต่อท่านนั้น ล้วนเป็นคำพูดเหลวไหล บาปกรรมที่ท่านก่อขึ้นต่างหากที่ทำให้ท่านต้องรับผลเช่นนี้”“คนตายหรือ?”ทุกคนในที่นั

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 218

    ไป๋จื่อมู่ขมวดคิ้วแน่น แม่นมสวีเป็นคนที่ปฏิบัติต่อเขาดีมาโดยตลอด การจากไปอย่างกะทันหันของนางทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ เขาจึงพยายามสืบหาความจริงเพียงแต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รายละเอียดที่มีประโยชน์อะไร“ก็แค่แม่นมคนหนึ่งเท่านั้น นางอยู่ในเรือนของท่านแม่ ข้าก็แปลกใจที่นางป่วยและตายกะทันหัน แต่เพราะสภาพศพของนางน่ากลัวมากและนางยังทิ้งคำสั่งเสียไว้ก่อนตาย ท่านแม่จึงสั่งให้ทำเช่นนั้น มีอะไรแปลกตรงไหน?”ไป๋จวิ้นอวี่รีบพูดออกมา อยากจะกล่าวหาซ่งรั่วเจินว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋น แต่คำพูดยังไม่จบก็เห็นสายตาเย็นชาของฉู่อ๋อง คำพูดเหล่านั้นก็ถูกกลืนกลับไปทันทีเขาไม่กล้ากล่าวหาแขกคนสำคัญของฉู่อ๋อง มิเช่นนั้นหากทำให้ฉู่อ๋องพิโรธขึ้นมา ผลลัพธ์ที่ตามมาเขาย่อมรับไม่ไหว“พี่ใหญ่ แม้ท่านจะโกรธท่านแม่เพราะเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ควรปั้นเรื่องขึ้นมาเพื่อกล่าวหาท่านแม่นะ!”“ท่านแม่เป็นคนมีเมตตา จู่ๆ ท่านแม่จะไปฆ่าแม่นมสวีทำไม?”ไป๋จวิ้นอวี่ไม่กล้ากล่าวโทษซ่งรั่วเจิน แต่กลับไม่กลัวที่จะต่อกรกับไป๋จื่อมู่ในเมื่อเรื่องชาติกำเนิดของไป๋จื่อมู่ถูกเปิดเผยแล้ว เขาก็อยากทำให้เรื่องบานปลายยิ่งขึ้น เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าจื่อมู่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 219

    แม่ลูกคู่นี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พบกันและพูดคุยกันอย่างจริงจัง คงเป็นเรื่องที่อวี้เยว่หลิงเสียใจที่สุดส่วนการคลี่คลายพลังอาฆาตและส่งอวี้เยว่หลิงไปเกิดใหม่ ค่อยพูดคุยกันหลังจากที่แม่ลูกได้พบกันแล้ว วันนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก“ขอบคุณแม่นางซ่งมาก”ไป๋จื่อมู่รับธูปดอกนั้นด้วยความขอบคุณ ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายตระกูลต่ง ซึ่งเล่ากันอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ว่าในใจเขายังไม่ปักใจเชื่อเต็มที่ว่าจะเป็นความจริงแต่ในเวลานี้ เมื่อได้ธูปนี้มา ความคาดหวังก็เกิดขึ้นในใจอย่างท่วมท้นหากเขายังมีโอกาสได้พบกับท่านแม่อีกครั้ง นั่นคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด!ไป๋เฉิงหงที่อยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาก็สว่างวาบ รีบถามออกมาทันที “แม่นางซ่ง ข้าขอธูปสักดอกได้หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองไปที่อวี้เยว่หลิง เห็นนางส่ายศีรษะเบาๆ นางจึงตอบว่า “นางไม่อยากพบท่าน”ไป๋เฉิงหงรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของซ่งรั่วเจิน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ “นางอยู่ที่นี่หรือ? เจ้าเห็นนางได้หรือ?”“เจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินไม่ปฏิเสธดวงตาของไป๋เฉิงหงเริ่มแดงก่ำ “แม่นางซ่ง ข้าขอร้องเถิด ให้ข้าได้พบหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 220

    บนรถม้า ฉู่จวินถิงมองสำรวจหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ แววตาดำขลับลึกล้ำแฝงความสงสัยอยู่หลายส่วน“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าหากไป๋ฮูหยินไม่พูดความจริง ภายในสามวันนางจะต้องตาย นั่นเป็นเรื่องจริงหรือ?”“ท่านอ๋องคิดว่าข้าจงใจพูดลวงหรือ?” ซ่งรั่วเจินยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับถามกลับ“เวลาสอบสวนผู้ต้องหา บางครั้งก็ใช้วิธีการหลอกลวง หากใช้อย่างเหมาะสมก็อาจได้ผลดี แต่จากที่ข้ามองดูสิ่งที่เจ้าพูดมา ข้าไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องโกหก”ฉู่จวินถิงที่ได้เห็นซ่งรั่วเจินคำนวณด้วยนิ้วมือและสามารถล่วงรู้ความลับในตระกูลไป๋มากมายเช่นนั้น ก็ยิ่งรู้สึกว่าสตรีผู้นี้เป็นผู้มีความสามารถอย่างแท้จริงความสามารถเช่นนี้ หากนำไปใช้ในด้านอื่นก็คงมีประโยชน์มากทีเดียว“ท่านอ๋องเคยได้ยินคำว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วหรือไม่เพคะ? ไม่ใช่ว่าจะไม่โดนกรรมตามสนอง เพียงแค่ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น”“ไป๋ฮูหยินเดิมทีก็ก่อกรรมไว้มากมาย นางทำลายชีวิตของอวี้เยว่หลิงเพื่อรักษาตำแหน่งของตนเอง และเพื่อให้บุตรชายของนางได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ นางจึงวางแผนจะฆ่าคุณชายไป๋”“แม่นมสวีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอวี้เยว่หลิง นางได้รับคำฝากฝังให้มาที่จวนตระกูลไป๋

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status