Share

บทที่2 เตรียมตัว

last update Last Updated: 2025-02-14 02:43:55

เครื่องใช้ไฟฟ้า

(electrical appliance)

โซนเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นโซนที่มีลูกค้ามาซื้อประจำในห้างนี้ และเหอเสี่ยวหงก็เลือกที่จะไปเป็นที่แรก เพราะเธอตั้งใจจะมาหาซื้อกระติกน้ำร้อน

“สวัสดีค่ะคุณผู้หญิง ไม่ทราบคุณผู้หญิงกำลังมองหาเครื่องใช้อะไรคะ ดิฉันสามารถแนะนำให้ได้”

พนักงานที่ดูแลโซนเครื่องใช้ไฟฟ้ารีบเดินเข้ามาต้อนรับ เมื่อเห็นเหอเสี่ยวหงเดินเข้าโซนเครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกับผู้ติดตาม

เหอเสี่ยวหงไม่ได้ตอบพนักงานที่ถาม แต่เธอมองหากระติกน้ำร้อนที่ตั้งใจจะมาซื้อ พอเห็นก็รีบเดินไปดูทันที

“อุ๊ย! คุณผู้หญิงตาถึงจริง ๆ ค่ะ! นี่คือกระติกน้ำร้อนรุ่นลิมิเต็ดที่เลียนแบบยุคสมัยก่อน และเป็นรุ่นพิเศษที่ผลิตมาจำนวนจำกัดไม่สามารถผลิตเพิ่มได้แล้ว ราคาจะอยู่ที่ 1,239 หยวนค่ะ” 

หากซื้อกระติกน้ำร้อนรุ่นธรรมดา ราคาจะไม่ถึงหนึ่งพันหยวน แต่เนื่องจากทางโรงงานผลิตเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล จึงผลิตขึ้นมาเพียง 1,000 ใบ พร้อมกับส่งตรงให้แค่ห้างในเครือของที่นี่

“หากคุณผู้หญิงมีบัตรสมาชิกของห้าง สามารถใช้แลกแก้วเก็บอุณหภูมิต่อการซื้อกระติกน้ำร้อนหนึ่งใบต่อหนึ่งใบ แต่ถ้าไม่มีบัตรสมาชิก ดิฉันสามารถพาไปสมัครได้ค่ะ” พนักงานสาวแนะนำลูกค้า

เหอเสี่ยวหงพยักหน้า “เอาทั้ง 10 ใบเลย” ว่าแล้วก็เดินไปยังโซนอื่น ปล่อยให้ลุงฟ่านเป็นคนจัดการ

ต่างจากพนักงานสาวที่นิ่งอึ้งไปแล้ว เนื่องจากการขายของแต่ละอย่างนั้น พนักงานคนไหนที่ขายได้ก็จะได้ห้าเปอร์เซ็นต์ของราคาขาย ยิ่งขายได้เยอะพนักงานก็จะได้เยอะตาม

โซนเสื้อผ้า

   (clothes)

“ยัยหงเอาผ้าด้วยไหม”

หยาดฟ้ารีบเดินเข้าไปในโซนเสื้อผ้า ที่มีม้วนผ้ารวมอยู่ด้วย

“แกดูสิ เนื้อผ้าแบบนี้ถ้าตัดออกมาแล้วคงจะใส่สบายมาก” หยาดฟ้ารีบหยิบม้วนผ้าตัวอย่างขึ้นมาให้เพื่อนสนิทดู

นอกจากจะบอกให้เหอเสี่ยวหงดู หยาดฟ้าก็เดินเลือกผ้ามาหลายร้อยม้วน รถเข็นที่เอามาห้าคันถึงกลับเต็ม ไม่ว่าจะเป็นม้วนผ้าสีชมพูอ่อน สีชมพูเข้ม สีชมพูพีท สีฟ้า สีส้ม สีม่วงอ่อน สีน้ำเงิน สีเทา สีขาวและสีดำ

ช่วงนี้ทางห้างมีโปรซื้อม้วนผ้าหนึ่งม้วนจะแถมด้ายที่สีเดียวกับผ้าให้อีกหนึ่ง ซึ่งเหอเสี่ยวหงยังขอซื้อมาเพิ่มอีกหนึ่งร้อยเพราะเธอคิดว่ามันจะไม่พอ และได้ซื้อไหมพรมมาด้วย

“มีขนมแนะนำไหม แบบเอาไว้กินตอนว่างงี้” เหอเสี่ยวหงถาม

หยาดฟ้าหันมามอง “มี แต่มันน่าจะอยู่อีกโซน” พอเห็นเหอเสี่ยวหงพยักหน้า หยาดฟ้าก็รีบลากเธอไปยังโซนขนม

โซนขนม

    (candy)

“ฉันเห็นว่าดาราเป็นพรีเซ็นเตอร์ขนมแบรนด์นี้เยอะมาก เห็นว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบกินขนมแต่รักสุขภาพ” หยาดฟ้าหยิบคุกกี้แบรนด์ดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ขึ้นมาให้ดู

“มีรสวานิลลา นม แล้วก็ช็อกโกแลต เอาทั้ง 3 รสก็ได้” เหอเสี่ยวหงบอก

หยาดฟ้าพยักหน้าแล้วหยิบกล่องคุกกี้ลงรถเข็น รสชาติละ 20 กล่อง ซึ่งมันเป็นกล่องใหญ่ที่สามารถกินได้หลายคน

“บราวนี่กรอบอันนี้ก็อร่อยนะ มีทั้งชาเขียว ชาเย็น แล้วก็ช็อกโกแลต เป็นแบรนด์เดียวกันกับคุกกี้เลย” หยาดฟ้าแนะนำ

“ทำไมแกรู้จัก” เหอเสี่ยวหงสงสัยจริง ๆ เพราะหยาดฟ้าก็ตัวติดกับเธอแทบจะตลอดเวลา เอาเวลาไหนไปหาขนมแบรนด์ไหนอร่อย ใครเป็นพรีเซ็นเตอร์

หยาดฟ้าหัวเราะ “นี่ใคร หยาดฟ้าเชียวนะ ทางแบรนด์เขาเก่งการตลาดมากดึงดารา ไอดอลดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โฆษณา” และเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกการตลาดครอบงำ 

“แกก็จริง ๆ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า

จากนั้นทั้งสองก็เดินเลือกซื้อของอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตชิบ นมผง นมอัลมอนด์ นมอัดเม็ด และผงเวย์โปรตีน ก่อนจะพากันไปจ่ายเงิน

หยาดฟ้าขึ้นนั่งบนรถฝั่งคนขับเอ่ยถามเหอเสี่ยวหงที่นั่งข้างคนขับข้าง ๆ กัน “ไปร้านเครี่ป๊อปกันไหมยัยหง”

เหอเสี่ยวหงยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบนนาฬิาแล้วตอบ “ร้านเครี่ป๊อปไม่ปิดแล้วเหรอ”

เครี่ป๊อปเป็นร้านค้าขายส่ง – ขายปลีก ไม่ว่าเป็นธัญพืช ข้าวสาร แป้ง พวกของทำเบเกอรี่ พวกเครื่องปั่นน้ำผลไม้ เตาอบ ผักสดหรืออาหารสด ที่ร้านเครี่ป๊อปก็มี

“เนี่ยอีกครึ่งชั่งโมงก็ปิด เราไปถึงก็มีเวลาประมาณ 20 นาที ลูกค้าคนอื่นก็น่าจะกลับหมดแล้ว แกก็มีรายการของอยู่ไม่ใช่เหรอ เอาให้เขาจัดให้ก็ได้นี่ ไม่งั้นก็ให้เขาเอาไปส่งที่บ้านก็ได้” ถึงปากจะบอกแต่หยาดฟ้าก็ขับรถตรงไปที่ร้านแล้ว

เหอเสี่ยวหงทำได้เพียงส่ายหน้า เพราะต่อให้ปฏิเสธหยาดฟ้าก็พาเธอไปอยู่ดี

เครี่ป๊อป

ป้ายชื่อหน้าร้านเด่นหลาตั้งแต่ที่รถของหยาดฟ้ากับเธอยังไม่เข้าใกล้ร้านเลย ยิ่งพอจอดรถแล้วป้ายมันก็ใหญ่มาก

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะคุณเหอ สวัสดีค่ะคุณหยาด ไม่ได้เจอกันนานสวยขึ้นรึเปล่าคะ”

“สวัสดีค่ะผู้จัดการจิง เราเพิ่งเจอกันไม่ยังถึงสัปดาห์เลยค่ะ” หยาดฟ้าหัวเราะ

“แหม่ ผู้จัดการจิงคะ มาคุณหงคุณเหออะไรกันคะ เราคนกันเองทั้งนั้น เรียกเสี่ยวหงก็ได้ค่ะ” เหอเสี่ยวหงยิ้ม

เสวี่ยจิงเป็นผู้จัดการร้านเครี่ป๊อปที่เหอเสี่ยวหงกับหยาดฟ้ามาซื้อของทีไร ผู้จัดการจิงก็จะเป็นคนมาจัดการให้ เพราะเหอเสี่ยวหงจะซื้อของครั้งละมาก เรียกได้ว่าเธอเป็นลูกค้าคนสำคัญของร้านเลยก็ว่าได้

“คุณเหอต้องการซื้ออะไรคะ แต่ถ้าจำไม่ผิดเพิ่งจะซื้อกันไปไม่ใช่เหรอคะ” เสวี่ยจิงถาม เพราะปกติไม่เหอเสี่ยวหงก็หยาดฟ้าที่จะมาซื้อของทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน

“นี่เป็นรายการสินค้าที่ฉันต้องการค่ะ ถ้าเป็นไปได้พวกข้าวสารหรือธัญพืชฉันขอแยกเป็นถุงละ 1 ชั่งนะคะ” เหอเสี่ยวหงยื่นรายการของให้กับผู้จัดการจิง

“โอ้! เยอะขนาดนี้เลยเหรอคะ น่าจะใช้เวลานานเลยค่ะ เพราะพนักงานบางคนพักกันแล้ว” เสวี่ยจิงบอกลูกค้า

“ไม่มีปัญหาค่ะ เอาใส่รถด้านนอกได้เลย”

“ดิฉันขออนุญาตทบทวนรายการที่สั่งนะคะ มีข้าวสาลี ข้าวฟ่าง 300 ชั่ง ข้าวโพดดิบ 100 ชั่ง แป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า แป้งมันเทศ แป้งข้าวโพด แป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้ก 50 ชั่ง น้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลกรวด เกลือ อย่างละ 50 ถุง เนยจืด เนยเค็ม 20 กระปุก ตระกูลถั่วชนิดละ 30 ชั่ง ไข่ไก่ ไข่เป็ดอย่างละ 100 แผง ฟองเต้าหู้ สาหร่าย เห็ดหูหนู เก๋ากี้ พุทราแห้ง 50 ชั่ง พูดถูกไหมคะ? อยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยค่ะหรือถ้าอยากเดินดูก็สามารถเดินได้เลยค่ะ ดิฉันเพิ่มเวลาปิดร้านให้” เสวี่ยจิงยิ้ม

ในเมื่อลูกค้ารายใหญ่ของร้านมาหาถึงที่ มีเหตุผลอะไรที่ต้องไล่ลูกค้าด้วย อีกทั้งต่อให้ร้านปิดช้าพนักงานทุกคนก็ได้เงินเพิ่มอีกด้วย

รถเข็นจำนวนสี่คันถูกเข็นตามหลังเหอเสี่ยวหงที่เดินเลือกซื้อของ และโซนแรกที่เธอได้เดินไปคือโซนเครื่องปรุงเพราะยังไม่ได้เขียนลงในรายการ

“เอารสดี ผงชูรส ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำปลา น้ำมัน กะทิ แป้งทอดกรอบ แล้วก็เอาซอสอะไรก็ได้ผสมกัน”

เหอเสี่ยวหงหันไปสั่งลุงฟ่านกับคนงานในสวน ที่ตามมาช่วยให้หยิบใส่รถเข็นแต่เธอก็ช่วยด้วย เครื่องปรุงพวกนี้เป็นของนำเข้าจากประเทศไทยที่เธอชอบมาก

“ได้ครับคุณเหอ”

ครืน ครืน

“ยัยหงคุณนายเหอโทรมาอีกแล้ว”

หยาดฟ้าเรียกเหอเสี่ยวหงที่ช่วยคนงานหยิบของใส่รถเข็น และที่ต้องติดต่อผ่านหยาดฟ้าก็เพราะถูกเหอเสี่ยวหงบล็อกช่องทางการติดต่อ

“เฮ้อ” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจ

ที่เธอไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัวของเธอในชาตินี้ก็เพราะเธอรู้ว่าตัวเองต้องกลับไปในที่ที่จากมา อีกอย่างถ้าเธอให้ความช่วยเหลือตลอดทุกคนก็จะเคยตัว

“แล้วจะรับสายไหม” หยาดฟ้ามองบน เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพ่อแม่ของเพื่อนสนิทเธอถึงเป็นแบบนี้ 

“รับก็ได้” เหอเสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะรับโทรศัพท์จากหยาดฟ้ามาแนบหู

ถึงเธอจะไม่ค่อยยุ่งกับครอบครัว แต่ทุกเดือนเหอเสี่ยวหงก็จะกินข้าวด้วยเดือนละ 2-3 ครั้ง แต่ช่วงนี้มันใกล้หมดเวลาจึงยุ่งมาก ก็เลยไม่ได้ไปหา

“คุณแม่มีอะไรคะ”

(แกอยู่ไหน!) เสียงตะคอกผ่านโทรศัพท์ทำให้เหอเสี่ยวหงต้องยกโทรศัพท์ออกจากหู

“หนูมาซื้อของกับหยาดฟ้าแล้วก็คนงานในสวนค่ะ”

(อะไร? แกลืมนัดของฉันไปแล้วหรือยังไง)

“แม่คะ หนูไม่ว่างเลยค่ะช่วงนี้ หนูก็บอกแม่ไปแล้ว”

(แต่ฉันเป็นแม่แกนะ!)

เหอเสี่ยวหงเงียบก่อนจะกดตัดสายเพราะไม่ต้องการจะทะเลาะ พอดีกับหยิบของใส่รถเข็นครบจึงส่งโทรศัพท์คืนหยาดฟ้า

“ตามหงมาทางนี้ค่ะลุงฟ่าน”

“เอาปลากระป๋อง ทูน่า กระเทียมดอง มาม่าแล้วก็โจ๊กค่ะ”

“แกรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ฉันจะไปหาเดินดูของสักหน่อย” หยาดฟ้าไม่รอให้เหอเสี่ยวหงตอบก็รีบเข็นรถเข็นที่ว่างไปทันที

“อ้าว” เหอเสี่ยวหงยืนงง

“คุณเหอครับ ลุงจะเอาของไปไว้ที่จ่ายเงินนะครับ จะไปเอารถเข็นคันใหม่มาด้วย” ลุงฟ่านรีบสะกิดบอก

“ได้ค่ะ หงจะเดินดูรอบ ๆ นี้”

“โอเคครับ ไป ๆ เอาของไปจ่ายเงิน” ลุงฟ่านหันไปบอกลูกน้องที่ตามมา

เหอเสี่ยวหงมองลุงฟ่านกับลูกน้องที่ตามมาช่วยกันเข็นรถเข็นไปจนสุดสายตา “เฮ้อ เมื่อไหร่จะได้กลับไปกันนะ” เมื่ออยู่คนเดียวเหอเสี่ยวหงก็น้ำตาไหล

จากลูกจากสามีมาหลายสิบปีเธอย่อมคิดถึง ไม่รู้ว่าลูกสาว หลานสาว พี่สะใภ้ พี่เขย

 สามีของเธอจะเป็นยังไงกันบ้าง แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เหอเสี่ยวหงสำนึกผิดแล้ว เธอเสียลูกจึงขาดสติ

“ยัยหงงงง ฉันมาแล้ววว” เสียงของหยาดฟ้าตะโกนมาตั้งแต่ยังไม่ถึง

เหอเสี่ยวหงรีบเช็ดน้ำตาแล้วส่ายหน้าให้กับหยาดฟ้า ที่เรียกซื้อของมาเต็มรถเข็น

“ยัยฟ้า แกไปเอาอะไรมาเยอะขนาดนั้น” เหอเสี่ยวหงตกใจ

“นิดเดียว ๆ “ หยาดฟ้าหัวเราะ

“ของพวกนี้เอาไว้ชงกินตอนเช้า ไม่ก็ทำเป็นน้ำหวานให้คนในบ้านดื่ม ฉันคิดว่าแกคงทำได้ และแกก็ชอบมากไม่ใช่เหรอ” หยาดฟ้าอธิบาย อีกอย่างของที่ซื้อก็เป็นของที่เพื่อนสาวดื่มเป็นประจำ

“อืม เอาไปจ่ายเงินกันเถอะ เลยเวลานานแล้ว” เหอเสี่ยวหงว่าหลังยกนาฬิกาขึ้นดู

“ได้ ๆ เดี๋ยวต้องแวะไปเอา ขนมจีบ ซาลาเปาอีก” หยาดฟ้าตอบกลับเพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเธอสั่งซาลาเปากับขนมจีบไว้

“เดี๋ยวลุงเข็นไปเองครับ” ลุงฟ่านที่กลับมาถึงพอดีรีบเดินเข้ามาเข็นรถเข็นช่วยเจ้านาย

“ฝากด้วยค่ะ”

“คุณเหอมาซื้อของเยอะมากเลยค่ะรอบนี้” ผู้จัดการเสวี่ยยิ้มกว้าง

แน่นอนว่าหากมีลูกค้าซื้อของครั้งละมาก ทางพนักงานที่รับผิดชอบหน้าที่คิดเงินก็จะได้รับเปอร์เซ็นต์จากการขายด้วย จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะเห็นพนักงานรีบเดินมาคิดเงิน

เหอสี่ยวหงยิ้มแต่ไม่ได้ตอบ เธอยื่นบัตรเครดิตให้กับหยาดฟ้าที่ยื่นมือมา ไม่ต้องถามก็รู้ว่าจะเอาอะไร

“แล้วก็เอาของโซนนั้นด้วยนะคะ เอาไปส่งไว้ที่โกดังเลย” เหอเสี่ยวหงชี้บอก

“ได้ค่ะ”

“คุณลุงกลับก่อนเลยค่ะ หงกับยัยฟ้าจะไปทำธุระกันต่อ”

ระหว่างรอจ่ายเงินเหอเสี่ยวหงก็หันไปบอกลุงคนสนิทที่มาช่วยซื้อของ จริง ๆ ก็แทบจะตลอดทุกครั้งที่เหอเสี่ยวหงมาซื้อของ คุณลุงจะเป็นคนมาช่วยยกของขึ้นรถ

“ได้ครับ เดี๋ยวลุงจะเอาไปไว้ที่โกดังให้”

“ค่ะ”

18.53 น.

เหอเสี่ยวหงมองหยาดฟ้าที่ต่อสายหาเจ้าของร้านซาลาเปารายใหญ่ประจำอำเภอ จริง ๆ ของที่ต้องมารับถูกนัดไว้หกโมงเย็น แต่พวกเธอมาสาย

“เฮียบอกเตรียมซาลาเปายังไม่เสร็จ แต่ก็ใกล้แล้ว ถ้าเราเสร็จแล้วให้ไปรอที่ร้านก่อนได้ หรือจะไปนั่งคาเฟ่แถวนั้นรอ” หยาดฟ้าหันมาบอกหลังรับสายเสร็จ

“ได้หมด” เหอเสี่ยวหงไม่ปฏิเสธ

‘เฮ้อ วันนี้ขายของไม่หมดอีกแล้ว’

 ‘อืม ตอนนี้กลางเดือนคนคงจะวุ่นวายกันอยู่ คงจะไม่ว่างกัน’

‘แต่ฉันเสียดายของนี่คะ’

‘เสียดายเหมือนกันแต่จะให้ทำยังไง’

‘เฮ้อ’

กรุ๊งกริ๊ง

“เอ๊ะ! สวัสดีค่ะ คุณลูกค้าต้องการอะไรคะ ทางร้านยินดีต้อนรับค่ะ”

ทันทีที่มีเสียงเปิดประตู พนักงานร้านที่กำลังนั่งคุยกันรีบเดินมาหาเหอเสี่ยวหงที่เดินเข้าร้าน ตามด้วยหยาดฟ้า

“ฉันเอาทุกอย่างที่มีค่ะ ช่วยใส่กล่องแยกให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงบอก

“คะ?” พนักงานงุนงง

“อ๋อ ได้ค่ะ ๆๆๆ” พนักงานอีกคนที่ได้สติก่อนเพื่อนรีบตอบแล้วลากเพื่อนร่วมงานไปเอาเค้กใส่กล่อง

19.34 น.

เหอเสี่ยวหงมองเวลาในโทรศัพท์ในมือแล้วถอนหายใจออกมา วันนี้พวกเธอกลับบ้านดึกอีกแล้ว ก่อนจะเงยหน้ามามองพนักงานที่เดินมาหา

“แฮ่ก แฮ่ก ขออภัยคุณลูกค้าด้วยนะคะที่ให้รอนาน พอดีเมนูมีเยอะและมีพนักในร้านแค่สองคน” พนักงานสองคนที่มีอยู่ในร้านต้องช่วยกันยกเค้กใส่กล่องจำนวนมาก ไหนจะพวกขนมหวานที่มีในร้านอีก

หยาดฟ้ายื่นบัตรเครดิตให้พนักงานอย่างรู้งาน ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้คืนเพื่อนเพราะต้องซื้อของต่ออีก

“ที่นี่รับทำเค้กก้อนเล็กไหมคะ” เหอเสี่ยวหงถาม

“ที่ร้านรับทำทุกออเดอร์ค่ะ”

“ฉันสั่งเค้กมะพราวอ่อน 500 ก้อน ไปส่งที่สวนสกุลเหอให้เลยค่ะ”

“ได้ค่ะ!”

“อาฟ้า อาหง อั๊วทำตั้งแต่เมื่อคืนเลยนะ! เพิ่งจะเสร็จ” อานเฮียเจ้าของร้านซาลาเปาบอก

หลังจากเอาเค้กใส่มิติเพราะจะได้ประหยัดพื้นที่ในรถและกลัวจะไม่มีที่ใส่ซาลาเปา หยาดฟ้าก็รีบพาตรงมาที่ร้านทันที

“โชคดีนะคะที่เสร็จทัน!”

“ซาลาเปาอั๊วแบ่งใส่กล่องให้แล้ว กล่องละ 4 ลูก 5,000 กล่อง ส่วนขนมจีบใส่กล่องละ 50 ลูก 200 กล่อง อั๊วใส่ตามที่ลื้อบอก”

“ขอบคุณค่ะเฮีย”

“ขอบคุณค่ะ”

“คนกันเอง ๆ พวกลื้อก็มาซื้อของไปเลี้ยงเด็ก ๆ บ่อย”

เหอเสี่ยวหงมองคนงานที่ช่วยกันยกทั้งซาลาเปา ทั้งขนมจีบขึ้นรถให้ ก่อนจะรีบจ่ายเงินแล้วไปช่วยคนงานยกขึ้นรถ ยิ่งเสร็จเร็วพวกเธอก็จะได้กลับเร็วขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่3 ถึงเวลาแล้ว

    03.21 น.ผ่านมาแล้วเก้าวันหลังจากที่เหอเสี่ยวหงไปซื้อของมา ของที่สั่งก็ทยอยเข้ามาส่งจนใกล้จะครบ และเหอเสี่ยวหงก็เก็บใส่มิติหมดแล้ว วันนี้ยังมีโยเกิร์ต นมสด และผ้าขนหนูอัดเม็ด ที่คาดว่าจะมาส่งอีกเพียงวันเดียวเหอเสี่ยวหงก็จะได้กลับไปในที่ที่ได้จากมาแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้เหล่าลูกสาวจะเป็นยังไงกันบ้าง ถ้าถามว่าเธอรู้ได้ยังไงว่าจะได้กลับไป ก็ต้องบอกว่าก่อนที่จะมาเกิดใหม่เหอเสี่ยวหงได้เจอกับคน ๆ หนึ่ง ที่บอกเธอไว้ว่าจะได้เกิดใหม่ แต่เมื่อถึงเวลาหรือก็คือเมื่อไหร่ที่เหอเสี่ยวหงครบสามสิบปี เธอจะได้กลับไปยังที่ที่ได้จากมา เพื่อชดใช้ให้กับสามีและลูกสาวที่เธอทิ้งมาครืน ครืนเสียงโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้นมาในวลาที่เหอเสี่ยวหงกำลังอาบน้ำอยู่ คงจะเป็นหยาดฟ้าที่โทรมาเรียกเพราะพวกเธอนัดกันไปซื้อของสดที่ตลาดเช้าวันนี้ ทำให้ต้องตื่นตั้งแต่เช้าหรือเรียกได้ว่าก่อนไก่ขัน อันที่จริงทั้งสองอาศัยอยู่ด้วยกัน หยาดฟ้าจะเดินมาเคาะห้องเธอก็ได้ แต่เวลานี้คงจะไม่เหมาะก๊อก! ก๊อก!“ยัยหงงงง” เสียงตะโกนจากหยาดฟ้าดังเข้ามาในห้องอาบน้ำหลังเหอเสี่ยวหงไม่ยอมรับสาย“แปปหนึ่ง! ฉันอาบน้ำก่อน” เหอเสี่ยวหง

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่4 ปี1960

    บ้านรองโจว‘ถุย! นังสะใภ้อกตัญญู ออกมาไปทำงานเดี๋ยวนี้นะ!’ เสียงนางหลี่ซื่อ แม่เลี้ยงของสามีดังขึ้น‘คุณย่าคะ แม่ฉันเพิ่งแท้งน้อง ให้คุณแม่พักเถอะนะคะ ฮือๆๆ’ เสียงโจวเอ้อร์นีลูกสาวคนโตของเธอร้อง ทำให้เหอเสี่ยวหงรู้สึกตัวทันทีตุ้บ ตุ้บ‘คุณแม่! อย่าตีหลานเลยนะคะ ฮือออ สะใภ้รองเพิ่งแท้งลูก คุณแม่อย่าใจร้ายกับหล่อนเลย’‘หน๊อยย เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!’‘เกิดอะไรขึ้น!!’‘น้องสามี!’ ‘โจวมี่!’ ‘คุณอาเล็ก!!’ภายในห้องเสียงวุ่นวายข้างนอกทำให้เหอเสี่ยวหงลืมตาขึ้นมองทันที เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นลูกสาวอีกสามคนซุกตัวอยู่ข้างๆเตียงเตาของเธอ ตรงกันมีลูกสาวของสะใภ้ใหญ่เหอหรงหรงหรือก็คือลูกพี่ลูกน้องของเธอเองเหอเสี่ยวหงยิ้มทันที! หล่อนได้กลับมาหาลูกๆของหล่อนแล้ว! เหอเสี่ยวหงค่อยๆเอามือประกบท้องทันทีที่พยายามลุกขึ้นเพราะหล่อนเพิ่งแท้งลูกจึงทำให้เจ็บท้อง“ซะ...ซานนี” เหอเสี่ยวหงเอ่ยเรียกลูกสาวคนรองที่กำลังนั่งกอดน้องสาวอีกสองคน“แม่!” โจวซานนีตะโกนทันทีที่เห็นแม่ของหล่อนตื่นนอกห้อง“ลูกสาวสามมาที่นี่มีอะไรหรอจ๊ะ” นางหลี่ซื่อเอ่ยถามที่นางหลี่ซื่อพูดดีกับโจวมี่ก็เพราะหล่อนยังมีประโยชน์ต่อพวกนางยังไงละ!

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่5 เริ่มต้นใหม่

    หลังจากแยกบ้านวันนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้ว เหอเสี่ยวหงในตอนนี้ก็กำลังบำรุงร่างกายเพราะเพิ่งแท้งลูกและยืนนานเกินไปตกดึกจึงปวดท้องทำให้ล้มนอนอีกครั้ง‘พี่สะใภ้ใหญ่’‘อ้าว น้องสาวสามตื่นแล้วเหรอ’‘ใช่ค่ะ เสี่ยวจวี่ร้องไห้งอแงน่ะค่ะ’เสียงทักทายของพี่สะใภ้และน้องสาวสามีดังขึ้นข้างนอกห้องของเหอเสี่ยวหงเนื่องจากบ้านหลังนี้มี 8 ห้องนอน เหอเสี่ยวหงเลือกเอา 3 ห้อง เหอหรงหรงก็เลือกเอา 3 ห้อง โจวมี่เลือก 1 ห้อง มันจึงเหลือ 1 ห้อง ทั้งสามจึงตกลงกันว่าจะทำเป็นห้องครัว ส่วนห้องครัวเก่าก็จะทำเป็นห้องเก็บฟืนบ้านหลังนี้อยู่ติดกับคลองน้ำที่ชาวบ้านใช้ แต่บ้านหลังนี้อยู่ต้นน้ำและมีกำแพงอ้อมสูง 2 เมตร ลานหน้าบ้านนั้นมีต้นไม้ต้นใหญ่ 2 ต้น ใต้ต้นไม้จะมีโต๊ะและเก้าอี้อยู่ 2-3 ตัวข้างบ้านด้านขวาจะมีห้องครัวเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นห้องเก็บฟืน กับมีบ่อน้ำที่มีไม่กี่บ่อในหมู่บ้าน ส่วนด้านหลังนั้นจะเป็นแปลงผักกับเล้าไก่เก่าภายในตัวบ้านจะคล้ายครึ่งวงกลม เมื่อเปิดประตูทางซ้ายจะเป็นห้องครัว ถัดจากห้องครัว 2 ห้อง จะเป็นห้องของเหอหรงหรง ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องตรงข้ามกับประตู ข้างๆกันจะมีอีกห้องที่ยกให้โจวมี่ และทางด้าน

    Last Updated : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่6 นำของไปบำรุงลูกสาว

    หลังจากที่เหอเสี่ยวหงขายไข่ไก่ให้คุณป้าคนนั้นแล้วเหอเสี่ยวหงก็ยังขายสบู่ในราคาก้อนละ 3 หยวน และเอาผลไม้อย่างอื่นออกมาขายอีกเล็กน้อยก็ได้เงินทั้งหมด 51 หยวน 8 เฟิน! เป็นเงินเดือนสามีของเธอเกือบ 2 เดือน!แม้นิยายในปี2022 ที่เหอเสี่ยวเคยอ่านหลาย ๆ เรื่องจะเห็นว่ามาขายครั้งหนึ่งได้เป็นร้อย ๆ หยวนก็ตาม แต่นี่คือชีวิตจริง! หากเธอจะขายของได้เป็นร้อย ๆ หยวนคงต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง! เพราะแค่นี้เธอก็ขายของ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ และเธอคงจะฝืนร่างกายเหนื่อยอยู่หรอก! กว่าจะปั่นจักรยานกลับบ้านอีก!เมื่อขายของเสร็จแล้วเหอเสี่ยวหงก็ปั่นจักรยานมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าในอำเภอและเข้าไปดูของข้างใน แต่เพราะมันเป็นช่วงปลายเดือน ของจึงยังไม่มาเติม และหากของมาเติม ไม่ถึงวันก็ไม่น่าพอเพราะของน้อยมาก ตอนนี้ของน้อยชนิดที่ว่าเหลืออันละไม่เกิน 3 ชิ้น!‘แบบนี้ฉันจะเอาอะไรกลับไปให้บ้านใหญ่กับโจวมี่เล่า’ เหอเสี่ยวหงคิดในใจ ที่เธอจะไม่เอาของในมิติให้ก็เพราะไม่อยากให้ทั้งสองสงสัยว่าเอาของมาจากไหนในเวลาที่ของหายากแบบนี้ ‘งั้นเอาแอปเปิลให้สัก 2 ลูกก็ได้’ เหอเสี่ยวหงตอบตัวเองในใจ เหอเสี่ยวหงที่ขี่จักรยานออกจากห้างสรรพ

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่7 แบ่งของ

    “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”เหอเสี่ยวหงหันไปมองตามเสียงก็เห็นสะใภ้ใหญ่เดินออกมา ตามมาด้วยลูกสาวคนโตอย่างโจวต้าหงหรือโจวต้านีวัย 9 ขวบที่จับมือน้องสาวคนรองอย่างโจวซือหงหรือโจวซือนีเด็กน้อยวัย 7 ขวบ ออกมาด้วยส่วนลูกสาวคนเล็กวัยสามขวบของบ้านใหญ่อย่างโจวมู่หงหรือโจวมู่นีนั้นเหอเสี่ยวหงไม่เห็น อาจจะยังนอนอยู่ก็ได้“พี่สะใภ้มาพอดีเลยช่วยฉันขนของหน่อยค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก“ได้จ้ะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ!/หนูช่วยค่ะ!”เป็นโจวต้านีกับโจซือนีบอกพร้อมกับเดินมาช่วยทุกคนขนของเข้าไปในบ้าน เพราะคนบังคับเกวียนวัวเป็นผู้ชาย เหอเสี่ยวหงจึงไม่ได้ให้เขาเอาเกวียนเข้าไปในบ้านส่วนเหอเสี่ยวหงนั้นเมื่อทุกคนขนของเข้าไปข้างในทั้งหมดและอาศัยช่วงเงลาที่คนบังคับเกวียนนั่งพักเอาแรง ก็นำผ้านวมที่พับซีลใส่ถุงสูญกาศออกมาแล้วทำเป็นหยิบจากเกวียนเข้าไปในบ้าน“โอ้! สะใภ้รอง เธอได้ผ้านวมมาจากไหนน่ะ! ผืนใหญ่มาก” สะใภ้ใหญ่อุทานตาโตตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนกันยายนแน่นอนว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นฤดูหนาว ที่เหอเสี่ยวหงเอาออกมาตอนนี้ทั้ง ๆ ยังไม่ถึงฤดูที่ต้องใช้ก็เพราะมันยังหาง่ายอยู่ยังไงล่ะ!หากเข้าสู่ช่วงหนาวแล้วทุกบ้า

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่8 บำรุงลูกสาว

    หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว เหอเสี่ยวหงจึงได้กินแผ่นแป้งเย็นที่ลูกสาวเหลือไว้ให้สองแผ่นพาลูกสาวทั้งสี่คนไปอาบน้ำแล้วไล่เข้าห้องไป รวมถึงโจวลิ่วนีที่เธอให้ เด็กๆอยู่ด้วยกันก่อน จุดเทียนไว้ 3 เล่ม แล้วบอกให้เด็กๆระวังเปลวไฟจากนั้นจึงมาจุดเตาไฟที่มีฟืนและถ่านยังแดงร้อนอยู่เล็กน้อย ใส่ฟืนและพัดให้ไฟลุกจะได้ทำอาหารไว้กินพรุ่งนี้เช้า เหอเสี่ยวหงนำรากผักชีในมิติออกมาผัดใส่พริกไทยในน้ำมันเล็กน้อยผัดให้เครื่องหอมแล้วเทน้ำใส่ไปเกือบเต็มหม้อ ใส่ผงปรุงรส เกลือ ซีอิ๊ว คนให้ละลายจากนั้นนำกระดูกหมูที่มีเนื้อติดใส่ลงไป 2 ชั่ง แล้วปิดฝาไว้ทิ้งไว้ เนื่องจากมันมีถ่านจากการปิ้งแผ่นแป้งอยู่แล้วบวกกับใส่ฟืนลงไป คืนนี้จึงไม่ต้องลุกมาใส่ฟืนอีกพรุ่งนี้เหอเสี่ยวหงจะใส่อย่างอื่นเพิ่มแล้วก็จะหุงข้าวกินกับน้ำซุปกระดูกหมูที่ได้ต้มไปหันไปอีกเตาที่ยังไม่ได้จุดไฟ เหอเสี่ยวหงได้ย้ายไฟจากอีกเตามาใส่และใส่เชื้อเพลิงลงไปทำให้ไฟลุกขึ้น หยิบหม้อตักน้ำใส่ต้มให้สุก แล้วเหอเสี่ยวหงนำน้ำต้มสุกใส่กระติกน้ำร้อนไว้ พรุ่งนี้เธอจะได้ผสมกับนมให้เด็กๆดื่มถ้าไปต้มพรุ่งนี้เช้า คงจะไม่ทันเพราะมี 2 เตา และ 3 บ้าน กว่าจะทำอาหาร

    Last Updated : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.1 เข้าป่า

    ป่าทางด้านตะวันออกเป็นป่าที่ชาวบ้านเข้าไปเก็บผักป่าและหาฟืน เหอเสี่ยวหงที่พ่วงลูกสาวมาด้วยสามคนจึงต้องเข้าไปป่าที่ชาวบ้านเข้ามา เพราะเธอไม่สามารถที่จะดูแลลูกสาวคนเดียวได้เวลาแปดโมงเช้าเป็นเวลาที่ชาวบ้านในหมู่บ้านลงแปลงนากันแล้ว ยกเว้นบ้านที่มีแม่ให้กำเนิดลูกที่อยู่ไฟกับคนแก่ชราที่ไม่ได้ลงแปลงนา บางคนอาจอยู่บ้าน บางคนก็จะเข้ามาเก็บฟืน ทำให้เหอเสี่ยวหงเห็นคนเดินเข้าออกไม่กี่คน“พวกหนูเก็บเศษไม้ตรงนี้นะจ๊ะ แม่จะหาฟืนตรงนั้น ถ้ามีอะไรให้ตะโกนเรียกเสียงดัง ๆ นะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงชี้บอกลูกสาวตรงที่เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวว่าจะไปเก็บฟืนไม่ได้ห่างจากตรงที่จะเก็บเศษไม้มากนักแต่เหอเสี่ยวหงก็ห่วงลูกสาว“ได้ค่าาา” เป็นโจวซานนีที่ตอบ“เอ้อร์นีจ๊ะ ดูแลน้องด้วยนะลูก” เหอเสี่ยวหงหันไปหาลูกสาวคนโต“ได้ค่ะ!” โจวเอ้อร์นีรับคำ“แม่วางตะกร้าไว้ตรงนี้ ถ้าเหนื่อยก็พาน้องนั่งนะลูก” เหอเสี่ยวหงพูดต่อเด็กทั้งสามคนจึงพยักหน้ารับทราบคำที่แม่บอก พร้อมทั้งพากันเดินเก็บเศษไม้มาใส่เถาวัลย์ที่หาเจอเมื่อกี้กันเหอเสี่ยวหงมองแล้วจึงเดินไปตรงที่จะเก็บฟืน เธอจะเก็บวันละ 1-2 มัดก็พอ กว่าจะถึงฤดูหนาวฟืนก็น่าจะเยอะแล้ว และรอแปล

    Last Updated : 2025-02-17
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.2 เข้าป่า

    เหอเสี่ยวหงถือจานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และขวดเก็บอุณหภูมิไปวางไว้บนหัวเตียงเตา แล้วยืนมองเด็กๆเขียน“อู๋นีจ๊ะ บรรทัดนี้ขีดมากไปจ้ะ” เหอเสี่ยวหงชี้ให้ดูโจวอู๋นีพยักหน้า‘ลิ่วนีขีดเล็กไปจ้ะ’‘ซานนีหนูลืมคำนี้”‘เอ้อร์นีเขียนถูกแล้วจ้ะ แต่ตัวใหญ่เกินไป’‘อู๋นี หนูเขียนสลับกัน’‘ลบตรงนี้ออก’‘เขียนตัวนี้แบบนี้นะ’‘มันมีสามขีดจ้ะ’‘เขียนใหม่เลยจ้ะ หนูเขียนสลับอีกแล้ว’‘ถูกแล้วจ้ะ’เสียงเหอเสี่ยวหงที่ชี้ตรงที่ผิดให้เด็ก ๆ ดูดังต่อเนื่องมาเกือบชั่วโมงแล้ว “พักกันก่อนนะจ๊ะ”เหอเสี่ยงหงบอก เด็ก ๆ จึงวางปากกาลงและปิดหนังสือเอาไว้“ผลไม้ 9 ชนิดนี้มีรสเปรี้ยวอมหวาน กินแค่รองท้องนะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงยกจานมาให้“แม่ มันหวานมากค่ะ” โจวเอ้อร์นีตาโต“มันเปรี้ยวมาก!” โจวซือนีหลับตา“อย่ากินลูกเขียวสิ” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาว“อร่อยไหมจ๊ะ” ก่อนที่จะหันมาป้อนลูกสาวคนเล็กโจวลิ่วนีพยักหน้าแต่ไม่พูดเพราะผลไม้เต็มปากอยู่“แม่จะไปดูหม้อสักหน่อย กินเสร็จแล้วพาน้องไปล้างมือแล้วก็ไปปลดทุกข์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วแม่จะมาสอนต่อ” เหอเสี่ยวหงหันหลังมาบอกก่อนจะออกจากห้องหน่อไม้ที่เหอเสี่ยวหงต้มนั้นจืดแล้ว เมื่อนำลงจากเตาก็

    Last Updated : 2025-02-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 64 คนงาน

    เหอเสี่ยวหงไล่อ่านรายการบนกระดาษที่จดสิ่งจำเป็นที่ต้องซื้อ เธอจะซื้อของมาไว้ใช้ทำกับข้าวระหว่างที่ยังอยู่ที่หมู่บ้าน และของบางส่วนที่จะให้คนงานกินเหอเสี่ยวหงคุยกับโจวเหวินหลงเรื่องการถอนหญ้าออกจากที่ดิน เพราะตอนที่เข้าไปดูนั้นหญ้าสูงมาก ก่อนจะล้อมรั้วไว้จึงอยากให้ถอนหญ้าออกให้หมด ป้องกันสัตว์ที่จะเข้ามาอยู่อาศัยได้ไม่น้อยก็มาก“เดี๋ยวก่อนจะออกไปซื้อของ เราไปหาเลขาธิการหม่าก่อนนะคะ” เหอเสี่ยวหงบอก“หือ?”“ก็ให้เลขาธิการหม่าหาคนงานให้เราไงคะ” เหอเสี่ยวงหงตอบสามี“ได้”เพราะไม่รู้ว่าถ้าหาเองพวกเธอจะได้คนงานหรือเปล่า เห็นหลายคนเข้าแปลงนาของตัวเองกันหมด อีกอย่างค่าแรงคนงานเท่าไรก็ไม่รู้ สู้ให้เลขาธิการหม่าหาให้จบ ๆ เพราะยังไงเขาคงไม่เอาคนงานที่ทำงานไม่ได้มาให้พวกเธอหรอก“งั้นเราไปกันเลยดีกว่าค่ะ”เหอเสี่ยวหงล็อกบ้านก่อนจะเอารถยนต์ออกมาจากมิติ ตั้งแต่ที่มาถึงหมู่บ้านมันก็ถูกเก็บใส่มิติไว้ ถ้าไม่ออกไปซื้อของมันก็ไม่ได้ออกมาอยู่ข้างนอกแน่ ๆโจวเหวินหลงขับรถไปที่บ้านเลขาธิการหมู่บ้านตามที่ภรรยาบอก เอ่ยสิ่งที่ต้องการไปไม่กี่คำอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับรู้แล้ว เหอเสี่ยวหงรออยู่บนรถ โจวเหวินหลงลงไปบอก

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 63 ซื้อที่เพิ่ม

    เหอเสี่ยวหงมองชาวบ้านถกเถียงเรื่องเข้ามหาวิทยาลัยของลูกสาวตนเองด้วยสายตาว่างเปล่า เมื่อไม่นานมานี้ยังต่อว่าเธอกับสามีเรื่องขายลูกสาวกินอยู่เลย“ไป ๆ จะไปไหนก็ไป ฉันจะคุยกับหลานชายฉัน” ย่าโจวเอ่ยไล่ชาวบ้านที่เข้ามามุงหลายสิบคน‘แต่โจวเหวินหลงก็เป็นหลานชายของพวกเรานะคะแม่’‘นั่นสิ นาน ๆ เขากลับมาบ้านพวกเราก็อยากจะถามไถ่’‘ใช่ ๆ’‘อีกอย่างมหาวิทยาลัยอะไรที่หลานสาวเข้า พวกเราก็ยังไม่รู้เลย’‘เข้าจริงหรือเปล่า’'ค่าใช้จ่ายไม่น้อยเลย''ใช่'‘ใช่ จะไล่พวกเราไปไม่ได้นะ’และทุกคนยังปฏิเสธที่จะจากไป ทุกครั้งที่มีเรื่องอะไรพวกเขาก็ต้องรู้เรื่องด้วยทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ทุกคนในหมู่บ้านก็รู้เรื่องกันทั้งนั้น“จะไปไหนก็ไป” ย่าโจวเอ่ยอีกรอบชาวบ้านที่มามุงมองหน้ากันไปมา ไม่มีใครกล้ามีปัญหากับย่าโจวเพราะนางมีลูกหลานเยอะ อีกอย่างในหมู่บ้านโจว สกุลโจวก็ใหญ่ที่สุด แทบจะหมดหมู่บ้านอยู่แล้วหากมีปัญหากับย่าโจวก็เท่ากับมีปัญหากับทั้งสกุลโจว ย่าโจวในตอนนี้นับว่าเป็นผู้อาวุโสที่สุดในสกุล ‘ไปก็ได้จ้ะ’‘ฉันไปแล้ว’‘ไป ๆ’‘ฉันลืมว่าหุงข้าวไว้ คงจะต้องกลับไปดู’‘น้ำคงจะเต็มนาแล้ว’‘ใช่’‘ใคร

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 62 ขายลูกสาว

    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว แต่เหอเสี่ยวหงกับโจวเหวินหลงที่นอนพักอยู่ในบ้านก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะมีคนมาเรียกเสียงดัง เหอเสี่ยวหงมองหน้าสามีก่อนจะดูนาฬิกาที่เอาติดมาด้วย พบว่าตอนนี้ประมาณสี่โมงเย็น และหากมองออกไปข้างนอกก็ยังมีแสงส่องเข้ามา“เดี๋ยวผมออกไปดูก่อน” โจวเหวินหลงบอกเหอเสี่ยวหงพยักหน้าลุกขึ้นมาแต่งตัว เพราะชุดที่ใส่ในตอนนี้ไม่ได้เรียบร้อย หากออกไปคนอาจจะมองไม่ดี‘เปิดบ้านหน่อยสิ’‘ฉันมาถามข่าวหลานชาย’‘เห็นขับรถคันใหญ่ คงจะรวยสินะ !’‘ใช่ หลายคนเห็นนายขับรถยนต์มา’‘ฉันอยากดูรถ’‘ขอเข้าไปดูรถหน่อย‘ทำไมไม่เปิดล่ะ’‘ใช่ ๆ’‘น้องชายแกอยากคุยด้วย!’‘หลานชายมาทั้งทีเราก็อยากมาถาม’‘ใช่แล้ว’‘ให้อาเข้าไปหน่อย’‘เปิดสิ’‘เอ๊ะ!’ระหว่างที่เหอเสี่ยวหงเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็ได้ยินเสียงวุ่นวายข้างนอก เธอไม่รู้ว่าเป็นใครบ้างเพราะจำเสียงไม่ได้ อีกอย่างอีกฝ่ายก็ไม่ได้สำคัญให้เธอจดจำ และใส่ใจ“มีอะไร”เหอเสี่ยวหงออกมาดูหน้าบ้านเพราะยังได้ยินเสียงโต้ตอบกันอยู่ โจวเหวินหลงก็ยืนอยู่แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ทั้งนั้น“สะใภ้รอง!” ผู้หญิงแก่ ๆ คนหนึ่งเรียกเธอ“ใครน่ะ” เหอเสี

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 61 บ้านเกิด

    ระหว่างที่ต้องรอเครื่องนอน เหอเสี่ยวหงกับโจวเหวินหลงก็นั่งพักคุยกัน จริง ๆ ทั้งสองคนปรึกษากันว่าจะออกไปเดินดูข้างนอกว่ามีอะไรบ้าง แต่ก็จะรอเครื่องนอนมาส่งก่อน เพราะถ้าเกิดเอามาส่งในตอนที่ไม่อยู่จะได้ไม่ต้องไปเอาเองเพราะไม่มีของอะไรมาเลยยกเว้นใบชากับขนมของเด็ก ๆ เหอเสี่ยวหงจึงคิดที่จะหาของไปฝากที่บ้านฝั่งสามี แม้จะต้องเสียเงินมากพอสมควรก็ตาม เพราะบ้านฝั่งสามีมีมากกว่าสิบบ้าน และหากว่าไม่มีอะไรไปฝากเลย โจวเหวินหลงก็จะถูกมองไม่ดี แม้เหอเสี่ยวหงจะเคยไปในอนาคต ที่แม้จะเคารพแต่ก็ไม่ถึงกับต้องเอาของมาฝาก แต่มารยาทก็สำคัญเช่นกันพวกเธอจากหมู่บ้านโจวไปหลายสิบปี หากจะให้มือเปล่ากลับบ้านคงจะถูกคนมอง และเหอเสี่ยวหงก็ยังไว้หน้าบ้านฝั่งสามีด้วยประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็มีพนักงานเอาเครื่องนอนกับกุญแจห้องมาให้ เวลาจะออกไปไหนจะได้ล็อกห้องไว้ และถ้าจะคืนห้องต้องเอากุญแจไปคืนเหอเสี่ยวยืนฟังข้อห้ามของทางห้องพักอยู่ครู่หนึ่ง หลังพนักงานเอาเครื่องนอนกับกุญแจมาให้ จริง ๆ มันต้องจ่ายมัดจำค่ากุญแจไว้สองหยวนด้วยเผื่อไม่เอามาคืน แต่เพราะต้องรอเครื่องนอนอยู่นานจึงได้มาฟรี และเหอเสี่ยวหงก็คิดว่ามันดีมาก“งั้นเราออ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 60 กลับบ้านเกิด

    ระยะเวลาเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมาตั้งแต่ย้ายมาที่ฉงชิ่ง เหอเสี่ยวหงไม่ค่อยกลับไปที่บ้านเกิดเลย และมีเพียงโจวเหวินหลงเท่านั้นที่กลับไปบ่อย เพราะเหอเสี่ยวหงคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องเดินทางหลายวันเพื่อกลับไปอยู่ที่นู่น ไม่รู้ว่าจะต้องกลับไปทำไมในเมื่อลูกสาวก็อยู่ที่นี่ แต่เพราะเธอจากบ้านมาหลายปีแล้ว ลูกสาวก็แยกย้ายกันไปเรียน ที่ร้านก็ยังมีพนักงานดูแล หากกลับไปดูบ้านไม่กี่วันคงจะไม่เป็นไรหลังจากหลายวันก่อนที่เหอเสี่ยวหงไปหาหลานสาวเธอจึงคุยกับโจวเหวินหลงเรื่องนี้ ในตอนแรกเขาไม่เห็นด้วย เพราะการเดินทางไปหลายวันทำให้เขาห่วงร้าน แต่เหอเสี่ยวหงก็หาวิธีมาตะล่อมให้เขาพากลับบ้านเกิดจนได้โดยการกลับบ้านในครั้งนี้โจวเหวินหลงขับรถเอง ไม่ขึ้นรถไฟเหมือนทุกครั้งที่กลับไปหาน้องสาว เพราะครั้งนี้มีคนเป็นภรรยาไปด้วยเขาจึงกลัวเธอเหนื่อย เหอเสี่ยวหงบอกเรื่องนี้กับครอบครัวเหอแล้ว และทุกคนอยากไปด้วย แต่เพราะอาสามกับอาสี่นั้นกำลังยุ่ง ๆ เรื่องที่จะลาออกจากกองทัพจึงไปไม่ได้ ส่วนสะใภ้ใหญ่นั้นจะต้องไปดูลูกสาวคนโตจึงไปด้วยไม่ได้เพราะฉะนั้นการกลับบ้านเกิดในครั้งนี้ จึงมีเพียงเหอเสี่ยวหงกับโจวเหวินหลงเท่านั้น เหอเสี่ยวหง

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 59 โจวต้านี

    เหอเสี่ยวหงนั่งคุยกับหลานสาวอยู่ครู่หนึ่ง โจวเหวินหลงก็เดินกลับเข้ามาทักหลานสาวที่นั่งคุยกับคนเป็นภรรยาอยู่“ต้านี”“อารอง” โจวต้านียิ้มเกือบ ๆ สองปีได้แล้วที่หล่อนไม่ได้เจออาชายคนนี้ ในตอนที่หล่อนแต่งออกมานั้นมีเพียงพ่อกับแม่ของหล่อนที่มาส่งที่บ้านสามี ส่วนครอบครัวอารองติดงานและดูแลในส่วนของบ้านรองวันนี้หล่อนกำลังเย็บเสื้อให้ลูกในท้องที่ยังไม่คลอด โดยมีป้าสะใภ้ใหญ่ที่ไม่ต้องทำงานอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อน พอได้ยินจากปากป้าสะใภ้ว่ามีคนเป็นอามาหาหล่อนจึงรีบออกมา“เป็นยังไงบ้าง” โจวเหวินหลงถามหลานสาว“ช่วงนี้หนูหยุดงานน่ะค่ะ เพราะท้องโตแล้ว” หล่อนตอบโจวต้านีเป็นหลานสะใภ้คนเล็กของบ้าน โดยที่ตั้งแต่หล่อนแต่งเข้ามาหล่อนก็ทำงานในห้างสรรพสินค้ามาตลอด เพิ่งจะหยุดอยู่บ้านเมื่อช่วงตั้งครรภ์เข้าเดือนที่หก จริง ๆ แล้วหล่อนต้องทำงานต่ออีกสองเดือน เพราะยังไม่ใกล้คลอดแต่หล่อนกลับลาออกจากงานไปเลยไหน ๆ แล้วครอบครัวของหล่อนก็แยกออกจากบ้านใหญ่แล้ว เพียงแต่อาศัยอยู่ในชายคาเดียวกันเฉย ๆ คนอื่นต่อให้ไม่พอใจก็ไม่มีสิทธิ์มาคัดค้าน และสามีของหล่อนก็เห็นด้วย เขาสามารถหาเงินเลี้ยงหล่อนกับลูกได้“อยู่ที่นี่สบายดี

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 58 ก้าวเท้าออกจากบ้าน

    เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวต้องแยกจากกันไกล แต่การแยกกันครั้งนี้ไม่ใช่แยกจากกันไปเลย เพียงแต่แยกย้ายกันมีสังคมใหม่ ๆ ในอนาคตข้างหน้าในตอนที่เข้าเรียนระดับประถม เด็ก ๆ ยังแค่ไปเรียนที่เดียวกัน พักด้วยกัน และในวันหยุดยังกลับมาที่บ้านได้ แต่ในรอบนี้คงจะกลับมาบ่อย ๆ ไม่ได้เพราะต้องไปเรียนต่างถิ่นเหอเสี่ยวหงไม่ได้ไปส่งลูกสาวที่มหาวิทยาลัยสักคน เพราะแต่ละคนนั้นไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกัน เหอเสี่ยวหงกลัวว่าหากไปส่งคนใดคนหนึ่งที่เหลือก็อาจน้อยใจได้ ถึงแม้สาว ๆ จะไม่พูดก็ตามแต่สำหรับอู๋นีกับคนที่เรียนมหาวิทยาลัยฉงชิ่ง โจวเหวินหลงขับรถไปส่งเองส่วนเหอเสี่ยวหงก็กำชับทุกคนให้ส่งจดหมายมาที่ร้านหากถึงที่หมายแล้ว และเธอก็ยังเตรียมของให้ลูกสาวหลายอย่าง ผ้านวมที่หนา เสื้อผ้า ยาและของใช้ส่วนตัว พวกของกินจะตามไปที่หลังหากส่งที่อยู่มาให้ เพราะเหอเสี่ยวหงคิดว่ามันจะลำบากเกินไปถ้าเอาไปด้วยในตอนที่ยังไม่ได้ที่พักสำหรับหลาน ๆ เหอเสี่ยวหงเตรียมยาให้ เพราะของอย่างอื่นที่บ้านของหลานคงเตรียมไว้ให้แล้ว ส่วนผ้านวมเหอเสี่ยวหงมีไม่พอให้หลานจึงไม่ได้เอาให้ ยกเว้นเสี่ยวยวี่ที่ได้เหมือนเหล่าลูกสาวของเธอทุกอย่างตอ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 57 ตัดสินใจ

    เหอเสี่ยวหงรู้สึกตัวขึ้นเมื่อได้กลิ่นสมุนไพร เธอลืมตาขึ้นมาก็เห็นลูกสาวยื่นสมุนไพรมาให้ดม เหอเสี่ยวหงพยุงตัวเองขึ้นโดยที่มีเอ้อร์นีคอยช่วย“แม่เป็นยังไงบ้างคะ” เอ้อร์นีถามเสียงสั่นหลังจากที่น้องสาวคนเล็กของหล่อนอธิบายถึงข้อความในจดหมายตอบรับมหาวิทยาลัยทุกคนก็อึ้งกันทั้งหมด ทุกคนรู้ว่าลิ่วนีนั้นเรียนเก่ง แต่ไม่รู้ว่าหล่อนจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่ง และมหาวิทยาลัยก็ยังเลือกหล่อน แต่อึ้งได้ไม่นานก็ต้องตกใจเพราะคนเป็นแม่หมดสติไป“แม่ไม่เป็นอะไรแล้วจ้ะ” เหอเสี่ยวหงตอบทั้งที่ยังหน้าซีด“ไปหาหมอกันเถอะค่ะ” ซานนีว่าแม่ของพวกหล่อนหมดสติไปเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าตกใจผลสอบของลิ่วนี หรือเป็นอะไรถึงได้หมดสติไปนานขนาดนั้น ที่ไม่ได้พาไปหาหมอตั้งแต่แรกเลยก็เพราะรอดูอาการ หากมันไม่หนักมาก อีกอย่างก็ไม่มีรถด้วย“ไม่ต้องหรอก” เหอเสี่ยวหงปฏิเสธ“แต่แม่คะ”“แม่ไม่ได้เป็นอะไร”“งั้นแม่นอนพักเถอะค่ะ หนูกับน้อง ๆ จะลงไปช่วยคนอื่นข้างล่าง” เอ้อร์นีว่าพลางพยุงคนเป็นแม่ให้นอนลงเหอเสี่ยวหงรู้สึกตัวอีกทีก็มืดแล้ว เธอได้ยินเสียงดังจากข้างนอก ลูกสาวคงพากันทำกับข้าวมื้อเย็น ตอนนี้เสื้อผ้าที่เธอใส่อยู่เป็

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 56 คะแนนสอบเกาเข่า

    วันนี้เป็นวันที่เหอเสี่ยวหงได้ยินจากโจวเหวินหลงว่าผลคะแนนสอบเกาเข่าจะออก เหอเสี่ยวหงจึงสั่งปิดร้านแต่สำหรับใครที่จองห้องไว้แล้วก็มาได้ปกติ ส่วนขนมไข่ที่สั่งจองไว้ล่วงหน้าตอนเช้าจนถึงกลางวันสามารถมารับได้เลย ในส่วนของตอนบ่ายถ้าไม่มารับถือว่าสละสิทธิ์ไปรับพรุ่งนี้ ซึ่งเธอแจ้งไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว และลูกค้าทุกคนรับทราบกันดีในช่วงเช้าของวันจดหมายแจ้งผลคะแนนสอบเกาเข่าก็มาส่ง และทุกคนก็ยังไม่ได้เปิดอ่าน เพราะต้องทำงานที่ค้างไว้ให้เสร็จ แม้จะตื่นเต้นมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งในตอนเช้าทุกคนช่วยกันทำขนมไข่ ตัดให้เท่ากันและบรรจุใส่ถุงรอคนที่สั่งมารับ และจดหมายทั้งหมดเหอเสี่ยวหงเป็นคนเก็บไว้ เพราะเด็ก ๆ ต้องการให้มาส่งไว้ที่นี่ลูกค้าที่เคยมากินประจำในช่วงเช้าต่างชะโงกหน้าเข้ามามอง แต่เพราะมีป้ายติดไว้หน้าร้านว่าปิดร้านจึงไม่มีคนเดินเข้ามา และบางคนถึงกับเดินเข้ามาถามพนักงานที่อยู่หน้าร้านว่าป้ายบอกว่าปิดร้านแต่ทำไมยังมีคนเข้าไปดื่มชาได้ ซึ่งพนักงานก็ตอบตามที่เหอเสี่ยวหงบอกให้ตอบนั้นก็คือ ใครที่สั่งจองไว้ล่วงหน้าเวลาร้านปิดก็มาได้ปกติ ยกเว้นวันหยุดที่เหอเสี่ยวหงหยุดให้ทุกคน“อีกกี่ชิ้นจ๊ะซานนี” เหอเสี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status