แชร์

บทที่ 150

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
มองใบหน้าละโมบของฝานซืออิ๋ง ซ่งรั่วเจินแค่นหัวเราะเสียงเย็น “พี่สะใภ้ใหญ่กลับบ้านมารดาไปพักเดียว สมองก็เลอะเลือนไปหมดแล้ว เริ่มฝันแม้แต่ตอนกลางวันแสกๆ เลยกระนั้นหรือ?”

“นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เยี่ยนโจวเป็นทายาทสายตรงของสกุลซ่ง ข้าเป็นสะใภ้ใหญ่ บัดนี้แม่สามีสุขภาพไม่แข็งแรง ข้าเป็นฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือมีอันใดไม่เหมาะสม?”

ฝานซืออิ๋งถลึงตาใส่ซ่งรั่วเจินปราดหนึ่ง คิดว่ามารดาพูดได้ถูกต้อง อุบายกลับบ้านมารดาใช้มากไป สกุลซ่งก็ไม่ใส่ใจแล้ว

ทีแรกคิดว่ากลับบ้านมารดาครั้งนี้ พวกเขาจะมาขอร้องให้ตนเองกลับไปโดยเร็ว ใครคาดคิดว่าผ่านมาหลายวันเพียงนี้ อย่าพูดว่าส่งคนไปรับนางกลับมาเลย แม้แต่ส่งคนไปถามไถ่ก็ไม่มี

นางทำได้เพียงกลับมาด้วยตนเองอย่างจนใจ

บัดนี้คิดดูแล้ว มีเพียงอาศัยโอกาสนี้ยึดครองอำนาจดูแลบ้าน สกุลซ่งถึงจะเชื่อฟังนาง!

“ท่านแม่สุขภาพดีมาก ไม่ต้องให้ท่านช่วย” ซ่งรั่วเจินพูดเสียงเรียบ

“สุขภาพของท่านแม่เป็นเช่นไร ข้ารู้ดียิ่งนัก มิหนำซ้ำแต่ไหนแต่ไรมาท่านแม่ก็ไม่เชี่ยวชาญด้านการค้า หาไม่แล้วก็คงไม่ยกให้เจ้า”

ฝานซืออิ๋งคล้ายรู้เรื่องทั้งหมดเหมือนตาเห็น “ระยะนี้ข้าเองก็เรียนรู้อยู่ที่บ้านไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 151

    ส่วนฝานเซี่ยงหรงของตระกูลฝานนั้น ในเมืองหลวงเป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นคนมักมากในกามทั้งยังเป็นผีพนัน หมกตัวอยู่แต่ในหอคณิกาและบ่อนพนัน มักคบหาแต่เพื่อนเกลอที่ไม่น่าไว้วางใจบรรดาหญิงสาวในเมืองหลวงต่างพากันหลีกเลี่ยงเขา ด้วยกลัวว่าจะต้องเข้าไปพัวพันด้วย เช่นนั้นแล้วคงไม่แคล้วชีวิตต้องพังทลาย!“ข้าได้ยินมาว่าตระกูลฝานช่วงนี้คิดจะหาคู่ให้ฝานเซี่ยงหรง แต่ชื่อเสียงของเขาในเมืองหลวงนั้นเสื่อมเสียไปนานแล้ว พอจะสู่ขอก็ถูกปฏิเสธอยู่ร่ำไป ทำเอาตระกูลฝานเดือดดาลกันอยู่มาก”“ฝานเซี่ยงหรงผู้นี้เป็นคนไม่เอาไหน เดิมก็หาเจ้าสาวที่เหมาะสมไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อหลายวันก่อนก็หนีไปเล่นพนันจนเป็นหนี้สินท่วมหัว”“แล้วเจ้าพี่สะใภ้ของเจ้ากลับคิดจะจับคู่ให้เจ้าอีกหรือ นี่มันไม่ต่างอะไรจากการผลักเจ้าลงกองไฟเลยนะ!”อวิ๋นเนี่ยนชูดึงมือของซ่งรั่วเจินไว้ แววตาเต็มไปด้วยความกังวล กว่าจะหลุดพ้นจากการถอนหมั้นกับชายชั่วได้สำเร็จ ไม่คิดเลยว่าพี่สะใภ้ในบ้านจะยังวางแผนทำร้ายนางอยู่อีก น่าโมโหนัก!“ข้าเข้าใจดี” ซ่งรั่วเจินตบหลังมือของอวิ๋นเนี่ยนชูเบา ๆ “นางคิดจะผลักข้าเข้ากองไฟ ก็ต้องดูเสียก่อนว่าข้าจะยอมหรือไม่ ยิ่งไปกว่า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 152

    “ข้าเพิ่งแต่งงานกับเยี่ยนโจว เขาก็ทิ้งข้าไปออกรบเสียแล้ว สองปีมานี้ข้าก็อยู่ที่จวนคอยทำหน้าที่กตัญญูต่อท่านแม่แทนเขา ไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่น้อย” “ข้าอาจจะพลั้งปากไปบ้าง แต่ในใจข้านั้นก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน...”ฝานซืออิ๋งน้ำตาคลอด้วยความเศร้า ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความลำพองใจ เพราะนางรู้ว่าแม่สามีอ่อนโยนเสมอ เมื่อใดที่นางร้องไห้ แม่สามีก็มักไม่เอ่ยตำหนิอีก“ท่านกตัญญูอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ “อยู่ในจวนตลอดมาก็มีเพียงสาวใช้กับแม่นมคอยรับใช้ท่าน ท่านเคยทำกับข้าวให้ท่านแม่สักมื้อหรือส่งเสื้อผ้าให้สักชิ้นหรือไม่?”“ต่อมากระทั่งการไปคำนับท่านแม่ทุกเช้าก็ยังเลี่ยงแล้ว ท่านยังมีหน้ามากล้าพูดว่ากตัญญูอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินไม่คิดจะไว้หน้าแม้แต่น้อย ครอบครัวของเจ้าของร่างเดิมถูกช่วงชิงวาสนาและต้องพบเจอแต่เรื่องแปลกประหลาด บัดนี้เมื่อนางมาแล้ว นางไม่มีทางยอมให้ฝานซืออิ๋งทำตัวได้คืบจะเอาศอกอีกต่อไปฝานซืออิ๋งถึงกับยืนอึ้ง เหตุใดซ่งรั่วเจินถึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้? เดิมทีนางเป็นคนที่จัดการได้ง่ายมาก หรือว่าหลังจากถูกถอนหมั้นแล้ว ซ่งรั่วเจินจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 153

    “พี่สะใภ้บอกให้ข้าแต่งงานกับฝานเซี่ยงหรงเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินกล่าวขึ้น“เหลวไหล!” หลิ่วหรูเยียนโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ อารมณ์ที่เดิมทีอดกลั้นไว้ก็ปะทุขึ้นทันที“เจ้ากำลังจะผลักรั่วเจินให้เข้าไปในกองไฟ!” “ข้าเคยได้ยินเจ้าพูดเรื่องที่ว่า ‘ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดทิ้งไป’ แต่รั่วเจินคือลูกสาวของข้า ต่อให้นางแต่งงานออกไปแล้ว นางก็ยังคงเป็นลูกสาวของข้าตลอดไป เป็นคนของตระกูลซ่ง!”“ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าพูดเช่นนี้มีเจตนาอันใดกันแน่?”เฉียนชิวเซียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่พอใจทันที “ซ่งฮูหยิน ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ไยการแต่งงานกับบุตรชายข้าถึงเปรียบเสมือนผลักนางเข้ากองไฟ?”“พวกท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ คงไม่จำเป็นต้องให้ข้าต้องพูดชัดเจนกระมัง” หลิ่วหรูเยียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางคร้านจะหันมองฝานเซี่ยงหรง เจ้าคนไม่ได้เรื่องผู้นี้ ตระกูลฝานยังกล้าคิดว่านางจะไม่รู้ว่าฝานซืออิ๋งเอาเงินไปทำอะไรในทุกครั้งหรือ?“บุตรชายของข้าอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่รั่วเจินเองก็อายุไม่น้อยแล้ว อีกทั้งยังถูกถอนหมั้น เห็นทีว่าในเมืองหลวงเช่นนี้ย่อมยากท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 154

    “เหตุใดจึงจะชอบนางไม่ได้เล่า? รั่วเจินทั้งกิริยามารยาทงาม มีความรู้ งดงามทั้งกายและใจ เพียงแค่เสียเวลาล่าช้าไปสองปี เรื่องถอนหมั้นก็ไม่ใช่ความผิดของนางเสียหน่อย!”“ในเมืองหลวงนี้ยังมีบัณฑิตตาดีอีกมาก และฮูหยินที่เข้าใจเรื่องราวอย่างถ่องแท้ก็มีไม่ใช่น้อย เรื่องแต่งงานของนาง ไม่ต้องให้พวกท่านมากังวล!”หลิ่วหรูเยียนถือว่าซ่งรั่วเจินเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ นางจะไม่ยอมให้มีใครมาใส่ร้ายบุตรสาวแม้เพียงคำเดียว“พวกท่านพูดจาดูถูกบุตรสาวข้ากันปาว ๆ เช่นนี้ อย่าได้เอาคำว่าญาติมาอ้างอีกต่อไปเลย ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกท่าน เชิญออกไปเถิด ข้าไม่ส่ง”ซ่งจืออวี้กับซ่งรั่วเจินสบตากัน ทั้งสองต่างรู้สึกประหลาดใจมารดาของพวกเขาแต่เดิมเป็นคนอ่อนโยนเสมอ ครั้งก่อนยังถูกเฉียนชิวเซียงกลั่นแกล้งไม่น้อย แต่วันนี้กลับแสดงความเด็ดขาดอย่างน่าทึ่ง!“ท่าน... ท่านกำลังไล่พวกเราออกไปหรือ?” เฉียนชิวเซียงเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ“บุตรสาวข้าแต่งงานเข้าบ้านพวกท่าน ข้าก็ถือเป็นแขก แต่ตระกูลซ่งผู้สูงศักดิ์กลับไร้ซึ่งมารยาทขั้นพื้นฐาน หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงไม่พ้นจะกลายเป็นเรื่องขบขันของผู้คน!”เฉียนชิวเซียงคิดว่าเมื่อพู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 155

    ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ต่างพากันทำความเคารพ แต่ในใจยังคงสงสัยว่าเหตุใดสององค์ชายถึงมาเยือนในวันนี้?“บุกเข้าบ้านคนอื่นอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ดูท่าญาติฝ่ายสะใภ้ตระกูลนี้คงไม่ใช่คนดีเท่าไรกระมัง?”ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา สองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาได้ทำความเข้าใจตระกูลซ่งมากขึ้น และรู้ว่าตระกูลฝานไม่ใช่ญาติฝ่ายสะใภ้ที่ดีนัก คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเห็นพวกเขาสร้างปัญหาให้กับตระกูลซ่งเฉียนชิวเซียงตัวสั่นด้วยความกลัว เหงื่อเย็นไหลพรั่งพรู “ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็นคนพูดตรงไปตรงมา คำพูดอาจฟังไม่ไพเราะ แต่หามีเจตนาร้ายไม่เพคะ!”ฝานซืออิ๋งเมื่อเห็นท่านอ๋องทั้งสองมา นางก็คิดในใจว่าพวกเขาคงมาเยี่ยมเยี่ยนโจวเป็นแน่ บิดาของเยี่ยนโจวก็ไม่อยู่แล้ว คนอื่น ๆ ในตระกูลก็ไม่มีความสัมพันธ์กับท่านอ๋องทั้งสองแม้แต่น้อย เช่นนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียว!เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ยิ้มอย่างยินดี จัดแต่งผมของตนเองแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องคงมาเยี่ยมเยี่ยนโจวใช่หรือไม่เพคะ? เขาอยู่ในจวน หม่อมฉันเป็นฮูหยินของเขา ให้หม่อมฉันพาท่านอ๋องเข้าไปเถิดเพคะ”“เชิญด้านในเพคะ”ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 156

    “มีเรื่องอันใดที่ท่านแม่กับน้องชายข้าฟังไม่ได้หรือ? พวกเขาอุตส่าห์มาส่งข้า แต่กลับไม่มีแม้แต่น้ำชาให้ดื่ม แล้วจะให้พวกเขากลับไปได้อย่างไร?”ฝานซืออิ๋งเอ่ยอย่างไม่พอใจ ในใจนางรู้สึกว่าเมื่อก่อนทุกคนในตระกูลซ่งปฏิบัติต่อนางด้วยความสุภาพ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะเปลี่ยนท่าทีไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะแม่สามีกับซ่งรั่วเจิน ต่างก็เริ่มตำหนินางแล้ว!ดูท่าว่าในช่วงเวลาที่นางออกจากจวนไป คงมีเรื่องมากมายเกิดขึ้น นางจะต้องรีบยึดสิทธิ์ในการดูแลจวนให้ได้โดยเร็ว!ซ่งเยี่ยนโจวมองไปยังเฉียนชิวเซียงกับฝานเซี่ยงหรง “หากพวกท่านไม่กลับ เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน”“ไปก็ไป ข้ากลัวว่าท่านจะรังแกพี่หญิงของข้า!”ฝานเซี่ยงหรงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้กับพี่หญิงเพื่อให้ดึงเงินจากตระกูลซ่งมาช่วยใช้หนี้พนัน หากไม่รีบชำระหนี้โดยเร็ว เจ้าหนี้พวกนั้นจะต้องตัดมือเขาเป็นแน่!“พี่ใหญ่ คนพวกนี้ไม่ประสงค์ดี!”ซ่งอี้อันมองไปที่ซ่งเยี่ยนโจวด้วยความกังวล เพราะทุกคนต่างเห็นแล้วว่าครอบครัวของฝานซืออิ๋งช่างไร้เหตุผลสิ้นดี แม้กระทั่งมารดาของพวกเขาซึ่งเป็นคนอ่อนโยนก็ยังอดไม่ได้ที่จะโต้กลับพี่ชายต้องเผชิญหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 157

    “คาดไม่ถึงว่าเช้านี้ไท่เฟย[1]จะมีพระราชเสาวนีย์มารับรองให้กับฉินซวงซวง ตรัสว่าจะขอรับประกันในความซื่อสัตย์ของนาง และยืนยันว่านางไม่มีทางสมคบกับขุนนางทุจริต”“ไท่เฟยหรือ?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววประหลาดใจ ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าเป็นไท่เฟยพระองค์ใดไท่เฟยที่ยังทรงอิทธิพลมาถึงในยามนี้ ก็คงมีเพียงกุ้ยเฟยที่ได้รับความโปรดปรานในสมัยฮ่องเต้พระองค์ก่อน นั่นก็คือเซียวไท่เฟยนางจำได้ว่าในนิยายเคยพูดถึงเรื่องนี้ ฉินซวงซวงหลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่ นางได้ไปหาหลินจือเยว่เพื่อจะได้อยู่กับเขาให้เร็วขึ้น พร้อมกันนั้นก็เริ่มวางแผนสำหรับตัวเองการช่วยชีวิตเซียวไท่เฟยเป็นหนึ่งในแผนการที่นางวางไว้ มีบุญคุณช่วยชีวิตครั้งนี้ เปรียบเสมือนการได้รับป้ายทองละเว้นโทษตายและบัดนี้ป้ายทองละเว้นโทษตายนั้นก็ถูกนำมาใช้แล้ว“ในวังหลัง เซียวไท่เฟยมีฐานะสูงส่ง และตระกูลเซียวก็มีอิทธิพลไม่น้อยในราชสำนัก บัดนี้ไท่เฟยออกตัวรับรองให้ตระกูลฉิน อีกทั้งนอกจากเรื่องขุดสมบัติก็ไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวโยงระหว่างตระกูลฉินหรือตระกูลหลินกับหยวนซิงเชา เกรงว่าเรื่องนี้จะ...”ฉู่จวินถิงมองด้วยสายตาล้ำลึก เรื่องนี้เป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 158

    “หากเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาคงไม่ดีแน่”ฉู่อวิ๋นกุยกล่าวพร้อมกับขยิบตาให้ฉู่จวินถิง ทำท่าทีราวกับจะบอกว่า ‘ข้ากำลังหวังดีต่อท่านอยู่นะ’เสด็จพี่สามของเขาคงไม่รู้ถึงเสน่ห์ของตนเอง ปกติแค่ยืนเฉย ๆ ก็มีหญิงสาวมากมายตามล้อมหน้าล้อมหลังไม่รู้กี่มากน้อย ยิ่งการมาพูดคุยอย่างกระตือรือร้นถึงบ้านของผู้อื่นเช่นนี้ ยิ่งง่ายที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดไม่ใช่หรือ?เขาคิดว่าซ่งรั่วเจินเป็นสตรีที่ดี นางเคยถูกหลินจือเยว่หลอกมาก็น่าเวทนาอยู่แล้ว หากต้องมาพัวพันกับเสด็จพี่สามของเขาอีก เขาก็คงไม่อาจทนดูได้ซ่งรั่วเจินชะงักเล็กน้อย เมื่อนึกถึงตอนที่นางอ่านนิยายมาก่อนหน้านี้ ฉู่จวินถิงเป็นท่านอ๋องผู้โดดเดี่ยวที่ไม่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักเลยไม่แน่ใจว่าเขาปราศจากอารมณ์ความรู้สึกโดยธรรมชาติ หรืออาจเพราะไม่ได้ชอบสตรีแม้ในขณะที่ฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง แต่ชะตาชีวิตของเขาก็ยังไม่มีวี่แววของความรัก บางทีแสงจันทร์ขาวที่เย็นชาอย่างเขาอาจเป็นดั่งดวงจันทร์ที่อยู่ห่างไกลบนฟากฟ้าจนไม่มีใครเอื้อมถึงนางเองก็ไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นเลย อีกทั้งนางได้เป็นศัตรูกับพระเอกและนางเอกของโลกนี้แ

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 726

    “ชิ้ง!”กู้ชิงฉือสัมผัสได้ว่ากระบี่คมสายหนึ่งผ่านข้างกายตนไป ไรผมช่อหนึ่งถูกตัด ตกตะลึงพรึงเพริดภายในใจ“นี่ให้เจ้า”ฉู่จวินถิงลังเลไปครู่หนึ่ง ยัดยันต์คุ้มภัยใส่มือกู้ชิงฉือ“เก็บไว้ให้ดีแทนข้าด้วย!”ครู่ต่อมา กู้ชิงฉือก็มองเห็นคู่ต่อสู้เบื้องหน้า ภายในสายตาสั่นสะท้าน ก้มหน้ามองดู นี่คือกระดาษยันต์สีเหลืองหนึ่งใบ“ท่านอ๋อง ท่านยกให้ข้า เช่นนั้นท่านจะทำเยี่ยงไร!”ไต้ซือเทียนจีเห็นฉู่จวินถิงมอบยันต์ให้กู้ชิงฉือ ภายในสายตาสะท้อนแววตกตะลึง ฉู่อ๋องอยู่ภายนอกได้ชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนไม่กะพริบตา ถึงขั้นมอบของป้องกันชีวิตให้ผู้อื่น?คนผู้นี้...มีภูมิหลังเช่นไร?“ไม่ต้องห่วงข้า”ฉู่จวินถิงหลับตาลง ได้ยินเสียงฝ่าอากาศรอบด้าน แยกแยะตำแหน่ง“ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!”พลังอันแข็งแกร่งปะทุออกมา ฉู่จวินถิงเคลื่อนไหวอย่างว่องไว ราวกับมังกรเคลื่อนไหวก็มิปาน หลบหลีกการโจมตีที่พุ่งเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนที่ดาบในมือจะพุ่งแทงออกไปอย่างฉับพลัน“อ๊าก!”เสียงแผดร้องสายหนึ่งดังขึ้น ศพร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าทุกคน“ไอ้พวกชั่ว!”ภายในสายตาฉู่จวินถิงสะท้อนความอำมหิต คนผ่านเข้าไปกลางตรอกเล็ก ทั้งๆ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 725

    ซ่งรั่วเจินติดตามซ่งเยี่ยนโจวเดินทางมาถึงพื้นที่ที่ถูกปิดล้อมไว้ บัดนี้ถูกขวางไว้ ไม่อนุญาตให้ผู้ใดผ่านทางซ่งเยี่ยนโจวหยิบป้าย ทั้งสองคนผ่านเข้าไปอย่างราบรื่น“ภายนอกเป็นทหารของทางการรับผิดชอบค้นหา ส่วนภายในและภายนอกเมือง ฉู่อ๋องคล้ายพบความผิดปกติ ดังนั้นจึงพาคนไปค้นหาก่อน”ซ่งเยี่ยนโจวพาซ่งรั่วเจินขี่ม้าไป ว่องไวอย่างมากจากนั้นระยะทางใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ซ่งรั่วเจินมองผ่านการสัมผัสของผีทวงชีวิตที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตกตะลึงภายในใจ เวลาสั้นถึงเพียงนี้ ฉู่อ๋องถึงขั้นพบที่ซ่อนตัวของไต้ซือเทียนจีแล้ว?“บัดนี้สถานการณ์เป็นเช่นไร?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถาม“ท่านหัวหน้าราชองครักษ์ ท่านมาแล้ว” จ้าวเจียงแม่ทัพที่เป็นหัวหน้าได้พบซ่งเยี่ยนโจวรีบตอบ “มีหนึ่งหน่วยหายไประหว่างค้นหาขอรับ ตอนนี้ท่านอ๋องกำลังพาคนออกค้นหา”“เรื่องวันนี้พูดไปแล้วก็แปลกมาก คนกลุ่มหนึ่งอยู่ดีๆ ก็หายไป ท่านว่าแปลกหรือไม่?”เพียงซ่งรั่วเจินได้ยิน พูดเสียงเครียด “อยู่ที่ใด?”จ้าวเจียงเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงขั้นพาแม่นางท่านหนึ่งมาด้วย ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่มองอย่างละเอียดแล้วก็จำฐานะของอีกฝ่ายได้ ท่าทีเคารพน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 724

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้าเบาๆ รีบตามหลังไปฉู่จวินถิงพากลุ่มคนฝีมือดีเริ่มออกค้นหาในบริเวณที่เลือกไว้ ตั้งใจเอ่ยเตือนไม่ให้ปล่อยเบาะแสใดหนึ่งหน่วยภายในนั้นกำลังค้นหาตรอกเบื้องหน้า เดินไปๆ กลับๆ พบว่าตรอกนี้ยาวมาก ถึงขั้นเกิดความรู้สึกเดินไปไม่สุดทางทีแรกทุกคนยังไม่พบอะไร จนกระทั่งเดินเป็นรอบที่สาม นี่ถึงพบว่าเคยมาสถานที่เบื้องหน้ามาก่อน เหมือนกับสถานที่ที่เคยมาก่อนหน้านี้ทุกกระเบียดนิ้ว“ผิดปกติ เมื่อครู่พวกเราค้นหาที่นี่แล้วมิใช่หรือ เหตุใดรู้สึกว่ากลับว่าอีกครั้งแล้วเล่า?”“ใช่แล้ว เมื่อครู่ข้ามาที่นี่ ประตูใหญ่เหมือนเดิมทุกกระเบียดนิ้ว ข้ายังยกหินก้อนนี้ไว้ที่อีกฝั่งด้วย ต่อให้บ้านเรือนละแวกนี้คล้ายกัน แต่ก็ไม่มีวันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วเช่นนี้!”คนเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วแน่น “เร็ว พวกเราออกจากตรอกนี้ไป!”“ขอรับ” ทุกคนไม่ใส่ใจการค้นหาอีก เร่งฝีเท้าว่องไวยิ่งขึ้นออกจากตรอกเล็กนี้จากนั้นทุกคนเพิ่งถึงหน้าตรอก ก็พบว่าพวกเขากลับมาอยู่ภายในตรอกเล็กอีกครั้ง สีหน้าแต่ละคนเปลี่ยนไป“นี่โดนของกลางวันแสกๆ เลยหรือ?”ทุกคนต่างหันหน้ามองกัน เรื่องโดนของแบบนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ถ้ามีแค่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 723

    “เช่นนั้นก็ค่อยๆ ค้นหา ค้นหาทุกครัวเรือน ห้ามมิให้ปล่อยที่ใดไปเป็นอันขาด โดยเฉพาะห้องใต้หลังคา ห้องใต้ดิน ไปจนถึงคอกวัวแกะหมู ต้องหาทั้งหมดให้ละเอียด!” ฉู่จวินถิงเอ่ยออกมา“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!”บัดนี้ทุกคนจำภาพวาดไว้ในสมองแล้ว ท่านอ๋องพูดว่าขอเพียงจับคนได้ จะตกรางวัลให้อย่างงาม!กององครักษ์หลวงเริ่มค้นหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่พลาดที่ใดไป อีกทั้งยังไม่ปล่อยโอกาสให้คนหลุดรอดไปได้ไต้ซือเทียนจีได้รับข่าวอย่างรวดเร็ว ยามได้รู้ว่าฉู่อ๋องนำทหารออกค้นหา ก็รู้ว่ากำลังค้นหาตนเอง สีหน้าเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์มากผิดปติ“ในเมื่อสามารถทำนายมาถึงข้าได้ ซ่งรั่วเจินคนนี้รับมือยากไม่ผิดไปดังคาด!”หลายวันก่อนเขาหลบซ่อน วางอุบายวางค่ายกล เดิมทีคนทั่วไปไม่สามารถตามหาตำแหน่งของเขาพบ นี่ทำให้เขากล้าอยู่ที่เมืองหลวงต่อใครคาดคิดเล่าว่าภายในมือซ่งรั่วเจินไม่รู้ลมหายใจของเขา ถึงขั้นสามารถทำนายตำแหน่งที่เขาอยู่ได้ ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ!“ไต้ซือ ตอนนี้พวกเราจะทำเช่นไร? กององครักษ์หลวงมีความสามารถไม่น้อย ฉู่อ๋องเองก็วิชายุทธสูง หากถูกเขาจับได้ พวกเราจะต้องหนีไม่พ้นแน่!”ทุกคนร้อนใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ หลายว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 722

    “เจ้าคงมิใช่หลอกคนหรอกกระมัง?” อวิ๋นหงหล่างเผยสีหน้าสงสัยซ่งจืออวี้กลอกตาขาว “ตาแก่ไร้ยางอายคนนี้ คิดสงสัยใครที่นี่? ช่วยท่านแล้วไม่พูดขอบคุณ ยังสงสัยน้องหญิงของข้าอีกกระนั้นรึ?”“ไปๆ ๆ รีบพาหญิงแก่แพศยาชาเขียวคนนี้ไสหัวไปได้แล้ว เห็นแล้วขยะแขยง!”“อีกเดี๋ยวส่งเงินมาให้ข้า หากภายในหนึ่งชั่วยามยังมาไม่ถึง ข้าจะไปแจ้งทางการ!”“พวกเจ้าเลิกยื่นเหม่อได้แล้ว ให้พวกเจ้าส่งแขก หากยังไม่ยอมไป ก็ใช้ไม้พองไล่ออกไป!”บ่าวรับใช้ทางด้านข้างดึงสติกลับมาได้ ต่างพากันถลันขึ้นไป เตรียมไล่คนอวิ๋นหงหล่างเองก็ไม่มีหน้าอยู่ที่นี่ต่อ ทำได้เพียงพาอนุอวิ๋นจากไปด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ปวดใจไม่หยุด นั่นคือเงินสามแสนตำลึงเชียวนะ!หันมองอนุอวิ๋นข้างกาย เขาเกิดโทสะขึ้นมาสายหนึ่ง หากไม่ใช่นางหาเรื่อง เรื่องราวก็คงไม่ต้องกลายเป็นเช่นนี้!จนกระทั่งทั้งสองคนจากไป ซ่งจืออวี้ก็พบว่าสายตาทุกคนล้วนตกลงบนตัวของตน เอ่ยออกมาอย่างอดไม่ได้ “พวกเจ้ามองข้าทำอันใด?”“พี่สาม ชาเขียวที่ท่านพูดหมายความว่าอะไร?” ซ่งจิ่งเซินแปลกใจอยู่บ้างซ่งจืออวี้ผายมือ “ข้าเองก็ไม่รู้ เรียนมาจากน้องหญิงห้า”ซ่งรั่วเจินเห็นทุกคนมองตนสีหน้าแป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 721

    นางจำรายการสินเดิมในปีนั้นได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงกำไรของร้านค้าที่เป็นสินเดิมเพราะหลายปีมานี้ผิดหวังกับอวิ๋นหงหล่างมาก นางจึงหันไปสนใจการค้านางและกู้หรูเยียนเป็นสหายที่ดีต่อกัน การค้าของสกุลซ่งดีมากถึงเพียงนี้ ย่อมชี้แนะนางเป็นอย่างดี ดังนั้นเงินที่หาได้ย่อมมีไม่น้อย ภายในนั้นเขียนไว้ในบัญชีรวมมากมายทว่านางเก็บรักษาบัญชีของร้านไว้อย่างดี แม้แต่ภายในจวนเบิกเงินของนางไปมากน้อยเพียงใด นางก็จำได้ทั้งหมดบัดนี้...จะเอาคืนกลับมาให้หมด!“พี่หญิง คืนของให้ท่านย่อมเป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่ท่านเองก็ต้องการมากเกินไปแล้ว”อนุอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ หันมองอวิ๋นหงหล่างอย่างกังวล กลัวเขาโมโหลงนามลงไปอวิ๋นหงหล่างย่อมไม่ยอมให้เกิดปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง แม้ปวดใจ แต่ยังลงนามประทับลายนิ้วมือลงไป“ตอนนี้ใช้ได้แล้ว พวกเจ้าสามารถช่วยคนได้แล้วกระมัง!”เห็นจางเหวินเก็บหนังสือหย่าไป ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ “ให้ข้าลงมือช่วยอนุอวิ๋นก็ย่อมได้ สามแสนตำลึง!”ถ้อยคำนี้พูดออกมา อวิ๋นหงหล่างก็โง่งมแล้ว “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำเลยเถิดเกินไปนัก ทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่าขอเพียงลงนามในหน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 720

    “ข้าคิดไว้ดีตั้งแต่แรกแล้ว นับตั้งแต่วันที่ติดตามท่านแม่ออกจากสกุลอวิ๋น ข้าก็ไม่คิดกลับไปอีก”พูดไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็เหลือบมองอวิ๋นเฉิงเจ๋อแวบหนึ่ง พูดว่า “ภายภาคหน้าไม่ว่าข้าแต่งกับใคร ต่อให้เป็นเพียงสามัญชนคนหนึ่ง ข้าก็ยินดี”อย่างไรเสีย ชาตินี้หากไม่สามารถแต่งงานกับคนที่รักได้ ไม่ว่าแต่งกับใครก็ล้วนเหมือนกันเมื่อแรกท่านแม่แต่งงานกับท่านพ่อ ทุกคนล้วนพูดว่าแต่งได้ดี แต่สุดท้ายได้รับอะไรเล่า?อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินว่าอวิ๋นเนี่ยนชูจะแต่งงานกับสามัญชน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว นิ้วมือภายในแขนเสื้อกำแน่น ภายในก้นบึ้งของสายตาซับซ้อน“เจ้า ดีนักนะ!” อวิ๋นหงหล่างโมโหจนหัวเราะออกมา “ถึงตอนนั้นเจ้าหาทางออกไปได้ อย่ามาขอข้าให้ช่วยเจ้าก็แล้วกัน!”“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น ตรงข้ามกันภายในหัวใจท่านพ่อ ซีหว่านล้วนสำคัญที่สุดมาโดยตลอด”“นางทำผิดมากเพียงใดล้วนไม่เป็นไร ข้าเพียงทำผิดเล็กน้อยก็ถูกลงโทษ หากข้าตามท่านกลับไป ภายภาคหน้าบ้านหลังนี้มีอนุอวิ๋นดูแล ข้ายังจะมีชีวิตที่ดีอีกหรือ?”อวิ๋นเนี่ยนชูคิดตกแล้ว เดิมทีอนุอวิ๋นก็โหดเหี้ยมอำมหิต พวกเขาล้วนมองออก มีเพียงบิดาที่มองไม่ออกบางที...บิดาอาจไม่ยอมมอง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 719

    “ยังมีเจ้า!” หลิ่วหรูเยียนชี้อนุอวิ๋น “ตอนยังเป็นสาวร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ช่างเถอะ บัดนี้แก่จนหน้าเหลืองแล้วกลับยังไม่แก้ไข หากชอบร้องไห้ถึงเพียงนั้น ตอนจัดงานศพก็ไปร้องที่นั่นสิ วิ่งมาสร้างความอัปมงคลที่จวนซ่งของพวกเราทำอันใด!”คนสกุลซ่งหันมองมารดาอย่างแปลกใจ ที่ผ่านมามารดาอ่อนโยนนุ่มนวล ไม่เคยพูดจาเช่นนี้มาก่อน คำพูดวันนี้ช่าง...สาแก่ใจจริงๆ!จางเหวินที่เดิมทีโมโหแทบแย่กลับถูกคำพูดของหลิ่วหรูเยียนทำให้ขำจนหัวเราะออกมานางหวนนึกถึงเมื่อครั้นยังอยู่ในวัยแรกรุ่น กู้หรูเยียนมีอุปนิสัยอ่อนโยนรังแกง่าย เพราะได้รับความทุกข์จากสกุลหลิ่ว ครอบครัวลำเอียง นางอธิบายไปแล้วก็ไม่มีใครฟัง หนำซ้ำยังถูกลงโทษ ดังนั้นกู้หรูเยียนจึงชินชากับการไม่อธิบายจนกระทั่งมีคนพูดว่าร้ายนาง นางได้เห็นคนอ่อนโยนนุ่มนวลเสมอมาอย่างกู้หรูเยียนออกมาตอบโต้คน ถึงขั้นด่ากลับไปความสะเทือนใจในตอนนั้นก็คล้ายตอนนี้ ฉากตรงหน้าแทบจะซ้อนทับกัน“หลายปีมานี้เจ้าไม่บอกข้ามาโดยตลอด หากข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าเจ้าได้รับความทุกข์เช่นนี้ จะต้องช่วยเจ้าด่าชายโฉดหญิงชั่วไร้ยางอายคู่นี้ดีๆ แน่!”จางเหวินจับมือกู้หรูเยียนไว้ ขอบตาแดงเรื่อ “ห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 718

    “ข้าไม่ช่วย เดิมทีก็ถูกต้องตามหลักการ หาไม่แล้วคนชั่วในใต้หล้านี้ล้วนมาขอให้ข้าช่วยแก้ผลกรรมให้ นั่นยังไม่กลายเป็นโลกของคนชั่วอีกหรือ?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ใต้เท้าอวิ๋น ท่านเป็นขุนนางในราชสสำนักมาหลายสิบปี ถึงขั้นไม่มีหลักคุณธรรมขั้นพื้นฐานกระนั้นหรือ?”“หากท่านคิดว่าท่านพูดมีเหตุผล ก็สามารถพูดเรื่องทั้งหมดออกมาได้ พอดีจะได้ถามคนทั่วหล้าว่าคิดเห็นเหมือนท่านหรือไม่!”เพียงอนุอวิ๋นได้ยินก็รีบพูด “ข้ามิได้เชิญผีน้อยมาทำร้ายพี่หญิง ข้าเพียงหวังให้นางและนายท่านกลับมาคืนดีกัน ข้าเองก็ถูกคนชั่วนั่นหลอก”“หากข้ารู้ตั้งแต่แรกก็ไม่มีวันทำเช่นนี้”“อ้อ งั้นหรือ?” ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากเสียงเรียบ เนตรขนงเจือรอยยิ้ม “บัดนี้มีคนทำผิดเหมือนท่านไม่น้อย ราชสำนักมีบัญชีรายชื่ออยู่ในมือแล้ว”“ไม่สู้ไปถามคนเหล่านั้นดู ตกลงพวกเขารู้หรือไม่ว่าที่เชิญผีน้อยมาก็เพื่อทำร้ายคน?”“ถ้อยคำนี้ ท่านหลอกตนเองก็ช่างเถอะ คิดว่าคนทั่วหล้าโง่เขลาเหมือนท่านหรือ?”สายตาซ่งรั่วเจินคมกริบ “ทำร้ายคนและช่วยคน ทำร้ายคนต้องชดใช้มากยิ่งกว่า หากท่านทำเพราะอยากให้ทั้งสองคนคืนดีกันจริง สิ่งที่ท่านเชิญกลับไป สมควรเป็นพระพุทธ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status