Share

บทที่4 ปี1960

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-14 02:45:10

บ้านรองโจว

‘ถุย! นังสะใภ้อกตัญญู ออกมาไปทำงานเดี๋ยวนี้นะ!’ เสียงนางหลี่ซื่อ แม่เลี้ยงของสามีดังขึ้น

‘คุณย่าคะ แม่ฉันเพิ่งแท้งน้อง ให้คุณแม่พักเถอะนะคะ ฮือๆๆ’ เสียงโจวเอ้อร์นีลูกสาวคนโตของเธอร้อง ทำให้เหอเสี่ยวหงรู้สึกตัวทันที

ตุ้บ ตุ้บ

‘คุณแม่! อย่าตีหลานเลยนะคะ ฮือออ สะใภ้รองเพิ่งแท้งลูก คุณแม่อย่าใจร้ายกับหล่อนเลย’

‘หน๊อยย เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ!’

‘เกิดอะไรขึ้น!!’

‘น้องสามี!’ ‘โจวมี่!’ ‘คุณอาเล็ก!!’

ภายในห้อง

เสียงวุ่นวายข้างนอกทำให้เหอเสี่ยวหงลืมตาขึ้นมองทันที เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นลูกสาวอีกสามคนซุกตัวอยู่ข้างๆเตียงเตาของเธอ ตรงกันมีลูกสาวของสะใภ้ใหญ่เหอหรงหรงหรือก็คือลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง

เหอเสี่ยวหงยิ้มทันที! หล่อนได้กลับมาหาลูกๆของหล่อนแล้ว! เหอเสี่ยวหงค่อยๆเอามือประกบท้องทันทีที่พยายามลุกขึ้นเพราะหล่อนเพิ่งแท้งลูกจึงทำให้เจ็บท้อง

“ซะ...ซานนี” เหอเสี่ยวหงเอ่ยเรียกลูกสาวคนรองที่กำลังนั่งกอดน้องสาวอีกสองคน

“แม่!” โจวซานนีตะโกนทันทีที่เห็นแม่ของหล่อนตื่น

นอกห้อง

“ลูกสาวสามมาที่นี่มีอะไรหรอจ๊ะ” นางหลี่ซื่อเอ่ยถาม

ที่นางหลี่ซื่อพูดดีกับโจวมี่ก็เพราะหล่อนยังมีประโยชน์ต่อพวกนางยังไงละ!

โจวมี่ทำงานในโรงงานเย็บผ้า เงินเดือนเดือนละ 18 หยวน ส่งมาที่บ้านเดือนละ 3 หยวน บางทีก็จะส่งนม เนื้อหมู ไข่ มาให้ หล่อนจึงพูดดีด้วย

“ฉันหย่ากับสามีแล้วน่ะค่ะ เลยกลับมา”

โจวมี่เอ่ยเสียงเบา เพราะหล่อนก็รู้ว่าแม่เลี้ยงคนใหม่ทำดีกับหล่อนเพราะอะไร แต่เพราะหล่อนไม่มีทางเลือก หล่อนที่เพิ่งหย่ากับสามีจึงได้พาลูกสาวคนโต

ที่อายุ 6 ขวบ และลูกสาวคนเล็กอีกไม่กี่อาทิตย์จะ 2 เดือน กลับบ้านเดิมของหล่อน

ที่จริงแล้วไม่มีใครกล้าหย่าหรอก หากเพราะหล่อนไม่มีลูกชายให้ทางบ้านสามีเพราะแต่งเข้าไป 6-7 ปีแล้ว มีแค่ลูกสาว 2 คน จึงถูกบังคับหย่า เพราะพี่ชายคนโตที่เป็นทหารได้รับบาดเจ็บยังไม่ทันได้กลับมาบ้าน พี่ชายคนรองที่ถูกส่งตัวไปทำงานที่มณฑลอื่นอีก จึงทำให้บ้านหลี่ไม่เกรงกลัวบ้านเดิมของหล่อน

สามีของหล่อนมีความสัมพันธ์ลับๆกับลูกสาวหัวหน้าแผนกของนาง! ทำให้นางไม่มีทางเลือกจึงเซ็นใบหย่า หากนางอยู่ในบ้านหลี่ต่อแล้วถูกไล่ออกจากที่ทำงานมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ!

“อะไรนะ! แล้วแกจะกลับมาทำไม!!” นางหลี่ซือตกใจ

เพราะปกติเวลาลูกสามคนที่สามของสามีกลับบ้านเดิมก็ไม่ค่อยได้เอาอะไรมา และมาแปปเดียวก็กลับไม่ได้พาลูกสาวมาด้วยหล่อนจึงถาม

“แม่ แต่นี้บ้านเดิมฉันนะ” โจวมี่ตอบ

“ไม่ได้!! แกจะไปอยู่ไหนก็ไปเลยนะ! บ้านนี้น้องชายสี่ของแกเป็นเจ้าบ้าน! หลานสาวแกจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนที่ป้าหย่ากับสามีแล้วกับบ้านเดิม!!” นางหลี่ซือไม่ยอม

หากพ่อโจวยังอยู่อย่าคิดเลยว่านางหลี่ซือจะมีอำนาจขนาดนี้ในบ้าน!

เดิมทีพ่อโจวเป็นลูกชายคนที่สองของครอบครัวโจว พ่อโจวมีลูกชายทั้งหมด 3 คน ลูกสาว 1 คน มีลูกกับภรรยาคนแรก 3 คน คือ

ลูกชายคนโต โจวจือหยวน ปีนี้อายุ 29 ปี เป็นทหาร แต่งงานแล้วมีลูกสาว 3 คน

ลูกชายคนรอง โจวเหวินหลง ปีนี้อายุ 26 ปี เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงงานเย็บผ้าที่โจวมี่ทำงานอยู่ แต่งงานแล้วมีลูกสาว 4 คน

ลูกสาวคนที่สาม ลูกสาวคนเดียวคือโจวมี่ อายุ 23 ปี หล่อนทำงานในโรงงานเย็บผ้าและแต่งออกไปแล้ว 7 ปีก่อน

คนสุดท้ายคือลูกชายของนางหลี่ซือ ชื่อ โจวกว่าง แต่งงานแล้วมี ลูกสาว 1 คน ลูกชาย 2 คน

นางหลี่ซือเป็นลูกสาวของพี่ชายของแม่คุณพ่อโจว หรือก็คือ นางกับสามีเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน!! ตอนสามีอยู่ นางก็มีอำนาจแต่มันไม่เหมือนตอนนี้ แต่ก่อนลูกสะใภ้ทั้งสองไม่ต้องลงแปลงนา มีแต่นางกับสามีที่ต้องลง นางเครียดแค้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงต้องไปบอกแม่สามีเพราะแม่สามีคิดมาตลอดว่าที่ได้แต่งงานกับพ่อของพ่อโจวก็เพราะพี่ชายของนาง! จึงไม่กล้าขัดใจหลานสาวที่เป็นลูกสะใภ้ในตอนนี้ ทำให้นางไม่ต้องลงแปลงนา

เมื่อสองเดือนก่อนพ่อโจวป่วยและจากไปทำให้ชีวิตของสองสะใภ้และลูกสาวเปลี่ยนไป! เพราะโจวจือหยวนที่บาดเจ็บไม่รู้จะได้กลับมาตอนไหน กับ โจวเหวินหลงที่ถูกย้ายไปทำงานมณฑลอื่นไม่ส่งเงินกลับมา!

จากแผ่นแป้งที่ได้กินวันละ 3-4 แผ่น ตอนนี้ได้กินวันละแผ่น อย่าพูดถึงไข่ที่ได้กินอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ก็ไม่ได้กิน! ต้องลงแปลงนา ซักผ้า ล้างจ้าน ทำอาหารให้นางหลี่ซือกับบ้านสามนั่งกินนอนกิน!

ทำไมสองสะใภ้ไม่ไปบอกย่าโจว? ก็เพราะยิ่งไปบอกยิ่งไม่ได้กินอะไรเลยนะสิ! ย่าโจวตามใจลูกสะใภ้คนนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไหนเลยจะฟังหลานสะใภ้ที่เจอกันแค่ช่วงมีเทศกาล!!

ยิ่งบ้านใหญ่ บ้านรอง มีแต่หลานสาวให้ ไหนเลยจะดีกว่าบ้านสามที่มีลูกชายสองคน!!

“ถ้าพี่ชายฉันอยู่ แม่คิดว่าจะเป็นยังไงคะ!” โจวมี่เริ่มมีปากเสียง

ตอนที่พี่ชายอยู่แม่เลี้ยงคนนี้แทบจะอุ้มนางเดินไปไหนมาไหนด้วย พอพี่ชายไม่อยู่กลับไล่นางออกจากบ้าน หลานสาวของหล่อนเพิ่งจะ 2 ขวบ กว่าจะโต จะมีใครจะจำได้อีก เดิมทีหล่อนคิดว่าจะจ้างเลี้ยงลูกหล่อน ตอนนี้หล่อนไม่อยากจ้างเลี้ยงแล้ว!!

“เธอคิดว่าพี่ชายเธอจะกลับมาอยู่เหรอหึ! ลูกเมียอยู่นี่แต่ไม่ส่งเงินมา ให้ฉันเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียให้ จะให้เลี้ยงแกกับลูกอีกเหรอฝันไปเถอะ!” นางหลี่ซือแค่นหัวเราะ

“ฉันส่งเงินมาให้ทุกเดือนแม่ยังว่าฉันเป็นภาระอีกเหรอ” ถึงแม้หล่อนจะไม่ใช่ลูกแท้ๆแต่นางก็เลี้ยงหล่อนมาจนโต ย่อมผูกพันธ์กับนาง

“ใช่! ออกไปเลยนะ!” นางหลี่ซือเริ่มไล่

“งั้นพวกเราแยกบ้านกันเถอะค่ะ!!”

“ฮือออ แม่!!”

“สะใภ้รอง!!”

“พี่สะใภ้!”

เสียงร้องของหลายคนร้องดังขึ้นเพราะเห็นเหอเสี่ยวหงออกมา หล่อนเพิ่งแท้งลูกเมื่อคืนจึงไม่รู้สึกตัว

“หึ คิดว่าฉันอยากเลี้ยงแกมากหรือไง!”

 นางหลี่ซือบอกเมื่อเห็นเหอเสี่ยวหงเดินออกจากห้องโดยมีโจวต้านีลูกสาวของบ้านใหญ่และโจวซานนีลูกสาวคนรองของหล่อนประคองหล่อนออกมา ตามหลังมาก็คือลูกสาวบ้านใหญ่และบ้านรองที่เหลือ

“งั้นคุณแม่ก็แยกบ้านเถอะค่ะ เราจะได้ไม่เป็นภาระของคุณแม่ ต้านีไปเรียกเลขาธิการมา!” เหอเสี่ยวหงบอกแม่เลี้ยงก่อนจะหันไปบอกหลานสาว

“ได้ค่ะ!” ต้านีบอกก่อนจะวิ่งออกจากบ้านไป

“เธอจะอกตัญญูกับฉันเหรอ!” นางหลี่ซื่อเริ่มตื่นตระหนก

เธอมองนางหลี่ซืออย่างดูแคลน นางหลี่ซือนั้นหน้าเหมือนคุณแม่เหออย่างกับคนเดียวกัน!!

“ทำไมเหรอคะ สามีฉันไม่ใช่ลูกชายคุณ! ฉันต้องแท้งลูกเพราะทำงานให้พวกคุณ!” เหอเสี่ยวหงพูดเสียงดัง

ในเวลานี้คนอื่นในหน่วยคอมมูไปลงแปลงนาทำให้หมู่บ้านเงียบ เมื่อเหอเสี่ยวหงตะโกน คนบ้านอื่นที่ไม่ได้ลงแปลงนาก็เดินออกมาดูทันที อย่างย่าโจวก็เดินออกมาเช่นกัน!!

“สะใภ้รอง!!” นางหลี่ซือตะคอกกลับ

เพราะอีกไม่กี่วันการเก็บเกี่ยวฤดูนี้จะหมดลงแล้ว นางหลี่ซือกับบ้านสามที่ไม่ไปลงแปลงนาปล่อยให้บ้านใหญ่กับบ้านรองลงแปลงนารอส่วนแบ่งจากทั้งสองบ้านและจะไล่ทั้งสองบ้านออกจากบ้าน!!

หากแยกบ้านตอนนี้พวกหล่อนจะมีอะไรกิน!

“มีอะไรกันอาหลี่ซื่อ” เสียงย่าโจวเอ่ยถาม

“โถ่ คุณแม่คะ ฉันเลี้ยงอาใหญ่ อารอง อาสามมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นก็หนีหายไปหมด ทิ้งลูกเมียให้ฉันเลี้ยงพวกหล่อนกลับอกตัญญู ฮือออ” นางหลี่ซื่อเริ่มบีบน้ำตา

“พวกฉันจะแยกบ้านผิดตรงไหนคะ! สามีฉันไม่อยู่แล้วฉันจะอยู่ทำไม? ให้ฉันมาลงแปลงนาทำงานเลี้ยงบ้านสามงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!” เหอเสี่ยวหงแค่นยิ้ม

ย่าโจวยังไม่ทันได้อ้าปากด่าหลานสะใภ้ เหอเสี่ยวหงก็พูดแทรกทันที

“นี่มันเวรมันกรรมอะไรของฉัน!!” นางหลี่ซือรีบพูดออกมาเมื่อเห็นแม่สามียังไม่พูดอะไร

“แฮ่ก แฮ่ก มาแล้วค่ะอาสะใภ้รอง” โจวต้านีที่รีบวิ่งไปเรียกเลขาธิการหมู่บ้านจากแปลงนามาก็หอบทันที

“มาแล้วหรอ” เหอเสี่ยวหงยิ้มก่อนจะปรายตามองนางหลี่ซือ

ในเวลานี้ผู้ชายไม่มีใครอยู่บ้านเพราะต้องออกไปลงแปลงนาเก็บแต้ม รวมถึงน้องชายคนเล็กของสามีที่เรียนมัธยมปลายไม่จบสักทีอยู่ในอำเภอ! ส่วนน้องสะใภ้สามและลูกสาวนั้นก็อยู่กับน้องชายสามที่เช่าห้องของญาติสะใภ้สามอยู่

“คุณลุงหม่าคะ บ้านรองต้องการแยกบ้านค่ะ!” เหอเสี่ยวหงรีบบอก

ถึงแม้เธอจะบอกว่าพวกเธอจะแยกบ้านแต่ก็ไม่รู้ว่าเหอหรงหรงจะทำอย่างไรเพราะเธอไม่มีสิทธิ์ตัดสิน

“บ้านใหญ่ด้วยค่ะ!” เหอหรงหรงรีบบอก

เพราะหล่อนกับน้องสะใภ้รองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หากเหอเสี่ยวหงไม่อยู่หล่อนจะอยู่ทำไม!

“สะใภ้ใหญ่!!”

 ในเวลานี้นางหลี่ซื่อตกตะลึง เพราะพี่ชายใหญ่เป็นทหาร เงินเดือนหนึ่งจึงมาก หล่อนจะปล่อยเงินทิ้งได้อย่างไร!

“สะใภ้ใหญ่โจว สะใภ้รองโจวต้องการแยกบ้านหรอ” เลขาธิการหม่าเอ่ยถาม

“ใช่ค่ะ” เหอเสี่ยวหงตอบ

“ถ้าอย่างนั้นผมจะเขียนหนังสือแยกบ้านให้! พวกธัญพืชกับเงินมีเท่าไร” เลขาธิการหม่าว่าก่อนจะก้มลงเขียนหนังสือพร้อมกับถามต่อ

“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันไปเอาออกมาให้ค่ะ!!” เหอเสี่ยวหงบอกก่อนจะเดินเข้าห้องนางหลี่ซือไป

“เธอจะทำอะไร!! เปิดเดี๋ยวนี้นะ!” นางหลี่ซือรีบเดินไปจะเข้าห้อง แต่เหอเสี่ยวหงลงกลอนประตูไว้ก่อน

“เดี๋ยวฉันไปเอาธัญพืชมาเองค่ะ” เหอหรงหรงว่าก่อนจะเข้าครัว

ธัญพืชในครัวนั้นมีไม่เยอะเพราะนางหลี่ซือแยกไว้ในห้องจะเอาไปให้ครอบครัวลูกชาย จึงมีแค่ แป้งสาลี 3 ชั่ง แป้งมันเทศ 3 ชั่ง ถั่วเขียว 3  ชั่ง

ส่วนในห้องของนางหลี่ซือนั้นมี ข้าวขาว 15 ชั่ง แป้งสาลี 9 ชั่ง แป้งมันเทศ 12 ชั่ง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง อย่างละ 18 ชั่ง เงินอีก 2,379 หยวน!!

“หม้อในบ้าน มี 2 หม้อ บ้านใหญ่กับบ้านรองขอเอาไป 1 อันค่ะ! ” เหอเสี่ยวหงที่เรียกลูกสาวและหลานสาวเข้าไปขนของออกมาแล้วก็เข้าครัวไปเอาหม้อที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่ถึงปีมา 1 ใบ!

“ต่อจากนี้บ้านใหญ่ บ้านรอง บ้านสามโจวจะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน! ยากดีมีจน ทางใครทางมัน ไม่ต้องให้เงินตอบแทน! ข้าวขาวบ้านละ 5 ชั่ง แป้งสาลีบ้านละ 5 ชั่ง ถั่วเขียวบ้านละ 7 ชั่ง ถั่วเหลือง ถั่วแดงบ้านละ 18 ชั่ง!! เงินทั้งหมด 2,379 หยวน ได้บ้านละ 792 หยวน” เลขาธิการหม่าสรุปออกมา

“ไม่... ไม่ให้! ฉันไม่ให้!” นางหลี่ซือร้องออกมา

หล่อนจะเอาของไปให้กับครอบครัวลูกชายในอำเภอ ถ้าให้ของกับพวกสะใภ้พวกนี้ลูกชายหล่อนจะกินอะไร?

หล่อนจึงไม่ยอม หล่อนยังไม่ได้ไปแลกคูปองมาอีกด้วยซ้ำ ถ้าหล่อนให้เงินทั้งหมดไป หล่อนจะอยู่ไดัอีกกี่ปีกัน!

“คุณจะเอาอย่างไรครับ! ผมไม่มีเวลาขนาดนั้น” เลขาธิการหม่าเริ่มหงุดหงิดเพราะเขาต้องไปดูแปลงนาอีก

“ฉันกับพี่สะใภ้ใหญ่เซ็นเสร็จแล้วค่ะ” เหอเสี่ยวหงยื่นกระดาษให้เลขาธิการหม่า

“คะ....คุณแม่” นางหลี่ซือรีบเรียกย่าโจว

“อาหลี่ซะ...ซือ” ยังไม่ทันได้พูดอะไร ย่าโจวก็เจอสายตาของเหอเสี่ยวหงที่ทำให้ต้องหลบสายตา

“คุณโจว..” เลขาธิการหม่า

เมื่อถูกกดดัน นางหลี่ซือจึงทำได้เพียงปั๊มนิ้วลงบนกระดาษเพราะหล่อนไม่รู้หนังสือ

“ผมต้องไปแล้ว หนังสือสัญญามีสี่ฉบับ กับผม บ้านใหญ่ บ้านรอง บ้านสาม คนละฉบับ” พูดเสร็จก็เดินออกไปทันที

“สะใภ้รอง!!” ทันทีที่ย่าโจวเห็นหน้าลูกสะใภ้ที่ซีดเผือกก็หันไปจะจัดการกับเหอเสี่ยวหง

“คุณย่ามีอะไรหรือเปล่าคะ? ถ้าไม่มีฉันจะพาน้องสามีฉัน ไปเก็บของไปอยู่บ้านฉันแล้ว!!” เหอเสี่ยวหงบอก

บ้านที่เธอว่าก็คือบ้านเหอที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านเหอนั้นตอนนี้ไม่มีคนอยู่แล้วเพราะเมื่อสี่ปีก่อนถูกโจรปล้นฆ่าทั้งบ้าน ยังดีที่เหอเสี่ยวหงกับเหอหรงหรงนั้นแต่งออกมาแล้วจึงเหลือเพียงพวกเธอเท่านั้นที่เป็นคนบ้านเหอ

และเหอเสี่ยวหงกับเหอหรงหรงเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอยู่กับครอบครัวได้เพราะที่ตรงนั้นเป็นของบ้านเหอ!!

ย่าโจวตะลึง บ้านเหอนั้นเป็นบ้านที่มีฐานะระดับหนึ่ง หลานชายหลานสาวได้ร่ำเรียนทั้งหมดอย่างเหอเสี่ยวหงกับเหอหรงหรงนั้นก็เรียนจบมัธยปลาย!!

บ้านหลังนั้นเป็นบ้านปูน 8 ห้อง มีครัวข้างบ้านและมีบ่อน้ำข้างครัว! ไหนจะพื้นที่ปลูกผักเลี้ยงสัตว์ได้อีกเยอะ! โต๊ะ เตียงเตา ก็มีครบเพราะเหอเสี่ยวหงเคยให้โจวเหวินหลงกับพี่สามีอย่างโจวจือหยวนไปดูแลตลอดทุกเดือน!

แต่ก่อนบ้านรองโจวตอนพ่อสามียังอยู่ก็อยากจะไปอยู่ที่นั้นแต่นางหลี่ซือก็กลัวผีตระกูลเหอหากนางทำอะไรเหอเสี่ยวหงกับเหอหรงหรง!

“ฉันไปแล้วค่ะ!! พี่สะใภ้ใหญ่ไปเก็บของกันเถอะ! เราะจะกลับบ้านเรากัน! เอ้อร์นี ซานนี อู๋นี ลิ่วนี ไปกันเถอะลูก” บอกย่าโจวก่อนจะหันไปบอกเหอหรงหรงและหันมาคุยกับลูกสาว

บ้านเหอ

เหอเสี่ยวหงที่เก็บของเสร็จแล้วก็ขนของมาที่บ้านเหอไม่กี่รอบเพราะไม่มีของมากมายอะไร ก็มาเปิดบ้านก่อนเหอหรงหรง เพราะเหอเสี่ยวหงเห็นหลี่จวี่ หลานสาวคนเล็กวัยเกือบ 2 เดือนของสามีนั้นเริ่มจะร้องไห้เพราะหิวแล้ว

“โจวมี่ เธอพาหลานสาวเข้ามาก่อนเถอะ!” เหอเสี่ยวหงตะโกนเรียกน้องสาวสามีที่อยู่บนรถจักรยานหน้าบ้านให้เข้ามาบ้าน

“ได้ค่ะ!” โจวมี่พาลูกสาวทั้งสองคนเข้ามาในบ้าน

“เธอนั่งพักตรงนี้ก่อนนะ พี่ชายเธอเป็นคนทำขึ้นมาเลยนะ ฉันทำความสะอาดให้แล้วเดี๋ยวค่อยเข้าห้อง! ” เหอเสี่ยวหงบอก

“ขอบคุณมากค่ะ พี่สะใภ้รอง!” โจวมี่ยิ้ม

ของในบ้านหลังจากเกิดเรื่องหลายอย่างก็ใช้ไม่ได้แล้ว อย่างโต๊ะเหอเสี่ยวหงก็ให้สามีมาเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด เตียงเตาก็ก่อขึ้นใหม่ กำแพงห้องในบ้านก็ทำใหม่ทั้งหมด เรียกได้ว่าทำใหม่เกือบทั้งหมด! ถ้าถามว่าเอาเงินมาแต่ไหน แน่นอนว่าพวกเธอและสามีย่อมเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งและเข้ากองกลางส่วนหนึ่ง! และวันนี้ก็มาถึง วันที่พวกเธอเป็นอิสระ!

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่5 เริ่มต้นใหม่

    หลังจากแยกบ้านวันนี้ก็ผ่านมาสามวันแล้ว เหอเสี่ยวหงในตอนนี้ก็กำลังบำรุงร่างกายเพราะเพิ่งแท้งลูกและยืนนานเกินไปตกดึกจึงปวดท้องทำให้ล้มนอนอีกครั้ง‘พี่สะใภ้ใหญ่’‘อ้าว น้องสาวสามตื่นแล้วเหรอ’‘ใช่ค่ะ เสี่ยวจวี่ร้องไห้งอแงน่ะค่ะ’เสียงทักทายของพี่สะใภ้และน้องสาวสามีดังขึ้นข้างนอกห้องของเหอเสี่ยวหงเนื่องจากบ้านหลังนี้มี 8 ห้องนอน เหอเสี่ยวหงเลือกเอา 3 ห้อง เหอหรงหรงก็เลือกเอา 3 ห้อง โจวมี่เลือก 1 ห้อง มันจึงเหลือ 1 ห้อง ทั้งสามจึงตกลงกันว่าจะทำเป็นห้องครัว ส่วนห้องครัวเก่าก็จะทำเป็นห้องเก็บฟืนบ้านหลังนี้อยู่ติดกับคลองน้ำที่ชาวบ้านใช้ แต่บ้านหลังนี้อยู่ต้นน้ำและมีกำแพงอ้อมสูง 2 เมตร ลานหน้าบ้านนั้นมีต้นไม้ต้นใหญ่ 2 ต้น ใต้ต้นไม้จะมีโต๊ะและเก้าอี้อยู่ 2-3 ตัวข้างบ้านด้านขวาจะมีห้องครัวเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นห้องเก็บฟืน กับมีบ่อน้ำที่มีไม่กี่บ่อในหมู่บ้าน ส่วนด้านหลังนั้นจะเป็นแปลงผักกับเล้าไก่เก่าภายในตัวบ้านจะคล้ายครึ่งวงกลม เมื่อเปิดประตูทางซ้ายจะเป็นห้องครัว ถัดจากห้องครัว 2 ห้อง จะเป็นห้องของเหอหรงหรง ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องตรงข้ามกับประตู ข้างๆกันจะมีอีกห้องที่ยกให้โจวมี่ และทางด้าน

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-14
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่6 นำของไปบำรุงลูกสาว

    หลังจากที่เหอเสี่ยวหงขายไข่ไก่ให้คุณป้าคนนั้นแล้วเหอเสี่ยวหงก็ยังขายสบู่ในราคาก้อนละ 3 หยวน และเอาผลไม้อย่างอื่นออกมาขายอีกเล็กน้อยก็ได้เงินทั้งหมด 51 หยวน 8 เฟิน! เป็นเงินเดือนสามีของเธอเกือบ 2 เดือน!แม้นิยายในปี2022 ที่เหอเสี่ยวเคยอ่านหลาย ๆ เรื่องจะเห็นว่ามาขายครั้งหนึ่งได้เป็นร้อย ๆ หยวนก็ตาม แต่นี่คือชีวิตจริง! หากเธอจะขายของได้เป็นร้อย ๆ หยวนคงต้องใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง! เพราะแค่นี้เธอก็ขายของ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ และเธอคงจะฝืนร่างกายเหนื่อยอยู่หรอก! กว่าจะปั่นจักรยานกลับบ้านอีก!เมื่อขายของเสร็จแล้วเหอเสี่ยวหงก็ปั่นจักรยานมาจอดที่ห้างสรรพสินค้าในอำเภอและเข้าไปดูของข้างใน แต่เพราะมันเป็นช่วงปลายเดือน ของจึงยังไม่มาเติม และหากของมาเติม ไม่ถึงวันก็ไม่น่าพอเพราะของน้อยมาก ตอนนี้ของน้อยชนิดที่ว่าเหลืออันละไม่เกิน 3 ชิ้น!‘แบบนี้ฉันจะเอาอะไรกลับไปให้บ้านใหญ่กับโจวมี่เล่า’ เหอเสี่ยวหงคิดในใจ ที่เธอจะไม่เอาของในมิติให้ก็เพราะไม่อยากให้ทั้งสองสงสัยว่าเอาของมาจากไหนในเวลาที่ของหายากแบบนี้ ‘งั้นเอาแอปเปิลให้สัก 2 ลูกก็ได้’ เหอเสี่ยวหงตอบตัวเองในใจ เหอเสี่ยวหงที่ขี่จักรยานออกจากห้างสรรพ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่7 แบ่งของ

    “มีอะไรให้ฉันช่วยไหม”เหอเสี่ยวหงหันไปมองตามเสียงก็เห็นสะใภ้ใหญ่เดินออกมา ตามมาด้วยลูกสาวคนโตอย่างโจวต้าหงหรือโจวต้านีวัย 9 ขวบที่จับมือน้องสาวคนรองอย่างโจวซือหงหรือโจวซือนีเด็กน้อยวัย 7 ขวบ ออกมาด้วยส่วนลูกสาวคนเล็กวัยสามขวบของบ้านใหญ่อย่างโจวมู่หงหรือโจวมู่นีนั้นเหอเสี่ยวหงไม่เห็น อาจจะยังนอนอยู่ก็ได้“พี่สะใภ้มาพอดีเลยช่วยฉันขนของหน่อยค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก“ได้จ้ะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ“เดี๋ยวหนูช่วยค่ะ!/หนูช่วยค่ะ!”เป็นโจวต้านีกับโจซือนีบอกพร้อมกับเดินมาช่วยทุกคนขนของเข้าไปในบ้าน เพราะคนบังคับเกวียนวัวเป็นผู้ชาย เหอเสี่ยวหงจึงไม่ได้ให้เขาเอาเกวียนเข้าไปในบ้านส่วนเหอเสี่ยวหงนั้นเมื่อทุกคนขนของเข้าไปข้างในทั้งหมดและอาศัยช่วงเงลาที่คนบังคับเกวียนนั่งพักเอาแรง ก็นำผ้านวมที่พับซีลใส่ถุงสูญกาศออกมาแล้วทำเป็นหยิบจากเกวียนเข้าไปในบ้าน“โอ้! สะใภ้รอง เธอได้ผ้านวมมาจากไหนน่ะ! ผืนใหญ่มาก” สะใภ้ใหญ่อุทานตาโตตอนนี้เป็นช่วงกลางเดือนกันยายนแน่นอนว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเป็นฤดูหนาว ที่เหอเสี่ยวหงเอาออกมาตอนนี้ทั้ง ๆ ยังไม่ถึงฤดูที่ต้องใช้ก็เพราะมันยังหาง่ายอยู่ยังไงล่ะ!หากเข้าสู่ช่วงหนาวแล้วทุกบ้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่8 บำรุงลูกสาว

    หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว เหอเสี่ยวหงจึงได้กินแผ่นแป้งเย็นที่ลูกสาวเหลือไว้ให้สองแผ่นพาลูกสาวทั้งสี่คนไปอาบน้ำแล้วไล่เข้าห้องไป รวมถึงโจวลิ่วนีที่เธอให้ เด็กๆอยู่ด้วยกันก่อน จุดเทียนไว้ 3 เล่ม แล้วบอกให้เด็กๆระวังเปลวไฟจากนั้นจึงมาจุดเตาไฟที่มีฟืนและถ่านยังแดงร้อนอยู่เล็กน้อย ใส่ฟืนและพัดให้ไฟลุกจะได้ทำอาหารไว้กินพรุ่งนี้เช้า เหอเสี่ยวหงนำรากผักชีในมิติออกมาผัดใส่พริกไทยในน้ำมันเล็กน้อยผัดให้เครื่องหอมแล้วเทน้ำใส่ไปเกือบเต็มหม้อ ใส่ผงปรุงรส เกลือ ซีอิ๊ว คนให้ละลายจากนั้นนำกระดูกหมูที่มีเนื้อติดใส่ลงไป 2 ชั่ง แล้วปิดฝาไว้ทิ้งไว้ เนื่องจากมันมีถ่านจากการปิ้งแผ่นแป้งอยู่แล้วบวกกับใส่ฟืนลงไป คืนนี้จึงไม่ต้องลุกมาใส่ฟืนอีกพรุ่งนี้เหอเสี่ยวหงจะใส่อย่างอื่นเพิ่มแล้วก็จะหุงข้าวกินกับน้ำซุปกระดูกหมูที่ได้ต้มไปหันไปอีกเตาที่ยังไม่ได้จุดไฟ เหอเสี่ยวหงได้ย้ายไฟจากอีกเตามาใส่และใส่เชื้อเพลิงลงไปทำให้ไฟลุกขึ้น หยิบหม้อตักน้ำใส่ต้มให้สุก แล้วเหอเสี่ยวหงนำน้ำต้มสุกใส่กระติกน้ำร้อนไว้ พรุ่งนี้เธอจะได้ผสมกับนมให้เด็กๆดื่มถ้าไปต้มพรุ่งนี้เช้า คงจะไม่ทันเพราะมี 2 เตา และ 3 บ้าน กว่าจะทำอาหาร

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-16
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.1 เข้าป่า

    ป่าทางด้านตะวันออกเป็นป่าที่ชาวบ้านเข้าไปเก็บผักป่าและหาฟืน เหอเสี่ยวหงที่พ่วงลูกสาวมาด้วยสามคนจึงต้องเข้าไปป่าที่ชาวบ้านเข้ามา เพราะเธอไม่สามารถที่จะดูแลลูกสาวคนเดียวได้เวลาแปดโมงเช้าเป็นเวลาที่ชาวบ้านในหมู่บ้านลงแปลงนากันแล้ว ยกเว้นบ้านที่มีแม่ให้กำเนิดลูกที่อยู่ไฟกับคนแก่ชราที่ไม่ได้ลงแปลงนา บางคนอาจอยู่บ้าน บางคนก็จะเข้ามาเก็บฟืน ทำให้เหอเสี่ยวหงเห็นคนเดินเข้าออกไม่กี่คน“พวกหนูเก็บเศษไม้ตรงนี้นะจ๊ะ แม่จะหาฟืนตรงนั้น ถ้ามีอะไรให้ตะโกนเรียกเสียงดัง ๆ นะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงชี้บอกลูกสาวตรงที่เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวว่าจะไปเก็บฟืนไม่ได้ห่างจากตรงที่จะเก็บเศษไม้มากนักแต่เหอเสี่ยวหงก็ห่วงลูกสาว“ได้ค่าาา” เป็นโจวซานนีที่ตอบ“เอ้อร์นีจ๊ะ ดูแลน้องด้วยนะลูก” เหอเสี่ยวหงหันไปหาลูกสาวคนโต“ได้ค่ะ!” โจวเอ้อร์นีรับคำ“แม่วางตะกร้าไว้ตรงนี้ ถ้าเหนื่อยก็พาน้องนั่งนะลูก” เหอเสี่ยวหงพูดต่อเด็กทั้งสามคนจึงพยักหน้ารับทราบคำที่แม่บอก พร้อมทั้งพากันเดินเก็บเศษไม้มาใส่เถาวัลย์ที่หาเจอเมื่อกี้กันเหอเสี่ยวหงมองแล้วจึงเดินไปตรงที่จะเก็บฟืน เธอจะเก็บวันละ 1-2 มัดก็พอ กว่าจะถึงฤดูหนาวฟืนก็น่าจะเยอะแล้ว และรอแปล

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-17
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 9.2 เข้าป่า

    เหอเสี่ยวหงถือจานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่และขวดเก็บอุณหภูมิไปวางไว้บนหัวเตียงเตา แล้วยืนมองเด็กๆเขียน“อู๋นีจ๊ะ บรรทัดนี้ขีดมากไปจ้ะ” เหอเสี่ยวหงชี้ให้ดูโจวอู๋นีพยักหน้า‘ลิ่วนีขีดเล็กไปจ้ะ’‘ซานนีหนูลืมคำนี้”‘เอ้อร์นีเขียนถูกแล้วจ้ะ แต่ตัวใหญ่เกินไป’‘อู๋นี หนูเขียนสลับกัน’‘ลบตรงนี้ออก’‘เขียนตัวนี้แบบนี้นะ’‘มันมีสามขีดจ้ะ’‘เขียนใหม่เลยจ้ะ หนูเขียนสลับอีกแล้ว’‘ถูกแล้วจ้ะ’เสียงเหอเสี่ยวหงที่ชี้ตรงที่ผิดให้เด็ก ๆ ดูดังต่อเนื่องมาเกือบชั่วโมงแล้ว “พักกันก่อนนะจ๊ะ”เหอเสี่ยงหงบอก เด็ก ๆ จึงวางปากกาลงและปิดหนังสือเอาไว้“ผลไม้ 9 ชนิดนี้มีรสเปรี้ยวอมหวาน กินแค่รองท้องนะจ๊ะ” เหอเสี่ยวหงยกจานมาให้“แม่ มันหวานมากค่ะ” โจวเอ้อร์นีตาโต“มันเปรี้ยวมาก!” โจวซือนีหลับตา“อย่ากินลูกเขียวสิ” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาว“อร่อยไหมจ๊ะ” ก่อนที่จะหันมาป้อนลูกสาวคนเล็กโจวลิ่วนีพยักหน้าแต่ไม่พูดเพราะผลไม้เต็มปากอยู่“แม่จะไปดูหม้อสักหน่อย กินเสร็จแล้วพาน้องไปล้างมือแล้วก็ไปปลดทุกข์ให้เรียบร้อย เสร็จแล้วแม่จะมาสอนต่อ” เหอเสี่ยวหงหันหลังมาบอกก่อนจะออกจากห้องหน่อไม้ที่เหอเสี่ยวหงต้มนั้นจืดแล้ว เมื่อนำลงจากเตาก็

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-17
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่10 บัวหิมะ

    ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วและอีกไม่กี่วันที่โจวมี่จะต้องกลับเข้าไปทำงานในอำเภอ หนึ่งอาทิตย์มานี้ ช่วงเช้าทุกคนจะพากันไปเก็บฟืนมาไว้ใช้ ส่วนแปลงผักนั่นกำลังเตรียมดินอยู่จึงต้องพักในส่วนนี้ไปห้องครัวเก่าที่ตอนนี้กลายมาเป็นห้องเก็บฟืนนั้นมีขนาดกว้าง ไม่มีโต๊ะหรือเตียงในห้องจึงทำให้ห้องครัวกว้างมากฟืนที่อยู่ในห้องเก็บฟืนถูกฟันเป็นท่อนวางซ้อนกันจนเต็มไปหมด ระหว่างที่เข้าป่าไปเก็บฟืน เหอเสี่ยวหงยังได้โสมคนอีกหลายร้อยต้น ยังมีเห็ดหลินจืออีกหลายร้อยดอกเช่นเดียวกันเห็ดหลินจือถูกนำไปล้างแล้วผ่าตากแดดเกือบครึ่ง ส่วนที่เหลือเธอเก็บเข้ามิติ โสมคนก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่จะล้างแล้วนำไปตากแดดตั้งแต่ขุด ล้าง ผ่า ตากแดด และเก็บเป็นเหอเสี่ยวหงทำเองทั้งหมดไม่ให้ใครช่วยเลยส่วนไก่ป่าทั้งสองตัวเหอเสี่ยวหงเห็นว่ามันออกไข่วันละหลายฟองจึงปล่อยมันไว้และให้อาหารอย่างพวกมะละกอสุกในมิติ ไม่ก็ข้าวขาว ผสมกากผลไม้หรือพวกเปลือกข้าวเด็ก ๆ ก็ยังคงเรียนหนังสือจากเหอเสี่ยวหง ตอนนี้โจวเอ้อร์นีนั้นท่องตัวอักษรได้แล้วแต่ยังเขียนผิดนิดหน่อยส่วนโจวซานนีอ่านและเขียนตัวอักษรได้เก

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-17
  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่11 อกตัญญู

    เหอเสี่ยวหงปั่นจักรยานมาจอดในที่ลับตาคนก่อนจะเอาผ้านวมออกมา 6 ผืนและหมอนอีก 5 ใบ ผ้าห่มของสะใภ้ใหญ่ 2 ผืน ของโจวมี่ 2 ผืน และของเธออีก 2 ผืน ส่วนหมอนนั้นของเธอและลูก ๆผ้านวมและหมอนถูกซีลในถุงสูญญากาศ จากผืนใหญ่ ๆ ตอนนี้มันหดลงเล็กมากและเมื่อแกะออกมันก็จะอยู่ในสภาพเดิม เหอเสี่ยวหงชอบผ้านวมยี่ห้อนี้มากยังดีที่ของในจักรยานเอาขึ้นเกวียนวัวหมดแล้ว เหอเสี่ยวหงจึงปั่นจักรยานได้ง่าย และผ้านวมก็ใส่จักรยานได้หมดเหอเสี่ยวหงจึงหยิบเอาบัวหิมะออกมาวางไว้ประมาณ 2 ช่าง เธอจะให้โจวมี่เห็นว่าเธอได้ซื้อมันมาจริง ๆ เวลาจะกินหล่อนจะได้ไม่สงสัยนำพวกธัญพืชออกมาอย่างละชั่งและนำหมูออกมานิดหน่อย ยังมีพวกนมผลและผลไม้อีก เหอเสี่ยวหงตัดสินใจที่จะไม่เอาของออกมาเพิ่ม เธอรีบปั่นจักรยานที่เต็มไปด้วยของกลับสหกรณ์อำเภอทันที ใกล้ถึงตัวสหกรณ์เหอเสี่ยวหงก็เห็นนางหลี่ซือเดินอยู่อาทิตย์นี้นางได้นำธัญพืชมาส่งลูกชายอีกครั้งในที่พักในอำเภอที่พักอยู่ ที่อยู่ใกล้โรงเรียนมัธยมปลาย เหอเสี่ยวหงอยากจะรู้จริง ๆ ว่าโจวกว่างนั้นเรียนจริงหรือเปล่าเพราะปีนี้เป็นปีที่สองแล้วที่เขาเรียนไม่จ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-17

Bab terbaru

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทพิเศษ 1 หยาดฟ้า

    เรื่องราวของหยาดฟ้าที่เหอเสี่ยวหงคิดว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอะไรทั้งนั้นหยาดฟ้าในวัยสิบสองขวบเป็นเด็กสาวที่น่าสงสารคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยเห็นหน้าผู้เป็นพ่อสักครั้ง แม่ให้เหตุผลว่าเลิกกันก่อนที่เธอจะลืมตาดูโลก และเล่าให้ฟังว่าพ่อติดเหล้าหนักมาก และชอบทุบตีแม่ที่กำลังท้องเธอเกือบห้าเดือน สุดท้ายแม่ทนไม่ไหวก็เลยเก็บเงินที่ซ่อนไว้หนีมาบ้านเกิดผู้เป็นยายและยายของเธอก็เป็นเพื่อนวัยเด็กของคุณย่าเหอ คุณย่าเหอที่สงสารก็เลยรับแม่ของเธอมาเป็นคนสนิท จนกระทั่งเธออายุสิบสองขวบก็เกิดข่าวร้ายแม่ของเธอมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงหลังจากที่คลอดเธอออกมา และไม่ยอมเข้ารักษาอาการป่วยจนเกิดเรื้อรัง สุดท้ายจึงจากเธอไปวันนั้นหยาดฟ้าจำได้ดี เธอร้องไห้แทบใจขาดเมื่อคนที่อยู่กับเธอมาตลอดจากไป และเป็นวันเดียวกันที่มีคนเข้ามาช่วยพยุงเธอเอาไว้ นั่นก็คือคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหง เพื่อนสนิทสาวพ่วงตำแหน่งเจ้านายของเธอ ถึงคุณย่าเหอกับเหอเสี่ยวหงไม่ได้เจ้ากี้เจ้าการกับตำแหน่ง และเธอก็ถือว่าเป็นหลานบุญธรรมของท่านแล้ว แต่เธอก็รู้ตัวดีว่าไม่ควรเอาตัวเองไปเทียบกับเหอเสี่ยวหงคุณย่าเหอเ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 77 บทส่งท้าย

    เหอเสี่ยวหงรู้สึกว่าช่วงนี้ดวงของสามีตกมาก เมื่อได้ที่ดินคืนมาแล้วทั้งโจวเหวินหลงกับพี่ชายใหญ่ก็จะพากันกลับ แต่ก็เกิดเรื่องอีกครั้งโจวกว่างโมโหที่ผู้เป็นพ่อยกบ้านและที่ดินให้กับพี่ชาย จึงลงมือกับคนเป็นแม่ด้วยอาการมึนเมา มีคนเข้าไปช่วยทันแต่อาการนางหลี่ซื่อก็หนักมาก เพราะไม่มีเงินไปหาหมอโจวเหวินหลงรับรู้และเขาก็ยังกลับฉงชิ่งไม่ได้ การกลับบ้านจึงต้องเลื่อนออกไปอีกหลายวัน ถึงนางหลี่ซื่อไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของโจวเหวินหลง โจวจือหยวน และโจวมี่ แต่นางก็เลี้ยงโจวมี่มา โจวมี่เลยมาขอร้องพี่ชายให้พานางหลี่ซื่อไปโรงพยาบาล“ถ้าคุณพานางไป ก็ไม่ต้องกลับมา” เหอเสี่ยวหงกล่าวเสียงเรียบในวันที่เธอแท้งลูก นางหลี่ซื่อไม่มีแม้แต่เชิญหมอมารักษาหรือพาเธอไปหาหมอ ปล่อยให้เธอแท้งลูกซ้ำยังบอกย่าโจวว่าเธอสะดุดขยะในห้องล้มอีก แม้นางหลี่ซื่อตายเธอก็ไม่เสียใจ‘ผมบอกพวกเขาแล้วครับ’มีไม่กี่เรื่องที่เหอเสี่ยวหงจะปฏิเสธสามี และครั้งนี้ต่อให้ใครมาขอร้องเหอเสี่ยวหงก็ไม่ยอม ลูกชายและลูกสะใภ้ หลานของนางก็ยังอยู่ ทำไมถึงต้องมาพึ่งสามีเธอด้วย อีกอย่างก่อนที่พวกเธอจะออกจากหมู่บ้าน นางหลี่ซื่อยังอยู่ในกลุ่มที่มาไล่พวกเธอเลย“ฉัน

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 76 สิ้นย่าโจว

    เข้าสู่วันที่ห้าของการกลับบ้านของโจวเหวินหลง เหอเสี่ยวหงก็ได้รับข่าวร้าย สกุลโจวได้สิ้นผู้อาวุโวอย่างย่าโจวไปแล้ว นางจากไปด้วยโรคชราที่เป็นปัญหามาหลายปีเหอเสี่ยวหงส่ายหน้าเมื่อวางสายจากสามีไปหลังเขาติดต่อมา ในร้านน้ำชามีโทรศัพท์จึงไม่แปลกที่เหอเสี่ยวหงจะได้รับการติดต่อจากสามี ปฏิเสธไม่ได้ว่าอาการย่าโจวทรุดหลังจากที่เธอพาครอบครัวกลับ“มีอะไรหรือเปล่าครับ”เป็นผู้จัดการหลงที่เก็บโต๊ะเสร็จถามเหอเสี่ยวหง เขาเห็นเจ้านายนั่งคุยกับปลายสายไม่นาน แต่ตอนนี้หล่อนกลับมีสีหน้าที่เคร่งเครียด“ไม่มีอะไรค่ะ เดี๋ยวถ้าเอาบัญชีร้านขึ้นไปบนห้อง ตามโจวต้านีให้ด้วยนะคะ” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า“ได้ครับ”โจวต้านียังไม่กลับมาทำงาน คงเพราะหลานสาวตัวน้อยของเธอป่วย อันที่จริงเธอก็บอกหล่อนแล้วว่าไม่ต้องมา แต่โจวต้านีก็รั้นมาจนได้“แม่คุยอะไรกับพ่อเหรอคะ”พอผู้จัดการหลงเดินออกจากร้านไป ก็เป็นซานนีที่ประจำร้านอยู่เอ่ยถาม หล่อนรู้แค่ว่ามารดาคุยกับใคร แต่จับใจความไม่ค่อยได้“ย่าโจวเสียแล้ว” เหอเสี่ยวหงถอนหายใจสำหรับเหอเสี่ยวหงแล้วเธอรู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วมาก อีกอย่างเรื่องที่เธอแท้งเมื่อยี่สิบปีก่อนก็ยังไม่ได้บอกย่าโจ

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 75 เฟยฮวา

    เหอเสี่ยวหงมองหน้าหลานสาวตัวน้อยนามเฟยฮวาวัยห้าเดือนในอ้อมแขนแล้วถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าสกุลเฟยตาบอดหรือยังไง ทำไมถึงมองไม่เห็นความน่ารักของหลานสาวตัวน้อยคิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเมื่อมองลูกสาวช่วยคนอื่นขนของโจวต้านีลงจากรถ หรือเพราะเธอไม่บังคับลูกสาวกันนะ ถึงไม่ได้มีหลานให้อุ้มแบบนี้ได้แต่อิจฉาสะใภ้ใหญ่ที่ได้ลูกเขยก่อนคนอื่น แล้วยังได้หลานก่อนคนอื่นอีก ยังดีที่สหายของเธอยังไม่มีหลาน เหอเสี่ยวหงจึงไม่ต้องทนฟังเสียงอวดหลาน“ให้ฉันอุ้มหลานบ้างสิ”สะใภ้ใหญ่เดินเข้ามาหาผู้เป็นน้องสะใภ้และน้องสาว ตั้งแต่ที่ลูกสาวอุ้มหลานสาวลงรถมา นางก็ยังไม่ได้อุ้มหลานเลย มีแต่เหอเสี่ยวหงที่อุ้มหลานแล้วไม่ยอมปล่อยให้ใครอุ้มต่อ“เดี๋ยวพี่ก็ได้อุ้มแล้ว” เหอเสี่ยวหงแย้งอย่างไม่จริงจังนักโจวต้านีขอเข้าทำงานพร้อมสามีในร้านผู้เป็นอากับอาสะใภ้ โดยที่แม่ของหล่อนยินดีที่จะดูแลหลานระหว่างที่พ่อกับแม่ของหลานทำงานแบบไม่เอาเงินสักเฟิน“หลับแล้ว” สะใภ้ใหญ่บอก“อืม”เหอเสี่ยวหงส่งหลานสาวให้ผู้เป็นยายแท้ ๆ อุ้ม แล้วตัวเองก็ออกมาช่วยทุกคนขนของเข้าบ้านตึกแถว ยังไงโจวต้านีก็แต่งออกแล้วจะให้ไปอยู่รวมกับครอบครัวก็ไม่ใช่ อีกอย

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 74 เอ้อร์นีมีความรัก

    จากที่จะกลับไปพักผ่อนอยู่บ้านเกิดในช่วงปิดเทอมตามคำขอของสาว ๆ บ้านรองโจวก็ต้องกลับมาอยู่ที่ฉงชิ่ง เหอเสี่ยวหงเอ่ยขอโทษลูกสาวกับหลานสาวที่ต้องพากลับกระทันหัน ยิ่งกับอาสามแล้วเหอเสี่ยวหงยิ่งเอ่ยขอโทษอยู่หลายครั้งเหอเสี่ยวหงรู้ว่าอาสามอยากอยู่ที่บ้านเหอ แต่พอเหอเสี่ยวหงจะกลับเขาก็ไม่สามารถอยู่ต่อได้ เป็นห่วงหลาน ๆ หากปล่อยให้มาด้วยกัน“เอาไว้เรียนจบแม่ค่อยพากลับไปดีกว่า” เหอเสี่ยวหงบอกลูกสาวอีกตั้งหลายปีที่เด็ก ๆ จะเรียนจบ ทุกคนในหมู่บ้านก็คงจะลืมไปแล้ว อีกอย่างทุกคนก็รู้กฎหมายกันอย่างดี เหอเสี่ยวหงจึงไม่กลัวที่จะกลับไป แต่ครั้งนี้มันตั้งตัวไม่ทัน“ไม่กลับก็ได้ค่ะ อยู่นี่ก็ดีแล้ว” เอ้อร์นีเอ่ยตอบเป็นคนแรกหล่อนอยากกลับไปที่บ้านเกิดก็จริง แต่หล่อนกลัวเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีก ลึก ๆ แล้วหล่อนรู้ว่าแม่ของหล่อนเป็นห่วงเรื่องการบังคับแต่งงาน เอ้อร์นีไม่ใช่คนโง่ หล่อนถูกมารดาเลี้ยงมาอย่างดีแต่ก็ไม่ได้เลี้ยงให้โง่เขลา แม่ของหล่อนไม่ชอบการบังคับ หล่อนก็ไม่ชอบการบังคับเช่นเดียวกัน“ใช่ค่ะ ไม่กลับไปแล้วก็ได้” ลิ่วนีเอ่ยด้วยความหวาดกลัว หล่อนเป็นเด็กที่ตั้งแต่จำความได้ก็เติบโตมาในเมือง จึงไม่ร

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 73 ลูกสาวบ้านรองโจว

    เหอเสี่ยวหงเดินนำลูกสาวตามโจวเหวินหลงเข้าไปภายในบ้าน ชาวบ้านที่มามุงแหวกออกให้เข้าไป แต่พอเข้าไปแล้วก็กลับมามุงเหมือนเดิมครั้งก่อนอยู่เพียงนอกบ้าน แต่ครั้งนี้ที่ต้องเข้ามาในบ้านเพราะย่าโจวล้มป่วยอีกแล้ว ภายในบ้านที่ไม่ใหญ่จึงแคบลงถนัดตาเมื่อมีคนล้อมรอบ‘หลานสาวบ้านโจวแน่ ๆ’‘ฉันต้องทาบทามจากย่าโจวแล้ว’‘ฝันอยู่เหรอ บ้านรองโจวอยู่ในมือสะใภ้รองโจว คงจะให้ลูกสาวแต่งมาอยู่ชนบทหรอก!’‘ใครจะไปรู้ อีกอย่างสะใภ้ก็ต้องเชื่อฟังครอบครัวของสามี’‘ไม่ใช่ว่าแต่งงานกันแล้วรึ อายุขนาดนี้แล้ว’‘จริง ถ้ายังไม่แต่งคงจะไม่มีใครเอา’เหอเสี่ยวหงหันไปมองชาวบ้านที่นินทาลูกสาวของเธอ เรื่องที่ลูกสาวจะแต่งกับใครเหอเสี่ยวหงไม่ได้ห้าม ต่อให้ฝ่ายชายไม่มีเงินแต่ง ถ้าลูกสาวจะแต่งเธอก็ให้แต่ง สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ไม่เป็นไร แต่คนอื่นจะเดือดร้อนด้วยทำไม“ลูกสาวฉันไม่แต่งงานแล้วทำไม”ชาวบ้านที่ซุบซิบอยู่หน้าบ้านเงียบปากกันลงทันที เมื่อสะใภ้รองโจวพูดขึ้น ใคร ๆ ก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเหอเสี่ยวหง“นี่ย่าทวด เป็นย่าของพ่อเรา”เหอเสี่ยวหงแนะนำย่าโจวให้ลูกสาวทำความเคารพ ซึ่งเด็ก ๆ รู้จัก แต่นี่ก็ไม่ได้มาเจอกันนานแล้ว เธอจึง

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 72 พาสาว ๆ กลับบ้านเกิด

    สาว ๆ ปิดเทอมสองเดือนในภาคเรียนแรก ที่ปิดนานขนาดนี้เพราะเพิ่งเปิดปีแรก จึงต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างจึงหยุดนานทุกคนมาปรึกษากันดูแล้ว ลูกสาวอยากกลับไปดูบ้านเกิดกันมาก โจวเหวินหลงจึงจะพาไป แต่รถคันเดียวไม่สามารถไปกันได้หมด จึงต้องซื้ออีกคันเพราะถ้าไม่ซื้อก็ไปกันไม่หมดแน่ ลำพังแค่ของก็เต็มรถแล้วแต่ครั้งนี้ต่างออกไป อาสามเหอจะไปด้วย รถที่ซื้ออีกคันก็เป็นเขาขับ ส่วนอาสี่ยังกลับไม่ได้เพราะเดินเรื่องยังไม่เสร็จ ซึ่งอาสี่เศร้ามาก หลายเดือนจนจะปีแล้วการลาออกยังไม่ถึงไหนเลย เหมือนทางกองทัพจะรั้งเขาไว้ด้วย การลาออกจึงถูกสกัดไว้“เดี๋ยวหนูกับซานนีแล้วก็เสี่ยวยวี่จะไปนั่งกับตาสามเอง” เอ้อร์นีบอกเพราะรถมีสองคันจึงต้องแบ่งกันนั่ง อีกอย่างถ้าจะเบียดกันไปก็คงจะไม่ได้“ดีเลยค่ะ หนูอยากนั่งกับแม่” ลิ่วนีพยักหน้าเหอเสี่ยวหงส่ายหัวก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เดินตรวจดูของพอเห็นว่าไม่ขาดอะไร ก็ไปสั่งงานผู้จัดการร้านไว้ “ฉันฝากร้านด้วยนะคะ ไม่มีกำหนดกลับ แต่ก่อนสาว ๆ จะเปิดเทอมแน่นอน” เหอเสี่ยวบอก“ได้ครับ คุณนายโจวไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะจัดการให้” ผู้จัดการหลงพยักหน้า“ส่วนบัญชีส่งให้ดูหลังวันหยุดนะคะ”

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 71 ย้ายบ้าน

    เหอเสี่ยวหงอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่เช้าเพื่อมารอคุณลุงลี่โจวหูเอาใบชามาส่ง นี่ก็ผ่านมาสามวันตามที่เอ้อร์นีบอกว่าคุณลุงจะเป็นคนมาส่งใบชาเอง และเมื่อวานตอนเย็นคุณลุงติดต่อมาอีกครั้งว่ามาถึงฉงชิ่งแล้ว แต่เพราะมันมืดแล้วจึงจะพักกันก่อน พรุ่งนี้เช้าจึงจะมาส่งส่วนวันนี้โจวเหวินหลงไม่ได้ออกไปคุมช่าง เพราะวันนี้ทำแค่ความสะอาด และวันนี้เป็นวันที่อู๋นีบอกว่าจะกลับบ้านด้วย“ฉันลงไปรอข้างล่างนะคะ” เหอเสี่ยวหงบอกสามีที่แต่งตัวอยู่จริง ๆ เธอไม่ต้องเป็นคนรับของเองก็ได้ จะให้ผู้จัดการหลงรับเหมือนปกติก็ได้ แต่เนื่องจากครั้งนี้คุณลุงมาส่งเอง เหอเสี่ยวหงจึงต้องออกมาต้อนรับ“มากันครบแล้วเหรอ” เหอเสี่ยวหงถามพนักงาน“ครบแล้วค่ะ” เฟยหยางอิงตอบ“ไปทำความสะอาดที่เก็บใบชาเถอะ” เหอเสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะสั่งงาน“ได้ค่ะ”“ได้ครับ”ยังดีที่สามวันที่ผ่านมาลูกค้าที่จองห้องได้เข้าใช้ห้องครบทุกคิว เนื่องจากใบชามีเพียงพอต่อสองวัน และเมื่อวานก็เป็นวันหยุด ทุกคนไม่ได้ทำงานกัน วันนี้เหอเสี่ยวหงจึงต้องให้ทำความสะอาดห้องที่เก็บใบชา เวลาเก็บใบชาจะได้เก็บนาน ๆ อีกอย่างก็จะไม่ได้มีฝุ่นมาเกาะ“แม่!”เหอเสี่ยวหงสะดุ้งตกใจก่อนจะหัน

  • ทะลุมิติกลับมาอยู่ที่เดิมยุค60   บทที่ 70 มีปัญหาแล้ว

    ตั้งแต่ที่ทำการซื้อขายใบชาจากไร่ชา เหอเสี่ยวหงซื้อใบชามาจากไร่ของคุณลุงลี่โจวหูคนเดียวเท่านั้น เพราะเธอได้เซ็นสัญญาเรื่องการซื้อขายเอาไว้ ปกติก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร คงจะมีแต่ช่วงนี้ที่มีปัญหา และใบชาก็ไม่ได้มาส่งเป็นเวลาสามวัน และคงไม่ถึงสองวันที่ใบชาที่มีจะหมดส่วนเรื่องผ้าผลตอบรับดีมาก ลูกค้าเก่าที่เคยซื้อแทบจะร้องไห้ออกมาเพราะอยากได้อีก บางคนก็ซื้อไปขายที่อื่นแต่เหอเสี่ยวหงก็ให้ราคาเต็ม ไม่ได้ลดราคาให้เพราะเธอไม่ได้ขายส่ง ส่วนจะเอาไปขายที่อื่นเธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาซื้อไปแล้วยังดีที่ผ้าปักลายมีมากถึงพันกว่าม้วน จึงไม่ทำให้ของขาดตลาดเท่าไร จะมีก็แต่บางลายเท่านั้นที่เหอเสี่ยวหงให้สหายปักเพิ่ม ในหนึ่งวันจะได้ผ้าปักลายเพียงห้าม้วน หรือบางวันก็มากกว่าสิบม้วน อย่างสามวันที่ผ่านมาก็ปักลายผ้าได้ยี่สิบเก้าม้วน เหอเสี่ยวหงเก็บมันเอาไว้แยกอีกที่หนึ่ง เอาไว้ของในร้านหมดค่อยเอามาเพิ่มตอนนี้ทุกคนพยายามช่วยกันติดต่อไร่ชา เพราะต้องสอบถามเรื่องใบชาแต่ไม่มีใครรับสายเลย ไม่รู้ว่าเพราะรู้ว่าเป็นพวกเธอหรือเปล่าจึงไม่ยอมรับ หรือไม่ก็พวกเขามีปัญหากันจริง ๆ“อย่างนี้เราแย่แน่ ๆ เลยครับ” ผู้จัดการหลงเอ่

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status