Share

บทที่2 เตรียมตัว

last update Last Updated: 2025-02-14 02:43:55

เครื่องใช้ไฟฟ้า

(electrical appliance)

โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นโซนที่มีลูกค้ามาซื้อประจำในห้างนี้ และเหอเสี่ยวหงก็เลือกที่จะไปเป็นที่แรก เพราะเธอตั้งใจจะมาหาซื้อกระติกน้ำร้อน

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบคุณผู้หญิงกำลังมองหาเครื่องใช้อะไรคะ ดิฉันสามารถแนะนำให้ได้”

พนักงานที่ดูแลโซนเครื่องใช้ไฟฟ้ารีบเดินเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นเหอเสี่ยวหงเดินเข้าโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกับผู้ติดตาม

เหอเสี่ยวหงไม่ได้ตอบพนักงานที่ถาม แต่เธอมองหากระติกน้ำร้อนที่ตั้งใจจะมาซื้อ พอเห็นก็รีบเดินไปดูทันที

“อุ๊ย! คุณผู้หญิงตาถึงจริง ๆ ค่ะ! นี่คือกระติกน้ำร้อนรุ่นลิมิเต็ดที่เลียนแบบยุคสมัยก่อน และเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตมาจำนวนจำกัดไม่สามารถผลิตเพิ่มได้แล้ว ราคาจะอยู่ที่ 1,239 หยวนค่ะ” 

หากซื้อกระติกน้ำร้อนรุ่นธรรมดา ราคาจะไม่ถึงหนึ่งพันหยวน แต่เนื่องจากทางโรงงานผลิตเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล จึงผลิตขึ้นมาเพียง 1,000 ใบ พร้อมกับส่งตรงให้แค่ห้างในเครือของที่นี่

“หากคุณผู้หญิงมีบัตรสมาชิกของห้าง สามารถใช้แลกแก้วเก็บอุณหภูมิต่อการซื้อกระติกน้ำร้อนหนึ่งใบต่อหนึ่งใบ แต่ถ้าไม่มีบัตรสมาชิก ดิฉันสามารถพาไปสมัครได้ค่ะ” พนักงานสาวแนะนำลูกค้า

เหอเสี่ยวหงพยักหน้า “เอาทั้ง 10 ใบเลย” ว่าแล้วก็เดินไปยังโซนอื่น ปล่อยให้ลุงฟ่านเป็นคนจัดการ

ต่างจากพนักงานสาวที่นิ่งอึ้งไปแล้ว เนื่องจากการขายของแต่ละอย่างนั้น พนักงานคนไหนที่ขายได้ก็จะได้ห้าเปอร์เซ็นต์ของราคาขาย ยิ่งขายได้เยอะพนักงานก็จะได้เยอะตาม

โซนเสื้อผ้า

   (clothes)

“ยัยหงเอาผ้าด้วยไหม”

หยาดฟ้ารีบเดินเข้าไปในโซนเสื้อผ้า ที่มีม้วนผ้ารวมอยู่ด้วย

“แกดูสิ เนื้อผ้าแบบนี้ถ้าตัดออกมาแล้วคงจะใส่สบายมาก” หยาดฟ้ารีบหยิบม้วนผ้าตัวอย่างขึ้นมาให้เพื่อนสนิทดู

นอกจากจะบอกให้เหอเสี่ยวหงดู หยาดฟ้าก็เดินเลือกผ้ามาหลายร้อยม้วน รถเข็นที่เอามาห้าคันถึงกลับเต็ม ไม่ว่าจะเป็นม้วนผ้าสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีชมพูพีท สีฟ้า สีส้ม สีม่วงอ่อน สีน้ำเงิน สีเทา สีขาวและสีดำ

ช่วงนี้ทางห้างมีโปรซื้อม้วนผ้าหนึ่งม้วนจะแถมด้ายที่สีเดียวกับผ้าให้อีกหนึ่ง ซึ่งเหอเสี่ยวหงยังขอซื้อมาเพิ่มอีกหนึ่งร้อยเพราะเธอคิดว่ามันจะไม่พอ และได้ซื้อไหมพรมมาด้วย

“มีขนมแนะนำไหม แบบเอาไว้กินตอนว่างงี้” เหอเสี่ยวหงถาม

หยาดฟ้าหันมามอง “มี แต่มันน่าจะอยู่อีกโซน” พอเห็นเหอเสี่ยวหงพยักหน้า หยาดฟ้าก็รีบลากเธอไปยังโซนขนม

โซนขนม

    (candy)

“ฉันเห็นว่าดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ขนมแบรนด์นี้เยอะมาก เห็นว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบกินขนมแต่รักสุขภาพ” หยาดฟ้าหยิบคุกกี้แบรนด์ดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขึ้นมาให้ดู

“มีรสวานิลลา นม แล้วก็ช็อกโกแลต เอาทั้ง 3 รสก็ได้” เหอเสี่ยวหงบอก

หยาดฟ้าพยักหน้าแล้วหยิบกล่องคุกกี้ลงรถเข็น รสชาติละ 20 กล่อง ซึ่งมันเป็นกล่องใหญ่ที่สามารถกินได้หลายคน

“บราวนี่กรอบอันนี้ก็อร่อยนะ มีทั้งชาเขียว ชาเย็น แล้วก็ช็อกโกแลต เป็นแบรนด์เดียวกันกับคุกกี้เลย” หยาดฟ้าแนะนำ

“ทำไมแกรู้จัก” เหอเสี่ยวหงสงสัยจริง ๆ เพราะหยาดฟ้าก็ตัวติดกับเธอแทบจะตลอดเวลา เอาเวลาไหนไปหาขนมแบรนด์ไหนอร่อย ใครเป็นพรีเซ็นเตอร์

หยาดฟ้าหัวเราะ “นี่ใคร หยาดฟ้าเชียวนะ ทางแบรนด์เขาเก่งการตลาดมากดึงดารา ไอดอลดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โฆษณา” และเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกการตลาดครอบงำ 

“แกก็จริง ๆ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า

จากนั้นทั้งสองก็เดินเลือกซื้อของอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตชิบ นมผง นมอัลมอนด์ นมอัดเม็ด และผงเวย์โปรตีน ก่อนจะพากันไปจ่ายเงิน

หยาดฟ้าขึ้นนั่งบนรถฝั่งคนขับเอ่ยถามเหอเสี่ยวหงที่นั่งข้างคนขับข้าง ๆ กัน “ไปร้านเครี่ป๊อปกันไหมยัยหง”

เหอเสี่ยวหงยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบนนาฬิาแล้วตอบ “ร้านเครี่ป๊อปไม่ปิดแล้วเหรอ”

เครี่ป๊อปเป็นร้านค้าขายส่ง – ขายปลีก ไม่ว่าเป็นธัญพืช ข้าวสาร แป้ง พวกของทำเบเกอรี่ พวกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เตาอบ ผักสดหรืออาหารสด ที่ร้านเครี่ป๊อปก็มี

“เนี่ยอีกครึ่งชั่งโมงก็ปิด เราไปถึงก็มีเวลาประมาณ 20 นาที ลูกค้าคนอื่นก็น่าจะกลับหมดแล้ว แกก็มีรายการของอยู่ไม่ใช่เหรอ เอาให้เขาจัดให้ก็ได้นี่ ไม่งั้นก็ให้เขาเอาไปส่งที่บ้านก็ได้” ถึงปากจะบอกแต่หยาดฟ้าก็ขับรถตรงไปที่ร้านแล้ว

เหอเสี่ยวหงทำได้เพียงส่ายหน้า เพราะต่อให้ปฏิเสธหยาดฟ้าก็พาเธอไปอยู่ดี

เครี่ป๊อป

ป้ายชื่อหน้าร้านเด่นหลาตั้งแต่ที่รถของหยาดฟ้ากับเธอยังไม่เข้าใกล้ร้านเลย ยิ่งพอจอดรถแล้วป้ายมันก็ใหญ่มาก

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะคุณเหอ สวัสดีค่ะคุณหยาด ไม่ได้เจอกันนานสวยขึ้นรึเปล่าคะ”

“สวัสดีค่ะผู้จัดการจิง เราเพิ่งเจอกันไม่ยังถึงสัปดาห์เลยค่ะ” หยาดฟ้าหัวเราะ

“แหม่ ผู้จัดการจิงคะ มาคุณหงคุณเหออะไรกันคะ เราคนกันเองทั้งนั้น เรียกเสี่ยวหงก็ได้ค่ะ” เหอเสี่ยวหงยิ้ม

เสวี่ยจิงเป็นผู้จัดการร้านเครี่ป๊อปที่เหอเสี่ยวหงกับหยาดฟ้ามาซื้อของทีไร ผู้จัดการจิงก็จะเป็นคนมาจัดการให้ เพราะเหอเสี่ยวหงจะซื้อของครั้งละมาก เรียกได้ว่าเธอเป็นลูกค้าคนสำคัญของร้านเลยก็ว่าได้

“คุณเหอต้องการซื้ออะไรคะ แต่ถ้าจำไม่ผิดเพิ่งจะซื้อกันไปไม่ใช่เหรอคะ” เสวี่ยจิงถาม เพราะปกติไม่เหอเสี่ยวหงก็หยาดฟ้าที่จะมาซื้อของทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน

“นี่เป็นรายการสินค้าที่ฉันต้องการค่ะ ถ้าเป็นไปได้พวกข้าวสารหรือธัญพืชฉันขอแยกเป็นถุงละ 1 ชั่งนะคะ” เหอเสี่ยวหงยื่นรายการของให้กับผู้จัดการจิง

“โอ้! เยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ น่าจะใช้เวลานานเลยค่ะ เพราะพนักงานบางคนพักกันแล้ว” เสวี่ยจิงบอกลูกค้า

“ไม่มีปัญหาค่ะ เอาใส่รถด้านนอกได้เลย”

“ดิฉันขออนุญาตทบทวนรายการที่สั่งนะคะ มีข้าวสาลี ข้าวฟ่าง 300 ชั่ง ข้าวโพดดิบ 100 ชั่ง แป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า แป้งมันเทศ แป้งข้าวโพด แป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้ก 50 ชั่ง น้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลกรวด เกลือ อย่างละ 50 ถุง เนยจืด เนยเค็ม 20 กระปุก ตระกูลถั่วชนิดละ 30 ชั่ง ไข่ไก่ ไข่เป็ดอย่างละ 100 แผง ฟองเต้าหู้ สาหร่าย เห็ดหูหนู เก๋ากี้ พุทราแห้ง 50 ชั่ง พูดถูกไหมคะ? อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยค่ะหรือถ้าอยากเดินดูก็สามารถเดินได้เลยค่ะ ดิฉันเพิ่มเวลาปิดร้านให้” เสวี่ยจิงยิ้ม

ในเมื่อลูกค้ารายใหญ่ของร้านมาหาถึงที่ มีเหตุผลอะไรที่ต้องไล่ลูกค้าด้วย อีกทั้งต่อให้ร้านปิดช้าพนักงานทุกคนก็ได้เงินเพิ่มอีกด้วย

รถเข็นจำนวนสี่คันถูกเข็นตามหลังเหอเสี่ยวหงที่เดินเลือกซื้อของ และโซนแรกที่เธอได้เดินไปคือโซนเครื่องปรุงเพราะยังไม่ได้เขียนลงในรายการ

“เอารสดี ผงชูรส ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำปลา น้ำมัน กะทิ แป้งทอดกรอบ แล้วก็เอาซอสอะไรก็ได้ผสมกัน”

เหอเสี่ยวหงหันไปสั่งลุงฟ่านกับคนงานในสวน ที่ตามมาช่วยให้หยิบใส่รถเข็นแต่เธอก็ช่วยด้วย เครื่องปรุงพวกนี้เป็นของนำเข้าจากประเทศไทยที่เธอชอบมาก

“ได้ครับคุณเหอ”

ครืน ครืน

“ยัยหงคุณนายเหอโทรมาอีกแล้ว”

หยาดฟ้าเรียกเหอเสี่ยวหงที่ช่วยคนงานหยิบของใส่รถเข็น และที่ต้องติดต่อผ่านหยาดฟ้าก็เพราะถูกเหอเสี่ยวหงบล็อกช่องทางการติดต่อ

“เฮ้อ” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจ

ที่เธอไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัวของเธอในชาตินี้ก็เพราะเธอรู้ว่าตัวเองต้องกลับไปในที่ที่จากมา อีกอย่างถ้าเธอให้ความช่วยเหลือตลอดทุกคนก็จะเคยตัว

“แล้วจะรับสายไหม” หยาดฟ้ามองบน เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพ่อแม่ของเพื่อนสนิทเธอถึงเป็นแบบนี้ 

“รับก็ได้” เหอเสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์จากหยาดฟ้ามาแนบหู

ถึงเธอจะไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัว แต่ทุกเดือนเหอเสี่ยวหงก็จะกินข้าวด้วยเดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ช่วงนี้มันใกล้หมดเวลาจึงยุ่งมาก ก็เลยไม่ได้ไปหา

“คุณแม่มีอะไรคะ”

(แกอยู่ไหน!) เสียงตะคอกผ่านโทรศัพท์ทำให้เหอเสี่ยวหงต้องยกโทรศัพท์ออกจากหู

“หนูมาซื้อของกับหยาดฟ้าแล้วก็คนงานในสวนค่ะ”

(อะไร? แกลืมนัดของฉันไปแล้วหรือยังไง)

“แม่คะ หนูไม่ว่างเลยค่ะช่วงนี้ หนูก็บอกแม่ไปแล้ว”

(แต่ฉันเป็นแม่แกนะ!)

เหอเสี่ยวหงเงียบก่อนจะกดตัดสายเพราะไม่ต้องการจะทะเลาะ พอดีกับหยิบของใส่รถเข็นครบจึงส่งโทรศัพท์คืนหยาดฟ้า

“ตามหงมาทางนี้ค่ะลุงฟ่าน”

“เอาปลากระป๋อง ทูน่า กระเทียมดอง มาม่าแล้วก็โจ๊กค่ะ”

“แกรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ฉันจะไปหาเดินดูของสักหน่อย” หยาดฟ้าไม่รอให้เหอเสี่ยวหงตอบก็รีบเข็นรถเข็นที่ว่างไปทันที

“อ้าว” เหอเสี่ยวหงยืนงง

“คุณเหอครับ ลุงจะเอาของไปไว้ที่จ่ายเงินนะครับ จะไปเอารถเข็นคันใหม่มาด้วย” ลุงฟ่านรีบสะกิดบอก

“ได้ค่ะ หงจะเดินดูรอบ ๆ นี้”

“โอเคครับ ไป ๆ เอาของไปจ่ายเงิน” ลุงฟ่านหันไปบอกลูกน้องที่ตามมา

เหอเสี่ยวหงมองลุงฟ่านกับลูกน้องที่ตามมาช่วยกันเข็นรถเข็นไปจนสุดสายตา “เฮ้อ เมื่อไหร่จะได้กลับไปกันนะ” เมื่ออยู่คนเดียวเหอเสี่ยวหงก็น้ำตาไหล

จากลูกจากสามีมาหลายสิบปีเธอย่อมคิดถึง ไม่รู้ว่าลูกสาว หลานสาว พี่สะใภ้ พี่เขย

 สามีของเธอจะเป็นยังไงกันบ้าง แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เหอเสี่ยวหงสำนึกผิดแล้ว เธอเสียลูกจึงขาดสติ

“ยัยหงงงง ฉันมาแล้ววว” เสียงของหยาดฟ้าตะโกนมาตั้งแต่ยังไม่ถึง

เหอเสี่ยวหงรีบเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าให้กับหยาดฟ้า ที่เรียกซื้อของมาเต็มรถเข็น

“ยัยฟ้า แกไปเอาอะไรมาเยอะขนาดนั้น” เหอเสี่ยวหงตกใจ

“นิดเดียว ๆ “ หยาดฟ้าหัวเราะ

“ของพวกนี้เอาไว้ชงกินตอนเช้า ไม่ก็ทำเป็นน้ำหวานให้คนในบ้านดื่ม ฉันคิดว่าแกคงทำได้ และแกก็ชอบมากไม่ใช่เหรอ” หยาดฟ้าอธิบาย อีกอย่างของที่ซื้อก็เป็นของที่เพื่อนสาวดื่มเป็นประจำ

“อืม เอาไปจ่ายเงินกันเถอะ เลยเวลานานแล้ว” เหอเสี่ยวหงว่าหลังยกนาฬิกาขึ้นดู

“ได้ ๆ เดี๋ยวต้องแวะไปเอา ขนมจีบ ซาลาเปาอีก” หยาดฟ้าตอบกลับเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอสั่งซาลาเปากับขนมจีบไว้

“เดี๋ยวลุงเข็นไปเองครับ” ลุงฟ่านที่กลับมาถึงพอดีรีบเดินเข้ามาเข็นรถเข็นช่วยเจ้านาย

“ฝากด้วยค่ะ”

“คุณเหอมาซื้อของเยอะมากเลยค่ะรอบนี้” ผู้จัดการเสวี่ยยิ้มกว้าง

แน่นอนว่าหากมีลูกค้าซื้อของครั้งละมาก ทางพนักงานที่รับผิดชอบหน้าที่คิดเงินก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายด้วย จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะเห็นพนักงานรีบเดินมาคิดเงิน

เหอสี่ยวหงยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ เธอยื่นบัตรเครดิตให้กับหยาดฟ้าที่ยื่นมือมา ไม่ต้องถามก็รู้ว่าจะเอาอะไร

“แล้วก็เอาของโซนนั้นด้วยนะคะ เอาไปส่งไว้ที่โกดังเลย” เหอเสี่ยวหงชี้บอก

“ได้ค่ะ”

“คุณลุงกลับก่อนเลยค่ะ หงกับยัยฟ้าจะไปทำธุระกันต่อ”

ระหว่างรอจ่ายเงินเหอเสี่ยวหงก็หันไปบอกลุงคนสนิทที่มาช่วยซื้อของ จริง ๆ ก็แทบจะตลอดทุกครั้งที่เหอเสี่ยวหงมาซื้อของ คุณลุงจะเป็นคนมาช่วยยกของขึ้นรถ

“ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะเอาไปไว้ที่โกดังให้”

“ค่ะ”

18.53 น.

เหอเสี่ยวหงมองหยาดฟ้าที่ต่อสายหาเจ้าของร้านซาลาเปารายใหญ่ประจำอำเภอ จริง ๆ ของที่ต้องมารับถูกนัดไว้หกโมงเย็น แต่พวกเธอมาสาย

“เฮียบอกเตรียมซาลาเปายังไม่เสร็จ แต่ก็ใกล้แล้ว ถ้าเราเสร็จแล้วให้ไปรอที่ร้านก่อนได้ หรือจะไปนั่งคาเฟ่แถวนั้นรอ” หยาดฟ้าหันมาบอกหลังรับสายเสร็จ

“ได้หมด” เหอเสี่ยวหงไม่ปฏิเสธ

‘เฮ้อ วันนี้ขายของไม่หมดอีกแล้ว’

 ‘อืม ตอนนี้กลางเดือนคนคงจะวุ่นวายกันอยู่ คงจะไม่ว่างกัน’

‘แต่ฉันเสียดายของนี่คะ’

‘เสียดายเหมือนกันแต่จะให้ทำยังไง’

‘เฮ้อ’

กรุ๊งกริ๊ง

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าต้องการอะไรคะ ทางร้านยินดีต้อนรับค่ะ”

ทันทีที่มีเสียงเปิดประตู พนักงานร้านที่กำลังนั่งคุยกันรีบเดินมาหาเหอเสี่ยวหงที่เดินเข้าร้าน ตามด้วยหยาดฟ้า

“ฉันเอาทุกอย่างที่มีค่ะ ช่วยใส่กล่องแยกให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงบอก

“คะ?” พนักงานงุนงง

“อ๋อ ได้ค่ะ ๆๆๆ” พนักงานอีกคนที่ได้สติก่อนเพื่อนรีบตอบแล้วลากเพื่อนร่วมงานไปเอาเค้กใส่กล่อง

19.34 น.

เหอเสี่ยวหงมองเวลาในโทรศัพท์ในมือแล้วถอนหายใจออกมา วันนี้พวกเธอกลับบ้านดึกอีกแล้ว ก่อนจะเงยหน้ามามองพนักงานที่เดินมาหา

“แฮ่ก แฮ่ก ขออภัยคุณลูกค้าด้วยนะคะที่ให้รอนาน พอดีเมนูมีเยอะและมีพนักในร้านแค่สองคน” พนักงานสองคนที่มีอยู่ในร้านต้องช่วยกันยกเค้กใส่กล่องจำนวนมาก ไหนจะพวกขนมหวานที่มีในร้านอีก

หยาดฟ้ายื่นบัตรเครดิตให้พนักงานอย่างรู้งาน ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้คืนเพื่อนเพราะต้องซื้อของต่ออีก

“ที่นี่รับทำเค้กก้อนเล็กไหมคะ” เหอเสี่ยวหงถาม

“ที่ร้านรับทำทุกออเดอร์ค่ะ”

“ฉันสั่งเค้กมะพราวอ่อน 500 ก้อน ไปส่งที่สวนสกุลเหอให้เลยค่ะ”

“ได้ค่ะ!”

“อาฟ้า อาหง อั๊วทำตั้งแต่เมื่อคืนเลยนะ! เพิ่งจะเสร็จ” อานเฮียเจ้าของร้านซาลาเปาบอก

หลังจากเอาเค้กใส่มิติเพราะจะได้ประหยัดพื้นที่ในรถและกลัวจะไม่มีที่ใส่ซาลาเปา หยาดฟ้าก็รีบพาตรงมาที่ร้านทันที

“โชคดีนะคะที่เสร็จทัน!”

“ซาลาเปาอั๊วแบ่งใส่กล่องให้แล้ว กล่องละ 4 ลูก 5,000 กล่อง ส่วนขนมจีบใส่กล่องละ 50 ลูก 200 กล่อง อั๊วใส่ตามที่ลื้อบอก”

“ขอบคุณค่ะเฮีย”

“ขอบคุณค่ะ”

“คนกันเอง ๆ พวกลื้อก็มาซื้อของไปเลี้ยงเด็ก ๆ บ่อย”

เหอเสี่ยวหงมองคนงานที่ช่วยกันยกทั้งซาลาเปา ทั้งขนมจีบขึ้นรถให้ ก่อนจะรีบจ่ายเงินแล้วไปช่วยคนงานยกขึ้นรถ ยิ่งเสร็จเร็วพวกเธอก็จะได้กลับเร็วขึ้น

Related chapters

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่3 ถึงเวลาแล้ว

    03.21 น.ผ่านมาแล้วเก้าวันหลังจากที่เหอเสี่ยวหงไปซื้อของมา ของที่สั่งก็ทยอยเข้ามาส่งจนใกล้จะครบ และเหอเสี่ยวหงก็เก็บใส่มิติหมดแล้ว วันนี้ยังมีโยเกิร์ต นมสด และผ้าขนหนูอัดเม็ด ที่คาดว่าจะมาส่งอีกเพียงวันเดียวเหอเสี่ยวหงก็จะได้กลับไปในที่ที่ได้จากมาแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เหล่าลูกสาวจะเป็นยังไงกันบ้าง ถ้าถามว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าจะได้กลับไป ก็ต้องบอกว่าก่อนที่จะมาเกิดใหม่เหอเสี่ยวหงได้เจอกับคน ๆ หนึ่ง ที่บอกเธอไว้ว่าจะได้เกิดใหม่ แต่เมื่อถึงเวลาหรือก็คือเมื่อไหร่ที่เหอเสี่ยวหงครบสามสิบปี เธอจะได้กลับไปยังที่ที่ได้จากมา เพื่อชดใช้ให้กับสามีและลูกสาวที่เธอทิ้งมาครืน ครืนเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้นมาในวลาที่เหอเสี่ยวหงกำลังอาบน้ำอยู่ คงจะเป็นหยาดฟ้าที่โทรมาเรียกเพราะพวกเธอนัดกันไปซื้อของสดที่ตลาดเช้าวันนี้ ทำให้ต้องตื่นตั้งแต่เช้าหรือเรียกได้ว่าก่อนไก่ขัน อันที่จริงทั้งสองอาศัยอยู่ด้วยกัน หยาดฟ้าจะเดินมาเคาะห้องเธอก็ได้ แต่เวลานี้คงจะไม่เหมาะก๊อก! ก๊อก!“ยัยหงงงง” เสียงตะโกนจากหยาดฟ้าดังเข้ามาในห้องอาบน้ำหลังเหอเสี่ยวหงไม่ยอมรับสาย“แปปหนึ่ง! ฉันอาบน้ำก่อน” เหอเสี่ยวหง

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่4 ปี1960

    บ้านรองโจว‘ถุย! นังสะใภ้อกตัญญู ออกมาไปทำงานเดี๋ยวนี้นะ!’ เสียงนางหลี่ซื่อ แม่เลี้ยงของสามีดังขึ้น‘คุณย่าคะ แม่ฉันเพิ่งแท้งน้อง ให้คุณแม่พักเถอะนะคะ ฮือๆๆ’ เสียงโจวเอ้อร์นีลูกสาวคนโตของเธอร้อง ทำให้เหอเสี่ยวหงรู้สึกตัวทันทีตุ้บ ตุ้บ‘คุณแม่! อย่าตีหลานเลยนะคะ ฮือออ สะใภ้รองเพิ่งแท้งลูก คุณแม่อย่าใจร้ายกับหล่อนเลย’‘หน๊อยย เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!’‘เกิดอะไรขึ้น!!’‘น้องสามี!’ ‘โจวมี่!’ ‘คุณอาเล็ก!!’ภายในห้องเสียงวุ่นวายข้างนอกทำให้เหอเสี่ยวหงลืมตาขึ้นมองทันที เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นลูกสาวอีกสามคนซุกตัวอยู่ข้างๆเตียงเตาของเธอ ตรงกันมีลูกสาวของสะใภ้ใหญ่เหอหรงหรงหรือก็คือลูกพี่ลูกน้องของเธอเองเหอเสี่ยวหงยิ้มทันที! หล่อนได้กลับมาหาลูกๆของหล่อนแล้ว! เหอเสี่ยวหงค่อยๆเอามือประกบท้องทันทีที่พยายามลุกขึ้นเพราะหล่อนเพิ่งแท้งลูกจึงทำให้เจ็บท้อง“ซะ...ซานนี” เหอเสี่ยวหงเอ่ยเรียกลูกสาวคนรองที่กำลังนั่งกอดน้องสาวอีกสองคน“แม่!” โจวซานนีตะโกนทันทีที่เห็นแม่ของหล่อนตื่นนอกห้อง“ลูกสาวสามมาที่นี่มีอะไรหรอจ๊ะ” นางหลี่ซื่อเอ่ยถามที่นางหลี่ซื่อพูดดีกับโจวมี่ก็เพราะหล่อนยังมีประโยชน์ต่อพวกนางยังไงละ!

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่5 เริ่มต้นใหม่

    หลังจากแยกบ้านวันนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้ว เหอเสี่ยวหงในตอนนี้ก็กำลังบำรุงร่างกายเพราะเพิ่งแท้งลูกและยืนนานเกินไปตกดึกจึงปวดท้องทำให้ล้มนอนอีกครั้ง‘พี่สะใภ้ใหญ่’‘อ้าว น้องสาวสามตื่นแล้วเหรอ’‘ใช่ค่ะ เสี่ยวจวี่ร้องไห้งอแงน่ะค่ะ’เสียงทักทายของพี่สะใภ้และน้องสาวสามีดังขึ้นข้างนอกห้องของเหอเสี่ยวหงเนื่องจากบ้านหลังนี้มี 8 ห้องนอน เหอเสี่ยวหงเลือกเอา 3 ห้อง เหอหรงหรงก็เลือกเอา 3 ห้อง โจวมี่เลือก 1 ห้อง มันจึงเหลือ 1 ห้อง ทั้งสามจึงตกลงกันว่าจะทำเป็นห้องครัว ส่วนห้องครัวเก่าก็จะทำเป็นห้องเก็บฟืนบ้านหลังนี้อยู่ติดกับคลองน้ำที่ชาวบ้านใช้ แต่บ้านหลังนี้อยู่ต้นน้ำและมีกำแพงอ้อมสูง 2 เมตร ลานหน้าบ้านนั้นมีต้นไม้ต้นใหญ่ 2 ต้น ใต้ต้นไม้จะมีโต๊ะและเก้าอี้อยู่ 2-3 ตัวข้างบ้านด้านขวาจะมีห้องครัวเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นห้องเก็บฟืน กับมีบ่อน้ำที่มีไม่กี่บ่อในหมู่บ้าน ส่วนด้านหลังนั้นจะเป็นแปลงผักกับเล้าไก่เก่าภายในตัวบ้านจะคล้ายครึ่งวงกลม เมื่อเปิดประตูทางซ้ายจะเป็นห้องครัว ถัดจากห้องครัว 2 ห้อง จะเป็นห้องของเหอหรงหรง ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องตรงข้ามกับประตู ข้างๆกันจะมีอีกห้องที่ยกให้โจวมี่ และทางด้าน

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่6 นำของไปบำรุงลูกสาว

    หลังจากที่เหอเสี่ยวหงขายไข่ไก่ให้คุณป้าคนนั้นแล้วเหอเสี่ยวหงก็ยังขายสบู่ในราคาก้อนละ 3 หยวน และเอาผลไม้อย่างอื่นออกมาขายอีกเล็กน้อยก็ได้เงินทั้งหมด 51 หยวน 8 เฟิน! เป็นเงินเดือนสามีของเธอเกือบ 2 เดือน!แม้นิยายในปี2022 ที่เหอเสี่ยวเคยอ่านหลาย ๆ เรื่องจะเห็นว่ามาขายครั้งหนึ่งได้เป็นร้อย ๆ หยวนก็ตาม แต่นี่คือชีวิตจริง! หากเธอจะขายของได้เป็นร้อย ๆ หยวนคงต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง! เพราะแค่นี้เธอก็ขายของ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ และเธอคงจะฝืนร่างกายเหนื่อยอยู่หรอก! กว่าจะปั่นจักรยานกลับบ้านอีก!เมื่อขายของเสร็จแล้วเหอเสี่ยวหงก็ปั่นจักรยานมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าในอำเภอและเข้าไปดูของข้างใน แต่เพราะมันเป็นช่วงปลายเดือน ของจึงยังไม่มาเติม และหากของมาเติม ไม่ถึงวันก็ไม่น่าพอเพราะของน้อยมาก ตอนนี้ของน้อยชนิดที่ว่าเหลืออันละไม่เกิน 3 ชิ้น!‘แบบนี้ฉันจะเอาอะไรกลับไปให้บ้านใหญ่กับโจวมี่เล่า’ เหอเสี่ยวหงคิดในใจ ที่เธอจะไม่เอาของในมิติให้ก็เพราะไม่อยากให้ทั้งสองสงสัยว่าเอาของมาจากไหนในเวลาที่ของหายากแบบนี้ ‘งั้นเอาแอปเปิลให้สัก 2 ลูกก็ได้’ เหอเสี่ยวหงตอบตัวเองในใจ เหอเสี่ยวหงที่ขี่จักรยานออกจากห้างสรรพ

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่7 แบ่งของ

    “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”เหอเสี่ยวหงหันไปมองตามเสียงก็เห็นสะใภ้ใหญ่เดินออกมา ตามมาด้วยลูกสาวคนโตอย่างโจวต้าหงหรือโจวต้านีวัย 9 ขวบที่จับมือน้องสาวคนรองอย่างโจวซือหงหรือโจวซือนีเด็กน้อยวัย 7 ขวบ ออกมาด้วยส่วนลูกสาวคนเล็กวัยสามขวบของบ้านใหญ่อย่างโจวมู่หงหรือโจวมู่นีนั้นเหอเสี่ยวหงไม่เห็น อาจจะยังนอนอยู่ก็ได้“พี่สะใภ้มาพอดีเลยช่วยฉันขนของหน่อยค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก“ได้จ้ะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ!/หนูช่วยค่ะ!”เป็นโจวต้านีกับโจซือนีบอกพร้อมกับเดินมาช่วยทุกคนขนของเข้าไปในบ้าน เพราะคนบังคับเกวียนวัวเป็นผู้ชาย เหอเสี่ยวหงจึงไม่ได้ให้เขาเอาเกวียนเข้าไปในบ้านส่วนเหอเสี่ยวหงนั้นเมื่อทุกคนขนของเข้าไปข้างในทั้งหมดและอาศัยช่วงเงลาที่คนบังคับเกวียนนั่งพักเอาแรง ก็นำผ้านวมที่พับซีลใส่ถุงสูญกาศออกมาแล้วทำเป็นหยิบจากเกวียนเข้าไปในบ้าน“โอ้! สะใภ้รอง เธอได้ผ้านวมมาจากไหนน่ะ! ผืนใหญ่มาก” สะใภ้ใหญ่อุทานตาโตตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนกันยายนแน่นอนว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นฤดูหนาว ที่เหอเสี่ยวหงเอาออกมาตอนนี้ทั้ง ๆ ยังไม่ถึงฤดูที่ต้องใช้ก็เพราะมันยังหาง่ายอยู่ยังไงล่ะ!หากเข้าสู่ช่วงหนาวแล้วทุกบ้า

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่8 บำรุงลูกสาว

    หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว เหอเสี่ยวหงจึงได้กินแผ่นแป้งเย็นที่ลูกสาวเหลือไว้ให้สองแผ่นพาลูกสาวทั้งสี่คนไปอาบน้ำแล้วไล่เข้าห้องไป รวมถึงโจวลิ่วนีที่เธอให้ เด็กๆอยู่ด้วยกันก่อน จุดเทียนไว้ 3 เล่ม แล้วบอกให้เด็กๆระวังเปลวไฟจากนั้นจึงมาจุดเตาไฟที่มีฟืนและถ่านยังแดงร้อนอยู่เล็กน้อย ใส่ฟืนและพัดให้ไฟลุกจะได้ทำอาหารไว้กินพรุ่งนี้เช้า เหอเสี่ยวหงนำรากผักชีในมิติออกมาผัดใส่พริกไทยในน้ำมันเล็กน้อยผัดให้เครื่องหอมแล้วเทน้ำใส่ไปเกือบเต็มหม้อ ใส่ผงปรุงรส เกลือ ซีอิ๊ว คนให้ละลายจากนั้นนำกระดูกหมูที่มีเนื้อติดใส่ลงไป 2 ชั่ง แล้วปิดฝาไว้ทิ้งไว้ เนื่องจากมันมีถ่านจากการปิ้งแผ่นแป้งอยู่แล้วบวกกับใส่ฟืนลงไป คืนนี้จึงไม่ต้องลุกมาใส่ฟืนอีกพรุ่งนี้เหอเสี่ยวหงจะใส่อย่างอื่นเพิ่มแล้วก็จะหุงข้าวกินกับน้ำซุปกระดูกหมูที่ได้ต้มไปหันไปอีกเตาที่ยังไม่ได้จุดไฟ เหอเสี่ยวหงได้ย้ายไฟจากอีกเตามาใส่และใส่เชื้อเพลิงลงไปทำให้ไฟลุกขึ้น หยิบหม้อตักน้ำใส่ต้มให้สุก แล้วเหอเสี่ยวหงนำน้ำต้มสุกใส่กระติกน้ำร้อนไว้ พรุ่งนี้เธอจะได้ผสมกับนมให้เด็กๆดื่มถ้าไปต้มพรุ่งนี้เช้า คงจะไม่ทันเพราะมี 2 เตา และ 3 บ้าน กว่าจะทำอาหาร

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.1 เข้าป่า

    ป่าทางด้านตะวันออกเป็นป่าที่ชาวบ้านเข้าไปเก็บผักป่าและหาฟืน เหอเสี่ยวหงที่พ่วงลูกสาวมาด้วยสามคนจึงต้องเข้าไปป่าที่ชาวบ้านเข้ามา เพราะเธอไม่สามารถที่จะดูแลลูกสาวคนเดียวได้เวลาแปดโมงเช้าเป็นเวลาที่ชาวบ้านในหมู่บ้านลงแปลงนากันแล้ว ยกเว้นบ้านที่มีแม่ให้กำเนิดลูกที่อยู่ไฟกับคนแก่ชราที่ไม่ได้ลงแปลงนา บางคนอาจอยู่บ้าน บางคนก็จะเข้ามาเก็บฟืน ทำให้เหอเสี่ยวหงเห็นคนเดินเข้าออกไม่กี่คน“พวกหนูเก็บเศษไม้ตรงนี้นะจ๊ะ แม่จะหาฟืนตรงนั้น ถ้ามีอะไรให้ตะโกนเรียกเสียงดัง ๆ นะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงชี้บอกลูกสาวตรงที่เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวว่าจะไปเก็บฟืนไม่ได้ห่างจากตรงที่จะเก็บเศษไม้มากนักแต่เหอเสี่ยวหงก็ห่วงลูกสาว“ได้ค่าาา” เป็นโจวซานนีที่ตอบ“เอ้อร์นีจ๊ะ ดูแลน้องด้วยนะลูก” เหอเสี่ยวหงหันไปหาลูกสาวคนโต“ได้ค่ะ!” โจวเอ้อร์นีรับคำ“แม่วางตะกร้าไว้ตรงนี้ ถ้าเหนื่อยก็พาน้องนั่งนะลูก” เหอเสี่ยวหงพูดต่อเด็กทั้งสามคนจึงพยักหน้ารับทราบคำที่แม่บอก พร้อมทั้งพากันเดินเก็บเศษไม้มาใส่เถาวัลย์ที่หาเจอเมื่อกี้กันเหอเสี่ยวหงมองแล้วจึงเดินไปตรงที่จะเก็บฟืน เธอจะเก็บวันละ 1-2 มัดก็พอ กว่าจะถึงฤดูหนาวฟืนก็น่าจะเยอะแล้ว และรอแปล

    Last Updated : 2025-02-17
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.2 เข้าป่า

    เหอเสี่ยวหงถือจานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และขวดเก็บอุณหภูมิไปวางไว้บนหัวเตียงเตา แล้วยืนมองเด็กๆเขียน“อู๋นีจ๊ะ บรรทัดนี้ขีดมากไปจ้ะ” เหอเสี่ยวหงชี้ให้ดูโจวอู๋นีพยักหน้า‘ลิ่วนีขีดเล็กไปจ้ะ’‘ซานนีหนูลืมคำนี้”‘เอ้อร์นีเขียนถูกแล้วจ้ะ แต่ตัวใหญ่เกินไป’‘อู๋นี หนูเขียนสลับกัน’‘ลบตรงนี้ออก’‘เขียนตัวนี้แบบนี้นะ’‘มันมีสามขีดจ้ะ’‘เขียนใหม่เลยจ้ะ หนูเขียนสลับอีกแล้ว’‘ถูกแล้วจ้ะ’เสียงเหอเสี่ยวหงที่ชี้ตรงที่ผิดให้เด็ก ๆ ดูดังต่อเนื่องมาเกือบชั่วโมงแล้ว “พักกันก่อนนะจ๊ะ”เหอเสี่ยงหงบอก เด็ก ๆ จึงวางปากกาลงและปิดหนังสือเอาไว้“ผลไม้ 9 ชนิดนี้มีรสเปรี้ยวอมหวาน กินแค่รองท้องนะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงยกจานมาให้“แม่ มันหวานมากค่ะ” โจวเอ้อร์นีตาโต“มันเปรี้ยวมาก!” โจวซือนีหลับตา“อย่ากินลูกเขียวสิ” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาว“อร่อยไหมจ๊ะ” ก่อนที่จะหันมาป้อนลูกสาวคนเล็กโจวลิ่วนีพยักหน้าแต่ไม่พูดเพราะผลไม้เต็มปากอยู่“แม่จะไปดูหม้อสักหน่อย กินเสร็จแล้วพาน้องไปล้างมือแล้วก็ไปปลดทุกข์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วแม่จะมาสอนต่อ” เหอเสี่ยวหงหันหลังมาบอกก่อนจะออกจากห้องหน่อไม้ที่เหอเสี่ยวหงต้มนั้นจืดแล้ว เมื่อนำลงจากเตาก็

    Last Updated : 2025-02-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่20 เกิดอะไรขึ้น

    สามวันผ่านมานี้เหอเสี่ยวหงไม่ได้ทำอาหารที่มีเนื้อเลย วันนี้หิมะหยุดตกและคาดว่าจะตกหนักในตอนกลางคืน ตอนนี้มีเพียงลมหนาวเท่านั้น จึงคิดจะเข้าอำเภอเพื่อตบตาว่าไปซื้อของ“พี่สะใภ้ใหญ่ วันนี้ฉันจะเข้าอำเภอ” เหอเสี่ยวหงบอกในขณะที่กำลังเก็บถ้วยจานของบ้านรองให้ลูกสาวเอาไปล้าง“อากาศเย็นขนาดนี้ เธอยังจะไปอีกหรอ” สะใภ้ใหญ่ถามถึงแม้ว่าหิมะจะหยุดตกในช่วงเช้าแบบนี้มันไม่ได้หมายความว่าตอนบ่ายจะไม่ตก และตอนนี้ลมหนาวก็เย็นมาก“เด็ก ๆ ไม่ได้กินเนื้อเลยค่ะช่วงนี้” เหอเสี่ยวหงตอบ“มันจะมีเนื้อเหรอ” สะใภ้ใหญ่สงสัยเพราะช่วงนี้เป็นฤดูหนาวที่คนส่วนมากจะรวมตัวกันอยู่ภายในบ้านเพื่อที่จะลดอาการหนาว หากเป็นไปได้ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอกหรอก“พอดีฉันจะให้สหายหาให้ค่ะ” เหอเสี่ยวหงกำพันผ้าพันคอไหมพรมที่เธอถักอยู่เอ่ยบอก“เธอพอจะสั่งเผื่อพี่ได้หรือเปล่า?” สะใภ้ใหญ่ยิ้มบ้านใหญ่ของหล่อนก็มีเนื้อตากแห้งเช่นกันเพียงแต่มีไม่กี่ชั่งผิดกับบ้านรองที่มีเป็นร้อย ๆ ชั่ง และหล่อนเห็นว่าเหอเสี่ยวหงจะไปอำเภอจึงฝากซื้อด้วย“ได้ค่ะ แต่น่าจะแพง” เหอเสี่ยวหงไม่ปฏิเสธราคาของในฤดูหนาวแพงกว่าในฤดูอื่น ๆ เกือบเท่าตัวของบางอย่างแพงกว่

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่19 ฤดูหนาว

    หิมะตกกลางดึกหลังจากที่พี่ชายใหญ่โจวกลับมาได้เพียงสี่วัน และเพราะพี่ชายใหญ่โจวบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถมาช่วยในเรื่องอื่น ๆ ได้ เหอเสี่ยวหงกับสะใภ้ใหญ่ช่วยกันปัดหิมะออกจากหลังคาโดยใช้ไม้ช่วย ส่วนเด็ก ๆ ก็จะมีออกมาช่วยปัดลานหน้าบ้านเพราะอากาศหนาวจึงไม่อยากให้ออกมาข้างนอก“ปีนี้น่าจะหนาวมาก” สะใภ้ใหญ่เอ่ยขึ้นตอนนี้เหอเสี่ยวหงกับสะใภ้ใหญ่ช่วยกันปัดหิมะบนหลังคาออก หากมันทับถมมากไปจะทำให้หลังคาถล่มลงได้“ใช่” เหอเสี่ยวหงเห็นด้วย“ยังดีที่เราเตรียมฟืนไว้แล้ว” สะใภ้ใหญ่ยิ้มก่อนจะวางไม้ลงกับพื้นข้างบ้าน เอาไว้ปัดหิมะออกในครั้งต่อไป”นั่นสิ พี่ก็ดูฟืนให้พี่ชายใหญ่โจวด้วยนะคะ พี่ชายใหญ่โจวบาดเจ็บอยู่ร่างกายไม่แข็งแรง อาจป่วยหนัก” เหอเสี่ยวหงบอกเหอเสี่ยวหงไม่รู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาเพราะทั้งชีวิตยุคอนาคตกับยุคนี้เธอไม่มีความเกี่ยวข้องกับแพทย์เลย แต่ก็พอจะเดาอาการได้อยู่“ได้ ๆ พี่ดูตลอดเลย” สะใภ้ใหญ่พยักหน้า“เรื่องการกินพี่ก็ทำอาหารอ่อน ๆ ให้เถอะค่ะ” เหอเสี่ยงหงว่าพลางเดินเข้าห้องครัวเวลานี้เพิ่งจะเช้าและยังไม่ได้ทำกับข้าวอะไรกินเหอเสี่ยวหงจึงเลือกที่จะเข้าครัวมากกว่ากลับไปนอนต่อเพราะกวาดหิมะทั้

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่18 พี่ชายใหญ่โจว

    ‘สะใภ้ใหญ่โจว!’‘สะใภ้โจว!’‘มีใครอยู่ไหม?’‘สะใภ้รอง!’‘บ้านโจวมีคนอยู่ไหม!’‘ไม่มีคนอยู่เหรอ?’เสียงเอะอะวุ่นวายหน้าประตูรั้วที่อยู่ห่างจากลานบ้านไม่ไกลดังขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่เหอเสี่ยวหงกับสะใภ้ใหญ่ที่กำลังจะเปลี่ยนจากถักไหมพรมมาเป็นเย็บผ้าต้องออกไปดู“มีอะไรกัน”เหอเสี่ยวหงเปิดประตูรั้วพลางยืนมองชาวบ้านเกือบสิบคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน“โอ้! โจวจือหยวนกลับมาแล้ว"“ลูกชายใหญ่บ้านรองโจวกลับมาแล้ว”“สามีเจ้ากลับมาแล้วสะใภ้ใหญ่โจว”“ใช่ ๆ”“อาจือหยวนกลับมาแล้ว”“เขาบาดเจ็บด้วยนะ!”“ใช่! ผ้าพันแผลเต็มเลย”“สามีฉันกลับมาแล้ว!” สะใภ้ใหญ่อุทานเรื่องที่สามีหล่อนบาดเจ็บไม่มีใครรู้มากนักเพราะนางหลี่ซือกลัวเสียหน้าจึงบอกให้ลูกสะใภ้กับหลานสาวเงียบปากไว้ แม้กระทั่งญาติผู้ใหญ่ในตระกูลโจวก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ จึงมีหลายคนที่ไม่เข้าใจการกระทำของนางหลี่ซือ“ใช่”“เขาบาดเจ็บกลับมาด้วย”“แผลใหญ่มาก”“พี่ชายใหญ่โจวอยู่ที่ไหน” เหอเสี่ยวหงถามเพราะเรื่องที่พี่ชายใหญ่โจวบาดเจ็บบ้านโจวรู้จักกันหมดผ่านจดหมายของสหายพี่ชายใหญ่โจว ทำให้ไม่ได้แตกตื่นนักเพราะสหายพี่ชายใหญ่โจวบอกว่าไม่ร้ายแรงเท่าไร แต่ก็ไม่สามารถเข้

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่17 อดีตบ้านเหอ

    หลังจากที่เก็บกวาดห้องให้สะอาดแล้วเหอเสี่ยวหงก็พาสะใภ้ใหญ่ขนส่วนผสม เข้าไปเก็บในห้องทำสบู่เลย เพราะห้องเย็บผ้าแน่นมากแล้ว“ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว” เหอเสี่ยวหงเอ่ยแผ่วเบา“ใช่” สะใภ้ใหญ่ตอบตรงหน้าพวกเธอคือต้นไม้ลานหน้าบ้านที่มีโต๊ะอยู่ แต่ก่อนเวลาเลิกงานทุกคนจะนั่งพักตรงนี้ จากนั้นผู้หญิงในบ้านกับพวกเธอสองคนจะเข้าครัว ส่วนผู้ชายก็จะอาบน้ำคนบ้านเหอที่จริงแล้วไม่ใช่คนของที่นี่ คุณปู่เคยเล่าให้ฟังว่าคุณปู่พาคุณลุงกับคุณพ่อของเธอเดินทางออกจากบ้านเกิด เพราะที่นั่นยากจนมาก ปลูกอะไรก็ไม่ได้ กินรากไม้กินหญ้าประทังชีวิต จนที่นั่นเหลือเพียงดินเปล่า หากมีคนตายก็จะถูกแล่เนื้อมาย่างกิน ตอนนั้นคุณย่าป่วยและอาการไม่ค่อยดีนักหลังจากคลอดคุณพ่อและคนที่รอให้คุณย่าตายเพื่อที่จะได้กินเนื้อก็จ้องมองอยู่ตลอดเวลา จึงพากันหนีออกมา ที่นั่นมันเป็นเมืองที่คนไม่สามารถอยู่ได้เลยด้วยซ้ำเพราะหากมีการคลอดลูกแล้วไม่ดูแลให้ดี วันดีคืนดีก็อาจถูกฉกไปย่างกินได้หลังออกมาจากเมืองนั่นแล้วคุณปู่ก็พาคุณย่ากับคุณลุง คุณพ่อเดินเท้ามาที่มณฑลนี้ โชคดีนักที่ตอนนั้นบ้านเหอได้ช่วยชีวิตคนหนึ่งไว้ และเขาก็ให้เงินมาก้อนหนึ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่16 แตกแยก

    ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเหอเสี่ยวหงขายสบู่มีรายได้มากกว่าหมื่นหยวน! ทั้งที่ให้โจวมี่ขายให้ ทั้งที่ออกไปขายที่ตลาดมืดเอง เรียกได้ว่าเธอเป็นเศรษฐีในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ส่วนน้องสาวสามีก็ได้รับส่วนแบ่งไปเกือบพันหยวน ต่อชีวิตพวกเธอได้อีกหลายปีเลยทีเดียวช่วงนี้เข้าฤดูหนาวแล้วโชคดีจริง ๆ ที่เหอเสี่ยวหงเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะอากาศเย็นเร็วมาก ปกติปลายเดือนตุลาอากาศจะเย็นแต่ยังไม่มากเนื้อตากแห้งของเหอเสี่ยวหงมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู สามชั้น อกไก่ ยังมีกระดูกไก่ที่ถูกเหอเสี่ยวหงเลาะออกมาจากไก่ป่า 5 ตัวที่เหลือจากที่ได้มาจากป่าส่วนเห็ดหลินจือแดงกับโสมคนเหอเสี่ยวหงก็ยังไปหามาเรื่อย ๆ จนได้หลายร้อยชั่งทั้งสดและแห้ง เมื่อมันแห้งแล้วเหอเสี่ยวหงได้แบ่งออกมาหลายชั่งเพราะจะบดสมุนไพร นำเห็ดหลินจือแดงกับโสมคนไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปบดให้เป็นผงเก็บไว้ในกระปุกเล็กที่เหอเสี่ยวหงได้มาจากคุณลุงคนนั้นอีกเป็นพันกระปุกและยังมีที่สั่งมาอีกหลายพันกระปุก นอกจากนี้ยังมีขิงด้วยที่เหอเสี่ยวหงจะทำไว้ชงในฤดูหนาวสองอาทิตย์ก่อนเริ่มมีลมหนาวเข้ามาเหอเสี่ยวหงได้ไปหาฟืนมาเพิ่มอีกเยอะมากเพราะกลัวว่าฟืนจะไม่พอ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่15 แจกจ่ายผลผลิต

    เช้ามาเหอเสี่ยวหงก็เก็บผักที่ดองเข้ามิติ ส่วนพวกเนื้อตากแห้งที่ยังไม่แห้งก็เอาออกมาตาก อันที่แห้งแล้วก็เก็บใส่กระปุกไว้ในมิติเช้านี้เหอเสี่ยวหงทำโจ๊กหมูก้อนมีกระเทียมจียวโรยหน้า แล้วก็กินพุทราล้างปาก ตามด้วยนมผงอัดเม็ดที่ลูก ๆ ของเธอต้องกินหลังอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็นวันนี้เหอเสี่ยวหงจะเข้าป่าโดยที่ไม่ให้ลูก ๆ เข้าไปด้วย วันนี้เธอจะเข้าป่าคนเดียว“แม่อุ่นซาลาเปากับขนมจีบค้างไว้ในเตาให้มันจะร้อนตลอด เวลาหิวลูกก็ไปเอามาให้น้องกินด้วย” เหอเสี่ยวหงบอกโจวเอ้อร์นีโจวเอ้อร์นีพยักหน้า“ผลไม้แม่แช่พุทราและสาลี่ไว้ในชามเหล็กในห้อง เวลาอ่านหนังสือก็ไปเอามากินได้” เหอเสี่ยวหงว่าต่อ“วันนี้มีน้ำแตงโมแม่คั้นใส่ขวดให้แล้วเวลาจะกินให้เปิดแก้วนี้ออก เทน้ำในแก้วดื่มหรือเททิ้งก็ได้แล้วเทน้ำแตงโมใส่มันจะทำให้เย็น”โจวเอ้อร์นีพยักหน้าอีกรอบพุทราหลายลูกและสาลี่ที่ถูกหันแช่น้ำแข็งหลายลูก เหอเสี่ยวหงแช่ใส่น้ำแข็งที่ผสมน้ำนิดหน่อยในชามเหล็กมันจะทำให้ผลไม้กรอบและเย็นส่วนแตงโมเธอได้บีบคั้นจนได้น้ำมาขวดหนึ่ง

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่14 เตรียมของ

    เหอเสี่ยวหงปั่นจักรยานถึงบ้านก็เปิดประตูรั้วบ้านเมื่อปั่นมาจอดลานหน้าบ้านแล้วก็กลับไปปิดประตูไว้เพราะหากคนมาจะได้ไม่เดินเข้ามาได้เพราะสะใภ้ใหญ่ต้องดูแลลูกสาวของน้องสาวสามีวันนี้เหอเสี่ยวหงจึงไม่ได้เรียกมาช่วยยกของเข้าบ้านส่วนเด็ก ๆ ก็คงอ่านหนังสือทบทวนกันอยู่ โดยเฉพาะกับโจวลิ่วนีที่เธอยังไม่อยากให้เรียน แต่เธอก็ไม่สามารถห้ามได้จึงปล่อยให้เรียนรู้ไปเหอเสี่ยวหงนำกระปุกไปเก็บในห้องเย็บผ้าเพราะห้องของเธอไม่สามารถเก็บได้แล้ว นำผักกาดและผักกวางตุ้งใส่กะละมังไว้ วันนี้เธอจะดองผัก ส่วนขิงหัวไชเท้า แตงกวา แครอทเธอจะดองเมื่อดองผักใบเขียวทั้งสองเสร็จนำผลไม้ ขนม และนมเข้าไปเก็บในตู้ที่ห้องของเธอ ส่วนของสดนั้นเอาเก็บใส่มิติก่อนเพราะของจะเสียเอาได้เหอเสี่ยวหงนำผักไปแกะออกแล้วล้างที่ละใบให้สะอาด จากนั้นวางผักใส่กะละมังและนำไปตากแดด รอให้ใบเฉาหลังจากนั้นจะเอามาดองกว่าผักจะเฉาเหอเสี่ยวหงจึงไปเติมของว่างให้เด็ก ๆ นำน้ำเย็น ๆ ใส่แก้วและขวดเก็บอุณหภูมิอย่างละหนึ่ง บัวหิมะ 3-4 ลูกปอกเปลือกและหั่นเป็นแว่นใส่จาน เค้กมะพร้าวจิ๋ว 1 ก้อน และคั้นน้

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่13 ไม่ไว้ใจ

    เหอเสี่ยวหงนำเนื้อหมูที่ถูกแล่เป็นชิ้นเล็ก ๆ วางเรียงใส่ถาดที่มีแล้วนำไปตากแดดบนรางไม้ที่ตากผ้า เมื่อมองดูหมูจนพอใจแล้วก็เก็บอุปกรณ์ไปล้าง คว่ำไว้ให้แห้งที่บ่อเหมือนเดิม จากนั้นก็กลับไปถักไหมพรมต่อ เอาไว้อีก 2 ชั่วโมงค่อยลุกไปทำกับข้าไหมพรมที่ถักนั้นเหอเสี่ยวหงไม่ได้ให้สะใภ้ใหญ่กับโจวมี่ช่วยถัก เพราะเธออยากทำเองคนเดียวพรุ่งนี้ก็คงเอามูลสัตว์ใส่ผสมเตรียมดินไว้ วันต่อไปค่อยลงเมล็ดผัก อีกเดือนกว่า ๆ จะเข้าฤดูหนาวแล้วเหอเสี่ยวหงคิดว่าผักบางส่วนน่าจะโตทัน บางส่วนอาจทนหนาวได้หรือบางทีเก็บเมล็ดไว้ได้ก็ดีคิดดังนั้นเหอเสี่ยวหงก็ไม่ได้สนใจแปลงผักอีก หันมาสนใจกองไหมพรมตรงหน้าแดดเริ่มจะหมดแล้วเหอเสี่ยวหงจึงเก็บเนื้อหมูที่ตากแห้งไว้ใส่ตู้ตอนกลางคืนเธอจะเก็บไว้ในมิติ ตอนเช้าจะตากแดด ส่วนตอนกลางคืนเธอจะใส่มิติไว้ จะทำจนกว่าเนื้อหมูจะแห้ง หลังจากที่โจวมี่กลับไปทำงานแล้วเหอเสี่ยวหงจะไปซื้อไหหรือกล่องใส่ข้าวมาใส่เนื้อหมูตากแห้งไว้ตอนนี้สะใภ้ใหญ่กับโจวมี่กำลังอาบน้ำให้เด็ก ๆ เหอเสี่ยวหงจึงไปบอกให้ลูก ๆ เก็บของไว้แล้วพากันไปอาบน้ำ ส่วนเธ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่12 บ้านโจว

    ชาวบ้านหลายคนกำลังเกี่ยวข้าวธัญพืชที่เหลืออีกไม่กี่วันก็จะเสร็จอยู่เกือบห้าสิบคน ข้างหลังคนเก็บเกี่ยวข้าว จะมีคนเกี่ยวกอข้าวและบางคนกำลังเก็บเอารวงข้าวไปตากบนลานข้างบน บางส่วนก็นำไปตากที่หน่วยผลิตข้าง ๆ แปลงนาจะมีพวกธัญพืชอยู่อีกหลายแปลง อย่างถั่วลิสง ถั่วเขียว ถั่วเหลืองหรือถั่วดำก็มีชาวบ้านเกือบยี่สิบคนกำลังเก็บเกี่ยวหมู่บ้านโจวเป็นหมู่บ้านกลาง ๆ ไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป มีบ้านมากกว่า 100 หลัง มีคนอาศัยอยู่เกือบพันคน แต่เป็นหน่วยผลิตอันดับหลัง ๆ ของกลุ่มคอมมู เพราะว่าได้ผลผลิตน้อยมากในแต่ละการเก็บเกี่ยว นอกจากจะต้องแบ่งผลผลิตให้กับคนในหน่วยแล้วยังต้องแบ่งให้กองกลางอีกมากกว่าครึ่ง! ทำให้ผลผลิตที่น้อยอยู่แล้วน้อยขึ้นไปอีกพอถึงเวลาแบ่งธัญพืชนอกจากจะไม่เพียงพอต่อแต่ละบ้านแล้วยังไม่เหลือให้ซื้ออีก แต่ปีนี้ต่างออกไป เห็นว่าผลผลิตของปีนี้ได้มากกว่าปีที่แล้วหลายสิบเท่า‘โอ้! จักรยาน! สะใภ้รองบ้านโจวมีจักรยาน!’‘โอ๊ย จับทีฉันจะเป็นลม!’‘หล่อนได้จักรยานมาจากใคร’‘ใช่ ๆ&rs

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status