Share

บทที่ 171

Author: จี้เวยเวย
“ความฝันที่ข้าได้ฝันถึง บัดนี้ท่านคงเชื่อแล้วกระมัง?” ฉินซวงซวงเอ่ยถาม

หลินจือเยว่ชะงักไปเล็กน้อย “หรือเจ้าฝันอีกแล้ว?”

ฉินซวงซวงพยักหน้า “ข้าฝันว่าอีกไม่กี่วัน ในพิธีล่าสัตว์ของเหล่าเชื้อพระวงศ์ องค์ชายใหญ่จะตกอยู่ในอันตราย”

“ขอเพียงพวกเราเข้าช่วยองค์ชายใหญ่ได้ทันการณ์ ฮ่องเต้ย่อมต้องตอบแทนอย่างงาม ถึงยามนั้นแล้วท่านค่อยทูลขอให้ฮ่องเต้คืนตำแหน่งขุนนางให้กับท่าน ไหนจะยังมีตระกูลเซียวคอยช่วยเหลืออีก จะต้องกลับมายิ่งใหญ่เชิดหน้าชูตาได้แน่!”

ได้ฟังเช่นนี้ ดวงตาของหลินจือเยว่ก็ทอประกายแสงขึ้นอีกครั้ง “ที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริงหรือ?”

"ข้ามีหรือจะโกหกท่านได้? แต่เดิมข้าคิดว่าฝันนั้นเป็นแผนของซ่งรั่วเจินที่จงใจใช้เล่นงานข้า บัดนี้ข้าเชื่อแล้วว่าคงไม่ข้องเกี่ยวกับนางจริงๆ ทว่าเป็นฟ้าดินที่กำลังช่วยเหลือพวกเราอยู่!”

“เรื่องเงินนั้นเป็นเพียงความบังเอิญ ยามที่พวกเราขุดสมบัติโชคร้ายที่พวกเขามาพบเข้า ส่วนฝันนี้ที่จริงเป็นฝันที่เกิดขึ้นยามที่ข้าถูกขังอยู่ในคุกแล้ว”

“ยามนั้นเป็นโอกาสที่ดีงามที่สุด จะให้ใครพบเห็นมิได้โดยเด็ดขาด น่าเสียดายที่ข้าถูกกักขังอยู่ในคุกเช่นนี้ ทั้งยังไม่มีโอกาสจะพบหน้าเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 172

    ณ จวนสกุลฝานนายท่านฝานเมื่อได้ยินว่าฝานซืออิ๋งถูกขับไล่ออกจากสกุลซ่ง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน“ดูสิว่าเจ้าไปทำงามหน้าอะไรไว้! เดิมซ่งเยี่ยนโจวก็เจ็บกายสาหัสแล้ว กำลังต้องการการดูแลใกล้ชิดจากเจ้า เจ้าก็ควรเอาใจใส่ดูแลเขา คว้าใจเขาให้อยู่หมัด”“แต่เจ้ากลับดื้อดึงอยากจะกลับบ้านตนให้ได้ บุรุษคนใดจะทานทนได้?”“ตอนนี้เป็นอย่างไร ถูกขับไล่จนต้องหอบหนังสือหย่าร้างออกมา อับอายขายขี้หน้าสกุลฝานของเราจนสิ้น!”แม้จะกล่าวว่าเป็นการหย่าร้างสองฝ่ายมิใช่การขับไล่ภรรยาออก ทว่าสกุลฝานแต่ไหนแต่ไรก็เทียบสกุลซ่งไม่ติดคราแรกที่การแต่งงานถูกกำหนดขึ้น ก็ทำเอาผู้คนต่างพากันอิจฉาตาร้อนแม้ซ่งเยี่ยนโจวจะกลายเป็นคนพิการ ทว่าก็เฉกเช่นที่อูฐยังคงใหญ่กว่าม้า สกุลซ่งยังคงเป็นสกุลใหญ่มีหน้ามีตา จึงนับได้ว่าเป็นการแต่งงานที่ดีบัดนี้ถูกหย่าขาด เกรงว่าคนที่พากันอิจฉาในตอนแรกคงพากันหัวร่องอหายเป็นแน่แท้!“ท่านพ่อ เรื่องนี้โทษข้าได้ที่ไหน! หากไม่ใช่เพราะต้องช่วยเซี่ยงหรงใช้หนี้พนัน ข้าคงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้”“เดิมทีข้าก็ไม่ได้อยากลงนามหนังสือหย่าร้าง แต่เป็นท่านแม่ที่บอกให้ข้าลงนาม บัดนี้พวกท่านล้วนโทษแ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 173

    สองวันนี้เจ้าก็หลบซ่อนอยู่แต่ในเรือนไปก่อนแล้วกัน ยามนี้ข้าจะให้คนไปกระจายข่าว เอาให้คนเขารู้กันไปทั่วบ้านทั่วเมือง!””เพียงไม่กี่วันหรอก สกุลซ่งจะต้องมาขอร้องพวกเรา นอกจากเจ้าจะใช้หนี้พนันได้แล้ว จะเรียกเงินสักก้อนก็ไม่นับว่าเกินไป!”เมื่อฝานซืออิ๋งนึกไปถึงว่าสกุลซ่งจะต้องมารับนางกลับไป จิตใจก็พลันสดใสขึ้นมาทันควัน“ท่านแม่ช่างเก่งยิ่งนัก”เฉียนชิวเซียงโบกมือ “เจ้ารีบไปแต่งตัว เปลี่ยนอาภรณ์ให้สะอาสะอ้าน หน้าตาแต่งให้ซูบซีดเหนื่อยล้าสักหน่อย”“ประเดี๋ยวข้าจะพาเจ้าไปพบเหล่าฮูหยินทั้งหลาย ถึงยามนั้นก็บีบน้ำตาร้องไห้เสียหน่อย ทำตามจังหวะที่ข้าส่งให้ก็พอ เข้าใจหรือไม่?”เฉียนชิวเซียงรู้จักฮูหยินทรงอิทธิพลในเมืองหลวงอยู่ไม่น้อย อาศัยวาทศิลป์ช่างจำนรรจาและกมลสันดานใจกล้าลอยหน้าลอยตาของนาง จึงใกล้ชิดสนิทสนมกับพวกนางได้อย่างมีสุขตราบใดที่ยามนั้นเจ้าเสแสร้งน่าเวทนา พวกนางย่อมต้องสงสารเห็นใจ ชนิดที่ว่าแม้แต่สกุลซ่งก็ทำอะไรมไม่ได้! “ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”ฝานซืออิ๋งดีใจยิ่งนัก รีบกลับไปยังห้องเพื่อผัดแป้งแต่งตัว เลือกเอาเสื้อผ้าที่ตนชอบออกมาจากสัมภาระที่ตนนำกลับมาด้วย สวมใส่เข้ากายอย่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 174

    เมื่อถึงเวลามื้อกลางวัน ซ่งรั่วเจินก็ได้พบกับหลิ่วเฟยเยี่ยนนับแต่นักต้มตุ๋นที่ว่าเป็นผู้มีวิชาถูกเปิดโปง แม้ว่าสกุลหลิ่วจะยืนยันว่าพวกเขาก็ถูกหลอกเช่นกัน แต่ก็ยังถูกผู้คนมากมายสงสัยอย่างไรก็เป็นคนเชิญเขามาเอง จะบอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็ยากที่พวกเขาจะทำใจเชื่อได้ลง และต้นสายปลายเหตุผู้ริเริ่มของเรื่องนี้ ผู้ที่เชิญนักต้มตุ๋นมาเองอย่างหลิ่วเฟยเยี่ยนย่อมตกเป็นเป้าโจมตีเป็นธรรมดา ไม่เพียงถูกสกุลหลิ่วต่อว่า กระทั่งการใช้ชีวิตในสกุลซุนก็ไม่ได้สบายนัก“รั่วเจิน ข้าไม่ได้อยากตำหนิเจ้า ถึงแม้เจ้าจะถอนหมั้นแล้ว ก็ไม่ควรยุแยงให้พี่ชายกับพี่สะใภ้หย่ากัน!”หลิ่วเฟยเยี่ยนพยายามเกลี้ยกล่อมอย่างอ่อนโยน “เจ้ากับพี่ชายก็โตกันแล้ว เดิมทีพี่ชายรองกับพี่ชายสามของเจ้าก็ควรจะแต่งงานไปตั้งนานแล้ว”“ทว่าพวกเจ้ากลับเลือกจะรอบิดากับพี่ใหญ่กลับมาจากสนามรบ ดูสิว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้เจ้ากับอี้อันก็ต่างถอนหมั้นกันหมด ทั้งบ้านมีเพียงเยี่ยนโจวที่เป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ทว่าสุดท้ายก็ยังมาจบที่หย่าร้าง”“เรื่องที่จ้าวซูหว่านกับฉินเซี่ยงเหิงไร้แม่สื่อแม่ชักนำสมรส แอบอยู่กินกันลับๆ ล่อๆ กระทั่งลูกก็ยังมีแล้ว คงลือก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 175

    “ฝานฮูหยินเล่าว่าตั้งแต่รั่วเจินถอนหมั้นไป นิสัยใจคอก็เปลี่ยนไปมาก ทำครอบครัววุ่นวายไร้ความสงบสุข ทั้งยังจองล้างจองผลาญซืออิ๋ง ยุให้รําตําให้รั่วไปทั่ว…”นางพร่ำพูดไปก็ลังเลไป “ดังนั้นเยี่ยนโจวจึงได้หย่าร้างกับซืออิ๋ง”หลิ่วหรูเยียนยิ่งฟังก็ยิ่งโกรธ “คนสกุลนี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง เมื่อก่อนบุกมาร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนขอให้ช่วยใช้หนี้พนันฝานเซี่ยงหรงไปก็หลายครา”“ช่วยไปหลายครั้งแล้วยังพอว่า บัดนี้กลับราวหลุมดำไร้ก้นก็มิปาน คิดใช้สกุลซ่งของเราเป็นถุงเงินพวกเขาเสียแล้ว พอไม่ให้เข้าหน่อยท่าทีก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ราวกับอะไรที่ผิดพลั้งก็ล้วนเป็นเพราะพวกเรา!”“พี่หญิง ข้าได้ยินมาว่าฝานเซี่ยงหรงติดการพนันอย่างหนัก ติดหนี้คนเขาไว้ไม่น้อย หรือจะเป็นท่านที่คอยช่วยเขาใช้คืนมาโดยตลอด?”หลิ่วเฟยเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ก่อนหน้านี้นางก็เคยได้ยินมาบ้าง ทั้งยังแอบหัวเราะเยาะที่พี่สาวตนนับญาติกับคนพรรค์นั้นเข้าแล้ว ก็จะมีแต่ปัญหาเข้ามาไม่รู้จบกระทั่งได้ยินเรื่องนี้เข้า จึงพลันกระวนกระวายขึ้นมาหรือสกุลฝานจะได้ผลประโยชน์จากสกุลซ่งไปไม่น้อย?“ตอนนี้เจ้ายังคิดว่าพวกเขาเป็นญาติที่ดีอยู่หรื

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 176

    “พี่หญิง ข้าได้ยินว่าพี่เขยกับเซียงอ๋องมีสายสัมพันธ์อันดีต่อกันมานาน ท่านช่วยเป็นคนกลางพูดสร้างความสมานฉันท์ให้พวกเราดีหรือไม่?”ภายในสายตาหลิ่วเฟยเยี่ยนเจือความร้อนใจยิ่งยวด อีกเป้าหมายหนึ่งที่นางมาที่นี่ในวันนี้ก็คือเรื่องนี้แล้ว“พี่เขยของเจ้ากับเซียงอ๋องรู้จักกันในราชสำนักเพียงเท่านั้น มิได้พบกันเป็นการส่วนตัวมากมายอะไร” “ยิ่งไปกว่านั้น บัดนี้เขาไม่อยู่ ข้ากับเซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องก็ไม่เคยติดต่อกัน เช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยอะไรได้?”หลิ่วหรูเยียนเผยสีหน้าเอือมระอา ท่าทีแม้มีใจแต่ก็ไร้กำลัง“พี่หญิง ท่านไม่สามารถนั่งนิ่งดูดายได้นะ ท่านเห็นฮั่นเฟยเติบโตมา หากจวนเซียงอ๋องตัดสินใจกล่าวโทษลงมา พวกเราจะแบกรับไหวได้อย่างไร?”หลิ่วเฟยเยี่ยนมีสีหน้าร้อนใจ จวนเซียงอ๋องฐานะสูงศักดิ์ ซื่อจื่อน้อยยังเป็นลูกคนเดียวของเซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องอีกด้วยคนทั้งเมืองหลวงต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว เซียงอ๋องและพระชายาเซียงอ๋องรักกันหวานซึ้ง ปีนั้นเพื่อให้ได้อยู่ร่วมกับพระชายาเซียงอ๋อง เซียงอ๋องปฏิเสธสมรสพระราชทานจากอดีตฮ่องเต้ นำพาให้อดีตฮ่องเต้กริ้วหนักเซียงอ๋องกลับยึดมั่นในพระชายาเซียงอ๋

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 177

    ซ่งรั่วเจินและหลิ่วหรูเยียนยังเดินไม่ถึงห้องก็ได้ยินว่าคนกลับไปแล้ว จึงเดินกลับมากินมื้อกลางวันร่วมกัน“ท่านแม่ เซียงอ๋องกับพระชายาเซียงอ๋องรักซื่อจื่อน้อยมาก ได้ยินมาว่าระยะนี้มีคนไปเยี่ยมเยียนจวนเซียงอ๋องไม่ขาดสาย” “ญาติผู้น้องทำร้ายซื่อจื่อน้อยในช่วงเวลาสำคัญนี้ เซียงอ๋องไม่มีวันปล่อยไปอย่างง่ายดาย ท่านไม่เข้าไปข้องเกี่ยวนั้นถูกแล้ว”ซ่งอี้อันเผยสีหน้าจริงจัง แท้จริงแล้วท่านน้าเองก็ไม่ใช่ญาติที่ดี เพียงน่าเสียดายเป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดา ไม่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์ได้“พวกเจ้าวางใจ แม่ไม่เลอะเลือน”หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกๆ ห่วงใยตนเพียงนี้ รู้สึกอบอุ่นใจ “ผ่านเรื่องมามากมาย แม่เองก็เข้าใจแล้ว สกุลฝานก็คือตัวอย่าง” “ดีต่อพวกเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ พวกเจ้าเองก็คิดว่าเมื่อก่อนแม่ตามใจน้ามากเกินไป” “ทั้งๆ ที่นางมาเพื่อหาผลประโยชน์ แต่ก็ไม่เคยห้าม”“เดิมทีข้าคิดว่าข้าและน้าของพวกเจ้าเติบโตมาด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นพี่สาว ต่อให้รู้ว่าหลายปีมานี้นางไม่ค่อยสำรวมตน ก็ยังเลือกปกป้องนาง” “ทว่านับตั้งแต่เรื่องนักต้มตุ๋นเป็นต้นมา ข้าเองก็เข้าใจแล้ว”สายตาหลิ่วหรูเยียนลึกล้ำ แท้จริงแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 178

    ภายในห้องเงียบลงทันใดทุกคนหันหน้ามองกัน นับตั้งแต่ซ่งเยี่ยนโจวหย่าร้าง ภายในสมองของพวกเขาพลันนึกถึงลั่วชิงอินขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเพียงแต่เรื่องนี้ทำร้ายลั่วชิงอินหนักมากเกินไป ยังไม่ต้องพูดถึงซ่งเยี่ยนโจว แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่มีหน้าเอ่ยปากต่อหน้าสกุลลั่วในอีกด้านหนึ่ง หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาก็เชื่อว่าไม่มีวันให้อภัย“รีบเชิญเข้ามา” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยผู้มาคือคุณชายสามสกุลลั่วลั่วหวยหลี่ ยามทุกคนเผชิญหน้า จิตใจยังมึนงงอยู่ชั่วขณะเมื่อแรกลั่วหวยหลี่เลื่อมใสซ่งเยี่ยนโจวมาโดยตลอด เพราะซ่งเยี่ยนโจวอายุมากกว่าเขาหลายปี มิหนำซ้ำยังเคยผ่านสนามรบมาก่อน ชายฝึกยุทธ์ล้วนมีความใฝ่ฝันจะได้เป็นแม่ทัพใหญ่กอปรกับเมื่อแรกทั้งสองตระกูลวางแผนแต่งงานกัน ลั่วหวยหลี่เห็นซ่งเยี่ยนโจวเป็นพี่เขยตั้งนานแล้ว ทุกวันล้วนคล้ายผู้ติดตามของซ่งเยี่ยนโจวก็มิปาน ยังถูกทุกคนล้อเลียนอีกด้วยนับตั้งแต่ซ่งเยี่ยนโจวตัดสินใจตบแต่งฝานซืออิ๋ง ลั่วหวยหลี่คือคนที่โมโหที่สุดต้องการมาถามหาเอาความให้ได้ มิหนำซ้ำยังต่อยตีซ่งเยี่ยนโจวอย่างหนักไปหนึ่งรอบซ่งเยี่ยนโจวกลับไม่ตอบโต้นับตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วหวยหลี่ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 179

    “แรกพบยังเขินอาย ต่อมากลับคุ้นเคยกันแล้ว แม้ไม่ได้พบหน้ากันสองปี แต่โบราณว่าไว้ ใกล้หออะไรจันทราอะไรสักอย่างนี่ล่ะ!”“ใกล้หอธาราเอื้อมจันทราได้ก่อน[1]” ซ่งอี้อันมองน้องสามความรู้น้อยของตน “รอผ่านการสอบฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว เจ้าก็มาท่องตำราที่เรือนข้าให้มากๆ เถอะ”ทันใดนั้นซ่งจืออวี้ก้มหน้าลงพลางโบกมือ “ไม่ต้องๆ เดิมทีข้าและน้องสี่ก็เป็นแฝดกัน ข้าคิดว่าเขาเรียนหนังสือจนโง่งมไปแล้ว” “ก่อนนี้ข้าบอกเขาไม่ให้ไปตามหาไข่มุกทะเลใต้ เขาต้องไปให้ได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!”“เดิมทีไข่มุกทะเลใต้ก็เป็นข่าวลือ เขารู้ว่าคนที่บ้านต้องคัดค้านจึงแอบหนีไปด้วยตนเอง บัดนี้ยังไม่กลับมา ช่างทำให้คนกังวลใจจริงๆ”ซ่งอี้อันขมวดคิ้วแน่น พวกเขาไม่กล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้ามารดาตรงข้ามกันก่อนนี้น้องสี่ชอบออกนอกบ้านอยู่แล้ว กิจการภายในตระกูลล้วนเป็นซ่งรั่วเจินและน้องสี่จัดการดูแล ซ่งรั่วเจินดูแลกิจการในเมืองหลวง น้องสี่มักออกไปทำการค้าที่คูเมืองแห่งอื่น รวมถึงคัดเลือกผ้าแพรต่วนไปจนถึงเครื่องประดับอีกด้วยท่านพ่อมองเห็นพรสวรรค์ด้านการค้าของน้องสี่ตั้งแต่แรกแล้ว หลายปีมานี้ที่ตระกูลมั่งคั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็หนีไ

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status