บทที่ 5 จะไม่ยอมปล่อยมือ
"ฉันจะไม่ลืมอีกแน่นอนต่อจากนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะท่านนายอำเภอเสวียนเฉิน"
"ไม่สิ ต้องไม่ใช่แบบนี้ต่อไปต้องเรียกฉันว่าเสวียนเฉิน "
"ทั้งสองคุยอะไรกันอยู่เหรอ ? เสวียนเฉินแม่รู้ว่าลูกดีใจที่ได้เจอเสี่ยวอิงแต่ตอนนี้ให้เสี่ยวอิงพักก่อนเถอะเรามาช่วยกันทำความสะอาดบ้านเดี๋ยวตะวันจะตกดินเสียก่อนจริงสิตอนนี้เสี่ยวอิงเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่อาหารกับข้าวคงยังไม่มีสินะดีเลย ดีเลย หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จป้าจะทำอาหารต้อนรับเสี่ยวอิงกลับมานะถ้าพ่อแม่ของเธออยู่คงจะดีกว่านี้ อุ้ย ! ป้าขอโทษไม่น่าพูดถึงเรื่องนี้เลย"ป้าเสวียนหนี่เดินมาพร้อมกับเด็ก ๆ บอกให้ลูกชายตัวเองไปช่วยกันทำความสะอาดบ้าน
“ไม่เป็นอะไรค่ะคุณป้า บ่อยครั้งฉันเองยังคิดเลยว่าถ้าคุณพ่อคุณแม่อยู่คงดีกว่านี้” เสี่ยวอิงพูดขึ้นอย่างถนอมน้ำใจรู้ดีว่าป้าเสวียนหนี่ไม่ได้ต้องการพูดให้เธอกับน้อง ๆ เศร้าใจ
ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนต่างพากันช่วยทำความสะอาดบ้านที่สกปรกเต็มด้วยฝุ่นกลับกลายเป็นบ้านที่น่าอยู่มากเลยทีเดียวแม้ว่าจะมีของบางสิ่งพังไปบ้างแต่ว่าเสี่ยวอิงคิดเอาไว้แล้วหลังจากที่ทุกคนกลับเธอจะเอาของใช้ออกมาจากมิติมาใช้ที่บ้านหลังนี้แม้เธอจะช่วยเขาไม่ได้มากแต่ก็ช่วยหยิบจับอะไรเล็กน้อยได้อยู่ ระหว่างที่ทำความสะอาดบ้านนั้นเธอรู้สึกเหมือนถูกสายตาคู่หนึ่งจับจ้องอยู่เสมออย่างไม่ละสายตาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือว่าเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ ในที่สุดบ้านของเธอก็สะอาดเรียบร้อยเธอจึงเอ่ยขอบคุณป้าเสวียนหนี่กับเสวียนเฉินที่มาช่วยเธอในครั้งนี้
"ขอบคุณคุณป้าเสวียนหนี่มาก ๆ นะคะถ้าไม่ได้ป้ากับเสวียนเฉินป่านนี้ฉันกับน้อง ๆ ก็คงยังทำงานบ้านยังไม่เสร็จ"
"พูดอะไรอย่างนั้นไม่เห็นต้องขอบคุณมากมายเลยแค่ช่วยจับคนละไม้คนละมือก็เสร็จแล้วอย่างนั้นเดี๋ยวป้าจะไปทำกับข้าวเพื่อต้อนรับเธอและน้อง ๆ นะ"
"หนูไปด้วยค่ะป้าเสวียนหนี่หนูก็ทำกับข้าวเป็นนะคะตอนที่อยู่บ้านตระกูลโจวหนูช่วยพี่เสี่ยวอิงทำอาหารอยู่เสมอจ้าวเหวินเราเองก็มาช่วยกันเถอะ" จิ่งเหยาชักชวนน้องชายไปช่วยอีกแรง ตอนนี้ทำให้เสี่ยวอิงนั่งอยู่กับเสวียนเฉินเพียงลำพัง
“ต่อจากนี้เธอจะกลับมาอยู่ที่นี่จะทำงานอะไรอย่างนั้นหรือ ? คิดไว้หรือยัง”
“ฉันคิดมาบ้างแล้วว่าจะเปิดร้านขายของกิน ระหว่างทางเดินกลับมาฉันสังเกตเห็นว่ายังไม่มีร้านขายขนม ฉันเลยคิดว่าจะขายขนมนะ มันน่าจะขายได้หากราคาไม่สูงมากนัก ”
“ดีเลย ไม่ว่าเธอจะทำอะไรฉันสนับสนุนเธอเต็มที่มีอะไรขาดเหลือบอกฉันได้เสมอไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้ท้องฟ้าก็มืดสลัวแล้วเธอไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเถอะ จะได้พักผ่อนยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย”
“ขอบคุณอีกครั้งที่มาช่วยเหลือฉันในครั้งนี้นะ สมแล้วที่เป็นนายอำเภอดูแลลูกบ้านดีเช่นนี้ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะชื่นชอบ”
“ใครบอกว่าฉันใจดี ฉันใจดีเพียงแค่กับเธอคนเดียวเท่านั้น” เสวียนเจินพูดเบา ๆ ในลำคอทำให้เสี่ยวอิงแทบไม่ได้ยินเอ่ยถามเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เมื่อครู่นายว่าอะไรฉันไม่ค่อยได้ยินเลย”
“หน้าที่ของนายอำเภอต้องดูแลลูกบ้านอยู่แล้ว เธอไม่ต้องรู้สึกเกรงใจอะไรมากขนาดนั้นทำตัวสบาย ๆ เถอะ ” เสี่ยวอิงไม่ได้เอะใจคิดว่าเขาพูดอย่างนั้นจริง ๆ เธอหันหลังให้เขาก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าบ้านสำรวจตามห้องต่าง ๆ เมื่อตอนนี้ทุกคนไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอเปิดใช้ระบบนำของใช้ต่าง ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องครัว ครีมอาบน้ำต่าง ๆ มาเตรียมไว้รอน้อง ๆ จนครบทุกอย่าง เธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและไม่ลืมที่จะกินยาบำรุงร่างกายรักษาแผลด้านในอีกด้วย
“โชคดีที่ฉันมีระบบมิติ แต่เรื่องนี้คงบอกน้อง ๆ ไม่ได้ส่วนของใช้พวกนี้คงต้องบอกว่าเสวียนเฉินให้มาไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางเชื่อแน่ ๆ เฮ้อ..ไม่คิดเลยว่าวัน ๆ หนึ่งกว่าจะผ่านพ้นไปนานขนาดนี้เมื่อไหร่ร่างกายจะกลับมาแข็งแรงสักทีฉันจะได้ค้าขายหาเงินเสียที”
ฝั่งบ้านของเสวียนเฉินหลังจากที่เขาแยกจากเธอก็กลับบ้านของตัวเองมาอาบน้ำเช่นเดียวกันเพราะทำความสะอาดช่วยเธอทั้งวันเหงื่อไหลออกมาจนเริ่มมีกลิ่นตัว แต่เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้านได้ยินเสียงเด็ก ๆ ทั้งสองกำลังพูดคุยกับแม่ของเขาอยู่ในครัวเรื่องของเสี่ยวอิง เขาค่อย ๆ เดินเข้าไปฟังด้วยความอยากรู้อยากเห็น ครั้นได้ยินดวงตาของเขาเบิกโพลงโตด้วยความโมโห เพราะสิ่งที่ทั้งสามกำลังสนทนาอยู่นั้นเป็นเรื่องของหยางเจี้ยนสามีเก่าของเสี่ยวอิงอีกทั้งครอบครัวตระกูลโจวที่รังแกและยังทำร้ายร่าวกายจิตใจของเสี่ยวอิงแตกสลาย
‘ที่แท้เธอไม่ได้ไม่สบายอย่างที่ฉันคิด แต่เธอแท้งลูกแถมยังถูกสามีสวมเขาเล่นชู้คนที่ทำให้เธอแท้งก็เป็นสามีของเธอ ฮึ ! ไอ้คนชาติชั่วมาทำให้เสี่ยวอิงเสียใจคอยดูเถอะฉันจะเอาคืนให้เสี่ยวอิงอย่างสาสม และไม่มีทางที่จะปล่อยให้เสี่ยวอิงกลับไปตกนรกอีก’ เสวียนเฉินคิดในใจหันหลังกลับห้องของตัวเองเพื่อจัดการความรู้สึกโมโหตอนนี้ อย่างไรเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ชายคนนี้มีความสุขท่ามกลางความเจ็บปวดของเสี่ยวอิงแน่นอน
หลังจากทำอาหารเย็นเสร็จป้าเสวียนหนี่ให้จิ่งเหยามาตามเสี่ยวอิงไปกินข้าวเย็นด้วยกัน แต่ทว่ากลับถูกเสวียนเฉินเอ่ยปากบอกจะไปตามเธอมาเองให้เด็ก ๆ จัดโต๊ะรอที่นี่ เขาเดินมาหยุดอยู่หน้าบ้านของเธอพร้อมเอ่ยเรียกชื่อเธออยู่ด้านหน้าเกรงว่าจะเข้าไปแล้วเธอยังไม่สะดวก
“เสี่ยวอิงคุณแม่ให้มาตามไปกินข้าวด้วยกัน เธออาบน้ำเสร็จหรือยัง”
แอ้ด .. ประตูถูกเปิดออกมาจากด้านในเสี่ยวอิงสวมชุดสบาย ๆ แต่แตกต่างจากที่เขาเคยเห็นช่างเป็นชุดที่เหมาะสมกับเธอเสียจริง ใบหน้าของเธอที่ซีดไร้เลือดฝาดคงเป็นเพราะเธอสูญเสียเลือดไปมากยิ่งเห็นสีหน้าดวงตาเศร้าหมองของเสี่ยวอิงเสวียนเฉินยิ่งเจ็บใจ เขาไม่ได้พูดอะไรแต่ยื่นมือมาจับมือของเสี่ยวอิงจนเธอตกใจเบิกตามโพลงโต
“นี่ ! ทำอะไรของนายกันฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่คุ้นชินกับการถูกเนื้อต้องตัว ฉันเดินเองได้ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”
“ไม่! ฉันไม่ปล่อย จับมือฉันแล้วเดินตามมาต่อจากนี้เธอก็ต้องหัดให้คุ้นชินเพราะฉันจะไม่มีวันปล่อยมือจากเธออีก ค่อย ๆ เดินล่ะไม่ต้องรีบยิ่งเจ็บแผลอยู่อย่าเดินมาก ใจจริงฉันล่ะอยากจะอุ้มเธอแทนที่จับมือด้วยซ้ำ” เสี่ยวอิงอ้าปากค้างพูดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย ชายคนนี้คาดเดาไม่ได้สักนิดไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการกระทำราวกับว่าเขาชอบเธออย่างไรอย่างนั้น
‘หากฉันไม่คิดเข้าข้างตัวเองผู้ชายคนนี้จะน่าแอบชอบเสี่ยวอิงแน่ ๆ เลย แต่ก็อาจจะไม่ใช่หรอกทั้งสองไม่ได้พบเจอกันมานานอายุก็จนปูนนี้แล้ว เขาเป็นถึงนายอำเภอคงมีภรรยาอยู่แล้วแน่ ๆ ฉันนี่คิดอะไรบ้า ๆ แต่ที่เขาพูดเรื่องแผลเมื่อครู่อย่าบอกนะว่ารู้ความจริงแล้วว่าเสี่ยวอิงพบเจอเรื่องอะไรมา ก็คงเป็นอย่างนั้นเขาคงรู้สึกสงสารสินะ ’ เสี่ยวอิงคิดในใจก่อนจะเอ่ยปากถามเรื่องที่ข้องใจ
“ ที่พูดมาเมื่อครู่รู้แล้วสินะว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันนะไม่ได้อยากโกหกหรอกแต่มันเป็นเรื่องที่น่าสมเพชจนไม่อยากพูดถึงมันเท่านั้น ทุกอย่างมันจบลงแล้วฉันไม่อยากนึกถึงมันอีก..” ไม่ทันที่เสี่ยวอิงจะพูดจบร่างใหญ่ดึงเธอเข้าไปสวมกอดพูดจาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ไม่ต้องพูอะไรทั้งนั้น …ฉันเข้าใจว่าเธอต้องพยายามทนความเจ็บปวดมาขนาดไหนในเมื่อเธอไม่อยากพูดถึงมันขอให้เธอลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นและเริ่มต้นใหม่เถอะนะ ต่อจากนี้ฉันจะคอยอยู่เคียงข้างปกป้องไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกไม่ว่าจะเป็นจิตใจหรือร่างกาย” ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดที่สั่นเทาหรือเพราะได้ยินแล้วเธอรู้สึกสบายใจแม้จะถูกเขาสวมกอดแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธผลักไสไล่ส่งกลับอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
บทที่ 6 อยากเรียน"ฉันรู้ว่านายเป็นนายอำเภอที่ดี แต่ตอนนี้ปล่อยฉันก่อนได้มั้ย มันอึดอัดจนหายใจไม่ออก อีกอย่างฉันคือหญิงสาวที่เลิกลากับสามีนายไม่ควรมากอดฉันแบบนี้ " เหมือนเสวียนเฉินจะรู้สึกตัวรีบปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน"ฉันขอโทษที่ลืมตัว ไปกันเถอะป่านนี้คุณแม่กับน้อง ๆ คงรอกินข้าวกันอยู่"หลังจากที่สองคนเดินเข้ามาทุกคนพากันกินข้าวถามไถ่ชีวิตที่ผ่านมาของเสี่ยวอิงและต่อจากนี้เธอจะทำอะไรต่อไป จนกระทั่งกินอิ่มเสี่ยวอิงจึงขอตัวกลับบ้านเพราะไม่อยากจะอยู่ที่นั้นนาน ไม่ใช่ว่าไม่ดีแต่ทว่าเธอกลับรู้สึกเกรงใจและทำตัวไม่ถูกเมื่อรู้ว่าตอนนี้กงเสวียนเฉินไม่มีภรรยาและเขาไม่เคยแต่งงานมาก่อน ทำให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เขาแสดงต่อหน้าเธอทั้งหมดนั้นคือความรู้สึกของเขา"วันนี้ฉันต้องขอบคุณป้าเสวียนหนี่อีกครั้ง กับข้าวของป้าอร่อยอย่างไม่เคยกินมาก่อน ไว้วันหลังฉันจะทำกับข้าวมาตอบแทนป้าบ้างนะคะ""แหม ๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอกป้ายินดีต้อนรับเสมอ จิ่งเหยา จ้าวเหวินหากอยู่บ้านแล้วเบื่อ ๆ มาเล่นบ้านป้าก็ได้นะ ป้าเองก็อยู่คนเดียวตอนกลางวันไม่ค่อยมีอะไรทำนักหรอก ถ้ามีเด็ก ๆ มาเล่นด้วยคงจะดีไม่น้อย""ได้ครับ ถ้าวันไหนเราช่วยพี่เส
บทที่ 7 แจกซาลาเปาหยางเจี้ยนเดินตามแม่ลงมาด้านล่างตอนนี้แม่ของเขานั่งไขว้ห้างอยู่บนเก้าอี้ไม้มือทั้งสองกอดอกอย่างไม่พอใจ“คุณแม่ครับทำไมมีสีหน้าแบบนั้นมีเรื่องอะไรให้ทุกข์ใจขนาดนั้นกัน ”“ก็เพราะว่าแกนะสิเลือกภรรยาน่าจะเลือกคนขยัน ๆ หน่อย ๆ นี่อะไรกันวัน ๆ เอาแต่กินแล้วก็นอนแถมยังเรียกร้องอยากได้ของราคาแพงอีกด้วย นี่แกไม่ได้บอกให้เธอรู้หรือไงว่าบ้านเราไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น ตอนนี้หนี้สินจนจะท่วมหัวตายอยู่แล้ว”“คุณแม่ครับเรื่องแค่นี้เองไม่เห็นตั้งบ่นต่อหน้ามีมี่เลยคุณแม่จะให้คนน่ารักมือนุ่ม ๆ อย่างมีมี่ไปทำงานลำบากได้ยังไงขนาดเซี่ยเหมยหลงยังไม่เห็นจะทำอะไรเลย วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวแต่งหน้าอยู่บ้าน ภรรยาคนเดียวผมเลี้ยงได้อยู่แล้ว”“อย่างนั้นพรุ่งนี้แกก็รีบไปเกี่ยวข้าวที่เสี่ยงอิงเกี่ยวไม่เสร็จนั่นสิ ฉันจะคอยดูว่าแกจะทำได้แค่ไหนกัน ”“ทำงานเหรอ ได้ถ้าคุณแม่ให้ผมไปทำคุณแม่ต้องให้เงินผมไปซื้อสร้อยคอก่อน คุณแม่รู้มั้ยตอนนี้มีมี่เสียใจขนาดไหนที่เห็นเหมยหลงได้ใส่แต่เธอไม่ได้ใส่นะ แม่อย่าลำเอียงนักสิ”“ฮึ ทีกับเสี่ยวอิงที่ขยันทำงานทุกอย่างแกไม่เห็นเอาอกเอาใจขนาดนี้เลย แม่นางมีมี่วัน ๆ ไม่ทำอะไรรอ
บทที่ 8 ใจร้ายฝั่งด้านเสวียนเฉินเขาได้ตรวจสอบข้อมูลของโจวหยางเจี้ยนรวมทั้งทุกคนในบ้าน เขาอยากใช้กฎหมายกับเขาจริง ๆ แต่ว่าเสี่ยวอิงกับหยางเจี้ยนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันยากนักที่จะฟ้องร้องเอาค่าเสียหาย และหากจะทำได้แต่ถ้าเจ้าทุกข์อย่างเสี่ยวอิงไม่ยอมเขาเองก็ไม่สามารถพูดให้เธอกลับใจได้ ในเมื่อเธอเลือกที่จะลืมและเริ่มต้นใหม่เขาเองก็จะคอยปกป้องเธอในแบบฉบับของเขา แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คนตระกูลโจวมาวุ่นวายเขาจะจัดการคนพวกนั้นด้วยตัวของเขาเอง“แม่ครับผมไปทำงานก่อนนะครับ วันนี้อาจจะกลับค่ำหน่อยมีงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำชุมชนคนใหม่ที่ชนะการเลือกตั้ง”“ไม่ต้องเป็นห่วงแม่หรอกนะ ตั้งแต่เสี่ยวอิงกลับมาอยู่ที่นี่แม่ไม่เหงาเลยสักนิดมีเด็ก ๆ คอยเข้ามาหาอยู่ทุกวัน นู้นไงพูดถึงก็มานู้นแล้ว ว่าแต่วันนี้มาแต่เช้าเกินไปมั้ยนะ หรือว่าเสี่ยวอิงจะไม่สบาย” เสวียนเฉินใจเต้นระรัวร้อนรุ่มในใจเมื่อได้ยินแม่พูดถึงเสี่ยวอิงเขารีบเดินไปหาทั้งสองก่อนที่เด็กทั้งสองจะเดินมาถึงเขาเสียอีก“จิ่งเหยา จ้าวเหวินทำไมถึงออกมาจากบ้านตั้งแต่เช้าขนาดนี้ พี่เสี่ยวอิงไม่สบายหรือ”“ไม่ใช่ครับพี่เสวียนเฉิน พี่เสี่ยวอิงสบายดีและให้เราสองคนนำซา
บทที่ 9 เจ็บใจ“จิ่งเหยาอย่าเข้าใจพี่แบบนั้นสิ พี่อธิบายเรื่องทั้งหมดได้นะ”“พี่เสี่ยวอิงจะทิ้งพวกเราไปจริง ๆ หรือครับ”“เอ่อ..เรื่องนั้นพี่เองก็ยังไม่รู้เลยแต่ว่าสิ่งเดียวที่พี่ทำได้ตอนนี้คือทำให้น้องทั้งสองมีชีวิตที่ดีขึ้น จ้าวเหวินเราเข้าใจพี่ใช่มั้ยว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้และพี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่เข้ามาอยู่ในร่างของเสี่ยวอิงอย่างไร และพี่เองก็ไม่รู้ว่าเสี่ยวอิงจะกลับมามั้ยหากพี่ทำภารกิจสำเร็จ” น้ำเสียงของเสี่ยวอิงสั่นเครือเมื่อมองใบหน้าของจ้าวเหวินยามนี้ดวงตาของเด็กชายสั่นคลอนแดงก่ำ แต่ก็ยังแสดงความเข้มแข็งให้เสี่ยวอิงได้เห็น“ไม่ว่าพี่จะทำอย่างไรผมจะพยายามเข้าใจพี่ เพราะพี่ทำทุกอย่างเพื่อพวกผมนี่น่า”“พี่ไม่รู้หรอกนะอนาคตจะเป็นอย่างไรไม่แน่พี่อาจจะได้อยู่ที่นี่จนกว่าเราทั้งสองจะมีครอบครัวแยกบ้านออกไปอยู่ที่อื่น แต่ระหว่างที่พี่อยู่ที่นี่พี่จะทำเพื่อน้องสองคนสุดความสามารถที่จะทำให้ได้ เธอยังไม่ได้กินข้าวเช้ากินไก่กับขนมพวกนี้รอพี่ก่อนนะ พี่จะไปหาจิ่งเหยาเธอคงเสียใจที่จู่ ๆ พี่พูดเรื่องนี้ทำให้เธอใจหาย”“ได้ครับ” จ้าวเหวินพยักหน้าให้แก่เสี่ยวอิงตอนนี้เธอเดินขึ้นไปที่ห้องของจ
บทที่ 10 ปรับความเข้าใจบ้านตระกูลหวังหลังจากที่เสี่ยวอิงเดินลงมาไม่นานจิ่งเหยาได้เดินลงพร้อมใบหน้าที่รู้สึกผิดและเสียใจไม่“พี่ซิ่งผิงฉันขอโทษ ฉันเอาแต่ใจตัวเองคิดถึงแต่ตัวเองทั้ง ๆ ที่พี่เองก็คงลำบากไม่น้อย ที่ต้องจากบ้านจากครอบครัวมาแถมยังต้องมาเลี้ยงดูพวกเราอีก ฉันขอโทษที่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกพี่เลยว่าพี่ต้องพบเจออะไร” เสี่ยวอิงได้ยินเสียงของจิ่งเหยาเธอลุกขึ้นย่างเท้าเดินเข้าไปสวมกอดร่างเล็กแนบแน่นอย่างซึ้งใจ“โธ่ ๆ จิ่งเหยาในที่สุดเธอก็เข้าใจพี่แล้วใช่มั้ย พี่เองก็ขอโทษเธอเช่นเดียวกันที่ไม่ได้บอกความจริงตั้งแต่วันที่ฉันเข้ามาอยู่ในร่างพี่สาวของเธอ และลืมคิดว่าสิ่งไหนที่ฉันไม่สมควรบอกกับเธอไป”“ไม่เลยพี่ไม่ผิดอะไรเลย ยังไงพี่ก็เป็นพี่ของเราต่อจากนี้ไม่ว่าพี่เป็นใครแต่พี่จะเป็นพี่เสี่ยวอิงของเราอยู่ดี อึก อึก ฮื้อ ๆ” จิ่งเหยานั่งร้องไห้อยู่ในห้องเพียงลำพังได้ใช้ความคิดและคิดถึงหัวใจของซิ่งผิงที่ต้องมาอยู่ในร่างของพี่สาวของเธอ เธอเองคงตกใจไม่น้อย ที่จะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่ไม่เคยอยู่แถมยังมีสิ่งที่รับผิดชอบอีกมากมายเมื่อจิ่งเหยาคิดได้อย่างนั้นรู้สึกต่อซิ่งผิง ตัดสินใจมาขอโทษเ
บทที่ 11 เปรียบเทียบเธอมองผู้หญิงสองคนที่รีบเร่งเท้าเดินหนีพลางส่ายหน้าไปมาก่อนจะหันมามองเสี่ยวอิง เธอยิ้มตลกขบขันเมื่อเห็นทุกอย่างตรงหน้า“ป้าเสวียนหนี่ทำไมไปพูดแบบนั้นกันคะ อย่างนี้เมื่อไหร่ป้าเสวียนหนี่จะมีลูกสะใภ้มีหลานตัวเล็ก ๆ คอยวิ่งเล่นในบ้าน”“เฮ่อ..เรื่องลูกสะใภ้นะหากว่าเสวียนเฉินเอ่ยปากเมื่อไหร่ก็คงจะมีในวันนั้นเลยแต่ว่าเจ้าเสวียนเฉินนะสิไม่เห็นจนสนใจผู้หญิงคนไหนเลย คิดดูสิมีผู้หญิงมากมายเอาของกินมาฝากแทบจะทุกวัน แต่เขากลับไม่สนใจชาตินี้คงไม่มีวาสนาที่จะได้อุ้มหลานกับเขาหรอกนะ เป็นอย่างไรบ้างกิจการของเธอขายดีมั้ย? ”“ซาลาเปาขายได้เรื่อย ๆ ค่ะ คงเป็นเพราะเปิดร้านใหม่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก ป้าเสวียนหนี่มาแต่เช้าแบบนี้ยังไม่ได้กินข้าวใช่มั้ยคะ เข้ามานั่งด้านในก่อนสิวันนี้ฉันทำไก่อบไว้ตัวใหญ่พร้อมน้ำซุปกระดูกหมู ให้ฉันได้ตอบแทนป้าบ้างนะคะ”“ไม่เห็นจะต้องทำขนาดนั้นเลย แต่เอาเถอะถือว่าไม่เป็นการเสียน้ำใจฉันจะกินข้าวเช้ากับเธอก็แล้วกัน” เสวียนหนี่รีบเดินเข้ามาในบ้านของเสี่ยวอิงเธอยิ้มกริ่มวางมือจากซาลาเปาเดินเข้าไปในครัวปากก็เอ่ยบอกให้น้องดูหน้าร้านเผื่อมีลูกค้ามาซื้อ“
บทที่ 12 ทุกนาทีมีค่าฝั่งด้านเสี่ยงอิงนี่เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เธอทะลุมิติมาอยู่ที่นี่เธอเริ่มใช้ชีวิตคุ้นชินกับยุคนี้และมีควสามสุขในทุกวันไม่สว่าจะเป้นร้านซาลาเปาที่ขายดีและเป็นที่รู้จักมากมาย เพราะมีเสวียนเฉินคอยช่วยเหลือแนะนำให้ผู้คนมาช่วยอุดหนุนและซาลาเปาของเสี่ยวอิงมีรสชาติที่อร่อย ทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาซื้ออีกบ่อย ๆ ตอนนี้ที่ร้านของเธอเริ่มมีซาลาเปาหลากหลายรสชาติและมีหน้าตาที่น่ารักไม่ว่าจะเป็นใบหน้าของสัตว์น่ารักๆ อีกทั้งยังมีไส้เพิ่มมากมาย อย่างเช่นไส้หมูสับ ไส้หมูแดง พายไก่ ผักรวม เห็ดหอม เผือก ครีม งาดำ มันม่วงแปะก๋วย ทำให้ลูกค้าติดใจและไม่รู้จักเบื่อเพราะมีหลายอย่างให้กินไม่ซ้ำและตอนนี้เธอคิดว่าจะนำขนมจีบและติ่มซำมาขายเพิ่มอีกด้วย ส่วนน้อง ๆ ของเธอตอนนี้ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนใกล้ ๆ อำเภอที่เสวียนเฉินช่วยหาให้อีกที ชีวิตของเธอตอนนี้เริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ และมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งแม้ไม่มากนักแต่เธอก็เริ่มขยับขยายจากที่ไม่มีเงินสักหยวนเลย“พี่เสี่ยวอิงคิดอะไรอยู่หรือคะ” จิ่งเหยาเห็นพี่สาวมานั่งจ้องมองท้องฟ้าทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เธอควรจะเข้าไปอาบน้ำนอนพัก“พี่กำลังคิดหาทางหาเงิน
บทที่ 13 ฉันรอได้“ทำไมถึงเงียบไปล่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า” เหมือนว่าเขาจะเห็นใบหน้าของเธอที่แดงระเรื่อนึกอยากจะกลั่นแกล้งขยับหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม เสี่ยวอิงหันขวับกลับมาทำให้ริมฝีปากของเธอสัมผัสที่ใบหน้าของเขา เสมือนว่าเธอจูบแก้มของเขาอย่างไรอย่างนั้น“เอ่อ..อ๊าย! นี่นายใกล้เกินไปแล้วนะ เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นฉันไม่รู้ว่านายเข้ามาใกล้ขนาดนี้” เสี่ยวอิงเขินจนหน้าแดงรีบร้อนตอบเขากลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอตั้งใจจะจุ๊บที่แก้มของเขา“ฮึ ฮึ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยอีกอย่างฉันไม่ถือตัวด้วย ไม่ว่าเธออยากจูบที่ตรงนี้ ตรงนี้หรือตรงนี้ ไม่ว่าส่วนไหนในร่างกายฉันยอมให้เธอเสมอและยินดีไม่ว่าเธอจะสัมผัสมันเมื่อไหร่” เสวียนเฉินชี้ไปที่หน้าผาก ต่ำลงมาที่แก้มก่อนจะแตะลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างยั่วยวนเสี่ยวอิงจน เธอรีบผลักเขาให้ออกห่างจากตัวเอง“บ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือว่าช่วงนี้อากาศร้อนกันนะนายอำเภอถึงเปลี่ยนไป ใครเขาอยากจะสัมผัสกัน คนอะไรขี้อ่อยชะมัด ไม่ว่าจะทำยังไงฉันก็ไม่หวั่นไหวหรอกนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเจ็บปวดจากความรักมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเลี้ยงดูน้อง
บทที่ 21 ฉันมีค่ามากกว่าสร้อยราคาถูก ๆ นั่น2 วันต่อมาหลังจากที่เหมยหลับมาจากบ้านเสี่ยวอิงเธอได้มาเล่าให้แม่และพี่ชายของเธอฟังว่าเธอต้องถูกเสี่ยวอิงปฏิบัติอย่างไรบ้าง หยางเจี้ยนจึงไม่ไปหาเสี่ยวอิงอีกเพื่อให้เธอสงบสติอารมณ์หากไปหาเธอทุกวันหลังจากที่เธอขับไล่ทุกคนเธอคงได้แจ้งตำรวจว่าเขาไประรานแน่ ๆ เขาเริ่มคิดวางแผนเข้าหาเธอใหม่ คิดถึงเรื่องเก่า ๆ มีอะไรบ้างที่เธอต้องการและเขาไม่เคยทำให้เธอเลย“หยางเจี้ยนวันนี้แม่กับน้องจะออกไปงานเทศกาล วันนี้หยุดงานใช่มั้ยจะไปด้วยกันหรือเปล่า มีมี่เธอล่ะอยากไปเที่ยวไปไหว้พระมั้ย”“อื้ม ..ฉันเอาแต่ทำงานออกไปเที่ยวเล่นบ้างก็ดีค่ะ พี่หยางเจี้ยนฉันจะไปไหว้ขอพรให้เรามีลูกกันเร็ว ๆ นะคะช่วงนี้ฉันเห็นพี่บ่นเหนื่อยก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านนะ” มีมี่ลุกขึ้นเดินตามหลังเหม่ยฉีกับเหมยหลงออกไปตอนนั้นเองหยางเจี้ยนก็คิดอะไรดี ๆ ออก ปีที่แล้วงานเทศกาลเขาพาเสี่ยวอิงออกไปเดินเล่นงานเทศกาล สายตาเธอจ้องมองไปยังสร้อยข้อมือน่ารักอันหนึ่งเหมือนอยากได้มาครอบครองแต่เมื่อเขาถามเธอกลับบอกว่าเธอเพียงแค่มองเท่านั้น“ฉันคิดออกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฉันนี่ฉลาดสุด ๆ เมื่อครู่นี้ไม่เห็นมีมี่สวมสร้อย
บทที่ 20 ฉันไม่มีสิทธิ์เหมยหลงตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าจะได้ใกล้ชิดกับนายอำเภอแบบนี้ เขาค่อย ๆ ประคองเธอมานั่งที่เก้าอี้หน้าร้านมองที่ขาของเธอก็ดูเหมือนไม่มีอะไรหรือรอยแดงแม้แต่น้อย เขาเงยหน้ามองเธอเห็นสายตาของเหมยหลงจับจ้องเขาอยู่ทำให้เขารู้ว่านี่น่าจะเป็นการเสแสร้งที่เธออยากใกล้ชิดเขาเท่านั้น เขาจึงลุกขึ้นและบอกให้เธอนั่งรออยู่ที่นี่“นั่งรออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ ผมจะไปตามคุณแม่มาดูอาการให้ คุณแม่นะเป็นหมอจับเส้นแค่เส้นพลิกนิดหน่อยก็สามารถหายได้เป็นปกติเลย” พูดจบเสวียนเฉินได้เดินไปที่บ้านทันที เหมยหลงเคลิบเคลิ้มเขินอายไม่ทันได้ตอบอะไรเขาสักอย่างเธอคิดว่ายังไงเขาต้องกลับมาแน่ ๆ“คนอะไรทั้งหล่อทั้งดูดีแถมยังใจดีอีกด้วย เมื่อกี้ฉันน่าจะกอดเขาแน่น ๆ ฮิ ฮิ แต่เอาเถอะยังมีเวลาอีกนานหญิงชายใกล้ชิดยังไงเขาต้องมีใจให้ฉันแน่ ๆ ฉันทั้งสาวทั้งสวยกว่าเสี่ยวอิงเป็นไหน ๆ คุณหญิงภรรยานายอำเภออยู่ตรงหน้าแล้ว” เหมยหลงวาดฝันอยูพักหนึ่งเธอเห็นหญิงชราเดินออกมาพร้อมกล่องยาแต่ไม่เห็นเสวียนเฉินตามออกมารอยยิ้มได้หุบลงทันที“นี่หล่อนลูกชายของฉันบอกว่าหล่อนข้อเท้าพลิกหรือ? ไหนขอดูหน่อย วุ่นวายจริง ๆ นี่มันใช่เวลาที
บทที่ 19 สืบหาความจริงร้านเถ้าแก่ซ่ง“วันนี้เป็นวันที่ดีแก่ร้านค้าของฉันมากสินะที่ท่านนายอำเภอมาเยือนถึงที่ เชิญเข้ามาด้านในนั่งดื่มน้ำเย็น ๆ ก่อนสิ” เถ้าแก่ซ่งรีบออกมาต้อนรับเสวียนเฉินทันทีที่ลูกน้องไปแจ้งเขาว่านายอำเภอมาที่นี่“ขอบคุณเถ้าแก่ที่ต้อนรับฉันเป็นอย่างดี วันนี้ฉันไม่ได้มาด้วยเรื่องราชการหรืออะไรหรอก แต่มาด้วยเรื่องส่วนตัวมีเรื่องต้องให้เถ้าแก่ช่วยเล็กน้อยนะครับ”“แหมๆ อย่าพูดอะไรแบบนั้นเลยครับผมนะเหรอจะไปช่วยอะไรนายอำเภอได้เข้ามาด้านในแล้วค่อยคุยกันดีกว่าครับ ” เถ้าแก่ซ่งเชิญชวนเสวียนเฉินกับตู่หวางเข้าไปห้องโถงรับแขกเพราะตอนนี้พวกเขาพากันยืนอยู่หน้าร้านขายของ เสวียนเฉินจึงเดินตามเขาเข้าไปด้านใน“เรื่องอะไรที่นายอำเภออยากให้ฉันช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ? แต่ดูแล้วคงไม่ใช่เรื่องเงินหรอกใช่มั้ย’ ’“ไม่ใช่เรื่องเงินหรอกแต่เป็นเรื่องคน เถ้าแก่ฉันรู้มาว่าโจวเหม่ยฉีเป็นลูกหนี้ของคุณใช่มั้ย? ”“นายอำเภอถามถึงเธอทำไมกัน หรือว่าเธอไปยืมเงินท่านเช่นเดียวกัน”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พอดีคนที่ฉันรู้จักเป็นลูกสะใภ้เก่าของโจวเหม่ยฉี ฉันอยากรู้ว่าใครกันที่มายืมเงินและเป็นหนี้ตัวจริงต่างหากไม่ก
บทที่ 18 เสี่ยวอิงต้องเป็นของฉัน“เฮ้อ! ในที่สุดก็ยอมไปเสียที” เสี่ยวอิงมองแผ่นหลังของหยางเจี้ยนพลางถอนหายใจจนลืมไปว่าตอนนี้มือของเธออีกข้างกำลังถูกชายร่างใหญ่จับเอาไว้แน่น เด็ก ๆ พากันจ้องมองและแอบยิ้มเล็กยิ้มน้อย“เห็นมั้ยฉันบอกแล้ว ยังไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำสามีเก่าของเธอก็มาหาถึงที่ จะให้ฉันทำยังไงกับเธอดีหรือจะข่มขืนและให้คุณแม่มาสู่ขอเลยนะจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนี้” เขาขยับตัวมาพูดใกล้ ๆ หูของเสี่ยวอิงเพื่อไม่ให้น้อง ๆ ได้ยิน แต่เมื่อเสี่ยวอิงได้ยินใบหน้าของเธอแดงซ่าน ร้อนวูบวาบและรู้สึกตัวว่าตอนนี้มือของเธอข้างไม่ถือมีดถูกเขาจับอยู่“ตาบ้าพูดอะไรไม่รู้ ปล่อยมือฉันได้แล้วหยางเจี้ยนเดินไปตั้งไกลแล้ว อีกอย่างพูดอะไรระวังคำพูดด้วยสิ”“ฮึ! ก็ฉันเป็นห่วงนี่น่า จิ่งเหยา จ้าวเหวินวันนี้เตรียมตัวเสร็จแล้วใช่มั้ย ช่วยไปตามป้าเสวียนหนี่มาอยู่เป็นเพื่อนพี่เสี่ยวอิงให้ที พี่ไม่วางใจกลัวชายคนนั้นจะกลับมาอีก”“ไม่ต้องหรอกฉันไม่อยากรบกวนเวลาของป้าเสวียนหนี่ นายเองก็รีบพาน้อง ๆ ไปเรียนเถอะนี่ก็สายแล้ว ส่วนเรื่องสามีเก่าหากเขากลับมาฉันจะจัดการเองเมื่อครู่ก็เห็นแล้วใช่มั้ยว่าฉันนะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล
บทที่ 17 กลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะรุ่งเช้าวันต่อมาหยางเจี้ยนตื่นแต่เช้าตรู่แต่งตัวไปเกี่ยวข้าวแต่ที่จริงเขาสวมใส่เสื้อผ้าไปแบบนั้นและเตรียมชุดไปเปลี่ยนเพื่อไปหาเสี่ยวอิงโดยที่ไม่ให้มีมี่รู้ มีมี่เองก็เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างที่เธอบอกเหมือนกัน เธอลุกขึ้นมาทำกับข้าวแต่เช้าและส่งมอบห่อข้าวให้หยางเจี้ยนไปทำงาน“พี่ไปก่อนนะ มีมี่ของพี่เปลี่ยนไปแบบนี้ก็ดีเหมือนกันพี่จะได้สบายใจและมีแรงทำงานหาเงินเข้าบ้าน ”“ฉันเองน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้วเหมือนกัน อย่าหักโหมมากนะคะ หากแดดร้อนก็เข้าร่มพักผ่อนแดดอ่อนค่อยออกทำไปใหม่ วันนี้ฉันจะทำต้มซุปไว้รอ” มีมี่จูบที่แก้มของหยางเจี้ยนก่อนจะโบกมือให้เขาออกไปทำงาน“ว๊าว นี่มันเรื่องอะไรกัน มีมี่เธอไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” เหมยหลงเดินลงมาจากด้านบนเห็นเพื่อนสาวเปลี่ยนไปอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทัก“ฉันสบายดีและต่อจากนี้งานบ้านฉันจะทำช่วยแม่สามีเอง แต่ว่าเสื้อผ้าของเธอ เธอใส่เองต้องซักเองนะฉันไม่รับทำ” มีมี่พูดจบก็เดินเข้าบ้าน“ทำเป็นหยิ่งผยองไปเถอะเพราะอีกไม่นาน เมื่อไหร่ที่พี่หยางเจี้ยนทำให้พี่เสี่ยวอิงใจอ่อนและกลับมารักกันเหมือนเดิม ต่อจากนี้ฉันจะได้สุขสบายและจะเป็นคน
บทที่ 16 ฉันจะไปหาเสี่ยวอิงเสี่ยวอิงเดินตามหลังเขามาติด ๆ ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจะหยุดกระทันหันทำให้หัวของเธอชนเข้ากับแผ่นหลังของเขาอย่างจังแทบถลาล้ม โชคดีที่เสวียนเฉินหันกลับมารับเอาไว้ได้ทันพอดี“เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”“ถ้านายไม่หันกลับมาช่วยไม่ทันคงล้มไปแล้ว คิดอะไรอยู่ถึงได้หยุดเดินกระทันหันแบบนั้นกัน”“เรื่องที่ฉันพูดเมื่อครู่ ฉันพูดจริงนะแค่อยากให้เธอเก็บเอาไปคิด” เสี่ยวอิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งพลางนึกคิดคำพูดของเขา แม้มันจะดีต่อตัวเธอแต่ทว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะทำกันง่าย ๆ สักหน่อย แต่ก็ไม่อยากทำร้ายน้ำใจของเสวียนเฉินเพราะดูเหมือนว่าเขานั้นจริงใจต่อเสี่ยวอิงจริง ๆ“เรื่องนั้นฉันจะคิดอีกที ตอนนี้ปล่อยฉันได้แล้วฉันไม่ล้มสักหน่อยอีกอย่างตอนนี้ถึงหน้าบ้านแล้วนายกลับไปเถอะ”“แล้วเรื่องคนตระกูลโจวเธอจะไม่ทำอะไรเลยหรือไง จะปล่อยให้คนพวกนั้นทำเธอฝ่ายเดียวได้ยังไงกัน”“เรื่องนั้นฉันคิดเอาไว้บ้างแต่ก็คิดว่าทำร้ายกันไปทำร้ายกันมามันไม่จบสิ้นนะสิ หากว่าทางนั้นไม่มายุ่งกับฉันอีกฉันก็จะปล่อยผ่านแต่ถ้าฝ่ายนั้นมาวุ่นวายฉันเองจะคิดอีกทีว่าจะทำยังไงกับครอบครัวที่เลวทรามแบบนั้น”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพ
บทที่ 15 เสนอตัวเสี่ยวอิงจ้องมองแผ่นหลังอันกว้างของเสวียนเฉินซาบซึ้งน้ำใจที่เขาปกป้องเธอจากแม่สามีเก่าไม่กลัวว่าตัวเองจะถูกกล่าวหายังไง ใจของเธอสั่นไหวมากกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของเหม่ยฉีเดินออกไปไกลเธอได้พูดขอบคุณเขาทันที“ขอบคุณนะที่ช่วยฉันเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่จบแค่ตรงนี้ฉันอาจจะลงไม้ลงมือจัดการแม่สามีเก่าจนเจ็บกันไปข้างหนึ่งเลย” เขาหันกลับมาพลางถอนหายใจ“เฮ้อ! อย่าบอกนะว่าเมื่อก่อนเธอยอมให้คนพวกนั้นโขกสับใช้งานเยี่ยงทาสมาโดยตลอด ทำไมไม่รักตัวเองบ้างหรือคิดว่าไม่มีคนรักเธอเท่าคนตระกูลนั้นหรือไง ต่อไปนี้หากผู้หญิงคนนั้นหรือว่าจะเป็นใครก็ตามในตระกูลโจวรีบบอกฉันทันทีฉันจะปกป้องเธอเอง”“เกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่แม่ได้ยินเสียงดังโวยวาย” ป้าเสวียนหนี่เดินมาจากบ้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายคิดว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นรีบคว้าหาท่อนไม้วิ่งมาหาเสี่ยวอิงด้วยความเป็นห่วงแต่เมื่อมาเห็นกลับมีแต่ลูกชายของเธอที่ยืนจ้องมองใบหน้าของเสี่ยวอิงด้วยความเป็นห่วงเช่นเดียวกัน“เมื่อครู่คนตระกูลโจวมาหาเรื่องเสี่ยวอิงครับ ผมคิดว่าคนพวกนั้นต้องกลับมาอีกแน่ ๆ ในช่วงที่ผมไปทำงานรบกวนคุณแม่ช่วยมาเป็นหูเป็นต
บทที่ 14 รู้ที่อยู่เสี่ยวอิงเมื่อจ่ายเงินเถ้าแก่ซงเสร็จแล้วเหม่ยถีเลือกที่จะเดินเล่นก่อนที่จะเข้าบ้านเพราะตอนนี้เธอไม่อยากอยู่บ้านเลยด้วยซ้ำ เข้าบ้านเมื่อไหร่ได้ยินแต่คำพูดเสียดสีด่าทอกันของหยางเจี้ยนกับมีมี่ ช่วงนี้หยางเจี้ยนเปลี่ยนไปราวกับคนละคนดื่มเหล้าทุกเย็น แล้วก็ชวนคนอื่นทะเลาะจนกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ‘ทำไมชีวิตของฉันถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้นะ จะต้องทำยังไงถึงหาเงินได้มากกว่าเดิมคงต้องไปหาผักมาขายเหมือนเสี่ยวอิงสักหน่อยแล้ว ว่าแต่ตอนนี้เธอไปอยู่ที่ไหนกันนะถ้าเธอยังอยู่ครอบครัวของฉันคงไม่เดือดร้อนขนาดนี้ เฮ้อ ’ เหม่ยฉีเงยหน้ามองท้องฟ้าเห็นดวงตะวันยังอยู่สูง เธอทำอย่างที่พูดรีบไปหาผักตามสวนตามป่าเพื่อมาขายในตลาดในใจเอาแต่คิดถึงเสี่ยวอิงตลอดเวลาจนกระทั่งเธอได้ผักมาจำนวนหนึ่งรีบเอามาขายก่อนที่ตลาดจะปิด และเธอก็ได้เงินมาแม้เล็กน้อยแต่ตอนนี้เธอต้องทำทุกอย่างที่ได้เงิน ครานั้นเธอกำลังจะกลับบ้านหันไปเจอเด็กหน้าตาคุ้นเคยเสียงหัวเราะคิกคักที่ผ่านต่อหน้าไปเมื่อครู่ เธอจำได้ทันทีว่านั่นคือน้องของเสี่ยวอิง แต่ทว่าที่น่าแปลกใจคือเด็กทั้งสองสวมใส่ชุดนักเรียนอีกด้วย“นั่นมันจิ่งเหยากับจ้าวเหวิน
บทที่ 13 ฉันรอได้“ทำไมถึงเงียบไปล่ะ ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า” เหมือนว่าเขาจะเห็นใบหน้าของเธอที่แดงระเรื่อนึกอยากจะกลั่นแกล้งขยับหน้าเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม เสี่ยวอิงหันขวับกลับมาทำให้ริมฝีปากของเธอสัมผัสที่ใบหน้าของเขา เสมือนว่าเธอจูบแก้มของเขาอย่างไรอย่างนั้น“เอ่อ..อ๊าย! นี่นายใกล้เกินไปแล้วนะ เมื่อครู่ไม่ใช่ว่าฉันอยากจะให้มันเป็นแบบนั้นฉันไม่รู้ว่านายเข้ามาใกล้ขนาดนี้” เสี่ยวอิงเขินจนหน้าแดงรีบร้อนตอบเขากลัวว่าเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอตั้งใจจะจุ๊บที่แก้มของเขา“ฮึ ฮึ ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยอีกอย่างฉันไม่ถือตัวด้วย ไม่ว่าเธออยากจูบที่ตรงนี้ ตรงนี้หรือตรงนี้ ไม่ว่าส่วนไหนในร่างกายฉันยอมให้เธอเสมอและยินดีไม่ว่าเธอจะสัมผัสมันเมื่อไหร่” เสวียนเฉินชี้ไปที่หน้าผาก ต่ำลงมาที่แก้มก่อนจะแตะลงที่ริมฝีปากของเขาอย่างยั่วยวนเสี่ยวอิงจน เธอรีบผลักเขาให้ออกห่างจากตัวเอง“บ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือว่าช่วงนี้อากาศร้อนกันนะนายอำเภอถึงเปลี่ยนไป ใครเขาอยากจะสัมผัสกัน คนอะไรขี้อ่อยชะมัด ไม่ว่าจะทำยังไงฉันก็ไม่หวั่นไหวหรอกนะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเจ็บปวดจากความรักมามากพอแล้ว ต่อจากนี้ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อเลี้ยงดูน้อง