หลังจากร้องไห้เป็นเผาเต่า นางก็เงียบไม่พูดอะไรอีกเพราะกำลังลำดับความคิดตัวเองอยู่ ด้วยหญิงสาวเอาแต่นิ่งงันเพราะไม่รู้จะพูดอะไรได้ กู้ซีห่าวจึงเข้าใจว่านางคงตกใจกับเกี้ยวและชุดเจ้าสาวที่เขาส่งไปให้ตามคำขอ เพราะซิ่วอิงเป็นเด็กสาวจากหอนางโลมที่อยู่ในฐานะทาส นางมีแค่ชื่อแต่ไม่มีแซ่ เป็นคนไร้หัวนอนปลายเท้าของแท้ ความเมตตามากล้นถึงเพียงนั้นอาจทำให้นางตกใจเกินไปนอกนั้นสิ่งที่ดีของซิ่วอิงคงเป็นหน้าตางดงามผิดจากชาวบ้านทั่วไป และความกตัญญูที่ยิ่งใหญ่ เพราะตอนที่นางขอให้กู้ซีห่าวช่วยชีวิตยายของนางที่กำลังป่วยหนัก หญิงสาวบอกว่าขอตอบแทนด้วยชีวิต และเมื่อซีห่าวบอกว่าจะให้มาเป็นสายลับ นางก็ยินยอมพร้อมใจทุกอย่าง แต่ขอความเมตตาเป็นเกี้ยวเจ้าสาวมารับเข้าจวนเท่านั้น เพราะนางตั้งใจว่าจะถวายชีวิตจิตใจตอบแทนพระคุณเขาไปจนวันตาย จึงไม่คิดจะมีความรักหรือคู่ครองในอนาคตอีกแน่นอน“เจ้าเห็นข้าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ความจริงข้ากลับอยู่ในสภาพน่าอนาถมากนัก บัดนี้ในจวนไม่มีหลงเหลือคนของข้าอีกแล้ว ทุกคนกลายเป็นคนของอี้เหมยอิงที่เป็นภรรยาเอกของข้าไปเสียสิ้น นอกจากแม่บ้านเจียงที่เป็นคนเก่าคนแก่ของท่านแม่ข้า ข้าก็ไม่อาจไว้ใ
ซูฮวาที่ต่อไปนี้จะเรียกนางว่าซิ่วอิงแสดงออกอย่างชัดเจนว่าดีใจมาก รีบกุลีกุจอลุกขึ้นจะไปทำหน้าที่ทันที ทว่าแข้งขาที่ยังไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงก็เกิดทำให้นางข้อเท้าพลิกแล้วเสียหลักล้ม ซีห่าวนั่งอยู่ไม่อาจรับร่างนางได้ทัน ทำได้แค่กางแขนออก แต่ซิ่วอิงกลับล้มไปทางเขา เข่าอ่อนยวบ ใบหน้าของหญิงสาวจึงลงเข้าให้ที่เป้าของชายหนุ่มเต็มที่“อุ๊...”ถึงเป็นคุณหนูเป็นกุลสตรีมาก่อน แต่ไฉนเลยจะไม่รู้ว่าใบหน้ากำลังแนบอยู่กับอะไร มันนุ่มนิ่มแต่แข็งแกร่งอยู่ในที และมันกระทบเข้ากับใบหน้าซิ่วอิงเต็มๆ ด้วยผ่านเพียงผ้ากั้นบางๆ เพราะชายหนุ่มมาถึงก็เปลื้องเสื้อชั้นนอกออกก่อนเลย ด้วยมันเป็นชุดเกราะที่ต้องสวมตามระเบียบระหว่างปฏิบัติงาน“ขอโทษทีๆ” กลายเป็นชายหนุ่มที่ร้อนรนตื่นเต้นทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำแบบนั้นทำไม เขาประคองไหล่นางให้ลุกขึ้น แต่ซิ่วอิงกลับทำตัวเหลวเป็นไม่มีกระดูก ไม่ยอมเงยหน้า ขยับไปขยับมาเหมือนยิ่งให้เกิดการเสียดสีจนซีห่าวเริ่มจะขนลุก “เจ้าไม่มีเรี่ยวแรงเช่นนี้เห็นทีคงไปเตรียมน้ำให้ข้าอาบไม่ได้แล้ว ข้าว่าข้ากลับไปห้องตัวเองดีกว่า เจ้าจะได้พัก...”“ไม่เจ้าค่ะ!”เขายังพูดไม่ทันจบประโยคแต่นางขัดขึ้นมากลางลำ
“เป็นเช่นนั้น...” นางพึมพำ ไม่กล้าพูดว่านางนี่แหละคือหญิงที่รักเขามากเพียงใด และยินยอมพร้อมกายใจจะเป็นแม่ของลูกให้เขามากแค่ไหน มือน้อยๆ เริ่มบีบหนักหน่วงขึ้นและเริ่มลามมาข้างหน้าอย่างไม่ทันให้อีกฝ่ายรู้ตัว “ท่านพี่ ข้าจะใส่น้ำมันหอมลงไปในน้ำร้อนอีกสักหน่อย ท่านจะได้สบายตัวขึ้นเจ้าค่ะ”“อืม...”เขาครางตอบเพราะตอนนี้หลับตาดื่มด่ำกับบรรยากาศอยู่ ไม่ได้รับรู้เลยว่าซิ่วอิงทำอะไรจ๋อม...เสียงน้ำแปลกๆ ดังตรงหน้า และเมื่อลืมตาขึ้น ซีห่าวก็แทบหยุดหายใจหญิงสาวในสภาพราวกับเปลือยกายเพราะเสื้อผ้านางตอนนี้เปียกแนบเนื้อไปหมดก้าวเข้ามาในอ่างเดียวกับเขา โดยมาอยู่ตรงกลางหว่างขาเขา นางค่อยๆ ทรุดลงช้าๆ ราวกับว่าอยากอวดเรือนร่างของสตรีให้เขาเห็นทุกสัดส่วน ก่อนทุกอย่างจะหายลงไปในน้ำ“อา...”ซีห่าวเผลอครางออกมาจนได้ ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นร่างกายของสตรี แต่มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้เสพสมกับใคร ยิ่งงานในช่วงหลังหนักมากขึ้นด้วย และยังมีปัญหาสงครามประสาทกับตระกูลอี้ผ่านตัวอี้เหมยอิงผู้เป็นภรรยาเอกอีก ชายหนุ่มจึงขยาดผู้หญิงไปเลยทีเดียวหญิงสาวไม่เคยยั่วสวาทใครก็จริง แต่ชีวิตก่อนนางอยู่แต่กับผู้หญิง ไฉนเลยจะไม่เคยเห
อยู่ๆ ซีห่าวก็ดึงมือนางออกแล้วรีบลุกขึ้น หญิงสาวตกใจทำอะไรไม่ถูก แต่ชายหนุ่มไม่ได้หนีไปไหน เขาแค่หันไปทางอื่น แล้วใช้มือตัวเองสาวลำเอ็นอันเขื่องอีกไม่กี่ครั้ง มันก็พ่นน้ำวิสุทธิ์ขาวขุ่นออกมา“อา...ซี้ด...”ลืมตัวสูดปากอย่างเสียวกระสัน กว่าจะนึกได้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็เป็นตอนหันไปเห็นนางจ้องของสงวนเขาตาเป๋ง เพราะมันอยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าของนาง ใจเกิดคิดลามกวิตถารเพราะตอนนั้นเห็นนางอ้าปากค้างอยู่ แม่ทัพกู้คิดว่าหากได้เอาของในมือนี้สอดใส่เข้าไปในปากน้อยๆ ที่แดงฉ่ำนั่น มันจะ...“บ้าฉิบ! ข้าคิดอะไร”ด่าตัวเองอย่างหัวเสีย เขาจะมาทำอย่างนี้ไม่ได้ นี่ไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เกิดจากความรัก มันเป็นเพียงความใคร่ แล้วเหตุใดเขาต้องทำให้หญิงสาวที่เป็นคนกตัญญูและเสียสละตัวเองให้เขา ต้องมาแปดเปื้อนเพราะเขาด้วยกันคนหนึ่งคิดอย่าง อีกคนคิดอย่าง ก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงที่ใด“ข้าจะไปแต่งตัวแล้ว คืนนี้ข้าอยากอ่านหนังสือ” อยู่ๆ ก็ก้าวพรวดๆ ออกจากอ่างไปคว้าเสื้อคลุม “ข้าจะบอกให้บ่าวยกน้ำชาและของว่างเข้ามา เจ้าก็แต่งตัวเสียให้เรียบร้อยด้วยแล้วกัน...”ว่าแล้วก็ไปเพราะเขินที่ตัวเองทำบ้าบออะไรราวกับเป็นเด็กห
“ไพเราะดี ไม่รู้ว่าเจ้าเคยอ่านกวีด้วย ที่หอนางโลมมีสอนด้วยหรือ” ถามไปอย่างนั้นเพื่อจะแก้เก้อ หญิงสาวหัวเราะจริตจะก้าน นางรู้ว่าอย่างไรก็ต้องถูกถาม ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องอื่นในอนาคตด้วย เลยคิดหาทางรอดไว้แล้ว “ได้ยินพวกพี่สาวที่เป็นอี้จี้ ขับโคลงกลอนให้แขกฟังเจ้าค่ะ” นางหมายถึงคณิกาชั้นสูงที่ขายศิลปะไม่ขายเรือนร่าง “ตอนข้าเป็นทาส มีพี่สาวอี้จี้หลายคนเอ็นดูข้า เลยมักจะสั่งสอนข้าหลายเรื่อง เผื่อสักวันข้าจะได้ใช้เลี้ยงดูตัวเอง” “มิคาดคิดว่าในสถานที่แบบนั้นยังมีคนใจดีกับเจ้า นึกว่าเจ้าจะถูกมามากดขี่ข่มเหงท่าเดียวอย่างที่เจ้าเคยพูดไว้” ชายหนุ่มรำพัน เขาวางหนังสือลง คงอ่านต่อไม่ได้แล้วตอนนี้ หลังจากเจอคำว่ากระตุ้นกำหนัดเข้าไป “เอาล่ะซิ่วอิง ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว และเจ้าคงหายเสียขวัญแล้วด้วย คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าเองก็จะกลับไปนอน พรุ่งนี้ต้องไปประชุมแต่เช้าเช่นกัน” พูดจบก็รีบลุกไป มิวายอยู่ๆ หญิงสาวก็ลุกตามแล้วทำแข้งขาอ่อนล้มใส่เขาหน้าตาเฉย “ว้าย...” แสร้งอุทานทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอนโผใส่ซีห่าว “ท่านพี่ อยู่ๆ ข้าก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรง คงเป็นเพราะที่ถูกรั
มวลอากาศอบอุ่นที่ละไล้ใบหน้าปลุกให้หญิงสาวค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแบบงงๆ เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว สังเกตได้จากแสงสว่างที่ผ่านประตูหน้าต่างห้อง ประตูค่อยๆ เลื่อนเปิดออก เป็นแม่บ้านเจียงกับสาวใช้สองคน ที่เอาอาหารเช้าเข้ามา “นี่ข้า...อยู่ที่ไหน” ร่างบางยันกายลุกขึ้น มึนหัวไปหมด จับต้นชนปลายยังไม่ถูก นางพบว่าตัวเองใส่ชุดนอนมิดชิดและนอนอยู่บนฟูกมีผ้าห่มไว้อย่างดี “อ้อ...ข้าตายแล้ว และมาอยู่ในร่างของผู้หญิงที่ชื่อซิ่วอิง นางมาเป็นสายลับให้แม่ทัพกู้แต่ดันถูกฆ่าตายไปก่อน เมื่อคืนข้าดีใจมากจนอยากจะรีบครอบครองท่านแม่ทัพ ก็เลยงัดกลเม็ดเด็ดพรายทุกอย่างมาล่อลวงเขา แล้วก็...” “นายหญิง บ่าวนำอาหารเช้าเข้ามาให้ และตอนนี้ให้เด็กๆ เตรียมน้ำให้ท่านอาบแล้ว” แม่บ้านเจียงมายืนส่งเสียงข้างเตียงทำลายห้วงความคิดของซิ่วอิง สีหน้าแม่บ้านยังเย็นชาเหมือนเมื่อคืนไม่มีผิด “บ่าวได้ยินท่านพูดอะไรมิทราบ หรือนายหญิงต้องการสิ่งใด บ่าวจะได้ให้พวกเด็กๆ จัดหามาให้” ซิ่วอิงเลื่อนสายตาไปมองหน้าหญิงวัยกลางคนตรงๆ แม้อีกฝ่ายจะสงบนิ่งเช่นเดิม แต่แววตากลับเปลี่ยนแปลง เพราะดูเป็นมิตรขึ
ประโยคหลังนางพึมพำเบาๆ แต่หญิงวัยกลางคนย่อมได้ยินเพียงแต่ไม่อยากตอบ ว่าไม่จำเป็นต้องให้นางสืบอะไรเลย แค่นางมาอยู่ที่นี่ ได้ใช้ค่ำคืนร่วมกับกู้ซีห่าวเรียบร้อย อีกไม่นานฝ่ายอี้เหมยอิงย่อมอดทนเองไม่ได้ และจะทำอะไรที่เหิมเกริมขึ้นมาอย่างแน่นอนไม่ผิดไปจากที่แม่บ้านเจียงคิด เพราะซิ่วอิงกินข้าวไปเพียงไม่กี่คำ ก็เกิดเสียงความวุ่นวายหน้าห้อง“ไหน ข้าขอดูหน้าอนุสามของท่านพี่หน่อย” เป็นเสียงสตรีเกรี้ยวกราดขึ้น “เหตุใดไม่รู้มารยาท ข้าเป็นฮูหยินใหญ่ของที่นี่ นางเป็นใครมาจากไหน กล้าดีอย่างไรมาทำตัวเมินเฉยต่อข้า ไม่รู้จักรีบไปคารวะยกน้ำชาให้ อ้อ! ลืมไป ก็แค่ผู้หญิงชั้นต่ำที่เป็นทาสมาจากหอนางโลม คงไม่รู้กระมังว่าผู้ดีเขาทำกันอย่างไร”ซิ่วอิงวางตะเกียบลงทันทีแล้วหันไปสบตาแม่บ้านที่สั่นหน้าให้ ทว่าหญิงสาวกลับแค่นหัวเราะ บรรยากาศแบบนี้คิดว่าตายแล้วเกิดใหม่จะไม่ต้องพบเจอเสียอีก ที่ไหนได้ มาอยู่ในร่างใหม่แล้วแท้ๆ ก็ยังเจอคนแบบฮูหยินใหญ่ตระกูลซุน “นายหญิงอยู่เฉยๆ บ่าวจะออกไปรับหน้าเองเจ้าค่ะ อย่างไรเสียฮูหยินใหญ่อย่างมากก็ดุด่าบ่าวแต่ไม่กล้าแตะต้อง เพราะบ่าวเป็นคนของนายท่าน ฮูหยินจึงไม่อยากมีเรื่องปะทะกั
“สามหาว! ไปจับมันไว้” อี้เหมยอิงออกคำสั่ง ทุกคนกรูเข้าหาซิ่วอิงทันที หญิงสาวเหวี่ยงแขนสู้ไม่ยอมให้จับง่ายๆ แต่สุดท้ายก็แพ้คนจำนวนมากกว่า “ปากดีนักนะ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมกินอาหารที่ข้าจัดเตรียมไว้ให้ อย่างนั้นก็กินมันแบบเปล่าๆ นี่แหละ จากนั้นข้าจะเอาหลักฐานไปทิ้งไว้ในห้องพักของแม่บ้านเจียง จะได้โยนความผิดให้นางไป ว่านางวางยาเจ้า!”ขวดกระเบื้องเคลือบถูกชูขึ้นมาในมือ ซิ่วอิงตาเหลือก นางจำลวดลายบนขวดนั้นได้ มันคือยาพิษชนิดเดียวกับที่นางใช้ปลิดชีพตนเองในคืนเข้าหอตอนยังเป็นซุนซูฮวา“เวรกรรมแท้ๆ สุดท้ายข้าจะต้องตายเพราะยาพิษชนิดเดิม แต่ต่างวาระ” อดสังเวชใจตัวเองไม่ได้ แต่ไม่สิ! นี่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำตัวอ่อนแอนี่นะ นางขืนตัวขึ้นแล้วตะโกนออกไป “ท่านป้าเจียงก็มีปาก คิดว่าจะเงียบยอมให้เจ้าใส่ร้ายท่าเดียวได้หรือไง เจ้านั่นแหละที่จะหนีความผิดไม่พ้น เพราะหลักฐานอยู่ในมือเจ้า ข้ารู้ว่ามันคืออะไร!”ไม่ใช่แค่ว่ารู้ว่าคืออะไร แต่ย่อมรู้ว่ามาจากไหน และไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะซื้อหาเพราะมันเป็นของราคาแพงมาก นางต้องใช้ทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่แล้วยังต้องไปหยิบยืมพี่สาวน้องสาวทั้งหลายเพื่อจะให้สาวใช้ถิงเอ๋อร์ในช
หญิงสาวจมสู่นิทรารมณ์อย่างรวดเร็ว...ที่นั่นดูเหมือนเป็นโลกอดีต ทั้งสิ่งปลูกสร้างและผู้คนที่แต่งกายแบบโบราณ ดูเหมือนกำลังมีงานเลี้ยงฉลองบางอย่าง มีเด็กๆ ที่แต่งกายอย่างชนชั้นสูงวิ่งเล่น เด็กหญิงคนหนึ่งวิ่งมาชนเธอ“ท่านอา ขออภัยเจ้าค่ะ” หนูน้อยเอ่ยคำด้วยเสียงสดใส ซิ่วอิงเห็นใบหน้านั้นแล้วก็รู้สึกเอ็นดู และคิดว่าทำไมหน้าตาเหมือนตนในชาติก่อน “ท่านอา เห็นเด็กผู้ชายตัวสูงเท่าข้าไหมเจ้าคะ ข้ากำลังตามหาเขาอยู่เจ้าค่ะ ข้าจะไปจัดการ...”ซิ่วอิงยังไม่ทันตอบ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกหาเด็กคนนี้“ถิงเอ๋อร์ ไปยืนทำอะไรตรงนั้นจ๊ะลูก มาเข้าร่มได้แล้ว” สตรีที่แต่งกายด้วยแพรพรรณอย่างคนสูงศักดิ์ น้ำเสียงอ่อนหวานทอดอย่างอ่อนโยนเช่นคนได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่าใบหน้านั้น...“นั่นมัน! ตัวข้าเองนี่นา!”ซิ่วอิงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้เห็นร่างกายของตัวเองยังเคลื่อนไหวได้อยู่ทั้งที่ตนตายไปแล้ว หรือว่าข้างในนั้นจะไม่นางกัน แต่เป็นวิญญาณคนอื่น!“ท่านแม่ ลูกตามหาเพื่อนอยู่เจ้าค่ะ เดี๋ยวลูกเจอแล้วจะกลับมาหาท่านแม่นะเจ้าคะ” หนูน้อยแสบซนมาก วิ่งหนีแม่ไปทางอื่น นี่แสดงว่าเด็กคนนี้คงเป็นลูกที่เกิดจาก
ห้าปีผ่านไป... คุณแม่มือใหม่ที่ท้องใหญ่อุ้ยอ้ายเต็มที เห็นแค่นี้ใครก็รู้ว่าเป็นลูกแฝดแน่ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าเพศอะไร ตอนนี้เพิ่งจะเดินเล่นรอบบ้านเสร็จ ทว่าคุณพ่อมือใหม่เช่นกันที่เพิ่งกลับจากที่ทำงานและดันมาเห็น ก็ให้รถจอดตรงนั้นและลงไปจัดการภรรยาทันที “ท้องแก่ขนาดนี้ ยังจะเดินไปเดินมาอยู่อีก” กู้ซีฮันเข้าไปประคองซิ่วอิงอย่างอ่อนโยน ทั้งสองคนมองกันด้วยสายตาแห่งรัก วันเวลาที่วุ่นวายผ่านไปนานมากแล้ว แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็เลือดตาแทบกระเด็นทั้งคู่ “เข้าบ้านไปเดี๋ยวนี้เลย ไม่อย่างนั้นจะตีให้ทั้งแม่ทั้งลูก ช่างพากันออกมาซนจริงๆ” “ฉันไปดูงานที่สำนักพิมพ์มา เห็นจางเหว่ยบอกว่ามีต่างชาติมาเสนอเครื่องพิมพ์แบบใหม่ สามารถพิมพ์หนังสือพิมพ์ได้เร็วกว่าเดิมมากนัก”หญิงสาวตอบ หลังเหตุการณ์คืนนั้น จ้าวตงไห่และตู้เหมยอินที่รอดตายจากตึกถูกไฟไหม้จนถล่มได้อย่างน่าเหลือเชื่อก็ถูกจับ ถูกตั้งข้อหามากมายและทั้งคู่ก็ไม่มีปัญญาสู้ในชั้นศาล กว่าจะจบเรื่องพวกนี้และถูกส่งไปอยู่เรือนจำทั้งคู่ก็ใช้เวลาเกือบสองปีเห็นว่าตู้เหมยอินเมื่อแยกเข้าเรือนจำแล้วก็อาการป่วยทรุดหนักลงกว่าเดิม ส่วนจ้าวตงไห่ได้ยินว่าถ
ซิ่วอิงรีบถูเชือกให้เร็วขึ้นเพราะไฟลามมาเร็วขึ้นแล้ว น้ำมันที่ถูกเทเป็นวงกลมตรงตำแหน่งเดิมที่เธออยู่ ตอนนี้มันทำไฟลุกโชติช่วงราวกับมาจากนรก“ขะ...ขาดแล้ว!” ในที่สุดก็สำเร็จ ซิ่วอิงปลดปล่อยตัวเองได้ เธอพยายามจะวิ่งสวนออกไป แต่อยู่ๆ ถูกตู้เหมยอินกระชากกลับ ให้เข้าไปอยู่ในวงล้อมด้วยกัน“แกจะหนีไปไหน ทั้งหมดนี้มันเริ่มต้นเพราะแกคนเดียว เพราะฉะนั้นแกต้องตายไปพร้อมกับฉันด้วย จะได้ไม่ต้องมีใครอยู่เสวยสุขเพียงคนเดียว!”“ใครอยากตายก็เชิญตายไปเลยแต่ฉันจะไม่ยอมตาย!” ซิ่วอิงทั้งทิ่มศอกและแทงเข่า ทั้งสองกลายมาเป็นคู่ต่อสู้กัน ในขณะที่ตงไห่ก็หนีไปไหนไม่ได้เพราะติดกุญแจมือ “ผีเน่าโลงผุอย่างพวกแกขอให้ได้ตกนรกด้วยกันไปทุกชาติเถอะ ชาติหน้าอย่าได้มาเจอกันอีกเลย!”“กรี๊ด!”ซิ่วอิงสลัดพวกนั้นมาได้และวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต ตอนนี้ไฟไหม้ล้อมไปทั้งโกดังแล้ว ผลของน้ำมันที่ถูกเทไปจนทั่ว“แค่กๆๆ” หญิงสาวเริ่มสำลักควัน พยายามเอามือมาปิดหน้าแต่ก็แสบที่ควันเข้าตาอยู่ดี “แล้วฉันจะหนีไปทางไหนได้ ไม่มีทางออกแล้ว!”“ทางนี้...มาทางนี้” เสียงแปลกๆ ดังมาจากทางหนึ่ง และพอซิ่วอิงหันไป ก็ได้เห็นคนที่เธอเห็นมาแล้วในห้องนอนของ
“ไหนๆ เราก็เป็นสามีภรรยากันมาถึงห้าปี ฉันขอของขวัญชิ้นสุดท้ายจากเธอหน่อยก็แล้วกันนะ ฉันอยากได้แค่ใบมรณะบัตรของเธอน่ะ และจะได้ก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำกลุ่มเจียงหานของพ่อเธอ...”เชือกเส้นเดิมถูกเอามามัดที่มือของเธอแต่คราวนี้ผูกติดไว้กับลูกบิดประตูตรงนั้นด้วย ตงไห่ถอดเข็มขัดแล้วเอามารัดข้อเท้าหญิงสาวเข้าด้วยกันหลังจากเธอพยายามจะถีบล้วงกระเป๋าหยิบไฟแช็กขึ้นมาพรึ่บ!ไฟแช็กถูกโยนเข้าไปในกองกระดาษของโกดัง เปลวไฟลุกวาบขึ้นมาทันที“ลาก่อนนะภรรยาแสนดีของฉัน ถ้าโชคดีฉันไม่ติดโรค ฉันสัญญาว่าจะมีชีวิตดีๆ แทนเธอ และถึงฉันจะมีเมียใหม่ก็จะไม่มีทางลืมเธอ ส่วนยังเหมยอิน ฉันจะเก็บกวาดให้เรียบร้อย ถือเป็นการปลอบใจเธอก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆ”“พี่! พูดอะไร ที่บอกว่าจะเก็บฉัน” ตู้เหมยอินยังเอาตัวเย่วซินไปไม่ถึงไหน อยู่ๆ ก็หวาดระแวงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล กลัวตงไห่เปลี่ยนใจไม่กำจัดเมียเก่า เลยตั้งใจว่าจะมาดูให้เห็นกับตาตัวเองก่อน และดันเข้ามาในจังหวะดีๆ “ไหนพี่บอกว่าเราจะร่วมเป็นร่วมตาย พี่จะไม่ทอดทิ้งฉัน พี่บอกว่าถึงฉันจะป่วยพี่ก็ยังจะรักฉัน แต่พี่กลับบอกนังซูฮวาว่าจะเก็บฉัน นี่มันคืออะไร”“เหมยอิน ทำไมยังอยู่ที
“แล้วยังไงอีก” หญิงสาวสวนกลับ เพราะเธอไม่ใช่ซูฮวาตัวจริง แม้จะเสียใจแต่ไม่ได้เจ็บปวดกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน “คิดจะทำให้ฉันสติแตกหรือไง ขอโทษนะ ตอนนี้ไม่มีอะไรทำร้ายฉันได้อีกแล้ว และต่อให้แกพยายามฆ่าฉันแค่ไหน แต่คนที่เพิ่งได้โอกาสกลับมามีชีวิตอีกครั้งฉัน จะไม่มีทางยอมตาย!”เชือกที่มัดข้อมือหลุดออก ซิ่วอิงพุ่งเข้าใส่ตงไห่จนล้มไปทั้งคู่ แกลลอนน้ำมันหลุดมือแล้วสาดจนเปียกไปด้วยกัน“เฮ้ย! นังบ้านี่!”สองคนฟัดกันนัวไปหมดที่พื้น ตงไห่ตบหญิงสาว แต่เธอก็ถีบกลับจนหงายหลัง ชายหนุ่มจึงคว้าได้เชือกมัดมือที่ซิ่วอิงแก้ไข และเอามันมารัดคอเธอแทน“แค่ก...”ภาพความทรงจำที่ฝังอยู่ในวิญญาณหวนกลับมาหา ในชาติที่แล้วบนเกี้ยวเจ้าสาว ซูฮวามองออกไปนอกหน้าต่างเกี้ยวเห็นแสงจันทร์และดวงดาว ไม่ต่างอะไรจากในตอนนี้ที่เธอกำลังตาเหลือกมองขึ้นไปด้านบนที่เป็นช่องแสงของโกดัง“ซิ่วอิง หลังคดีการตายของอนุในจวนข้าจบสิ้นเพราะความช่วยเหลือในการแฝงตัวเป็นสายลับของเจ้า ข้าจะมอบชีวิตที่สงบสุขและร่ำรวยให้เจ้า เจ้าจะได้อยู่ในตระกูลกู้ในฐานะภรรยาคนหนึ่งแต่ไม่ต้องปรนนิบัติข้า ชีวิตเจ้าลำบากมามากก็ควรได้อยู่อย่างมีความสุขเสียที ความจริงข
“ป้าอี้นะเหรอ เขาลากลับบ้านนอกไปแล้ว เมื่อครู่นี่เอง น่าจะสวนกับคุณหนูนะคะ” เยว่ซินตกใจมากที่อยู่ๆ ลูกเลี้ยงก็รีบกลับบ้านมาอย่างร้อนรน “เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ ทำไมต้องตามหาตัวป้าอี้กัน” เลขาฯ ฮุ่ยรีบออกไปคุยกับพวกแม่บ้านและคนงานก่อนเป็นอย่างแรก ส่วนซีฮันจับแขนซิ่วอิงไว้ ส่งสายตาห่วงใย “แกคงยังไปไหนได้ไม่ไกลถ้าเพิ่งจะออกไป เดี๋ยวฉันกับเลขาฮุ่ยจะตามหาเอง เธออยู่เป็นเพื่อนคุณอาที่บ้านไปก่อน ตอนนี้อย่าออกไปไหนเด็ดขาด เพราะถึงขนาดวางระเบิดใต้รถได้ ก็คงไม่มีอะไรที่มันจะทำไม่ได้แล้ว...” “ระเบิด!” เยว่ซินตกใจมากเกือบได้เป็นลมอีกรอบ “ทนายซ่านไม่ได้ประสบอุบัติเหตุแต่เป็นโดนระเบิดเหรอคะ นี่มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง” “คุณอารถคว่ำค่ะ ไม่ได้โดนระเบิด คงเป็นเพราะคุณพ่อคุ้มครองไว้ เพราะอยู่ๆ คุณอาก็รู้สึกแปลกๆ และพบว่าใต้เบาะนั่งมีระเบิดซ่อนอยู่ ก็เลยโยนไปนอกรถค่ะ” ซิ่วอิงอธิบายหวังให้เบาใจ แม้เรื่องที่เล่ามันจะไม่ได้ดูเบาตรงไหนเลย “แต่ก็มีรถมาตามชนจนพลิกคว่ำอีก ดูท่าจะเป็นการจงใจฆ่า พวกมันคงอยากเก็บฉัน และตอนนี้ในเมื่อทำไม่สำเร็จ ฉันก็กลัวว่ามันจะหันมาเล่นงานคุณอาแ
ทุกคนยืนว้าวุ่นกันอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เป็นเวลาอยู่นาน ในที่สุดประตูก็เปิดออก และแพทย์เป็นคนผู้ออกมา“ญาติคนไข้ซ่านกวงกวงใช่ไหมครับ” หมอหนุ่มเอ่ยขึ้น ซิ่วอิงพยักหน้าแล้วรีบปราดเข้าไปหา ก่อนอีกฝ่ายจะเอ่ยถามขึ้นอีก “ท่านไหนคือคุณซุนซูฮวาครับ คนไข้ฝากมีข้อความฝากไว้ ก่อนเขาจะเข้ารับการผ่าตัด”“ฉันเองค่ะ คุณอามีอะไรหรือคะ แล้วตอนนี้เขาปลอดภัยดีใช่ไหมคะ” นี่เป็นครั้งแรกในชาติภพใหม่ที่คนใกล้ตัวเป็นแบบนี้ เธออดคิดไปถึงในชาติก่อนตอนยายป่วยหนักไม่ได้ มันน่าเสียขวัญมาก“คุณซ่านกวงกวงปลอดภัยแล้วครับแต่ยังไม่รู้สึกตัวเพราะยาสลบ เขาคงจะรู้ตัวว่าต้องใช้เวลานานเลยอยากให้หมอบอกอะไรบางอย่างไว้กับญาติ” หมอเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อให้หญิงสาวเดินตามไปใกล้ๆ ก่อนจะบอก “คุณซ่านกวงกวงบอกว่า นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ ให้คุณซุนซูฮวาถามทุกอย่างจากคนขับรถ เพราะเขารู้เห็นอยู่ในเหตุการณ์ตลอด”“คนขับรถ...แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนคะ คุณอาบาดเจ็บหนักขนาดนี้ เขาก็คงไม่ต่างกัน”“ตอนนี้น่าจะอยู่ในห้องพักฟื้นรวมเพราะเขาไม่ได้เจ็บหนักครับ คุณลองถามพยาบาลตรงนั้นดูว่าห้องไปทางไหน” หมอคิดว่าเรื่องจากนี้ไม่เกี่ยวกับตนเองแล้วจึงขอแยกตัวไปก่
เยว่ซินปล่อยน้ำตาไหลพราก แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงไปกองกับพื้น “โถ่ นายท่าน ดิฉันมันเป็นคนเลวแท้ๆ ที่เอายาพิษมาให้นายท่านกินทุกวัน ดิฉันทำแบบนั้นลงไปได้อย่างไร ฮือ...คุณหนู จับดิฉันไปส่งตำรวจเลยค่ะ ดิฉันเป็นคนฆ่านายท่าน ดิฉันผิดเอง. ..” มันเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดแล้ว จ้าวคงไห่ใช้ซูฮวาเป็นเส้นทางสู่ซุนเยี่ยนฟาง เพื่อที่จะมอบยาพิษให้หวังปลิดชีพแบบแนบเนียน โดยคนที่มีหน้าที่ปรุงยาพิษพวกนั้น ก็คือคนที่ซุนเยี่ยนฟางไว้ใจมากถึงขั้นให้ดูแลทุกอย่าง ก็คือภรรยาของเขานั่นเอง “คุณอาไม่ได้ผิด คนที่ผิดคือคนที่เอายาพิษมาให้ หลอกใช้พวกเราเป็นสะพานเพื่อจะฆ่าคุณพ่อ” ซิ่วอิงกัดฟัน “ยืมมือลูกสาวและภรรยา สองคนที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดและไม่มีทางทำร้ายคุณพ่อได้ พวกมัน...ใจร้ายเกินไป จ้าวตงไห่ มันไม่ใช่คน...” ซิ่วอิงก้มลงไปประคองแม่เลี้ยงขึ้นมา รู้สึกว่าเยว่ซินเหมือนจะแก่ลงมากเพียงแค่ชั่วข้ามคืน แน่นอนว่าเป็นใครก็คงรับไม่ได้เช่นกัน “คุณอา ฉันจะไม่รออะไรอีกต่อไปแล้วค่ะ ซีฮันบอกให้ฉันรอไปเจ็ดวันให้พวกมันคืนทรัพย์สินที่ยักยอกไปมาให้ฉัน แต่ฉันคิดว่าแค่นั้นมันคงไม่เพียงพอจะชดใช้อ
เกิดเสียงฮือฮาอีกรอบ แต่ซิ่วอิงไม่รอแล้ว เธอหันไปยิ้มเบะปากให้ทั้งจ้าวตงไห่และตู้เหมยอิน ก่อนจะหันไปจับมือกับกรรมการทั้งสามคนที่ยืนด้านหลัง และพูดคุยทักทายกันตามประสา โดยไม่สนใจสองชู้รักนั่นอีกเลย หลังซิ่วอิงออกไปจากห้องประชุม ไม่นานนักพวกกรรมการก็ลุกตาม และค่อยๆ ออกไปจนหมด ชัดเจนแล้วว่าทุกคนยินดีรับข้อเสนอของว่าที่ประธานกลุ่มเจียงหานคนใหม่ เพราะอย่างไรแล้วการได้ร่วมงานกับเจียงหานก็ถือว่าอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารในวงการธุรกิจของเจียงซี สุดท้ายในห้องประชุมใหญ่ก็เหลือเพียงจ้าวตงไห่และกู้เหมยอิน เขารู้ว่าซูฮวาเก่ง แต่ไม่รู้ว่าเธอหัดเล่นกับความโลภของคนตั้งแต่เมื่อไร กระทั่งผู้ช่วยเจี่ยที่เป็นมือเป็นเท้าให้ทั้งคู่ด้วย ก็ยังถูกซื้อตัวไปง่ายๆ ไม่ได้ต่างอะไรจากนักหนังสือพิมพ์คนนั้นของสำนักพิมพ์เลี่ยงหวงที่ถูกซื้อตัวไปเช่นกัน แต่แล้วอยู่ๆ ปึกเอกสารหนึ่งก็ถูกกระแทกบนโต๊ะต่อหน้าจ้าวตงไห่จนเขาสะดุ้ง เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นกู้ซีฮัน “นี่คือหลักฐานว่าแกกับชู้ยักยอกทรัพย์สินของบริษัทเอสบีไปได้อย่างไร เอาไปมากแค่ไหน และเอาไปฟอกเงินด้วยวิธีใด รวมถึงมีใครบ้างที่ร่วมขบวนการน