หน้าหลัก / โรแมนติก / ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70 / บทที่ 22 อย่ามาใส่ร้ายสะใภ้ฉันนะ

แชร์

บทที่ 22 อย่ามาใส่ร้ายสะใภ้ฉันนะ

ผู้เขียน: sanvittayam
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-07 17:56:06

บทที่ 22 อย่ามาใส่ร้ายสะใภ้ฉันนะ

“ก็เธอมองไม่เห็น เธอจะไปรู้ได้อย่างไรล่ะว่ามันเสียหายหรือเปล่า นี่กะจะเอาของพังเสียหายมาขายในราคาแพงอย่างนั้นเหรอ จะไม่เป็นการเอาเปรียบคนอื่นไปหน่อยหรือไง” ชายคนนั้นทำเป็นพูดเสียงดัง เพื่อให้คนอื่นสนใจและมองหลินเพ่ยหลันไปในทางไม่ดี

“อย่างไรฉันก็ต้องตรวจสอบก่อนค่ะ ฉันมั่นใจว่าของของฉันไม่เสียหายแน่นอน” หญิงสาวจะคงยืนกรานว่าสินค้าของเธอไม่มีรอยร้าวใด ๆ ตามที่ชายคนนี้บอก

“เธอจะตรวจสอบอย่างไร ก็ในเมื่อเธอตาบอด” ชายคนนั้นพูดออกมาอย่างเย้ยหยัน โดยมีท่าทียียวนและมั่นใจว่าตนเองสามารถซื้อสินค้าชิ้นนี้ได้ในราคาถูก

“เอาแจกันมาให้ฉันอีกครั้งค่ะ ฉันมีวิธีของฉัน” หลินเพ่ยหลันบอกพร้อมกับยื่นมือออกไปรับเอาแจกันที่อยู่ในมือของชายคนนั้นกลับมาอีกครั้ง

เมื่อได้แจกันมาแล้วหญิงสาวก็ควานหาไม้อันหนึ่งที่ได้เตรียมเอาไว้ในถุง จากนั้นก็เคาะลงไปที่แจกันเบา ๆ หลินเพ่ยหลันทำทีเป็นเงี่ยหูฟังเสียงไม้กระทบกับแจกกันใบนั้น ทุกคนที่มามุงดูอยู่ก็เงี่ยหูฟังเหมือนกันกับเธอ

หลินเพ่ยหลันเคาะแจกันจนครบทุกมุม ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

“ฉันขอยืนยันว่าแจกันใบนี้ไม่มีส่วนไหนที่เสียหายค่ะ ถ้าไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 23 สงสัยไม่ต่างกัน

    บทที่ 23 สงสัยไม่ต่างกันเมื่อได้สติก็พยักหน้าและพยายามข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะบอกกับสหายข้างบ้าน “อืม...ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะยายฟ่าน ไว้คุยกันวันหลัง”“ได้ ๆ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลือบอกฉันได้เลยนะไปเถอะ ฉันก็จะเข้าบ้านเหมือนกัน” นางฟ่านพูดอย่างเห็นด้วยเพราะไม่อยากให้มีเรื่องกัน จากนั้นทั้งสองจึงแยกย้ายกันเข้าบ้านใครบ้านมันเป็นเพราะคำพูดของนางเฉิน จึงทำให้นางหยางเจี่ยสงสัยมากขึ้นไปอีก จากเดิมที่มั่นใจว่าลูกสะใภ้ของตัวเองไม่มีทางทำอะไรเสื่อมเสีย แต่มาตอนนี้จะอดคิดก็ไม่ได้แล้ว“อย่างไรถ้าซ่งเฟยหลงกลับมาจากทำงาน จะต้องถามให้รู้เรื่อง ปล่อยไว้แบบนี้ไม่ดีแน่” นางหยางเจี่ยพูดกับตนเองตกเย็นพวกที่ไปทำงานที่คอมมูนก็กลับมาตามเวลาปกติ ทุกคนต่างเหนื่อยและก็หิวมาก จึงแยกย้ายกันไปอาบน้ำแล้วค่อยมากินข้าวร่วมกัน มีก็แต่ซ่งเฟยหลงที่ถูกแม่ลากไปหลังบ้าน เพื่อที่จะถามรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของหลินเพ่ยหลัน“มีอะไรเหรอครับแม่ ทำไมต้องเรียกผมมาคุยที่นี่ด้วย คุยในบ้านก็ได้” ซ่งเฟยหลงเห็นแม่ของตัวเองมีท่าทีแปลก ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาอย่างสงสัย“เรื่องนี้แม่อยากจะคุยกับลูกแค่สองคนก่อน ยังไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 24 ถูกขโมยของ

    บทที่ 24 ถูกขโมยของเมื่อมาถึงที่คุ้นเคยแล้วก็จัดการปูผ้า จัดร้าน วางสินค้าลงขายอย่างคล่องแคล่ว แถมทักยังทักทายป้าเจ้าของแผงเนื้อสัตว์ป่าที่ตั้งอยู่ข้างอย่างสนิทสนมอีกด้วย และทุกการกระทำของเธอนั้นตกอยุ่ในสายตาของผู้เป็นสามีตลอด‘แสดงว่าเธอคงมาที่นี่บ่อยแล้วสินะ เพ่ยหลัน’ซ่งเฟลหลงคิดในใจและถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อรู้ว่าเธอไม่ได้มาทำอะไรเสียหาย เขาเฝ้าดูการกระทำของภรรยาตั้งแต่ต้นจนจบ ในที่สุดก็เข้าใจว่าที่แท้หญิงสาวมาที่นี่ก็เพื่อมาขายของนั่นเอง “เพ่ยหลัน เธอมาที่นี่เพื่อขายของสินะ แต่ที่ไม่เข้าใจคือเธอไปเอาของพวกนั้นมาจากไหนกันนะ แล้วทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว และเมื่อครู่อยู่ ๆ ทำไมหายไป แล้วอยู่ ๆ ทำไมถึงได้โผล่มา ทั้ง ๆ ที่เราตรวจสอบแล้วว่าซอกโกดังตรงนั้นเป็นซอยตัน”ชายหนุ่มมองภรรยาและพูดกับตัวเองอย่างสงสัย แต่ก็เลือกที่จะยังไม่เข้าไปถามเธอเวลานี้ ตั้งใจว่าให้กลับไปถึงบ้านก่อนแล้วค่อยถามซ่งเฟยหลงยืนมองเธออยู่ไม่ไกลนัก เขาได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ และมองดูภรรยาเรียกลูกค้าของเธออย่างตั้งใจ“เชิญทางนี้เลยค่ะ วันนี้ฉันมีเสื้อผ้าแบบใหม่ ๆ แล้วก็เครื่องประดับมาขายเยอะแยะเลยค่ะ แวะม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-07
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 25 เธอตาบอดไม่ใช่เหรอ

    บทที่ 25 เธอตาบอดไม่ใช่เหรอเมื่อได้ปิ่นมาแล้ว ซ่งเฟยหลงก็เดินกลับมาที่หน้าร้านของหลินเพ่ยหลันอย่างไม่รีรอ เขาเห็นเธอยังคงตะโกนเรียกลูกค้าอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยก็อดที่จะสงสารไม่ได้ ใจนั้นอยากจะเข้าไปช่วยเธอขายของด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่อยากให้เธอรู้ว่าเขาเห็นเธอกำลังทำอะไรอยู่“ป้าเหยียนคะ ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว ป้าเลือกเสื้อกันหนาวไปสักสองสามตัวนะคะ ฉันให้” หลินเพ่ยหลันหันไปคุยกับป้าเหยียนที่เปิดแผงขายเนื้อสัตว์ป่าอยู่ข้าง ๆ“ได้ยังไงล่ะ ของซื้อของขายจะมาให้กันฟรี ๆ แล้วจะเอากำไรที่ไหน ป้าไม่เอาหรอก เพ่ยหลันเอาไว้ขายเถอะ” ป้าเหยียนรีบบอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันได้ของมาในราคาต้นทุนที่ไม่แพง แบ่งให้ป้าได้ไม่มีปัญหาเพราะฉันก็ขายได้กำไรเยอะแล้ว อีกอย่าง ป้าก็เคยให้เนื้อฉันกลับบ้านไปตั้งหลายครั้งแล้ว ฉันจะจ่ายป้าก็ยังไม่รับเงินเลย ถือว่าเป็นการตอบแทนก็แล้วกันนะคะ ลุงกับลูกชายของป้าเข้าป่าไปล่าสัตว์ทุกวันคงหนาวแย่ ฉันฝากไปให้พวกเขาด้วยนะคะ” หลินเพ่ยหลันพูดพร้อมกับยิ้มอย่างสดใสให้ป้าเหยียน“ก็ได้ๆ ถ้าอย่างนั้นเอาเนื้อกวางนี่ไปด้วยนะ ถ้าเพ่ยหลันไม่รับไปป้าก็ไม่เอาเสื้อเหมือนกัน”หลินเพ่ยหลั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 26 บอกเล่าทุกอย่าง

    บทที่ 26 บอกเล่าทุกอย่างจนเวลาผ่านไปสักพัก หลินเพ่ยหลันก็ได้สติกลับมา จากนั้นก็กระแอมไอหนึ่งทีและพอถูกซ่งเฟยหลงถามด้วยสายตาอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็คิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้องอธิบายเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังอย่างไม่ปิดบังเสียที“ฉันจะอธิบายเรื่องทุกอย่างให้พี่ฟังเองและขอบอกว่าที่นี่คือห้างสรรพสินค้าของฉัน ส่วนเรื่องอื่นพวกเราไปนั่งคุยกันตรงร้านกาแฟตรงนั้นดีไหม” หลินเพ่ยพูดขึ้นมาพร้อมกับชี้มือไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ไกล ๆ“ห้างสรรพสินค้าของเพ่ยหลัน ร้านกาแฟ?” ซ่งเฟยหลงขมวดคิ้วทำหน้าตาสงสัยอีกครั้ง กับคำว่าห้างสรรพสินค้าและร้านกาแฟ“อย่าเพิ่งถามเลย ไปด้วยกันก่อนเถอะ” หลินเพ่ยหลันพูดขึ้นพร้อมกับจูงมือสามีให้เดินตามไปทั้งสองเดินผ่านแผนกต่าง ๆ ในห้างสรรพสินค้า ซ่งเฟยหลงมองที่นี่ด้วยความสับสนงุนงงและประหลาดใจ‘ห้างสรรพสินค้าที่นี่ดูเจริญและทันสมัยมาก ใหญ่โตกว่าห้างสรรพสินค้าในเมืองที่เราเคยไปเสียอีก ของที่ขายในห้างนี้ต่างก็ดูแปลกตา ไม่เหมือนกับในที่เคยเห็นข้างนอกเลย’เขาคิดและได้แต่เดินตามไปเงียบ ๆ“พี่ระวังนะคะ เราต้องขึ้นบันไดเลื่อน” หลินเพ่ยหลันบอกเขาและพาเขาขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้นสองซ่งเฟยหลงตกใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 27 เพราะฉันคือคนบ้านซ่ง

    บทที่ 27 เพราะฉันคือคนบ้านซ่ง“พี่จะถามฉันว่าทำไมฉันถึงมาขายของที่ตลาดมืดแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองตาบอดใช่ไหมคะ” หลินเพ่ยหลันเป็นฝ่ายถามออกมาก่อน“ใช่ เพ่ยหลันก็รู้นี่ว่าตัวเองตาบอด แค่อยู่บ้านทำงานบ้านกับดูแลพี่ รวมถึงพ่อแม่ของพี่ นี่ก็หนักพอสำหรับเพ่ยหลันแล้วนะ ไม่เห็นต้องมาลำบากถึงขนาดนี้เลย ถ้าเพ่ยหลันอยากสะดวกสบายก็สามารถเข้ามาที่นี่ได้นี่” ซ่งเฟยหลงพูดด้วยความเป็นห่วงเพราะการเป็นหญิงตาบอดมาขายของในตลาดมืดเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมาก“พี่เฟยหลง ฉันแต่งงานกับพี่แล้วก็เท่ากับว่าเป็นคนบ้านซ่งเหมือนกัน ในขณะที่ทุกคนต่างก็ไปทำงานที่คอมมูนเพื่อสะสมแต้ม หาตั๋ว หาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ทุกคนก็ทำงานหนักกันทั้งนั้น แล้วจะให้ฉันอยู่เฉยนั่งกินนอนกินไปวัน ๆ ทำตัวไม่มีประโยชน์ได้อย่างไร ฉันเองก็อยากจะช่วยบ้านซ่งเหมือนกัน ฉันอยากให้ทุกคนในบ้านซ่งมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ได้กินดีอยู่ดีบ้างถึงออกมาขายของแบบนี้” หลินเพ่ยหลันอธิบายให้เขาฟังด้วยสีหน้าที่จริงจังและจริงใจ“เพ่ยหลันคิดมากไปหรือเปล่า พวกเราทุกคนไม่มีใครคิดว่าเพ่ยหลันไม่มีประโยชน์เลยนะ และตอนนี้แม่เองก็เข้าใจเพ่ยหลันแล้วด้วย พี่ไม่อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 28 ช่วยกันเลือกของอย่างมีความสุข

    บทที่ 28 ช่วยกันเลือกของอย่างมีความสุขซ่งเฟยหลงเดินออกมาจากห้องลองเสื้อ สายตามองไปที่หลินเพ่ยหลันแล้วถาม “เป็นอย่างไรบ้าง ดูดีไหม”“ดูดีมากเลยค่ะ พี่ลองไปเลือกอีกสักสองสามตัวนะ” หญิงสาวบอกพร้อมกับส่งเสื้อผ้าที่เธอเลือกไว้ให้กับเขาไปจากนั้นทั้งสองก็ไปเลือกเสื้อผ้าเพิ่ม เพื่อให้ทุกคนในบ้านด้วย ซ่งตงลี่กับซ่งชุนเหยาได้เสื้อกับกางเกงคนละชุด ของนางหยางเจี่ยได้เป็นเสื้อกับกางเกงที่ใส่สบาย ๆ แล้วก็มีชุดกระโปรงให้จ้าวจินเยว่กับซ่งชุนเป้ยด้วย พวกเขายิ้มให้กันอย่างมีความสุข เพราะคิดว่าทุกคนต้องดีใจที่ได้เสื้อผ้าใหม่แน่ ๆออกจากแผนกเสื้อผ้ามา เธอก็พาเขาเดินผ่านแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทันสมัย ในยุค70 นั้น เครื่องใช้ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่แพร่หลาย เพราะบางพื้นที่ไฟฟ้าก็ยังเข้าไม่ถึง ในหมู่บ้านของซ่งเฟยหลงนั้นถึงแม้ว่าไฟฟ้าจะเข้าถึงแล้ว แต่ก็ใช้การได้ไม่ดีสักเท่าไร ส่วนใหญ่จะดับมากกว่าติดเสียด้วยซ้ำ“พี่ว่าเราอย่าเพิ่งเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าออกไปเลยนะ เพราะไฟฟ้าที่หมู่บ้านยังติด ๆ ดับ ๆ และจะเป็นที่ผิดสังเกตมากเกินไป” ชายหนุ่มบอกออกมาอย่างที่เขาคิดไว้“เอาตามที่พี่เห็นสมควรเลยค่ะ เราเดินดูไปก่อนก็ได้” หญิงสา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-08
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 29 บอกเรื่องการค้ากับครอบครัว

    บทที่ 29 บอกเรื่องการค้ากับครอบครัว“แม่ครับ วันนี้ผมกับเพ่ยหลันจะทำกับข้าวเองนะครับ แม่ไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวค่ำนี้ผมมีข่าวดีจะบอกทุกคนด้วย”ซ่งเฟยหลงบอกกับแม่ของตนเองด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเมื่อเดินมาถึงครัว“ข่าวดีเหรอ นี่แสดงว่า....ตกลง ๆ แม่จะไปรอข้างนอกนะ”นางหยางเจี่ยเมื่อเห็นลูกชายและลูกสะใภ้เดินประคองกันเข้ามาและยังพูดเรื่องข่าวดีอีกก็ยิ้มกว้าง คิดว่าจะมีข่าวดีเกี่ยวกับทายาท เพราะทั้งสองคนก็แต่งงานกันมาหลายเดือนแล้วเมื่อถึงตอนเย็นทุกคนก็กินข้าวร่วมกันตามปกติหลินเพ่ยหลันและซ่งเฟยหลงตัดสินใจกันแล้วว่าจะบอกความจริงเรื่องที่เธอไปขายของในตลาดมืดให้ทุกคนรู้ในวันนี้ ทั้งสองจึงเอาเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ออกมาแล้วแจกจ่ายให้กับทุกคน“นี่เป็นเสื้อผ้าที่ผมกับเพ่ยหลันซื้อมาจากตลาดมืดครับ เห็นว่าเสื้อผ้าของทุกคนก็เก่าขาดกันหมดแล้ว เราเลยซื้อมาฝากคนละชุด” ซ่งเฟยหลงพูด พร้อมกับยื่นเสื้อกับกางเกงชุดหนึ่งให้กับซ่งตงลี่ก่อน จากนั้นก็มอบให้ทุกคนตามลำดับซ่งตงลี่กับนางหยางเจี่ยรับเสื้อผ้ามาด้วยอาการตกใจมาก ที่เห็นทั้งสองคนซื้อมาเยอะขนาดนี้ อีกทั้งเสื้อผ้าพวกนี้ยังเป็นผ้าเนื้อดี มองดูก็รู้ว่าราคาแพง แล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09
  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 30 การค้าดีขึ้นเรื่อย ๆ

    บทที่ 30 การค้าดีขึ้นเรื่อย ๆสามวันผ่านไป... เมื่อหัวหน้าคอมมูนได้ลองใช้ปุ๋ยที่ซ่งเฟยหลงเอามาให้ลอง ก็พบว่าผักในแปลงทดลองนั้นดูดีขึ้นจนผิดหูผิดตา ผักทั้งดูแข็งแรงและสดใสขึ้น ใบก็เต่งตึง สีเขียวสดชวนรับประทาน หัวหน้าคอมมูนเห็นว่าผลลัพธ์เป็นไปได้ดีเกินคาด ก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ เขาเรียกซ่งเฟยหลงเข้ามาพบในเช้าวันต่อมาทันที“มาเถอะเฟยหลง นั่งก่อน ๆ” หัวหน้าคอมมูนเชิญชายหนุ่มให้มานั่งในห้องทำงานอย่างเป็นกันเอง“หัวหน้ามีอะไรเหรอครับ” ซ่งเฟยหลงถามออกไปอย่างสงสัย“คืออย่างนี้นะ ปุ๋ยที่นายเอามาให้ฉันทดลองใช้เมื่อหลายวันก่อนฉันได้ลองใช้มันในแปลงทดลองแล้ว ปรากฏว่าผักในแปลงดีขึ้นทันตาเห็นเลย ระยะเวลาเพียงแค่สองสามวัน ผักกลับมาแข็งแรงและดูสดใสขึ้นเยอะเชียวล่ะ นายตามฉันมาเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปดู” พูดจบหัวหน้าคอมมูนก็ลุกขึ้นแล้วเดินพาอีกฝ่ายไปที่แปลงทดลองด้านหลังแปลงทดลองแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งทดลองใช้ปุ๋ยที่ซ่งเฟยหลงเอามาให้ อีกส่วนยังใช้ปุ๋ยชนิดเดิมที่ทางคอมมูนสั่งกับเจ้าเก่าอยู่ ปรากฏว่าผักที่อยู่ในแปลงทั้งสองส่วนแตกต่างกันอย่างชัดเจน จนซ่งเฟยหลงเองก็ทึ่งเหมือนกัน‘ไม่คิดว่าปุ๋ยของคนสมัยใหม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-03-09

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ 5 ปีผ่านไปซ่งเจียหยวนกับซ่งเจียอี้ ตอนนี้อายุได้ห้าขวบแล้ว เป็นวัยที่เริ่มกระตือรือร้นและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น พอที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก หลินเพ่ยหลันเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม จึงตัดสินใจชวนลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพเช้าวันนั้น หลินเพ่ยหลันเตรียมตัวอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมสำหรับการเดินทาง จัดเตรียมเสื้อผ้าที่อบอุ่นและอาหารว่างไว้ให้ลูก ๆ พร้อมทั้งเตือนพวกเขาให้ปฏิบัติตัวดี ๆ เมื่อไปถึงที่กองทัพ เป็นสิ่งที่เธอทำเองทั้งหมด ใช่แล้ว เธอเลี้ยงลูกแฝดทั้งสองคนด้วยตัวเอง แม้นายท่านผู้เฒ่าทั้งสองจะเคยส่งพี่เลี้ยงมาให้ แต่เธอก็ปฏิเสธไปเพราะอยากใกล้ชิดกับลูกๆ มากกว่าใคร ๆ “แม่ครับ เราจะได้เจอพ่อเมื่อไหร่ครับ” เสียงใส ๆ ของซ่งเจียหยวนถามด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้เขาอยู่ในชุดทหารที่ลุงๆ ซื้อมาฝาก“เย็นนี้ก็ได้เจอแล้ว พ่อจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ที่เห็นพวกเรามาเยี่ยม” หลินเพ่ยหลันตอบพร้อมกับยิ้มให้ลูกชายลูกชายทั้งสองของเธอดีใจกันมาก ที่ได้ยินข่าวว่าจะได้ไปเยี่ยมพ่อที่กองทัพ พวกเขาต่างกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ และไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นไว้ได้

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทส่งท้าย  ครอบครัวสมบูรณ์

    บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์หลินตงยืนนิ่งไม่พูดอะไร เขารู้ว่าเขาคงไม่มีทางเลือก เขาต้องทำเพื่อเอาตัวรอดจากการถูกฆ่า“ต้องทำแบบนี้... ถ้าไม่ทำ... ฉันตายแน่ ฉันไม่ผิด” หลินตงพูดขึ้นมาเบา ๆ“ตายก็ยังดีกว่าทำแบบนี้!” นางหลิวอี้ตวาดเสียงดัง ก่อนจะวิ่งไปหยิบมีดที่วางอยู่บนโต๊ะในครัว แล้วตรงเข้ามาหาหลินตง“แกไม่รู้แกทำผิดหรืออย่างไร ลูกสาวตัวเองไม่ใช่ตัวช่วยที่จะเอามาขัดดอก แกตายซะเถอะ” นางหลิวอี้พูดจบก็เอามีดไล่ฟันไปที่สามีหลินตงตกใจและกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว “นังบ้า จะฆ่ากันเลยเหรอ หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เขายืนสั่นด้วยความกลัวมีดในมือของภรรยา“แกทำให้ชีวิตของพวกเรามันพังหมดแล้ว พังหมด ไม่เหลืออะไร” นางหลิวอี้ยังคงกราดเกรี้ยว ทั้งที่มีดในมือสั่นไปตามอารมณ์ “แม้แต่กับลูกสาวของตัวเองแกก็ยังทำแบบนี้ได้ นี่แกเป็นพ่อประสาอะไร”“แล้วแกล่ะ ตั้งแต่แต่งกับฉันมา แกเคยช่วยอะไรฉันบ้างไหม มีแต่ใช้เงินไปวัน ๆ ที่เสี่ยวหรงมันต้องเป็นแบนี้ แกก็มีส่วนเหมือนกัน”หลินตงตะโกนสวนกลับ และขยับหลบมีดที่ภรรยาเหวี่ยงมาหาเขาอีกครั้ง “หากเป็นไปได้ ฉันก็จะไม่ทำแบบนี้เลย แต่มันไม่มีทางเลือก”นางหลิวอี้สบถคำหยาบคาย “แกจะหนี

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้ง

    บทที่ 64 จากลากันอีกครั้งหลินเพ่ยหลันยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าเล็กน้อยเธอรู้สึกโล่งใจที่ปัญหาในวันนี้จบลงได้โดยไม่เกิดความรุนแรง เธอหันกลับเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ซ่งเฟยหลงดูแลเรื่องราวที่เหลือซ่งเฟยหลงมองตามหลังภรรยาของเขาด้วยความรักและความห่วงใย เขารู้ว่าคนท้องไม่ควรเครียด และเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้หลินเพ่ยหลันได้มีความสุขและสบายใจในช่วงเวลานี้เมื่อหลินเพ่ยหลันเข้าไปพักผ่อนในบ้าน ซ่งเฟยหลงก็หันกลับมามองชาวบ้านที่ยังคงยืนอยู่รอบ ๆ เขายิ้มและกล่าวกับพวกเขาอย่างสุภาพ “ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจและสนับสนุนครอบครัวของเรานะครับ ผมขอให้ทุกคนกลับบ้านกันอย่างสงบสุข”ชาวบ้านพยักหน้ารับและเริ่มทยอยกลับบ้าน บรรยากาศที่ตึงเครียดเริ่มกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้งหลังจากที่เรื่องวุ่นวายทุกอย่างผ่านพ้น บ้านซ่งก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง ทุกคนในครอบครัวรู้สึกโล่งใจและพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างมีความสุข ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บ้านซ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นพวกเขาใช้เวลาร่วมกันอย่างเต็มที่ ทั้งการไปไหว้พระที่วัด เพื่อขอพรให้ปีใหม่นี้เต็มไปด้วยความสุขและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งกินอาหารมงคลร่วมกัน แ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 63 จบปํญหา

    บทที่ 63 จบปํญหาเมื่อหลินตงเอ่ยปากขอเงินจากหลินเพ่ยหลัน แต่หญิงสาวกลับมีท่าทีลังเลไม่ตอบรับในทันที หลินเพ่ยหลันมองไปยังแม่เลี้ยงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล‘กลัวว่าเงินที่ให้ไป พ่อกับน้องของเพ่ยหลันจะไม่ได้ใช้น่ะสิ แม่เลี้ยงคนนี้คงจะยึดไปหมดแน่ ๆ’ เธอยืนคิดอยู่ในใจว่าจะให้ไปดีหรือไม่ นางหลิวอี้เห็นดังนั้นก็โวยวายขึ้นมาทันที“หลินเพ่ยหลัน แกมันคนอกตัญญู พ่อของแกมาขอเงินแค่นี้ก็ไม่ยอมให้เหรอ จะต้องให้พ่อและน้องของแกอดตายก่อนใช่ไหม” น้ำเสียงของนางหลิวอี้เต็มไปด้วยความโกรธและเกรี้ยวกราด เธอพูดเสียงดังเพื่อกดดันอีกฝ่าย“ทุกคนดูสิหลินเพ่ยหลันที่ทุกคนเคยชื่นชมนักหนา พอร่ำรวยแล้วก็ไม่ยอมให้เงินพ่อของตัวเองเลย พ่อของเธอไม่มีเงินจนจะอดตายอยู่แล้ว” นางหลิวอี้พูดเสียงดัง พรัอมกับหันไปมองชาวบ้านที่เริ่มมารวมตัวกันด้วยความสงสัยชาวบ้านบางคนเริ่มซุบซิบและมองไปทางหลินเพ่ยหลันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป“จริงเหรอ หลินเพ่ยหลันทำอย่างนั้นจริงๆ เหรอ” เสียงพูดคุยเบา ๆ เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆหลินเพ่ยหลันรู้สึกอับอายและเสียใจมากที่ถูกแม่เลี้ยงของตัวเองใส่ร้ายเช่นนี้ เธอจึงพยายามจะอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความว่าอ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว

    บทที่ 62 บ้านหลินมาอีกแล้ว“ขอบใจนะอาเฟยที่สานฝันแทนพ่อ แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากแล้วล่ะ แต่ถ้าหากมันลำบาก ก็อย่าหักโหมเกินไปนักนะ ความก้าวหน้าสำคัญก็จริง แต่ว่าความสุขของตัวเองก็สำคัญเหมือนกันนะลูก” ซ่งตงลี่พูดขึ้นมาอย่างห่วงใย “ครับพ่อ” ซ่งเฟยหลงพยักหน้ารับคำ “แล้วเพ่ยหลันละ เป็นอย่างไรบ้าง อยู่ที่นู่นสบายดีไหม” คราวนี้เป็นนางหยางเจี่ยที่หันมาถามลูกสะใภ้ โดยซ่งตงลี่ก็หันมาเพื่อรอฟังคำตอบด้วยหลินเพ่ยหลันยิ้มให้พ่อแม่ของสามี ก่อนจะเล่าเรื่องของตัวเองบ้าง “ฉันสบายดีค่ะ อยู่ที่บ้านตระกูลจง ฉันได้ช่วยงานคุณตากับคุณลุงที่ห้างสรรพสินค้าของตระกูลด้วย ทุกอย่างก็ราบรื่นดีค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าพวกพี่ก็ไม่ค่อยได้พบกันบ่อยน่ะสิ คนหนึ่งอยู่ชายแดน คนหนึ่งอยู่ปักกิ่ง” ซ่งชุนเป้ยถามขึ้นมาอย่างกังวล เธอเห็นใจพี่ชายกับพี่สะใภ้ไม่น้อยที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน“ใช่แล้ว ช่วงแรก ๆ พี่เฟยหลงฝึกหนักมาก แล้วยังมีภารกิจที่ต้องไปทำนอกกองทัพอีก พวกเราก็เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร มีพักหลัง ๆ ที่พี่เฟยหลงพอจะว่างได้กลับมาปักกิ่ง และพี่ก็ไปหาพี่เฟยที่เมืองชายแดนบ้าง ตอนนี้คุณตาจัดรถพร้อมคนขับไว้ให้โดยเฉพาะ

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว

    บทที่ 61 ท้อง 4 เดือนแล้ว“แล้วนี่จะมาอยู่กี่วันล่ะ อยู่นาน ๆ นะ แม่จะทำของอร่อยให้กิน” นางหยางเจี่ยถามขึ้นมา เพราะรู้ว่าถึงอย่างไรลูกชายกับลูกสะใภ้ก็ต้องกลับไปที่ปักกิ่ง แต่ก็อยากให้อยู่ด้วยกันสักหลายวันก่อน“นี่ก็เป็นเวลานานแล้วที่ผมกับเพ่ยหลันไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ตรุษจีนปีที่แล้วที่ไม่ได้กลับมา ก็เพราะว่าผมมีภารกิจที่ชายแดน ครั้งนี้พวกเราจึงตัดสินใจว่าจะพักอยู่ที่บ้านหลายวันหน่อย เพื่อเป็นการชดเชยให้กับครอบครัวครับ” ซ่งเฟยหลงตอบกลับไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม“ดี ๆ จะได้มาด้วยพี่ขายของด้วย เพราะตอนนี้ที่ร้านยุ่งมาก ฮ่า ๆ” ซ่งชุนเหยาพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุข“ที่ร้านยุ่งมากเหรอคะ” หลินเพ่ยหลันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ“จะให้ไม่ยุ่งได้อย่างไรล่ะคะพี่สะใภ้ ตอนนี้พี่ใหญ่ขยายร้านค้าไปในเมืองใกล้ ๆ อีกสองสาขา แต่ละวันแค่วิ่งไปเติมสินค้าแต่ละสาขาก็แทบจะไม่มีเวลาแล้ว ยังดีที่ตอนนี้ซื้อรถยนต์แล้วและมีลูกจ้างที่ขยันและซื่อสัตย์ ไม่อย่างนั้นพี่ใหญ่ท่าจะแย่” ซ่งชุนเป้ยเป็นคนตอบคำถามนี้ของพี่สะใภ้ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ตอนนี้กิจการของบ้านซ่งเป็นไปได้ดีมาก ซ่งชุนเหยาได้ขยายสาขาร

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 60 กลับมาเยี่ยมบ้าน

    บทที่ 60 กลับมาเยี่ยมบ้านพวกเขาอยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอยู่นาน ดื่มด่ำกับความรู้สึกของความคิดถึงที่รอคอยมานาน ขณะนั้นเสียงลมหายใจของทั้งสองคลอเคลียกันอย่างอบอุ่น“พี่รู้ไหมว่าเวลาไม่กี่เดือนสำหรับฉันแล้ว เหมือนมันนานเป็นหลายปีเชียวล่ะ” หลินเพ่ยหลันกล่าวเบาๆ“พี่เข้าใจ ต่อไปพี่จะพยายามกลับมาหาเพ่ยหลันให้มากขึ้น ถ้าทำภารกิจเสร็จ พี่ก็จะขอลาหยุดแล้วมาหาภรรยาเลยครับ” ซ่งเฟยหลงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นหลินเพ่ยหลันยิ้มทั้งน้ำตาและสัมผัสแก้มของซ่งเฟยหลงอย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ค่ะ ฉันอยากให้พี่ทุ่มเทให้กับหน้าที่การงานของพี่มากกว่า อยู่ทางนี้ต่อให้คิดถึงพี่มากแค่ไหน ฉันก็ทนได้”“ไม่ได้หรอก ถึงแม้ว่าหน้าที่จะสำคัญ แต่ว่าครอบครัวก็สำคัญเหมือนกัน ต่อไปนี้พี่จะพยายามทำทั้งสองอย่างให้ดีนะ” ซ่งเฟยหลงยืนยันด้วยความรักอันยิ่งใหญ่พวกเขานั่งลงข้างกันบนเตียง จับมือกันแน่น และแลกเปลี่ยนคำพูดหวาน ๆ ที่สะท้อนความรักและความผูกพันที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความคิดถึง หัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกัน และรู้ว่าความรักที่มีต่อกันนั้น

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 59 ผู้กองซ่ง

    บทที่ 59 ผู้กองซ่งหลินเพ่ยหลันมาถึงห้างสรรพสินค้าตอนบ่ายกว่า ๆ ก็ตรงขึ้นมาที่ห้องประชุมเลย เธอบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเป็นผู้น้อยไม่ควรจะมาสาย และให้เหล่าผู้บริหารอาวุโสรอนาน มาถึงเธอก็จัดแจงเรื่องสถานที่ประชุมต่าง ๆ อย่างเสร็จสรรพการประชุมครั้งนี้เป็นความคิดของเธอเอง ที่จะเสนอให้ห้างสรรพสินค้าของตระกูลจงไปเปิดสาขาที่เมืองอื่นด้วย ก่อนหน้าที่เธอยื่นเสนอเรื่องนี้ไป ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจงหยวนต้าและเหล่าผู้บริหารอาวุโสต่างก็เห็นด้วยและเชื่อใจเธอ เพราะผลงานที่ผ่านมาของเธอนั้นสร้างกำไรให้กับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มากมาย จึงได้มีการเปิดประชุมเพื่อชี้แจงแผนงานอย่างละเอียดในบ่ายวันนี้“สวัสดีค่ะผู้บริหารทุกท่าน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันขอเข้าเรื่องเลยนะคะ อย่างที่ได้พูดคุยกันบ้างอย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้านี้แล้วว่า ฉันอยากจะเสนอให้ห้างสรรพสินค้าของเราไปเปิดสาขาที่เมืองอื่น” หลินเพ่ยหลันเปิดการประชุมอย่างตรงไปตรงมา“ว่ามาเถอะเพ่ยหลัน พวกเราตื่นเต้นอยากฟังแล้ว” จงหวง ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของเธอรอฟังอย่างใจจดใจจ่อหลินเพ่ยหลันบอกให้เลขาแจกจ่ายเอกสารที่เธอทำเป็นชุด ๆ ไว้ให้ผู้บริหารแต

  • ทะลุมิติมาเป็นหญิงตาบอด ยุค 70    บทที่ 58 เป็นที่ยอมรับของทุกคน

    บทที่ 58 เป็นที่ยอมรับของทุกคนหลินเสี่ยวหรงถึงแม้ว่าจะไม่ชอบหลินเพ่ยหลัน แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้เห็นด้วยกับความคิดของแม่ตัวเอง จึงพูดออกมาว่า“จะบ้าเหรอแม่ ใครเขาจะรับพวกเราไปอยู่ด้วยกัน อย่าลืมสิว่าพวกเราไม่ได้ดูแลนังเพ่ยหลันดีสักเท่าไร แถมมันก็คงจะคิดว่าที่มันตาบอดเพราะพวกเราไม่สนใจไยดีพามันไปหาหมอ แล้วแบบนี้มีเหรอนังเพ่ยหลันมันจะยอมรับเรา มีเหรอคนตระกูลจงจะยอมให้พวกเราไปอยู่ด้วย”“แต่ตอนนี้มันรักษาตาจนกลับมามองเห็นแล้วนะ และถ้ามันจะอกตัญญูต่อพ่อก็ให้มันรู้ไปสิ ถ้าถึงขั้นจะทิ้งพ่อมันได้ลงคอ ก็คอยดูว่าฉันจะประจานมันยังไง” นางหลิวอี้พูดเสียงดังลั่น ทำให้ทั้งหลินตงและหลินเสี่ยวหรงต่างก็ส่ายศีรษะให้กับความดื้อดึงของนางหลิวอี้แต่ที่สุดแล้วหลินตงก็ทนความกดดันจากภรรยาไม่ไหว จนต้องเดินมาที่บ้านซ่งเพื่อขอที่อยู่ของหลินเพ่ยหลัน“แกจะเอาที่อยู่ของเพ่ยหลันไปทำอะไร” ซ่งตงลี่ถามหลินตงออกไป“ฉันก็แค่คิดถึงลูกสาวไม่ได้หรืออย่างไร เห็นว่าเพ่ยหลันไปรักษาตัวที่ปักกิ่ง ฉันก็จะเขียนจดหมายไปถามข่าว” หลินตงตอบกลับไปตามที่ได้ซักซ้อมกันมากับนางหลิวอี้“หึ อย่ามาโกหกเลย ฉันรู้หรอกว่าจะเขียนไปขอเงินเพ่ยหลันล่ะส

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status