Share

บทที่ 177

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินและหลิ่วหรูเยียนยังเดินไม่ถึงห้องก็ได้ยินว่าคนกลับไปแล้ว จึงเดินกลับมากินมื้อกลางวันร่วมกัน

“ท่านแม่ เซียงอ๋องกับพระชายาเซียงอ๋องรักซื่อจื่อน้อยมาก ได้ยินมาว่าระยะนี้มีคนไปเยี่ยมเยียนจวนเซียงอ๋องไม่ขาดสาย”

“ญาติผู้น้องทำร้ายซื่อจื่อน้อยในช่วงเวลาสำคัญนี้ เซียงอ๋องไม่มีวันปล่อยไปอย่างง่ายดาย ท่านไม่เข้าไปข้องเกี่ยวนั้นถูกแล้ว”

ซ่งอี้อันเผยสีหน้าจริงจัง แท้จริงแล้วท่านน้าเองก็ไม่ใช่ญาติที่ดี เพียงน่าเสียดายเป็นน้องสาวแท้ๆ ของมารดา ไม่สามารถตัดขาดความสัมพันธ์ได้

“พวกเจ้าวางใจ แม่ไม่เลอะเลือน”

หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกๆ ห่วงใยตนเพียงนี้ รู้สึกอบอุ่นใจ “ผ่านเรื่องมามากมาย แม่เองก็เข้าใจแล้ว สกุลฝานก็คือตัวอย่าง”

“ดีต่อพวกเขาอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ พวกเจ้าเองก็คิดว่าเมื่อก่อนแม่ตามใจน้ามากเกินไป”

“ทั้งๆ ที่นางมาเพื่อหาผลประโยชน์ แต่ก็ไม่เคยห้าม”

“เดิมทีข้าคิดว่าข้าและน้าของพวกเจ้าเติบโตมาด้วยกัน อีกทั้งยังเป็นพี่สาว ต่อให้รู้ว่าหลายปีมานี้นางไม่ค่อยสำรวมตน ก็ยังเลือกปกป้องนาง”

“ทว่านับตั้งแต่เรื่องนักต้มตุ๋นเป็นต้นมา ข้าเองก็เข้าใจแล้ว”

สายตาหลิ่วหรูเยียนลึกล้ำ แท้จริงแล้ว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 178

    ภายในห้องเงียบลงทันใดทุกคนหันหน้ามองกัน นับตั้งแต่ซ่งเยี่ยนโจวหย่าร้าง ภายในสมองของพวกเขาพลันนึกถึงลั่วชิงอินขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเพียงแต่เรื่องนี้ทำร้ายลั่วชิงอินหนักมากเกินไป ยังไม่ต้องพูดถึงซ่งเยี่ยนโจว แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่มีหน้าเอ่ยปากต่อหน้าสกุลลั่วในอีกด้านหนึ่ง หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาก็เชื่อว่าไม่มีวันให้อภัย“รีบเชิญเข้ามา” หลิ่วหรูเยียนเอ่ยผู้มาคือคุณชายสามสกุลลั่วลั่วหวยหลี่ ยามทุกคนเผชิญหน้า จิตใจยังมึนงงอยู่ชั่วขณะเมื่อแรกลั่วหวยหลี่เลื่อมใสซ่งเยี่ยนโจวมาโดยตลอด เพราะซ่งเยี่ยนโจวอายุมากกว่าเขาหลายปี มิหนำซ้ำยังเคยผ่านสนามรบมาก่อน ชายฝึกยุทธ์ล้วนมีความใฝ่ฝันจะได้เป็นแม่ทัพใหญ่กอปรกับเมื่อแรกทั้งสองตระกูลวางแผนแต่งงานกัน ลั่วหวยหลี่เห็นซ่งเยี่ยนโจวเป็นพี่เขยตั้งนานแล้ว ทุกวันล้วนคล้ายผู้ติดตามของซ่งเยี่ยนโจวก็มิปาน ยังถูกทุกคนล้อเลียนอีกด้วยนับตั้งแต่ซ่งเยี่ยนโจวตัดสินใจตบแต่งฝานซืออิ๋ง ลั่วหวยหลี่คือคนที่โมโหที่สุดต้องการมาถามหาเอาความให้ได้ มิหนำซ้ำยังต่อยตีซ่งเยี่ยนโจวอย่างหนักไปหนึ่งรอบซ่งเยี่ยนโจวกลับไม่ตอบโต้นับตั้งแต่นั้นมา นี่เป็นครั้งแรกที่ลั่วหวยหลี่ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 179

    “แรกพบยังเขินอาย ต่อมากลับคุ้นเคยกันแล้ว แม้ไม่ได้พบหน้ากันสองปี แต่โบราณว่าไว้ ใกล้หออะไรจันทราอะไรสักอย่างนี่ล่ะ!”“ใกล้หอธาราเอื้อมจันทราได้ก่อน[1]” ซ่งอี้อันมองน้องสามความรู้น้อยของตน “รอผ่านการสอบฤดูใบไม้ผลิไปแล้ว เจ้าก็มาท่องตำราที่เรือนข้าให้มากๆ เถอะ”ทันใดนั้นซ่งจืออวี้ก้มหน้าลงพลางโบกมือ “ไม่ต้องๆ เดิมทีข้าและน้องสี่ก็เป็นแฝดกัน ข้าคิดว่าเขาเรียนหนังสือจนโง่งมไปแล้ว” “ก่อนนี้ข้าบอกเขาไม่ให้ไปตามหาไข่มุกทะเลใต้ เขาต้องไปให้ได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา!”“เดิมทีไข่มุกทะเลใต้ก็เป็นข่าวลือ เขารู้ว่าคนที่บ้านต้องคัดค้านจึงแอบหนีไปด้วยตนเอง บัดนี้ยังไม่กลับมา ช่างทำให้คนกังวลใจจริงๆ”ซ่งอี้อันขมวดคิ้วแน่น พวกเขาไม่กล้าพูดเรื่องนี้ต่อหน้ามารดาตรงข้ามกันก่อนนี้น้องสี่ชอบออกนอกบ้านอยู่แล้ว กิจการภายในตระกูลล้วนเป็นซ่งรั่วเจินและน้องสี่จัดการดูแล ซ่งรั่วเจินดูแลกิจการในเมืองหลวง น้องสี่มักออกไปทำการค้าที่คูเมืองแห่งอื่น รวมถึงคัดเลือกผ้าแพรต่วนไปจนถึงเครื่องประดับอีกด้วยท่านพ่อมองเห็นพรสวรรค์ด้านการค้าของน้องสี่ตั้งแต่แรกแล้ว หลายปีมานี้ที่ตระกูลมั่งคั่งมากขึ้นเรื่อยๆ ก็หนีไ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 180

    ซ่งเยี่ยนโจวมองลั่วหวยหลี่ตรงหน้า แม้ไม่ได้พบหน้ากันสองปี เขายังเหมือนเมื่อแรกไม่มีผิดปากแข็งแต่ใจอ่อนเพียงลั่วหวยหลี่ได้พบซ่งเยี่ยนโจวก็นึกถึงเรื่องที่คนผู้นี้ทรยศพี่สาวของตนขึ้นมา โทสะเจืออยู่ภายในคำพูด คนผู้นี้พูดจาไม่น่าฟังมาก ขมวดคิ้วแน่นพลางพูดว่า“ก่อนนี้ท่านตัดสินใจต้องการตบแต่งฝานซืออิ๋งมิใช่หรือ? คิดว่านางดีกว่าพี่หญิงของข้าไปทุกจุด เหตุใดตอนนี้หย่ากับนางอย่างกะทันหันเล่า?”“ข้าไม่เคยพูดมาก่อน” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปาก“อะไรนะ?”ซ่งเยี่ยนโจว “ข้าไม่เคยพูดว่านางดีกว่าพี่หญิงเจ้า”ไม่เคยลั่วหวยหลี่ถลึงตาขาว อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว “ท่านก็แค่ตาบอด บัดนี้พบจุดจบเช่นนี้ก็สมควรแล้ว!”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า “ข้าสมควรโดนแล้ว”ลั่วหวยหลี่ “...”เหตุใดคนผู้นี้เป็นเช่นนี้เล่า? ไม่มีน้ำโหแม้แต่น้อย? คงมิใช่คิดฆ่าตัวตายจริงกระมัง?“รับไว้”ลั่วหวยหลี่โยนสิ่งที่นำติดมาด้วยใส่มือซ่งเยี่ยนโจวเพียงซ่งเยี่ยนโจวเปิดดู ก็มองเห็นโสมร้อยปีหนึ่งต้นที่ภายใน โสมนี้...เขารู้จักดีนี่คือของที่เขาบังเอิญพบใกล้กับสนามรบเขารู้ว่าลั่วชิงอินร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็ก ก่อนนี้ท่านหมอเคยพูดว่าโสมร้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 181

    เมื่อคิดว่าจะต้องเรียกชายผู้นั้นว่า ‘พี่เขย’ เขาก็แทบอยากหนีออกจากบ้านให้รู้แล้วรู้รอดไป“อย่างน้อยก็ดีกว่าเจ้าคนใจดำแบบท่าน!”ลั่วหวยหลี่คิดแล้วก็ยิ่งโกรธ สมัยก่อนเขาชื่นชอบซ่งเยี่ยนโจวมากเท่าใด หลังจากนั้นก็ยิ่งเกลียดชังมากเท่านั้น ไม่มีใครดีสักคน!ซ่งเยี่ยนโจวตกอยู่ในความเงียบ ไม่อาจโต้แย้งใดๆ“เอาล่ะ ข้าจะไปแล้ว ท่านเองก็พักผ่อนให้ดี”ลั่วหวยหลี่หันหลังเดินจากไป ในเมื่อคำที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นไปตามโชคชะตาเถิด!จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าประตู ลั่วหวยหลี่จึงค่อยๆ หันกลับมามองซ่งเยี่ยนโจวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า“แม้ท่านจะได้รับบาดเจ็บ ก็อย่าได้ปล่อยให้ตนเองจมอยู่ในความสิ้นหวัง ท่านได้รับบาดเจ็บจากสนามรบ ท่านเป็นวีรบุรุษ”“พวกที่ไม่รู้จักคิดและพูดพล่อย ๆ จงอย่าใส่ใจ แม้ว่าท่านจะทำผิดต่อพี่หญิงของข้า และข้าเองก็เกลียดท่านเข้าไส้ แต่ข้ายังมองว่าท่านคือวีรบุรุษเสมอ ข้ามิเคยเปลี่ยนความคิดนี้”ลั่วหวยหลี่จ้องมองซ่งเยี่ยนโจวด้วยสายลึกล้ำความชื่นชมในวัยเยาว์นั้นมิใช่เรื่องโกหก เขาเคยยกย่องซ่งเยี่ยนโจวเป็นแบบอย่างในใจมาตลอดห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 182

    เมื่อข่าวการหย่าร้างระหว่างซ่งเยี่ยนโจวและฝานซืออิ๋งแพร่ออกไป เรื่องราวก็กลายเป็นที่พูดถึงอย่างล้นหลามในหมู่ผู้คน“ตระกูลซ่งนี่คงจบสิ้นแล้ว เดิมทีก็เป็นตระกูลที่รุ่งเรือง แต่ตอนนี้สิ ทั้งเลิกหมั้นก็มี หย่าร้างก็มี ซ่งฮูหยินก็เป็นหม้ายอยู่แล้วด้วย”“ไม่รู้ว่าตระกูลซ่งทำกรรมอันใดไว้ ถึงไม่มีคู่ไหนที่อยู่ดีมีสุขได้เลย”“ข้ารู้มาว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนยุยงให้หย่าร้าง ลองคิดดูดี ๆ สิ ซ่งรั่วเจินเคยเป็นสหายกับจ้าวซูหว่าน พูดง่าย ๆ ก็คงเพราะนางตัวซวยคนนี้นั่นแหละ!”ข่าวลือนี้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลฝานยังช่วยเติมเชื้อไฟ พยายามอย่างหนักที่จะทำให้เรื่องแย่ลงไปอีก ทว่าซ่งรั่วเจินและครอบครัวกลับดูไม่ใส่ใจ ปล่อยให้ข่าวลือเหล่านั้นผ่านเลยไปโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยเพราะพวกเขายังมีเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่าต้องจัดการแต่เมื่อฉินซวงซวงได้ยินข่าวพวกนี้ นางก็ยิ้มอย่างเบิกบาน ถึงแม้ต่อหน้าหลินจือเยว่ นางจะยังคงทำตัวเป็นสตรีที่อ่อนหวานและสงบเสงี่ยมตามปกติ“ท่านพี่ แม่นางซ่งดูท่าทางจะยังมีใจให้ท่านไม่น้อย แม้ว่านางจะแสร้งทำเป็นตัดใจและถอนหมั้น แต่กลับกลายเป็นคนละคนไป”“ซ่งเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 183

    ในดวงตาของหลินจือเยว่ปรากฏแววแห่งความกังวล ตั้งแต่เขาประสบเคราะห์ สหายเก่าแต่ละคนก็เหมือนจะหายหน้ากันไปหมด ต่างหลีกเลี่ยงที่จะพบปะเขาการออกไปในช่วงเวลาเช่นนี้ มีแต่จะกลายเป็นตัวตลกให้คนหัวเราะเยาะ“ไม่หรอก ข้าเคยช่วยชีวิตเซียวไท่เฟยไว้ ตระกูลเซียวต่างยังจดจำบุญคุณข้อนี้ได้ คุณชายเซียวเองก็ต้องมีท่าทีที่ดีต่อท่านเป็นแน่”ฉินซวงซวงจับมือหลินจือเยว่ไว้พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หากท่านไม่ออกไป คนอื่นจะยิ่งมองว่าท่านไม่มีทางฟื้นตัวกลับมาได้อีก แต่หากพวกเขารู้ว่าท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายเซียว พวกเขายังจะกล้าดูแคลนท่านอีกหรือ?”“อีกทั้งตระกูลซ่งยังตกต่ำถึงเพียงนี้ ซ่งรั่วเจินยังกล้าออกไปข้างนอก ท่านจะกลัวอะไรอีกเล่า?”เมื่อหลินจือเยว่ได้ยินเช่นนั้น ความมั่นใจก็กลับคืนมา “เจ้าพูดถูก พรุ่งนี้เราจะไปด้วยกัน!”ไม่นานก็มาถึงวันที่จัดงานเลี้ยงชมดอกท้อซ่งรั่วเจินและซ่งจืออวี้เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว สายตาของพวกเขาคอยหันมองไปในเรือนโดยไม่รู้ตัวพวกเขาได้เตรียมชุดใหม่ให้พี่ใหญ่ ทั้งเกี้ยวครอบผมและเข็มขัดก็ล้วนเป็นของใหม่ ทั้งคู่เชื่อมั่นว่าเมื่อพี่ใหญ่สวมใส่แล้วจะต้องดูสง่างามจนท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 184

    “แม่นางลั่ว วันนี้เห็นว่าเจ้าสีหน้าดีขึ้นมาก โสมที่ข้าส่งไปให้เจ้า หวังว่าคงมีประโยชน์”เหยาจิ่นเฉิงกล่าว พลางจ้องมองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความบิดเบี้ยว แต่ใบหน้ากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาในฐานะบุตรชายของเสนาบดีกรมกลาโหม เขาได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยอายุที่ใกล้เคียงกับซ่งเยี่ยนโจว จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับเขาเสมอ แต่ทุกครั้งมักจะพ่ายแพ้ให้กับซ่งเยี่ยนโจว ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก!แต่ตอนนี้โชคชะตากลับเล่นตลกให้ซ่งเยี่ยนโจวกลายเป็นคนพิการ และสตรีที่เขาหมายปอง บัดนี้ก็จะแต่งงานให้กับเขาแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าหากซ่งเยี่ยนโจวรู้เรื่องนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรแค่เพียงคิดก็ทำให้เขารู้สึกสะใจเหลือเกิน!ลั่วชิงอินมองชายหนุ่มตรงหน้า นางไม่ได้ชอบเหยาจิ่นเฉิงเลยแม้ว่าเขาจะดูสุภาพราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่น แต่ในใจของนางกลับรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเหยาจิ่นเฉิง แต่เสมือนเป็นหน้ากากจอมปลอมที่เขาสวมปิดบังไว้“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ แต่โสมร้อยปีชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป วันนี้ข้าจึงตั้งใจนำมา...”กล่าวจบ ลั่วชิงอินหันไปพยักหน้าให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 185

    “ข้ากำลังเป็นห่วงพี่หญิงรอง จะให้ข้าใส่ใจเรื่องอื่นได้อย่างไร?”ลั่วหวยหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านหลัง ที่เขาเกลียดเหยาจิ่นเฉิงมากไม่ใช่ไม่มีเหตุผล คนผู้นี้เมื่อก่อนมีนิสัยโหดร้ายยิ่งนักครั้งหนึ่งที่เขาลงไม้ลงมือกับเหยาจิ่นเฉิง ก็เพราะชายผู้นี้ได้ฆ่าหวงโต้ว สุนัขที่เขาเลี้ยงมาหลายปีและสนิทสนมมากที่สุดไม่คิดว่าเหยาจิ่นเฉิงโต้เถียงกับเขาเพียงเล็กน้อย ก็จะกระทำอย่างไร้ความปรานี ฆ่าหวงโต้วอย่างโหดร้ายแล้วยังชำแหละแบ่งเนื้อกินกับพรรคพวก เมื่อตัวเขามาถึงก็เห็นแต่ซากหนังที่เปื้อนเลือด ย่อมโกรธแค้นอยากสังหารคน”แต่จนปัญญาที่เขาสู้เหยาจิ่นเฉิงไม่ได้ แต่ยังถูกเย้ยหยันอย่างเจ็บแสบ เป็นซ่งเยี่ยนโจวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เหยาจิ่นเฉิงถูกซ่งเยี่ยนโจวสั่งสอนอย่างสาสม ความแค้นของเขาจึงได้ระบายออกมาเสียทีเพราะเหตุนี้เอง เมื่อกลับไปเขาจึงถูกบิดาตำหนิอย่างหนัก แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยบัดนี้คนผู้นี้กลับคิดจะแต่งงานกับพี่หญิงของเขา ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อพวกซ่งรั่วเจินมาถึง ก็ได้เห็นลั่วหวยหลี่เดินวนไปมารอบศาลาไม่ไกล“หวยหลี่ เจ้ากำลังรอข้าอยู่หรือ?”เสียงทุ้มต่ำของซ่งเยี่

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 730

    “หม่อมฉันได้ยินมาว่าบนบัญชีรายชื่อมีอยู่สิบกว่าคน ไม่รู้อาการของคนอื่นร้ายแรงหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยถาม“ในหมู่คนเหล่านั้นมีลูกสะใภ้ไม่เคารพแม่สามี คนแก่อายุมากแล้ว คนจึงตายไป แต่มากที่สุดยังเป็นความขัดแย้งของอนุภรรยาและภรรยาเอก”“คนส่วนใหญ่ล้วนคล้ายพระชายาเซียงอ๋อง ตกอยู่ในฝันร้าย ยังป่วยหนักอีกด้วย อนุอวิ๋นนับว่าลงทุนลงแรงมากทีเดียว” ฉู่จวินถิงพูด“อนุอวิ๋นเป็นคนโหดเหี้ยมไม่ผิดไปดังคาด แต่ยังเสแสร้งใจดีมีเมตตา ปรากฎว่ามีเพียงใต้เท้าอวิ๋นตัวโง่งมคนนี้ถึงจะหลงเชื่อ”ซ่งรั่วเจินไม่แปลกใจ ความยากในการเลี้ยงดูผีทวงชีวิตนั้นมากกว่าผีน้อยตนอื่นมาก แม้ว่าไต้ซือเทียนจีมีความสามารถอยู่บ้าง กลับไม่สามารถเลี้ยงผีทวงชีวิตหลายตนได้ตนนี้เป็นเขาใส่ใจเลี้ยงดู ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่จึงสนิทสนมกันมากจากนั้นยามทั้งคู่เดินผ่านอุโมงค์ไปจนถึงฝั่งหนึ่ง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นสายหนึ่งชำแรกจมูกพวกซ่งเยี่ยนโจวยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมาก ส่วนซ่งรั่วเจินเองก็สังเกตเห็นศพแต่ละร่างใต้พื้น หนึ่งในนั้นมีนักพรตเต๋าคนหนึ่ง เห็นชัดว่าคือไต้ซือเทียนจี“นี่คือ...ตายทั้งหมดแล้ว?”“เดิมที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 729

    “ไปเส้นทางใต้ดิน”ไต้ซือเทียนจีไม่คิดมากนัก พาทุกคนไปยังเส้นทางใต้ดิน“ไต้ซือ เส้นทางไต้ดินนี้ไม่สามารถเดินทางตามสะดวกได้!”ทุกคนมองเส้นทางใต้ดิน ใบหน้าเผยความลังเล ก่อนหน้านี้เคยพูดมาก่อนหากไม่แจ้ง จะไม่สามารถใช้เส้นทางใต้ดินนี้ได้เด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นจะปล่อยให้ถูกคนพบไม่ได้!“บัดนี้หมดหนทางแล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนเช่นไร? ในเมื่อเขาแน่ใจว่าพวกเราอยู่ในพื้นที่นี้ จะต้องแจ้งคนอื่นให้เข้ามาปิดล้อมแน่”“หากพวกเราไม่หนี ก็มีเพียงต้องตายเท่านั้น!”สีหน้าไต้ซือเทียนจีเคร่งขรึม เขาย่อมรู้ว่าเส้นทางใต้ดินนี้หมายความว่าอะไร แต่ตอนนี้นอกจากตัวเลือกนี้แล้ว ก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีก!ทุกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจ ไปอาจไม่ตาย แต่ไม่ไปจะต้องตายแน่!“ไป!”ครู่ต่อมา พวกซ่งเยี่ยนโจวมองเห็นกิ่งไม้หยุดหน้าห้องหนึ่ง จากนั้นเสียงประตูใหญ่ถูกเปิดออกดัง “แอ๊ด” ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด“กิ่งไม้นี้ถึงขั้นสามารถเปิดประตูได้?”จ้าวเจียงอ้าปากกว้าง คิดเพียงว่าหลังจากวันนี้ผ่านพ้นไปไม่ว่าคนอื่นพูดเรื่องเหลือจะเชื่อมากเพียงใดเขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกแล้ว!เพราะเรื่องแปลกประหลาดที่สุดถูกเขาพบแล้ว!

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 728

    นางหยิบกิ่งไม้หนึ่งกิ่งขึ้นมาจากพื้น จากนั้นทุกคนได้เห็นกิ่งไม้นั้นลอยขึ้นกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นยังหันไปที่ทิศทางหนึ่ง ทันใดนั้นเบิกตากว้าง“เยี่ยนโจว พวกเราดีชั่วอย่างไรก็รู้จักกันมานานหลายปีถึงเพียงนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าน้องสาวของท่านยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้!”จ้าวเจียงเผยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้ได้ยินก็คิดว่าเร้นลับเหลือเกิน จนกระทั่งได้เห็นเองกับตาวันนี้ กลับรู้สึกตกตะลึงพรึงเพริดฝีมือนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้!ซ่งเยี่ยนโจว “...” จะให้พูดได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วเขาก็เคยเห็นเป็นครั้งแรก?ที่ผ่านมาใช่ว่าไม่เคยเห็นน้องหญิงห้าแสดงฝีมือมาก่อน แต่นั่นก็แค่เขียนยันต์ไม่กี่ใบเท่านั้น ยามได้เห็นน้องหญิงห้าช่วยอนุอวิ๋นกำจัดความชั่วร้าย ก็เห็นเพียงเผายันต์หนึ่งใบ!ได้เห็นฉากนี้ รู้ว่าแตกต่างจากที่เคยได้เห็นก่อนหน้านี้นี่...นับเป็นการเคลื่อนที่กลางอากาศหรือไม่?“ไล่ตามไป!”กิ่งไม้ขยับไปข้างหน้าไม่นับว่าช้า ฉู่จวินถิงรีบเอ่ยเตือนทุกคนให้ไล่ตามพวกซ่งเยี่ยนโจวไม่กล้ารอช้า ใช้ความเร็วที่สุดไล่ตามไป การไล่ตามไปครั้งนี้กลับพบความมหัศจรรย์ กิ่งไม้นั้นคล้ายมีตา ยิ่งไปกว่านั้นยังหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 727

    ฉู่จวินถิงเลื่อนสายตาไปอย่างแปลกใจ ก็ได้เห็นดวงตาทอประกายระยับของแม่นางคนนี้ที่กำลังเดินมาหยุดต่อหน้าตน ภายในไม่มีความกลัวหรือรังเกียจเลยสักเศษเสี้ยว มีเพียงความตกตะลึงระคนเลื่อมใส“ท่านอ๋อง วิชาตัวเบาของท่านยอดเยี่ยมมาก ภายภาคหน้าสามารถสอนหม่อมฉันได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงหลุดหัวเราะออกมา ภายในสายตากลับเปล่งประกาย “ได้”บรรยากาศตึงเครียดรอบกายเปลี่ยนไปตามคำพูดของซ่งรั่วเจิน ทุกคนหัวเราะเบาๆ อย่างอดไม่ได้ แม่นางคนนี้น่าสนใจมาก กล้าหาญไม่ธรรมดาหากได้อยู่กับท่านอ๋อง นี่จะต้องเหมาะสมไม่ธรรมดาแน่!“คนหนีไปหมดแล้ว”ซ่งเยี่ยนโจวขมวดคิ้วแน่น อีกฝ่ายเห็นว่าพวกเขามาแล้วก็หนีไปในทันที เมื่อครู่ไม่ทันได้ไล่ตาม บัดนี้ต้องตามรอยเบาะแสใหม่อีกครั้งแล้ว“วันนี้ไต้ซือเทียนจีหนีไม่รอดหรอกเจ้าค่ะ!”ใบหน้าซ่งรั่วเจินเผยแววมั่นใจในตนเอง นางหยิบยันต์ออกมาหนึ่งปึกมอบให้ฉู่จวินถิง “ท่านอ๋อง ท่านให้ทุกคนพกยันต์ไว้ให้ดี จะได้ไม่ถูกวิชาพรางตาหลอกอีก”ซ่งเยี่ยนโจวเห็นเวลาเพียงชั่วพริบตาน้องสาวก็นำยันต์ออกมามากถึงเพียงนี้ ใบหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความสงสัย ตกลงนางใส่ของเหล่านี้ไว้ที่ใด?เพียงออกจากบ้านก็นำของมา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status