แชร์

บทที่ 163

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
“เจ้าว่าอะไรนะ?” ฝานซืออิ๋งตกตะลึง มือข้างหนึ่งชี้ตัวเองพลางเอ่ยเสียงแหลมสูง “เจ้ากำลังขู่ข้าหรือ?”

“ข้าขู่ท่านแล้วอย่างไรเล่า?” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วอย่างเกียจคร้าน “ยามนี้ทั้งเมืองหลวงมีใครไม่รู้บ้างว่าหลังหลินจือเยว่ถูกถอนหมั้นแล้ว ตอนนี้ตกต่ำลงแค่ไหน?”

“เดิมทีข้าไม่อยากถือสาหาความท่าน แต่ท่านรนหาที่เอง อ้าปากหุบปากก็เอาแต่พูดว่าข้าหาเรื่องท่าน เช่นนั้นก็อย่ามาโทษที่ข้าหาเรื่องท่านจริงๆ ก็แล้วกัน!”

“ข้าเป็นพี่สะใภ้ของเจ้านะ นังเด็กเมื่อวานซืนที่จะต้องออกเรือนไปไม่ช้าก็เร็ว เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาพูดจากับข้าแบบนี้!”

เพียะ!

ซ่งรั่วเจินเงื้อมือตบไปหนึ่งฉาด

“นังคนชั้นต่ำ เจ้ากล้าตบข้ารึ เจ้ากับข้าต้องตายกันไปข้าง!”

ฝานซืออิ๋งโมโหจนตาแดงก่ำ เอื้อมมือเข้าไปหมายกระชากผมซ่งรั่วเจิน

แต่ซ่งรั่วเจินเพียงมองนางอย่างเฉยเมย แล้วเงื้อมือขึ้นตบอีกฉาด

เพียะ!

ตบทั้งสองครั้งล้วนใช้แรงไม่เบา ความเหยียดหยามยังหนักข้อยิ่งกว่า

ซ่งรั่วเจินรังเกียจครอบครัวฝานซืออิ๋งอย่างที่สุดอยู่เป็นทุนเดิม หากนางไม่ได้ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย คนดีๆ อย่างซ่งเยี่ยนโจวคงถูกนางทำร้ายจนตายทั้งเป็น!

ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนเป็นนางท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 164

    “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”เฉียนชิวเซียงเห็นว่าแสร้งทำตัวน่าสงสารและโวยวายล้วนไม่มีประโยชน์ ตระหนักว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนที่ไม่สามารถต่อกรด้วยง่ายๆ จึงไม่ร้องไห้โวยวายอีกเห็นที ซืออิ๋งจัดการคนอื่นในตระกูลซ่งได้หมดแล้ว แต่กลับมาแพ้ให้นังเด็กนี่?“ลงนามบนหนังสือหย่าเดี๋ยวนี้ หลังจากนั้นเก็บข้าวของจากไป ไม่อย่างนั้นเกรงว่าวันนี้พวกท่านสามคนได้เจ็บตัวแน่!”ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพี่สามของตนเอง ซ่งจืออวี้รีบก้าวออกมาตีหน้าดุร้ายถมึงทึงซ่งเยี่ยนโจวมองน้องสาวของตนด้วยความประหลาดใจ ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาเห็นนางก็พบว่านิสัยนางแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างมากเดิมทีนึกว่าหลังถอนหมั้นจึงมองทุกอย่างด้วยความชืดชากว่าเดิม นิสัยก็เปลี่ยนเป็นดื้อรั้นกว่าเดิมจนถึงชั่วขณะนี้ เขาจึงตระหนักว่าความเปลี่ยนแปลงของน้องสาวยังมากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก“เยี่ยนโจว ท่านจะปล่อยให้นังเด็กร้ายกาจนี่มารังแกพวกข้าทั้งครอบครัวงั้นหรือ? ข้าเป็นภรรยาที่ถูกต้องชอบธรรมของท่านนะ!”ฝานซืออิ๋งมองฝานเซี่ยงหรงที่ข้อไหล่หลุดสองข้าง ใบหน้ายังมีเหงื่อเย็นแตกพลั่ก ในใจก็อดหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ ทำได้เพียงมองไปทางซ่งเยี่ยนโจวด้วยแววตาขอร้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 165

    กอบโกยผลประโยชน์ไปแล้วยังมาหาเรื่องกันอีกด้วย!แต่ขณะที่เฉียนชิวเซียงพูดแบบนั้นก็ได้ยินฝานเซี่ยงหรงโพล่งขึ้นด้วยความร้อนใจ“ท่านแม่ รีบหยุดผู้หญิงคนนี้ไว้เร็วเข้า!”เฉียนชิวเซียงหันกลับมา ก็พบว่าซ่งรั่วเจินไม่รู้จับมือฝานเซี่ยงหรงไปประทับรอยนิ้วบนกระดาษตั้งแต่เมื่อใด“กระดาษแผ่นนั้นเขียนอันใดเอาไว้?” นางรีบร้อนถามซ่งรั่วเจินปัดกระดาษในมือเบาๆ ใบหน้าเผยความพึงพอใจ“กระดาษแผ่นนี้เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าฝานเซี่ยงหรงขอยืมเงินจากตระกูลซ่งของพวกข้า ทั้งยังประทับรอยนิ้วมือแล้วด้วย”“พวกท่านลงนามในหนังสือหย่าแล้วจากไป ข้าก็จะคืนหลักฐานการยืมเงินนี้ให้พวกท่าน หากไม่ลงนาม พวกข้าก็จะไปแจ้งความ”นางรู้จักคนประเภทนี้ดี ป่วยการที่จะถกด้วยเหตุผล ต่อกรกับคนถ่อยก็ต้องใช้วิธีการของคนถ่อยกุมจุดอ่อนเอาไว้แล้วบังคับให้พวกเขาทำตามไปเลยดีกว่า“พวกเจ้ากล้ารึ!” “ท่านคิดว่าข้าไม่กล้างั้นรึ?” ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว“พวกเจ้าไม่กลัวว่าเรื่องนี้ลือออกไปแล้วจะทำลายชื่อเสียงตระกูลซ่งอย่างนั้นหรือ? พวกเจ้าเป็นตระกูลใหญ่โตมีกิจการมากมาย จะใส่ใจเงินแค่นี้ไปทำไม?”“เงินแค่นี้?” หลิ่วหรูเยียนอดโมโหไม่ได้ “ท่านร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 166

    เมื่อฝานซืออิ๋งลงนามและประทับรอยนิ้วมือเสร็จ ซ่งเยี่ยนโจวก็เก็บหนังสือหย่าฉบับหนึ่งในนั้น ก้อนหินหนักอึ้งในใจราวกับหล่นลงบนพื้น รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัวอย่างอธิบายไม่ถูก“นับแต่บัดนี้ สองฝ่ายแยกทาง ไม่ติดค้างต่อกันอีก”ฝานซืออิ๋งจ้องซ่งเยี่ยนโจวเขม็ง เห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาปราศจากความเสียใจและความอาลัยอาวรณ์แม้เศษเสี้ยว ก็รู้สึกอัดอั้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกพวกตนแต่งงานกันแล้วแท้ๆ ผู้ใดจะคาดคิดว่าชายผู้นี้จะใจจืดใจดำเช่นนี้ ในใจไม่มีนางอยู่เลยสักนิด!“หนังสือหย่าเขียนเสร็จแล้ว ตอนนี้ส่งหลักฐานการยืมเงินมาได้แล้วกระมัง?” เฉียนชิวเซียงรีบเอ่ยขึ้นซ่งรั่วเจินส่งหลักฐานการยืมเงินในมือไปให้ “ให้ท่าน”เฉียนชิวเซียงดึงมากวาดสายตามองแวบเดียวก็ฉีกเป็นชิ้นๆ!“ตระกูลซ่งช่างงามหน้าเหลือเกิน พวกเจ้าใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงผู้อื่น หาคนดีไม่ได้สักคน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ครอบครัวพวกเจ้า บางคนตาบอด บางคนพิการ ยังมีคนมุทะลุไร้หัวคิด กับลูกสาวขึ้นคานที่ขายไม่ออก นี่ก็คือกรรมตามสนอง!”น้ำเสียงแหลมประหนึ่งเคลือบพิษร้าย เฉียนชิวเซียงที่ฉีกหน้ากันไปแล้วไม่มีสิ่งใดต้องกังวลอีก จึงเผยโฉมหน้าอัปลักษณ์ที่แท้จริงออก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 167

    ทั้งที่ไม่มีสิ่งใดให้ต้องละอายใจแท้ๆ แต่กลับไม่ได้มีจุดจบที่ดี“ช่างเถอะ ตอนนี้ได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกเขาแล้ว หย่าก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเกรงว่าวันหน้าคงมีเรื่องให้กลุ้มใจไม่หยุดหย่อน”หลิ่วหรูเยียนคลี่ยิ้ม “ขอแค่พี่ใหญ่ของเจ้าสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง ทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”“ท่านแม่พูดถูก ผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ไปได้ ไม่ว่าสำหรับข้าหรือพี่ใหญ่ ความจริงล้วนแต่เป็นเรื่องดี”ดวงตาซ่งอี้อันฉายแววจริงจัง เขาในตอนนี้รู้สึกยินดียิ่งนักที่ไม่ได้แต่งงานกับจ้าวซูหว่าน ส่วนพี่ใหญ่กับฝานซืออิ๋งไม่เหมาะสมกันแต่แรกแล้ว แยกทางกันแต่เนิ่นๆ วันหน้าจึงจะได้มีชีวิตที่ดี“ไม่ผิด” ซ่งเยี่ยนโจวยิ้มออกมา “จนถึงตอนนี้ ข้าค่อยรู้สึกเหมือนได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง”“เยี่ยนโจว ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ยอมบอกว่าเหตุใดจึงต้องการแต่งงานกับฝานซืออิ๋ง ตอนนี้คงพูดได้แล้วกระมัง?” หลิ่วหรูเยียนถามซ่งเยี่ยนโจวบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตออกมา รวมถึงว่าตอนนั้นเขาถูกวางอุบายอย่างไร พอฟื้นขึ้นมาก็เห็นฝานซืออิ๋งนอนอยู่ข้างกายเขาฉากนั้นมีคนมาเห็นเข้าโดยบังเอิญ สุดท้ายจึงต้องแต่งงานกับฝานซืออิ๋งอย่างไร้ทาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 168

    “นางยังไม่ได้แต่งงานหรือ?”ความเหลือเชื่อวาบผ่านดวงตาซ่งเยี่ยนโจวพวกซ่งรั่วเจินสบตากัน หลิ่วหรูเยียนยิ่งเงียบงันไม่เอ่ยวาจาเหตุใดจึงไม่แต่งงาน พวกเขาคาดเดาในใจ เป็นไปได้มากว่าคงยังไม่ลืมซ่งเยี่ยนโจวแต่คำพูดนี้...ก่อนหน้านี้พวกเขาคนไหนก็ไม่สะดวกจะเอ่ยออกมา ยิ่งรู้เรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดต่อลั่วชิงอิน“พี่ใหญ่ ในเมื่อแม่นางลั่วยังไม่แต่งงาน ตอนนี้ท่านก็หย่าแล้ว ไม่อย่างนั้น...”ความคิดของซ่งจืออวี้เรียบง่ายที่สุดแล้ว ทั้งไม่ได้ห่วงพะวงอะไรมากมาย อย่างไรเสียยามนี้คนทั้งสองล้วนแต่ไร้พันธะ ขอเพียงพวกเขายินดีก็ยังสามารถสานบุพเพได้อีกครั้งแต่เขายังพูดไม่จบก็ถูกซ่งเยี่ยนโจวตัดบทเสียก่อน“อย่าพูดเหลวไหล!”ซ่งเยี่ยนโจวลดสายตามองล่าง ขนตาทอดเงาจางๆ อำพรางแววตาของเขาเอาไว้ ทำให้มองความรู้สึกของเขาไม่ออก แต่สามารถสัมผัสได้ถึงความอ้างว้าง“ตอนนี้ข้าอยู่ในสภาพนี้เสียแล้ว ยังจะคู่ควรกับนางอีกได้อย่างไร? อย่าพูดอะไรเหลวไหล จะทำให้นางเสื่อมเสียได้”ซ่งจืออวี้พยักหน้า เข้าใจความกังวลของซ่งเยี่ยนโจว “พี่ใหญ่วางใจ ข้าแค่พูดที่บ้านเท่านั้น ไม่เอาไปพูดส่งเดชข้างนอกเด็ดขาด”นี่เพิ่งจะหย่า หากม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 169

    ซ่งจืออวี้อยากถามมาตลอดว่าในเมื่อฝานซืออิ๋งเป็นคนประเภทนี้ เหตุใดจึงไม่เขียนหนังสือปลดภรรยาไปเสียเลย แต่กลับเลือกการหย่าร้าง?นี่เป็นการไว้หน้าคนพวกนั้นชัดๆ!“ใช่แล้ว” ซ่งรั่วเจินตอบรับ “วันนี้ท่านก็ได้เห็นระดับความหน้าไม่อายของพวกเขาแล้ว”“หากนางออกไปร้องไห้โวยวายข้างนอกว่าตระกูลซ่งทำไม่ดีกับนาง หรือพูดว่าพี่ใหญ่ไปรบสองปี นางดูแลเหย้าเรือน แต่พอพี่ใหญ่กลับมาก็ปลดนางเสียแล้ว พี่ใหญ่ก็จะกลายเป็นคนทรยศไร้หัวใจ”“นับแต่โบราณมา สตรีร้องไห้มักทำให้คนหลงเชื่อได้ง่ายกว่า ถึงตอนนั้นพอพวกเขาโวยวาย คำอธิบายของพี่ใหญ่ก็ยากจะทำให้ใครเชื่อถือ”“แต่สิ่งที่นางได้ไปคือหนังสือหย่า ไม่ใช่หนังสือปลด เรื่องนี้ก็อธิบายง่ายแล้ว”แววตาซ่งรั่วเจินเย็นชาดุจน้ำแข็ง คิดถึงภาพที่ซ่งเยี่ยนโจวในนิยายถูกผู้คนป้ายสีเยาะหยัน สุดท้ายต้องตายอย่างน่าอนาถกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง นางจะทำให้ฝานซืออิ๋งได้รับผลกรรมของตัวเอง!ชาติก่อนพวกเขาเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บีบคั้นให้ซ่งเยี่ยนโจวถึงแก่ความตาย ชาตินี้พวกนางก็จะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่บีบคั้นให้ตระกูลฝานพินาศย่อยยับเช่นกัน!ซ่งจืออวี้กลืนน้ำลาย เดิมทียังคิดว่าตระกู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 170

    จวนตระกูลหลินหลังจากพวกหลินจือเยว่กลับมาแล้วก็รู้สึกเหมือนร่างกายจะแยกออกจากกันเป็นส่วนๆ อย่างไรอย่างนั้น โดยเฉพาะฮูหยินผู้เฒ่าหลินเดิมนางก็อายุไม่น้อยแล้ว แม้หลายปีนี้จวนตระกูลหลินจะค่อยๆ เสื่อมโทรมลง แต่นางก็มีชีวิตสุขสบายมาโดยตลอด ไม่เคยต้องตกระกำลำบากถึงเพียงนี้จนกระทั่งได้เข้าไปอยู่ในคุกครั้งนี้ ถูกขังในนั้นหนึ่งวันแล้วยังถูกนำตัวไปสอบสวนก็เสียขวัญจนปล่อยเบาราดตัวเองประกอบกับยังถูกกู้อวิ๋นเวยปาโคลนใส่จนเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว ขณะนี้ทั่วร่างจึงส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งชวนคลื่นเหียน“ท่านแม่ ท่านรีบไปอาบน้ำเถิดเจ้าค่ะ”ฉินซวงซวงถูกโบยจึงเจ็บระบมไปทั้งตัว แต่ก็ยังพยายามพูดแสดงความห่วงใยต่อฮูหยินผู้เฒ่าหลินอย่างเต็มที่เพียะ!ฮูหยินผู้เฒ่าหลินเงื้อมือตบฉาด ในที่สุดก็ไม่สามารถข่มกลั้นความเคียดแค้นทั้งมวลและความโกรธที่ต้องขายหน้าได้อีกต่อไป“ล้วนเป็นเพราะเจ้าที่ทำให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพนี้ ทำให้จือเยว่สูญเสียตำแหน่งราชการ ตอนนี้เจ้าคงพอใจแล้วสินะ?”“เจ้ามันตัวหายนะชัดๆ หลังจากจือเยว่ตบแต่งเจ้าเข้ามา ที่บ้านก็ไม่เคยได้อยู่อย่างสงบ ตอนนี้ไม่มียศศักดิ์อันใดอีกแล้ว ตระกูลหลินจะใช้ชีวิตต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 171

    “ความฝันที่ข้าได้ฝันถึง บัดนี้ท่านคงเชื่อแล้วกระมัง?” ฉินซวงซวงเอ่ยถามหลินจือเยว่ชะงักไปเล็กน้อย “หรือเจ้าฝันอีกแล้ว?”ฉินซวงซวงพยักหน้า “ข้าฝันว่าอีกไม่กี่วัน ในพิธีล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ องค์ชายใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย”“ขอเพียงพวกเราเข้าช่วยองค์ชายใหญ่ได้ทันการณ์ ฮ่องเต้ย่อมต้องตอบแทนอย่างงาม ถึงยามนั้นแล้วท่านค่อยทูลขอให้ฮ่องเต้คืนตำแหน่งขุนนางให้กับท่าน ไหนจะยังมีตระกูลเซียวคอยช่วยเหลืออีก จะต้องกลับมายิ่งใหญ่เชิดหน้าชูตาได้แน่!”ได้ฟังเช่นนี้ ดวงตาของหลินจือเยว่ก็ทอประกายแสงขึ้นอีกครั้ง “ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?”"ข้ามีหรือจะโกหกท่านได้? แต่เดิมข้าคิดว่าฝันนั้นเป็นแผนของซ่งรั่วเจินที่จงใจใช้เล่นงานข้า บัดนี้ข้าเชื่อแล้วว่าคงไม่ข้องเกี่ยวกับนางจริงๆ ทว่าเป็นฟ้าดินที่กำลังช่วยเหลือพวกเราอยู่!”“เรื่องเงินนั้นเป็นเพียงความบังเอิญ ยามที่พวกเราขุดสมบัติโชคร้ายที่พวกเขามาพบเข้า ส่วนฝันนี้ที่จริงเป็นฝันที่เกิดขึ้นยามที่ข้าถูกขังอยู่ในคุกแล้ว”“ยามนั้นเป็นโอกาสที่ดีงามที่สุด จะให้ใครพบเห็นมิได้โดยเด็ดขาด น่าเสียดายที่ข้าถูกกักขังอยู่ในคุกเช่นนี้ ทั้งยังไม่มีโอกาสจะพบหน้าเ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status