Share

บทที่ 183

Auteur: จี้เวยเวย
ในดวงตาของหลินจือเยว่ปรากฏแววแห่งความกังวล ตั้งแต่เขาประสบเคราะห์ สหายเก่าแต่ละคนก็เหมือนจะหายหน้ากันไปหมด ต่างหลีกเลี่ยงที่จะพบปะเขา

การออกไปในช่วงเวลาเช่นนี้ มีแต่จะกลายเป็นตัวตลกให้คนหัวเราะเยาะ

“ไม่หรอก ข้าเคยช่วยชีวิตเซียวไท่เฟยไว้ ตระกูลเซียวต่างยังจดจำบุญคุณข้อนี้ได้ คุณชายเซียวเองก็ต้องมีท่าทีที่ดีต่อท่านเป็นแน่”

ฉินซวงซวงจับมือหลินจือเยว่ไว้พลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “หากท่านไม่ออกไป คนอื่นจะยิ่งมองว่าท่านไม่มีทางฟื้นตัวกลับมาได้อีก แต่หากพวกเขารู้ว่าท่านมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายเซียว พวกเขายังจะกล้าดูแคลนท่านอีกหรือ?”

“อีกทั้งตระกูลซ่งยังตกต่ำถึงเพียงนี้ ซ่งรั่วเจินยังกล้าออกไปข้างนอก ท่านจะกลัวอะไรอีกเล่า?”

เมื่อหลินจือเยว่ได้ยินเช่นนั้น ความมั่นใจก็กลับคืนมา “เจ้าพูดถูก พรุ่งนี้เราจะไปด้วยกัน!”

ไม่นานก็มาถึงวันที่จัดงานเลี้ยงชมดอกท้อ

ซ่งรั่วเจินและซ่งจืออวี้เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว สายตาของพวกเขาคอยหันมองไปในเรือนโดยไม่รู้ตัว

พวกเขาได้เตรียมชุดใหม่ให้พี่ใหญ่ ทั้งเกี้ยวครอบผมและเข็มขัดก็ล้วนเป็นของใหม่ ทั้งคู่เชื่อมั่นว่าเมื่อพี่ใหญ่สวมใส่แล้วจะต้องดูสง่างามจนท
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 184

    “แม่นางลั่ว วันนี้เห็นว่าเจ้าสีหน้าดีขึ้นมาก โสมที่ข้าส่งไปให้เจ้า หวังว่าคงมีประโยชน์”เหยาจิ่นเฉิงกล่าว พลางจ้องมองสตรีเบื้องหน้าด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความบิดเบี้ยว แต่ใบหน้ากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาในฐานะบุตรชายของเสนาบดีกรมกลาโหม เขาได้รับการฝึกฝนวรยุทธ์มาตั้งแต่ยังเล็ก และด้วยอายุที่ใกล้เคียงกับซ่งเยี่ยนโจว จึงถูกนำไปเปรียบเทียบกับเขาเสมอ แต่ทุกครั้งมักจะพ่ายแพ้ให้กับซ่งเยี่ยนโจว ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก!แต่ตอนนี้โชคชะตากลับเล่นตลกให้ซ่งเยี่ยนโจวกลายเป็นคนพิการ และสตรีที่เขาหมายปอง บัดนี้ก็จะแต่งงานให้กับเขาแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าหากซ่งเยี่ยนโจวรู้เรื่องนี้แล้วจะมีปฏิกิริยาเช่นไรแค่เพียงคิดก็ทำให้เขารู้สึกสะใจเหลือเกิน!ลั่วชิงอินมองชายหนุ่มตรงหน้า นางไม่ได้ชอบเหยาจิ่นเฉิงเลยแม้ว่าเขาจะดูสุภาพราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่น แต่ในใจของนางกลับรู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่นิสัยที่แท้จริงของเหยาจิ่นเฉิง แต่เสมือนเป็นหน้ากากจอมปลอมที่เขาสวมปิดบังไว้“ขอบคุณมากเจ้าค่ะ แต่โสมร้อยปีชิ้นนี้ล้ำค่าเกินไป วันนี้ข้าจึงตั้งใจนำมา...”กล่าวจบ ลั่วชิงอินหันไปพยักหน้าให้สาวรับใช้ที่อยู่ข้าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 185

    “ข้ากำลังเป็นห่วงพี่หญิงรอง จะให้ข้าใส่ใจเรื่องอื่นได้อย่างไร?”ลั่วหวยหลี่อดไม่ได้ที่จะมองไปทางด้านหลัง ที่เขาเกลียดเหยาจิ่นเฉิงมากไม่ใช่ไม่มีเหตุผล คนผู้นี้เมื่อก่อนมีนิสัยโหดร้ายยิ่งนักครั้งหนึ่งที่เขาลงไม้ลงมือกับเหยาจิ่นเฉิง ก็เพราะชายผู้นี้ได้ฆ่าหวงโต้ว สุนัขที่เขาเลี้ยงมาหลายปีและสนิทสนมมากที่สุดไม่คิดว่าเหยาจิ่นเฉิงโต้เถียงกับเขาเพียงเล็กน้อย ก็จะกระทำอย่างไร้ความปรานี ฆ่าหวงโต้วอย่างโหดร้ายแล้วยังชำแหละแบ่งเนื้อกินกับพรรคพวก เมื่อตัวเขามาถึงก็เห็นแต่ซากหนังที่เปื้อนเลือด ย่อมโกรธแค้นอยากสังหารคน”แต่จนปัญญาที่เขาสู้เหยาจิ่นเฉิงไม่ได้ แต่ยังถูกเย้ยหยันอย่างเจ็บแสบ เป็นซ่งเยี่ยนโจวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย เหยาจิ่นเฉิงถูกซ่งเยี่ยนโจวสั่งสอนอย่างสาสม ความแค้นของเขาจึงได้ระบายออกมาเสียทีเพราะเหตุนี้เอง เมื่อกลับไปเขาจึงถูกบิดาตำหนิอย่างหนัก แต่ตัวเขากลับไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยบัดนี้คนผู้นี้กลับคิดจะแต่งงานกับพี่หญิงของเขา ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อพวกซ่งรั่วเจินมาถึง ก็ได้เห็นลั่วหวยหลี่เดินวนไปมารอบศาลาไม่ไกล“หวยหลี่ เจ้ากำลังรอข้าอยู่หรือ?”เสียงทุ้มต่ำของซ่งเยี่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 186

    ใต้ต้นท้อบุรุษผู้หนึ่งในอาภรณ์ยาวสีครามเข้ม ทวงท่างามสง่า แม้ว่าจะนั่งอยู่บนรถเข็น ก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความที่โดดเด่นแม้จะเป็นเพียงเงาหลัง นางก็ยังคงจำเขาได้ในทันทีซ่งเยี่ยนโจวราวกับรับรู้ถึงทุกสิ่งรอบตัว เขาหันมาโดยไม่รู้ตัว แล้วได้พบกับร่างอรชรอ่อนช้อยของสตรีนางนั้น ดวงตาใสดุจสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง แววตาอ่อนโยนเช่นดวงจันทร์บนฟากฝ้าสตรีผู้อ่อนหวานราวกับสายน้ำไหลริน เพียงยิ้มบาง ๆ ก็ทำให้แก้มของนางแดงระเรื่อ บัดนี้ในแววตากลับเต็มไปด้วยความหม่นหมองเล็กน้อยในใจเขารู้สึกผิดอย่างยิ่ง เขาทำผิดต่อลั่วชิงอิน ตั้งแต่ต้นจนจบเขาคือคนที่ผิดเองลั่วหวยหลี่พิจารณาคนทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปพูดกับพี่หญิงของตนว่า “พี่หญิงรอง ข้าไปทำธุระสักครู่ เดี๋ยวจะกลับมาหาท่าน”ลั่วชิงอินมองลั่วหวยหลี่ที่เดินจากไป ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเท้าเดินไปหาซ่งเยี่ยนโจวทั้งสองต่างจ้องมองกันเงียบ ๆราวกับมีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะพูดออกมา แต่กาลเวลาที่ผันผ่าน ไม่ว่าจะเป็นฐานะหรือสถานการณ์ก็แปรเปลี่ยนไปหมด แม้ว่าครั้งหนึ่งจะเคยรู้จักกันดีเพียงใด บัดนี้กลับเหมือนมีกำแพงมากั้นกลางไม่อาจข้ามผ่านได้“ไม่ได้พบก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 187

    “บิดามารดาปฏิบัติต่อข้าอย่างดีเสมอมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาต้องทนรับคำครหามากมายเพราะข้า ข้ามิอาจอกตัญญูต่อไปได้อีก…”ซ่งเยี่ยนโจวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดใจ รั่วเจินถึงแม้จะหมั้นหมายแล้ว แต่สองปีมานี้ยังคงรอคอยหลินจือเยว่ ยากที่จะหลีกเลี่ยงคำครหาของผู้คน ยิ่งไม่ต้องพูดลั่วชิงอินว่าช่วงที่ผ่านมาต้องยากลำบากมากเพียงใดนางเป็นบุตรีของตระกูลสูงศักดิ์ หากไม่ใช่เพราะเขา นางจะต้องตกอยู่ในสภาพนี้หรือ?แต่บัดนี้เขาเป็นเพียงคนที่เคยหย่าร้าง ไหนเลยจะคู่ควรกับนางได้? จะให้เอ่ยปาก เขาก็ไม่มีหน้าจะพูดออกมาสายตาจ้องมองหญิงสาวที่อยู่ในใจมาตลอดกำลังจะจากไป เขาจึงเรียกเบา ๆ“ชิงอิน”ซ่งเยี่ยนโจวนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ดวงตาลึกซึ้งจ้องมองหญิงสาวตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างยากลำบาก “ตอนนี้ข้าได้หย่าร้างแล้ว หากว่า…”ลั่วชิงอินมองบุรุษตรงหน้าอย่างใจจดจ่อ นิ้วเรียวดุจหยกภายใต้แขนเสื้อของนางค่อย ๆ กำแน่นโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจก็เริ่มติดขัดขึ้นเล็กน้อย“ซ่งเยี่ยนโจว เจ้ากับลั่วชิงอินนี่มันจริง ๆ เลย! เราเพิ่งจะหย่ากัน เจ้ายังคิดจะแต่งกับลั่วชิงอินอีกหรือ?”ทันใดนั้น เสียงแหลมสูงก็พุ่งเข้ามาทำลายบรรยากาศเดิม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 188

    “คุณหนูลั่วที่ไม่ยอมออกเรือนเสียที คงไม่ใช่ว่ากำลังรอคุณชายใหญ่แห่งตระกูลซ่งหรอกกระมัง?”“ก่อนหน้านี้สองคนนี้ก็ดูเหมือนคู่บุญฟ้าประทาน เป็นคู่ครองที่เหมาะสมกันยิ่ง แต่สุดท้ายคุณชายใหญ่ตระกูลซ่งก็เปลี่ยนใจไปแต่งงานกับฝานซืออิ๋งแทนมิใช่หรือ?”“หากเป็นคุณหนูลั่วที่ยุยงให้ทั้งสองหย่ากันจริง ๆ เรื่องนี้ก็ช่างเกินจะให้อภัย!”ซ่งรั่วเจินซึ่งเดิมทีเฝ้าระวังอยู่ไม่ไกลนัก เผอิญเจอคนแปลกหน้าที่พยายามเข้ามาก่อกวน จึงต้องใช้เวลาไม่น้อยในการเลี่ยงให้พ้นไป ไม่คิดเลยว่าพอผ่านไปแค่ครู่เดียวก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว“ฝานซืออิ๋ง เรื่องระหว่างเราสองคนอย่าได้โยงไปถึงแม่นางลั่ว ข้ากับนางเพียงบังเอิญพบกัน เจ้าอย่าได้กล่าวคำเหลวไหลให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง”ซ่งเยี่ยนโจวสีหน้ามืดมนราวกับเมฆฝน ดวงตาเย็นเยือกของเขาส่งประกายความเย็นชาราวกับจะจับตัวเป็นน้ำแข็งจริง ๆฝานซืออิ๋งเมื่อเผชิญกับสายตาน่ากลัวนั้น ใจของนางสะดุดวูบด้วยความหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว แต่ครานี้ในเมื่อนางจับจุดอ่อนได้แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆลั่วชิงอินกล้าหมายปองบุรุษของนาง เช่นนี้ก็เท่ากับหาทางตาย!“ทำไม? กล้าทำแต่ไม่กล้ารับงั้นหร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 189

    “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าหลังจากที่เจ้าหย่ากับข้า เจ้าโยนความผิดทุกอย่างมาให้ข้า แต่ข้าก็คร้านจะโต้เถียงกับเจ้าอยู่ดี”“อย่างไรเสีย เจ้าถนัดที่สุดในการโยนความผิดให้ผู้อื่น ข้าไม่อาจอธิบายกับทุกคนได้ทุกครั้งที่เจอ แต่บัดนี้เจ้ากระทำเกินไปแล้ว!”“ไม่เพียงแต่กล่าวหาพวกเรา ยังลากคนบริสุทธิ์มาเกี่ยวด้วย ช่างเป็นจิตใจที่โหดเหี้ยมดุจอสรพิษ!”ฝานซืออิ๋งปวดจนไม่สามารถพูดอะไรได้ นางมองซ่งรั่วเจินที่ทำท่าทางราวกับเป็นฝ่ายถูกกระทำ ซ้ำยังโยนความผิดทั้งหมดมาให้นางอีก ดวงตาของฝานซืออิ๋งเบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความเหลือเชื่อซ่งรั่วเจินได้กลายเป็นคนไร้ยางอายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?ซ่งรั่วเจินผู้เป็นต้นเหตุที่แท้จริงตีหน้าเศร้าพลางกล่าวโทษ มันก็แค่การแสดงละครใส่ร้ายป้ายสีมิใช่หรือ?ใครเล่าจะทำไม่เป็น?ว่ากันตามจริงแล้ว ตระกูลซ่งที่ผ่านมาต้องตกเป็นรองและถูกตระกูลฝานมองเป็นลูกไก่ในกำมือนั้น เป็นเพราะพวกเขาพยายามรักษาหน้าตาของตระกูล และไม่ต้องการพัวพันกับพวกเขาให้มากความแต่สำหรับนาง นางไม่ชอบปล่อยให้คนไร้ยางอายเหล่านี้ลอยนวลพี่ชายทั้งหลายของนางเป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมาะที่จะลดตัวลงมาตอบโต้ แต่นางซึ่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 190

    “หนังสือหย่าหรือ? ในเรื่องราวนี้มีเรื่องลับอะไรซ่อนอยู่กระนั้นหรือ?”“ข้าก็พอรู้มาว่าซ่งเยี่ยนโจวเพิ่งกลับมาไม่นาน ฝานซืออิ๋งก็กลับบ้านเดิมแล้ว ว่ากันว่าซ่งรั่วเจินเป็นคนขับไล่นางออกไป ส่วนจะจริงหรือไม่นั้น ข้าก็ไม่แน่ใจหรอก”ผู้คนรอบข้างเริ่มกระซิบกระซาบ ซ่งเยี่ยนโจวกับฝานซืออิ๋งหย่ากันอย่างกะทันหัน ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นวี่แววสัญญาณเตือนอะไรวันนี้ในเมื่อได้มีโอกาสรับรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ใครเล่าจะยอมพลาดโอกาสเช่นนี้?ใบหน้าของฝานซืออิ๋งเปลี่ยนสีเล็กน้อย รีบคิดทบทวนว่านางอาจมีหลักฐานใดตกอยู่ในมือของซ่งรั่วเจินหรือไม่ แต่เมื่อตรึกตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว คิดว่าน่าจะไม่มีหลักฐานใด ๆ เหลืออยู่หนังสือสัญญาเงินกู้ถูกฉีกทำลายไปนานแล้ว ส่วนหลิ่วหรูเยียนก็คอยรักษาหน้าตาของนางตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่เคยนำเรื่องการกู้เงินเผยแพร่ออกไปแม้จะพูดออกมาในตอนนี้ นางก็ยังมีวิธีปฏิเสธได้อยู่ดี!“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตระกูลฝานยืมเงินจากตระกูลเรามาเท่าใด ข้าก็ไม่คิดจะกล่าวถึงหรอก”“มารดาของข้ายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าอยู่กับพี่ใหญ่ของข้าอย่างสงบ ไม่ว่าเจ้าจะเรียกร้องสิ่งใด หากรับปากได้ก็ยอมทั้งหมด แต่เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 191

    “แม่ข้ายังอยู่ ไม่พูดถึงว่ายังไม่ถึงรอบผู้เยาว์มาเจ้ากี้เจ้าการ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจ้าที่เป็นสะใภ้ใหญ่ซึ่งควรอ่อนน้อมถ่อมตนยอมถอยให้ แต่เจ้ากลับเอาแต่สร้างปัญหา ข้าถึงได้หย่าร้างกับเจ้า!”ฝานซืออิ๋งปฏิเสธโดยสัญชาตญาณ “ข้า ข้าเปล่านะ...”“ถ้าเจ้าต้องการหลักฐาน ข้าก็มีพยานเหลือเฟือ!”“แม่นมสาวใช้ในจวน อาจารย์ที่สอนบัญชีให้เจ้า ลูกค้าของที่ร้าน ข้าล้วนสามารถเชิญมาได้!”น้ำเสียงของซ่งเยี่ยนโจวไม่เร็วไม่ช้า แต่กลับไม่เปิดช่องให้ฝานซืออิ๋งแก้ตัวแม้แต่น้อยฝานซืออิ๋งรู้สึกว่าหนังศีรษะชาหนึบ หลังจากแต่งงานมา ซ่งเยี่ยนโจวคร้านจะสนใจนาง แม้แต่คำพูดยังคร้านจะพูดด้วย ย่อมไม่มีทางมาถือสาหาความจนกระทั่งบัดนี้ นางจึงนึกขึ้นได้ว่าซ่งเยี่ยนโจวเดิมก็เป็นคนละเอียดรอบคอบเช่นนี้เองหากเขาตัดสินใจจะจัดการนางแล้ว ด้วยความสามารถของนางไม่สามารถรับมือได้เลย!คนทั้งหลายเห็นใบหน้าซีดเผือดของฝานซืออิ๋งก็เข้าใจแล้ว ที่แท้ฝานซืออิ๋งก็ใส่ร้ายซ่งรั่วเจินกับตระกูลซ่งมาโดยตลอดหรือนี่?“ฝานซืออิ๋งกลับดำเป็นขาวเช่นนี้ทำกันเกินไปแล้ว ซ่งรั่วเจินไม่ได้เอาเรื่องเอาราวกับนางด้วยซ้ำ แต่นางยังคิดจะมาใส่ร้ายซ่งเยี่ยนโจว

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status