Share

บทที่ 152

Penulis: จี้เวยเวย
“ข้าเพิ่งแต่งงานกับเยี่ยนโจว เขาก็ทิ้งข้าไปออกรบเสียแล้ว สองปีมานี้ข้าก็อยู่ที่จวนคอยทำหน้าที่กตัญญูต่อท่านแม่แทนเขา ไม่เคยปริปากบ่นแม้แต่น้อย”

“ข้าอาจจะพลั้งปากไปบ้าง แต่ในใจข้านั้นก็รู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน...”

ฝานซืออิ๋งน้ำตาคลอด้วยความเศร้า ทว่าภายในใจกลับเต็มไปด้วยความลำพองใจ เพราะนางรู้ว่าแม่สามีอ่อนโยนเสมอ เมื่อใดที่นางร้องไห้ แม่สามีก็มักไม่เอ่ยตำหนิอีก

“ท่านกตัญญูอะไรหรือ?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ

“อยู่ในจวนตลอดมาก็มีเพียงสาวใช้กับแม่นมคอยรับใช้ท่าน ท่านเคยทำกับข้าวให้ท่านแม่สักมื้อหรือส่งเสื้อผ้าให้สักชิ้นหรือไม่?”

“ต่อมากระทั่งการไปคำนับท่านแม่ทุกเช้าก็ยังเลี่ยงแล้ว ท่านยังมีหน้ามากล้าพูดว่ากตัญญูอีกหรือ?”

ซ่งรั่วเจินไม่คิดจะไว้หน้าแม้แต่น้อย ครอบครัวของเจ้าของร่างเดิมถูกช่วงชิงวาสนาและต้องพบเจอแต่เรื่องแปลกประหลาด บัดนี้เมื่อนางมาแล้ว นางไม่มีทางยอมให้ฝานซืออิ๋งทำตัวได้คืบจะเอาศอกอีกต่อไป

ฝานซืออิ๋งถึงกับยืนอึ้ง เหตุใดซ่งรั่วเจินถึงได้เปลี่ยนไปมากถึงเพียงนี้?

เดิมทีนางเป็นคนที่จัดการได้ง่ายมาก หรือว่าหลังจากถูกถอนหมั้นแล้ว ซ่งรั่วเจินจะได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจจน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 153

    “พี่สะใภ้บอกให้ข้าแต่งงานกับฝานเซี่ยงหรงเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินกล่าวขึ้น“เหลวไหล!” หลิ่วหรูเยียนโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ อารมณ์ที่เดิมทีอดกลั้นไว้ก็ปะทุขึ้นทันที“เจ้ากำลังจะผลักรั่วเจินให้เข้าไปในกองไฟ!” “ข้าเคยได้ยินเจ้าพูดเรื่องที่ว่า ‘ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดทิ้งไป’ แต่รั่วเจินคือลูกสาวของข้า ต่อให้นางแต่งงานออกไปแล้ว นางก็ยังคงเป็นลูกสาวของข้าตลอดไป เป็นคนของตระกูลซ่ง!”“ยิ่งไปกว่านั้น นางยังไม่ได้แต่งงาน เจ้าพูดเช่นนี้มีเจตนาอันใดกันแน่?”เฉียนชิวเซียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็ไม่พอใจทันที “ซ่งฮูหยิน ท่านพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? ไยการแต่งงานกับบุตรชายข้าถึงเปรียบเสมือนผลักนางเข้ากองไฟ?”“พวกท่านรู้ดีอยู่แก่ใจ คงไม่จำเป็นต้องให้ข้าต้องพูดชัดเจนกระมัง” หลิ่วหรูเยียนตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา นางคร้านจะหันมองฝานเซี่ยงหรง เจ้าคนไม่ได้เรื่องผู้นี้ ตระกูลฝานยังกล้าคิดว่านางจะไม่รู้ว่าฝานซืออิ๋งเอาเงินไปทำอะไรในทุกครั้งหรือ?“บุตรชายของข้าอาจจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่รั่วเจินเองก็อายุไม่น้อยแล้ว อีกทั้งยังถูกถอนหมั้น เห็นทีว่าในเมืองหลวงเช่นนี้ย่อมยากท

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 154

    “เหตุใดจึงจะชอบนางไม่ได้เล่า? รั่วเจินทั้งกิริยามารยาทงาม มีความรู้ งดงามทั้งกายและใจ เพียงแค่เสียเวลาล่าช้าไปสองปี เรื่องถอนหมั้นก็ไม่ใช่ความผิดของนางเสียหน่อย!”“ในเมืองหลวงนี้ยังมีบัณฑิตตาดีอีกมาก และฮูหยินที่เข้าใจเรื่องราวอย่างถ่องแท้ก็มีไม่ใช่น้อย เรื่องแต่งงานของนาง ไม่ต้องให้พวกท่านมากังวล!”หลิ่วหรูเยียนถือว่าซ่งรั่วเจินเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ นางจะไม่ยอมให้มีใครมาใส่ร้ายบุตรสาวแม้เพียงคำเดียว“พวกท่านพูดจาดูถูกบุตรสาวข้ากันปาว ๆ เช่นนี้ อย่าได้เอาคำว่าญาติมาอ้างอีกต่อไปเลย ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกท่าน เชิญออกไปเถิด ข้าไม่ส่ง”ซ่งจืออวี้กับซ่งรั่วเจินสบตากัน ทั้งสองต่างรู้สึกประหลาดใจมารดาของพวกเขาแต่เดิมเป็นคนอ่อนโยนเสมอ ครั้งก่อนยังถูกเฉียนชิวเซียงกลั่นแกล้งไม่น้อย แต่วันนี้กลับแสดงความเด็ดขาดอย่างน่าทึ่ง!“ท่าน... ท่านกำลังไล่พวกเราออกไปหรือ?” เฉียนชิวเซียงเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ“บุตรสาวข้าแต่งงานเข้าบ้านพวกท่าน ข้าก็ถือเป็นแขก แต่ตระกูลซ่งผู้สูงศักดิ์กลับไร้ซึ่งมารยาทขั้นพื้นฐาน หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คงไม่พ้นจะกลายเป็นเรื่องขบขันของผู้คน!”เฉียนชิวเซียงคิดว่าเมื่อพู

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 155

    ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ต่างพากันทำความเคารพ แต่ในใจยังคงสงสัยว่าเหตุใดสององค์ชายถึงมาเยือนในวันนี้?“บุกเข้าบ้านคนอื่นอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ดูท่าญาติฝ่ายสะใภ้ตระกูลนี้คงไม่ใช่คนดีเท่าไรกระมัง?”ฉู่จวินถิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา สองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาได้ทำความเข้าใจตระกูลซ่งมากขึ้น และรู้ว่าตระกูลฝานไม่ใช่ญาติฝ่ายสะใภ้ที่ดีนัก คาดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้มาเห็นพวกเขาสร้างปัญหาให้กับตระกูลซ่งเฉียนชิวเซียงตัวสั่นด้วยความกลัว เหงื่อเย็นไหลพรั่งพรู “ท่านอ๋องเข้าใจผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันเป็นคนพูดตรงไปตรงมา คำพูดอาจฟังไม่ไพเราะ แต่หามีเจตนาร้ายไม่เพคะ!”ฝานซืออิ๋งเมื่อเห็นท่านอ๋องทั้งสองมา นางก็คิดในใจว่าพวกเขาคงมาเยี่ยมเยี่ยนโจวเป็นแน่ บิดาของเยี่ยนโจวก็ไม่อยู่แล้ว คนอื่น ๆ ในตระกูลก็ไม่มีความสัมพันธ์กับท่านอ๋องทั้งสองแม้แต่น้อย เช่นนั้นก็มีเพียงความเป็นไปได้เดียว!เมื่อคิดได้เช่นนั้นนางก็ยิ้มอย่างยินดี จัดแต่งผมของตนเองแล้วกล่าวว่า “ท่านอ๋องคงมาเยี่ยมเยี่ยนโจวใช่หรือไม่เพคะ? เขาอยู่ในจวน หม่อมฉันเป็นฮูหยินของเขา ให้หม่อมฉันพาท่านอ๋องเข้าไปเถิดเพคะ”“เชิญด้านในเพคะ”ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 156

    “มีเรื่องอันใดที่ท่านแม่กับน้องชายข้าฟังไม่ได้หรือ? พวกเขาอุตส่าห์มาส่งข้า แต่กลับไม่มีแม้แต่น้ำชาให้ดื่ม แล้วจะให้พวกเขากลับไปได้อย่างไร?”ฝานซืออิ๋งเอ่ยอย่างไม่พอใจ ในใจนางรู้สึกว่าเมื่อก่อนทุกคนในตระกูลซ่งปฏิบัติต่อนางด้วยความสุภาพ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะเปลี่ยนท่าทีไปโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะแม่สามีกับซ่งรั่วเจิน ต่างก็เริ่มตำหนินางแล้ว!ดูท่าว่าในช่วงเวลาที่นางออกจากจวนไป คงมีเรื่องมากมายเกิดขึ้น นางจะต้องรีบยึดสิทธิ์ในการดูแลจวนให้ได้โดยเร็ว!ซ่งเยี่ยนโจวมองไปยังเฉียนชิวเซียงกับฝานเซี่ยงหรง “หากพวกท่านไม่กลับ เช่นนั้นก็ไปด้วยกัน”“ไปก็ไป ข้ากลัวว่าท่านจะรังแกพี่หญิงของข้า!”ฝานเซี่ยงหรงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขาฝากความหวังทั้งหมดไว้กับพี่หญิงเพื่อให้ดึงเงินจากตระกูลซ่งมาช่วยใช้หนี้พนัน หากไม่รีบชำระหนี้โดยเร็ว เจ้าหนี้พวกนั้นจะต้องตัดมือเขาเป็นแน่!“พี่ใหญ่ คนพวกนี้ไม่ประสงค์ดี!”ซ่งอี้อันมองไปที่ซ่งเยี่ยนโจวด้วยความกังวล เพราะทุกคนต่างเห็นแล้วว่าครอบครัวของฝานซืออิ๋งช่างไร้เหตุผลสิ้นดี แม้กระทั่งมารดาของพวกเขาซึ่งเป็นคนอ่อนโยนก็ยังอดไม่ได้ที่จะโต้กลับพี่ชายต้องเผชิญหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 157

    “คาดไม่ถึงว่าเช้านี้ไท่เฟย[1]จะมีพระราชเสาวนีย์มารับรองให้กับฉินซวงซวง ตรัสว่าจะขอรับประกันในความซื่อสัตย์ของนาง และยืนยันว่านางไม่มีทางสมคบกับขุนนางทุจริต”“ไท่เฟยหรือ?”ซ่งรั่วเจินชะงักไปเล็กน้อย ดวงตาฉายแววประหลาดใจ ก่อนจะคิดขึ้นได้ว่าเป็นไท่เฟยพระองค์ใดไท่เฟยที่ยังทรงอิทธิพลมาถึงในยามนี้ ก็คงมีเพียงกุ้ยเฟยที่ได้รับความโปรดปรานในสมัยฮ่องเต้พระองค์ก่อน นั่นก็คือเซียวไท่เฟยนางจำได้ว่าในนิยายเคยพูดถึงเรื่องนี้ ฉินซวงซวงหลังจากกลับชาติมาเกิดใหม่ นางได้ไปหาหลินจือเยว่เพื่อจะได้อยู่กับเขาให้เร็วขึ้น พร้อมกันนั้นก็เริ่มวางแผนสำหรับตัวเองการช่วยชีวิตเซียวไท่เฟยเป็นหนึ่งในแผนการที่นางวางไว้ มีบุญคุณช่วยชีวิตครั้งนี้ เปรียบเสมือนการได้รับป้ายทองละเว้นโทษตายและบัดนี้ป้ายทองละเว้นโทษตายนั้นก็ถูกนำมาใช้แล้ว“ในวังหลัง เซียวไท่เฟยมีฐานะสูงส่ง และตระกูลเซียวก็มีอิทธิพลไม่น้อยในราชสำนัก บัดนี้ไท่เฟยออกตัวรับรองให้ตระกูลฉิน อีกทั้งนอกจากเรื่องขุดสมบัติก็ไม่พบหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวโยงระหว่างตระกูลฉินหรือตระกูลหลินกับหยวนซิงเชา เกรงว่าเรื่องนี้จะ...”ฉู่จวินถิงมองด้วยสายตาล้ำลึก เรื่องนี้เป

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 158

    “หากเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมาคงไม่ดีแน่”ฉู่อวิ๋นกุยกล่าวพร้อมกับขยิบตาให้ฉู่จวินถิง ทำท่าทีราวกับจะบอกว่า ‘ข้ากำลังหวังดีต่อท่านอยู่นะ’เสด็จพี่สามของเขาคงไม่รู้ถึงเสน่ห์ของตนเอง ปกติแค่ยืนเฉย ๆ ก็มีหญิงสาวมากมายตามล้อมหน้าล้อมหลังไม่รู้กี่มากน้อย ยิ่งการมาพูดคุยอย่างกระตือรือร้นถึงบ้านของผู้อื่นเช่นนี้ ยิ่งง่ายที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดไม่ใช่หรือ?เขาคิดว่าซ่งรั่วเจินเป็นสตรีที่ดี นางเคยถูกหลินจือเยว่หลอกมาก็น่าเวทนาอยู่แล้ว หากต้องมาพัวพันกับเสด็จพี่สามของเขาอีก เขาก็คงไม่อาจทนดูได้ซ่งรั่วเจินชะงักเล็กน้อย เมื่อนึกถึงตอนที่นางอ่านนิยายมาก่อนหน้านี้ ฉู่จวินถิงเป็นท่านอ๋องผู้โดดเดี่ยวที่ไม่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักเลยไม่แน่ใจว่าเขาปราศจากอารมณ์ความรู้สึกโดยธรรมชาติ หรืออาจเพราะไม่ได้ชอบสตรีแม้ในขณะที่ฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง แต่ชะตาชีวิตของเขาก็ยังไม่มีวี่แววของความรัก บางทีแสงจันทร์ขาวที่เย็นชาอย่างเขาอาจเป็นดั่งดวงจันทร์ที่อยู่ห่างไกลบนฟากฟ้าจนไม่มีใครเอื้อมถึงนางเองก็ไม่ได้มีความคิดเช่นนั้นเลย อีกทั้งนางได้เป็นศัตรูกับพระเอกและนางเอกของโลกนี้แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 159

    ตลอดสองปีที่ผ่านมา ตระกูลฝานมักจะมาขอเงินอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งพวกเขาจะแสร้งทำเป็นยากจนและร้องห่มร้องไห้อย่างน่าสงสารจนสุดท้ายมารดาก็ต้องยอมให้เงินไป เพราะพวกเขาอ้อนวอนและร้องไห้ไม่หยุดหย่อน อีกทั้งยังเห็นแก่หน้าพี่สะใภ้ใหญ่ด้วยแต่ครั้งนี้ท่าทีของตระกูลฝานดูต่างจากครั้งก่อน ๆ มาก คงเพราะพวกเขาคิดว่าซ่งเยี่ยนโจวบาดเจ็บหนัก จึงถือโอกาสคิดว่าตนเหนือกว่า และสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์“ท่านพี่ เซี่ยงหรงเป็นน้องชายแท้ ๆ ของข้า ข้าแต่งงานกับท่านมาได้สองปีแล้ว อยู่เงียบ ๆ อย่างเรียบร้อยโดยที่ห้องหอเงียบเหงา หรือท่านไม่มีความรู้สึกผิดบ้างเลยหรือ?”“ไม่มี!”ดวงตาของซ่งเยี่ยนโจวฉายแววเย็นชาออกมา เฉียนชิวเซียงเมื่อเห็นซ่งเยี่ยนโจวถึงกับแสดงท่าทีเช่นนี้ออกมา ไม่เห็นลูกสาวของนางอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ไหนเลยจะอดกลั้นความโกรธเอาไว้ได้อีก?“เยี่ยนโจว เจ้าควรมีจิตใจที่ยุติธรรมบ้าง!”“ตอนที่เราส่งลูกสาวให้แต่งงานกับเจ้า เพราะชื่นชมในตัวเจ้า และมั่นใจว่าเจ้าจะดูแลนางได้เป็นอย่างดี”“แต่บัดนี้ นางรอเจ้าอยู่ถึงสองปีเต็ม หลังจากเจ้ากลับมาแล้วก็มาพูดจาเย็นชาและไร้หัวใจเช่นนี้ เจ้าตอบแทนความภ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 160

    ตอนที่ซ่งรั่วเจินมาถึง นางก็ได้ยินบทสนทนาที่ดังออกมาจากด้านใน คิ้วของนางเลิกขึ้นเล็กน้อย นางยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่พวกเขากลับพูดถึงเรื่องหย่าร้างกันแล้วหรือ?“ท่านแม่ อย่าเสียใจไปเลยเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินเห็นหลิ่วหรูเยียนน้ำตาคลอเบ้า จึงกอดแขนของนางเพื่อปลอบโยน นางรู้ว่ามารดาของตนต้องทนทุกข์มากเพียงใดในช่วงสองปีที่ผ่านมา“แม่ไม่เป็นไร” หลิ่วหรูเยียนเช็ดน้ำตาที่หางตา “เจ้าคิดว่าพี่ใหญ่ของเจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่?”“ตอนแรกก็หมั้นหมายกับตระกูลลั่วแล้วแท้ๆ ข้ารู้ดีว่าเขามีใจให้แม่นางตระกูลลั่ว แต่กลับถอนหมั้นไปเสียเฉย ๆ แล้วเลือกที่จะแต่งกับซืออิ๋งแทน”“ข้าเคยคิดว่าเขาชอบนางจริงจึงตามใจนาง แต่ตอนนี้เพิ่งกลับมาไม่นานก็พูดเรื่องหย่าร้างเสียแล้ว นี่มันเพราะอะไรกัน?”ซ่งรั่วเจินครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ตอนที่ซ่งเยี่ยนโจวถูกใส่ร้าย แต่เพื่อไม่ให้ท่านพ่อท่านแม่กังวล เขากลับไม่เคยพูดอะไรออกมา แม้ทั้งครอบครัวจะไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมารดาของนางเชื่อเสมอมาว่าเป็นเพราะเขารักฝานซืออิ๋งจริง จึงดูแลนางอย่างดีตลอดสองปีที่ผ่านมาหากมารดารู้ความจริง เกรงว่านางคงจะเกลียดชังตระกูลฝานอย่างมาก

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status